Customer Reviews

“ Stand High by Yourself ยิ่งมองสูงยิ่งเห็นไกล” เป็นหนังสือที่อ่านง่ายสบายตาอีกเล่มหนึ่งที่ดิฉันได้มีโอกาสอ่านจากปลายปากกาของ “ต้นกล้า นัยนา” ค่ะ

อ้างอิงจากคำนำนักเขียนที่บอกไว้ในเล่มว่า

“ ถ้าเรารู้จักโลกและรู้จักตัวเอง เราจะเดินทางในโลกได้ง่ายกว่า
ถ้าเรารู้จักมองโลกให้กว้าง เราก็จะอยู่ในโลกได้อย่างมีความสุข และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
‘ยิ่งมองสูง ยิ่งเห็นไกล’ อาจจะขยับมุมมองที่เรามองโลกให้กว้าง ชัดเจนและง่ายขึ้น”


นิแหละค่ะ ประเด็นหลักของหนังสือเล่มนี้ กล่าวคือ ถ้าเราเข้าใจโลกและตนเองมากขึ้น เราก็จะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข มาเริ่มต้นที่บทแรก ผู้เขียนได้พูดถึงหัวข้อที่ว่า “ความโกรธทำลายทุกอย่าง” เป็นคำแนะนำอย่างง่ายๆค่ะ เพราะความโกรธสามารถเกิดขึ้นได้กับเราทุกคน แต่ผู้เขียนพยายามนำเสนอวิธีที่จะแก้ความโกรธ ยกตัวอย่างเช่น ให้รับฟังคนอื่น, เรียนรู้ที่จะให้อภัย, หัวเราะให้บ่อยขึ้น อะไรประมาณนี้

บทต่อมาเมื่อเกิดคำถามที่ว่า จะทำอย่างไรให้ชีวิตอยู่ตรงกลางได้อย่างสมดุล อะไรที่ตึงไปก็ไม่ดี หย่อนไปก็ไม่เวิร์ ทุกอย่างต้องมีสมดุล ซึ่งดิฉันว่าสมดุลของแต่ละคนอาจจะไม่เท่ากัน ดังนั้นหากมีโอกาสได้อ่านกัน ตามความเห็นของดิฉันคิดว่า เราควรจะหาวิธีที่เหมาะกับเราค่ะ

อย่างที่เกริ่นไปตั้งแต่ต้นว่าถ้าเรารู้จักโลก ก็จะทำให้มีความสุข ดังนั้นเราควรจะเข้าจะธรรมชาติว่า ชีวิตที่จะเติบโตขึ้นได้ ต้องผ่านการเรียนรู้สิ่งใหม่ หรือผ่านการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้สามารถปรับตัวได้อย่างมีคุณภาพ

เมื่อเราต้องไปพบเจอผู้คนมากหน้าหลายตา บุคลิกและคำพูดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สะท้อนตัวตนของเราให้ผู้อื่นได้เห็น และสามารถสร้างความประทับใจหรือเกิดภาพในแง่ลบได้ ดังนั้นการเรียนรู้เรื่องราวเหล่านี้ก็จำเป็นเช่นกันค่ะ สำหรับการอยู่บนโลกใบนี้ เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคมนิเนอะ จะให้อยู่ตัวคนเดียวไปวันๆไม่พูดคุยกับใครก็คงยากใช่ไหมคะ จึงไม่เสียหายถ้าจะฝึกตัวเองให้เป็นคนที่ใครๆก็อยากจะเข้าใกล้


บทต่อมานั้น ผู้เขียนได้ให้ความสำคัญในเรื่องของเวลาค่ะ การบริหารเวลาที่ดีก็เป็นปัจจัยหลักของความสุข บางคนทำงานหนักโดยไม่มีเวลาให้ตัวเอง แบบนี้ก็ไม่มีความสุข รวมถึงเรื่องปากท้องหรืออาหารที่เป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ การรับประทานอาหารที่ดีให้ตรงเวลาก็จะช่วยให้ร่างกายห่างไกลโรคและมีความสุขแข็งแรง เมื่อร่างกายแข็งแรงก็ส่งผลให้เรามีความสุข เห็นไหมคะ ว่าทุกสิ่งอย่างมีความเกี่ยวข้องกันหมด

จากที่กล่าวไปข้างต้นเป็นแค่ตัวอย่างเล็กๆน้อยๆจากหนังสือเล่มนี้เท่านั้นค่ะ จะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยที่เราเคยมองข้าม ก็ส่งผลความสุขของเราทั้งนั้น เริ่มเข้าใจโลกและตัวเองตั้งแต่วันนี้เพื่อให้ทันโลก และเดินตามโลกอย่างมีความสุขกันนะคะ

“ Stand High by Yourself ยิ่งมองสูงยิ่งเห็นไกล” เป็นหนังสือที่อ่านง่ายสบายตาอีกเล่มหนึ่งที่ดิฉันได้มีโอกาสอ่านจากปลายปากกาของ “ต้นกล้า นัยนา” ค่ะ

อ้างอิงจากคำนำนักเขียนที่บอกไว้ในเล่มว่า

“ ถ้าเรารู้จักโลกและรู้จักตัวเอง เราจะเดินทางในโลกได้ง่ายกว่า
ถ้าเรารู้จักมองโลกให้กว้าง เราก็จะอยู่ในโลกได้อย่างมีความสุข และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
‘ยิ่งมองสูง ยิ่งเห็นไกล’ อาจจะขยับมุมมองที่เรามองโลกให้กว้าง ชัดเจนและง่ายขึ้น”


นิแหละค่ะ ประเด็นหลักของหนังสือเล่มนี้ กล่าวคือ ถ้าเราเข้าใจโลกและตนเองมากขึ้น เราก็จะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข มาเริ่มต้นที่บทแรก ผู้เขียนได้พูดถึงหัวข้อที่ว่า “ความโกรธทำลายทุกอย่าง” เป็นคำแนะนำอย่างง่ายๆค่ะ เพราะความโกรธสามารถเกิดขึ้นได้กับเราทุกคน แต่ผู้เขียนพยายามนำเสนอวิธีที่จะแก้ความโกรธ ยกตัวอย่างเช่น ให้รับฟังคนอื่น, เรียนรู้ที่จะให้อภัย, หัวเราะให้บ่อยขึ้น อะไรประมาณนี้

บทต่อมาเมื่อเกิดคำถามที่ว่า จะทำอย่างไรให้ชีวิตอยู่ตรงกลางได้อย่างสมดุล อะไรที่ตึงไปก็ไม่ดี หย่อนไปก็ไม่เวิร์ ทุกอย่างต้องมีสมดุล ซึ่งดิฉันว่าสมดุลของแต่ละคนอาจจะไม่เท่ากัน ดังนั้นหากมีโอกาสได้อ่านกัน ตามความเห็นของดิฉันคิดว่า เราควรจะหาวิธีที่เหมาะกับเราค่ะ

อย่างที่เกริ่นไปตั้งแต่ต้นว่าถ้าเรารู้จักโลก ก็จะทำให้มีความสุข ดังนั้นเราควรจะเข้าจะธรรมชาติว่า ชีวิตที่จะเติบโตขึ้นได้ ต้องผ่านการเรียนรู้สิ่งใหม่ หรือผ่านการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้สามารถปรับตัวได้อย่างมีคุณภาพ

เมื่อเราต้องไปพบเจอผู้คนมากหน้าหลายตา บุคลิกและคำพูดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สะท้อนตัวตนของเราให้ผู้อื่นได้เห็น และสามารถสร้างความประทับใจหรือเกิดภาพในแง่ลบได้ ดังนั้นการเรียนรู้เรื่องราวเหล่านี้ก็จำเป็นเช่นกันค่ะ สำหรับการอยู่บนโลกใบนี้ เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคมนิเนอะ จะให้อยู่ตัวคนเดียวไปวันๆไม่พูดคุยกับใครก็คงยากใช่ไหมคะ จึงไม่เสียหายถ้าจะฝึกตัวเองให้เป็นคนที่ใครๆก็อยากจะเข้าใกล้


บทต่อมานั้น ผู้เขียนได้ให้ความสำคัญในเรื่องของเวลาค่ะ การบริหารเวลาที่ดีก็เป็นปัจจัยหลักของความสุข บางคนทำงานหนักโดยไม่มีเวลาให้ตัวเอง แบบนี้ก็ไม่มีความสุข รวมถึงเรื่องปากท้องหรืออาหารที่เป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ การรับประทานอาหารที่ดีให้ตรงเวลาก็จะช่วยให้ร่างกายห่างไกลโรคและมีความสุขแข็งแรง เมื่อร่างกายแข็งแรงก็ส่งผลให้เรามีความสุข เห็นไหมคะ ว่าทุกสิ่งอย่างมีความเกี่ยวข้องกันหมด

จากที่กล่าวไปข้างต้นเป็นแค่ตัวอย่างเล็กๆน้อยๆจากหนังสือเล่มนี้เท่านั้นค่ะ จะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยที่เราเคยมองข้าม ก็ส่งผลความสุขของเราทั้งนั้น เริ่มเข้าใจโลกและตัวเองตั้งแต่วันนี้เพื่อให้ทันโลก และเดินตามโลกอย่างมีความสุขกันนะคะ

“บอสหน้าตายกะยัยสอางค์” เป็นผลงานยุคแรกๆของแจ่มใสเลยก็ว่าได้ค่ะ พิมพ์ครั้งแรกไปตั้งแต่สมัยนานมาแล้ว กลับมางานนี้นิยายเล่มนี้จึงแปลงร่างกลายเป็นแนว Cookie เล่มเล็กๆน่ารักถืออ่านสะดวก

เรื่องราวของความรักระหว่างสาวออฟฟิศชื่อเชยอย่าง “สอางค์” กับบอสหนุ่มอย่าง “โทมัส” ซึ่งเข้ามารับตำแหน่งใหม่ในแผนกที่นางเอกทำงานอยู่ เปิดเรื่องมาปากนางเอกก็พาซวย เอ้ย พาได้เรื่องเลย เพราะ เธอเผลอไปนินทาพระเอกให้เพื่อสนิทฟัง แถมให้ฉายา “ปีศาจ” กับเขาด้วย ความซวยมาเยือนยัยสอางค์เพราะกรมสมัยนี้ติดจรวด เมื่อพระเอกบังเอิญมาได้ยินพอดี แต่นางเอกมีสกิลแถได้โล่จึงเอาตัวรอดมาได้ แถมพระเอกยังเริ่มจะเอ็นดูเธอเพราะความแปลกไม่เหมือนใครนิแหละค่ะ เขาเลยให้เธอไปไหนมาไหนกับเขาสองต่อสอง แถมแพ็กเกจเป็นคนขับรถไปส่งถึงที่บ้านอีกด้วย

แล้วงานนี้ใครจะไปต้านทานเสน่ห์ของพระเอกได้ใช่ไหมคะ นางเอกก็เริ่มเผลอใจชอบพระอกอย่างถอนตัวไม่ขึ้น แต่เธอยังไม่มั่นใจว่าเขารู้สึกอย่างไรกับเธอ เพื่อนสนิทเธอจึงเสนอวิธี วางแผนให้พระเอกหึงหวง ชายหนุ่มอย่าง “แกรริก” ก็เห็นเป็นเรื่องสนุกที่จะช่วยนางเอกเสียด้วย เพราะถือเป็นการฆ่าเวลาระหว่างอยู่เมืองไทย หุหุ

แผนนี้เหมือนจะเวิร์ค เมื่อพระเอกเริ่มออกอาการหวงก้าง แต่เขาไม่ยอมให้ถูกจับไต๋ได้ง่ายๆหรอกค่ะ เลยเอาเรื่องงานมาบังหน้า สั่งให้นางเอกแก้งานบ้างล่ะ ทำโอทีจนดึกบ้างล่ะ ที่สำคัญพ่อเจ้าพระคุณจูบนางเอกจ้า แต่ไม่ยอมบอกความรู้สึกตนเอง จนเพื่อนสนิทของพระเอกต้องเตือนให้เขารู้ตัวว่าเขามีคู่แข่งที่ไม่ธรรมดา อย่ามั่นใจในตัวเองมากไปหนัก ไม่งั้นจะแห้วได้!

พระเอกเลยเริ่มรุกบ้างแล้วค่ะ มีฉากหวานๆ ร้องเพลงสื่อความหมายจีบนางเอกด้วย แต่นางเอกกลับดันไปคิดว่าเขาร้องให้คนอื่นซะงั้น…โถ่เอ๊ยย จนเมามายไม่ได้สติ และหลุดปากเรื่องแผนการที่ให้ “แกรริก”มาเป็นแฟนเพื่อยั่วให้พระเอกหึงอีกด้วย ไม่รู้พระเอกจะเอาคืนนางเอกหรือยังไง เลยทำตัวให้นางเอกเข้าใจผิดว่าเขาไม่คิดอะไร จนนางเอกต้องขอลาออกจากงาน และไปหาผู้ชายที่แสนดีอย่าง “แกรริก” แทน ดิฉันแอบสงสารเขาเบาๆค่ะ เพราะเขาเริ่มจะหลงรักนางเอกแล้วเหมือนกัน แต่ก็รู้ตัวดีว่าคนที่นางเอกรักคือพระเอก คือแบบเป็นสุภาพบุรุษมากกกก นอกจากไม่ฉวยโอกาสในเวลาที่นางเอกอ่อนแอแล้ว ยังช่วยปลอบใจนางเอกอีก ยกตำแหน่งพระรองดีเด่นให้เลยค่ะ


นางเอกทนความกดดันเรื่องพระเอกไม่ไหวจึงตัดสินเล่าให้คนที่บ้านฟังซึ่งเข้าใจเธอค่ะ โชคดีที่บ้านนางเอกไม่ได้ว่าการกระทำของนางเอกงี่เง่าปัญญาออกจนลาออกจากงาน ฉากจบของเรื่องทำให้ดิฉันฟินที่สุดค่ะ เพราะพระเอกตามมาง้อได้หวานมากก (แม้ตอนแรกจะแอบกวนก็เถอะ!!) ใครชอบนิยายรักโรแมนติกลองไปหาอ่านดูนะคะ

“บอสหน้าตายกะยัยสอางค์” เป็นผลงานยุคแรกๆของแจ่มใสเลยก็ว่าได้ค่ะ พิมพ์ครั้งแรกไปตั้งแต่สมัยนานมาแล้ว กลับมางานนี้นิยายเล่มนี้จึงแปลงร่างกลายเป็นแนว Cookie เล่มเล็กๆน่ารักถืออ่านสะดวก

เรื่องราวของความรักระหว่างสาวออฟฟิศชื่อเชยอย่าง “สอางค์” กับบอสหนุ่มอย่าง “โทมัส” ซึ่งเข้ามารับตำแหน่งใหม่ในแผนกที่นางเอกทำงานอยู่ เปิดเรื่องมาปากนางเอกก็พาซวย เอ้ย พาได้เรื่องเลย เพราะ เธอเผลอไปนินทาพระเอกให้เพื่อสนิทฟัง แถมให้ฉายา “ปีศาจ” กับเขาด้วย ความซวยมาเยือนยัยสอางค์เพราะกรมสมัยนี้ติดจรวด เมื่อพระเอกบังเอิญมาได้ยินพอดี แต่นางเอกมีสกิลแถได้โล่จึงเอาตัวรอดมาได้ แถมพระเอกยังเริ่มจะเอ็นดูเธอเพราะความแปลกไม่เหมือนใครนิแหละค่ะ เขาเลยให้เธอไปไหนมาไหนกับเขาสองต่อสอง แถมแพ็กเกจเป็นคนขับรถไปส่งถึงที่บ้านอีกด้วย

แล้วงานนี้ใครจะไปต้านทานเสน่ห์ของพระเอกได้ใช่ไหมคะ นางเอกก็เริ่มเผลอใจชอบพระอกอย่างถอนตัวไม่ขึ้น แต่เธอยังไม่มั่นใจว่าเขารู้สึกอย่างไรกับเธอ เพื่อนสนิทเธอจึงเสนอวิธี วางแผนให้พระเอกหึงหวง ชายหนุ่มอย่าง “แกรริก” ก็เห็นเป็นเรื่องสนุกที่จะช่วยนางเอกเสียด้วย เพราะถือเป็นการฆ่าเวลาระหว่างอยู่เมืองไทย หุหุ

แผนนี้เหมือนจะเวิร์ค เมื่อพระเอกเริ่มออกอาการหวงก้าง แต่เขาไม่ยอมให้ถูกจับไต๋ได้ง่ายๆหรอกค่ะ เลยเอาเรื่องงานมาบังหน้า สั่งให้นางเอกแก้งานบ้างล่ะ ทำโอทีจนดึกบ้างล่ะ ที่สำคัญพ่อเจ้าพระคุณจูบนางเอกจ้า แต่ไม่ยอมบอกความรู้สึกตนเอง จนเพื่อนสนิทของพระเอกต้องเตือนให้เขารู้ตัวว่าเขามีคู่แข่งที่ไม่ธรรมดา อย่ามั่นใจในตัวเองมากไปหนัก ไม่งั้นจะแห้วได้!

พระเอกเลยเริ่มรุกบ้างแล้วค่ะ มีฉากหวานๆ ร้องเพลงสื่อความหมายจีบนางเอกด้วย แต่นางเอกกลับดันไปคิดว่าเขาร้องให้คนอื่นซะงั้น…โถ่เอ๊ยย จนเมามายไม่ได้สติ และหลุดปากเรื่องแผนการที่ให้ “แกรริก”มาเป็นแฟนเพื่อยั่วให้พระเอกหึงอีกด้วย ไม่รู้พระเอกจะเอาคืนนางเอกหรือยังไง เลยทำตัวให้นางเอกเข้าใจผิดว่าเขาไม่คิดอะไร จนนางเอกต้องขอลาออกจากงาน และไปหาผู้ชายที่แสนดีอย่าง “แกรริก” แทน ดิฉันแอบสงสารเขาเบาๆค่ะ เพราะเขาเริ่มจะหลงรักนางเอกแล้วเหมือนกัน แต่ก็รู้ตัวดีว่าคนที่นางเอกรักคือพระเอก คือแบบเป็นสุภาพบุรุษมากกกก นอกจากไม่ฉวยโอกาสในเวลาที่นางเอกอ่อนแอแล้ว ยังช่วยปลอบใจนางเอกอีก ยกตำแหน่งพระรองดีเด่นให้เลยค่ะ


นางเอกทนความกดดันเรื่องพระเอกไม่ไหวจึงตัดสินเล่าให้คนที่บ้านฟังซึ่งเข้าใจเธอค่ะ โชคดีที่บ้านนางเอกไม่ได้ว่าการกระทำของนางเอกงี่เง่าปัญญาออกจนลาออกจากงาน ฉากจบของเรื่องทำให้ดิฉันฟินที่สุดค่ะ เพราะพระเอกตามมาง้อได้หวานมากก (แม้ตอนแรกจะแอบกวนก็เถอะ!!) ใครชอบนิยายรักโรแมนติกลองไปหาอ่านดูนะคะ

“เพลิงฉิมพลี” เป็นนิยายแนวพีเรียดอีกเรื่องของเจ้าของนามปากกา “อุมาริการ์” ดิฉันชื่นชอบผลงานของนักเขียนท่านนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วทำให้ตัดสินใจไม่ยากที่จะซื้อนิยายเรื่องนี้มาอ่าน แถมพล็อตและคำโปรยก็โดนใจที่สุด

นิยายเรื่องนี้แบ่งออกเป็นสามพาร์ทค่ะ เปิดเรื่องมาโดยนางเอก “เนื้อนาง” เดินทางกลับมายังที่ ที่เธอได้จากไปอีกครั้ง เพื่อล่ำลา “อัศดายุ” เด็กชายที่เธอผูกพัน เลี้ยงกันมาตั้งแต่อ้อนแต่ออด เพราะเด็กชายกำลังจะไปเรียนต่อต่างประเทศ การกลับมาครั้งนี้ก็ได้เรื่องเลยค่ะ เพราะนางเอกได้รับอันตรายทันที แล้วเรื่องก็ตัดมาที่อดีต การพบกันระหว่าง “ณไตร” พระเอกของเรื่องกับนางเอกค่ะ นางเอกเรื่องนี้เธอเป็นสาวช่างฟ้อน เป็นลูกครึ่งด้วยนะเออ ความสวยของเธอก็เลยไปสะดุดตาใครหลายๆคนเข้า รวมถึงพระเอกด้วย และทั้งคู่ก็รักกันค่ะ แต่งงานกันตามประเพณีของนางเอก แต่แม่พระเอกไม่ยอมรับเพราะเห็นว่านางเอกต่ำต้อยและที่สำคัญตนก็ได้เลือกว่าที่ลูกสะใภ้ไว้ให้พระเอกแล้ว คือในยุคก่อนๆ ก็คงไม่แปลกหรอกค่ะ ที่ผู้ชายจะมีเมียสองคน พระเอกเรื่องนี้ก็เหมือนกัน เพราะถึงนางเอกจะมาก่อนและเขาก็รักนางเอก แต่ก็ต้องแต่งงานกับ “แขไข” หญิงสาวที่แม่หามาให้ด้วย อยู่กันแบบสามคนผัวเมีย ก็เลยเกิดปัญหาค่ะ หุหุ จนตอนหลัง “แขไข”ตาย นางเอกเลยถูกใส่ร้ายว่าคบชู้กับน้องชายพระเอกและฆ่า “แขไข” สุดท้ายนางเอกเลยโดนพระเอกไล่ออกจากบ้าน ไม่ให้กลับมาเหยียบที่นี่อีก นางเอกก็ต้องไปค่ะ ทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด แต่แธอก็ไม่สามารถหาหลักฐานมาพิสูจน์ตัวเองได้ นิยายกลับมาที่ปัจจุบัน เมื่อเรื่องราวดำเนินไปถึงจุดที่ความจริงควรจะเปิดเผย คือย้อนกลับมายังฉากที่นางเอกถูกทำร้ายเพราะกลับมาที่บ้านพระเอกอีกครั้งเนี่ยแหละค่ะ เรื่องที่ปกปิดไว้เลยเหมือนจะปะทุขึ้นมาอีกครั้ง และงานนี้นางเอกก็ตั้งใจแล้วว่าจะมาทวงคืนความบริสุทธิ์ให้ตัวเอง

คาเรกเตอร์ของพระเอกเรื่องนี้ สำหรับดิฉัน ดิฉันว่าเขาเป็นคนดูจริงจังนะคะ ดูมีอำนาจด้วย เพราะเขาเป็นพ่อเลี้ยงคุมคนเยอะ เลยมีแต่คนเกรงขาม ตอนที่ไล่นางเอกไปก็เหมือนจะไม่รักนางเอกแล้ว คือบทสนทนา บทบรรยายทุกอย่างค่อนข้างจะทำให้ดิฉันคิดว่า เขาคิดว่านางเอกมีชู้จริงๆนะคะ แต่พออ่านไปได้สักพักจะเริ่มรู้แล้วว่าทำไมพระเอกถึงไล่นางเอกไป ที่สำคัญเขารักนางเอกมาตลอด (รักแล้วไปแต่งงานกับแขไขทำไม T-T) ส่วนน้องชายพระเอก คนนี้มีคาเรกเตอร์น่าสนใจค่ะ อารมณ์ศิลปิน รักแรงเกลียดแรง ทำให้ดิฉันเริ่มสงสัยแล้วว่าเขาเป็นคนร้ายที่ฆ่า “แขไข”หรือเปล่า ตัวละครเรื่องนี้เยอะเกินที่ดิฉันจะไล่หมด แต่ละคนก็มีคาเรกเตอร์เด่นๆทั้งนั้น อย่างคุณครูของเด็กชายก็น่าสนใจไม่เบาค่ะ
ปมเด่นของเรื่องก็คือการที่นางเอกกลับมาทวงความยุติธรรมและการสืบหาตัวคนร้ายที่ฆ่า “แขไข” ซึ่งผู้เขียนจะเริ่มๆสปอยออกมาทีละนิดให้ขบคิดเล่นๆ เพราะผู้ต้องสงสัยเรื่องนี้เยอะค่ะ ฮ่าๆๆๆ แถมบางทีอาจจะไม่ได้ทำคนเดียว อาจจะมีผู้สมรู้ร่วมคิด เอ๊ะ อะไรยังไง

ต้องบอกว่าปิดเรื่องได้สมบูรณ์นะคะ ไม่มีจุดไหนที่ดิฉันติดใจกับประเด็นที่ผู้เขียนสร้างมาก็สามารถค่อยๆคลี่คลายได้อย่างลงตัว ติดอย่างเดียวค่ะ ทำไมต้องรอให้ถึงเวลาที่นางเอกกลับมาอีกครั้ง คือมันนานมากกกกก ฮ่าๆๆๆ ดิฉันพยายามมองข้ามจุดนี้ไป เพราะเนื้อหาและความสนุกมาช่วยกลบได้หมดจริงๆ สำนวนที่ผู้เขียนใช้ก็สวยด้วย ลองหามาอ่านดูค่ะ ไม่ผิดหวังแน่นอน

“เพลิงฉิมพลี” เป็นนิยายแนวพีเรียดอีกเรื่องของเจ้าของนามปากกา “อุมาริการ์” ดิฉันชื่นชอบผลงานของนักเขียนท่านนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วทำให้ตัดสินใจไม่ยากที่จะซื้อนิยายเรื่องนี้มาอ่าน แถมพล็อตและคำโปรยก็โดนใจที่สุด

นิยายเรื่องนี้แบ่งออกเป็นสามพาร์ทค่ะ เปิดเรื่องมาโดยนางเอก “เนื้อนาง” เดินทางกลับมายังที่ ที่เธอได้จากไปอีกครั้ง เพื่อล่ำลา “อัศดายุ” เด็กชายที่เธอผูกพัน เลี้ยงกันมาตั้งแต่อ้อนแต่ออด เพราะเด็กชายกำลังจะไปเรียนต่อต่างประเทศ การกลับมาครั้งนี้ก็ได้เรื่องเลยค่ะ เพราะนางเอกได้รับอันตรายทันที แล้วเรื่องก็ตัดมาที่อดีต การพบกันระหว่าง “ณไตร” พระเอกของเรื่องกับนางเอกค่ะ นางเอกเรื่องนี้เธอเป็นสาวช่างฟ้อน เป็นลูกครึ่งด้วยนะเออ ความสวยของเธอก็เลยไปสะดุดตาใครหลายๆคนเข้า รวมถึงพระเอกด้วย และทั้งคู่ก็รักกันค่ะ แต่งงานกันตามประเพณีของนางเอก แต่แม่พระเอกไม่ยอมรับเพราะเห็นว่านางเอกต่ำต้อยและที่สำคัญตนก็ได้เลือกว่าที่ลูกสะใภ้ไว้ให้พระเอกแล้ว คือในยุคก่อนๆ ก็คงไม่แปลกหรอกค่ะ ที่ผู้ชายจะมีเมียสองคน พระเอกเรื่องนี้ก็เหมือนกัน เพราะถึงนางเอกจะมาก่อนและเขาก็รักนางเอก แต่ก็ต้องแต่งงานกับ “แขไข” หญิงสาวที่แม่หามาให้ด้วย อยู่กันแบบสามคนผัวเมีย ก็เลยเกิดปัญหาค่ะ หุหุ จนตอนหลัง “แขไข”ตาย นางเอกเลยถูกใส่ร้ายว่าคบชู้กับน้องชายพระเอกและฆ่า “แขไข” สุดท้ายนางเอกเลยโดนพระเอกไล่ออกจากบ้าน ไม่ให้กลับมาเหยียบที่นี่อีก นางเอกก็ต้องไปค่ะ ทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด แต่แธอก็ไม่สามารถหาหลักฐานมาพิสูจน์ตัวเองได้ นิยายกลับมาที่ปัจจุบัน เมื่อเรื่องราวดำเนินไปถึงจุดที่ความจริงควรจะเปิดเผย คือย้อนกลับมายังฉากที่นางเอกถูกทำร้ายเพราะกลับมาที่บ้านพระเอกอีกครั้งเนี่ยแหละค่ะ เรื่องที่ปกปิดไว้เลยเหมือนจะปะทุขึ้นมาอีกครั้ง และงานนี้นางเอกก็ตั้งใจแล้วว่าจะมาทวงคืนความบริสุทธิ์ให้ตัวเอง

คาเรกเตอร์ของพระเอกเรื่องนี้ สำหรับดิฉัน ดิฉันว่าเขาเป็นคนดูจริงจังนะคะ ดูมีอำนาจด้วย เพราะเขาเป็นพ่อเลี้ยงคุมคนเยอะ เลยมีแต่คนเกรงขาม ตอนที่ไล่นางเอกไปก็เหมือนจะไม่รักนางเอกแล้ว คือบทสนทนา บทบรรยายทุกอย่างค่อนข้างจะทำให้ดิฉันคิดว่า เขาคิดว่านางเอกมีชู้จริงๆนะคะ แต่พออ่านไปได้สักพักจะเริ่มรู้แล้วว่าทำไมพระเอกถึงไล่นางเอกไป ที่สำคัญเขารักนางเอกมาตลอด (รักแล้วไปแต่งงานกับแขไขทำไม T-T) ส่วนน้องชายพระเอก คนนี้มีคาเรกเตอร์น่าสนใจค่ะ อารมณ์ศิลปิน รักแรงเกลียดแรง ทำให้ดิฉันเริ่มสงสัยแล้วว่าเขาเป็นคนร้ายที่ฆ่า “แขไข”หรือเปล่า ตัวละครเรื่องนี้เยอะเกินที่ดิฉันจะไล่หมด แต่ละคนก็มีคาเรกเตอร์เด่นๆทั้งนั้น อย่างคุณครูของเด็กชายก็น่าสนใจไม่เบาค่ะ
ปมเด่นของเรื่องก็คือการที่นางเอกกลับมาทวงความยุติธรรมและการสืบหาตัวคนร้ายที่ฆ่า “แขไข” ซึ่งผู้เขียนจะเริ่มๆสปอยออกมาทีละนิดให้ขบคิดเล่นๆ เพราะผู้ต้องสงสัยเรื่องนี้เยอะค่ะ ฮ่าๆๆๆ แถมบางทีอาจจะไม่ได้ทำคนเดียว อาจจะมีผู้สมรู้ร่วมคิด เอ๊ะ อะไรยังไง

ต้องบอกว่าปิดเรื่องได้สมบูรณ์นะคะ ไม่มีจุดไหนที่ดิฉันติดใจกับประเด็นที่ผู้เขียนสร้างมาก็สามารถค่อยๆคลี่คลายได้อย่างลงตัว ติดอย่างเดียวค่ะ ทำไมต้องรอให้ถึงเวลาที่นางเอกกลับมาอีกครั้ง คือมันนานมากกกกก ฮ่าๆๆๆ ดิฉันพยายามมองข้ามจุดนี้ไป เพราะเนื้อหาและความสนุกมาช่วยกลบได้หมดจริงๆ สำนวนที่ผู้เขียนใช้ก็สวยด้วย ลองหามาอ่านดูค่ะ ไม่ผิดหวังแน่นอน

“รัก...ร้าย” เป็นอีกหนึ่งผลงานของคุณณาราค่ะ นิยายแนวดราม่าเศร้าสลดของณาราได้ใจดิฉันทุกที อ่านไปก็สะเทือนใจอารมณ์ยิ่งนัก พระเอกและนางเอกรู้จักกันมาตั้งแต่ยังเด็กค่ะ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ได้พัฒนาจากความใกล้ชิดจนเกิดเป็นความรักอันหอมหวาน ถึงวัยอันควรที่จะแต่งงานมีครอบครัว แต่เรื่องราวกลับพลิกผัน เพราะพระเอกเป็นทหารต้องไปปฏิบัติหน้าที่ในสมรภูมิรบ จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ฝ่ายนางเอกก็เข้าใจผิดคิดว่าพระเอกตายในหน้าที่แล้ว เธอจึงเดินทางกลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ไทยกับแม่ของเธอ ความเสียใจทำให้เธอแทบอยากจะตายตามพระเอกไปแต่ปรากฎว่าเธอท้อง นางเอกเลยต้องฮึดสู้เพื่อลูกและครอบครัวที่เหลือ

วันเวลาผ่านไป ลูกของนางเอกกับพระเอกก็โตขึ้น ตัวนางเอกเองก็มีชายหนุ่มเขามาจีบนะคะ ผู้ชายคนนี้ความจริงเขาชอบนางเอกมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยแล้ว เพราะนางเอกเป็นเพื่อนสนิทของญาติสาวของเขา ทำให้ได้เห็นนางเอกบ่อยๆ แต่ตอนนั้นนางเอกมีพระเอกอยู่แล้ว เลยเข้ามาจีบไม่ได้ พอรู้ว่าพระเอกตายก็เลยได้โอกาสมาดูแล แม้จะเจ็บลึกๆที่นางเอกท้องแต่เขาก็ทำเป็นมองข้ามไป เพราะอยากแต่งงานกับนางเอกค่ะ


มาต่อกันที่ฝ่ายพระเอก ตอนแรกทุกคนก็เข้าใจว่าเขาได้ตายไปแล้ว แต่พระเอกเรื่องนี้อึดและโชคช่วยทำให้รอดตายมาได้อย่างปาฏิหาริย์ คนแรกที่เขาคิดถึงคือนางเอกค่ะ แต่เพราะเพื่อนสนิทของนางเอก(คนที่พี่ชายอยากแต่งงานกับนางเอกนะแหละค่ะ) มาสร้างเรื่องให้พระเอกเข้าใจผิดว่านางเอกเป็นอื่นไปแล้ว เพื่อหวังเสียบแทน เพราะตัวเองแอบรักพระเอกอยู่ แล้วก็สมปรารถนาเมื่อได้พระเอกมาครองจริงๆ แต่ได้มาแต่กายนะคะ ใจพระเอกยังทั้งรักและแค้นนางเอกอยู่เสมอ

แล้วพระเอกก็ตัดสินใจที่จะกลับมาให้บทเรียนนางเอกที่ทรยศนอกใจเขาไปมีคนใหม่ คือแบบ ดิฉันไม่รู้ว่าพี่แกฟังเรื่องใส่ร้ายนางเอกมากไป หรือโมโหจนเพี้ยนกันแน่ เพราะเหมือนพระเอกเลือกที่จะเชื่อเพื่อนสนิทนางเอกไปแล้ว ลูกชายที่เป็นของตัวเองก็คิดว่าเป็นของสามีใหม่นางเอก … งานนี้นางเอกเลยรับเละ เป็นเหยื่อทางอารมณ์ของพระเอกเต็มๆ การแก้แค้นเริ่มต้นขึ้นเมื่อพระเอกปลอมตัวนิดหน่อยเข้ามาในชีวิตนางเอกอีกครั้ง โดยเกี่ยวกับเรื่องงานค่ะ เขาพยายามหลอกล่อให้นางเอกรักเขาอีกครั้งเพื่อหวังจะทิ้งไปอย่างไม่ใยดี ให้รู้กันไปว่าเขาไม่ได้แคร์เธอเลยสักนิด แต่เรื่องนี้เพื่อนสนิทของนางเอกไม่รู้นะคะว่าพระเอกจะกลับมาหานางเอก ไม่งั้นหล่อนคงไม่ยอมปล่อยมาง่ายๆ เพราะเรื่องที่โกหกไว้ต้องแดงแน่ๆ เกมรักดำเนินต่อไปจนกระทั่งนางเอกตกหลุมพรางค่ะ ยิ่งมารู้ตอนหลังมาพระเอกคือคนเดียวกับผู้ชายที่เธอรักมาตลอด นางเอกก็ยิ่งดีใจที่เขาไม่ตาย แต่พระเอกยังโง่อยู่นะคะ เพราะเขาเข้าใจว่านางเอกเห็นเขารวยกว่าญาติของเพื่อนสนิทที่เข้ามาติดพัน คือความจริงญาติคนนี้ก็ไม่ได้ดีอะไรหรอกค่ะ มีกิ๊กเยอะแยะเต็มไปหมด นางเอกเลยขอบายบอกเลิก แผนพระเอกก็เหมือนจะสำเร็จด้วยดีค่ะ ยิ่งได้เพื่อนสนิทนางเอกมาเป็นตัวแปรสำคัญ หุหุ โดนพระเอกหลอกใช้นะคะ นางไม่ได้รู้เรื่องด้วยกับแผนนี้

เรื่องมาแตกตอนที่ลูกของนางเอกเข้าโรงพยาบาล พระเอกเลยได้รู้ว่าจริงว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกชายของเขา และนางเอกก็ไม่เคยทรยศ เพื่อนสนิทนางเอกก็เริ่มรู้ตัวแล้วค่ะว่าพระเอกรู้ความจริงแล้ว แต่นางยังไม่เลิกล้มความตั้งใจจะแย่งพระเอกมานะคะ ส่วนญาติที่กลับตัวกลับใจแล้วไม่ยอมช่วยเพราะเขาเห็นแก่ความรักที่พระเอกนางเอกมีให้กัน เรื่องรักดราม่าของทั้งสามคนจะเป็นอย่างไรบทสรุปของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ต้องลองหามาอ่านกันดูค่ะ ไม่น่าเชื่อเนอะว่าการที่อยากให้ผู้ชายสักคนและอิจฉาใครสักคนจะทำให้เพื่อนสนิทนางเอกเป็นได้ขนาดนี้ เอาไปเลยค่ะ รางวัลตัวร้ายแห่งปี T-T

“รัก...ร้าย” เป็นอีกหนึ่งผลงานของคุณณาราค่ะ นิยายแนวดราม่าเศร้าสลดของณาราได้ใจดิฉันทุกที อ่านไปก็สะเทือนใจอารมณ์ยิ่งนัก พระเอกและนางเอกรู้จักกันมาตั้งแต่ยังเด็กค่ะ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ได้พัฒนาจากความใกล้ชิดจนเกิดเป็นความรักอันหอมหวาน ถึงวัยอันควรที่จะแต่งงานมีครอบครัว แต่เรื่องราวกลับพลิกผัน เพราะพระเอกเป็นทหารต้องไปปฏิบัติหน้าที่ในสมรภูมิรบ จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ฝ่ายนางเอกก็เข้าใจผิดคิดว่าพระเอกตายในหน้าที่แล้ว เธอจึงเดินทางกลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ไทยกับแม่ของเธอ ความเสียใจทำให้เธอแทบอยากจะตายตามพระเอกไปแต่ปรากฎว่าเธอท้อง นางเอกเลยต้องฮึดสู้เพื่อลูกและครอบครัวที่เหลือ

วันเวลาผ่านไป ลูกของนางเอกกับพระเอกก็โตขึ้น ตัวนางเอกเองก็มีชายหนุ่มเขามาจีบนะคะ ผู้ชายคนนี้ความจริงเขาชอบนางเอกมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยแล้ว เพราะนางเอกเป็นเพื่อนสนิทของญาติสาวของเขา ทำให้ได้เห็นนางเอกบ่อยๆ แต่ตอนนั้นนางเอกมีพระเอกอยู่แล้ว เลยเข้ามาจีบไม่ได้ พอรู้ว่าพระเอกตายก็เลยได้โอกาสมาดูแล แม้จะเจ็บลึกๆที่นางเอกท้องแต่เขาก็ทำเป็นมองข้ามไป เพราะอยากแต่งงานกับนางเอกค่ะ


มาต่อกันที่ฝ่ายพระเอก ตอนแรกทุกคนก็เข้าใจว่าเขาได้ตายไปแล้ว แต่พระเอกเรื่องนี้อึดและโชคช่วยทำให้รอดตายมาได้อย่างปาฏิหาริย์ คนแรกที่เขาคิดถึงคือนางเอกค่ะ แต่เพราะเพื่อนสนิทของนางเอก(คนที่พี่ชายอยากแต่งงานกับนางเอกนะแหละค่ะ) มาสร้างเรื่องให้พระเอกเข้าใจผิดว่านางเอกเป็นอื่นไปแล้ว เพื่อหวังเสียบแทน เพราะตัวเองแอบรักพระเอกอยู่ แล้วก็สมปรารถนาเมื่อได้พระเอกมาครองจริงๆ แต่ได้มาแต่กายนะคะ ใจพระเอกยังทั้งรักและแค้นนางเอกอยู่เสมอ

แล้วพระเอกก็ตัดสินใจที่จะกลับมาให้บทเรียนนางเอกที่ทรยศนอกใจเขาไปมีคนใหม่ คือแบบ ดิฉันไม่รู้ว่าพี่แกฟังเรื่องใส่ร้ายนางเอกมากไป หรือโมโหจนเพี้ยนกันแน่ เพราะเหมือนพระเอกเลือกที่จะเชื่อเพื่อนสนิทนางเอกไปแล้ว ลูกชายที่เป็นของตัวเองก็คิดว่าเป็นของสามีใหม่นางเอก … งานนี้นางเอกเลยรับเละ เป็นเหยื่อทางอารมณ์ของพระเอกเต็มๆ การแก้แค้นเริ่มต้นขึ้นเมื่อพระเอกปลอมตัวนิดหน่อยเข้ามาในชีวิตนางเอกอีกครั้ง โดยเกี่ยวกับเรื่องงานค่ะ เขาพยายามหลอกล่อให้นางเอกรักเขาอีกครั้งเพื่อหวังจะทิ้งไปอย่างไม่ใยดี ให้รู้กันไปว่าเขาไม่ได้แคร์เธอเลยสักนิด แต่เรื่องนี้เพื่อนสนิทของนางเอกไม่รู้นะคะว่าพระเอกจะกลับมาหานางเอก ไม่งั้นหล่อนคงไม่ยอมปล่อยมาง่ายๆ เพราะเรื่องที่โกหกไว้ต้องแดงแน่ๆ เกมรักดำเนินต่อไปจนกระทั่งนางเอกตกหลุมพรางค่ะ ยิ่งมารู้ตอนหลังมาพระเอกคือคนเดียวกับผู้ชายที่เธอรักมาตลอด นางเอกก็ยิ่งดีใจที่เขาไม่ตาย แต่พระเอกยังโง่อยู่นะคะ เพราะเขาเข้าใจว่านางเอกเห็นเขารวยกว่าญาติของเพื่อนสนิทที่เข้ามาติดพัน คือความจริงญาติคนนี้ก็ไม่ได้ดีอะไรหรอกค่ะ มีกิ๊กเยอะแยะเต็มไปหมด นางเอกเลยขอบายบอกเลิก แผนพระเอกก็เหมือนจะสำเร็จด้วยดีค่ะ ยิ่งได้เพื่อนสนิทนางเอกมาเป็นตัวแปรสำคัญ หุหุ โดนพระเอกหลอกใช้นะคะ นางไม่ได้รู้เรื่องด้วยกับแผนนี้

เรื่องมาแตกตอนที่ลูกของนางเอกเข้าโรงพยาบาล พระเอกเลยได้รู้ว่าจริงว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกชายของเขา และนางเอกก็ไม่เคยทรยศ เพื่อนสนิทนางเอกก็เริ่มรู้ตัวแล้วค่ะว่าพระเอกรู้ความจริงแล้ว แต่นางยังไม่เลิกล้มความตั้งใจจะแย่งพระเอกมานะคะ ส่วนญาติที่กลับตัวกลับใจแล้วไม่ยอมช่วยเพราะเขาเห็นแก่ความรักที่พระเอกนางเอกมีให้กัน เรื่องรักดราม่าของทั้งสามคนจะเป็นอย่างไรบทสรุปของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ต้องลองหามาอ่านกันดูค่ะ ไม่น่าเชื่อเนอะว่าการที่อยากให้ผู้ชายสักคนและอิจฉาใครสักคนจะทำให้เพื่อนสนิทนางเอกเป็นได้ขนาดนี้ เอาไปเลยค่ะ รางวัลตัวร้ายแห่งปี T-T

‘ จู่ๆ คนที่เคยอยู่ในความฝันก็จู่โจมเข้ามาในความจริงโดยที่เธอไม่ทันเตรียมตัวเตรียมใจ...ที่สำคัญเขาต้องการครอบครองเธอเพื่อสิ่งใดกัน...ความรัก หรือมีอย่างอื่นมากกว่านั้น ‘เบญจมาศ’ เข้าไปอยู่ในบ้านวราธรเพื่อค้นหาความจริงว่าพี่สาวของเธอฆ่าตัวตายจริงหรือไม่แล้วหญิงสาวก็พบกับความลับของใครหลายคน รวมทั้งตัวเธอเองด้วย ‘เวคิน’ คือผู้ต้องสงสัยว่าทำร้ายพี่สาวของเธอ แต่ยามใกล้ชิดกันหัวใจหญิงสาวกลับสั่นไหวรุนแรง เพราะผู้ชายหล่อร้ายและเย็นชาคนนี้คือมือเบสแห่งวงบลูอายส์ที่เธอชื่นชมและหลงใหลมาตั้งแต่ตอนเป็นวัยรุ่น ขณะที่ชายหนุ่มก็ต้องการปิดบังความลับบางอย่างในอดีตเอาไว้และเขาจะทำทุกอย่างเพื่อหยุดยั้งไม่ให้เธอสืบหาคนร้าย ไม่เว้นแม้แต่การใช้ความเจ้าเล่ห์ครอบครองตัวเธอ...’

พอเห็นคำโปรยหลังปกเรื่อง “เกมรักลวงเสน่หา” ดิฉันจึงรีบอ่านในทันที เพราะชื่นชอบงานแนวพวกฆาตกรรม สืบหาตัวคนร้าย แต่ปรากฎว่าหลังอ่านดิฉันเข้าใจผิดไปเสียถนัด เพราะนิยายเรื่องนี้ไม่ได้เป็นสืบสวนขนาดนั้นค่ะ ฮา อย่าเพิ่งงงกันนะคะ แต่ถึงจะไม่ได้มีเรื่องการสืบสวน คดีฆาตกรรมพี่สาวนางเอกอะไรวุ่นวาย แต่ก็ยังมีฉากตามหาสาเหตุที่ทำให้พี่สาวนางเอกฆ่าตัวตาด้วยค่ะ

ความรู้สึกหลังอ่านนิยายเรื่องนี้คือ เป็นนิยายที่อ่านได้เรื่อยๆค่ะ ไม่ได้ตื่นเต้นเร้าใจมากนัก จุดขายสำหรับนิยายเรื่องนี้ ดิฉันรู้สึกว่าจะอยู่ที่คาเรกเตอร์ของตัวละครหลักค่ะ โดยเฉพาะครอบครัวพระเอก ที่ดูจากรูปลักษณ์ภายนอก ดูเป็นผู้ดีเก่า มีจิตใจโอบอ้อมอารี แต่พอนางเอกมีโอกาสเข้ามาสุงสิงเพราะมาตามสืบเรื่องพี่สาว ก็ได้พบว่าทุกคนต่างมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ล้วนแล้วแต่มีอะไรซ่อนไว้ในจิตใจของตัวเองค่ะ ฝ่ายแม่นางเอกก็ไม่น้อยหน้า เพราะดูเหมือนจะรักพี่สาวนางเอกมากกว่านางเอก ซึ่งทุกเรื่องที่ว่ามาล้วนแล้วแต่มีเหตุผลรองรับการกระทำของตัวละคร


พระเอกของเรื่องนี้ ตามที่ผู้เขียนบรรยายให้นางเอกรู้สึก นางเอกรู้สึกว่าเขาจะไม่ชอบหน้าเธออย่างแรง จนเผลอคิดว่าอีตานี่เนี่ยแหละที่เป็นฆาตกร แต่พยายามปกปิดอำพรางรูปคดี ซึ่งความจริงพระเอกไม่ใช่ฆาตกรหรอกค่ะ เขาแค่รู้อะไรที่ไม่สมควรรู้ เอาง่ายๆคือ พระเอกเรื่องนี้เป็นศูนย์กลางรวบรวมความลับต่างๆไว้กับตัวมากมาย และเพราะเขาหลงรักนางเอก จึงไม่อยากให้เธอเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เนื่องจากกลัวนางเอกไม่ปลอดภัย

แต่แทนที่นางเอกจะฟังพระเอก เธอกลับดื้อดึงจะตามหาความจริง ตามไปตามมากลับได้แต่งงานกับพระเอกซะงั้น งานนี้ดิฉันว่าหวานนางเอกสิคะ เพราะเธอแอบเป็นแฟนคลับพระเอกอยู่ หุหุ เหตุผลนอกเหนือจากที่พระเอกรักนางเอก การแต่งงานเกิดขึ้นเพราะพระเอกอยากปกป้องนางเอกจากครอบครัวตัวเอง…

บทสรุปของเรื่องนี้หลังความจริงเปิดเผย ตามมาด้วยความเศร้าค่ะ เพราะความจริงที่หลบซ่อนไว้ ทำให้หลายๆคนเจ็บปวด มีแต่เวลาเท่านั้นที่ช่วยเยียวยา ใครที่ชื่นชอบนิยายที่มีตัวละครมีสไตล์ลองหามาอ่านกันดูนะคะ

‘ จู่ๆ คนที่เคยอยู่ในความฝันก็จู่โจมเข้ามาในความจริงโดยที่เธอไม่ทันเตรียมตัวเตรียมใจ...ที่สำคัญเขาต้องการครอบครองเธอเพื่อสิ่งใดกัน...ความรัก หรือมีอย่างอื่นมากกว่านั้น ‘เบญจมาศ’ เข้าไปอยู่ในบ้านวราธรเพื่อค้นหาความจริงว่าพี่สาวของเธอฆ่าตัวตายจริงหรือไม่แล้วหญิงสาวก็พบกับความลับของใครหลายคน รวมทั้งตัวเธอเองด้วย ‘เวคิน’ คือผู้ต้องสงสัยว่าทำร้ายพี่สาวของเธอ แต่ยามใกล้ชิดกันหัวใจหญิงสาวกลับสั่นไหวรุนแรง เพราะผู้ชายหล่อร้ายและเย็นชาคนนี้คือมือเบสแห่งวงบลูอายส์ที่เธอชื่นชมและหลงใหลมาตั้งแต่ตอนเป็นวัยรุ่น ขณะที่ชายหนุ่มก็ต้องการปิดบังความลับบางอย่างในอดีตเอาไว้และเขาจะทำทุกอย่างเพื่อหยุดยั้งไม่ให้เธอสืบหาคนร้าย ไม่เว้นแม้แต่การใช้ความเจ้าเล่ห์ครอบครองตัวเธอ...’

พอเห็นคำโปรยหลังปกเรื่อง “เกมรักลวงเสน่หา” ดิฉันจึงรีบอ่านในทันที เพราะชื่นชอบงานแนวพวกฆาตกรรม สืบหาตัวคนร้าย แต่ปรากฎว่าหลังอ่านดิฉันเข้าใจผิดไปเสียถนัด เพราะนิยายเรื่องนี้ไม่ได้เป็นสืบสวนขนาดนั้นค่ะ ฮา อย่าเพิ่งงงกันนะคะ แต่ถึงจะไม่ได้มีเรื่องการสืบสวน คดีฆาตกรรมพี่สาวนางเอกอะไรวุ่นวาย แต่ก็ยังมีฉากตามหาสาเหตุที่ทำให้พี่สาวนางเอกฆ่าตัวตาด้วยค่ะ

ความรู้สึกหลังอ่านนิยายเรื่องนี้คือ เป็นนิยายที่อ่านได้เรื่อยๆค่ะ ไม่ได้ตื่นเต้นเร้าใจมากนัก จุดขายสำหรับนิยายเรื่องนี้ ดิฉันรู้สึกว่าจะอยู่ที่คาเรกเตอร์ของตัวละครหลักค่ะ โดยเฉพาะครอบครัวพระเอก ที่ดูจากรูปลักษณ์ภายนอก ดูเป็นผู้ดีเก่า มีจิตใจโอบอ้อมอารี แต่พอนางเอกมีโอกาสเข้ามาสุงสิงเพราะมาตามสืบเรื่องพี่สาว ก็ได้พบว่าทุกคนต่างมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ล้วนแล้วแต่มีอะไรซ่อนไว้ในจิตใจของตัวเองค่ะ ฝ่ายแม่นางเอกก็ไม่น้อยหน้า เพราะดูเหมือนจะรักพี่สาวนางเอกมากกว่านางเอก ซึ่งทุกเรื่องที่ว่ามาล้วนแล้วแต่มีเหตุผลรองรับการกระทำของตัวละคร


พระเอกของเรื่องนี้ ตามที่ผู้เขียนบรรยายให้นางเอกรู้สึก นางเอกรู้สึกว่าเขาจะไม่ชอบหน้าเธออย่างแรง จนเผลอคิดว่าอีตานี่เนี่ยแหละที่เป็นฆาตกร แต่พยายามปกปิดอำพรางรูปคดี ซึ่งความจริงพระเอกไม่ใช่ฆาตกรหรอกค่ะ เขาแค่รู้อะไรที่ไม่สมควรรู้ เอาง่ายๆคือ พระเอกเรื่องนี้เป็นศูนย์กลางรวบรวมความลับต่างๆไว้กับตัวมากมาย และเพราะเขาหลงรักนางเอก จึงไม่อยากให้เธอเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เนื่องจากกลัวนางเอกไม่ปลอดภัย

แต่แทนที่นางเอกจะฟังพระเอก เธอกลับดื้อดึงจะตามหาความจริง ตามไปตามมากลับได้แต่งงานกับพระเอกซะงั้น งานนี้ดิฉันว่าหวานนางเอกสิคะ เพราะเธอแอบเป็นแฟนคลับพระเอกอยู่ หุหุ เหตุผลนอกเหนือจากที่พระเอกรักนางเอก การแต่งงานเกิดขึ้นเพราะพระเอกอยากปกป้องนางเอกจากครอบครัวตัวเอง…

บทสรุปของเรื่องนี้หลังความจริงเปิดเผย ตามมาด้วยความเศร้าค่ะ เพราะความจริงที่หลบซ่อนไว้ ทำให้หลายๆคนเจ็บปวด มีแต่เวลาเท่านั้นที่ช่วยเยียวยา ใครที่ชื่นชอบนิยายที่มีตัวละครมีสไตล์ลองหามาอ่านกันดูนะคะ

“แสนเสน่ห์” เป็นนิยายเล่มแรกที่ดิฉันได้อ่านผลงานของนามปากกา “น้ำว้า”ค่ะ เรื่องราวของ “ตรีรุจ” ชายหนุ่มที่ถูกคนรักหักหลังไปหมั้นกับพี่ชายของเขา เพียงเพราะผลประโยชน์ และเขาไม่ใช่ลูกชายของภรรยาที่ถูกต้องตามกฏหมายของพ่อ ต้องบอกว่าถ้าเกิดพระเอกไม่ถูกแฟนทิ้งเนี่ย เรื่องราวต่างๆก็ไม่เกิดขึ้นตามมาหรอกค่ะ เมื่อถูกแฟนทรยศปุ๊บ พระเอกเลยเลือกที่จะหันหลังให้ทุกอย่าง ทิ้งชีวิตแบบเดิมๆหนีไปอยู่บ้านสวนของแม่ แต่กลับได้รับอุบัติเหตุระหว่างทาง ซึ่งทำให้เขาได้พบกับ “แสนตะวัน” นางเอกของเรานิเองค่ะ ตอนแรกพระเอกคิดว่านางเอกเป็นเด็กชายจอมแก่น หัวโจกคุมเด็กแถวๆนั้น แถมยังมีลูกสมุนเป็นสุนัขตัวเล็กตามต้อยๆอีกด้วย พระเอกกับนางเอกก็ค่อยๆสนิทสนมฉันเพื่อนกันไปเรื่อยๆค่ะ แล้วก็ต้องหน้าแตกหมอไม่รับเย็บเมื่อเพื่อนสนิทของเขาซึ่งเป็นญาติผู้พี่ของนางเอกมาเฉลยให้ฟังว่าความจริงแล้วเนี่ยน้องตูเป็นผู้หญิงว้อย แต่ต้องแต่งตัวเป็นทอมบอย ตัดผมสั้นเพราะประชดครอบครัวที่หวังจับคลุมถุงชนให้กับผู้ชายที่ตัวเองไม่ได้รัก ดิฉันชอบความสัมพันธ์ของพระเอกกับนางเอกที่ค่อยๆพัฒนาจากความใกล้ชิดเริ่มเกิดเป็นความรู้สึกดีๆให้กัน พระเอกแม้จะถูกทิ้งมาแต่พออยู่กับนางเอกเขากลับมีความสุขอย่างที่ไม่เคยมี เป็นตัวเอง ผ่อนคลาย ทั้งคู่เลยตกลงเลื่อนสถานะเป็นแฟน

เรื่องราววุ่นวายไม่หยุดหย่อน เมื่อพ่อของพระเอกถูกปองร้าย พระเอกเลยจากบ้านสวนมาชั่วคราวเพื่อมาดูอาการพ่อ และช่วยดูแลงานในบริษัท พี่ชายพระเอกก็ประสบอุบัติเหตุ ไหนจะมีคนถูกฆ่า โอ้โห คดีเรื่องนี้เยอะค่ะ ปมต่างๆพัวพันกันมากมาย โดยมีคนร้ายหลักๆเป็นตัวชูโรงอยู่ประมาณ 2-3 คน พวกคนร้ายก็ทำเป็นขบวนการอีกต่างหาก สนุกดีค่ะ อ่านแล้วลุ้นมากว่าพระเอกจะสาวไปถึงตัวคนร้ายยังไง เพราะคนอ่านอย่างดิฉันรู้อยู่แล้วว่าคนรายคือใคร อิอิ ผู้เขียนไม่ได้ให้เดานิค่ะ ร้ายออกตั้งแต่ต้นเรื่องกันเลยทีเดียว


สิ่งที่ดิฉันชอบอีกอย่างในนิยายเล่มนี้คือคาเรกเตอร์นางเอกค่ะ ไม่รู้ชีเป็นนางเอกหรือวันเดอร์วูแมน เพราะเก่งจริงๆ ฉลาดด้วย เรียกได้ว่ามีปฏิภาณไหวพริบเป็นเลิศ ความแก่นของนาง สามารถเอาตัวรอดจากเหตุการณ์คับขันได้อย่างชิวๆ เป็นจอมแสบเลยละค่ะ แต่บางทีก็ทำให้พระเอกปรี๊ดแตกได้ง่ายๆเพราะพระเอกห้ามอะไรไม่เคยฟังสักอย่าง ฮ่าๆๆๆๆ ที่สำคัญครอบครัวนางเอกก็เคยถูกคนร้ายพวกนี้โกงสมัยนางเอกยังเล็กๆอยู่ด้วย นางเอกจึงเหมือนเข้ามามีบทบาทช่วยพระเอกสืบเรื่องอีกแรง

ต้องบอกว่าเรื่องนี้นางเอกบทเด่ากว่าพระเอกอีกค่ะ เพราะในความรู้สึกของดิฉัน นางเอกเนี่ยแหละที่เป็นคนทำให้มัดตัวคนร้ายได้ แม้วิธีการบางอย่างจะเสี่ยงไปบ้าง ส่วนประเด็นความรักระหว่างนางเอกกับพระเอกก็ไม่ได้รักกันแบบหวานแหววนะคะ นิยายเรื่องนี้นำเสนอรักแบบ ค่อยๆพัฒนาขึ้นจากเพื่อน ชอบกัน จนมาถึงรักกัน พระเอกเห็นนางเอกเป็นทั้งน้อง เพื่อน คนรัก ความสัมพันธ์จึงยืดยาว รักแบบไม่เลี่ยน ไม่มีพูดหวานๆ แต่การกระทำแสดงออกนะคะ ว่าทั้งคู่รักกัน สำหรับดิฉันชอบค่ะ อ่านแล้วติดใจ “แสนเสน่ห์”มากๆ

“แสนเสน่ห์” เป็นนิยายเล่มแรกที่ดิฉันได้อ่านผลงานของนามปากกา “น้ำว้า”ค่ะ เรื่องราวของ “ตรีรุจ” ชายหนุ่มที่ถูกคนรักหักหลังไปหมั้นกับพี่ชายของเขา เพียงเพราะผลประโยชน์ และเขาไม่ใช่ลูกชายของภรรยาที่ถูกต้องตามกฏหมายของพ่อ ต้องบอกว่าถ้าเกิดพระเอกไม่ถูกแฟนทิ้งเนี่ย เรื่องราวต่างๆก็ไม่เกิดขึ้นตามมาหรอกค่ะ เมื่อถูกแฟนทรยศปุ๊บ พระเอกเลยเลือกที่จะหันหลังให้ทุกอย่าง ทิ้งชีวิตแบบเดิมๆหนีไปอยู่บ้านสวนของแม่ แต่กลับได้รับอุบัติเหตุระหว่างทาง ซึ่งทำให้เขาได้พบกับ “แสนตะวัน” นางเอกของเรานิเองค่ะ ตอนแรกพระเอกคิดว่านางเอกเป็นเด็กชายจอมแก่น หัวโจกคุมเด็กแถวๆนั้น แถมยังมีลูกสมุนเป็นสุนัขตัวเล็กตามต้อยๆอีกด้วย พระเอกกับนางเอกก็ค่อยๆสนิทสนมฉันเพื่อนกันไปเรื่อยๆค่ะ แล้วก็ต้องหน้าแตกหมอไม่รับเย็บเมื่อเพื่อนสนิทของเขาซึ่งเป็นญาติผู้พี่ของนางเอกมาเฉลยให้ฟังว่าความจริงแล้วเนี่ยน้องตูเป็นผู้หญิงว้อย แต่ต้องแต่งตัวเป็นทอมบอย ตัดผมสั้นเพราะประชดครอบครัวที่หวังจับคลุมถุงชนให้กับผู้ชายที่ตัวเองไม่ได้รัก ดิฉันชอบความสัมพันธ์ของพระเอกกับนางเอกที่ค่อยๆพัฒนาจากความใกล้ชิดเริ่มเกิดเป็นความรู้สึกดีๆให้กัน พระเอกแม้จะถูกทิ้งมาแต่พออยู่กับนางเอกเขากลับมีความสุขอย่างที่ไม่เคยมี เป็นตัวเอง ผ่อนคลาย ทั้งคู่เลยตกลงเลื่อนสถานะเป็นแฟน

เรื่องราววุ่นวายไม่หยุดหย่อน เมื่อพ่อของพระเอกถูกปองร้าย พระเอกเลยจากบ้านสวนมาชั่วคราวเพื่อมาดูอาการพ่อ และช่วยดูแลงานในบริษัท พี่ชายพระเอกก็ประสบอุบัติเหตุ ไหนจะมีคนถูกฆ่า โอ้โห คดีเรื่องนี้เยอะค่ะ ปมต่างๆพัวพันกันมากมาย โดยมีคนร้ายหลักๆเป็นตัวชูโรงอยู่ประมาณ 2-3 คน พวกคนร้ายก็ทำเป็นขบวนการอีกต่างหาก สนุกดีค่ะ อ่านแล้วลุ้นมากว่าพระเอกจะสาวไปถึงตัวคนร้ายยังไง เพราะคนอ่านอย่างดิฉันรู้อยู่แล้วว่าคนรายคือใคร อิอิ ผู้เขียนไม่ได้ให้เดานิค่ะ ร้ายออกตั้งแต่ต้นเรื่องกันเลยทีเดียว


สิ่งที่ดิฉันชอบอีกอย่างในนิยายเล่มนี้คือคาเรกเตอร์นางเอกค่ะ ไม่รู้ชีเป็นนางเอกหรือวันเดอร์วูแมน เพราะเก่งจริงๆ ฉลาดด้วย เรียกได้ว่ามีปฏิภาณไหวพริบเป็นเลิศ ความแก่นของนาง สามารถเอาตัวรอดจากเหตุการณ์คับขันได้อย่างชิวๆ เป็นจอมแสบเลยละค่ะ แต่บางทีก็ทำให้พระเอกปรี๊ดแตกได้ง่ายๆเพราะพระเอกห้ามอะไรไม่เคยฟังสักอย่าง ฮ่าๆๆๆๆ ที่สำคัญครอบครัวนางเอกก็เคยถูกคนร้ายพวกนี้โกงสมัยนางเอกยังเล็กๆอยู่ด้วย นางเอกจึงเหมือนเข้ามามีบทบาทช่วยพระเอกสืบเรื่องอีกแรง

ต้องบอกว่าเรื่องนี้นางเอกบทเด่ากว่าพระเอกอีกค่ะ เพราะในความรู้สึกของดิฉัน นางเอกเนี่ยแหละที่เป็นคนทำให้มัดตัวคนร้ายได้ แม้วิธีการบางอย่างจะเสี่ยงไปบ้าง ส่วนประเด็นความรักระหว่างนางเอกกับพระเอกก็ไม่ได้รักกันแบบหวานแหววนะคะ นิยายเรื่องนี้นำเสนอรักแบบ ค่อยๆพัฒนาขึ้นจากเพื่อน ชอบกัน จนมาถึงรักกัน พระเอกเห็นนางเอกเป็นทั้งน้อง เพื่อน คนรัก ความสัมพันธ์จึงยืดยาว รักแบบไม่เลี่ยน ไม่มีพูดหวานๆ แต่การกระทำแสดงออกนะคะ ว่าทั้งคู่รักกัน สำหรับดิฉันชอบค่ะ อ่านแล้วติดใจ “แสนเสน่ห์”มากๆ

“เงาลวง” เป็นอีกหนึ่งผลงานของ “ณารา” แนวฆาตกรรม มีกลิ่นอาย ดราม่าปนนิดๆ เรื่องเริ่มต้นจากความรักของหนุ่มสาวนักสเกตน้ำแข็งอนาคตไกล “นีรา”นางเอกของเรื่องกับ “คอนเนอร์” ทั้งคู่เป็นคู่รักที่ตกลงมีค่ำคืนแสนหวานร่วมกัน เรื่องราวกลับตารปัตเมื่อนางเอกตั้งครรภ์ “โจนส์” แม่ของ “คอนเนอร์”ไม่เชื่อว่านางเอกจะท้องกับลูกชายตนเพราะคืนนั้นเขาอยู่กับเธอ ชีวิตของนางเอกซึ่งเป็นนักสเกตน้ำแข็งต้องปิดตัวลงเพราะท้องและสับสนว่าถ้าไม่ใช่ “คอนเนอร์” แล้วใครกันที่นอนกับเธอ ความจริงแล้วคนที่มีสัมพันธ์กับนางเอกคือพระเอกของเรื่อง “ไทเลอร์” แฝดผู้พี่ของ “คอนเนอร์”ค่ะ เพราะเขาแอบหลงรักนางเอกมาตั้งแต่แรก ส่วนน้องชายอย่าง “คอนเนอร์”ก็ไม่สามารถมีอะไรกับนางเอกได้เพราะ…? แต่พระเอกไม่ยอมแสดงตัว ดังนั้นพอเกิดเรื่องทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันไปมีชีวิตใหม่ของตัวเองค่ะ


วันเวลาผ่านไป การตายของ “โจนส์” ทำให้ฝาแฝดต่างสงสัยว่าแท้จริงแล้วแม่ไม่ได้ฆ่าตัวตายแต่ถูกฆาตกรรม พระเอกจึงกลับเข้ามาในชีวิตนางเอกอีกครั้งเพื่อหวังจะทำให้นางเอกรักเขาและทวงคืนหัวใจตัวเองที่ฝากไว้ที่นางเอก


ความรู้สึกหลังอ่านนิยายเรื่องนี้จบคือ ตื่นเต้น และลุ้นระทึกมาก ลุ้นจุดแรกคือเรื่องปมการตายของ “โจนส์” ส่วนลุ้นที่สองก็คือเรื่องความรักของพระเอกกับนางเอกที่ดูลูกผีลูกคน การตามสืบสาเหตุการตายของแม่ ส่วนใหญ่พระเอกจะออกโรงมากกว่า “คอนเนอร์” ที่ดูเหมือนจะเป็นลูกรัก เพราะ พระเอกของเราไปอยู่อเมริกา ส่วน “คอนเนอร์” , “โจนส์” และนางเอกอยู่ที่แคนาดาค่ะ เมื่อพระเอกกลับมาตอนแรกเขาปลอมตัวเป็น “คอนเนอร์” มาหานางเอก และได้เจอกับลูกชายของตัวเอง ซึ่งนางเอกก็ไม่ได้ปิดกั้นเขากับลูก แต่แหม อยู่ๆพระเอกโผล่มาอีกครั้งหลังจากหายหัวไปนานก็ต้องตกใจเป็นธรรมดา แต่ไหนๆก็ตั้งใจแล้วใช่ไหมคะว่าจะมาทวงคืนหัวใจตัวเอง ดิฉันเลยเป็นกำลังใจให้พระเอกค่ะ ฮา ความใกล้ชิดทำให้นางเอกเริ่มหลงรักพระเอกได้ไม่อยาก มีบ้างนะคะที่เริ่มตะหงิดว่าเขาไม่ใช่ “คอนเนอร์” พระเอกเองก็ขี้คลาดไม่กล้าบอกความจริง เพราะกลัวนางเอกจะเกลียดเขา เรื่องดำเนินไทม์ไลน์ควบคู่ไประหว่างการหาความจริงกับความรักของพระนาง คนร้ายเดาได้ไม่ยากค่ะ แต่คนร้ายเรื่องนี้แอบจิตๆใช่เล่น ทำเอาดิฉันหลอนตามไปกับบางฉาก ฮ่าๆๆๆ แต่ถือว่าผู้เขียนปูทางมาดีค่ะ เพราะสามารถเปิดตัวร้ายได้อย่างสวยงาม รวมถึงเหตุผลที่เป็นคนร้ายด้วย ส่วนเรื่องความรักของพระเอกกับนางเอกก็มีทะเลาะไม่เข้าใจกันบ้างตามเรื่องราวค่ะ เพราะนางเอกเมื่อรู้ความจริงก็ไม่ได้ยอมรับง่ายๆในตอนแรก เอ๊ะ หรือว่าเธอสับสนว่าความจริงแล้วเธอรัก “คอนเนอร์” หรือพระเอกกันแน่ งานนี้ต้องติดตามต่อในเล่มค่ะ มาเอาใจช่วยพระเอกกันน๊า รับรองได้ว่านิยายเรื่องนี้จบสวยแน่นอน ทั้งปมคดีและความรักของพระนาง

“เงาลวง” เป็นอีกหนึ่งผลงานของ “ณารา” แนวฆาตกรรม มีกลิ่นอาย ดราม่าปนนิดๆ เรื่องเริ่มต้นจากความรักของหนุ่มสาวนักสเกตน้ำแข็งอนาคตไกล “นีรา”นางเอกของเรื่องกับ “คอนเนอร์” ทั้งคู่เป็นคู่รักที่ตกลงมีค่ำคืนแสนหวานร่วมกัน เรื่องราวกลับตารปัตเมื่อนางเอกตั้งครรภ์ “โจนส์” แม่ของ “คอนเนอร์”ไม่เชื่อว่านางเอกจะท้องกับลูกชายตนเพราะคืนนั้นเขาอยู่กับเธอ ชีวิตของนางเอกซึ่งเป็นนักสเกตน้ำแข็งต้องปิดตัวลงเพราะท้องและสับสนว่าถ้าไม่ใช่ “คอนเนอร์” แล้วใครกันที่นอนกับเธอ ความจริงแล้วคนที่มีสัมพันธ์กับนางเอกคือพระเอกของเรื่อง “ไทเลอร์” แฝดผู้พี่ของ “คอนเนอร์”ค่ะ เพราะเขาแอบหลงรักนางเอกมาตั้งแต่แรก ส่วนน้องชายอย่าง “คอนเนอร์”ก็ไม่สามารถมีอะไรกับนางเอกได้เพราะ…? แต่พระเอกไม่ยอมแสดงตัว ดังนั้นพอเกิดเรื่องทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันไปมีชีวิตใหม่ของตัวเองค่ะ


วันเวลาผ่านไป การตายของ “โจนส์” ทำให้ฝาแฝดต่างสงสัยว่าแท้จริงแล้วแม่ไม่ได้ฆ่าตัวตายแต่ถูกฆาตกรรม พระเอกจึงกลับเข้ามาในชีวิตนางเอกอีกครั้งเพื่อหวังจะทำให้นางเอกรักเขาและทวงคืนหัวใจตัวเองที่ฝากไว้ที่นางเอก


ความรู้สึกหลังอ่านนิยายเรื่องนี้จบคือ ตื่นเต้น และลุ้นระทึกมาก ลุ้นจุดแรกคือเรื่องปมการตายของ “โจนส์” ส่วนลุ้นที่สองก็คือเรื่องความรักของพระเอกกับนางเอกที่ดูลูกผีลูกคน การตามสืบสาเหตุการตายของแม่ ส่วนใหญ่พระเอกจะออกโรงมากกว่า “คอนเนอร์” ที่ดูเหมือนจะเป็นลูกรัก เพราะ พระเอกของเราไปอยู่อเมริกา ส่วน “คอนเนอร์” , “โจนส์” และนางเอกอยู่ที่แคนาดาค่ะ เมื่อพระเอกกลับมาตอนแรกเขาปลอมตัวเป็น “คอนเนอร์” มาหานางเอก และได้เจอกับลูกชายของตัวเอง ซึ่งนางเอกก็ไม่ได้ปิดกั้นเขากับลูก แต่แหม อยู่ๆพระเอกโผล่มาอีกครั้งหลังจากหายหัวไปนานก็ต้องตกใจเป็นธรรมดา แต่ไหนๆก็ตั้งใจแล้วใช่ไหมคะว่าจะมาทวงคืนหัวใจตัวเอง ดิฉันเลยเป็นกำลังใจให้พระเอกค่ะ ฮา ความใกล้ชิดทำให้นางเอกเริ่มหลงรักพระเอกได้ไม่อยาก มีบ้างนะคะที่เริ่มตะหงิดว่าเขาไม่ใช่ “คอนเนอร์” พระเอกเองก็ขี้คลาดไม่กล้าบอกความจริง เพราะกลัวนางเอกจะเกลียดเขา เรื่องดำเนินไทม์ไลน์ควบคู่ไประหว่างการหาความจริงกับความรักของพระนาง คนร้ายเดาได้ไม่ยากค่ะ แต่คนร้ายเรื่องนี้แอบจิตๆใช่เล่น ทำเอาดิฉันหลอนตามไปกับบางฉาก ฮ่าๆๆๆ แต่ถือว่าผู้เขียนปูทางมาดีค่ะ เพราะสามารถเปิดตัวร้ายได้อย่างสวยงาม รวมถึงเหตุผลที่เป็นคนร้ายด้วย ส่วนเรื่องความรักของพระเอกกับนางเอกก็มีทะเลาะไม่เข้าใจกันบ้างตามเรื่องราวค่ะ เพราะนางเอกเมื่อรู้ความจริงก็ไม่ได้ยอมรับง่ายๆในตอนแรก เอ๊ะ หรือว่าเธอสับสนว่าความจริงแล้วเธอรัก “คอนเนอร์” หรือพระเอกกันแน่ งานนี้ต้องติดตามต่อในเล่มค่ะ มาเอาใจช่วยพระเอกกันน๊า รับรองได้ว่านิยายเรื่องนี้จบสวยแน่นอน ทั้งปมคดีและความรักของพระนาง

“สาวหลงยุค” เป็นนิยายแนวรักสลับตัวของคุณหมอพงศกรค่ะ นิยายเรื่องนี้มีสองคู่หลักๆ เรื่องมีอยู่ว่า วันหนึ่ง “พลอยบุษย์” นางแบบสาวแห่งยุคปัจจุบัน มีเรื่องไม่สบายใจจึงหลบไปพักใจที่บ้านของคุณยาย และได้เกิดปรากฎการเหนือธรรมชาติ ทำให้เธอสลับตำแหน่งแห่งหนกับ “บุษราคัม” สาวไทยในสมัยรัชกาลที่ 6 ซึ่งออกเรือนแล้วแต่ไม่มีความสุขในชีวิตคู่ แถมหญิงสาวสองคนนี้หน้าตาเหมือนกันราวกับฝาแฝด

นิยายเรื่องนี้ ดำเนินเป็นแบบคู่ขนานทั้งสองยุค โดยผลัดกันเล่าเรื่องของแต่ละยุคสลับกันไป เพราะ “พลอยบุษย์” กับ “บุษราคัม” ต้องมาใช้ชีวิตแทนกันและกัน สำหรับดิฉัน ดิฉนคิดว่า “พลอยบุษย์” ดูลำบากกว่า “บุษราคัม”ค่ะ เพราะฝ่ายคนที่หลงไปยุค ร.6 คงจะหาคนเชื่อลำบากว่าเธอไม่ใช่ “บุษราคัม” ผิดกับ “บุษราคัม” เพราะคนสนิทของ “พลอยบุษย์” สงสัยในพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะน้องสาว เลยจะพาพี่สาวไปตรวจร่างกายเพื่อหาความผิดปกติ จนได้พบกับ “นายแพทย์บุญญนิตย์” ซึ่งมาทำการตรวจ จึงรู้ว่าผู้หญิงคนนี้มาจากอดีตค่ะ อ๊ะๆๆ สงสัยใช่ไหมคะว่ารู้ได้อย่างไร หุหุ ไปติดตามต่อในเล่มเองค่ะ และที่สำคัญคุณหมอคนนี้แหละที่เป็นพระเอกตัวจริงของ “บุษราคัม” แถมยังมีเพื่อนเป็นนักวิทยาศาสตร์สติเฟี่องที่เชื่อว่าสนามแม่เหล็กแปรปรวนจนทำให้หญิงสาวทั้งสองสลับยุคกัน


กลับมาต่อกันที่ฝ่าย “พลอยบุษย์”ค่ะ เมื่อหลงไปอยู่ในยุคนั้นก็ต้องปรับตัวกันเยอะที่เดียว เพราะผู้หญิงในสมัยนั้นคงไม่ได้มีความมั่นใจหรือมีสิทธิ์มีเสียงทางความคิดเหมือนยุคปัจจุบัน แต่ด้วยความที่โตมากับสังคมเสรี “พลอยบุษย์”ในที่ๆเป็นของ “บุษราคัม” ทำให้เธอมีพฤติกรรมที่แตกต่างจาก “บุษราคัม”คนเดิมอย่างสิ้นเชิง อย่างตอนแรกคือแม้เธอจะไม่มีความสุขกับการแต่งงานแต่ก็ไม่กล้าเรียกร้องอะไร สามีก็มีเมียน้อยเป็นน้องสาวตัวเองด้วยนะคะ น่าสงสารมากๆ ยังดีที่ “บุษราคัม” มีคนคุ้มกะลาหัวคือ “คุณยายประดับ” และคุณยายเนี่ยแหละค่ะ ที่สงสัยจนได้รู้ว่าความจริงแล้วหลานสาวตนได้สลับตัวไปอยู่ยุคปัจจุบัน ส่วนหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าคือ “พลอยบุษย์” ความจริงแล้ว “บุษราคัม” เคยมีคนรักก่อนแต่งงานคือ “หลวงนิติธรรมพินิจ” แต่เพราะพ่อบังคับให้แต่งงานจึงไม่ได้แต่งงานกับคนรัก และเมื่อเหตุการณ์การสลับตัวเกิดขึ้น “พลอยบุษย์” จึงได้พบกับ “หลวงนิติธรรมพินิจ” อีกครั้งเขาก็เริ่มสงสัยค่ะ ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ “บุษราคัม” และเขาก็ได้รู้ตัวเองว่าผู้หญิงที่เขารักจริงๆนั้นคือ “พลอยบุษย์”ต่างหาก

นิยายเรื่องนี้ ความเห็นส่วนตัวคิดว่าคุณหมอพงศกรทำได้ดีนะคะในการสลับฉากไปมาระหว่างยุค ไม่ได้อ่านแล้วรู้สึกติดขัด ส่วนเรื่องปมก็มีเข้ามาสอดแทรกเพิ่มเติมนอกเหนือจากเรื่องความรัก “บุษราคัม” ก็ต้องมาตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีหนึ่ง ส่วน “พลอยบุษย์” ก็ต้องคอยใช้ไหวพรอบสติปัญญาแก้ปัญหาต่างๆที่สามีของ “บุษราคัม” และบรรดาเมียน้อยสรรหามาให้ อ่านแล้ววางไม่ลงค่ะ ลุ้นตลอด ที่ตลกคงจะเป็นฉากเวลาปะทะคารมณ์ของน้องสาว”พลอยบุษย์” กับเพื่อนของหมอ “บุญญนิตย์” ทะเลาะกันแบบฮาๆค่ะ ช่วยสร้างสีสันให้เรื่องนี้ได้ไม่เบา

ที่ติดใจนิดนึงคือตอนจบของเรื่องคือบทสรุปของเรื่องดูสั้นมากกกก อ่านแล้วยังเข้าไม่ถึงอารมณ์เท่าไหร่ค่ะ แต่ไม่ใช่จบไม่ดีนะคะ ไม่ได้ค้างอะไร เพียงแต่มันสั้นไปนิดนึงเท่านั้น หญิงทั้งสองเลือกที่จะอยู่กับคนรักของตัวเอง ความรักชนะทุกสิ่งค่ะ เย่

“สาวหลงยุค” เป็นนิยายแนวรักสลับตัวของคุณหมอพงศกรค่ะ นิยายเรื่องนี้มีสองคู่หลักๆ เรื่องมีอยู่ว่า วันหนึ่ง “พลอยบุษย์” นางแบบสาวแห่งยุคปัจจุบัน มีเรื่องไม่สบายใจจึงหลบไปพักใจที่บ้านของคุณยาย และได้เกิดปรากฎการเหนือธรรมชาติ ทำให้เธอสลับตำแหน่งแห่งหนกับ “บุษราคัม” สาวไทยในสมัยรัชกาลที่ 6 ซึ่งออกเรือนแล้วแต่ไม่มีความสุขในชีวิตคู่ แถมหญิงสาวสองคนนี้หน้าตาเหมือนกันราวกับฝาแฝด

นิยายเรื่องนี้ ดำเนินเป็นแบบคู่ขนานทั้งสองยุค โดยผลัดกันเล่าเรื่องของแต่ละยุคสลับกันไป เพราะ “พลอยบุษย์” กับ “บุษราคัม” ต้องมาใช้ชีวิตแทนกันและกัน สำหรับดิฉัน ดิฉนคิดว่า “พลอยบุษย์” ดูลำบากกว่า “บุษราคัม”ค่ะ เพราะฝ่ายคนที่หลงไปยุค ร.6 คงจะหาคนเชื่อลำบากว่าเธอไม่ใช่ “บุษราคัม” ผิดกับ “บุษราคัม” เพราะคนสนิทของ “พลอยบุษย์” สงสัยในพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะน้องสาว เลยจะพาพี่สาวไปตรวจร่างกายเพื่อหาความผิดปกติ จนได้พบกับ “นายแพทย์บุญญนิตย์” ซึ่งมาทำการตรวจ จึงรู้ว่าผู้หญิงคนนี้มาจากอดีตค่ะ อ๊ะๆๆ สงสัยใช่ไหมคะว่ารู้ได้อย่างไร หุหุ ไปติดตามต่อในเล่มเองค่ะ และที่สำคัญคุณหมอคนนี้แหละที่เป็นพระเอกตัวจริงของ “บุษราคัม” แถมยังมีเพื่อนเป็นนักวิทยาศาสตร์สติเฟี่องที่เชื่อว่าสนามแม่เหล็กแปรปรวนจนทำให้หญิงสาวทั้งสองสลับยุคกัน


กลับมาต่อกันที่ฝ่าย “พลอยบุษย์”ค่ะ เมื่อหลงไปอยู่ในยุคนั้นก็ต้องปรับตัวกันเยอะที่เดียว เพราะผู้หญิงในสมัยนั้นคงไม่ได้มีความมั่นใจหรือมีสิทธิ์มีเสียงทางความคิดเหมือนยุคปัจจุบัน แต่ด้วยความที่โตมากับสังคมเสรี “พลอยบุษย์”ในที่ๆเป็นของ “บุษราคัม” ทำให้เธอมีพฤติกรรมที่แตกต่างจาก “บุษราคัม”คนเดิมอย่างสิ้นเชิง อย่างตอนแรกคือแม้เธอจะไม่มีความสุขกับการแต่งงานแต่ก็ไม่กล้าเรียกร้องอะไร สามีก็มีเมียน้อยเป็นน้องสาวตัวเองด้วยนะคะ น่าสงสารมากๆ ยังดีที่ “บุษราคัม” มีคนคุ้มกะลาหัวคือ “คุณยายประดับ” และคุณยายเนี่ยแหละค่ะ ที่สงสัยจนได้รู้ว่าความจริงแล้วหลานสาวตนได้สลับตัวไปอยู่ยุคปัจจุบัน ส่วนหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าคือ “พลอยบุษย์” ความจริงแล้ว “บุษราคัม” เคยมีคนรักก่อนแต่งงานคือ “หลวงนิติธรรมพินิจ” แต่เพราะพ่อบังคับให้แต่งงานจึงไม่ได้แต่งงานกับคนรัก และเมื่อเหตุการณ์การสลับตัวเกิดขึ้น “พลอยบุษย์” จึงได้พบกับ “หลวงนิติธรรมพินิจ” อีกครั้งเขาก็เริ่มสงสัยค่ะ ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ “บุษราคัม” และเขาก็ได้รู้ตัวเองว่าผู้หญิงที่เขารักจริงๆนั้นคือ “พลอยบุษย์”ต่างหาก

นิยายเรื่องนี้ ความเห็นส่วนตัวคิดว่าคุณหมอพงศกรทำได้ดีนะคะในการสลับฉากไปมาระหว่างยุค ไม่ได้อ่านแล้วรู้สึกติดขัด ส่วนเรื่องปมก็มีเข้ามาสอดแทรกเพิ่มเติมนอกเหนือจากเรื่องความรัก “บุษราคัม” ก็ต้องมาตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีหนึ่ง ส่วน “พลอยบุษย์” ก็ต้องคอยใช้ไหวพรอบสติปัญญาแก้ปัญหาต่างๆที่สามีของ “บุษราคัม” และบรรดาเมียน้อยสรรหามาให้ อ่านแล้ววางไม่ลงค่ะ ลุ้นตลอด ที่ตลกคงจะเป็นฉากเวลาปะทะคารมณ์ของน้องสาว”พลอยบุษย์” กับเพื่อนของหมอ “บุญญนิตย์” ทะเลาะกันแบบฮาๆค่ะ ช่วยสร้างสีสันให้เรื่องนี้ได้ไม่เบา

ที่ติดใจนิดนึงคือตอนจบของเรื่องคือบทสรุปของเรื่องดูสั้นมากกกก อ่านแล้วยังเข้าไม่ถึงอารมณ์เท่าไหร่ค่ะ แต่ไม่ใช่จบไม่ดีนะคะ ไม่ได้ค้างอะไร เพียงแต่มันสั้นไปนิดนึงเท่านั้น หญิงทั้งสองเลือกที่จะอยู่กับคนรักของตัวเอง ความรักชนะทุกสิ่งค่ะ เย่

“ภริยา” เป็นนิยายเล่มแรกที่ดิฉันมีโอกาสอ่านผลงานของนักเขียนที่มีนามปากกา “สุริยาทิศ” พล็อตของเรื่องนี้สำหรับดิฉันว่าน่าสนใจนะคะ กลิ่นอายดราม่ามาตรึม เป็นนิยายแนวพีเรียดค่ะ เพราะบรรยากาศทั้งหมดของเรื่องให้กลิ่นอายย้อนยุคมากๆ เรื่องเริ่มตั้งแต่นางเอก “กิ่งจันทน์” นางเอก เธอเป็นเด็กหญิงใต้ต้นจันทน์กะพ้อค่ะ เธอไม่รู้ชาติกำเนิดตัวเอง ไม่รู้ว่าพ่อแม่เธอเป็นใคร โชคดีที่ได้ “คุณสนิท” อุปการะเลี้ยงดูไว้ แต่แล้วก็มีเหตุการณ์บางอย่างทำให้นางเอกได้ไปอยู่กับลูกสาวของคุณสนิท คือ “หม่อมศรีประไพ” ซึ่งตบแต่งไปเป็นหม่อมของ “หม่อมเจ้าอิศเรศกำธร” ที่วังวราดุลในพระนคร คือนางเอกก็คิดว่าเธอจะมีความสุขและมีชีวิตที่สงบในวังแห่งนี้

นางเอกเธอได้พบรักกับพระเอกค่ะ ชื่อว่า “เกล้า” ความรักของทั้งคู่ค่อยๆบ่มเพาะเรื่อยๆ แต่เมื่อทั้งสองต้องแยกจากกัน ต่างก็เชื่อในคำสัญญา ว่าจะได้กลับมาพบและรักกันอีกครั้ง

เรื่องราวกลับไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อความสวยและความดีของนางเอกไปติดตา “หม่อมราชวงศ์รุ่งวิกรัย”หรือ “คุณชายอ้น” บุตรของ “หม่อมเจ้าอิศเรศกำธร” กับ “หม่อมรตี” ภรรยาอีกคนของท่านชาย ทั้ง “หม่อมรตี” และ “คุณชายอ้น” มีอาการผิดปกติทางจิตค่ะ ผู้เป็นแม่มีอาการวิกลจริตเนื่องจากลูกเสียลูกสาวไปตั้งแต่คลอดเลยส่งผลให้ลูกชายผิดปกติตามไปด้วย

การจากบ้านมาเพราะคิดว่าในวังจะมีความสุขมากกว่านั้น ปรากฎว่านางเอกเธอคิดผิดค่ะ เพราะนอกจากจะหาความสุขไม่ได้ ในวังแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา ชิงดีชิงเด่น แต่ที่ทำให้นางเอกปวดหัวสุดคือ “คุณชายอ้น” อยากได้เธอเป็นเมียแต่ง จึงทำทุกวิธีทางเพื่อให้ได้นางเอกมาครอบครอง ส่วนนางเอกในเมื่อเธอมีคนรักอยู่แล้ว เธอจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อหนี “คุณชายอ้น” แต่แล้วหัวใจนางเอกก็แทบสลายเมื่อทราบว่าคนรักของเธอก็คือพระเอกได้ตายจากไปแล้ว

จากคนสวยจิตใจดีมีเมตตา กลับกลายเป็นความแค้นฝังลึกเมื่อ “คุณชายอ้น” มีส่วนทำให้พระเอกตาย นางเอกเลยตอบแต่งงานกับเขาเพื่อแก้แค้นให้ “คุณชายอ้น” ได้รับความเจ็บปวดทุกทางที่เธอทำได้ ดิฉันอ่านไปก็สงสาร “คุณชายอ้น” นะคะ แต่ถ้าเขายอมรับในการตัดสินใจของนางเอกแต่แรกเรื่องราวคงไม่ลงเอยเช่นนี้ ถือเป็นดราม่าฉากใหญ่ของเรื่องเลยทีเดียว

บทสรุปของเรื่องไม่เศร้าจนเกินไปค่ะ เพราะผู้เขียนไม่ได้ใจร้ายให้นางเอกโดดเดี่ยวขนาดนั้น ถ้าถามความเห็นส่วนตัวของดิฉัน ที่บอกตั้งแต่ตอนแรกว่าพล็อตโอเค แต่การบรรยายและบทสนทนาบางฉากทำให้รู้สึกว่าเรื่องหน่วงๆ เอื่อยๆไปบ้างค่ะ ส่วนประเด็นเรื่องลูกสาวของหม่อมรตีที่หายไป ก็มีการเฉลยนะคะ ดิฉันเลยให้คะแนนผู้เขียนตรงจุดนี้ เรื่องความรักของพระนางก็พอมีให้หวานบ้างไรบ้างค่ะ แต่ไม่มากเท่าไหร่ ใครชอบแนวนี้ลองไปหาอ่านดูนะคะ

“ภริยา” เป็นนิยายเล่มแรกที่ดิฉันมีโอกาสอ่านผลงานของนักเขียนที่มีนามปากกา “สุริยาทิศ” พล็อตของเรื่องนี้สำหรับดิฉันว่าน่าสนใจนะคะ กลิ่นอายดราม่ามาตรึม เป็นนิยายแนวพีเรียดค่ะ เพราะบรรยากาศทั้งหมดของเรื่องให้กลิ่นอายย้อนยุคมากๆ เรื่องเริ่มตั้งแต่นางเอก “กิ่งจันทน์” นางเอก เธอเป็นเด็กหญิงใต้ต้นจันทน์กะพ้อค่ะ เธอไม่รู้ชาติกำเนิดตัวเอง ไม่รู้ว่าพ่อแม่เธอเป็นใคร โชคดีที่ได้ “คุณสนิท” อุปการะเลี้ยงดูไว้ แต่แล้วก็มีเหตุการณ์บางอย่างทำให้นางเอกได้ไปอยู่กับลูกสาวของคุณสนิท คือ “หม่อมศรีประไพ” ซึ่งตบแต่งไปเป็นหม่อมของ “หม่อมเจ้าอิศเรศกำธร” ที่วังวราดุลในพระนคร คือนางเอกก็คิดว่าเธอจะมีความสุขและมีชีวิตที่สงบในวังแห่งนี้

นางเอกเธอได้พบรักกับพระเอกค่ะ ชื่อว่า “เกล้า” ความรักของทั้งคู่ค่อยๆบ่มเพาะเรื่อยๆ แต่เมื่อทั้งสองต้องแยกจากกัน ต่างก็เชื่อในคำสัญญา ว่าจะได้กลับมาพบและรักกันอีกครั้ง

เรื่องราวกลับไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อความสวยและความดีของนางเอกไปติดตา “หม่อมราชวงศ์รุ่งวิกรัย”หรือ “คุณชายอ้น” บุตรของ “หม่อมเจ้าอิศเรศกำธร” กับ “หม่อมรตี” ภรรยาอีกคนของท่านชาย ทั้ง “หม่อมรตี” และ “คุณชายอ้น” มีอาการผิดปกติทางจิตค่ะ ผู้เป็นแม่มีอาการวิกลจริตเนื่องจากลูกเสียลูกสาวไปตั้งแต่คลอดเลยส่งผลให้ลูกชายผิดปกติตามไปด้วย

การจากบ้านมาเพราะคิดว่าในวังจะมีความสุขมากกว่านั้น ปรากฎว่านางเอกเธอคิดผิดค่ะ เพราะนอกจากจะหาความสุขไม่ได้ ในวังแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา ชิงดีชิงเด่น แต่ที่ทำให้นางเอกปวดหัวสุดคือ “คุณชายอ้น” อยากได้เธอเป็นเมียแต่ง จึงทำทุกวิธีทางเพื่อให้ได้นางเอกมาครอบครอง ส่วนนางเอกในเมื่อเธอมีคนรักอยู่แล้ว เธอจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อหนี “คุณชายอ้น” แต่แล้วหัวใจนางเอกก็แทบสลายเมื่อทราบว่าคนรักของเธอก็คือพระเอกได้ตายจากไปแล้ว

จากคนสวยจิตใจดีมีเมตตา กลับกลายเป็นความแค้นฝังลึกเมื่อ “คุณชายอ้น” มีส่วนทำให้พระเอกตาย นางเอกเลยตอบแต่งงานกับเขาเพื่อแก้แค้นให้ “คุณชายอ้น” ได้รับความเจ็บปวดทุกทางที่เธอทำได้ ดิฉันอ่านไปก็สงสาร “คุณชายอ้น” นะคะ แต่ถ้าเขายอมรับในการตัดสินใจของนางเอกแต่แรกเรื่องราวคงไม่ลงเอยเช่นนี้ ถือเป็นดราม่าฉากใหญ่ของเรื่องเลยทีเดียว

บทสรุปของเรื่องไม่เศร้าจนเกินไปค่ะ เพราะผู้เขียนไม่ได้ใจร้ายให้นางเอกโดดเดี่ยวขนาดนั้น ถ้าถามความเห็นส่วนตัวของดิฉัน ที่บอกตั้งแต่ตอนแรกว่าพล็อตโอเค แต่การบรรยายและบทสนทนาบางฉากทำให้รู้สึกว่าเรื่องหน่วงๆ เอื่อยๆไปบ้างค่ะ ส่วนประเด็นเรื่องลูกสาวของหม่อมรตีที่หายไป ก็มีการเฉลยนะคะ ดิฉันเลยให้คะแนนผู้เขียนตรงจุดนี้ เรื่องความรักของพระนางก็พอมีให้หวานบ้างไรบ้างค่ะ แต่ไม่มากเท่าไหร่ ใครชอบแนวนี้ลองไปหาอ่านดูนะคะ

“พักตร์อสูร” เป็นผลงานเล่มแรกของ “สุชาคริยา” ที่ดิฉันได้อ่านค่ะ ได้ยินกระแสโด่งดังถึงความสนุกมาตั้งแต่สมัยที่นิยายเรื่องนี้ลงเว็บเด็กดี ดิฉันเลยตัดสินใจไปลองสอยมาอ่านให้เป็นเรื่องราว ขอบอกว่าหนามากๆ เพราะมีความยาวถึง700 กว่าหน้า จากคำโปรยปกหลังที่ว่า

“ โฉมยงใต้โฉมพักตร์ อสูร
พักตร์ซ้อนซ่อนเทพทูน ห่อแก้ว
ล้ำเลิศพักตร์ห่อนสูญ พักตร์จิต
เลยคำสัตย์ซื่อแคล้ว ภัยชั่ว เห็นงาม”

“ กรอบภายใต้ พักตร์อสูร มิอาจกางกั้นความรู้สึกรักในตัว อุษามันตรา ลงแท้เพียงนิด พระจุฑามณีมาศ องค์รัชทายาทแห่งมิถิลานคร บุรุษเจ้าของดวงเนตรเยือกเย็นประดุจน้ำใส ภายใต้พระพักตร์เรียบเฉยแต่สื่อความ พระองค์ทั้งรักและเทิดทูนอุษามันตรา หญิงผู้แตกต่างแต่เด่นชัดในความรู้สึกของพระองค์ หญิงงามเพียบพร้อม ผู้ซึ่งกุมหนทางแห่งการกอบกู้บัลลังท์มิถิลานครกลับคืน และจักนำพาพระองค์ก้าวสู่ตำแหน่ง พระเจ้าวิเทหะองค์ใหม่ โดยสมบูรณ์”

ต้องบอกก่อนเลยว่าชื่นชอบพล็อตเรื่องแนวนี้เป็นพิเศษค่ะ ข้ามภพข้ามชาติ วิญญาณไปอยู่ในร่างอื่นเนี่ย ของโปรดดิฉันเลยทีเดียว และนางเอกเรื่องนี้ก็ได้ย้อนอดีตไปอยู่ในร่างเด็กสามขวบ คิดภาพต่อเองค่ะ ว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อเมื่อผู้ใหญ่คนหนึ่งต้องไปอยู่ในร่างเด็ก เด็กคนนั้นก็ต้องฉลาดมากเนอะ ผู้เขียนปูเรื่องตั้งแต่นางเอกอายุสามขวบ คำศัพท์ในยุคอดีตที่วิญญารนางเอกย้อนไปก้ค่อนข้างจะอ่านยากนิดนึงค่ะ แต่ดิฉันชอบนะรู้สึกว่ามันมีเสน่ห์ในตัวเอง ด้วยความที่ในสมัยนั้นยังไม่ได้เปิดกว้างให้เพศหญิงได้รับสิทธิ์อะไรมากมายนัก พ่อเลยดูเหมือนจะไม่รักเด็กหญิงคนก่อนที่นางเอกไปอาศัยร่างเท่าไหร่ แต่พอนางเอกได้มาอยู่ในร่างนี้ พ่อเธอก็ยิ่งเอ็นดูค่ะ เพราะนางเอกเป็นเด็กฉลาดและช่วยพ่อแก้ปัญหาให้ครอบครัวผ่านวิกฤติไปได้หลายครั้ง ที่นี้พอนางเอกโตก็ได้ไปร่ำเรียนศิลปะวิชาจากอาจารย์ดีๆ และเป็นครั้งแรกที่ได้พบกับพระเอกในวัยเด็ก ทั้งสองจึงเหมือนศิษย์ร่วมอาจารย์กัน

เมื่อนางเอกโตขึ้น ความสวยยิ่งผุดผาด ชายหนุ่มมากมายก็ต่างหมายปองแต่นางเอกไม่สนใจ หาทางเลี่ยงมาเรื่อยๆ ด้วยความฉลาดของเธอเลยใส่หมวกคลุมหน้า “พักตร์อสูร”ไว้เพื่อป้องกันตัวเองค่ะ แหมนิสินะที่เรียกว่าความสวยเป็นเหตุ ช่วงแรกของเรื่องดิฉันว่าค่อนข้างจะเนือยๆไปนิดนึง มาช่วงหลังนิแหละค่ะ ที่นางเอกเข้ามามีส่วนสำคัญในการช่วยเหลือบ้านเมือง และความรักของพระนางก็เริ่มงอกเงยขึ้น พระเอกคิดว่านางเอกมีหน้าตาอัปลักษณ์ แต่เขาก็หลงรักเธอที่มีจิตใจดีงามและเป็นหญิงที่เข้มแข็ง มีบทพ่อแง่แม่งอนกันบ้าง นางเอกแม้จะรักพระเอกแต่ก็ต้องหักห้ามใจไว้เพราะคิดว่าที่นี้ไม่ใช่โลกของเธอ ร่างนี้ก็ไม่ใช่ของเธอ เหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้น มีการชิงไหวชิงพริบ ทำศึก อะไรแบบนี้ตามเรื่องราว พอมีอะไรให้ตื่นเต้นน่าติดตามแล้วค่ะ เย่ แล้วพระเอกกับนางเอกก็ได้แต่งงานกัน แต่ถึงนางเอกจะยอมแต่งงานกับเขาแต่ก็ยังไม่ใช้ชีวิตร่วมกันฐานะสามีภรรยา จนวันหนึ่งค่ะ ทั้งสองก็ได้เข้าหอกันจริงๆ โชคชะตากลับเล่นตลกให้มีเหตุให้วิญญาณนางเอกถูกส่งกลับมายังยุคปัจจุบัน งานนี้ต้องติดตามต่อในเรื่องเองนะคะว่าสุดท้ายแล้วทั้งคู่จะลงเอยอย่างไร

“พักตร์อสูร” เป็นผลงานเล่มแรกของ “สุชาคริยา” ที่ดิฉันได้อ่านค่ะ ได้ยินกระแสโด่งดังถึงความสนุกมาตั้งแต่สมัยที่นิยายเรื่องนี้ลงเว็บเด็กดี ดิฉันเลยตัดสินใจไปลองสอยมาอ่านให้เป็นเรื่องราว ขอบอกว่าหนามากๆ เพราะมีความยาวถึง700 กว่าหน้า จากคำโปรยปกหลังที่ว่า

“ โฉมยงใต้โฉมพักตร์ อสูร
พักตร์ซ้อนซ่อนเทพทูน ห่อแก้ว
ล้ำเลิศพักตร์ห่อนสูญ พักตร์จิต
เลยคำสัตย์ซื่อแคล้ว ภัยชั่ว เห็นงาม”

“ กรอบภายใต้ พักตร์อสูร มิอาจกางกั้นความรู้สึกรักในตัว อุษามันตรา ลงแท้เพียงนิด พระจุฑามณีมาศ องค์รัชทายาทแห่งมิถิลานคร บุรุษเจ้าของดวงเนตรเยือกเย็นประดุจน้ำใส ภายใต้พระพักตร์เรียบเฉยแต่สื่อความ พระองค์ทั้งรักและเทิดทูนอุษามันตรา หญิงผู้แตกต่างแต่เด่นชัดในความรู้สึกของพระองค์ หญิงงามเพียบพร้อม ผู้ซึ่งกุมหนทางแห่งการกอบกู้บัลลังท์มิถิลานครกลับคืน และจักนำพาพระองค์ก้าวสู่ตำแหน่ง พระเจ้าวิเทหะองค์ใหม่ โดยสมบูรณ์”

ต้องบอกก่อนเลยว่าชื่นชอบพล็อตเรื่องแนวนี้เป็นพิเศษค่ะ ข้ามภพข้ามชาติ วิญญาณไปอยู่ในร่างอื่นเนี่ย ของโปรดดิฉันเลยทีเดียว และนางเอกเรื่องนี้ก็ได้ย้อนอดีตไปอยู่ในร่างเด็กสามขวบ คิดภาพต่อเองค่ะ ว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อเมื่อผู้ใหญ่คนหนึ่งต้องไปอยู่ในร่างเด็ก เด็กคนนั้นก็ต้องฉลาดมากเนอะ ผู้เขียนปูเรื่องตั้งแต่นางเอกอายุสามขวบ คำศัพท์ในยุคอดีตที่วิญญารนางเอกย้อนไปก้ค่อนข้างจะอ่านยากนิดนึงค่ะ แต่ดิฉันชอบนะรู้สึกว่ามันมีเสน่ห์ในตัวเอง ด้วยความที่ในสมัยนั้นยังไม่ได้เปิดกว้างให้เพศหญิงได้รับสิทธิ์อะไรมากมายนัก พ่อเลยดูเหมือนจะไม่รักเด็กหญิงคนก่อนที่นางเอกไปอาศัยร่างเท่าไหร่ แต่พอนางเอกได้มาอยู่ในร่างนี้ พ่อเธอก็ยิ่งเอ็นดูค่ะ เพราะนางเอกเป็นเด็กฉลาดและช่วยพ่อแก้ปัญหาให้ครอบครัวผ่านวิกฤติไปได้หลายครั้ง ที่นี้พอนางเอกโตก็ได้ไปร่ำเรียนศิลปะวิชาจากอาจารย์ดีๆ และเป็นครั้งแรกที่ได้พบกับพระเอกในวัยเด็ก ทั้งสองจึงเหมือนศิษย์ร่วมอาจารย์กัน

เมื่อนางเอกโตขึ้น ความสวยยิ่งผุดผาด ชายหนุ่มมากมายก็ต่างหมายปองแต่นางเอกไม่สนใจ หาทางเลี่ยงมาเรื่อยๆ ด้วยความฉลาดของเธอเลยใส่หมวกคลุมหน้า “พักตร์อสูร”ไว้เพื่อป้องกันตัวเองค่ะ แหมนิสินะที่เรียกว่าความสวยเป็นเหตุ ช่วงแรกของเรื่องดิฉันว่าค่อนข้างจะเนือยๆไปนิดนึง มาช่วงหลังนิแหละค่ะ ที่นางเอกเข้ามามีส่วนสำคัญในการช่วยเหลือบ้านเมือง และความรักของพระนางก็เริ่มงอกเงยขึ้น พระเอกคิดว่านางเอกมีหน้าตาอัปลักษณ์ แต่เขาก็หลงรักเธอที่มีจิตใจดีงามและเป็นหญิงที่เข้มแข็ง มีบทพ่อแง่แม่งอนกันบ้าง นางเอกแม้จะรักพระเอกแต่ก็ต้องหักห้ามใจไว้เพราะคิดว่าที่นี้ไม่ใช่โลกของเธอ ร่างนี้ก็ไม่ใช่ของเธอ เหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้น มีการชิงไหวชิงพริบ ทำศึก อะไรแบบนี้ตามเรื่องราว พอมีอะไรให้ตื่นเต้นน่าติดตามแล้วค่ะ เย่ แล้วพระเอกกับนางเอกก็ได้แต่งงานกัน แต่ถึงนางเอกจะยอมแต่งงานกับเขาแต่ก็ยังไม่ใช้ชีวิตร่วมกันฐานะสามีภรรยา จนวันหนึ่งค่ะ ทั้งสองก็ได้เข้าหอกันจริงๆ โชคชะตากลับเล่นตลกให้มีเหตุให้วิญญาณนางเอกถูกส่งกลับมายังยุคปัจจุบัน งานนี้ต้องติดตามต่อในเรื่องเองนะคะว่าสุดท้ายแล้วทั้งคู่จะลงเอยอย่างไร

“ซาตานเรียนรัก” เป็นเรื่องของ “พิกุล” คุณแม่ยังสาวที่มีลูกสาวตัวน้อยแสนฉลาดหลักแหลม เมื่อเด็กน้อยเริ่มรู้ความเธอจะเฝ้าถามผู้เป็นแม่เสมอว่าพ่อของเธออยู่ที่ไหน นางเอกเลยพยายามแก้ปัญหาโดยการให้เพื่อนสนิทของเธอมาให้ลูกสาวตัวน้อยเรียกว่าพ่อ แต่ยิ่งโตเด็กหญิงก็ยิ่งสงสัยเพราะหน้าตาและพันธุกรรมที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง แล้วหนูน้อยก็ได้รู้ว่าพ่อของเธอเป็นชาวอิตาลี และช่างประจวบเหมาะที่เพื่อนสนิทนางเอกกำลังจะบินไปอิตาลีพอดี หนูน้อยเลยรีรอรีบตามไปสืบเรื่องพ่อในบัดดล โชคชะตานำให้หนูน้อยและเพื่อนสนิทของเธอได้รู้จักกับ “คาร์ลอส” พระเอกของเรื่องนี้เองค่ะ พระเอกที่ใครๆต่างมองว่าเขาเป็นซาตานเพราะเขาดูเหมือนคนไร้หัวใจ และไม่แคร์โลก แต่เมื่อได้พบกับหนูน้อย พระเอกของเราก็เกิดความผูกพันธ์ขึ้นอย่างประหลาด หัวใจกระตุกหวั่นไหวไปใหญ่เมื่อได้พบกับแม่ของหนูน้อย งานนี้ต้องมาลุ้นกันต่อในเรื่องค่ะว่าจะดำเนินไปอย่างไรต่อ

ความรู้สึกหลังอ่านเรื่องนี้จบ ถ้าถามว่าชอบไหม ดิฉันชอบบทบรรยายและบทสนทนาในเรื่องนี้นะคะ ส่วนสำหรับพล็อตรู้สึกว่ามันเกินจริงไปนิดนึง นางเอกและพระเอกต่างเป็นเหยื่อ ในแผนการของผู้ไม่หวังดี ถูกวางแผนให้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน ทำให้ต่างเข้าใจซึ่งกันและกันผิด นางเอกก็คิดว่าพระเอกเป็นคนไม่ดี พระเอกก็คิดว่านางเอกเป็นผู้หญิงอย่างว่า… เอิ่มมแสดงว่าคนร้ายต้องไม่ธรรมกาวางแผนได้ขนาดนี้ ฮ่าๆๆๆ แป่ว แต่พระเอกไม่เคยเห็นหน้านางเอกนะคะ มีแต่นางเอกเนี่ยแหละที่จำหน้าพระเอกได้ขึ้นใจ พอนางเอกท้องก็ไม่ยอมติดต่อไปหาพระเอกนะคะ จนลูกโตจนอายุสิบสอง โชคชะตาถึงทำให้ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง ฝ่ายพระเอกแม้ตอนเห็นหน้าลูกครั้งแรกเขาจะไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ก็นึกเอ็นดูและรักเด็กคนนี้ จนได้เห็นหน้าแม่ของเด็กชัดๆ จึงแน่ใจแล้วว่าผู้หญิงคนนี้แหละที่เขาอยากได้มาเป็นภรรยา ช่วงนี้ก็เป็นช่วงหวานของเรื่องเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะพระเอกเริ่มจีบนางเอกแล้ว อิอิ ฝ่ายนางเอก ความจริงเธอเป็นคนใจดีมีจิตใจอ่อนโยนนะคะ แต่พอเกิดเรื่องขึ้นกับตัวเอง ตั้งแต่วันนั้นนางเอกก็เหมือนจะระมัดระวังและระแวงมากขึ้น กลายเป็นคนเงียบๆไม่ค่อยเปิดรับใคร ซึ่งก็ไม่แปลกหรอกค่ะ อีกอย่างเธอหนักแน่นและไม่เลี้ยงลูกมาคนเดียวกถือว่าใจเด็ดพอสมควร ความจริงจะค่อยๆแลยให้รู้ว่าใครเป็นคนวางแผนและหวังผลอะไร แต่ก็ไม่ได้เดายากนะคะ พอความจริงเฉลยความรักของทั้งคู่เลยยิ่งงอกเงยเพราะนางเอกรู้แล้วว่าพระเอกก็เป็นเหยื่อเช่นกัน เป็นนิยายหวานๆ น่ารักอีกเรื่องค่ะ

“ซาตานเรียนรัก” เป็นเรื่องของ “พิกุล” คุณแม่ยังสาวที่มีลูกสาวตัวน้อยแสนฉลาดหลักแหลม เมื่อเด็กน้อยเริ่มรู้ความเธอจะเฝ้าถามผู้เป็นแม่เสมอว่าพ่อของเธออยู่ที่ไหน นางเอกเลยพยายามแก้ปัญหาโดยการให้เพื่อนสนิทของเธอมาให้ลูกสาวตัวน้อยเรียกว่าพ่อ แต่ยิ่งโตเด็กหญิงก็ยิ่งสงสัยเพราะหน้าตาและพันธุกรรมที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง แล้วหนูน้อยก็ได้รู้ว่าพ่อของเธอเป็นชาวอิตาลี และช่างประจวบเหมาะที่เพื่อนสนิทนางเอกกำลังจะบินไปอิตาลีพอดี หนูน้อยเลยรีรอรีบตามไปสืบเรื่องพ่อในบัดดล โชคชะตานำให้หนูน้อยและเพื่อนสนิทของเธอได้รู้จักกับ “คาร์ลอส” พระเอกของเรื่องนี้เองค่ะ พระเอกที่ใครๆต่างมองว่าเขาเป็นซาตานเพราะเขาดูเหมือนคนไร้หัวใจ และไม่แคร์โลก แต่เมื่อได้พบกับหนูน้อย พระเอกของเราก็เกิดความผูกพันธ์ขึ้นอย่างประหลาด หัวใจกระตุกหวั่นไหวไปใหญ่เมื่อได้พบกับแม่ของหนูน้อย งานนี้ต้องมาลุ้นกันต่อในเรื่องค่ะว่าจะดำเนินไปอย่างไรต่อ

ความรู้สึกหลังอ่านเรื่องนี้จบ ถ้าถามว่าชอบไหม ดิฉันชอบบทบรรยายและบทสนทนาในเรื่องนี้นะคะ ส่วนสำหรับพล็อตรู้สึกว่ามันเกินจริงไปนิดนึง นางเอกและพระเอกต่างเป็นเหยื่อ ในแผนการของผู้ไม่หวังดี ถูกวางแผนให้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน ทำให้ต่างเข้าใจซึ่งกันและกันผิด นางเอกก็คิดว่าพระเอกเป็นคนไม่ดี พระเอกก็คิดว่านางเอกเป็นผู้หญิงอย่างว่า… เอิ่มมแสดงว่าคนร้ายต้องไม่ธรรมกาวางแผนได้ขนาดนี้ ฮ่าๆๆๆ แป่ว แต่พระเอกไม่เคยเห็นหน้านางเอกนะคะ มีแต่นางเอกเนี่ยแหละที่จำหน้าพระเอกได้ขึ้นใจ พอนางเอกท้องก็ไม่ยอมติดต่อไปหาพระเอกนะคะ จนลูกโตจนอายุสิบสอง โชคชะตาถึงทำให้ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง ฝ่ายพระเอกแม้ตอนเห็นหน้าลูกครั้งแรกเขาจะไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ก็นึกเอ็นดูและรักเด็กคนนี้ จนได้เห็นหน้าแม่ของเด็กชัดๆ จึงแน่ใจแล้วว่าผู้หญิงคนนี้แหละที่เขาอยากได้มาเป็นภรรยา ช่วงนี้ก็เป็นช่วงหวานของเรื่องเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะพระเอกเริ่มจีบนางเอกแล้ว อิอิ ฝ่ายนางเอก ความจริงเธอเป็นคนใจดีมีจิตใจอ่อนโยนนะคะ แต่พอเกิดเรื่องขึ้นกับตัวเอง ตั้งแต่วันนั้นนางเอกก็เหมือนจะระมัดระวังและระแวงมากขึ้น กลายเป็นคนเงียบๆไม่ค่อยเปิดรับใคร ซึ่งก็ไม่แปลกหรอกค่ะ อีกอย่างเธอหนักแน่นและไม่เลี้ยงลูกมาคนเดียวกถือว่าใจเด็ดพอสมควร ความจริงจะค่อยๆแลยให้รู้ว่าใครเป็นคนวางแผนและหวังผลอะไร แต่ก็ไม่ได้เดายากนะคะ พอความจริงเฉลยความรักของทั้งคู่เลยยิ่งงอกเงยเพราะนางเอกรู้แล้วว่าพระเอกก็เป็นเหยื่อเช่นกัน เป็นนิยายหวานๆ น่ารักอีกเรื่องค่ะ

“นิลกาฬ... สานใจรัก” เป็นนิยายในชุด Love Jewelry อัญมณีแห่งรัก เรื่องนี้เป็นเรื่องของ “น้ำบุษย์” นางเอกของเรื่องนี้ที่มีชะตาชีวิตเหมือนฝัน เมื่อวันหนึ่งเด็กกำพร้าพ่อแม่อย่างเธอ ได้พบรักกับ“ชาร์ลส์ ริชมอนด์” พระเอกของเรานิเองค่ะ คุณนางเอกนั้นเธอมีควมฝันเหมือนหญิงสาวทั่วไปคืออยากแต่งงานใช้ชีวิตครอบครัว มีลูกเล็กๆ อยู่กันอย่างมีความสุข แต่ความรักของเขาและเธอกลับไปเป็นเช่นนั้น พระเอกไม่ยอมแต่งงานเพราะกลัวในอาถรรพ์ของ “ นิลกาฬ” อัญมณีน้ำงามสีเมฆพยับหมอกที่ส่งต่อกันมาหลายชั่วอายุคน เพียงเพราะกลัวจะเสียนางเอกไป พระเอกเลยไม่ยอมแต่งงานกับเธอเพราะเห็นตัวอย่างจากคนในตระกูลมานักต่อนัก แต่นางเอกไม่ยอมง่ายๆค่ะ และเมื่อเห็นประกาศตามหาอัญมณีที่หายไปที่เมืองไทย โดยตระกูล “กิจพนิช” นางเอกจึงไม่รอช้าที่จำอัญมณีต้องสาปไปคืนให้แก่เจ้าของที่แท้จริงเพื่อหวังลบล้างอาถรรพ์ที่พระเอกกลัว โดยการขโมยและหนีพระเอกไปเมืองไทยตามลำพัง พระเอกมีหรือคะที่จะปล่อยไปง่ายๆ ไม่รอช้ารีบบินตามนางเอกมาทันที เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต้องลองไปติดตามในเรื่องต่อเองค่ะ

ความรู้สึกของดิฉันหลังอ่านจบ คือ นิยายเรื่องนี้ทำไมเศร้าจัง ตัวพระเอก แม้จะเพียบพร้อมไปด้วยรูปทรัพย์และทรัพย์สมบัติ แต่ตัวเขากลับไม่เคยรักใครได้อย่างแท้จริง เพราะเห็นจากตัวอย่างใกล้ตัวว่าเมื่อผิดหวังในความรักแล้วจะเป็นอย่างไร ดังนั้นเมื่อวันหนึ่งเขามาพบรักกับนางเอก เขาเลยกลัวว่าจะต้องเสียเธอไป เพราะนางเอกคือผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึก “รัก” ไม่ยอมแต่งงานกับนางเอกตามคำขอของเธอ ฝ่ายนางเอกเรื่องนี้ เธอรักพระเอกอย่างสุดหัวใจ มาดออกแนวเป็นนิ่งๆ ค่อนข้างเชื่อในการกระทำของตัวเอง เมื่อคิดว่าจะทำอะไรแล้วก็ไม่ล้มล้างความตั้งใจง่ายๆ ดังนั้นเมื่อเธอตั้งใจจะนำอัญมณีนิลกาฬที่เป็นสมบัติของตระกูลพระเอกไปคืนตามที่เห็นจากประกาศ เธอก็ทำมันจริงๆ แม้จะสี่ยงให้พระเอกโกรธ ความจริงดิฉันว่าพระเอกควรจะขอบคุณนางเอกด้วยซ้ำค่ะที่นำไปคืน เพราะทำให้ได้รู้อดีตความเป็นไปของตนเอง อ๊ะ สงสัยกันแล้วละสิคะว่าเกี่ยวอะไร ปมของนิยายชุดนี้นอกจากจะตามหาอัญมณีที่หายไปเพื่อนำมารวมกลับเป็นหนึ่งแล้วยังตามหาทายาทที่แท้จริงของตระกูลกิจพนิชอีกด้วย นิยายเล่มนี้เป็นเล่มที่ถือว่าเฉลยก็ว่าได้ค่ะ ว่าตกลงแล้ว ผู้มีอัญมณีในครอบครองคนไหนที่เป็นทายาทตัวจริง ซึ่งดิฉันถือว่าจบสวยและปิดเรื่องได้ดีนะคะ แม้เรื่องช่วงแรกจะเศร้าไปหน่อย แต่ดิฉันก็หย่วนๆให้กับความตื่นเต้นร่วมลุ้นว่าใครคือทายาทตัวจริง หากใครอยากรู้เหมือนดิฉันอย่าลืมหามาอ่านกันนะคะ

“นิลกาฬ... สานใจรัก” เป็นนิยายในชุด Love Jewelry อัญมณีแห่งรัก เรื่องนี้เป็นเรื่องของ “น้ำบุษย์” นางเอกของเรื่องนี้ที่มีชะตาชีวิตเหมือนฝัน เมื่อวันหนึ่งเด็กกำพร้าพ่อแม่อย่างเธอ ได้พบรักกับ“ชาร์ลส์ ริชมอนด์” พระเอกของเรานิเองค่ะ คุณนางเอกนั้นเธอมีควมฝันเหมือนหญิงสาวทั่วไปคืออยากแต่งงานใช้ชีวิตครอบครัว มีลูกเล็กๆ อยู่กันอย่างมีความสุข แต่ความรักของเขาและเธอกลับไปเป็นเช่นนั้น พระเอกไม่ยอมแต่งงานเพราะกลัวในอาถรรพ์ของ “ นิลกาฬ” อัญมณีน้ำงามสีเมฆพยับหมอกที่ส่งต่อกันมาหลายชั่วอายุคน เพียงเพราะกลัวจะเสียนางเอกไป พระเอกเลยไม่ยอมแต่งงานกับเธอเพราะเห็นตัวอย่างจากคนในตระกูลมานักต่อนัก แต่นางเอกไม่ยอมง่ายๆค่ะ และเมื่อเห็นประกาศตามหาอัญมณีที่หายไปที่เมืองไทย โดยตระกูล “กิจพนิช” นางเอกจึงไม่รอช้าที่จำอัญมณีต้องสาปไปคืนให้แก่เจ้าของที่แท้จริงเพื่อหวังลบล้างอาถรรพ์ที่พระเอกกลัว โดยการขโมยและหนีพระเอกไปเมืองไทยตามลำพัง พระเอกมีหรือคะที่จะปล่อยไปง่ายๆ ไม่รอช้ารีบบินตามนางเอกมาทันที เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต้องลองไปติดตามในเรื่องต่อเองค่ะ

ความรู้สึกของดิฉันหลังอ่านจบ คือ นิยายเรื่องนี้ทำไมเศร้าจัง ตัวพระเอก แม้จะเพียบพร้อมไปด้วยรูปทรัพย์และทรัพย์สมบัติ แต่ตัวเขากลับไม่เคยรักใครได้อย่างแท้จริง เพราะเห็นจากตัวอย่างใกล้ตัวว่าเมื่อผิดหวังในความรักแล้วจะเป็นอย่างไร ดังนั้นเมื่อวันหนึ่งเขามาพบรักกับนางเอก เขาเลยกลัวว่าจะต้องเสียเธอไป เพราะนางเอกคือผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึก “รัก” ไม่ยอมแต่งงานกับนางเอกตามคำขอของเธอ ฝ่ายนางเอกเรื่องนี้ เธอรักพระเอกอย่างสุดหัวใจ มาดออกแนวเป็นนิ่งๆ ค่อนข้างเชื่อในการกระทำของตัวเอง เมื่อคิดว่าจะทำอะไรแล้วก็ไม่ล้มล้างความตั้งใจง่ายๆ ดังนั้นเมื่อเธอตั้งใจจะนำอัญมณีนิลกาฬที่เป็นสมบัติของตระกูลพระเอกไปคืนตามที่เห็นจากประกาศ เธอก็ทำมันจริงๆ แม้จะสี่ยงให้พระเอกโกรธ ความจริงดิฉันว่าพระเอกควรจะขอบคุณนางเอกด้วยซ้ำค่ะที่นำไปคืน เพราะทำให้ได้รู้อดีตความเป็นไปของตนเอง อ๊ะ สงสัยกันแล้วละสิคะว่าเกี่ยวอะไร ปมของนิยายชุดนี้นอกจากจะตามหาอัญมณีที่หายไปเพื่อนำมารวมกลับเป็นหนึ่งแล้วยังตามหาทายาทที่แท้จริงของตระกูลกิจพนิชอีกด้วย นิยายเล่มนี้เป็นเล่มที่ถือว่าเฉลยก็ว่าได้ค่ะ ว่าตกลงแล้ว ผู้มีอัญมณีในครอบครองคนไหนที่เป็นทายาทตัวจริง ซึ่งดิฉันถือว่าจบสวยและปิดเรื่องได้ดีนะคะ แม้เรื่องช่วงแรกจะเศร้าไปหน่อย แต่ดิฉันก็หย่วนๆให้กับความตื่นเต้นร่วมลุ้นว่าใครคือทายาทตัวจริง หากใครอยากรู้เหมือนดิฉันอย่าลืมหามาอ่านกันนะคะ

“เพชรพราย... ประกายรัก” นิยายหนึ่งในชุดLove Jewelry อัญมณีแห่งรัก คราวนี้ถึงตาของดอกพุดน้ำบุษย์ “เพชร” กันบ้างแล้ว ดอกพุดน้ำบุษย์เพชรนั้นอยู่ในครอบครองของตระกูลของนางเอก “แววตะวัน” มาหลายชั่วอายุคนแล้วค่ะ นางเอกจึงได้แต่สงสัยว่าทำไมถึงมีการออกประกาศตามหาอัญมณีดอกพุดน้ำบุษย์รวมถึงทายาทของตระกูล “กิจพนิช” เธอจึงเริ่มสืบหาความจริง และเมื่อสืบเจาะลึกเบื้องหลังไปเรื่อยๆเธอก็ยิ่งพบว่า ของมีค่าในครอบครองนี้มีอาถรรพ์แก่ผู้ครอบครอบ ถ้าไม่ตายก็ต้องสูญเสียคนรัก เหมือนที่แม่ของเธอสูญเสียพ่อไป (พ่อนางเอกตายไปแล้วค่ะ) ดังนั้นเธอจึงกลัวว่าการสูญเสียเช่นนั้นจะเกิดขึ้นกับเธอ เมื่อได้พบกับ “ภรัณยู”อีกครั้ง งานนี้นางเอกจึงต้องตัดสินใจเลือกว่าเธออยากจะสูญเสียผู้ชายคนที่เธอคิดว่าเขาสำคัญสำหรับชีวิตเธอหรือนำอัญมณีไปคืนเพื่อลบล้างอาถรรพ์ให้หมดไป

พล็อตก็ประมาณคำโปรยข้างบนที่เล่าไปค่ะ ถ้าถามดิฉัน ดิฉันคิดว่าสำหรับในเซตนี้นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่อ่านได้เรื่อยๆมากกว่าเล่มอื่น อาจจะเป็นเพราะนางเอกที่เป็นผู้ครอบครอง เป็นเรื่องมาก็ทำให้ตัดเธอทิ้งได้เลยทันทีค่ะว่าไม่ใช่ทายาทของ “กิจพนิช”แน่ๆ ดังนั้นปมทั้งหมดจะไปตกอยู่กับเรื่องตามสืบมากกว่าว่าต้นตระกูลนางเอกได้เพชรมาอย่างไร และทำไมเพชรถึงสร้างอาถรรพ์ให้กับตระกูลเธอ เมื่อตัดสินใจว่าจะลองเดินทางไปยังสถานที่ตามประกาศเพื่อดูลาดเลาก่อน ก็จะฉากที่นางเอกได้พบกับผู้ครอบครองดอกพุดน้ำบุษย์คนอื่น ตอนนั้นเธอยังไม่ได้นำเพชรติดตัวไปค่ะ ก็บอกไปแล้วนิเนอะว่าไปดูลาดเลาเพื่อสืบหาความจริง ทนายประจำตระกูลก็ยิ่งทำให้เธอเชื่อเรื่อยๆว่าของในครอบครองนี้ไม่ใช่ของตระกูลเธอแน่ๆ นางเอกเลยต้องคิดหนักเลยค่ะ

ส่วนตัวคิดว่าคาเรกเตอร์นางเอกเรื่องนี้แม้เธอจะถูกเลี้ยงมาแบบลูกผู้ดีมีเงิน แต่ก็นับถือน้ำใจที่เธอไม่ค่อยมีบทวี๊ดว้ายหรืออ่อนแอเท่าไหร่ นับถือน้ำใจตรงที่เธอตัดสินใจสืบหาความจริงเนี่ยแหละค่ะ ส่วนพระเอก เขามีอาชีพเป็นหมอ คาเรกเตอร์จะดูนิ่งๆ เหมือนจะไม่ใจอ่อนกับนางเอกง่ายๆ แต่ความจริงเขาก็รักนางเอกนะคะ ถ้าบอกว่าดิฉันไม่ค่อยปลื้มพระเอกเรื่องนี้เท่าคนอื่นในเซตจะโกรธไหม ฮา T-T แต่เขาก็เป็นผู้ชายอบอุ่นนะคะคอยช่วยเหลือนางเอกในการสืบประวัติของเพชรที่ได้มา อยู่เคียงข้างนางเอกและเวลานางเอกเป็นอันตรายก็ไม่ทิ้งนางเอกลำพัง นะคะ เพราะแน่นอนว่าการสืบเรื่องต้นตระกูลนางเอกต้องมีอะไรให้ตื่นเต้นและน่าค้นหา อิอิ เลยไม่ค่อยมีบทสวีทเท่าไหร่ แต่ดิฉันว่าทั้งคู่ต้องรู้สึกดีต่อกันมาตั้งนานแล้ว ดังนั้นความรักของคู่นี้เลยเหมือนค่อยๆป่มเพาะจากความใกล้ชิด ช่วยเหลือเกื้อกูล จนเกิดเป็นความรักขึ้นมาค่ะ มีฉากหวานๆน่ารักให้อ่านแล้วยิ้มกับความรักของพระนาง ปิดท้ายเล่มด้วยนะคะ หากใครสนใจลองหาอ่านดูได้

“เพชรพราย... ประกายรัก” นิยายหนึ่งในชุดLove Jewelry อัญมณีแห่งรัก คราวนี้ถึงตาของดอกพุดน้ำบุษย์ “เพชร” กันบ้างแล้ว ดอกพุดน้ำบุษย์เพชรนั้นอยู่ในครอบครองของตระกูลของนางเอก “แววตะวัน” มาหลายชั่วอายุคนแล้วค่ะ นางเอกจึงได้แต่สงสัยว่าทำไมถึงมีการออกประกาศตามหาอัญมณีดอกพุดน้ำบุษย์รวมถึงทายาทของตระกูล “กิจพนิช” เธอจึงเริ่มสืบหาความจริง และเมื่อสืบเจาะลึกเบื้องหลังไปเรื่อยๆเธอก็ยิ่งพบว่า ของมีค่าในครอบครองนี้มีอาถรรพ์แก่ผู้ครอบครอบ ถ้าไม่ตายก็ต้องสูญเสียคนรัก เหมือนที่แม่ของเธอสูญเสียพ่อไป (พ่อนางเอกตายไปแล้วค่ะ) ดังนั้นเธอจึงกลัวว่าการสูญเสียเช่นนั้นจะเกิดขึ้นกับเธอ เมื่อได้พบกับ “ภรัณยู”อีกครั้ง งานนี้นางเอกจึงต้องตัดสินใจเลือกว่าเธออยากจะสูญเสียผู้ชายคนที่เธอคิดว่าเขาสำคัญสำหรับชีวิตเธอหรือนำอัญมณีไปคืนเพื่อลบล้างอาถรรพ์ให้หมดไป

พล็อตก็ประมาณคำโปรยข้างบนที่เล่าไปค่ะ ถ้าถามดิฉัน ดิฉันคิดว่าสำหรับในเซตนี้นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่อ่านได้เรื่อยๆมากกว่าเล่มอื่น อาจจะเป็นเพราะนางเอกที่เป็นผู้ครอบครอง เป็นเรื่องมาก็ทำให้ตัดเธอทิ้งได้เลยทันทีค่ะว่าไม่ใช่ทายาทของ “กิจพนิช”แน่ๆ ดังนั้นปมทั้งหมดจะไปตกอยู่กับเรื่องตามสืบมากกว่าว่าต้นตระกูลนางเอกได้เพชรมาอย่างไร และทำไมเพชรถึงสร้างอาถรรพ์ให้กับตระกูลเธอ เมื่อตัดสินใจว่าจะลองเดินทางไปยังสถานที่ตามประกาศเพื่อดูลาดเลาก่อน ก็จะฉากที่นางเอกได้พบกับผู้ครอบครองดอกพุดน้ำบุษย์คนอื่น ตอนนั้นเธอยังไม่ได้นำเพชรติดตัวไปค่ะ ก็บอกไปแล้วนิเนอะว่าไปดูลาดเลาเพื่อสืบหาความจริง ทนายประจำตระกูลก็ยิ่งทำให้เธอเชื่อเรื่อยๆว่าของในครอบครองนี้ไม่ใช่ของตระกูลเธอแน่ๆ นางเอกเลยต้องคิดหนักเลยค่ะ

ส่วนตัวคิดว่าคาเรกเตอร์นางเอกเรื่องนี้แม้เธอจะถูกเลี้ยงมาแบบลูกผู้ดีมีเงิน แต่ก็นับถือน้ำใจที่เธอไม่ค่อยมีบทวี๊ดว้ายหรืออ่อนแอเท่าไหร่ นับถือน้ำใจตรงที่เธอตัดสินใจสืบหาความจริงเนี่ยแหละค่ะ ส่วนพระเอก เขามีอาชีพเป็นหมอ คาเรกเตอร์จะดูนิ่งๆ เหมือนจะไม่ใจอ่อนกับนางเอกง่ายๆ แต่ความจริงเขาก็รักนางเอกนะคะ ถ้าบอกว่าดิฉันไม่ค่อยปลื้มพระเอกเรื่องนี้เท่าคนอื่นในเซตจะโกรธไหม ฮา T-T แต่เขาก็เป็นผู้ชายอบอุ่นนะคะคอยช่วยเหลือนางเอกในการสืบประวัติของเพชรที่ได้มา อยู่เคียงข้างนางเอกและเวลานางเอกเป็นอันตรายก็ไม่ทิ้งนางเอกลำพัง นะคะ เพราะแน่นอนว่าการสืบเรื่องต้นตระกูลนางเอกต้องมีอะไรให้ตื่นเต้นและน่าค้นหา อิอิ เลยไม่ค่อยมีบทสวีทเท่าไหร่ แต่ดิฉันว่าทั้งคู่ต้องรู้สึกดีต่อกันมาตั้งนานแล้ว ดังนั้นความรักของคู่นี้เลยเหมือนค่อยๆป่มเพาะจากความใกล้ชิด ช่วยเหลือเกื้อกูล จนเกิดเป็นความรักขึ้นมาค่ะ มีฉากหวานๆน่ารักให้อ่านแล้วยิ้มกับความรักของพระนาง ปิดท้ายเล่มด้วยนะคะ หากใครสนใจลองหาอ่านดูได้

หากใครยังจำหมอเกรียนปากเสียได้โล่อย่าง “หมอปั๊บ” จากปรายใจกันได้ มาเรื่อง“มารร้ายคู่หมายรัก” ก็ถึงเวลาเปิดตัวหมอปั๊บในฐานะพระเอกกันแล้วค่ะ เพราะความปากหมาเอ้ยปากเสียเป็นเหตุ ทำให้บุพเพอาละวาดจนนางเอก “น้องกล้วย” คนน่ารัก นักแสดงดาวรุ่งพุ่งแรงของวงการ ทนไม่ไหว เหม็นขี้หน้าสุดๆ แต่ทำไปทำมาเกิดมีเรื่องเข้าใจผิดให้ทั้งคู่ต้องมาแต่งงานกัน ใช้ชีวิตร่วมกันในฐานะคนรัก พล็อตหลักก็มีประมาณเท่านี้ค่ะ พอแต่งงานกันก็มีเรื่องราวหลังแต่งงานให้ติดตาม ร่วมลุ้นกับความรักของทั้งคู่ไรงี้ค่ะ


ความรู้สึกหลังอ่านจบ คือชอบมากกกกก ดิฉันชอบคาเรกเตอร์ของหมอปั๊บเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเลยอ่านแล้วรู้สึกว่าน่าติดตามทั้งเรื่อง สำหรับพระเอกอย่างหมอปั๊บเขามีบุคลิก ดูไม่ค่อยแคร์โลกแคร์ใครเท่าไหร่ ปากจัดกวนอวัยวะเบื้องล่างเป็นที่หนึ่ง (ไม่งั้นคงไม่ทำให้นางเอกปรี๊ดแตกได้ อิอิ) แต่ลึกๆแล้วพระเอกก็มีความคิดที่เป็นระบบทำอะไรมีการวางแผนเตรียมไว้ล่วงหน้าเสมอนะคะ เขาแค่ไม่บอกแผนชีวิตเขาให้ใครรับรู้ มีแต่เรื่องแต่งงานกับนางเอกเนี่ยแหละที่เข้ามาทำให้แผนการชีวิตเขารวนจนต้องปรับแผนเสียใหม่ ส่วนนางเอก ดิฉันยังไม่ค่อยเห็นว่าเธอมีคาเรกเตอร์ที่เด่นชัดมากนักค่ะ แต่ถ้าให้บรรยายตามที่ผู้เขียนบอกไว้ในนิยายคือนางเอกเรื่องนี้มีลักษณะทางกายภาพเหมือนนางเอกเอวี ขาววิ๊งละลายใจ ด้วยความที่เป็นดารา นางเอกเลยต้องรักษามาดนิดนึง พระเอกก็ขยันมาทำให้ปรี๊ดแตกได้เรื่อยๆ ช่วงแรกๆของเรื่องดูเหมือนว่าทั้งคู่จะเป็นคู่กัดกันอย่างไรอย่างนั้น แต่ดิฉันว่าทั้งคู่รู้สึกดีต่อกันมาตั้งแต่แรก เพียงแค่ไม่ยอมแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมา เพราะแม่นางเอกที่เป็นหมอรุ่นใหญ่ ไม่ค่อยชอบขี้หน้าพระเอกเท่าไหร่ คอยเชียร์หมออีกคนให้นางเอกมากกว่า การแต่งงานที่เกิดขึ้นจึงสร้างความวุ่นวายพอสมควร โดยเฉพาะเมื่อแม่ของนางเอกส่ง หญิงสาวที่มีศักดิ์เป็นน้องสาวของนางเอกมากันท่า เพราะรู้ว่าทั้งสองแต่งงานกันปลอมๆ งานนี้นางเอกต้องรับศึกสองด้านค่ะ ทั้งจากสามีปากหมาเอ้ยเสียกับน้องสาวตัวแสบที่อยากเอาชนะนางเอกด้วยการเคลมพี่เขย ทั้งนางเอกและน้องสาวยังเป็นเหมือนคู่แข่งในวงการอีกต่างหาก ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ต่างกัน จึงทำให้น้องสาวเธอดูเป็นสาวสวยรวยเสน่ห์ในขณะที่นางเอกดูเอ็กซ์ๆ เซ็กซี่ ขยี้ใจ

ความรักของพระนางค่อยๆพัฒนาขึ้นค่ะ มีกวนบ้าง หวานบ้าง หลอกบ้าง ขู่บ้างให้นางเอกหัวใจได้ออกกำลังกายเป็นว่าเล่น ตอนแรกพระเอกก็ไม่ยอมรับหรอกว่าชอบนางเอก เพราะเคยปากพล่อยไปแล้วว่าแบบนางเอกไม่ใช่สเปค ขืนกลับคำง่ายๆก็เสียฟอร์มแย่เนอะ แต่งานนี้โดนความขาววิ๊งของนางเอกเล่นงานจนสมองเบลอค่ะ เพราะเขาดันตกหลุมรักเธอโครมเบอเริ่มอย่างจัง เลยต้องโชว์เกรียนหาวิธีมาทำให้นางเอกรักตัวเอง ท่ามกลางวิธีเอาชนะใจแม่ยายและแผนการสลัดน้องสาวนางเอกให้ออกไปจากชีวิตคู่ของเขา ไหนจะคู่แข่งที่แม่ยายขยันหามาอีก ต้องไปติดตามต่อในเล่มเองค่ะว่าพระเอกอย่างหมอปั๊บจะทำอย่างไร แต่รับรองว่าระดับหมอปั๊บมาเองไม่ธรรมดาแน่ๆ คืออ่านไปแล้วฟินไป ยิ่งพอหลังสารภาพความในใจกันแล้วน้ำตาลเรียกพี่เลยค่ะ รับรองได้เลยอ่านจบแล้วจะหลงรักหมอปั๊บจนหมดใจเหมือนดิฉัน >//<

หากใครยังจำหมอเกรียนปากเสียได้โล่อย่าง “หมอปั๊บ” จากปรายใจกันได้ มาเรื่อง“มารร้ายคู่หมายรัก” ก็ถึงเวลาเปิดตัวหมอปั๊บในฐานะพระเอกกันแล้วค่ะ เพราะความปากหมาเอ้ยปากเสียเป็นเหตุ ทำให้บุพเพอาละวาดจนนางเอก “น้องกล้วย” คนน่ารัก นักแสดงดาวรุ่งพุ่งแรงของวงการ ทนไม่ไหว เหม็นขี้หน้าสุดๆ แต่ทำไปทำมาเกิดมีเรื่องเข้าใจผิดให้ทั้งคู่ต้องมาแต่งงานกัน ใช้ชีวิตร่วมกันในฐานะคนรัก พล็อตหลักก็มีประมาณเท่านี้ค่ะ พอแต่งงานกันก็มีเรื่องราวหลังแต่งงานให้ติดตาม ร่วมลุ้นกับความรักของทั้งคู่ไรงี้ค่ะ


ความรู้สึกหลังอ่านจบ คือชอบมากกกกก ดิฉันชอบคาเรกเตอร์ของหมอปั๊บเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเลยอ่านแล้วรู้สึกว่าน่าติดตามทั้งเรื่อง สำหรับพระเอกอย่างหมอปั๊บเขามีบุคลิก ดูไม่ค่อยแคร์โลกแคร์ใครเท่าไหร่ ปากจัดกวนอวัยวะเบื้องล่างเป็นที่หนึ่ง (ไม่งั้นคงไม่ทำให้นางเอกปรี๊ดแตกได้ อิอิ) แต่ลึกๆแล้วพระเอกก็มีความคิดที่เป็นระบบทำอะไรมีการวางแผนเตรียมไว้ล่วงหน้าเสมอนะคะ เขาแค่ไม่บอกแผนชีวิตเขาให้ใครรับรู้ มีแต่เรื่องแต่งงานกับนางเอกเนี่ยแหละที่เข้ามาทำให้แผนการชีวิตเขารวนจนต้องปรับแผนเสียใหม่ ส่วนนางเอก ดิฉันยังไม่ค่อยเห็นว่าเธอมีคาเรกเตอร์ที่เด่นชัดมากนักค่ะ แต่ถ้าให้บรรยายตามที่ผู้เขียนบอกไว้ในนิยายคือนางเอกเรื่องนี้มีลักษณะทางกายภาพเหมือนนางเอกเอวี ขาววิ๊งละลายใจ ด้วยความที่เป็นดารา นางเอกเลยต้องรักษามาดนิดนึง พระเอกก็ขยันมาทำให้ปรี๊ดแตกได้เรื่อยๆ ช่วงแรกๆของเรื่องดูเหมือนว่าทั้งคู่จะเป็นคู่กัดกันอย่างไรอย่างนั้น แต่ดิฉันว่าทั้งคู่รู้สึกดีต่อกันมาตั้งแต่แรก เพียงแค่ไม่ยอมแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมา เพราะแม่นางเอกที่เป็นหมอรุ่นใหญ่ ไม่ค่อยชอบขี้หน้าพระเอกเท่าไหร่ คอยเชียร์หมออีกคนให้นางเอกมากกว่า การแต่งงานที่เกิดขึ้นจึงสร้างความวุ่นวายพอสมควร โดยเฉพาะเมื่อแม่ของนางเอกส่ง หญิงสาวที่มีศักดิ์เป็นน้องสาวของนางเอกมากันท่า เพราะรู้ว่าทั้งสองแต่งงานกันปลอมๆ งานนี้นางเอกต้องรับศึกสองด้านค่ะ ทั้งจากสามีปากหมาเอ้ยเสียกับน้องสาวตัวแสบที่อยากเอาชนะนางเอกด้วยการเคลมพี่เขย ทั้งนางเอกและน้องสาวยังเป็นเหมือนคู่แข่งในวงการอีกต่างหาก ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ต่างกัน จึงทำให้น้องสาวเธอดูเป็นสาวสวยรวยเสน่ห์ในขณะที่นางเอกดูเอ็กซ์ๆ เซ็กซี่ ขยี้ใจ

ความรักของพระนางค่อยๆพัฒนาขึ้นค่ะ มีกวนบ้าง หวานบ้าง หลอกบ้าง ขู่บ้างให้นางเอกหัวใจได้ออกกำลังกายเป็นว่าเล่น ตอนแรกพระเอกก็ไม่ยอมรับหรอกว่าชอบนางเอก เพราะเคยปากพล่อยไปแล้วว่าแบบนางเอกไม่ใช่สเปค ขืนกลับคำง่ายๆก็เสียฟอร์มแย่เนอะ แต่งานนี้โดนความขาววิ๊งของนางเอกเล่นงานจนสมองเบลอค่ะ เพราะเขาดันตกหลุมรักเธอโครมเบอเริ่มอย่างจัง เลยต้องโชว์เกรียนหาวิธีมาทำให้นางเอกรักตัวเอง ท่ามกลางวิธีเอาชนะใจแม่ยายและแผนการสลัดน้องสาวนางเอกให้ออกไปจากชีวิตคู่ของเขา ไหนจะคู่แข่งที่แม่ยายขยันหามาอีก ต้องไปติดตามต่อในเล่มเองค่ะว่าพระเอกอย่างหมอปั๊บจะทำอย่างไร แต่รับรองว่าระดับหมอปั๊บมาเองไม่ธรรมดาแน่ๆ คืออ่านไปแล้วฟินไป ยิ่งพอหลังสารภาพความในใจกันแล้วน้ำตาลเรียกพี่เลยค่ะ รับรองได้เลยอ่านจบแล้วจะหลงรักหมอปั๊บจนหมดใจเหมือนดิฉัน >//<

“เหลี่ยมรักลวงใจ” เป็นนิยายแนวอ่านง่าย สบายๆ เรื่องของ “คิรากร” นางเอกของเรื่อง เดินทางจากไทยมาตามหาพ่อที่ไม่เคยพบหน้าที่ประเทศหนึ่ง จนได้มาเจอกับ “เควิน”พระเอกของเรื่องค่ะ จากนั้นก็ช่วยกันตามหาพ่อของนางเอก พล็อตหลักดูเหมือนจะมีแค่นี้ค่ะ

ความรู้สึกหลังอ่านจบของดิฉันคือ พล็อตหลักของเรื่องโอเคนะคะ นางเอกหนีมาตามหาพ่อ แต่การมาเจอกับพระเอกแล้วพระเอกก็ตกลงช่วยนางเอกตามหาพ่อเนี่ย ดูจะเกินความจริงไปนิด เพราะคนปกติคงไม่ช่วยเหลือคนไม่รู้จักง่ายๆ นางเอกเปิดประตูรถพระเอกขึ้นมานั่ง พระเอกก็เริ่มปิ๊งจนอยากได้นางเอก ดิฉันว่าอันนี้ก็ไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ค่ะ ดังนั้นเรื่องในช่วงแรกจะดำเนินเนื้อเรื่องในการตามหาพ่อนางเอกซะส่วนใหญ่ มีบ้างที่มีฉากกุ๊กกิ๊กระหว่างพระเอกนางเอก นางเอกเรื่องนี้เธอมีคาเรกเตอร์ที่ออกแนวดื้อรั้น นิดๆ พระเอกพูดอะไรไม่ค่อยเชื่อ งี่เง่าหน่อยๆ แอบทำร้ายร่างกายพระเอกด้วย 55555 ไม่รู้ว่าตรงไหนของเธอเหมือนกันค่ะที่ทำให้พระเอกหลงรัก (ตอนแรกเขาแค่อยากได้ เลยไม่รู้ตัวเองว่ารัก) เรื่องเดินมาถึงจุดที่พระเอกเริ่มเดาออกว่าใครเป็นพ่อของนางเอก แต่เขาปิดเป็นความลับ ไม่ยอมบอกนางเอก เพราะเขามีเหตุผลบางอย่าง

แม้พระเอกจะสั่งให้นางเอกอยู่เฉยๆ เดี๋ยวเขาจะตามหาพ่อให้เองแต่อย่างที่บอกค่ะ นางเอกเรื่องนี้ดื้อ เธอก็เลยไม่เชื่อ ออกตามหาพ่อเองอีกแรง คือความจริงแล้วก็มีศัตรูและคนร้ายซ่อนตัวในมุมมืดรอโจมตีพระเอก กับคนที่นางเอกคิดว่าเป็นพ่ออยู่ นางเอกและผู้ชายคนนั้นจึงตกอยู่ในอันตราย แถมน้องสาวพระเอกและหลานพระเอกก็เข้ามาพัวพันกับปริศนาพ่อนางเอกด้วยนะคะ หุหุ ซับซ้อนไม่ใช่เล่น

เรื่องราวของช่วงแรกปาไปค่อนเรื่องนิคือไม่ค่อยเห็นพัฒนาการความรักของพระเอกนางเอกเท่าไหร่ค่ะ คือต้องบอกว่าสิ่งที่ดึงทั้งคู่ไว้น่าจะเป็นแรงดึงดูดระหว่างกันมากกว่า เพราะก็เหมือนทั้งคู่ยังไม่ได้เรียนรู้กันและกันสักเท่าไหร่ มีบ้างที่พระเอกคอยหาโอกาสตอดเล็กตอดน้อย ลวนลามนางเอก แต่ก็ไม่ได้มีอะไรเกินเลยค่ะ เพราะนางเอกไม่ยอม จนทุกคนต่างพากันงงไม่คิดว่าพระเอกจะยอมหยุด อิอิ พอถึงตอนที่ปริศนาพ่อนางเอกเฉลยซึ่งมาพร้อมกับเฉลยเรื่องที่พระเอกเคยเข้าใจผิดเล็กๆในอดีต จึงทำให้เริ่มเห็นบทของพระนางมากขึ้น แต่งานนี้ก็ไมได้ง่ายนะคะเพราะพระเอกต้องฝ่าฟันผ่านด่านคุณตามหาโหดของนางเอก ซึ่งตอนหลังก็เห็นความจริงใจจนยอมยกนางเอกให้พระเอกดูแล เรื่องนี้เลยจบลงแบบแฮปปีเอนดิ่งค่ะ

“เหลี่ยมรักลวงใจ” เป็นนิยายแนวอ่านง่าย สบายๆ เรื่องของ “คิรากร” นางเอกของเรื่อง เดินทางจากไทยมาตามหาพ่อที่ไม่เคยพบหน้าที่ประเทศหนึ่ง จนได้มาเจอกับ “เควิน”พระเอกของเรื่องค่ะ จากนั้นก็ช่วยกันตามหาพ่อของนางเอก พล็อตหลักดูเหมือนจะมีแค่นี้ค่ะ

ความรู้สึกหลังอ่านจบของดิฉันคือ พล็อตหลักของเรื่องโอเคนะคะ นางเอกหนีมาตามหาพ่อ แต่การมาเจอกับพระเอกแล้วพระเอกก็ตกลงช่วยนางเอกตามหาพ่อเนี่ย ดูจะเกินความจริงไปนิด เพราะคนปกติคงไม่ช่วยเหลือคนไม่รู้จักง่ายๆ นางเอกเปิดประตูรถพระเอกขึ้นมานั่ง พระเอกก็เริ่มปิ๊งจนอยากได้นางเอก ดิฉันว่าอันนี้ก็ไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ค่ะ ดังนั้นเรื่องในช่วงแรกจะดำเนินเนื้อเรื่องในการตามหาพ่อนางเอกซะส่วนใหญ่ มีบ้างที่มีฉากกุ๊กกิ๊กระหว่างพระเอกนางเอก นางเอกเรื่องนี้เธอมีคาเรกเตอร์ที่ออกแนวดื้อรั้น นิดๆ พระเอกพูดอะไรไม่ค่อยเชื่อ งี่เง่าหน่อยๆ แอบทำร้ายร่างกายพระเอกด้วย 55555 ไม่รู้ว่าตรงไหนของเธอเหมือนกันค่ะที่ทำให้พระเอกหลงรัก (ตอนแรกเขาแค่อยากได้ เลยไม่รู้ตัวเองว่ารัก) เรื่องเดินมาถึงจุดที่พระเอกเริ่มเดาออกว่าใครเป็นพ่อของนางเอก แต่เขาปิดเป็นความลับ ไม่ยอมบอกนางเอก เพราะเขามีเหตุผลบางอย่าง

แม้พระเอกจะสั่งให้นางเอกอยู่เฉยๆ เดี๋ยวเขาจะตามหาพ่อให้เองแต่อย่างที่บอกค่ะ นางเอกเรื่องนี้ดื้อ เธอก็เลยไม่เชื่อ ออกตามหาพ่อเองอีกแรง คือความจริงแล้วก็มีศัตรูและคนร้ายซ่อนตัวในมุมมืดรอโจมตีพระเอก กับคนที่นางเอกคิดว่าเป็นพ่ออยู่ นางเอกและผู้ชายคนนั้นจึงตกอยู่ในอันตราย แถมน้องสาวพระเอกและหลานพระเอกก็เข้ามาพัวพันกับปริศนาพ่อนางเอกด้วยนะคะ หุหุ ซับซ้อนไม่ใช่เล่น

เรื่องราวของช่วงแรกปาไปค่อนเรื่องนิคือไม่ค่อยเห็นพัฒนาการความรักของพระเอกนางเอกเท่าไหร่ค่ะ คือต้องบอกว่าสิ่งที่ดึงทั้งคู่ไว้น่าจะเป็นแรงดึงดูดระหว่างกันมากกว่า เพราะก็เหมือนทั้งคู่ยังไม่ได้เรียนรู้กันและกันสักเท่าไหร่ มีบ้างที่พระเอกคอยหาโอกาสตอดเล็กตอดน้อย ลวนลามนางเอก แต่ก็ไม่ได้มีอะไรเกินเลยค่ะ เพราะนางเอกไม่ยอม จนทุกคนต่างพากันงงไม่คิดว่าพระเอกจะยอมหยุด อิอิ พอถึงตอนที่ปริศนาพ่อนางเอกเฉลยซึ่งมาพร้อมกับเฉลยเรื่องที่พระเอกเคยเข้าใจผิดเล็กๆในอดีต จึงทำให้เริ่มเห็นบทของพระนางมากขึ้น แต่งานนี้ก็ไมได้ง่ายนะคะเพราะพระเอกต้องฝ่าฟันผ่านด่านคุณตามหาโหดของนางเอก ซึ่งตอนหลังก็เห็นความจริงใจจนยอมยกนางเอกให้พระเอกดูแล เรื่องนี้เลยจบลงแบบแฮปปีเอนดิ่งค่ะ