Customer Reviews

ชื่อหนังสือน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ความสำเร็จในโลกยุคใหม่คืออะไรกัน เราว่าหนังสือเล่มนี้ให้อะไรเยอะแยะเลยหละ การที่สังคมโลกปัจจุบันสื่อสารกันได้รวดเร็วทันใจขนาดนี้ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่คนที่ตามโลกรู้เท่าทันโลกย่อมได้เปรียบกว่าเสมอ เพราะจะรู้ถึงช่องทางการทำมาหากินโดยการใช้เครื่องมือสื่อสารเทคโนโลยีเช่น ในทุกวันนี้ร้านค้าทั้งหลายที่มีหน้าร้านหรือไม่มีหน้าร้านก็ตามล้วนแต่มีเพิ่มช่องทางการติดต่อสื่อสารในสังคมออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นอินสตาแกรม เฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ หนังสือเล่มนี้จะอธิบายถึงการแปรผันไปของโลกอธิบายจั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีตั้งแต่โลกที่หนึ่งถึงโลกที่ห้า น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวใช่ไหมหละ ผู้เขียนแบ่งโลกเป็นขั้นๆโดยใช้เกณฑ์อะไร แล้วโลกยุคที่ห้าน่าสนใจอย่างไร การใช้ชีวิตการเรียนการทำงานจะเป็นอย่างไร เหมือนเอาโลกที่ทุกวันนี้เป็นมาตีแผ่ให้เข้าใจได้ง่าย ระบบการเรียนการสอนที่ล้าหลังหากยังเป็นอย่างทุกวันนี้อยู่จะเป็นอย่างไร จะก้าวเท่าทันโลกได้อย่างไร ต้องปรับเปลี่ยนอย่างไร สังคมที่ทุกวันนี้การเรียนไม่ใช่แค่เพียงท่องจำแบบสมัยก่อน ครูผู้สอนไม่ใช่แค่ครูในห้องเรียน แต่กลับเป็นเทคโนโลยีที่สอดแทรกอยู่ทุกช่องทางบวกกับความรวดเร็วที่มากกว่าและสนุกสนานเพลิดเพลินมากกว่าการนั่งฟังครูสอนในห้องเรียน การที่ทุกวันนี้ผู้ประกอบการสามารถเป็นกันได้ง่ายๆ จากที่สมัยก่อนเป็นผู้ซื้ออย่างเดียว ทุกวันนี้ผู้ซื้อกลับเป็นผู้ขายด้วยเสียเอง หนังสือเล่มนี้เหมือนเป็นการกระตุ้นให้เราอยากที่จะรู้เท่าทันเทคโนโลยีมากขึ้นกว่าเดิม บอกถึงผลกระทบจากเทคโนโลยีซึ่งบางสิ่งเป็นสิ่งที่เราไม่เคยรู้มาก่อนแบบว่าอึ้งเลยหละ ว่าเทคโนโลยีทำให้โลกเราก้าวไกลขนาดนี้ คนที่สนใจหรือผู้ที่ยังไม่รู้จักเทคโนโลยีดีพอลองอ่านดูนะ แล้วจะรู้เลยว่าเทคโนโลยีมีความสำคัญมากแค่ไหน

ชื่อหนังสือน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ความสำเร็จในโลกยุคใหม่คืออะไรกัน เราว่าหนังสือเล่มนี้ให้อะไรเยอะแยะเลยหละ การที่สังคมโลกปัจจุบันสื่อสารกันได้รวดเร็วทันใจขนาดนี้ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่คนที่ตามโลกรู้เท่าทันโลกย่อมได้เปรียบกว่าเสมอ เพราะจะรู้ถึงช่องทางการทำมาหากินโดยการใช้เครื่องมือสื่อสารเทคโนโลยีเช่น ในทุกวันนี้ร้านค้าทั้งหลายที่มีหน้าร้านหรือไม่มีหน้าร้านก็ตามล้วนแต่มีเพิ่มช่องทางการติดต่อสื่อสารในสังคมออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นอินสตาแกรม เฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ หนังสือเล่มนี้จะอธิบายถึงการแปรผันไปของโลกอธิบายจั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีตั้งแต่โลกที่หนึ่งถึงโลกที่ห้า น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวใช่ไหมหละ ผู้เขียนแบ่งโลกเป็นขั้นๆโดยใช้เกณฑ์อะไร แล้วโลกยุคที่ห้าน่าสนใจอย่างไร การใช้ชีวิตการเรียนการทำงานจะเป็นอย่างไร เหมือนเอาโลกที่ทุกวันนี้เป็นมาตีแผ่ให้เข้าใจได้ง่าย ระบบการเรียนการสอนที่ล้าหลังหากยังเป็นอย่างทุกวันนี้อยู่จะเป็นอย่างไร จะก้าวเท่าทันโลกได้อย่างไร ต้องปรับเปลี่ยนอย่างไร สังคมที่ทุกวันนี้การเรียนไม่ใช่แค่เพียงท่องจำแบบสมัยก่อน ครูผู้สอนไม่ใช่แค่ครูในห้องเรียน แต่กลับเป็นเทคโนโลยีที่สอดแทรกอยู่ทุกช่องทางบวกกับความรวดเร็วที่มากกว่าและสนุกสนานเพลิดเพลินมากกว่าการนั่งฟังครูสอนในห้องเรียน การที่ทุกวันนี้ผู้ประกอบการสามารถเป็นกันได้ง่ายๆ จากที่สมัยก่อนเป็นผู้ซื้ออย่างเดียว ทุกวันนี้ผู้ซื้อกลับเป็นผู้ขายด้วยเสียเอง หนังสือเล่มนี้เหมือนเป็นการกระตุ้นให้เราอยากที่จะรู้เท่าทันเทคโนโลยีมากขึ้นกว่าเดิม บอกถึงผลกระทบจากเทคโนโลยีซึ่งบางสิ่งเป็นสิ่งที่เราไม่เคยรู้มาก่อนแบบว่าอึ้งเลยหละ ว่าเทคโนโลยีทำให้โลกเราก้าวไกลขนาดนี้ คนที่สนใจหรือผู้ที่ยังไม่รู้จักเทคโนโลยีดีพอลองอ่านดูนะ แล้วจะรู้เลยว่าเทคโนโลยีมีความสำคัญมากแค่ไหน

หนังสือเล่มนี้มาอีกแล้วกับความเชื่อ555555 คนที่เชื่อหรือมีความสนใจเรื่องหินกับลูกปัดลองอ่านเลย เนื้อหาตั้งแต่เริ่มแรกจะประมานว่าประสบการณ์ของผู้เขียนที่ค้นพบพลังของหินและลูกปัดก็อ่านไปเพลินๆละนะ ไม่น่าเบื่ออะไร เพราะภาพประกอบเป็นภาพสีที่น่าสนใจ และมีคำบรรยายภาพด้วยว่าภาพนี้คืออะไร(บางภาพ) แบบว่าเนื้อหาของหินกับลูกปัดนี่เกือบจะเรียกได้ว่าเป็นศาสตร์เลยทีเดียว เนื้อเรื่องพูดถึงเห็นในแต่ละประเทศตามความเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นจีน ทิเบต อะไรงี้ เขาจะแกะสลักหินเป็นอะไร ครอบคลุมไปถึงการชำระล้างและเพิ่มพลังรวมไปถึงวิธีบำบัดให้แก่หินและลูกปัดอีกต่างหาก และสิ่งที่เหมาะกับเราเลยเวลาเลือกซื้อหินหรือลูกปัดมาใส่สิ่งที่จำเป็นต้องรู้ก็คือ......ใส่แล้วถูกโฉลกกับเรารึเปล่า หนังสือเล่มนี้ก็มีบอกเรื่องสีของหินหรือที่เรียกว่าสีบำบัดนั่นเอง กลุ่มสีไหนเป็นอย่างไร เหมาะกับคนอย่างไร ใส่หินสีนี้แล้วช่วยในเรื่องอะไร ลวดลายตามความเชื่อของหิน เครื่องรางต่างๆ แถมยังมีบอกเคล็ดลับการรับพลังอีกด้วย นับได้ว่าผู้เขียนเขารู้ลึกรู้จริงในเรื่องหินและลูกปัดมากๆ แต่น่าเสียดายที่ไม่มีสอนให้ดูว่าหินแท้และหินปลอมเป็นอย่างไร คือเรากลัวถูกหลอกหนะ แต่ก็อย่างว่าการจะดูว่าหินไหนปลอมไม่ปลอมก็เป็นเรื่องที่ต้องศึกษาอย่างจริงจัง จะให้มือสมัครเล่นอย่างเราดูหินแท้ออกก็ไม่ใช่ละ55555 เท่าที่อ่านมาเนื้อหาเขาเต็มอัดแน่นจริงๆ ตอนแรกนึกว่าจะไม่มีอะไรที่ไหนได้เขาเชื่อกันเป็นศาสตร์กันเลยทีเดียว อึ้งมากๆ ยังไงก็ลองอ่านดูเน้ออออคนที่เชื่อเรื่องหินและลูกปัดรับรองได้ความรู้จากหนังสือเล่มนี้ไปเต็มๆ

หนังสือเล่มนี้มาอีกแล้วกับความเชื่อ555555 คนที่เชื่อหรือมีความสนใจเรื่องหินกับลูกปัดลองอ่านเลย เนื้อหาตั้งแต่เริ่มแรกจะประมานว่าประสบการณ์ของผู้เขียนที่ค้นพบพลังของหินและลูกปัดก็อ่านไปเพลินๆละนะ ไม่น่าเบื่ออะไร เพราะภาพประกอบเป็นภาพสีที่น่าสนใจ และมีคำบรรยายภาพด้วยว่าภาพนี้คืออะไร(บางภาพ) แบบว่าเนื้อหาของหินกับลูกปัดนี่เกือบจะเรียกได้ว่าเป็นศาสตร์เลยทีเดียว เนื้อเรื่องพูดถึงเห็นในแต่ละประเทศตามความเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นจีน ทิเบต อะไรงี้ เขาจะแกะสลักหินเป็นอะไร ครอบคลุมไปถึงการชำระล้างและเพิ่มพลังรวมไปถึงวิธีบำบัดให้แก่หินและลูกปัดอีกต่างหาก และสิ่งที่เหมาะกับเราเลยเวลาเลือกซื้อหินหรือลูกปัดมาใส่สิ่งที่จำเป็นต้องรู้ก็คือ......ใส่แล้วถูกโฉลกกับเรารึเปล่า หนังสือเล่มนี้ก็มีบอกเรื่องสีของหินหรือที่เรียกว่าสีบำบัดนั่นเอง กลุ่มสีไหนเป็นอย่างไร เหมาะกับคนอย่างไร ใส่หินสีนี้แล้วช่วยในเรื่องอะไร ลวดลายตามความเชื่อของหิน เครื่องรางต่างๆ แถมยังมีบอกเคล็ดลับการรับพลังอีกด้วย นับได้ว่าผู้เขียนเขารู้ลึกรู้จริงในเรื่องหินและลูกปัดมากๆ แต่น่าเสียดายที่ไม่มีสอนให้ดูว่าหินแท้และหินปลอมเป็นอย่างไร คือเรากลัวถูกหลอกหนะ แต่ก็อย่างว่าการจะดูว่าหินไหนปลอมไม่ปลอมก็เป็นเรื่องที่ต้องศึกษาอย่างจริงจัง จะให้มือสมัครเล่นอย่างเราดูหินแท้ออกก็ไม่ใช่ละ55555 เท่าที่อ่านมาเนื้อหาเขาเต็มอัดแน่นจริงๆ ตอนแรกนึกว่าจะไม่มีอะไรที่ไหนได้เขาเชื่อกันเป็นศาสตร์กันเลยทีเดียว อึ้งมากๆ ยังไงก็ลองอ่านดูเน้ออออคนที่เชื่อเรื่องหินและลูกปัดรับรองได้ความรู้จากหนังสือเล่มนี้ไปเต็มๆ

ฮวงจุ้ยบ้านนับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่คนไทยส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกันมากทีเดียว เห็นได้จากตามทีวีช่องรายการต่างๆที่ดาราสร้างบ้านใหม่ อ่าาาไปแนะนำเยี่ยมชมบ้าน ดาราบางคนก็บอกว่าให้ซินแสมาดูฮวงจุ้ยให้ว่าต้องทำอย่างนี้ๆ ถ้าเรามีบ้านใหม่เราก็อยากให้ผู้รู้มาดูทิศทางให้นะ แต่ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องของความเชื่อ ใครที่อยากรู้ว่าฮวงจุ้ยที่ดีนั้นเป็นแบบไหนละก็ลองอ่านเล่มนี้เลย เอาเป็นว่าบอกละเอียดมากจริงๆทุกๆอย่างจริงๆอะ พร้อมทั้งมีภาพประกอบอธิบายด้วยว่าอย่างนี้ดีอย่างนี้ไม่ดี ครบๆอ่านยาวๆกันไป ตั้งแต่เรื่องพื้นที่จัดสรรว่าควรเป็นอย่างไร ทางเข้าควรเป็นทางไหน หลังคาหละควรเป็นแบบไหนถึงจะดี ถ้าเป็นแบบนี้จะทำให้ผู้อยู่อาศัยในบ้านเป็นอย่างไร เรื่องประตูที่เกี่ยวข้องกับรายรับรายจ่ายอย่างไร จะจัดวางอย่างไรให้โชคลาภเงินทองไหลมาเทมา เรื่องบันได เรื่องฝ้าผนัง คาน พื้น เสากลางบ้าน เครื่องประดับตกแต่งบ้าน เรื่องของน้ำ ต้นไม้เสริมมงคล เอาเป็นว่าทุกๆอย่างกันไป ตอนท้ายผู้เขียนตบด้วยการเล่าเรื่องลี้ลับอีกต่างหาก แบบว่าเราข้ามนะ55555ไม่ค่อยชอบอ่านเรื่องพวกนี้ แบบว่ากลัวหลอน หนังสือเล่มนี้เหมาะมากๆสำหรับใครที่จะสร้างบ้านใหม่หรือสร้างเสร็จแล้ว(ยินดีด้วย5555) หากไม่มีเวลาหรือไม่รู้จักโหราจารย์ที่ดูฮวงจุ้ยเป็นหรือกลัวว่าจะถูกหลอก ลองอ่านหนังสือเล่มนี้เป็นไกด์เลยก็ได้ ทั้งนี้ก็เพื่อการนำพาสิ่งที่ดีมาสู่บ้านเพราะบ้านเป็นที่หลับนอนที่อยู่อาศัยของเรา เราควรให้ความสำคัญ หากใครเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยลองอ่านเล่มนี้เลย เราแนะนำ แบบว่าเนื้อหาเขาครบจริงๆ

ฮวงจุ้ยบ้านนับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่คนไทยส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกันมากทีเดียว เห็นได้จากตามทีวีช่องรายการต่างๆที่ดาราสร้างบ้านใหม่ อ่าาาไปแนะนำเยี่ยมชมบ้าน ดาราบางคนก็บอกว่าให้ซินแสมาดูฮวงจุ้ยให้ว่าต้องทำอย่างนี้ๆ ถ้าเรามีบ้านใหม่เราก็อยากให้ผู้รู้มาดูทิศทางให้นะ แต่ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องของความเชื่อ ใครที่อยากรู้ว่าฮวงจุ้ยที่ดีนั้นเป็นแบบไหนละก็ลองอ่านเล่มนี้เลย เอาเป็นว่าบอกละเอียดมากจริงๆทุกๆอย่างจริงๆอะ พร้อมทั้งมีภาพประกอบอธิบายด้วยว่าอย่างนี้ดีอย่างนี้ไม่ดี ครบๆอ่านยาวๆกันไป ตั้งแต่เรื่องพื้นที่จัดสรรว่าควรเป็นอย่างไร ทางเข้าควรเป็นทางไหน หลังคาหละควรเป็นแบบไหนถึงจะดี ถ้าเป็นแบบนี้จะทำให้ผู้อยู่อาศัยในบ้านเป็นอย่างไร เรื่องประตูที่เกี่ยวข้องกับรายรับรายจ่ายอย่างไร จะจัดวางอย่างไรให้โชคลาภเงินทองไหลมาเทมา เรื่องบันได เรื่องฝ้าผนัง คาน พื้น เสากลางบ้าน เครื่องประดับตกแต่งบ้าน เรื่องของน้ำ ต้นไม้เสริมมงคล เอาเป็นว่าทุกๆอย่างกันไป ตอนท้ายผู้เขียนตบด้วยการเล่าเรื่องลี้ลับอีกต่างหาก แบบว่าเราข้ามนะ55555ไม่ค่อยชอบอ่านเรื่องพวกนี้ แบบว่ากลัวหลอน หนังสือเล่มนี้เหมาะมากๆสำหรับใครที่จะสร้างบ้านใหม่หรือสร้างเสร็จแล้ว(ยินดีด้วย5555) หากไม่มีเวลาหรือไม่รู้จักโหราจารย์ที่ดูฮวงจุ้ยเป็นหรือกลัวว่าจะถูกหลอก ลองอ่านหนังสือเล่มนี้เป็นไกด์เลยก็ได้ ทั้งนี้ก็เพื่อการนำพาสิ่งที่ดีมาสู่บ้านเพราะบ้านเป็นที่หลับนอนที่อยู่อาศัยของเรา เราควรให้ความสำคัญ หากใครเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยลองอ่านเล่มนี้เลย เราแนะนำ แบบว่าเนื้อหาเขาครบจริงๆ

สำหรับหนังสือมองจีนมองไทยเล่มนี้เป็นประโยชน์มากๆสำหรับนักลงทุนคนไทยไม่ว่าจะเป็นรายย่อยหรือรายใหญ่ก็ตามจะเน้นไปในเรื่องทางเศรษฐกิจของประเทศจีนโดยเน้นให้แยกดูตัวเลขทางเศรษฐกิจแต่ละมณฑลๆไปโดยเปรียบะทียบกับพี่ไทบของเรานี่เอง มีการแบ่งเป็นบทๆย่อยๆแต่ละมณฑลว่าสภาพเศรษฐกิจเป็นอย่างไร แตกต่างจากไทยมากน้อยเพียงไหน แต่ไม่ได้เจาะลึกขนาดที่ว่าความต้องการของคนในท้องถิ่นนี้คืออะไรขนาดนั้นนะ สำหรับอันนี้นักลงทุนที่สนใจคงต้องวิเคราะห์กันต่อไปเป็นเรื่องๆ แต่จะว่าละเอียดก็ละเอียดอยู่นะ คือจะกล่าวถึงสภาพการณ์ทางเศรษฐกิจของจีน ภาพรวมสิ่งที่สำคัญๆที่จำเป็นต้องรู้เป็นรายละเอียดๆไป เหมือนกับวิเคราะห์ภาพรวมว่ามณฑลนี้เป็นอย่างไร ประชากรเท่าไหร่ เป็นเมืองท่าหรือเปล่า เป็นเมืองที่สำคัญหนึ่งในจีนเลยเพราะอะไร เมืองนี้น่าสนใจนะเพราะอะไรทำนองนี้มากกว่า และมีการยกตัวอย่างที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจไทยที่ประสบความสำเร็จในจีนด้วยหละ เป็นการยกตัวอย่างที่มีประโยชน์ต่อผู้สนใจจะลงทุนในจีนว่ามันไม่ได้ยากและน่ากลัวเกินไปอย่างที่หลายๆคนคิด เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่พร้อมจะศึกษาค้นคว้าหาความรู้เอาใจใส่เก็บรวบรวมข้อมูลที่สำคัญๆในสิ่งที่ตนเองสนใจ หากเรามีความรู้ รู้จักจีนอย่างละเอียดเราก็สามารถหาช่องทางการทำธุรกิจได้ บอกเลยว่าเท่าที่อ่านมา และหลายๆคนคงรู้ว่าในสมัยนี้ประเทศจีนเป็นประเทศที่น่าจับตามองของนักธุรกิจจากทั่วโลก และกำลังจะพัฒนาเป็นประเทศอันดับต้นๆของแหล่งเศรษฐกิจที่สำคัญในโลกปัจจุบัน รวมทั้งท้ายหนังสือเล่มนี้มีการนำเสนอตัวเลขในแต่ละมณฑลๆ เช่น พื้นที่เท่าไหร่ ลักษณะเด่นของมณฑลนี้คืออะไร เป็นเหมือนการไกด์เราเลยหละ นักลงทุนที่สนใจตลาดจีนลองอ่านกันดูนะ นับว่าหนังสือเล่มนี้คุ้มมากจริงๆ

สำหรับหนังสือมองจีนมองไทยเล่มนี้เป็นประโยชน์มากๆสำหรับนักลงทุนคนไทยไม่ว่าจะเป็นรายย่อยหรือรายใหญ่ก็ตามจะเน้นไปในเรื่องทางเศรษฐกิจของประเทศจีนโดยเน้นให้แยกดูตัวเลขทางเศรษฐกิจแต่ละมณฑลๆไปโดยเปรียบะทียบกับพี่ไทบของเรานี่เอง มีการแบ่งเป็นบทๆย่อยๆแต่ละมณฑลว่าสภาพเศรษฐกิจเป็นอย่างไร แตกต่างจากไทยมากน้อยเพียงไหน แต่ไม่ได้เจาะลึกขนาดที่ว่าความต้องการของคนในท้องถิ่นนี้คืออะไรขนาดนั้นนะ สำหรับอันนี้นักลงทุนที่สนใจคงต้องวิเคราะห์กันต่อไปเป็นเรื่องๆ แต่จะว่าละเอียดก็ละเอียดอยู่นะ คือจะกล่าวถึงสภาพการณ์ทางเศรษฐกิจของจีน ภาพรวมสิ่งที่สำคัญๆที่จำเป็นต้องรู้เป็นรายละเอียดๆไป เหมือนกับวิเคราะห์ภาพรวมว่ามณฑลนี้เป็นอย่างไร ประชากรเท่าไหร่ เป็นเมืองท่าหรือเปล่า เป็นเมืองที่สำคัญหนึ่งในจีนเลยเพราะอะไร เมืองนี้น่าสนใจนะเพราะอะไรทำนองนี้มากกว่า และมีการยกตัวอย่างที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจไทยที่ประสบความสำเร็จในจีนด้วยหละ เป็นการยกตัวอย่างที่มีประโยชน์ต่อผู้สนใจจะลงทุนในจีนว่ามันไม่ได้ยากและน่ากลัวเกินไปอย่างที่หลายๆคนคิด เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่พร้อมจะศึกษาค้นคว้าหาความรู้เอาใจใส่เก็บรวบรวมข้อมูลที่สำคัญๆในสิ่งที่ตนเองสนใจ หากเรามีความรู้ รู้จักจีนอย่างละเอียดเราก็สามารถหาช่องทางการทำธุรกิจได้ บอกเลยว่าเท่าที่อ่านมา และหลายๆคนคงรู้ว่าในสมัยนี้ประเทศจีนเป็นประเทศที่น่าจับตามองของนักธุรกิจจากทั่วโลก และกำลังจะพัฒนาเป็นประเทศอันดับต้นๆของแหล่งเศรษฐกิจที่สำคัญในโลกปัจจุบัน รวมทั้งท้ายหนังสือเล่มนี้มีการนำเสนอตัวเลขในแต่ละมณฑลๆ เช่น พื้นที่เท่าไหร่ ลักษณะเด่นของมณฑลนี้คืออะไร เป็นเหมือนการไกด์เราเลยหละ นักลงทุนที่สนใจตลาดจีนลองอ่านกันดูนะ นับว่าหนังสือเล่มนี้คุ้มมากจริงๆ

เราก็เคยได้ยินเรื่องความสุขของมวลรวมประชาชาติหรือจีเอ็นเอช(GNHหรือGross National Happiness)นั่นเอง คงจะคุ้นๆหูกันบ้างว่าประเทศภูฐานเป็นประเทศที่ใช้GNHวัดระดับความสุขของประชากร ไม่ใช่ใช้GDPเหมือนประเทศทั่วๆไป หนังสือเล่มนี้จะนำเรามาเจาะลึกหาความหมายและความสำคัญของGNHอย่างละเอียด สำหรับเราไม่รู้ทำไมอ่านแล้วไม่น่าเบื่อเลย แม้มันจะเป็นเนื้อหาที่จริงจัง ทั้งๆที่น่าจะเป็นหนังสือที่อ่านแลัวน่าเบื่อแต่ไม่น่าเบื่อเลยหละ เนื้อหาจะเกี่ยวกับความสุขในความหมายของGNH ที่ภูฐานเขาต้องการที่จะคงไว้ซึ่งอุดมการณ์นี้และนำเสนออย่างแพร่หลายให้ทั่วทั้งโลกหันมาสนใจและนำGNHมาลองใช้กัน เนื้อหาของหนังสือเล่มนี้จะกล่าวถึงข้อดีของGNH ความเชื่อมโยงกันของการใช้ชีวิตในโลกทุนนิยม ศาสนาพุทธ และความสุขในรูปแบบของGNH ความสุขที่ยั่งยืนทุกระดับ ทุกวันนี้ที่เป็นสังคมเทคโนโลยีทุกอย่างเชื่อมต่อสื่อสารได้อย่างรวดเร็ว สังคมที่ระบบเศรษฐกิจมีการแก่งแย่งชิงดีตลอดเวลา เราจะทำอย่างไรให้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้อย่างสมดุล รับรู้เรื่องทางโลกไปพร้อมๆกัน เราจะทำอย่างไรให้มีความสุขไปพร้อมๆกันได้ที่ไม่ขนาดจะต้องไปบวช รู้ซึ้งถึงแก่นพระพุทธศาสนาขนาดนั้น แต่เป็นการใช้ชีวิตอย่างพอดีและสมดุลเพื่อนำมาซึ่งความสุขในรูปแบบของGNH ถือว่าเราชอบมากๆเลยมีการวัดระดับความสุขของประเทศที่เศรษฐกิจดีมากๆกับประเทศเล็กๆที่มีความสุขได้กว่าใครเพื่อนอย่างประเทศภูฐานอีกด้วย ส่วนตัวเราชอบแนวคิดนี้นะ มันโอเคใช้ได้เลยหละ ถ้าหลายประเทศมุ่งที่จะนำมาซึ่งความสุขของประชากรมากกว่าตัวเงินตัวเลขทางเศรษฐกิจแล้วละก็คนในประเทศคงมีความสุขไม่ใช่น้อยเลย และตอนท้ายๆก็จะมีการบรรยายจากผู้ที่สนใจแนวคิดนี้เป็นคนฝรั่งนะ เราว่ามันดีอะ

เราก็เคยได้ยินเรื่องความสุขของมวลรวมประชาชาติหรือจีเอ็นเอช(GNHหรือGross National Happiness)นั่นเอง คงจะคุ้นๆหูกันบ้างว่าประเทศภูฐานเป็นประเทศที่ใช้GNHวัดระดับความสุขของประชากร ไม่ใช่ใช้GDPเหมือนประเทศทั่วๆไป หนังสือเล่มนี้จะนำเรามาเจาะลึกหาความหมายและความสำคัญของGNHอย่างละเอียด สำหรับเราไม่รู้ทำไมอ่านแล้วไม่น่าเบื่อเลย แม้มันจะเป็นเนื้อหาที่จริงจัง ทั้งๆที่น่าจะเป็นหนังสือที่อ่านแลัวน่าเบื่อแต่ไม่น่าเบื่อเลยหละ เนื้อหาจะเกี่ยวกับความสุขในความหมายของGNH ที่ภูฐานเขาต้องการที่จะคงไว้ซึ่งอุดมการณ์นี้และนำเสนออย่างแพร่หลายให้ทั่วทั้งโลกหันมาสนใจและนำGNHมาลองใช้กัน เนื้อหาของหนังสือเล่มนี้จะกล่าวถึงข้อดีของGNH ความเชื่อมโยงกันของการใช้ชีวิตในโลกทุนนิยม ศาสนาพุทธ และความสุขในรูปแบบของGNH ความสุขที่ยั่งยืนทุกระดับ ทุกวันนี้ที่เป็นสังคมเทคโนโลยีทุกอย่างเชื่อมต่อสื่อสารได้อย่างรวดเร็ว สังคมที่ระบบเศรษฐกิจมีการแก่งแย่งชิงดีตลอดเวลา เราจะทำอย่างไรให้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้อย่างสมดุล รับรู้เรื่องทางโลกไปพร้อมๆกัน เราจะทำอย่างไรให้มีความสุขไปพร้อมๆกันได้ที่ไม่ขนาดจะต้องไปบวช รู้ซึ้งถึงแก่นพระพุทธศาสนาขนาดนั้น แต่เป็นการใช้ชีวิตอย่างพอดีและสมดุลเพื่อนำมาซึ่งความสุขในรูปแบบของGNH ถือว่าเราชอบมากๆเลยมีการวัดระดับความสุขของประเทศที่เศรษฐกิจดีมากๆกับประเทศเล็กๆที่มีความสุขได้กว่าใครเพื่อนอย่างประเทศภูฐานอีกด้วย ส่วนตัวเราชอบแนวคิดนี้นะ มันโอเคใช้ได้เลยหละ ถ้าหลายประเทศมุ่งที่จะนำมาซึ่งความสุขของประชากรมากกว่าตัวเงินตัวเลขทางเศรษฐกิจแล้วละก็คนในประเทศคงมีความสุขไม่ใช่น้อยเลย และตอนท้ายๆก็จะมีการบรรยายจากผู้ที่สนใจแนวคิดนี้เป็นคนฝรั่งนะ เราว่ามันดีอะ

หนังสือเล่มนี้เรียกได้ว่าเป็นการเอาใจทั้งคุณลูกๆคุณหนูๆและคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองก็ว่าได้ เพราะหนังสือนิทานเล่มนี้เต็มอื่มไปด้วยเนื้อหาสาระถูกใจคุณลูกๆด้วยภาพประกอบและเนื้อเรื่องนิทานอย่างหลากหลายล้วนแต่เป็นนิทานอีสปที่นิยมกันทั้งนั้นซึ่งเหมาะสมกับวัยเด็กมากๆ หากคุณลูกๆยังเด็กเกินไปคุณพ่อคุณแม่หรือพี่เลี้ยงของน้องๆสามารถอ่านให้เด็กๆฟังตั้งแต่ยังเล็กหรือตั้งแต่ในครรภ์ก็ได้เลยหละทั้งภาษาไทยภาษาอังกฤษเลยนับได้ว่า1เล่มนี่ใช้ได้คุ้มจริงๆตั้งแต่เล็กยันโตเลยก็ว่าได้ สามารถเล่านิทานก่อนนอนให้ลูกๆฟังพร้อมกับให้ลูกๆดูภาพประกอบจะได้ไม่เบื่อและมีสมาธิก็ได้อีกทางหนึ่งเพราะภาพประกอบนิทานนี้เป็นภาพสีสันที่ดึงดูดให้เด็กๆเพลิดเพลิน แถมยังได้รู้จักกับสัตว์ชนิดต่างๆว่ากระต่ายเป็นรูปร่างหน้าตาอย่างนี้เต่ามีลักษณะอย่างนี้ พร้อมทั้งเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษไปในคราวเดียวกัน เป็นการเพิ่มพูนคำศัพท์และพัฒนาการเรียนรู้ไปอีกในตัว เรียกได้ว่าคุ้มจริงๆเลย อ้ออเกือบลืมเขามีซีดีที่เป็นเสียงการเล่านิทานต่างๆในหนังสือทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษเลยหละ อย่างคนที่ไม่มีเวลาอ่านนิทานให้ลูกฟังแต่อยากให้ลูกได้พัฒนาทักษะทั้งการฟังและการพูดก็เปิดซีดีนี้ให้ลูกๆได้ฟังจะได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษของลูกๆเป็นการปูพื้นฐานตั้งแต่ยังเล็กเลยก็ว่าได้ เรียกได้ว่าครบครันสุดๆ แถมยังมีคติสอนใจให้เด็กที่โตหน่อยได้เรียนรู้อีกด้วย หากรุณพ่อคุณแม่มีเวลาว่างก็เป็นการช่วยสอนลูกว่าทำอย่างนี้ไม่ดี ทำไมต้องเป็นแบบนี้อะไรยังไง เป็นการสร้างสัมพันธ์และช่วงเวลาดีๆให้กับครอบครัวด้วยหละ

หนังสือเล่มนี้เรียกได้ว่าเป็นการเอาใจทั้งคุณลูกๆคุณหนูๆและคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองก็ว่าได้ เพราะหนังสือนิทานเล่มนี้เต็มอื่มไปด้วยเนื้อหาสาระถูกใจคุณลูกๆด้วยภาพประกอบและเนื้อเรื่องนิทานอย่างหลากหลายล้วนแต่เป็นนิทานอีสปที่นิยมกันทั้งนั้นซึ่งเหมาะสมกับวัยเด็กมากๆ หากคุณลูกๆยังเด็กเกินไปคุณพ่อคุณแม่หรือพี่เลี้ยงของน้องๆสามารถอ่านให้เด็กๆฟังตั้งแต่ยังเล็กหรือตั้งแต่ในครรภ์ก็ได้เลยหละทั้งภาษาไทยภาษาอังกฤษเลยนับได้ว่า1เล่มนี่ใช้ได้คุ้มจริงๆตั้งแต่เล็กยันโตเลยก็ว่าได้ สามารถเล่านิทานก่อนนอนให้ลูกๆฟังพร้อมกับให้ลูกๆดูภาพประกอบจะได้ไม่เบื่อและมีสมาธิก็ได้อีกทางหนึ่งเพราะภาพประกอบนิทานนี้เป็นภาพสีสันที่ดึงดูดให้เด็กๆเพลิดเพลิน แถมยังได้รู้จักกับสัตว์ชนิดต่างๆว่ากระต่ายเป็นรูปร่างหน้าตาอย่างนี้เต่ามีลักษณะอย่างนี้ พร้อมทั้งเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษไปในคราวเดียวกัน เป็นการเพิ่มพูนคำศัพท์และพัฒนาการเรียนรู้ไปอีกในตัว เรียกได้ว่าคุ้มจริงๆเลย อ้ออเกือบลืมเขามีซีดีที่เป็นเสียงการเล่านิทานต่างๆในหนังสือทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษเลยหละ อย่างคนที่ไม่มีเวลาอ่านนิทานให้ลูกฟังแต่อยากให้ลูกได้พัฒนาทักษะทั้งการฟังและการพูดก็เปิดซีดีนี้ให้ลูกๆได้ฟังจะได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษของลูกๆเป็นการปูพื้นฐานตั้งแต่ยังเล็กเลยก็ว่าได้ เรียกได้ว่าครบครันสุดๆ แถมยังมีคติสอนใจให้เด็กที่โตหน่อยได้เรียนรู้อีกด้วย หากรุณพ่อคุณแม่มีเวลาว่างก็เป็นการช่วยสอนลูกว่าทำอย่างนี้ไม่ดี ทำไมต้องเป็นแบบนี้อะไรยังไง เป็นการสร้างสัมพันธ์และช่วงเวลาดีๆให้กับครอบครัวด้วยหละ

น่าอ่านมากๆๆๆนี่แค่ชื่อเรื่องนะ เรื่องขาๆสมัยนี้ผู้หญิงอย่างเราๆก็อยากทำให้ขาของเราเรียวเล็กสวยยาวอยู่แล้ว แต่เนื่องจากอะไรก็ไม่รู้ทำให้สาวๆสมัยนี้ขาใหญ่อย่างเรานะอย่างกับขาหมูคือไขมันจะเยอะไปไหน ต้นขานี่อย่าให้พูด อายผู้ชายสมัยนี้สุดๆเรียวเล็กมาเชียว ผู้หญิงสมัยนี้หลบไปผู้ชายสวยๆเยอะแยะ555ไม่ใช่ละเราก็ยิ่งต้องสู้นะสิ ยืนข้างเพื่อนผู้ชายจะได้ไม่อาย5555 เข้าเรื่องกันเลยดีกว่าหนังสือเล่มนี้น่าเชื่อถือดีนะเพราะคุณหมอเกาหลีเป็นผู้แต่ง สำหรับเราเราว่าดีมากๆเลยทั้งเนื้อหาอะไรต่างๆเกี่ยวกับขาโก่งอีกด้วย ซึ่งก็พึ่งรู้ว่าตัวเองขาโก่ง โง่มานานมากอะ คือไม่ค่อยได้เป็นคนสังเกตตัวเองซักเท่าไหร่ มีวิธีบริหารอย่างไรเพื่อสุขภาพขาของเรา เมื่อสุขภาพขาดีแล้วก็ทำให้ขาเราเรียวสวยไปด้วย น่าสนใจมากๆเลยหละ อ้อแล้วยังมีวิธีที่แนะนำว่าควรแต่งตัวอย่างไร เรามีจุดด้อยอะไรควรทำยังไง และที่ชอบมากเพราะเราเป็นคนขี้เกียจ55555 คือเขาจะย้ำเตือนตลอดเป็นช่วงๆไปว่าอย่าขี้เกียจนะ เพื่อขาที่เรียวสวยของเรานะ เพราะ10สัปดาห์เนี่ยก็สองเดือนกับอีกสองอาทิตย์ เราว่าเราก็คงจะขี้เกียจบ้างไรบ้าง แต่เราจะสู้เพื่อขาทีาเรียวสวยของเราเลยหละ อ้ออีกอย่างนึงเราว่าหนังสือเล่มนี้ใช้ภาษาเข้าใจง่ายคือไม่ได้เป็นทางการไม่ต้องใช้สมองเยอะแบบเครียดๆมาก็อ่านได้ และชอบที่มีรูปภาพประกอบท่าบริหารต่างๆทำให้เราไม่ต้องจินตนาการเองว่าเป็นอย่างนี้นะๆ เพราะบางทีอาจเข้าใจผิดได้ ก็ชอบตรงนี้หละ สาวขาใหญ่มาสู้ไปด้วยกันนะ!

น่าอ่านมากๆๆๆนี่แค่ชื่อเรื่องนะ เรื่องขาๆสมัยนี้ผู้หญิงอย่างเราๆก็อยากทำให้ขาของเราเรียวเล็กสวยยาวอยู่แล้ว แต่เนื่องจากอะไรก็ไม่รู้ทำให้สาวๆสมัยนี้ขาใหญ่อย่างเรานะอย่างกับขาหมูคือไขมันจะเยอะไปไหน ต้นขานี่อย่าให้พูด อายผู้ชายสมัยนี้สุดๆเรียวเล็กมาเชียว ผู้หญิงสมัยนี้หลบไปผู้ชายสวยๆเยอะแยะ555ไม่ใช่ละเราก็ยิ่งต้องสู้นะสิ ยืนข้างเพื่อนผู้ชายจะได้ไม่อาย5555 เข้าเรื่องกันเลยดีกว่าหนังสือเล่มนี้น่าเชื่อถือดีนะเพราะคุณหมอเกาหลีเป็นผู้แต่ง สำหรับเราเราว่าดีมากๆเลยทั้งเนื้อหาอะไรต่างๆเกี่ยวกับขาโก่งอีกด้วย ซึ่งก็พึ่งรู้ว่าตัวเองขาโก่ง โง่มานานมากอะ คือไม่ค่อยได้เป็นคนสังเกตตัวเองซักเท่าไหร่ มีวิธีบริหารอย่างไรเพื่อสุขภาพขาของเรา เมื่อสุขภาพขาดีแล้วก็ทำให้ขาเราเรียวสวยไปด้วย น่าสนใจมากๆเลยหละ อ้อแล้วยังมีวิธีที่แนะนำว่าควรแต่งตัวอย่างไร เรามีจุดด้อยอะไรควรทำยังไง และที่ชอบมากเพราะเราเป็นคนขี้เกียจ55555 คือเขาจะย้ำเตือนตลอดเป็นช่วงๆไปว่าอย่าขี้เกียจนะ เพื่อขาที่เรียวสวยของเรานะ เพราะ10สัปดาห์เนี่ยก็สองเดือนกับอีกสองอาทิตย์ เราว่าเราก็คงจะขี้เกียจบ้างไรบ้าง แต่เราจะสู้เพื่อขาทีาเรียวสวยของเราเลยหละ อ้ออีกอย่างนึงเราว่าหนังสือเล่มนี้ใช้ภาษาเข้าใจง่ายคือไม่ได้เป็นทางการไม่ต้องใช้สมองเยอะแบบเครียดๆมาก็อ่านได้ และชอบที่มีรูปภาพประกอบท่าบริหารต่างๆทำให้เราไม่ต้องจินตนาการเองว่าเป็นอย่างนี้นะๆ เพราะบางทีอาจเข้าใจผิดได้ ก็ชอบตรงนี้หละ สาวขาใหญ่มาสู้ไปด้วยกันนะ!

แค่ชื่อเรื่องก็น่าสนใจแล้วสำหรับเราสาวโสดในขณะนี้และอีกหลายๆคนนั่นเอง(55555เค้ารู้นะ อยู่ในสถานะเดียวกันเนี่ยแหละ) หนังสือเล่มนี้ถือได้ว่าน่าสนใจมากเลยทีเดียว ข้อดีอะไรตั้งเยอะตั้งแยะร้อยข้อเชียวนะสำหรับคนโสดเนี่ย เค้าก็คิดมาได้เนอะตั้งร้อยข้อถ้าเป็นเรานะข้อสองข้อก็จอดแล้ว55555 เอาเป็นว่าเข้าเรื่องกันดีกว่า แน่นอนเลยหนังสือเล่มนี้ก็เหมาะกับคนโสดนะจ้าาไม่ว่าจะชายหรือหญิงหรือเพศอะไรก็แล้วแต่อ่านได้หมด เรียกได้ว่าใครโสดก็หยิบๆมาอ่านเพื่อเป็นกำลังใจในการใช้ชีวิตโสดๆของเราต่อไป5555 ใครที่มีคู่แล้วเฟลๆกับแฟนอยู่ก็ไม่ต้องหยิบอ่านนะเดี๋ยวจะเลิกกันเลย55555 เพราะแน่นอนเป็นข้อดีสำหรับคนโสดอย่างเราแต่ก็เป็นข้อเสียของคนมีคู่หนะสิ กร๊ากกกๆ5555 เอาหนะขอคนโสดอย่างเรามีกำลังใจโดยการอ่านหนังสือเล่มนี้ก่อนเถอะ เนื้อหาก็นั่นแหละข้อดีของคนโสดทุกๆอย่างเฟ้นหามาได้ร้อยข้อ คนโสดที่กำลังเฟลๆทำไมชีวิตฉันตกต่ำซ้ำแย่คนมีคู่คอยซ้ำเติมเหลือเกินเห็นใครมีคู่แล้วอิจฉาอยากมีแฟนกับเขาบ้าง หยิบเล่มนี้มาอ่านเลยจ้าาา เติมกำลังใจกันซะหน่อย แล้วจะรู้ว่าคนโสดอย่างเราๆก็มีดีไม่แพ้เขานะ โสดสวยๆเลยจ้า หนังสือเล่มนี้เขาเฟ้นหาข้อดีของคนโสดมาเต็มจริงๆ ตั้งแต่ข้อดีเล็กๆไปข้อดีใหญ่ๆเลยทั้งในด้านรูปธรรมและนามธรรมเลยหละ55555 อย่างเช่น ตั้งแต่ถ้ามีแฟนนะก็จะเปลืองตังค์ค่าโทรศัพท์ เปลืองเงินหาของขวัญให้ในวันสำคัญต่างๆ ต้องทุกข์แสนสาหัสเมื่อเห็นเขาคุยกับคนอื่น คิดมาก วุ่นวายใจอะไรต่างๆ ยกมาไว้หนังสือเล่มนี้หมดแว้ว คนโสดเติมกำลังใจกันหน่อยนะจ้ะ

แค่ชื่อเรื่องก็น่าสนใจแล้วสำหรับเราสาวโสดในขณะนี้และอีกหลายๆคนนั่นเอง(55555เค้ารู้นะ อยู่ในสถานะเดียวกันเนี่ยแหละ) หนังสือเล่มนี้ถือได้ว่าน่าสนใจมากเลยทีเดียว ข้อดีอะไรตั้งเยอะตั้งแยะร้อยข้อเชียวนะสำหรับคนโสดเนี่ย เค้าก็คิดมาได้เนอะตั้งร้อยข้อถ้าเป็นเรานะข้อสองข้อก็จอดแล้ว55555 เอาเป็นว่าเข้าเรื่องกันดีกว่า แน่นอนเลยหนังสือเล่มนี้ก็เหมาะกับคนโสดนะจ้าาไม่ว่าจะชายหรือหญิงหรือเพศอะไรก็แล้วแต่อ่านได้หมด เรียกได้ว่าใครโสดก็หยิบๆมาอ่านเพื่อเป็นกำลังใจในการใช้ชีวิตโสดๆของเราต่อไป5555 ใครที่มีคู่แล้วเฟลๆกับแฟนอยู่ก็ไม่ต้องหยิบอ่านนะเดี๋ยวจะเลิกกันเลย55555 เพราะแน่นอนเป็นข้อดีสำหรับคนโสดอย่างเราแต่ก็เป็นข้อเสียของคนมีคู่หนะสิ กร๊ากกกๆ5555 เอาหนะขอคนโสดอย่างเรามีกำลังใจโดยการอ่านหนังสือเล่มนี้ก่อนเถอะ เนื้อหาก็นั่นแหละข้อดีของคนโสดทุกๆอย่างเฟ้นหามาได้ร้อยข้อ คนโสดที่กำลังเฟลๆทำไมชีวิตฉันตกต่ำซ้ำแย่คนมีคู่คอยซ้ำเติมเหลือเกินเห็นใครมีคู่แล้วอิจฉาอยากมีแฟนกับเขาบ้าง หยิบเล่มนี้มาอ่านเลยจ้าาา เติมกำลังใจกันซะหน่อย แล้วจะรู้ว่าคนโสดอย่างเราๆก็มีดีไม่แพ้เขานะ โสดสวยๆเลยจ้า หนังสือเล่มนี้เขาเฟ้นหาข้อดีของคนโสดมาเต็มจริงๆ ตั้งแต่ข้อดีเล็กๆไปข้อดีใหญ่ๆเลยทั้งในด้านรูปธรรมและนามธรรมเลยหละ55555 อย่างเช่น ตั้งแต่ถ้ามีแฟนนะก็จะเปลืองตังค์ค่าโทรศัพท์ เปลืองเงินหาของขวัญให้ในวันสำคัญต่างๆ ต้องทุกข์แสนสาหัสเมื่อเห็นเขาคุยกับคนอื่น คิดมาก วุ่นวายใจอะไรต่างๆ ยกมาไว้หนังสือเล่มนี้หมดแว้ว คนโสดเติมกำลังใจกันหน่อยนะจ้ะ

สำหรับหนังสือเล่มนี้ตรงตัวเลยสำหรับผู้ที่สนใจจะศึกษาเกี่ยวกับการสมัครงานที่เป็นภาษาอังกฤษ เนื้อหาเขาจะมีการยกตัวอย่างคือเอาของจริงมาแปะให้ดูและแยกส่วนประกอบต่างๆว่าอันนี้คืออะไร แบ่งหมวดหมู่ของอาชีพ บริษัทต้องการคุณสมบัติพนักงานแบบไหน เราจะได้ค้นหาความหมายของคำศัพท์ตัวย่อของอาชีพและตำแหน่งต่างๆที่ควรทราบ เพราะจะมีแบบฝึกหัดให้ทำสำหรับคำศัพท์อาชีพต่างๆที่ควรรู้ นับได้ว่าเป็นการเพิ่มพูนคำศัพท์อีกทางหนึ่งก็ว่าได้ อ่านไปเรื่อยๆจะเป็นการฝึกให้เขียนประวัติส่วนตัวของตนเอง แนะแนวในเรื่องการใช้ภาษา การลำดับขั้นตอน รูปแบบการเขียนประวัติของตนเอง การเขียนอย่างไรที่ทำให้เราได้รับความสนใจและโดนใจบริษัทหรือผู้สัมภาษณ์ที่เป็นภาษาอังกฤษ อ้อลืมบอกสำหรับหนังสือเล่มนี้จะเป็นภาษาอังกฤษล้วนใช้สำหรับฝึกSkillภาษาอังกฤษโดยเฉพาะมากๆ เหมาะสำหรับการผู้ที่สนใจสมัครงานภาษาอังกฤษ เพราะจะมีการแนะนำแม้กระทั่งการเขียนหน้าปกจดหมายกันเลยทีเดียว รวมถึงการกรอกใบสมัครของบริษัทที่เราสนใจอีกด้วย และที่โดนใจมากที่สุดบทสุดท้ายนั่นคือคำถามส่วนใหญ่ที่เราจะต้องเจอตอนสัมภาษณ์งานนั่นเอง คำถามแบบว่าเยอะมากๆเลยทีเดียว และสอนวิธีการตอบเป็นแนวๆว่าควรจะอ่านข้อมูลนี้มาก่อนนะถึงจะตอบคำถามประเภทนี้ได้ หนังสือเล่มนี้นับว่าเป็นประโยชน์มากเลยทีเดียวสำหรับคนที่จะต้องถูกสัมภาษณ์หรืออยากทำงานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษแบบว่าแบบฝึกหัดเยอะมากๆ แต่เอาจริงๆแบบฝึกหัดบางตอนมันออกจะเด็กไปคือหาคำตอบโดยเปิดหน้าก่อนหน้าที่เป็นเนื้อหาบางทีเราว่าไม่ก็ไม่เป็นประโยชน์เต็มที่เท่าไหร่ เราก็ข้ามๆอะไม่ทำ ทำในส่วนที่ได้เป็นประโยชน์จริงๆซะมากกว่า ข้อเสัยก็แค่ตรงเนี้ยแหละที่เราเจอนอกนั้นก็โอเคเลยหละ

สำหรับหนังสือเล่มนี้ตรงตัวเลยสำหรับผู้ที่สนใจจะศึกษาเกี่ยวกับการสมัครงานที่เป็นภาษาอังกฤษ เนื้อหาเขาจะมีการยกตัวอย่างคือเอาของจริงมาแปะให้ดูและแยกส่วนประกอบต่างๆว่าอันนี้คืออะไร แบ่งหมวดหมู่ของอาชีพ บริษัทต้องการคุณสมบัติพนักงานแบบไหน เราจะได้ค้นหาความหมายของคำศัพท์ตัวย่อของอาชีพและตำแหน่งต่างๆที่ควรทราบ เพราะจะมีแบบฝึกหัดให้ทำสำหรับคำศัพท์อาชีพต่างๆที่ควรรู้ นับได้ว่าเป็นการเพิ่มพูนคำศัพท์อีกทางหนึ่งก็ว่าได้ อ่านไปเรื่อยๆจะเป็นการฝึกให้เขียนประวัติส่วนตัวของตนเอง แนะแนวในเรื่องการใช้ภาษา การลำดับขั้นตอน รูปแบบการเขียนประวัติของตนเอง การเขียนอย่างไรที่ทำให้เราได้รับความสนใจและโดนใจบริษัทหรือผู้สัมภาษณ์ที่เป็นภาษาอังกฤษ อ้อลืมบอกสำหรับหนังสือเล่มนี้จะเป็นภาษาอังกฤษล้วนใช้สำหรับฝึกSkillภาษาอังกฤษโดยเฉพาะมากๆ เหมาะสำหรับการผู้ที่สนใจสมัครงานภาษาอังกฤษ เพราะจะมีการแนะนำแม้กระทั่งการเขียนหน้าปกจดหมายกันเลยทีเดียว รวมถึงการกรอกใบสมัครของบริษัทที่เราสนใจอีกด้วย และที่โดนใจมากที่สุดบทสุดท้ายนั่นคือคำถามส่วนใหญ่ที่เราจะต้องเจอตอนสัมภาษณ์งานนั่นเอง คำถามแบบว่าเยอะมากๆเลยทีเดียว และสอนวิธีการตอบเป็นแนวๆว่าควรจะอ่านข้อมูลนี้มาก่อนนะถึงจะตอบคำถามประเภทนี้ได้ หนังสือเล่มนี้นับว่าเป็นประโยชน์มากเลยทีเดียวสำหรับคนที่จะต้องถูกสัมภาษณ์หรืออยากทำงานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษแบบว่าแบบฝึกหัดเยอะมากๆ แต่เอาจริงๆแบบฝึกหัดบางตอนมันออกจะเด็กไปคือหาคำตอบโดยเปิดหน้าก่อนหน้าที่เป็นเนื้อหาบางทีเราว่าไม่ก็ไม่เป็นประโยชน์เต็มที่เท่าไหร่ เราก็ข้ามๆอะไม่ทำ ทำในส่วนที่ได้เป็นประโยชน์จริงๆซะมากกว่า ข้อเสัยก็แค่ตรงเนี้ยแหละที่เราเจอนอกนั้นก็โอเคเลยหละ

อ๊ากกกกกกกกกเรื่องนี้ก็เป็นนิยายแฟนตาซี(เรียกอย่างนี้ป้ะ55555) เอาหนะ เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่อยู่ในใจเราอีกเรื่องเลย มันส์สุดดดดดด เฟมีลน่ารักมากกกกก ลีโอ ไมล์ โทนี่ อ๊ากกรี๊ดสุดๆๆ โคตรชอบตอนฉากสวีทกันจีบๆกันใหม่ๆนี่แบบสุดจริงอะ เขินมากจิกหมอน5555 ไม่ได้ๆต้องถือหนังสืออ่านเดี๋ยวเสียหมด เนื้อเรื่องนี่เวทมนตร์ปิ้วปิ้วววว ตอนแรกนางเอกน่าสงสารมากกก เล่นเปียโนโอ้ยฟินและลีโอเล่นไวโอลินอ๊ากกกกกอ่านละฝันว่าตัวเองเป็นอย่างงั้นบ้าง เนื้อเรื่องเกี่ยวกับมหานครเซวีน่าทุกคนทำเพื่อให้มหานครที่อยู่ในอีกมิติหนึ่งให้คงอยู่ต่อไป จำต้องมีผู้เสียสละ การเป็นอมตะเพื่อจะดูแลรักษามหานครแห่งนี้เป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ที่สุดยิ่งกว่าตายซะอีกที่ต้องมองคนที่เรารักจากไปคนแล้วคนเล่า อ่านไปละได้พบการผจญภัยการค้นหาความจริงการต่อสู้กับผู้ที่จะบ่อนทำลายมหานครแห่งนี้ ตัวละครเกือบทุกตัวจะมีพลังวิเศษมีเวทมนตร์หลายๆอย่าง ยิ่งเฟมีลหญิงสาวผู้สง่างามที่ต้องใช้พลังของตนร่วมด้วยช่วยกันปกป้องดินแดนแห่งนี้การต่อสู้ผจญภัยอะไรหลายๆอย่าง ไม่มีเพียงแต่คู่เฟมีลกับลีโอเท่านั้นที่น่าอิจฉาสุดๆยังมีคู่ของไมล์คู่เซเลน่าคู่รีเนลโอ้ยยยยยแต่ละคู่นี่น่าอิจฉามากๆ เนื้อเรื่องแฝงข้อคิดต่างๆไว้อีกด้วย การตอบปัญหาแก้ปัญหาอย่างชาญฉลาดในเนื้อเรื่อง พี่กัลฐิดาเขาเขียนได้ดีจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาษาเนื้อหาการดำเนินเรื่องทุกอารมณ์ผสมคลุกเคล้าได้อย่างลงตัว อ่านตั้งนานแล้วยังติดตรึงใจได้จนทุกวันนี้ยังจินตนาการฝันถึงอยู่เลย อยากเป็นแบบในนั้นบ้างฟินดีๆเองอ๊ากกกกกกก

อ๊ากกกกกกกกกเรื่องนี้ก็เป็นนิยายแฟนตาซี(เรียกอย่างนี้ป้ะ55555) เอาหนะ เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่อยู่ในใจเราอีกเรื่องเลย มันส์สุดดดดดด เฟมีลน่ารักมากกกกก ลีโอ ไมล์ โทนี่ อ๊ากกรี๊ดสุดๆๆ โคตรชอบตอนฉากสวีทกันจีบๆกันใหม่ๆนี่แบบสุดจริงอะ เขินมากจิกหมอน5555 ไม่ได้ๆต้องถือหนังสืออ่านเดี๋ยวเสียหมด เนื้อเรื่องนี่เวทมนตร์ปิ้วปิ้วววว ตอนแรกนางเอกน่าสงสารมากกก เล่นเปียโนโอ้ยฟินและลีโอเล่นไวโอลินอ๊ากกกกกอ่านละฝันว่าตัวเองเป็นอย่างงั้นบ้าง เนื้อเรื่องเกี่ยวกับมหานครเซวีน่าทุกคนทำเพื่อให้มหานครที่อยู่ในอีกมิติหนึ่งให้คงอยู่ต่อไป จำต้องมีผู้เสียสละ การเป็นอมตะเพื่อจะดูแลรักษามหานครแห่งนี้เป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ที่สุดยิ่งกว่าตายซะอีกที่ต้องมองคนที่เรารักจากไปคนแล้วคนเล่า อ่านไปละได้พบการผจญภัยการค้นหาความจริงการต่อสู้กับผู้ที่จะบ่อนทำลายมหานครแห่งนี้ ตัวละครเกือบทุกตัวจะมีพลังวิเศษมีเวทมนตร์หลายๆอย่าง ยิ่งเฟมีลหญิงสาวผู้สง่างามที่ต้องใช้พลังของตนร่วมด้วยช่วยกันปกป้องดินแดนแห่งนี้การต่อสู้ผจญภัยอะไรหลายๆอย่าง ไม่มีเพียงแต่คู่เฟมีลกับลีโอเท่านั้นที่น่าอิจฉาสุดๆยังมีคู่ของไมล์คู่เซเลน่าคู่รีเนลโอ้ยยยยยแต่ละคู่นี่น่าอิจฉามากๆ เนื้อเรื่องแฝงข้อคิดต่างๆไว้อีกด้วย การตอบปัญหาแก้ปัญหาอย่างชาญฉลาดในเนื้อเรื่อง พี่กัลฐิดาเขาเขียนได้ดีจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาษาเนื้อหาการดำเนินเรื่องทุกอารมณ์ผสมคลุกเคล้าได้อย่างลงตัว อ่านตั้งนานแล้วยังติดตรึงใจได้จนทุกวันนี้ยังจินตนาการฝันถึงอยู่เลย อยากเป็นแบบในนั้นบ้างฟินดีๆเองอ๊ากกกกกกก

สำหรับหนังสือเล่มนี้เปิดมาละตกใจสุดขีด คือแบบไม่เคยคิดมาก่อนว่าหินจะมีหลายประเภทขนาดนี้เยอะแบบเยอะ คล้ายเป็นลักษณะความเชื่อคล้ายกับเป็นศาสตร์ๆหนึ่งเลยก็ว่าได้ คือเล่มนี้เปิดมาตกใจจริงๆตอนแรกกะว่าจะอ่านเล่นๆแต่คือเนื้อหาเขาไม่เล่นละ อ้ออเห็นผลที่ลองอ่านอีกหนึ่งข้อก็คือทุกวันนี้เรื่องเกี่ยวกับหินเป็นที่นิยมมากมากมากก จะเห็นได้จากในไอจี ในเฟสบุ๊ค ทุกๆทางของSocial network จะมีร้านขายหินเยอะมากพร้อมบอกสรรพคุณยาวเหยียด หินร้านนี้ผ่านการทำพิธีกรรมการล้างสิ่งไม่ดีออกนู่นบ้างนี่บ้างจนไม่รู้จะเชื่อร้านไหนดี เจอหนังสือเล่มนี้เลยลองอ่านดู สำหรับหนังสือเล่มนี้จะแบ่งตอนเป็นดาวนู้นดาวนี้มีหินอะไรบ้าง เช่น ดาวศุกร์ เป็นคนอย่างไร ละก็จะต่อด้วยหินนี้โน้นนู้น จะประกอบด้วยภาพสีของหินชนิดนั้นๆซึ่งชื่อนี่แบบบางอันก็คุ้นหูบางอันก็มีด้วยหรอ5555 ละก็จะบอกรายละเอียดของหิน หินนี้เสริมมงคลด้านอะไร ควรนำไปเป็นเครื่องประดับอะไร เหมาะกับคนอย่างไร มีพลังในด้านอะไร วิธีล้างสิ่งลบความชั่วร้ายต่างๆออกจากหินทำอย่างไร คือเกี่ยวกับความเชื่อล้วนๆจริงๆ เหมาะมากๆสำหรับคนที่เชื่อเรื่องหิน สำหรับเราเราไม่เคยใส่หินและไม่ค่อยเชื่อด้วยแหละ แต่ไม่ลบหลู่นะ อันนี้ความเห็นส่วนตัวของเรา เราจึงแนะนำหนังสือเล่มนี้สำหรับคนที่สนใจศึกษาเรื่องหิน ความเชื่อต่างๆหนังสือเล่มนี้จะมีประโยชน์มากเลยสำหรับคนที่ชอบเรื่องหิน

สำหรับหนังสือเล่มนี้เปิดมาละตกใจสุดขีด คือแบบไม่เคยคิดมาก่อนว่าหินจะมีหลายประเภทขนาดนี้เยอะแบบเยอะ คล้ายเป็นลักษณะความเชื่อคล้ายกับเป็นศาสตร์ๆหนึ่งเลยก็ว่าได้ คือเล่มนี้เปิดมาตกใจจริงๆตอนแรกกะว่าจะอ่านเล่นๆแต่คือเนื้อหาเขาไม่เล่นละ อ้ออเห็นผลที่ลองอ่านอีกหนึ่งข้อก็คือทุกวันนี้เรื่องเกี่ยวกับหินเป็นที่นิยมมากมากมากก จะเห็นได้จากในไอจี ในเฟสบุ๊ค ทุกๆทางของSocial network จะมีร้านขายหินเยอะมากพร้อมบอกสรรพคุณยาวเหยียด หินร้านนี้ผ่านการทำพิธีกรรมการล้างสิ่งไม่ดีออกนู่นบ้างนี่บ้างจนไม่รู้จะเชื่อร้านไหนดี เจอหนังสือเล่มนี้เลยลองอ่านดู สำหรับหนังสือเล่มนี้จะแบ่งตอนเป็นดาวนู้นดาวนี้มีหินอะไรบ้าง เช่น ดาวศุกร์ เป็นคนอย่างไร ละก็จะต่อด้วยหินนี้โน้นนู้น จะประกอบด้วยภาพสีของหินชนิดนั้นๆซึ่งชื่อนี่แบบบางอันก็คุ้นหูบางอันก็มีด้วยหรอ5555 ละก็จะบอกรายละเอียดของหิน หินนี้เสริมมงคลด้านอะไร ควรนำไปเป็นเครื่องประดับอะไร เหมาะกับคนอย่างไร มีพลังในด้านอะไร วิธีล้างสิ่งลบความชั่วร้ายต่างๆออกจากหินทำอย่างไร คือเกี่ยวกับความเชื่อล้วนๆจริงๆ เหมาะมากๆสำหรับคนที่เชื่อเรื่องหิน สำหรับเราเราไม่เคยใส่หินและไม่ค่อยเชื่อด้วยแหละ แต่ไม่ลบหลู่นะ อันนี้ความเห็นส่วนตัวของเรา เราจึงแนะนำหนังสือเล่มนี้สำหรับคนที่สนใจศึกษาเรื่องหิน ความเชื่อต่างๆหนังสือเล่มนี้จะมีประโยชน์มากเลยสำหรับคนที่ชอบเรื่องหิน

สำหรับเล่มนี้หลายคนคงงงๆว่าเกี่ยวกับอะไรน้าาา คือเราก็งงเหมือนกันเพราะชื่อหนังสือสมัยนี้ก็เข็มทิศๆเยอะเหลือเกินน เยอะจนงง เข็มทิศๆเต็มไปหมด เราก็ยิ่งงงไปอีกกับหนังสือเล่มนี้ที่มีคำว่าจิตใต้สำนึกโผล่มาด้วยคือเข็มทิศกับจิตใต้สำนึกนี่เกี่ยวข้องกันยังไง น่านนน(ไม่ใช่จังหวัดนะ5555) ถึงเวลาต้องอ่านแล้วหละ ลุยโลดดดดดดดดดดด เนื้อเรื่องเท่าที่เราอ่านก็จะเกี่ยวกับชีวิตคนเนี่ยแหละ มีการคล้ายเล่านิทานสั้นๆคล้ายกับว่าเป็นข้อคิดคติสอนใจ เตือนเราให้คิดสักเล็กน้อยก่อนทำอะไรลงไป บางตอนก็เป็นคำพูดคำคล้องจองเตือนสติเราให้คิดพิจารณาก่อนทำหรือลองทำดู เราก็เอ้ออออดีนะ ชอบตอนที่เขาเตือนสติให้เราคิดในสิ่งที่เราไม่สังเกตเห็นว่าเราควรหยุดมองและคิดสักนิดไหมก่อนที่จะทำอะไร สังเกตดูตนเองวิถีในการดำเนินชีวิตของตนเอง หยุดก่อนตั้งสติก่อนโดยบรรยายอธิบายโดนใช้ภาษาไม่ได้ทางการมากเข้าใจง่ายพูดน่ารักๆเป็นกันเอง และประกอบดำเนินเรื่องด้วยภาพน่ารักๆใช้สีสันสดใสแทบทุกหน้า ตัวหนังสือไม่ติดกันเป็นพืด คือเนื้อหารูปแบบการใช้สีอะไรต่างๆน่าอ่านเลยแหละ แต่เราอ่านจบเราว่าชื่อเรื่องก็ดูจริงจังไปนิด เนื้อหาคล้ายกับแนะนำแนะแนวการดำเนินชีวิตก็จริงอยู่ แต่เนื้อหาข้างในออกแนวน่ารักสดใสเป็นกันเอง สามารถเอาไว้อ่านคลายเครียดได้ไม่จริงจังขนาดที่ต้องใช้สมองคิดเยอะๆ เราว่าชื่อเรื่องดูจริงจังไปอะ แต่เนื้อหาข้างในโอเคเลยนะ หนังสือเล่มนี้ให้ข้อคิดกับเราว่าอย่าเลือกหนังสือที่หน้าปกอย่างเดียว ดูเนื้อหาด้วย55555จะได้ไม่พลาดหนังสือดีๆไป

สำหรับเล่มนี้หลายคนคงงงๆว่าเกี่ยวกับอะไรน้าาา คือเราก็งงเหมือนกันเพราะชื่อหนังสือสมัยนี้ก็เข็มทิศๆเยอะเหลือเกินน เยอะจนงง เข็มทิศๆเต็มไปหมด เราก็ยิ่งงงไปอีกกับหนังสือเล่มนี้ที่มีคำว่าจิตใต้สำนึกโผล่มาด้วยคือเข็มทิศกับจิตใต้สำนึกนี่เกี่ยวข้องกันยังไง น่านนน(ไม่ใช่จังหวัดนะ5555) ถึงเวลาต้องอ่านแล้วหละ ลุยโลดดดดดดดดดดด เนื้อเรื่องเท่าที่เราอ่านก็จะเกี่ยวกับชีวิตคนเนี่ยแหละ มีการคล้ายเล่านิทานสั้นๆคล้ายกับว่าเป็นข้อคิดคติสอนใจ เตือนเราให้คิดสักเล็กน้อยก่อนทำอะไรลงไป บางตอนก็เป็นคำพูดคำคล้องจองเตือนสติเราให้คิดพิจารณาก่อนทำหรือลองทำดู เราก็เอ้ออออดีนะ ชอบตอนที่เขาเตือนสติให้เราคิดในสิ่งที่เราไม่สังเกตเห็นว่าเราควรหยุดมองและคิดสักนิดไหมก่อนที่จะทำอะไร สังเกตดูตนเองวิถีในการดำเนินชีวิตของตนเอง หยุดก่อนตั้งสติก่อนโดยบรรยายอธิบายโดนใช้ภาษาไม่ได้ทางการมากเข้าใจง่ายพูดน่ารักๆเป็นกันเอง และประกอบดำเนินเรื่องด้วยภาพน่ารักๆใช้สีสันสดใสแทบทุกหน้า ตัวหนังสือไม่ติดกันเป็นพืด คือเนื้อหารูปแบบการใช้สีอะไรต่างๆน่าอ่านเลยแหละ แต่เราอ่านจบเราว่าชื่อเรื่องก็ดูจริงจังไปนิด เนื้อหาคล้ายกับแนะนำแนะแนวการดำเนินชีวิตก็จริงอยู่ แต่เนื้อหาข้างในออกแนวน่ารักสดใสเป็นกันเอง สามารถเอาไว้อ่านคลายเครียดได้ไม่จริงจังขนาดที่ต้องใช้สมองคิดเยอะๆ เราว่าชื่อเรื่องดูจริงจังไปอะ แต่เนื้อหาข้างในโอเคเลยนะ หนังสือเล่มนี้ให้ข้อคิดกับเราว่าอย่าเลือกหนังสือที่หน้าปกอย่างเดียว ดูเนื้อหาด้วย55555จะได้ไม่พลาดหนังสือดีๆไป

สำหรับเล่มนี้เป็นเล่มที่เราอ่านตอนจะไปสอบแกทหละ คือเราว่าเราเตรียมตัวเว่อร์ไปหน่อยแต่ผลที่ตามมามันคุ้มนะ ตอนแรกก็อ่านๆเพื่อจพสอบTu-getหละ แต่ก็ยุ่งๆไม่ว่างซะที ก็เลยยังไม่ได้ลองสนามTu-getเลยว่ายากง่ายแค่ไหน แต่สำหรับที่เราไปสอบแกทคำศัพท์พวกนี้ก็ออกนะ สำหรับเราถือเป็นเล่มนึงที่ดีเหมาะสำหรับใช้สอบเลยหละ คือความหมายคำศัพท์มันเคลียร์ คือเล่มนี้จะเป็นบทๆบทเยอะอยู่อะ มีทั้งให้จับคู่คำศัพท์ที่เหมือนหรือมีความหมายคล้ายกัน(Match) หรือเป็นข้อความมาแล้วให้เดาความหมายคำศัพท์จากบริบท(Context) แล้วเลือกคำศัพท์ที่ความหมายเหมือนกัน(Synonym)ในตัวเลือก ตอนจบแต่ละบทๆก็จะมีเฉลยเป็นคำนิยาม (Definition) ชอบที่เค้าเฉลยดีอะ คือจะไม่มีภาษาไทยให้เลยนะทั้งโจทย์ทั้งอะไรทุกๆอย่าง เหมือนฝึกอ่านภาษาอังกฤษให้ชินไปในตัว เราก็จะจำเป็นภาษาอังกฤษ หากอันไหนไม่รู้เราก็จะหาในดิคชั่นนารีเอาเอง บางคำก็เป็นคำในคำนิยาม คือได้รู้คำศัพท์เพิ่มจากคำศัพท์ที่เค้าระบุว่าเราต้องรู้อะ ก็คือเราจะได้คำศัพท์ที่นอกเหนือจากที่เค้ากำหนดอีกด้วย ทั้งได้คำศัพท์จากคำเหมือน ได้จากในโจทย์คำศัพท์ในประโยคที่บางคำเราก็แปลไม่เป็นก็หาเอา ได้จากคำนิยามศัพท์ แบบว่าได้คำศัพท์เต็มๆอัดแน่นจริงๆจากหนังสือเล่มนี้ แล้วเค้าทำน่าอ่านด้วยอะ การเว้นวรรคมันดูไม่แน่นจนเกินไป พอมีที่ว่างเหลือให้จดอะไรงี้

สำหรับเล่มนี้เป็นเล่มที่เราอ่านตอนจะไปสอบแกทหละ คือเราว่าเราเตรียมตัวเว่อร์ไปหน่อยแต่ผลที่ตามมามันคุ้มนะ ตอนแรกก็อ่านๆเพื่อจพสอบTu-getหละ แต่ก็ยุ่งๆไม่ว่างซะที ก็เลยยังไม่ได้ลองสนามTu-getเลยว่ายากง่ายแค่ไหน แต่สำหรับที่เราไปสอบแกทคำศัพท์พวกนี้ก็ออกนะ สำหรับเราถือเป็นเล่มนึงที่ดีเหมาะสำหรับใช้สอบเลยหละ คือความหมายคำศัพท์มันเคลียร์ คือเล่มนี้จะเป็นบทๆบทเยอะอยู่อะ มีทั้งให้จับคู่คำศัพท์ที่เหมือนหรือมีความหมายคล้ายกัน(Match) หรือเป็นข้อความมาแล้วให้เดาความหมายคำศัพท์จากบริบท(Context) แล้วเลือกคำศัพท์ที่ความหมายเหมือนกัน(Synonym)ในตัวเลือก ตอนจบแต่ละบทๆก็จะมีเฉลยเป็นคำนิยาม (Definition) ชอบที่เค้าเฉลยดีอะ คือจะไม่มีภาษาไทยให้เลยนะทั้งโจทย์ทั้งอะไรทุกๆอย่าง เหมือนฝึกอ่านภาษาอังกฤษให้ชินไปในตัว เราก็จะจำเป็นภาษาอังกฤษ หากอันไหนไม่รู้เราก็จะหาในดิคชั่นนารีเอาเอง บางคำก็เป็นคำในคำนิยาม คือได้รู้คำศัพท์เพิ่มจากคำศัพท์ที่เค้าระบุว่าเราต้องรู้อะ ก็คือเราจะได้คำศัพท์ที่นอกเหนือจากที่เค้ากำหนดอีกด้วย ทั้งได้คำศัพท์จากคำเหมือน ได้จากในโจทย์คำศัพท์ในประโยคที่บางคำเราก็แปลไม่เป็นก็หาเอา ได้จากคำนิยามศัพท์ แบบว่าได้คำศัพท์เต็มๆอัดแน่นจริงๆจากหนังสือเล่มนี้ แล้วเค้าทำน่าอ่านด้วยอะ การเว้นวรรคมันดูไม่แน่นจนเกินไป พอมีที่ว่างเหลือให้จดอะไรงี้

หนังสือเล่มนี้ก็เป็นหนังสือดีๆอีกหนึ่งเล่มที่เป็นคู่มือในการสอบหลายๆอย่าง ถึงแม้ว่าชื่อเรื่องจะเป็นแค่แกทอย่างเดียว แต่เชื่อเถอะว่าไปแล้วเราสามารถเอาศัพท์ที่ท่องที่ศึกษาจากเล่มนี้ไปใช้ได้ในหลายๆการสอบ ไม่ว่าจะเป็นการสอบวัดผลกลางภาค ปลายภาคของโรงเรียน การสอบO-net การสอบเฉพาะคณะหรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าสอบตรงของมหาวิทยาลัย หรือการสอบGat อันนี้คือประเด็นของหนังสือเล่มนี้เลยหละ คำศัพท์ในหนังสือเล่มนี้จะเป็นระดับยากขึ้นมานิดนึง (สำหรับเราอะนะ) แต่เท่าที่เราผ่านมาเราอ่านหนังสือเล่มนี้แล้วสามารถใช้คำศัพท์จากที่เราได้จากเล่มนี้ ใช้สอบได้หลายสนามเลยหละ คะแนนเราก็โอเคนะ ถือว่าดีเลยทีเดียว แต่เราก็ยอมรับว่าเราไม่ได้อ่านจากหนังสือเล่มนี้เล่มเดียวแล้วไปสอบ เพราะเราเป็นคนอ่านหนังสือเยอะด้วย คืออย่างสอบวิชานึงแล้วถ้าเราคิดว่าอ่านแล้วสามารถใช้ได้หลายสนาม เราก็จะหาหนังสืออ่านเยอะระดับนึงเลย อย่างวิชาภาษาอังกฤษสอบที่โรงเรียนด้วย ใช้สอบตรงของคณะด้วย สอบO-net สอบGat เราก็จะอ่านหนังสืออังกฤษเยอะๆท่องศัพท์เยอะๆ คือเราถือคติว่ายิ่งรู้มากก็ยิ่งได้เปรียบมาก หนังสือเล่มนี้ก็ถือเป็นตัวช่วยชั้นดีเลยหละ อย่างที่เราบอกสำหรับเรามันจะยากนิดนึงซึ่งระดับของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่เราว่าเราก็ควรจะอ่านในสิ่งที่เราไม่รู้เพื่อให้เรารู้ ถ้ามันง่ายเกินไปอ่านไปก็เท่านั้นอะ เพราะฉะนั้นเราเลยแนะนำเพื่อนๆสำหรับคนที่จะสอบวิชาภาษาอังกฤษให้อ่านเล่มนี้นะ ถือว่าใช้ได้เลย

หนังสือเล่มนี้ก็เป็นหนังสือดีๆอีกหนึ่งเล่มที่เป็นคู่มือในการสอบหลายๆอย่าง ถึงแม้ว่าชื่อเรื่องจะเป็นแค่แกทอย่างเดียว แต่เชื่อเถอะว่าไปแล้วเราสามารถเอาศัพท์ที่ท่องที่ศึกษาจากเล่มนี้ไปใช้ได้ในหลายๆการสอบ ไม่ว่าจะเป็นการสอบวัดผลกลางภาค ปลายภาคของโรงเรียน การสอบO-net การสอบเฉพาะคณะหรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าสอบตรงของมหาวิทยาลัย หรือการสอบGat อันนี้คือประเด็นของหนังสือเล่มนี้เลยหละ คำศัพท์ในหนังสือเล่มนี้จะเป็นระดับยากขึ้นมานิดนึง (สำหรับเราอะนะ) แต่เท่าที่เราผ่านมาเราอ่านหนังสือเล่มนี้แล้วสามารถใช้คำศัพท์จากที่เราได้จากเล่มนี้ ใช้สอบได้หลายสนามเลยหละ คะแนนเราก็โอเคนะ ถือว่าดีเลยทีเดียว แต่เราก็ยอมรับว่าเราไม่ได้อ่านจากหนังสือเล่มนี้เล่มเดียวแล้วไปสอบ เพราะเราเป็นคนอ่านหนังสือเยอะด้วย คืออย่างสอบวิชานึงแล้วถ้าเราคิดว่าอ่านแล้วสามารถใช้ได้หลายสนาม เราก็จะหาหนังสืออ่านเยอะระดับนึงเลย อย่างวิชาภาษาอังกฤษสอบที่โรงเรียนด้วย ใช้สอบตรงของคณะด้วย สอบO-net สอบGat เราก็จะอ่านหนังสืออังกฤษเยอะๆท่องศัพท์เยอะๆ คือเราถือคติว่ายิ่งรู้มากก็ยิ่งได้เปรียบมาก หนังสือเล่มนี้ก็ถือเป็นตัวช่วยชั้นดีเลยหละ อย่างที่เราบอกสำหรับเรามันจะยากนิดนึงซึ่งระดับของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่เราว่าเราก็ควรจะอ่านในสิ่งที่เราไม่รู้เพื่อให้เรารู้ ถ้ามันง่ายเกินไปอ่านไปก็เท่านั้นอะ เพราะฉะนั้นเราเลยแนะนำเพื่อนๆสำหรับคนที่จะสอบวิชาภาษาอังกฤษให้อ่านเล่มนี้นะ ถือว่าใช้ได้เลย

หนังสือเล่มนี้ออกจะเป็นเนื้อหาอัดแน่นนิดนึง เอาจริงก็ไม่นิดเลยหละ เต็มๆเลยดีกว่า คือตอนที่กำลังเครียดก็อย่าพึ่งอ่าน แต่เนื้อหาเขาดีจริงนะ อารมณ์แบบพระพุทธศาสนาผสมผสานกับวิทยาศาสตร์สุดๆเลยหละ ผู้เขียนเขียนได้ดีจริงๆ แต่ก็มีบางช่วงที่น่าเบื่อไปบ้างเราคิดว่าอาจจะเป็นเพราะว่าเนื้อหามันมีสาระมากๆและมันอัดแน่นไปมั้ง เราว่าเหมาะกับผู้ใหญ่นะ แต่เนื้อหาที่เขาเขียนดีจริงอะ มีเนื้อหาตั้งแต่ไอน์สไตน์สมัยนู้นเลยยยยย ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับไอน์สไตน์ด้วย เรื่องวิทยาศาสตร์เรื่องที่ไอน์สไตน์คิดสูตรนู่นนี่กระทบต่อโลกอย่างมากเลยอะ และมีเกี่ยวกับเรื่องสงครามจนถึงตอนไอน์สไตน์เสียชีวิตเลยหละ ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาด้วยคล้ายอ่านหนังสือธรรมะแต่เป็นเนื้อหาแบบใช้เหตุผลมากกว่าเชิงบทสวดนะ เหมือนกับดึงส่วนที่วิทยาศาสตร์กับพระพุทธศาสนามาร่วมกัน ตอนแรกเราก็สงสัยว่าชื่อเรื่องน่าสนใจแต่ไม่เข้าใจว่าเรื่องทางพระพุทธศาสนาสิ่งที่พระพุทธเจ้าเห็นกับเรื่องที่ไอน์สไตน์คิดค้นจะเกี่ยวกันยังไง แต่พออ่านแล้วก็เข้าใจเลยหละ เรื่องที่ไม่เข้าใจก็เข้าใจ ตอนแรกอ่านแล้วอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์เลยหละ555555 จริงๆนะอยากมากคืออ่านแล้วอยากเป็นจริง ดีนะไม่เลือกไปเรียนสายวิทย์ตอนนั้น คือโชคดีแล้วที่เลือกถูกเพราะไม่ชอบวิทย์เลย แต่ตอนมอต้นเรียนดีไงแต่ก็ดีละมอปลายไม่เลือกวิทย์ไม่ไหวจะเคลียร์ แต่อ่านแล้วดีนะอ่านเลยๆแนะนำ เหมือนเปิดประสบการณ์ใหม่ๆอีกรูปแบบหนึ่งเลยหละความเชื่อมโยงของวิทย์กับศาสนาพุทธนี่มันเยี่ยมจริงๆ

หนังสือเล่มนี้ออกจะเป็นเนื้อหาอัดแน่นนิดนึง เอาจริงก็ไม่นิดเลยหละ เต็มๆเลยดีกว่า คือตอนที่กำลังเครียดก็อย่าพึ่งอ่าน แต่เนื้อหาเขาดีจริงนะ อารมณ์แบบพระพุทธศาสนาผสมผสานกับวิทยาศาสตร์สุดๆเลยหละ ผู้เขียนเขียนได้ดีจริงๆ แต่ก็มีบางช่วงที่น่าเบื่อไปบ้างเราคิดว่าอาจจะเป็นเพราะว่าเนื้อหามันมีสาระมากๆและมันอัดแน่นไปมั้ง เราว่าเหมาะกับผู้ใหญ่นะ แต่เนื้อหาที่เขาเขียนดีจริงอะ มีเนื้อหาตั้งแต่ไอน์สไตน์สมัยนู้นเลยยยยย ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับไอน์สไตน์ด้วย เรื่องวิทยาศาสตร์เรื่องที่ไอน์สไตน์คิดสูตรนู่นนี่กระทบต่อโลกอย่างมากเลยอะ และมีเกี่ยวกับเรื่องสงครามจนถึงตอนไอน์สไตน์เสียชีวิตเลยหละ ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาด้วยคล้ายอ่านหนังสือธรรมะแต่เป็นเนื้อหาแบบใช้เหตุผลมากกว่าเชิงบทสวดนะ เหมือนกับดึงส่วนที่วิทยาศาสตร์กับพระพุทธศาสนามาร่วมกัน ตอนแรกเราก็สงสัยว่าชื่อเรื่องน่าสนใจแต่ไม่เข้าใจว่าเรื่องทางพระพุทธศาสนาสิ่งที่พระพุทธเจ้าเห็นกับเรื่องที่ไอน์สไตน์คิดค้นจะเกี่ยวกันยังไง แต่พออ่านแล้วก็เข้าใจเลยหละ เรื่องที่ไม่เข้าใจก็เข้าใจ ตอนแรกอ่านแล้วอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์เลยหละ555555 จริงๆนะอยากมากคืออ่านแล้วอยากเป็นจริง ดีนะไม่เลือกไปเรียนสายวิทย์ตอนนั้น คือโชคดีแล้วที่เลือกถูกเพราะไม่ชอบวิทย์เลย แต่ตอนมอต้นเรียนดีไงแต่ก็ดีละมอปลายไม่เลือกวิทย์ไม่ไหวจะเคลียร์ แต่อ่านแล้วดีนะอ่านเลยๆแนะนำ เหมือนเปิดประสบการณ์ใหม่ๆอีกรูปแบบหนึ่งเลยหละความเชื่อมโยงของวิทย์กับศาสนาพุทธนี่มันเยี่ยมจริงๆ