กรรมกามเทพ (กิ่งฟ้า)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: -
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 150.00 บาท 37.50 บาท
ประหยัด: 112.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

1

                                                                                                                                               

           

            เอกนรีเดินหาอะไรสักอย่างอยู่บนบ้าน พ่อกำนันนั่งมอง

อาการของลูกสาวอย่างรำคาญแต่ไม่อยากพูดเพราะดูท่าทางแล้วเอกนรี

กำลังอารมณ์ไม่ดีแน่ ๆ ลงว่าหาของไม่เจออย่างนี้ อารมณ์ไม่ดีสักที

            “พ่อ...เมื่อไหร่พ่อจะถามเอกเสียทีล่ะว่าหาอะไร...” เอกนรีหัน

ไปหาพ่อสีหน้าขัดอกขัดใจเสียเต็มที “พ่อนะพ่อจะถามสักคำไม่มี

น้ำจงน้ำใจหายไปเสียทางไหนหมดเล่า”

            “อ้าว...” กำนันหัวเราะหึ ๆ ก้มลงเลื่อนขันน้ำฝนมาใกล้ ๆ ตัว

“เอ็งมานี่เถอะไอ้เอก มาดื่มน้ำฝนให้เย็นใจก่อนค่อยหา ของอะไรของ

เรามันก็อยู่บนเรือนนี่แหละ ไม่ไปไหนหรอกน่า...เชื่อพ่อเถอะมา...”

            “ไม่...ไม่เด็ดขาด พ่อรู้ไหมว่าเอกหาอะไรของสำคัญมากด้วยนะ

เอกกำลังจะเขียนจดหมายปากกาเอกหาย พ่อรู้ไหม...” ยิ่งพูดเหมือน

เอกนรีจะอารมณ์ไม่ดีขึ้นตามลำดับ

            ผมซอยสั้นทรงทอมบอยของหล่อน ด้านหน้ายาวจนปรกหน้า

 

 

 

ผากหลุดลุ่ยไม่เป็นระเบียบ แต่ก็ยังเห็นดวงตาใส ๆ จมูกแหลม ๆ ชัดเจน

            “อ้าวไหนเอ็งว่าเขียนแต่เมื่อวาน...”

            “เมื่อวานน่ะ ของเพื่อนเอกที่อยู่อ่างทอง วันนี้เอกจะเขียนถึง

พี่ศักดิ์ที่กรุงเทพฯ พี่รัตน์เขาบอกให้เขียนไปล่วงหน้าว่าเราจะไปกรุงเทพฯ

วันไหนกัน...เขาจะได้อยู่รอรับหน้าพ่อกับเอก...”

            “อ้อนี้เอ็งอยากไปกรุงเทพฯ เรอะไอ้เอก...ไหนว่าไม่อยากดม

กลิ่นควันรถไง...ไปคราวที่แล้วบ่นมาตลอดทางไม่ใช่หรือ...” กำนันเท้า

ความหลัง

            “พ่ออย่ามาพูดไปคนละทางเลยน่า เอกกำลังหาปากกาอยู่”

            “พ่อเห็นแล้วล่ะว่ามันอยู่ที่ไหน...” กำนันมองหน้าลูกสาวสอง

สามครั้งก็หัวเราะออกมา “โธ่เอ๊ยนังลูกตัวร้าย ปากกาที่ว่าหายนั่นมัน

หายเสียที่ไหน เสียบอยู่เหนือรูหูนั่นเอง”

            “อ้อ พ่อเอาของเอกไปใช่ไหม...นึกอยู่แล้วเชียวว่าท่าทาง

ไม่รู้ร้อนรู้หนาวอย่างนี้กำนันแน่ ๆ พ่อนะพ่อ...เอาของเอกมา เอกจะรีบ

เขียน...” ลูกสาวถลามาหาพ่อ พอดีปากกาต้นเรื่องหล่นลงกับพื้น

            “เฮ้ยอะไรวะ...อ้าว” ลูกสาวกำนันหน้าเหยไป เมื่อเห็นปากกา

“โธ่พ่อ...อยู่ในรูหูก็ไม่บอกนะ ให้เอกงงอยู่ได้นี่นา”

            กำนันหัวเราะเสียงลั่นบ้าน ชอบใจที่ลูกสาวหน้าแตกต่อหน้า

ต่อตา แกมีลูกสาวคนเดียวนี่แหละนอกนั้นก็ลูกชายหมด เอกนรีน่ารัก

เป็นเพื่อนของแกทุกเวลา

            “อย่าหัวเราะน่าพ่อ...เอกไปเขียนจดหมายต่อละ พ่อจะว่า

อะไรอีกไหม...” ลูกสาวหาทางไปเสียทางหนึ่งไม่อยากให้พ่อหัวเราะต่อไป

“ให้พีรัตน์มาจากหอพักมาอยู่ที่บ้านกับพี่ศักดิ์ใช่ไหมฮะ...”

            “เออ บอกมันด้วยว่า หากไม่มาพ่อจะถลกหนังหัวมัน ว่าแต่เอ็ง

เถอะไปเที่ยวนี้จะเอาทิดวาดไปด้วยหรือเปล่า...” กำนันหมายถึงทิดวาด

เพื่อนต่างวัยของเอกนรีลูกสาว ทิดวาดเพิ่งสึกจากพระมาได้สามเดือน

เป็นคนค่อนข้างจะซื่อ ๆ และเวลานี้ก็เป็นลูกมือลูกน้องของเอกนรีอยู่

พ่อของทิดวาดเป็นหลวงพ่ออยู่วัดใต้ในหมู่บ้านนี่เอง

            “เอาไปอยู่แล้วพ่อ...ทิดวาดอยากขึ้นบันไดเลื่อน เอกว่าจะพา

ขึ้นสักห้าหกรอบ ไม่รู้ว่าหัวใจจะวายหรือเปล่า สงสัยจะสวดมนต์ตลอด

ทางเลยล่ะเอกว่า...”

            “เอ็งอย่าลืมบอกพี่เอ็งนะว่าให้มาให้ได้ เจ้ารัตน์มันชอบเที่ยว

วันหยุด ต้องบอกไปล่วงหน้า”

            “ครับผม...” ลูกสาวผลุบเข้าไปพร้อม ๆ กับคำว่าครับผมนั่นแหละ

            “ไอ้ลูกเวรเอ๊ย... เมื่อไหร่จะเลิกครับผมวะ...มันช่างไม่รู้เล้ยว่า

มันเป็นผู้หญิง...เวรกรรมของพ่อมันจริง ๆ ที่มีลูกผิดเพศอย่างนี้...เฮ้อ...”

            “บ่นอะไรคนเดียวคร้าบ...พี่กำนัน...” นายหยดเดินขึ้นบันไดมา

แกเป็นทั้งญาติและคนสนิทของกำนันเอิบอีกด้วย “แล้วคุณเอกไปไหน

ผมจะพาไปหาปลาท้ายทุ่ง ไอ้เหน่ห์มันสูบน้ำ...พี่กำนันจะให้ไปหรือ

เปล่า...”

            “เอ็งจะถามหรือจะยังไงวะไอ้หยด ข้าล่ะเป็นงง” กำนันเกาท้าย

ทอยแกรก

            “ก็ทั้งถามทั้งบอกนั่นแหละพี่กำนัน...เออแล้วไอ้จวงไปไหน...”

            “เดี๋ยวพ่อเตะไส้ไหลเลย...ไอ้เวร...ไม่ต้องถามแล้วอยากเจอใคร

ไปหาเอา ยิ่งร้อน ๆ อยู่ด้วย...”

            “อ้าว...กำนันอารมณ์ไม่ดีเสียแล้ว...” นายหยดหัวเราะก่อนจะ

เดินเลยไปทางหนึ่งเพื่อหานายจวง พอดีมีชาวบ้านคนหนึ่งมาตะโกน

เรียกกำนันที่หน้าบ้าน หมาสี่ห้าตัววิ่งเห่าเกรียวกราว

            “พ่อกำนัน...พ่อกำนัน...”

            “เออ กูรู้แล้ว...ว่าไง...ไอ้สุข...มาหาข้าหรือว่าไอ้เอก...” กำนัน

ร้องตะโกนตอบพร้อมส่งเสียงดุหมาจนวิ่งจู๊ดเข้าใต้ถุนเรือนไปเรียบร้อย

            “ควายฉันจะออกลูก มาตามคุณเอก...”

            “เออเดี๋ยว...เอก เอกเอ๊ย...น้าสุขมาตามไปทำคลอดอีเผือก...

เร็ว” กำนันหันไปทางห้องลูกสาวที่ประตูแง้มอยู่ และร่างของเอกนรีก็

ถลาออกมา

            “ว่าไงเหรอพ่อ...ใครจะคลอด...”

            “อีเผือก ควายน้าสุขเขา ไปเร็ว...” กำนันเดินไปหยิบกระเป๋าสี่

เหลี่ยมสีดำมาให้ลูกสาว ในนั้นมีเวชภัณฑ์หลายอย่างที่เกี่ยวกับการ

ทำคลอด การตอนควาย ซึ่งเอกนรีได้ไว้จากสัตวแพทย์ที่เคยออกมา

ดูแลสัตว์เลี้ยงของชาวนาชาวไร่

            “เรอะ...แหมกำลังคันมืออยู่พอดี...ไปน้าสุข” เจ้าหล่อนวิ่งลง

จากบันไดเรือนตรงไปยังมอเตอร์ไซค์คันเก่งของตัวเอง นายสุขวิ่ง

ไปซ้อนท้ายอย่างคุ้นเคย คนในตำบลนี้ทั้งตำบลคุ้นเคยกับเอกนรีดี

            เอกนรีไปไม่นานก็กลับมา พร้อมด้วยลูกหมาวัยไม่ถึงเดือนตัว

หนึ่ง มันมอมแมมพอ ๆ กับเอกนรี พอลงจากรถได้เอกนรีก็ร้องหาพี่เลี้ยง

วัยห้าสิบอย่างวุ่นวายไปหมด

            “ลุงจวง มาหาเอกหน่อย ลุงจวงโว้ย...ลุงจวง...”

            กำนันนั่งมองลูกสาวอยู่บนชานบ้านที่เดิม อันเป็นที่โปรดปราน

ของแก เห็นลูกสาวมีหมามาเพิ่มใหม่อีกตัวหนึ่งก็ส่ายหน้าเอากับ นายหยด

            “มันเอาหมามาเพิ่มอีกแล้วเห็นไหมไอ้หยด อีกหน่อยต้อง

ตั้งฟาร์มหมา...”

            “ช่างแกเถอะพี่กำนัน เล่นหมาดีกว่าเล่นม้านะครับ...” นายหยด

กลับเห็นด้วยเสียอีกที่เอกนรีเป็นไปอย่างนั้น “ทีพี่กำนัน ชอบแมวยัง

เลี้ยงแมวเป็นสิบตัวเลย...”

            “ข้าเลี้ยงสองตัวเองนาเว้ย...มันเสือกออกลูกออกหลานมา

เองนี่หว่า ไอ้เสือมันพันธุ์ดีเลยมีลูกดกสองครอกเก้าตัว...” กำนันกล่าว

ยิ้ม ๆ พลางลูบหัวเจ้าแมวสีเหลืองลายเสือตัวตัวที่หมอบอยู่ใกล้ ๆ

            ทางด้านเอกนรีกำลังช่วยนายจวงอาบน้ำให้ลูกหมาตัวใหม่ ทั้ง

มือทั้งปากไม่อยู่เฉย

            “ลุงว่ามันน่ารักไหม เขาให้เอกค่าคลอดลูกไอ้เผือกนะ นี่เอกได้

เจ้ามอมนี่มาด้วยน้ำพักน้ำแรงของเอกเลยนะ ไอ้นังเผือกมันออกลูกยาก

จะตายห่าเลยลุง กว่าจะออกมาได้เหงื่อตกเลย...”

            “ทะ ทะ ทำไม ไม่เอาละ ลุงไปดะ ด้วยล่ะ...คะ คุณเอก...” นายจวง

จอมติดอ่างพูดทีไร เอกนรีโมโหทุกทีไม่ทันกินเลยสักที

            บางครั้งเอกนรีถึงกับต้องสั่งให้หยุดพูด เอาแค่พยักหน้าและ

ส่ายหน้าสองอย่างเท่านั้น

            “เอาไปทำไม อีเผือกมันต้องกลั้นใจตายแน่ ๆ หากลุงไปน่ะ เอ้า ราด

มา...อย่าร้องเจ้ามอมแมมข้าจะตั้งชื่อให้ว่าเจ้ามอมน้อยนะ...”

            พออาบน้ำเรียบร้อย เอกนรีก็พาเจ้ามอมแมมออกมาทางหน้า

บ้านซึ่งมีโต๊ะยาวอันเป็นที่นั่ง ๆ นอน ๆ ของบรรดาหมา ๆ ทั้งหมดของ

เอกนรี พอเห็นเอกนรีเจ้านายอุ้มสมาชิกใหม่เดินมาเท่านั้น หลายตัว

ก็ทำท่าอิจฉาทันที

            “ไอตีโต้ อย่านะเว้ย...นี่น้องเล็กมาใหม่อย่าทำอะไรเขาต้องรัก

เขารู้ไหม เฮ้ยแน่ะบอกอย่ากระโดดเดี๋ยวพ่อเตะตายห่าเลยนี่...”

            ความวุ่นวายเริ่มเกิดขึ้น เมื่อหมาสามสี่ตัวทำท่าจะกระโดดกัด

เจ้ามอมตัวใหม่ เอกนรีปกป้องอย่างวุ่นวาย ทั้งเตะทั้งดันจนนายจวงวิ่ง

เข้ามา

            “ลุง มาเอาเจ้าตัวเล็กไปทางอื่นก่อน เอกจะล่ามเจ้าตีโต้ขี้อิจฉา

ดูมันทำให้คนอื่นนิสัยเหมือนมัน...เดี๋ยวพ่อเตะกลิ้งเป็นลูกขนุนเลย...”

            กำนันนั่งอยู่บนเรือนนอกชาน แกนั่งมองลงมาเบื้องล่าง

อย่างสบายตาสบายใจ มีเอกนรีไม่เคยเหงาหรือทุกข์ร้อนเหมือนพี่ชาย

ของเอกนรีเลย พวกนั้นตื่นขึ้นมาก็หาเรื่องเดือดร้อนมาให้เสมอ กำนัน

มีลูกชายห้าคน คนโตชื่ออเนกแต่งงานออกเรือนไปแล้ว คนที่สองชื่อ

เอิบบุญ ขานั้นเป็นนักเลงโตประจำหมู่บ้านเกเรไปตามเรื่อง คนที่สามและ

ที่สี่คืออุดมศักดิ์และอุดมรัตน์ตามลำดับ สองคนนี้เรียนอยู่กรุงเทพฯ

ใกล้จบแล้ว ส่วนอีกคนชื่ออารามเรียนอยู่ในเมืองระดับ ปวส. คนเล็กก็

เจ้าเอกนรีนี่แหละ กำนันเลี้ยงมาตั้งแต่เกิด เพราะแม่ของเอกนรีนั้นสิ้นใจ

เสียตั้งแต่เอกนรีไม่ถึงขวบด้วยโรคเลือกทำพิษ

            “พ่อฮะ...” เอกนรีอุ้มเจ้ามอมน้อยนั่นขึ้นมาหาพ่อบนชานเรือน

ในเวลาต่อมา

            “เออว่าไง...ได้ลูกคนใหม่เรอะเอก...ผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะ”

            “ลูกสาวฮะพ่อ สงสารมัน น้าสุขว่าครอกนี้มีแปดตัวมีคนขอไป

หมดแล้วเหลือตัวนี้ตัวเดียวเพราะมันเป็นตัวเมีย...ทำไมนา...คนถึงชอบ

แต่ตัวผู้ไม่ชอบตัวเมีย มันน่ารักจะตายพ่อ...”

            “ก็ตัวเมียมันชอบให้ลูกนี่นาใครเขาจะอยากเลี้ยง เออนี่เจ้าเอก

เดี๋ยวไปตลาดให้พ่อทีนะ ยาเส้นพ่อหมดเอามาสักสองตั้งก็ได้ จะได้เอา

ไปถวายหลวงพ่อที่วัดบ้าง...”

            “งั้นเอกฝากลูกหน่อยแล้วกันนะฮะ...เอกจะไปซื้อให้”

            “แดดยังร้อนอยู่เลยลูก ไปเย็น ๆ กว่านี้อีกสักหน่อยก็ได้ ไปกิน

ข้าวเสียก่อนข้าวกลางวันเอ็งยังไม่ได้กินเลยนี่นา น้าหยดเขาว่าจะทำแกง

สับนกปลาให้กิน เขาได้ปลามาตั้งเยอะ”

            “เดี๋ยวกลับมากินดีกว่าพ่อ เอกจะได้ไปซื้อกระพรวนมาให้คอ

เจ้านี่ด้วย แล้วเจ้าตีโต้นั่นก็ทำปลอกคอหาย ต้องไปซื้ออีกเดี๋ยวมัน

จะน้อยใจว่าไม่ซื้อให้มันสักที แค่เห็นเอกเอกน้องใหม่มาบ้าน มันยังทำ

น้อยอกน้อยใจอยู่นั่นเลย”

            “อย่าลืมเอาจดหมายไปทิ้งที่ตู้ด้วยล่ะ พี่แกเขาจะได้รู้ว่าเราจะ

ไปกรุงเทพฯ หาเขา เกิดมันไปเที่ยวเสียกับเพื่อนเราจะไม่เจอมัน...”

            “ครับผม”

            “เมื่อไหร่เอ็งจะเลิกครับผมเสียทีวะไอ้เอก” กำนันส่ายหน้า...

แต่ลูกสาวไม่สนใจเสียแล้ว ตรงแน่วไปที่ห้องส่วนตัวทันทีที่ส่งหมาน้อย

ตัวนั้นให้พ่อไปแล้ว

           

          “ตาเก่ง...เก่ง...เปิดประตูหน่อยลูก...” เสียงเรียกพร้อมเสียงเคาะ

ประตูห้องนอนทำ ให้ลูกชายของคุณนารีรัตน์ที่กำลังนอนอย่างสบายใจ

บนเตียงใหญ่ ทำหน้าเบ้ทันทีเหมือนกัน

            “ตาเก่ง...พ่อเรียกพบแน่ะลูก...”

            “ฮะ...แต่เก่งยังไม่อยากลุกนี่ฮะแม่ เก่งกลับดึก...” เขาตะโกน

บอกมารดาโดยไม่ยอมไปเปิดประตูง่าย ๆ “เอาไว้พรุ่งนี้ดีกว่าฮะ...เก่งง่วง”

            “นี่ตาเก่ง ลืมตาดูนาฬิกาที่หัวเตียงซิว่ามันกี่โมงกี่ยามกันแล้ว

จะรอพรุ่งนี้อยู่ยังไงอีก นี่จะเที่ยงแล้วนะ”

            ภัทรเบิกตามองไปทางนาฬิกา

            “โธ่คุณแม่เพิ่งสิบโมงเช้าเอง เก่งจะนอนอีกสองชั่วโมงฮะ แล้ว

เก่งจะตื่นไปหาคุณพ่อเอง”

 

            “แกต้องตื่นเดี๋ยวนี้นะตาเก่ง...พ่อเขาจะไปต่างจังหวัดแม่

จะไปด้วยกับพ่อ เอ็งก็ต้องไปเหมือนกันเพราะขากลับพ่อแกตาไม่ดี

แกต้องช่วยขับรถ” คราวนี้เสียงมารดาเข้มกว่าเดิม

            “ผมไปไม่ได้หรอกฮะคุณแม่...ผมมีนัดกับเพื่อน...” ภัทรเดินมา

เปิดประตูให้มารดาสีหน้าไม่เต็มใจนัก หน้าตาเขาค่อนข้างดีมากผิวขาว

สะอาด จมูกแหลม ตาคมเข้มนิ้ว มือนิ้วเท้าของภัทรน่าจะเป็นพระเอก

แต่เขาก็เป็นไม่ได้ คุณนารีรัตน์มองสารรูปลูกชายอย่างรักระคนหมั่นไส้

            “เพื่อนคนไหนอีกล่ะ เพื่อนนี่สำคัญกว่าพ่อแม่นักหรือตาเก่ง...”

            “โธ่คุณแม่ฮะจะว่ายังไงดีล่ะฮะ เอาเป็นว่าเก่งขออภัยอย่างสูง

เลย คุณแม่ไปพรุ่งนี้ไม่ได้หรือฮะเก่งว่างพรุ่งนี้ แต่ต้องสาย ๆ อย่างนี้

นะฮะ”

            “มันไม่ไปก็อย่าไปบังคับมันเลยคุณ...” เสียงนั่นเป็นเสียง

คุณประธาน เขาไม่เรื่องมากนักหรอก เพราะเอือมเต็มที กับภัทรลูกชาย

คนเล็กคนนี้ ตั้งแต่เรียนจบมาเขาก็เอาแต่เที่ยวกับเพื่อน แล้วในกลุ่ม

เพื่อน ๆ ของภัทรนั่นเห็นแล้วก็ต้องถอนใจ ลูกคนรวยระดับเศรษฐี

ทั้งนั้นแต่จิตใจไม่ปกติเลยสักคนเดียว อย่างที่คนสมัยใหม่เรียกกันว่า

พวกเกย์ ๆ ตุ๊ดๆ อะไรนี่แหละ น่าอายเขาเหมือนกัน ทุกวันนี้เขาและ

ภรรยาต้องพึ่งจิตแพทย์ตลอดเวลา เพื่อบำบัดสภาพจิตใจ และการ

กระทำของลูกชายตอนนี้จะพยายามตามใจไปก่อนตามหมอสั่ง

            “เราไปกันสองคนก็ได้อยุธยาแค่นี้ คงกลับไม่ค่ำหรอก” คุณ

นารีรัตน์เชื่อสามีก่อนจะมองตาลูกอย่างน้อยใจ

 

 

 

 

2

                                                                                                                                               

           

          “คุณคิดว่าเราจะซื้อแถวนี้ดี หรือว่าจะไปซื้อที่ไกลกว่านี้คะ

คุณ...” คุณนารีรัตน์มองผืนดินตรงหน้าอย่างพออกพอใจนักหนา

ขณะที่สามีค่อย ๆ เคลื่อนรถไปตามทางสีฝุ่นนั่นช้า ๆ สองข้างทางยัง

เป็นทุ่งนาที่มีข้าวสีเขียวพลิ้วใบไสวล้อลมงาม จนคุณนารีรัตน์ต้องลด

กระจกลงยื่นหน้าไปมอง

            “งามจริง ๆ นะคะ แบบนี้ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลยค่ะ เคยเห็น

แต่ในหนังเท่านั้นไม่นึกว่าความจริงจะงามอย่างนี้ อากาศก็ดี๊ดีนะคะ

ลมเย็นจัง นี่...คุณลดแอร์เถอะค่ะปิดเลยก็ได้”

            “ปิดไม่ได้หรอก แหมคุณดูสิฝุ่นแดงไปหมดด้านหลังรถน่ะ

ถนนสายนี้ไม่ลาดยาง...เป็นถนนฝุ่นนะ...อย่าคิดว่าเป็นถนนคอนกรีต

บ้านเรา เอากระจกขึ้นเถอะประเดี๋ยวลมตีกลับมาทางหน้าจะหัวแดง

โดยไม่ได้ย้อมนะเอาไว้ถึงบ้านกำนันแล้วค่อยลง คราวนี้อยากดูจะให้ดู”

            “เขาว่าบ้านกำนันหาง่าย แต่เรามาเกือบสามกิโลแล้วนะคะยัง

 

 

 

 

 

 

 

ไม่เห็นว่าจะพบบ้านคนเลย มีแต่ท้องนาแบบนี้หรือว่าจะที่เห็นลิบ ๆ นั่น

คะ” คุณนารีรัตน์มองไปเบื้องหน้าสุดสายตาสุดถนนสีแดงนั่นมีหมู่บ้าน

เห็นลิบ ๆ

            “เขาบอกเราว่าห้ากิโลจากปากทาง...ผมจะเร่งความเร็วล่ะนะ”

            “ระวังด้วยนะคะถนนสายนี้รถสวนลำบากด้วย เพราะแคบนี่

หากว่าเรามาสร้างโรงงานแถวนี้เห็นทีว่าจะต้องขยายถนนเสียกระมัง

คะ...คุณ”

            “คงไม่ต้องขยายมากหรอก...หากว่าเจ้าของที่เขาจะให้ที่ตรง

ทางเข้าด้านขวานั่นตรงนั้นเหมาะมากเลย เห็นมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่

ปากซอยบอกว่าเป็นของกำนันที่นี่ เราคงต้องฝ่าด่านใหญ่นะหากกำนัน

เป็นคนไม่ยอมเข้าใจอะไรง่าย ๆ เขายิ่งว่ากำนันบ้านนอกไม่ค่อยเข้าใจ

อะไรนักหนาด้วย คุณต้องช่วย ๆ พูดนะ ตอนแรกเราต้องบอกเช่า

ก่อนนะอย่าไปบอกซื้อ พวกชาวไร่ชาวนาเขายิ่งหวงที่ทางอยู่ยิ่งให้ราคา

แพงก็จะยิ่งโกรธ หาว่าเราเอาเงินฟาดเสียอีกก็มี...”

            “นี่หากว่าที่กรุงเทพฯ ไม่แพงจนหน้ามืด เราคงไม่ต้องมาลงทุน

ไกลบ้านหรอกนะคะคุณ ฉันละไม่ชอบการเดินทางเลยค่ะ...ยิ่งต้อง

มางอนมาง้อเขาด้วยแล้วยิ่งไม่อยากเลย มันไม่เคยพูด” นั่นเป็นความรู้

สึกที่แท้จริงของคุณนารีรัตน์ ที่ไม่ต้องการจะมาขยายโรงงานที่นี่ เพราะ

มีอุปสรรคหลายอย่างแน่ ๆ

            ยิ่งคุณนารีรัตน์ไม่เคยลำบากลำบนมาก่อน เกิดมาก็เกิดบนกอง

เงินอย่างนี้ด้วยเลยค่อนข้างจะท้อ ๆ ดีที่ว่าคุณประธานเป็นคนสู้งาน

สร้างงาน สร้างเงินจนเห็นผลประโยชน์ประจักษ์ชัดแก่ตาภรรยามานาน

แล้ว คุณนารีรัตน์ถึงได้ยอมตามใจ เมื่อสามีจะมาขยายโรงงานชานเมือง

แบบนี้

            “เราต้องทำได้น่า คุณ...เชื่อเถอะว่าลงว่าวันนี้ลำบากวันหน้า

เราก็สบาย ยิ่งเรามีลูกที่ไม่เอาไหนอย่างตาเก่ง เราก็ต้องยิ่งทำหน้าที่ให้

เขาเห็น เขาจะค่อย ๆ คล้อยตามในความสู้ความเก่งของพ่อแม่อย่าง

ที่ท่านจิตแพทย์ว่านั่นแหละ จะต้องแข็งให้ลูกเห็นอย่าอ่อน อ่อนเมื่อไหร่

ลูกเราแย่เมื่อนั้น”

            “เราถามเขาก่อนเอาไหม ตรงนั้นมีร้านค้า...” เมื่อรถแล่นมา

ได้สักพักใหญ่ก็เห็นหมู่บ้านนั้นชัดเจนขึ้น ตรงหน้ามีบ้านหลังเล็กหลัง

ใหญ่ใกล้ ๆ หลายหลัง และมีร้านค้าเล็ก ๆ ตั้งอยู่ข้างทางอีกด้วย

            “ดีเหมือนกันนะ ดีกว่าไปเดาสุ่มถามหาบ้านกำนันคงมีคนรู้จัก

อ้าว...นั่นหมาใครวิ่งอ้าวมานั่น...เฮ้ย...” คุณประธานค่อนข้างตกใจ

เมื่อเห็นหมาตัวหนึ่งวิ่งแล่นมาทางถนนตรงหน้ารถของเขาที่เร่งความเร็ว

ขึ้นมาหน่อยหนึ่ง เพราะต้องการไปให้ถึงร้านค้าที่มองเห็นนั่นไว ๆ

            มันเหมือนจงใจวิ่งมาหารถเขาอีกด้วย เพราะยังมีตัวอื่น ๆ วิ่ง

เล่นไล่มาอีกสามสี่ตัวท่าทางมันไม่สนใจรถเขาเลย คุณนารีรัตน์ตกใจ

มากเหมือนกันเพราะกระชั้นชิดมากมือยกทาบอก รถก็เหมือนปะทะ

อะไรสักอย่างดังเสียงแปลก ๆ ตามด้วยเสียงร้องของหมาตัวนั้น

            “เอ๊ง...เอ๋ง...เอ๋ง...”

            “ตายแล้ว ชนแล้วหรือคะนี่ แย่เลย ตายหรือเปล่าไม่รู้โธ่คุณขา

ลางไม่ดีเสียแล้วกระมังคะ หมาใครมีเจ้าของหรือเปล่าก็ไม่รู้ อุ๊ยอย่าเพิ่ง

ลงไปค่ะ จอดรถดี ๆ ก่อนค่ะ มีมอเตอร์ไซค์ตามหลังเรามาด้วย”

            คุณนารีรัตน์มองไปทางด้านหลัง เห็นรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งวิ่ง

มาแต่ไกล และมันก็หยุดอยู่ท้ายรถของคุณนารีรัตน์กับประธานนั่นเอง

            “เอ...ทำไมไม่ผ่านไปล่ะคะ ทางก็พอมีหรือว่าเขาเป็นเจ้าของ

หมา...”ภรรยาคุณประธานใจหายวาบ เมื่อเห็นร่างนั้นก้าวลงจากรถ

เครื่องตั้งแสตนเรียบร้อยและรวดเร็ว เมื่อมองไปทางหมาสามสี่ตัว

ที่มุงล้อมเห่ากระโชกร่างของหมาที่โดนรถคุณประธานชน

            ไม่มีใครรู้ว่าคนนั้นเป็นชาย หรือ หญิง เพราะสวมหมวกกันน็อก

สีดำ รู้แต่ว่าร่างเล็ก ๆ ทะมัดทะแมงเหมือนผู้หญิงทว่าปราดเปรียวยิ่ง

นัก ตอนวิ่งไปหากลุ่มหมานั่น ท่าทางตกใจมากเอาการทีเดียว

            “เฮ้ย...ใครเป็นไรวะ รถชนใคร...” เอกนรีนั่นเองเพิ่งกลับจาก

ตลาดพอเห็นกลุ่มหมาอยู่เบื้องหน้ารถเบนซ์คันใหญ่ก็เดาเรื่องได้ทันที

            “ตีโต้...เฮ้ย...ไอ้โต้ลูกพ่อนั่นเอ็งเป็นไรไปหา...เลือด เฮ้ย เอ็งอย่า

เพิ่งตายนะ”

            สองสามีภรรยามองหน้ากันทำตาปริบ ๆ ทำอย่างไรดีนั่นเจ้า

ของหมาแน่ ๆ เพียงแต่ไม่รู้ว่าผู้หญิงผู้ชายแน่เท่านั้น ทั้งสองเห็นเจ้าของ

หมาก้มลงอุ้มเจ้าหมามาแนบอก เลือดมันไหลเป็นทางแดงเถือกไปหมด

ท่าทางเจ้าของหมาคนนั้นจะรักหมาของเขามากด้วย

            “ทำไงดีคะคุณ...” ถามเสียงแผ่วหน้าซีดเผือดไม่กล้าก้าว

ลงไปหา “คุณลงไปเจรจากับเขาซีคะ”

            คุณประธานไม่ทันขยับกาย ร่างนั้นก็อุ้มหมาตัวนั้นไปที่รถ

มอเตอร์ไซค์ของตัวเอง

            “ตีโต้ อย่าเพิ่งเป็นไรไปนะลูก พ่อจะพากลับไปหาปู่อย่าเพิ่ง

ตายนะ โธ่เอ๊ยแกไม่น่าเลย ทำไมต้องออกมาตามข้าด้วย...”

            เสียงสตาร์ทรถพรืด ก่อนเจ้าของมอเตอร์ไซค์คันนั้นจะแล่นพรืด

อย่างเร็วผ่านรถเบนซ์ของคุณประธานไปเหมือนไม่สนใจอะไรเลย

ใช่เอกนรีกำลังรีบ รีบพาเจ้าตีโต้กลับบ้าน เอกนรียังมีหวังว่าจะหายามา

รักษาตีโต้ได้ หากจะตาย ก็ไปตายเสียที่บ้าน

            “มะ หมาเป็นอะไร...” นายจวงแทบจะหายติดอ่างเมื่อเห็น

เอกนรีอุ้มเจ้าตีโต้ที่พะงาบ ๆ มาอย่างเร็ว “ตะ ตีโต้นี่”

            “ลุง เอายามา หมาเอกโดนรถชน พ่อ ช่วยเอกหน่อยฮะ หมา

เอกโดนรถชนมันท่าทางแย่แล้ว...”

            “พะ พี่ กะ กำนันอยู่บนเรือน ขะข้าง นะใน...มะ ลุงจะหา

ยามาให้...”

            นายหยดวิ่งลงจากเรือนเมื่อได้ยินเสียงของเอกนรี

            “อะไร นั่นตีโต้เป็นไร คุณเอกขับรถชนมันเรอะ...” แกตกใจ

เมื่อเห็นร่างโชกเลือดของตีโต้ รีบรับมาอุ้มตรวจดูอย่างรวดเร็ว

            “จวงเอ็งเอายามาเร็ว เฮ้ย...ไม่รอดมั้งหว่า...แน่ะตาตั้งแล้ว...”

ไม่ทันยาจะมา เจ้าตีโต้ก็ชักพะงาย ๆ ตาตั้ง

            “โต้...เอ็งอย่าตายนะ โธ่ ทำไมเอ็งต้องมาตายด้วย ข้ารักเอ็งนะ

พ่อรักเองมาก ฮื่อ” เอกนรีร้องไห้ออกมาเมื่อเห็นชัดเลยว่าเจ้าหมาแสนรัก

ของเธอตายแน่ ไม่รอดแน่ ๆ อย่างนี้พ่อก็ไม่ลงมาสักทีไม่สนใจเอกนรี

ยามนี้เลย เอกนรีไม่รู้หรอกว่ากำนันเพิ่งอาบน้ำเสร็จกำลังสวมเสื้ออยู่

            “อะ อ้าว...นั่นใครมาล่ะ...”

            นายจวงกำลังเศร้าเหมือนกัน ยิ่งเจ้าตีโต้คอพับไปแล้วก็ยิ่งเศร้า

ขณะที่เอกนรีตาแดงก่ำทำอะไรไม่ถูก

            นายหยดหันไปมอง เห็นรถเบนซ์คันใหญ่แล่นมาช้า ๆ เข้ามา

ในรั้วบ้านกำนัน คนของกำนันคนหนึ่งกันหมาไปทางกรง เมื่อเห็นว่า

ต้องเป็นแขกของกำนันแน่ ๆ คงสำคัญด้วย เพราะนั่งรถคันใหญ่เข้ามา

นั่นเอง

            เอกนรีหันขวับไป ตาวาวเมื่อจำได้ว่ารถคันนี้แหละ ที่ขับชน

หมาของหล่อนถึงแก่ความตายอย่างนี้ พอสองร่างก้าวลงจากรถพร้อม ๆ

กัน เอกนรีก็ทำท่าจะผวาไปหา ดีแต่ว่ากำนันก้าวลงจากเรือนมาก่อน

            “สวัสดีครับ ผมมาหากำนัน...” เสียงคุณประธานมีกังวานก้อง

กำนันยกมือรับไหว้เมื่อเห็นเขาไหว้ก่อนอย่างนั้น

            “ท่านคงเป็นกำนันเอิบ”

            “ใช่ ผมเอง เชิญขึ้นบนบ้านก่อนนะครับ”

            “ครับขอบคุณครับ” คุณประธานหันไปทางรถมอเตอร์ไซค์โดย

บังเอิญ เขาสะดุ้งเมื่อเห็นร่างเอกนรียืนตาวาววับ ยามนี้ไม่ได้สวมหมวก

กันน็อก แต่คุณประธานและภรรยาก็จำเสื้อผ้าของหล่อนได้

            สองสามีภรรยาสะดุ้งเฮือกพร้อม ๆ กันเลย

            “หนู...”

            “มีอะไรกันหรือลูก อ้าว นั่นเจ้าตีโต้เป็นไรไป เลือดแดงอย่างนั้น”

กำนันก็เพิ่งเห็นเหมือนกัน แกร้องออกมาพร้อมเดินตรงไปหาคนทั้ง

สามทันที “มันตายแล้วด้วยนี่...”

            “ครับพี่กำนัน มันตายแล้ว” นายหยดเสียงแหบแห้งได้

เหมือนกันว่า สองคนนี่จะต้องขับรถชนหมาของลูกสาวกำนันแน่ ๆ คน

ในหมู่บ้านไม่มีใครกล้าขับรถชนหมาลูกสาวกำนันหรอก อีกอย่างรถใน

หมู่บ้านนี้มีไม่กี่คัน แต่ละคันเมื่อขับในหมู่บ้านก็ขับช้า ๆ ทั้งนั้น

            “พ่อ...สองคนนั่นขับรถชนหมาเอกตาย” เอกนรีร้องออกมา

เสียงดันลั่นไปหมดเพราะความโกรธแค้นหล่อนทำอะไรไม่ถูกนึกอยาก

จะเข้าไปจัดการเตะต่อยให้สมกับความแค้น ก็ทำไม่ได้ เขามาเป็นแขก

ของพ่อจากไหนก็ไม่รู้

            “อ้าว...”

            เอกนรีเดินมาชี้หน้าคุณประธานและภรรยา ท่าทางโกรธมาก

จนสองสามีภรรยามองหน้ากันอย่างตกใจ

            “คุณขับรถประสาอะไร ถือว่าเป็นเศรษฐีหรือไงถึงได้ขับรถชน

หมาชาวบ้านน่ะ มันตัวเบ้อเร่อ อย่าบอกนะว่ามองไม่เห็นน่ะ”

            “หนู...น้าขอโทษ น้าไม่ได้เจตนาเลย...เอ้อ...”

            “คืออย่างนี้นะหนู...หมามันวิ่งมาชนรถน้าเอง” คุณประธานช่วย

ภรรยาพูดเมื่อเห็นภรรยาสั่นไปแล้ว “น้าขับมา ไม่เร็วหรอกจ้ะ”

            “บ้ารึไง...หมาที่ไหนจะวิ่งชนรถ...อย่ามาแก้ขัวเลย พ่อเอกไม่

ยอมนะเรื่องนี้ ชีวิตหมาที่นี่ไม่มีค่ารึไง...” เอกนรีก้าวร้าวยิ่งนึกถึง

หมาที่ตายไปก็ยิ่งสงสาร เคียดแค้น เจ้าตีโต้นั่นเธอเก็บมาจากข้าง

ถนนที่กรุงเทพฯ มันเดินเซซังไปมาข้างถนนไม่มีใครสนใจมันเลยเก็บ

เอามาเลี้ยงและรักมันมากด้วย ป้อนข้าว ป้อนน้ำมากับมือ มันสวย

กว่าใครเขาด้วย เพราะคงมีเชื้อสายหมาในเมืองหลวงมันสวยและเป็น

หมาที่ดีมาก นี่มันคงไปดักรอเธอที่หน้าหมู่บ้าน เพราะคงเห็นเธอขับรถ

ออกไปทางนั้น

            ยิ่งคิดเอกนรีก็น้ำตาไหล

            “หนู น้าขอโทษจ้ะ น้าจะทำยังไงดี น้าขอโทษนะจ๊ะ...”

            คุณนารีรัตน์เดินมาหาเอกนรีจับมือ แต่หญิงสาวกลับสะบัดหนี

อย่างรังเกียจเพราะยังไม่คลายความโกรธ

            “ขอโทษ เช้อะ ขอโทษแล้วมันหายรึ หมามันฟื้นหรือเปล่าหา

หมามันฟื้นหรือเปล่าล่ะ ขอโทษแล้วน่ะ...”

            “เอ้อ...” คุณนารีรัตน์หน้าเสียอีกครั้ง

            “เอก...” กำนันเดินมาโอบไหล่ลูกสาวเข้าใจแล้วว่าอะไรเกิดขึ้น

“ใจเย็นก่อนลูก คุณน้าสองคนนั้นเขาอาจไม่มีเจตนาก็ได้นะ เราต้องมี

เหตุผลซี่ พ่อบอกแล้วไงว่าทุกอย่างมันต้องมีเหตุผล อย่าเอาอารมณ์

มาตัดสิน”

            “เหตุผล...” เอกนรียังกรีดเสียงใส่ “เหตุผลความประมาทน่ะ

สิขับรถชนอย่างคึกคะนองไม่สนใจว่าชีวิตใครจะกระเด็นมาให้เหยียบ...”

            “โธ่เอกนรี เฮ้อทำไมลูกพูดอย่างนี้”

            “พ่อเข้าข้างแขกของพ่อใช่ไหม เอกไม่ยอมนะ เอกไม่ยอมเอา

หมามาให้เอกเถอะ ไม่งั้นเอกไม่มีวันอภัยให้ใครหรอก ไม่ว่าหน้าไหน

เอาหมาเอกมา...”

            “น้าจะหามาให้นะจ๊ะ พรุ่งนี้เลยก็ได้ อย่าร้องไห้ อย่าโกรธน้าเลย

พรุ่งนี้น่าจะหามาให้ใหม่สวย ๆ ด้วยนะ”

            คุณนารีรัตน์ยังใจเย็นเมื่อเห็นชัดว่า เอกนรีเป็นอย่างไรคงเป็น

ลูกสาวคนเดียวของกำนันกระมัง บ้านกำนันใหญ่โตทรงไทยแฝดสอง

หลังคู่ นั่นไม้สักทองทั้งเรือนเลย ท่าทางกำนันก็ดูดีมากอีกด้วย


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (84 รายการ)

www.batorastore.com © 2024