Customer Reviews

หนังสือภาษาอังกฤษอีกเล่มหนึ่งที่ชื่นชอบ ชอบตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอกและเนื้อหาด้านใน เพราะมีการจำลองเหตุการณ์พร้อมทั้งยกตัวอย่างบทสนทนาที่เราจำเป็นต้องเจอเอาไว้เรียกว่าครอบคลุมทุกเหตุการณ์ พิมพ์สี่พร้อมรูปการ์ตูนประกอบน่ารัก แต่ละประโยคจะมีคำอ่านภาษาไทยรวมถึงการรวบเสียงการออกเสียงที่ถูกต้องกำกับเอาไว้ หากกลัวว่าจะออกเสียงไม่ถูก หนังสือก็มีซีดีแถมมาให้ฝึกฟัง ที่ชอบมากที่สุดก็คือเนื้อหาที่ดูไม่น่าเบื่อเพราะมีการจัดเป็นแผนผังหรือเรียงลำดับด้วยสัญญาลักษณ์น่ารักๆ มีการ์ตูนประกอบทำให้เวลาเราอ่านหนังสือแล้วไม่เบื่อ ส่วนมากเวลาเราอ่านหนังสือที่ไม่มีสีสันหรือเป็นตัวอักษรขาวดำทั้งเล่ม แค่เห็นก็ง่วงแล้วค่ะ เพราะฉะนั้นการทำหนังสือรูปแบบนี้ก็จะช่วยสงเสริมให้เด็กๆอ่านหนังสือกันมากขึ้น หรือแม้บางทีไม่ได้สนใจเนื้อหาข้างในหนังสือหรอกเห็นปกมันน่ารักก็อยากจะซื้อเก็บมาไว้ที่บ้านแล้ว หนังสือส่วนมากในสำนักพิมพ์พราวก็ชอบที่จะออกมาในรูปแบบเช่นนี้อยู่แล้วจึงเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของสำนักพิมพ์นี้ ซึ่งส่วนนี้เองมันทำให้การเรียนภาษาที่ว่ายากนั้นดูง่ายขึ้น อ่านง่าย เนื้อหาแน่นแต่ไม่ซ้ำไม่น่าเบื่อ แต่ก็อยากจะให้ปรับปรุงตรงส่วนของการแบ่งช่วงของบทซึ่งในหนังสือจะมีการแบ่งช่วงเป็นแต่ละสี มันดูจืดชืดไปนิดหนึ่งหากนำเอาทุกสีมาประกอบกันก็จะดูน่ารักขึ้น การแบ่งแบบนี้ทำให้เราอ่านบทนั้นๆก็จะเห็นแต่ตัวหนังสือและภาพการ์ตูนเพียงสีเดียว ในบางครั้งก็แอบคิดว่ามันไม่ต่างจากการอ่านหนังสือขาวดำเท่าไหร่ โดยส่วนใหญ่นั้นก็ประทับใจและจัดว่าเป็นหนังสือที่เราหยิบมาอ่านบ่อยที่สุดเล่มหนึ่ง ด้วยความดีทั้งหมดทั้งมวลทำให้เราติดตามหนังสือแทบจะทุกเล่มของสำนักพิมพ์นี้ ไม่ว่าจะเป็นภาษา และอีกหลายๆเล่ม การจัดเรียงเนื้อหาอ่านง่าย ใช้คำพูดไม่ซับซ้อน บทแรกมีการทบทวนเนื้อหาในระดับต้นเล็กน้อย กล่าวถึงการใช้สัญญาลักษณ์ต่างๆว่าแสดงถึงอะไร บทต่อๆไปก็กล่าวถึงการซื้อของ ขับรถ การแนะนำตัวเอง การเสนองาน การขออนุญาต .. คือเริ่มตั้งแต่ระดับต้นไปจนถึงการใช้ในสำนักงาน และการสื่อสารในระดับสูง โดยไม่มีไวยากรณ์แต่จะเป็นการบอกรูปประโยคว่าต้องพูดแบบไหนอย่างไรมากกว่า มีคำอ่านซึ่งเป็นการฝึกให้เราออกเสียงได้ถูกวิธีอีกด้วยด้วยการโยงเส้นหมายถึงควบเสียง หรืออ่านไม่ออกเสียงตัวนี้ เน้นเสียงท้าย หรือเริ่ม เป็นต้น เพื่อนๆที่อยากหาซื้อมาอ่านสักเล่มก็ไม่ต้องตัดสินใจนานค่ะ เพราะเรารับประกันว่าคุ้มค่าคุ้มราคาแน่นอนเพราะมันราคาไม่สูงมากและมีการจัดรูปแบบทั้งในและนอกได้ดี ไม่ผิดหวังค่ะ

หนังสือภาษาอังกฤษอีกเล่มหนึ่งที่ชื่นชอบ ชอบตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอกและเนื้อหาด้านใน เพราะมีการจำลองเหตุการณ์พร้อมทั้งยกตัวอย่างบทสนทนาที่เราจำเป็นต้องเจอเอาไว้เรียกว่าครอบคลุมทุกเหตุการณ์ พิมพ์สี่พร้อมรูปการ์ตูนประกอบน่ารัก แต่ละประโยคจะมีคำอ่านภาษาไทยรวมถึงการรวบเสียงการออกเสียงที่ถูกต้องกำกับเอาไว้ หากกลัวว่าจะออกเสียงไม่ถูก หนังสือก็มีซีดีแถมมาให้ฝึกฟัง ที่ชอบมากที่สุดก็คือเนื้อหาที่ดูไม่น่าเบื่อเพราะมีการจัดเป็นแผนผังหรือเรียงลำดับด้วยสัญญาลักษณ์น่ารักๆ มีการ์ตูนประกอบทำให้เวลาเราอ่านหนังสือแล้วไม่เบื่อ ส่วนมากเวลาเราอ่านหนังสือที่ไม่มีสีสันหรือเป็นตัวอักษรขาวดำทั้งเล่ม แค่เห็นก็ง่วงแล้วค่ะ เพราะฉะนั้นการทำหนังสือรูปแบบนี้ก็จะช่วยสงเสริมให้เด็กๆอ่านหนังสือกันมากขึ้น หรือแม้บางทีไม่ได้สนใจเนื้อหาข้างในหนังสือหรอกเห็นปกมันน่ารักก็อยากจะซื้อเก็บมาไว้ที่บ้านแล้ว หนังสือส่วนมากในสำนักพิมพ์พราวก็ชอบที่จะออกมาในรูปแบบเช่นนี้อยู่แล้วจึงเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของสำนักพิมพ์นี้ ซึ่งส่วนนี้เองมันทำให้การเรียนภาษาที่ว่ายากนั้นดูง่ายขึ้น อ่านง่าย เนื้อหาแน่นแต่ไม่ซ้ำไม่น่าเบื่อ แต่ก็อยากจะให้ปรับปรุงตรงส่วนของการแบ่งช่วงของบทซึ่งในหนังสือจะมีการแบ่งช่วงเป็นแต่ละสี มันดูจืดชืดไปนิดหนึ่งหากนำเอาทุกสีมาประกอบกันก็จะดูน่ารักขึ้น การแบ่งแบบนี้ทำให้เราอ่านบทนั้นๆก็จะเห็นแต่ตัวหนังสือและภาพการ์ตูนเพียงสีเดียว ในบางครั้งก็แอบคิดว่ามันไม่ต่างจากการอ่านหนังสือขาวดำเท่าไหร่ โดยส่วนใหญ่นั้นก็ประทับใจและจัดว่าเป็นหนังสือที่เราหยิบมาอ่านบ่อยที่สุดเล่มหนึ่ง ด้วยความดีทั้งหมดทั้งมวลทำให้เราติดตามหนังสือแทบจะทุกเล่มของสำนักพิมพ์นี้ ไม่ว่าจะเป็นภาษา และอีกหลายๆเล่ม การจัดเรียงเนื้อหาอ่านง่าย ใช้คำพูดไม่ซับซ้อน บทแรกมีการทบทวนเนื้อหาในระดับต้นเล็กน้อย กล่าวถึงการใช้สัญญาลักษณ์ต่างๆว่าแสดงถึงอะไร บทต่อๆไปก็กล่าวถึงการซื้อของ ขับรถ การแนะนำตัวเอง การเสนองาน การขออนุญาต .. คือเริ่มตั้งแต่ระดับต้นไปจนถึงการใช้ในสำนักงาน และการสื่อสารในระดับสูง โดยไม่มีไวยากรณ์แต่จะเป็นการบอกรูปประโยคว่าต้องพูดแบบไหนอย่างไรมากกว่า มีคำอ่านซึ่งเป็นการฝึกให้เราออกเสียงได้ถูกวิธีอีกด้วยด้วยการโยงเส้นหมายถึงควบเสียง หรืออ่านไม่ออกเสียงตัวนี้ เน้นเสียงท้าย หรือเริ่ม เป็นต้น เพื่อนๆที่อยากหาซื้อมาอ่านสักเล่มก็ไม่ต้องตัดสินใจนานค่ะ เพราะเรารับประกันว่าคุ้มค่าคุ้มราคาแน่นอนเพราะมันราคาไม่สูงมากและมีการจัดรูปแบบทั้งในและนอกได้ดี ไม่ผิดหวังค่ะ

เชื่อว่าทุกๆคนต้องมีปัญหาในการแปลบทความภาษาอังกฤษเหมือนเราแน่ๆ คือเรารู้ความหมายของคำนี้คำนี้แต่พอมันมารวมๆกันเป็นประโยคก็จะเริ่มเอ๋อละ ..เอมันแปลว่าไรหว่า ? เราแบบเครียดมากเพราะถ้าทำไม่ได้สอบคราวนี้มีหวังตกแน่ๆ เดินผ่านร้านหนังสือเลยแวะเข้าไปดูซะหน่อยว่าพอจะมีอะไรที่ช่วยได้มั้ย เดินวกไปวนมาก็เจอเล่มนี้ละค่ะตอนแรกก็นึกว่าจะเป็นหนังสือสอนศัพท์ทั่วไปแต่พลิกๆอ่านแล้วแบบตอนนี้ เอ้ย ! เจอที่เราตามหาแล้วว เลยได้สอยกลับมาบ้านเล่มหนึ่ง มันจะแบ่งเอาไว้เป็นคำทั้งหมด30คำเป็นหัวข้อใหญ่ๆ ไอ้30คำนี้แหล่ะที่มันจะแตกย่อยออกเป็นสำนวนได้ร้อยพันแปดซึ่งในหนังสือจะยกตัวอย่างมาเพียงหัวข้อละ10สำนวนที่เราจะต้องเจอบ่อยๆ ซึ่งมันก็เป็นคำที่เราหาและต้องการอยู่ทุกคำ ภาษาใช้เขียนก็อ่านง่ายมากก แบบคล้ายๆว่าเป็นภาษาพูดไม่ใช่ภาษาเขียนอ่านแล้วรู้สึกสนุกไม่น่าเบื่อแม้มันจะเป็นหนังสือที่มีแต่ตัวอักษรแถมมีสันก็จืดชืดแต่มันทำให้เราอ่านแล้วเพลินได้อย่างไม่น่าเชื่อ ภาษาที่ใช้เขียนนี่แหล่ะที่เราปลื้มที่สุดมันเหมือนกับว่าเราไปนั่งเรียนกับคนเขียนตัวต่อตัวไม่ได้อ่านหนังสือ การออกแบบหน้าปกหนังสือก็ดูดีมีคลาส เห็นแล้วหยิบเลยเพราะเราเป็นคนเบื่อง่ายถ้าหนังสือไม่ชวนอ่านจริงๆคือไม่แตะเลย อีกอย่างพอเราอ่านจบหนังสือแบบนี้จะเป็นแบบอ่านจบแต่ยังไม่จบยังไงๆก็ต้องกลับมาอ่านอีกอยู่ดี เพราะเราคงจำได้ไม่หมดทุกคำหรอก เพราะฉะนั้นมันช่วยเรามากๆในการแปลบทความที่โรงเรียน ไม่แน่ใจสำนวนไหนคือหาได้บางคำที่หาไม่เจอเราก็ดูคำใกล้เคียงก็ทำให้แปลได้ไวขึ้นคล่องขึ้นเปิดอ่านบ่อยๆเจอคำไหนบ่อยๆเราก็จะจำได้เองอัตโนมัติโดยไม่ต้องท่องจำเลย แต่ด้วยความหนาของมันนี่แหล่ะทำไห้กระเป๋าไปโรงเรียนทุกๆวันจันทร์จะต้องตุงทุกทีเพราะไหนจะหนังสือวิชาอื่นอีก แต่ก็ถือว่าเนื้อหาแน่นปึ๊ก เรื่องความลำบากในการพกนี่เราก็ไม่ได้มีปัญหามากเพราะมันช่วยเราให้ได้คะแนนเยอะขึ้นเพื่อนๆที่มีปัญหาเหมือนเราลองไปนั่งอ่านที่ร้านหนังสือก่อนก็ได้ แล้วถ้าถูกใจและชื่นชอบเหมือนเราค่อยซื้อมาไว้ครอบครอง เพราะเราก็ทำแบบนั้นจนตอนนี้หนังสือเต็มบ้านแล้ว555 แล้วนอกจากจะช่วยในการแปลบทความในคาบเรียนแล้วนะมันยังช่วยเรื่องการสอบปลายภาคด้วย เพราะถ้าเราเจอคำไหนบ่อยๆแล้วจำได้สำนวนนี้เคยผ่านตาไปเจอในข้อสอบนี่ตาลุกวาวเลยแบบว่าฉันทำได้ฉันทำได้ เล่มนี้เป็นอีกหนึ่งหนังสือเล่มโปรดจากร้อยๆกว่าเล่ม ถึงแม้มันจะไม่ค่อยมีสีสันแต่เราเน้นการทำความเข้าใจมากกว่าเลยไม่มองว่านั่นเป็นอุปสรรค์ในการเรียนรู้เพราะไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นในการเรียนแบบนี้อยู่แล้ว โดยรวมถือว่าประทับใจมากซื้อมาแล้วไม่ผิดหวังเพื่อนๆลองไปหาซื้อมาอ่านนะค่ะ รับรองว่าคุ้มค่าคุ้มราคาแน่นอนค่ะ

เชื่อว่าทุกๆคนต้องมีปัญหาในการแปลบทความภาษาอังกฤษเหมือนเราแน่ๆ คือเรารู้ความหมายของคำนี้คำนี้แต่พอมันมารวมๆกันเป็นประโยคก็จะเริ่มเอ๋อละ ..เอมันแปลว่าไรหว่า ? เราแบบเครียดมากเพราะถ้าทำไม่ได้สอบคราวนี้มีหวังตกแน่ๆ เดินผ่านร้านหนังสือเลยแวะเข้าไปดูซะหน่อยว่าพอจะมีอะไรที่ช่วยได้มั้ย เดินวกไปวนมาก็เจอเล่มนี้ละค่ะตอนแรกก็นึกว่าจะเป็นหนังสือสอนศัพท์ทั่วไปแต่พลิกๆอ่านแล้วแบบตอนนี้ เอ้ย ! เจอที่เราตามหาแล้วว เลยได้สอยกลับมาบ้านเล่มหนึ่ง มันจะแบ่งเอาไว้เป็นคำทั้งหมด30คำเป็นหัวข้อใหญ่ๆ ไอ้30คำนี้แหล่ะที่มันจะแตกย่อยออกเป็นสำนวนได้ร้อยพันแปดซึ่งในหนังสือจะยกตัวอย่างมาเพียงหัวข้อละ10สำนวนที่เราจะต้องเจอบ่อยๆ ซึ่งมันก็เป็นคำที่เราหาและต้องการอยู่ทุกคำ ภาษาใช้เขียนก็อ่านง่ายมากก แบบคล้ายๆว่าเป็นภาษาพูดไม่ใช่ภาษาเขียนอ่านแล้วรู้สึกสนุกไม่น่าเบื่อแม้มันจะเป็นหนังสือที่มีแต่ตัวอักษรแถมมีสันก็จืดชืดแต่มันทำให้เราอ่านแล้วเพลินได้อย่างไม่น่าเชื่อ ภาษาที่ใช้เขียนนี่แหล่ะที่เราปลื้มที่สุดมันเหมือนกับว่าเราไปนั่งเรียนกับคนเขียนตัวต่อตัวไม่ได้อ่านหนังสือ การออกแบบหน้าปกหนังสือก็ดูดีมีคลาส เห็นแล้วหยิบเลยเพราะเราเป็นคนเบื่อง่ายถ้าหนังสือไม่ชวนอ่านจริงๆคือไม่แตะเลย อีกอย่างพอเราอ่านจบหนังสือแบบนี้จะเป็นแบบอ่านจบแต่ยังไม่จบยังไงๆก็ต้องกลับมาอ่านอีกอยู่ดี เพราะเราคงจำได้ไม่หมดทุกคำหรอก เพราะฉะนั้นมันช่วยเรามากๆในการแปลบทความที่โรงเรียน ไม่แน่ใจสำนวนไหนคือหาได้บางคำที่หาไม่เจอเราก็ดูคำใกล้เคียงก็ทำให้แปลได้ไวขึ้นคล่องขึ้นเปิดอ่านบ่อยๆเจอคำไหนบ่อยๆเราก็จะจำได้เองอัตโนมัติโดยไม่ต้องท่องจำเลย แต่ด้วยความหนาของมันนี่แหล่ะทำไห้กระเป๋าไปโรงเรียนทุกๆวันจันทร์จะต้องตุงทุกทีเพราะไหนจะหนังสือวิชาอื่นอีก แต่ก็ถือว่าเนื้อหาแน่นปึ๊ก เรื่องความลำบากในการพกนี่เราก็ไม่ได้มีปัญหามากเพราะมันช่วยเราให้ได้คะแนนเยอะขึ้นเพื่อนๆที่มีปัญหาเหมือนเราลองไปนั่งอ่านที่ร้านหนังสือก่อนก็ได้ แล้วถ้าถูกใจและชื่นชอบเหมือนเราค่อยซื้อมาไว้ครอบครอง เพราะเราก็ทำแบบนั้นจนตอนนี้หนังสือเต็มบ้านแล้ว555 แล้วนอกจากจะช่วยในการแปลบทความในคาบเรียนแล้วนะมันยังช่วยเรื่องการสอบปลายภาคด้วย เพราะถ้าเราเจอคำไหนบ่อยๆแล้วจำได้สำนวนนี้เคยผ่านตาไปเจอในข้อสอบนี่ตาลุกวาวเลยแบบว่าฉันทำได้ฉันทำได้ เล่มนี้เป็นอีกหนึ่งหนังสือเล่มโปรดจากร้อยๆกว่าเล่ม ถึงแม้มันจะไม่ค่อยมีสีสันแต่เราเน้นการทำความเข้าใจมากกว่าเลยไม่มองว่านั่นเป็นอุปสรรค์ในการเรียนรู้เพราะไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นในการเรียนแบบนี้อยู่แล้ว โดยรวมถือว่าประทับใจมากซื้อมาแล้วไม่ผิดหวังเพื่อนๆลองไปหาซื้อมาอ่านนะค่ะ รับรองว่าคุ้มค่าคุ้มราคาแน่นอนค่ะ

ยอมรับว่าซื้อมาเพราะคำพูดหน้าปกหนังสือที่ว่า ‘ เรียนรู้ได้สนุกเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องท่องจำ’ คำว่าไม่ต้องท่องจำนี้แหล่ะเห็นปุ๊บหยิบปั๊บ ตอนนั้นเพิ่งจะเริ่มเรียนภาษาใหม่ๆ ซื้อหนังสือญี่ปุ่นที่ถูกใจมาหมด แล้วค่อยมานั่งอ่านที่บ้านทำให้มีหนังสือเกี่ยวกับภาษาญี่ปุ่นเยอะมาก เล่มนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น เนื้อกระดาษด้านในใช้กระดาษถนอมสายตาซึ่งอันนี้เราชอบเป็นการส่วนตัว จะมีการจำลองเหตุการณ์ต่างๆขึ้นมาให้เราใช้รูปประโยคในแต่ละบท เหมือนจะเน้นการแต่งรูปประโยคเองโดยไม่ต้องดูหนังสือบ่อยๆเพราะผู้เขียนได้ย้ำกำชับไว้ทุกบทว่า เราจะต้องแต่งเอง ใช้ได้ตามเหตุการณ์ ใช้ได้คล่องโดยไม่ต้องมานั่งอ่านซ้ำซึ่งเป็นการเรียนรู้โดยวิธีการทำให้ชินโดยธรรมชาติ เราใช้อ่านเสริมกับแบบเรียนหลักเอามานั่งอ่านเวลาว่างๆลองแต่งประโยค ตามเงื่อนไขที่หนังสือบอกไว้ ในแต่ละบทจะมีคำศัพท์เยอะมากๆให้เราใช้ประกอบการเรียน เหมาะกับการเรียนเอง เรียนที่บ้าน และต้องการพูดให้เปะ ส่วนนี้เราว่าช่วยได้มาก เพราะในแบบเรียนหลักมันไม่ละเอียดเท่านี้เรื่องของการฝึกแต่งประโยคซึ่งเราใช้เรียนเสริมแล้วมันดีขึ้น เข้าใจรูปประโยคมากขึ้น แม้จะผิดหวังกับสีสันอันจืดชืดของเล่มนี้ไปหน่อยเพราะราคา250บาทเราก็หวังว่าจะมีสีสันมากกว่าขาวดำ แต่เนื้อหาด้านในก็ไม่ใช่เนื้อหาที่จะต้องมีสีสันอยู่แล้วก็เลยไม่คิดว่ามันเป็นข้อผิดพลาด บอกตรงๆว่ารูปลักษณ์ของมันดูเหมือนจะไม่มีอะไรมากแต่พอได้ลองอ่านแล้วรู้สึกชอบ อ่านได้เรื่อยๆ เพลินว่างั้นเถอะ เรามานั่งอ่านแล้วพบว่ามันเป็นหนังสือแปลต้องชื่นชมคนแปลที่แปลได้ไม่มีติดขัด และถ้าไม่บอกก็คงไม่รู้เลย ภาษาที่ใช้ดูเรียบง่าย ให้เราจำลองเป็นตัวละครหลักที่มีเพื่อนชาวญี่ปุ่นมาประเทศไทย นั่งอ่านไปก็นึกภาพตามไป สนุกดีไม่น่าเบื่อ การแต่งประโยคก็ไม่น่าเบื่อ ทำซ้ำๆแบบเดิมๆในแต่ละบทเราก็ไม่เบื่อเพราะมันมีเนื้อเรื่องเหมือนเรานั่งอ่านการ์ตูนแล้วสนทนาโต้ตอบมากกว่าอ่านหนังสือ เวลากลัวว่าจะพูดไม่ถูกต้องก็จะเปิดซีดีที่แถมมาในเล่มฟังไปด้วย ยิ่งทำให้เหมือนเราอยู่ในเหตุการณ์จริงๆ แล้วมันจะสนุกไม่เบื่อไม่ง่วง เพื่อนๆที่เรียนภาษาญี่ปุ่นเราแนะนำให้ซื้อไปอ่านเสริมเพราะมันช่วยเรามาก ราคาก็ดีพอสมควรไม่แพงเกินไป แต่จะหาซื้อยากจะหน่อย ทางที่ดีซื้อทางเว็บเลยก็เจ๋งค่ะ ไม่เสียค่าเดินทาง เราว่าค่าเดินทางจะแพงกว่าค่าจัดส่งซะอีก หวังว่าทุกๆคนที่ซื้อมาอ่านจะชอบเหมือนเรานะค่ะ ใครที่ลังเลใจอ่านบทรีวิวของเราอยู่ละก็ไม่ต้องคิดนานค่ะ มันดีแน่นอนเราไม่ผิดหวังค่ะ

ยอมรับว่าซื้อมาเพราะคำพูดหน้าปกหนังสือที่ว่า ‘ เรียนรู้ได้สนุกเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องท่องจำ’ คำว่าไม่ต้องท่องจำนี้แหล่ะเห็นปุ๊บหยิบปั๊บ ตอนนั้นเพิ่งจะเริ่มเรียนภาษาใหม่ๆ ซื้อหนังสือญี่ปุ่นที่ถูกใจมาหมด แล้วค่อยมานั่งอ่านที่บ้านทำให้มีหนังสือเกี่ยวกับภาษาญี่ปุ่นเยอะมาก เล่มนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น เนื้อกระดาษด้านในใช้กระดาษถนอมสายตาซึ่งอันนี้เราชอบเป็นการส่วนตัว จะมีการจำลองเหตุการณ์ต่างๆขึ้นมาให้เราใช้รูปประโยคในแต่ละบท เหมือนจะเน้นการแต่งรูปประโยคเองโดยไม่ต้องดูหนังสือบ่อยๆเพราะผู้เขียนได้ย้ำกำชับไว้ทุกบทว่า เราจะต้องแต่งเอง ใช้ได้ตามเหตุการณ์ ใช้ได้คล่องโดยไม่ต้องมานั่งอ่านซ้ำซึ่งเป็นการเรียนรู้โดยวิธีการทำให้ชินโดยธรรมชาติ เราใช้อ่านเสริมกับแบบเรียนหลักเอามานั่งอ่านเวลาว่างๆลองแต่งประโยค ตามเงื่อนไขที่หนังสือบอกไว้ ในแต่ละบทจะมีคำศัพท์เยอะมากๆให้เราใช้ประกอบการเรียน เหมาะกับการเรียนเอง เรียนที่บ้าน และต้องการพูดให้เปะ ส่วนนี้เราว่าช่วยได้มาก เพราะในแบบเรียนหลักมันไม่ละเอียดเท่านี้เรื่องของการฝึกแต่งประโยคซึ่งเราใช้เรียนเสริมแล้วมันดีขึ้น เข้าใจรูปประโยคมากขึ้น แม้จะผิดหวังกับสีสันอันจืดชืดของเล่มนี้ไปหน่อยเพราะราคา250บาทเราก็หวังว่าจะมีสีสันมากกว่าขาวดำ แต่เนื้อหาด้านในก็ไม่ใช่เนื้อหาที่จะต้องมีสีสันอยู่แล้วก็เลยไม่คิดว่ามันเป็นข้อผิดพลาด บอกตรงๆว่ารูปลักษณ์ของมันดูเหมือนจะไม่มีอะไรมากแต่พอได้ลองอ่านแล้วรู้สึกชอบ อ่านได้เรื่อยๆ เพลินว่างั้นเถอะ เรามานั่งอ่านแล้วพบว่ามันเป็นหนังสือแปลต้องชื่นชมคนแปลที่แปลได้ไม่มีติดขัด และถ้าไม่บอกก็คงไม่รู้เลย ภาษาที่ใช้ดูเรียบง่าย ให้เราจำลองเป็นตัวละครหลักที่มีเพื่อนชาวญี่ปุ่นมาประเทศไทย นั่งอ่านไปก็นึกภาพตามไป สนุกดีไม่น่าเบื่อ การแต่งประโยคก็ไม่น่าเบื่อ ทำซ้ำๆแบบเดิมๆในแต่ละบทเราก็ไม่เบื่อเพราะมันมีเนื้อเรื่องเหมือนเรานั่งอ่านการ์ตูนแล้วสนทนาโต้ตอบมากกว่าอ่านหนังสือ เวลากลัวว่าจะพูดไม่ถูกต้องก็จะเปิดซีดีที่แถมมาในเล่มฟังไปด้วย ยิ่งทำให้เหมือนเราอยู่ในเหตุการณ์จริงๆ แล้วมันจะสนุกไม่เบื่อไม่ง่วง เพื่อนๆที่เรียนภาษาญี่ปุ่นเราแนะนำให้ซื้อไปอ่านเสริมเพราะมันช่วยเรามาก ราคาก็ดีพอสมควรไม่แพงเกินไป แต่จะหาซื้อยากจะหน่อย ทางที่ดีซื้อทางเว็บเลยก็เจ๋งค่ะ ไม่เสียค่าเดินทาง เราว่าค่าเดินทางจะแพงกว่าค่าจัดส่งซะอีก หวังว่าทุกๆคนที่ซื้อมาอ่านจะชอบเหมือนเรานะค่ะ ใครที่ลังเลใจอ่านบทรีวิวของเราอยู่ละก็ไม่ต้องคิดนานค่ะ มันดีแน่นอนเราไม่ผิดหวังค่ะ

เริ่มเข้าบทแรกก็เจอโจทย์เลย ยอมรับว่าทำไม่ได้เลยค่ะ เพราะตอนซื้อมานี่ความรู้ภาษาอังกฤษอยู่ในระดับต้นเท่านั้น แต่เมื่อทดลองทำโดยอาศัยหนังสือแปลศัพท์เข้ามาช่วยก็ทำได้บ้าง คือต้องมีความรู้พื้นฐานและศัพท์มาแน่นพอสมควรเลย ข้อสอบดูยากและท้าทายค่ะ โจทย์หลากหลายแบบมาก บางข้อก็ง่าย บางข้อยากแบบเกินไปฉันทำไม่ได้จริงๆต้องพลิกไปดูเฉลยๆฮ่าๆ เจอโจทย์แปลกๆที่ไม่เคยเจอซึ่งการอ่านหนังสือเล่มนี้เหมือนการเตรียมพร้อมค่ะ ดูว่าเราจะต้องเจออะไรแบบไหนควรจะอ่านและเน้นจุดด้อยของเราตรงไหนบ้าง ช่วยได้เยอะเลยค่ะ แต่ก็มีตรงจุดที่อยากให้แก้อยู่ค่ะคือช่วงเฉลยด้านหลังอยากทำให้มันละเอียดกว่านี้คือชี้ไปเป็นจุดๆเลยว่าคำไหนอะไรอะไรเพราะ ถ้าคนที่มีพื้นฐานไม่แน่นก็จะอ่านเฉลยไม่เข้าใจเท่าไหร่ค่ะ หนังสือจัดรูปแบบได้ดีค่ะ เพราะมันเป็นข้อสอบทั้งเล่มไม่มีทวนอะไรทั้งสิ้น เยอะดีทำได้เรื่อยๆแบบค่อยเป็นค่อยไป ทำไปได้สักพักก็จะเริ่มชินกับโจทย์รูปแบบที่มักออกเสมอๆ ตอนนี้อ่านและลองทำไปทั้งเล่มแล้วช่วยเราในเรื่องของการเดาสถานการณ์ความน่าจะเป็นและดูจากคีย์เวิร์ด และดูคำตอบว่าเป็นแบบแนวไหนช่วยเรื่องการทำเวลาในการสอบด้วยค่ะ หนังสือทั้งเล่มไม่มีรูปเลย พิมพ์ด้วยสีขาวดำทั้งเล่ม แต่แบบเราคิดว่าทำไมราคาถึงแพงจัง น่าจะถูกกว่านี้สัดนิดนึงเพราะเนื้อหาก็ไม่ได้มากมายเท่าไหร่อยู่ในระดับปกติ การออกแบบหนังสือก็ถือว่าดูดี คือมันดีทุกอย่างจริงๆติดอยู่แค่ราคานี่แหล่ะ ถ้าอัพไห้น้อยกว่านี้ได้ก็ถือว่าจะดีมากๆ เฉลยด้วยถ้าเฉลยละเอียดกว่านี้จะดีมากเหมือนกัน หนังสือเล่มนี้เราจะทำในช่วงวันว่างๆคือไม่รีบช่วงนี้ยังไม่สอบGAT อ่านเตรียมๆเอาไว้เวลาเจอข้อสอบจะได้พอเดาได้ เพราะเราไม่ค่อยเก่งอังกฤษเท่าไหร่ อาศัยการทำความเข้าใจในระดับนึงก็ถือว่าเยี่ยมแล้ว ข้อสอบครึ่งเล่ม เฉลยอีกครึ่งเล่ม ทำไปดูหนังไปยังได้คือชิวๆ พอไกล้สอบต้องจริงจังกว่านี้แน่ๆละ อาจจะแค่หยิบมาอ่านทวนแล้วไปสิงแกรมม่าต่อ ใครที่รู้ตัวว่ายังไม่แม่นเราเชียร์ให้หามาอ่านค่ะ เพราะเราจะรู้ระดับตัวเองเห็นจุดด้อยของเราชัดเจน ง่ายต่อการพัฒนาตัวเองค่ะ เรื่องราคานี่ก็แล้วแต่ความคิดของแต่ละบุคคลด้วยนะค่ะ บางคนมองว่าไม่เป็นปัญหาก็มีค่ะ โดยรวมแล้วเริศมากค่ะ ซื้อมาไม่ผิดหวังในเนื้อหา แอบเสียดายเงินนิดๆแต่ก็คุ้มค่าค่ะ เชียร์ให้ซื้อนะค่ะเพราะมันจำเป็นจริงๆและฝึกบ่อยๆจะจำและจับแนวได้ค่ะ

เริ่มเข้าบทแรกก็เจอโจทย์เลย ยอมรับว่าทำไม่ได้เลยค่ะ เพราะตอนซื้อมานี่ความรู้ภาษาอังกฤษอยู่ในระดับต้นเท่านั้น แต่เมื่อทดลองทำโดยอาศัยหนังสือแปลศัพท์เข้ามาช่วยก็ทำได้บ้าง คือต้องมีความรู้พื้นฐานและศัพท์มาแน่นพอสมควรเลย ข้อสอบดูยากและท้าทายค่ะ โจทย์หลากหลายแบบมาก บางข้อก็ง่าย บางข้อยากแบบเกินไปฉันทำไม่ได้จริงๆต้องพลิกไปดูเฉลยๆฮ่าๆ เจอโจทย์แปลกๆที่ไม่เคยเจอซึ่งการอ่านหนังสือเล่มนี้เหมือนการเตรียมพร้อมค่ะ ดูว่าเราจะต้องเจออะไรแบบไหนควรจะอ่านและเน้นจุดด้อยของเราตรงไหนบ้าง ช่วยได้เยอะเลยค่ะ แต่ก็มีตรงจุดที่อยากให้แก้อยู่ค่ะคือช่วงเฉลยด้านหลังอยากทำให้มันละเอียดกว่านี้คือชี้ไปเป็นจุดๆเลยว่าคำไหนอะไรอะไรเพราะ ถ้าคนที่มีพื้นฐานไม่แน่นก็จะอ่านเฉลยไม่เข้าใจเท่าไหร่ค่ะ หนังสือจัดรูปแบบได้ดีค่ะ เพราะมันเป็นข้อสอบทั้งเล่มไม่มีทวนอะไรทั้งสิ้น เยอะดีทำได้เรื่อยๆแบบค่อยเป็นค่อยไป ทำไปได้สักพักก็จะเริ่มชินกับโจทย์รูปแบบที่มักออกเสมอๆ ตอนนี้อ่านและลองทำไปทั้งเล่มแล้วช่วยเราในเรื่องของการเดาสถานการณ์ความน่าจะเป็นและดูจากคีย์เวิร์ด และดูคำตอบว่าเป็นแบบแนวไหนช่วยเรื่องการทำเวลาในการสอบด้วยค่ะ หนังสือทั้งเล่มไม่มีรูปเลย พิมพ์ด้วยสีขาวดำทั้งเล่ม แต่แบบเราคิดว่าทำไมราคาถึงแพงจัง น่าจะถูกกว่านี้สัดนิดนึงเพราะเนื้อหาก็ไม่ได้มากมายเท่าไหร่อยู่ในระดับปกติ การออกแบบหนังสือก็ถือว่าดูดี คือมันดีทุกอย่างจริงๆติดอยู่แค่ราคานี่แหล่ะ ถ้าอัพไห้น้อยกว่านี้ได้ก็ถือว่าจะดีมากๆ เฉลยด้วยถ้าเฉลยละเอียดกว่านี้จะดีมากเหมือนกัน หนังสือเล่มนี้เราจะทำในช่วงวันว่างๆคือไม่รีบช่วงนี้ยังไม่สอบGAT อ่านเตรียมๆเอาไว้เวลาเจอข้อสอบจะได้พอเดาได้ เพราะเราไม่ค่อยเก่งอังกฤษเท่าไหร่ อาศัยการทำความเข้าใจในระดับนึงก็ถือว่าเยี่ยมแล้ว ข้อสอบครึ่งเล่ม เฉลยอีกครึ่งเล่ม ทำไปดูหนังไปยังได้คือชิวๆ พอไกล้สอบต้องจริงจังกว่านี้แน่ๆละ อาจจะแค่หยิบมาอ่านทวนแล้วไปสิงแกรมม่าต่อ ใครที่รู้ตัวว่ายังไม่แม่นเราเชียร์ให้หามาอ่านค่ะ เพราะเราจะรู้ระดับตัวเองเห็นจุดด้อยของเราชัดเจน ง่ายต่อการพัฒนาตัวเองค่ะ เรื่องราคานี่ก็แล้วแต่ความคิดของแต่ละบุคคลด้วยนะค่ะ บางคนมองว่าไม่เป็นปัญหาก็มีค่ะ โดยรวมแล้วเริศมากค่ะ ซื้อมาไม่ผิดหวังในเนื้อหา แอบเสียดายเงินนิดๆแต่ก็คุ้มค่าค่ะ เชียร์ให้ซื้อนะค่ะเพราะมันจำเป็นจริงๆและฝึกบ่อยๆจะจำและจับแนวได้ค่ะ

รากบุญ รอยรักแรงมาร
เนื่องจากเป็นแฟนละครเรื่องนี้ตั้งแต่ภาคแรกอยู่แล้ว แม้จะได้ดูในรูปแบบที่เป็นละครแล้วแต่ก็อดที่จะหาหนังสือมาอ่านอีก เพราะชอบมาก เรื่องราวมันเข้มข้นขึ้นจากตอนที่แล้วเยอะเลย ยิ่งมาอ่านในหนังสือยิ่งรู้สึกว่าสนุก เพราะเมื่ออ่านแล้วเราสามารถจินตนาการตามได้ แม้ว่าเนื้อหาจะไม่เหมือนกับในละครทุกอย่าง แต่ในหนังสือละเอียดและให้ความรู้สึกคล้อยตามได้มากกว่าเพราะเรื่องราวต่อเนื่อง ในตอนนี้มีเพิ่ม พิมพ์อรมาเป็นตัวเด่นอีกตัวละครยิ่งทำให้เรื่องราวดูเข้มข้นมากขึ้น โดยส่วนตัวแล้วที่ชอบเรื่องนี้มากเพราะเป็นคนข่อนข้างชอบศึกษาเรื่องราวบาปบุญและธรรมะ และเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวเนื่องด้วยเช่นกัน อ่านแล้วยิ่งทำให้ได้ข้อคิดในหลายๆแง่มุมในการดำเนินชีวิต สะท้อนให้เห็นความ รัก โลภ โกรธหลง ของคนมากขึ้น ทั้งสนุกทั้งให้แง่คิดดี ไม่ว่าจะเป็นบทบาทของนางเอก พระเอก และตัวละครหลายๆตัว สื่อให้เห็นความคิดและทางเลือกชีวิตของแต่ละคนแตกต่างกันไป ความอยากได้ แม้จะต้องแลกด้วยความไม่ถูกต้อง หรือทำให้คนอื่นเดือดร้อนก็ตาม แต่สุดท้ายกล่องรากบุญก็ไม่ได้ทำให้ใครสมหวัง อย่างมีความสุขเลยสักคน ส่วนแล้วแต่มีสิ่งที่ต้องแลก ทำให้คนรอบตัวเดือดร้อนไปหมดเพราะความเห็นแก่ตัวของตัวเอง และสุดท้ายแล้วตัวเองก็ต้องตาย ความโลภมากทำให้ลาภหายจริงๆ ซึ่งชีวิตจริงของคนเราก็เป็นแบบนั้นจริงๆ สำหรับใครที่ยังไม่เคยอ่านเลย ถ้าได้ลองอ่านแล้วจะชอบเหมือนเรา เพราะในเรื่องมันมีหลายแง่มุม ไม่ใช่เพียงข้อคิดดีๆเท่านั้น สำหรับคนที่ชอบหนังสือแนวน่ากลัว ลึกลับสยองขวัญก็สามารถอ่านเป็นหนังสือเล่มโปรดได้เหมือนกัน ถึงแม้ว่าเนื้อหาในบางช่วงอาจจะอ่านแล้วงงๆ ซับสนไปบ้างแต่พออ่านจนจบเรื่องแล้ว ก็เข้าใจทุกอย่างเป็นอย่างดี ถ้ามีเล่มใหม่ที่มีตอนใหม่ออกมาเรื่อยๆก็คงดี อิอิ จะได้ติดตามตามเรื่อยๆ เพราะเป็นเรื่องราวที่ทำให้อยากติดตามและลุ้นต่อไปอยู่เรื่อยๆว่าจะมีอะไรที่คาดไม่ถึงอีกไหม จะตื่นเต้นแค่ไหน ชอบมากค่ะเป็นหนังสือที่อ่านได้ไม่เบื่อ และจะคอยติดตามต่อไปเรื่อยๆนะค่ะ จินตนาการพระเอก ก็คงจะหล่อและเท่มากเลย แม้จะอ่านแล้วจินตนาการว่าน่ากลัวไปหน่อย แต่ด้วยความที่ชอบเรื่องราวและการดำเนินเรื่อง เลยติดใจหนังสือแนวนี้เอาซะแล้ว คงจะต้องการอีกหลายรอบเลยทีเดียว ในช่วงวันหยุดหรือเวลาว่าง สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่ยังไม่อ่านลองหาซื้อมาอ่านกันดูนะค่ะ รับรองว่าจะไม่ผิดหวังกับหนงสือเล่มนี้เพราะมันสนุกเข้มข้นจริงๆค่ะ

รากบุญ รอยรักแรงมาร
เนื่องจากเป็นแฟนละครเรื่องนี้ตั้งแต่ภาคแรกอยู่แล้ว แม้จะได้ดูในรูปแบบที่เป็นละครแล้วแต่ก็อดที่จะหาหนังสือมาอ่านอีก เพราะชอบมาก เรื่องราวมันเข้มข้นขึ้นจากตอนที่แล้วเยอะเลย ยิ่งมาอ่านในหนังสือยิ่งรู้สึกว่าสนุก เพราะเมื่ออ่านแล้วเราสามารถจินตนาการตามได้ แม้ว่าเนื้อหาจะไม่เหมือนกับในละครทุกอย่าง แต่ในหนังสือละเอียดและให้ความรู้สึกคล้อยตามได้มากกว่าเพราะเรื่องราวต่อเนื่อง ในตอนนี้มีเพิ่ม พิมพ์อรมาเป็นตัวเด่นอีกตัวละครยิ่งทำให้เรื่องราวดูเข้มข้นมากขึ้น โดยส่วนตัวแล้วที่ชอบเรื่องนี้มากเพราะเป็นคนข่อนข้างชอบศึกษาเรื่องราวบาปบุญและธรรมะ และเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวเนื่องด้วยเช่นกัน อ่านแล้วยิ่งทำให้ได้ข้อคิดในหลายๆแง่มุมในการดำเนินชีวิต สะท้อนให้เห็นความ รัก โลภ โกรธหลง ของคนมากขึ้น ทั้งสนุกทั้งให้แง่คิดดี ไม่ว่าจะเป็นบทบาทของนางเอก พระเอก และตัวละครหลายๆตัว สื่อให้เห็นความคิดและทางเลือกชีวิตของแต่ละคนแตกต่างกันไป ความอยากได้ แม้จะต้องแลกด้วยความไม่ถูกต้อง หรือทำให้คนอื่นเดือดร้อนก็ตาม แต่สุดท้ายกล่องรากบุญก็ไม่ได้ทำให้ใครสมหวัง อย่างมีความสุขเลยสักคน ส่วนแล้วแต่มีสิ่งที่ต้องแลก ทำให้คนรอบตัวเดือดร้อนไปหมดเพราะความเห็นแก่ตัวของตัวเอง และสุดท้ายแล้วตัวเองก็ต้องตาย ความโลภมากทำให้ลาภหายจริงๆ ซึ่งชีวิตจริงของคนเราก็เป็นแบบนั้นจริงๆ สำหรับใครที่ยังไม่เคยอ่านเลย ถ้าได้ลองอ่านแล้วจะชอบเหมือนเรา เพราะในเรื่องมันมีหลายแง่มุม ไม่ใช่เพียงข้อคิดดีๆเท่านั้น สำหรับคนที่ชอบหนังสือแนวน่ากลัว ลึกลับสยองขวัญก็สามารถอ่านเป็นหนังสือเล่มโปรดได้เหมือนกัน ถึงแม้ว่าเนื้อหาในบางช่วงอาจจะอ่านแล้วงงๆ ซับสนไปบ้างแต่พออ่านจนจบเรื่องแล้ว ก็เข้าใจทุกอย่างเป็นอย่างดี ถ้ามีเล่มใหม่ที่มีตอนใหม่ออกมาเรื่อยๆก็คงดี อิอิ จะได้ติดตามตามเรื่อยๆ เพราะเป็นเรื่องราวที่ทำให้อยากติดตามและลุ้นต่อไปอยู่เรื่อยๆว่าจะมีอะไรที่คาดไม่ถึงอีกไหม จะตื่นเต้นแค่ไหน ชอบมากค่ะเป็นหนังสือที่อ่านได้ไม่เบื่อ และจะคอยติดตามต่อไปเรื่อยๆนะค่ะ จินตนาการพระเอก ก็คงจะหล่อและเท่มากเลย แม้จะอ่านแล้วจินตนาการว่าน่ากลัวไปหน่อย แต่ด้วยความที่ชอบเรื่องราวและการดำเนินเรื่อง เลยติดใจหนังสือแนวนี้เอาซะแล้ว คงจะต้องการอีกหลายรอบเลยทีเดียว ในช่วงวันหยุดหรือเวลาว่าง สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่ยังไม่อ่านลองหาซื้อมาอ่านกันดูนะค่ะ รับรองว่าจะไม่ผิดหวังกับหนงสือเล่มนี้เพราะมันสนุกเข้มข้นจริงๆค่ะ

"พูดถึงเรื่องราวความรัก ไม่ว่าจะต่างอายุ ต่างภาษา ต่างที่มา ต่างวัฒนธรรม มันก็เป็นเรื่องของโชคชะตาและพรมลิขิตที่ทำให้คนเราได้พบเจอกัน รู้จักและรักกันในที่สุด หนังสือเล่มนี้นำเสนอเรื่องราวความรัก ที่เรียกได้ว่ารักที่ต่างกันทุกอย่างก็ว่าได้ ไม่มีอะไรที่เหมือนกันเลย อ่านแล้วอินค่ะ ทำให้คนที่มีความรักที่ยากจะสมหวัง มีกำลังใจต่อสู้เพื่อให้ได้ความรักนั้นมา และทำให้คนที่สมหวังในความรักรู้จักคุณค่าของความรักมากยิ่งขึ้น เรื่องราวความรักของสาวออสเตรเลียกับหนุ่มพม่าที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่จะได้ครอบครองบัลลังแห่งรัฐฉาน ความรักของเธอกับเขาเกิดขึ้นอย่างสวยงาม แต่ต้องมีอุปสรรคหลายอย่างมากมายในการพิสูจน์รักและเพื่อจะได้อยู่ครองรักกัน ในที่สุดพลังความรักและความอดทนต่อสู้กับอุปสรรคปัญหาทุกอย่างได้ เป็นเรื่องราวที่อ่านแล้วยิ้มได้ไม่มีเบื่อ ลุ้นตลอดว่าหน้าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น อินกับภาษาที่นำพาเราสู่ห้วงแห่งจินตนาการ รัฐฉานที่แสนจะสวยงามอุดมสมบูรณ์ รูปใบหน้าอันหล่อเหลาของชายหนุ่มผู้เป็นพระเอกของเรื่อง ทำให้ชวนฝันถึงการเป็นเธอคนนั้นที่ที่ได้รับความรักที่งดงามจากชายหนุ่ม การใช้คำและประโยคในแต่ละฉากตอนทำให้รู้สึกดีกับเรื่องราว เป็นหนังสือที่คนชอบนิยายรักคงหลงไหลอีกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว ขนาดตัวเราเองไม่ค่อยได้ซื้อหนังสือประเภทนี้อ่านสักเท่าไหร่ พอมาเจอเพื่อนซื้อมาลองยืมมาอ่าน ยังคิดเลยว่าเออเวลาว่างเราควรจะซื้อหนังสือแบบนี้มาอ่านเล่นบ้างนะเพราะสนุกดีทำให้เรายิ้มได้ เวลาที่มีเรื่องเครียดๆหรือเหนื่อยจากการทำงานคงช่วยได้มากพอควร แค่อ่านเรื่องนี้เรื่องเดียวยังทำให้ชีวิตรู้สึกว่ามีความสุขขึ้นอย่างบอกไม่ถูก บางครั้งที่ต่อสู้ปัญหาอะไรมากมายในชีวิตมันก็เหนื่อย หนังสือที่มีเขียนบรรยายเรื่องราวที่ชวนจินตนาการแบบนี้ก็คงเป็นพาหนะนำเราหลุดพ้นไปจากชีวิตความเป็นจริง ได้ช่วงหนึ่งเหมือนกันนะ สำหรับบางคนอาจะคิดว่าหนังสือประเภทนี้ไร้สาระ เราเองก็เคยคิด แต่วันนี้รู้แล้วว่าเราคิดผิด เราไม่จำเป็นต้องอ่านให้ถึงกับติด แต่อ่านพอให้เป็นยาและกำลังใจ ในการดำเนินชีวิตต่อไปด้วยรอยยิ้มบ้าง เรื่องราวแต่ละเรื่องในหนังสือใช่จะมีแต่เรื่องที่ดูไร้สาระเสมอไป ถ้าอ่านให้เป็นสาระมากกว่าความบันเทิงก็มี หนังสือเล่มนี้ทำให้เราเปลี่ยนมุมมอง ที่เคยแย่กับหนังสือประเภทนิยายรักเลยก็ว่าได้ สนุกดีและมีสาระอยู่ไม่น้อยเลยถึงแม้เนื้อเรื่องจะเยอะไปหน่อยแต่คุ้มค่ากับการอ่านจนจบจริงๆ
"

"พูดถึงเรื่องราวความรัก ไม่ว่าจะต่างอายุ ต่างภาษา ต่างที่มา ต่างวัฒนธรรม มันก็เป็นเรื่องของโชคชะตาและพรมลิขิตที่ทำให้คนเราได้พบเจอกัน รู้จักและรักกันในที่สุด หนังสือเล่มนี้นำเสนอเรื่องราวความรัก ที่เรียกได้ว่ารักที่ต่างกันทุกอย่างก็ว่าได้ ไม่มีอะไรที่เหมือนกันเลย อ่านแล้วอินค่ะ ทำให้คนที่มีความรักที่ยากจะสมหวัง มีกำลังใจต่อสู้เพื่อให้ได้ความรักนั้นมา และทำให้คนที่สมหวังในความรักรู้จักคุณค่าของความรักมากยิ่งขึ้น เรื่องราวความรักของสาวออสเตรเลียกับหนุ่มพม่าที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่จะได้ครอบครองบัลลังแห่งรัฐฉาน ความรักของเธอกับเขาเกิดขึ้นอย่างสวยงาม แต่ต้องมีอุปสรรคหลายอย่างมากมายในการพิสูจน์รักและเพื่อจะได้อยู่ครองรักกัน ในที่สุดพลังความรักและความอดทนต่อสู้กับอุปสรรคปัญหาทุกอย่างได้ เป็นเรื่องราวที่อ่านแล้วยิ้มได้ไม่มีเบื่อ ลุ้นตลอดว่าหน้าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น อินกับภาษาที่นำพาเราสู่ห้วงแห่งจินตนาการ รัฐฉานที่แสนจะสวยงามอุดมสมบูรณ์ รูปใบหน้าอันหล่อเหลาของชายหนุ่มผู้เป็นพระเอกของเรื่อง ทำให้ชวนฝันถึงการเป็นเธอคนนั้นที่ที่ได้รับความรักที่งดงามจากชายหนุ่ม การใช้คำและประโยคในแต่ละฉากตอนทำให้รู้สึกดีกับเรื่องราว เป็นหนังสือที่คนชอบนิยายรักคงหลงไหลอีกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว ขนาดตัวเราเองไม่ค่อยได้ซื้อหนังสือประเภทนี้อ่านสักเท่าไหร่ พอมาเจอเพื่อนซื้อมาลองยืมมาอ่าน ยังคิดเลยว่าเออเวลาว่างเราควรจะซื้อหนังสือแบบนี้มาอ่านเล่นบ้างนะเพราะสนุกดีทำให้เรายิ้มได้ เวลาที่มีเรื่องเครียดๆหรือเหนื่อยจากการทำงานคงช่วยได้มากพอควร แค่อ่านเรื่องนี้เรื่องเดียวยังทำให้ชีวิตรู้สึกว่ามีความสุขขึ้นอย่างบอกไม่ถูก บางครั้งที่ต่อสู้ปัญหาอะไรมากมายในชีวิตมันก็เหนื่อย หนังสือที่มีเขียนบรรยายเรื่องราวที่ชวนจินตนาการแบบนี้ก็คงเป็นพาหนะนำเราหลุดพ้นไปจากชีวิตความเป็นจริง ได้ช่วงหนึ่งเหมือนกันนะ สำหรับบางคนอาจะคิดว่าหนังสือประเภทนี้ไร้สาระ เราเองก็เคยคิด แต่วันนี้รู้แล้วว่าเราคิดผิด เราไม่จำเป็นต้องอ่านให้ถึงกับติด แต่อ่านพอให้เป็นยาและกำลังใจ ในการดำเนินชีวิตต่อไปด้วยรอยยิ้มบ้าง เรื่องราวแต่ละเรื่องในหนังสือใช่จะมีแต่เรื่องที่ดูไร้สาระเสมอไป ถ้าอ่านให้เป็นสาระมากกว่าความบันเทิงก็มี หนังสือเล่มนี้ทำให้เราเปลี่ยนมุมมอง ที่เคยแย่กับหนังสือประเภทนิยายรักเลยก็ว่าได้ สนุกดีและมีสาระอยู่ไม่น้อยเลยถึงแม้เนื้อเรื่องจะเยอะไปหน่อยแต่คุ้มค่ากับการอ่านจนจบจริงๆ
"

หนังสือชุด โคฮะรุ เป็นหนังสือฝึกพูดโดยจำลองจากสถานการณ์ซะเป็นส่วนใหญ่ แปลกใจเล็กน้อยเมื่อมีชุดตัวอักษรคลอดออกมา ซึ่งตัวอักษรนี่แหล่ะเป็นสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้นเรียนภาษาญี่ปุ่น เพราะเราเองกว่าจะจำได้แต่ละตัวนี่ถือว่าต้องใช้เวลานานพอสมควรไหนจะตัวอักษรที่มีความคล้ายกันอีกยิ่งสับสนเข้าไปใหญ่ หนังสือส่วนใหญ่จะให้เราจำแบเพียวๆเลยว่า ตัวนี้อ่านอย่างไรเขียนอย่างไร แต่ไม่อธิบายให้เราจำได้ง่ายๆว่าควรจะจำแยกกับตัวอักษรอื่นอย่างไร เพราะฉะนั้นหนังสือเล่มนี้จึงตอบโจทย์เป็นอย่างดี เนื้อหาด้านในเรียงหมวดหมู่ของตัวอักษรไว้เป็นอย่างดี มีเนื้อหาการอ่าน และไวยากรณ์สอดแทรกมาเล็กน้อยในแต่ละบท หนังสือเล่มนี้ดีและแตกต่างกับเล่มอื่นๆอยู่ที่มีวิธีการจำที่ไม่เหมือนใคร นั่นคือการจำตัวอักษรจากจิตภาพ หรือจำเป็นรูปภาพนั่นเองตัวอย่างเช่นคำว่า ‘ โอะ ’ ก็จพใช้เป็นรูปคนยืนกางเขนแล้วทำท่าตกใจ บรรยายข้างภาพว่า โอ๊ะ คือ โอะ ซึ่งมันทำให้เราจำได้ง่ายมากกว่าเดิมมากๆ ในแต่ละบทจะมีคำศัพท์และแบบฝึกหัดให้ลองทำดูเพื่อทวนความรู้ตัวเองแบบฝึกหัดมีทั้งเว้นช่องว่างเอาไว้เติมคำศัพท์ให้สมบูรณ์ เรียงประโยคให้มีความหมายซึ่งเราไม่ต้องกังวลว่าจะออกเสียงถูกต้องหรือไม่ จะอ่านเสียงคำศัพท์ถูกต้องหรือไม่เพราะในหนังสือมีซีดีแถมมาให้หนึ่งแผ่น แบบแท็กเอาไว้เป็นหมวดหมู่ซึ่งหากเรางงว่าหน้านี้จะต้องเปิดแท็กไหนอ่าน ก็สามารถดูเลขในวงกลมรูปหูฟังตรงมุมซ้ายมือได้ มีการร้องเพลงจากตัวอักษรและฝึกการฟังโดยการให้เราไส่หมายเลขไว้ในวงกลมเมื่อได้ยินคำศัพท์นั้นๆตามลำดับ เอาง่ายๆก็คือเราสามารถเรียนรู้ได้เอง และรวดเร็วหากมีเวลาที่จะปูพื้นฐานในระยะสั้น ประหยัดเงินแถมยังเป็นการฝึกเราในหลายๆด้านอีกด้วย ซึ่งในบทหลังๆก็มีตัวอักษรชุดแรกๆเพิ่มเติมไปด้วยเพื่อไม่ให้เราลืมสิ่งที่เรียนมาก่อน เสียดายเหมือนกันที่ในหนังสือมีแต่ตัวอักษร ฮิระกะนะ ถ้ามีครบทั้ง ฮิระกะนะและคะตะคะนะ ก็จะถือว่าคุ้มค่ามากทีเดียวสับหรับหนังสือราคา 150 บาท อีกทั้งยังพิมพ์ด้วยหมึก4สีทั้งเล่ม ท้ายเล่มมีบัตรช่วยจำตัวอักษรแถมมาให้ มันเป็นประโยชน์มากๆสำหรับการทบทวนเนื้อหา สำหรับผู้ที่กำลังศึกษาภาษาญี่ปุ่นในระดับต้นนั้น หนังสือเล่มนี้เป็นตัวเลือกที่ดีทีเดียวแถมราคาก็ไม่สูงมากอีกด้วย ส่วนตัวแล้วชอบแนวการอธิบายในหนังสือของเครือ ส.ท.ส. อยู่แล้วจึงไม่ลังเลใจเลยที่จะหยิบและซื้อหนังสือเล่มนี้ เมื่อได้ลองอ่านก็ยิ่งรู้สึกประทับใจมากยิ่งขึ้นไปอีก ราคาก็ไม่แพงเรียกได้ว่าถูกใจสุดๆ

หนังสือชุด โคฮะรุ เป็นหนังสือฝึกพูดโดยจำลองจากสถานการณ์ซะเป็นส่วนใหญ่ แปลกใจเล็กน้อยเมื่อมีชุดตัวอักษรคลอดออกมา ซึ่งตัวอักษรนี่แหล่ะเป็นสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้นเรียนภาษาญี่ปุ่น เพราะเราเองกว่าจะจำได้แต่ละตัวนี่ถือว่าต้องใช้เวลานานพอสมควรไหนจะตัวอักษรที่มีความคล้ายกันอีกยิ่งสับสนเข้าไปใหญ่ หนังสือส่วนใหญ่จะให้เราจำแบเพียวๆเลยว่า ตัวนี้อ่านอย่างไรเขียนอย่างไร แต่ไม่อธิบายให้เราจำได้ง่ายๆว่าควรจะจำแยกกับตัวอักษรอื่นอย่างไร เพราะฉะนั้นหนังสือเล่มนี้จึงตอบโจทย์เป็นอย่างดี เนื้อหาด้านในเรียงหมวดหมู่ของตัวอักษรไว้เป็นอย่างดี มีเนื้อหาการอ่าน และไวยากรณ์สอดแทรกมาเล็กน้อยในแต่ละบท หนังสือเล่มนี้ดีและแตกต่างกับเล่มอื่นๆอยู่ที่มีวิธีการจำที่ไม่เหมือนใคร นั่นคือการจำตัวอักษรจากจิตภาพ หรือจำเป็นรูปภาพนั่นเองตัวอย่างเช่นคำว่า ‘ โอะ ’ ก็จพใช้เป็นรูปคนยืนกางเขนแล้วทำท่าตกใจ บรรยายข้างภาพว่า โอ๊ะ คือ โอะ ซึ่งมันทำให้เราจำได้ง่ายมากกว่าเดิมมากๆ ในแต่ละบทจะมีคำศัพท์และแบบฝึกหัดให้ลองทำดูเพื่อทวนความรู้ตัวเองแบบฝึกหัดมีทั้งเว้นช่องว่างเอาไว้เติมคำศัพท์ให้สมบูรณ์ เรียงประโยคให้มีความหมายซึ่งเราไม่ต้องกังวลว่าจะออกเสียงถูกต้องหรือไม่ จะอ่านเสียงคำศัพท์ถูกต้องหรือไม่เพราะในหนังสือมีซีดีแถมมาให้หนึ่งแผ่น แบบแท็กเอาไว้เป็นหมวดหมู่ซึ่งหากเรางงว่าหน้านี้จะต้องเปิดแท็กไหนอ่าน ก็สามารถดูเลขในวงกลมรูปหูฟังตรงมุมซ้ายมือได้ มีการร้องเพลงจากตัวอักษรและฝึกการฟังโดยการให้เราไส่หมายเลขไว้ในวงกลมเมื่อได้ยินคำศัพท์นั้นๆตามลำดับ เอาง่ายๆก็คือเราสามารถเรียนรู้ได้เอง และรวดเร็วหากมีเวลาที่จะปูพื้นฐานในระยะสั้น ประหยัดเงินแถมยังเป็นการฝึกเราในหลายๆด้านอีกด้วย ซึ่งในบทหลังๆก็มีตัวอักษรชุดแรกๆเพิ่มเติมไปด้วยเพื่อไม่ให้เราลืมสิ่งที่เรียนมาก่อน เสียดายเหมือนกันที่ในหนังสือมีแต่ตัวอักษร ฮิระกะนะ ถ้ามีครบทั้ง ฮิระกะนะและคะตะคะนะ ก็จะถือว่าคุ้มค่ามากทีเดียวสับหรับหนังสือราคา 150 บาท อีกทั้งยังพิมพ์ด้วยหมึก4สีทั้งเล่ม ท้ายเล่มมีบัตรช่วยจำตัวอักษรแถมมาให้ มันเป็นประโยชน์มากๆสำหรับการทบทวนเนื้อหา สำหรับผู้ที่กำลังศึกษาภาษาญี่ปุ่นในระดับต้นนั้น หนังสือเล่มนี้เป็นตัวเลือกที่ดีทีเดียวแถมราคาก็ไม่สูงมากอีกด้วย ส่วนตัวแล้วชอบแนวการอธิบายในหนังสือของเครือ ส.ท.ส. อยู่แล้วจึงไม่ลังเลใจเลยที่จะหยิบและซื้อหนังสือเล่มนี้ เมื่อได้ลองอ่านก็ยิ่งรู้สึกประทับใจมากยิ่งขึ้นไปอีก ราคาก็ไม่แพงเรียกได้ว่าถูกใจสุดๆ

ในตอนแรกที่ซื้อหนังสือเล่มนี้มาก็เพราะมันมีรูปลักษณ์ที่สวยงามชวนให้ติดตาม หนังสือทั้งเล่มทำด้วยกระดาษอาร์ตมันซึ่งหาได้ยากและมีต้นทุนสูง แต่ราคาหนังสือไม่ได้สูงอย่างที่คิดเลย ด้านในพิมพ์ด้วยหมึก4สี่ มีรูปภาพประกอบสีสันสดใสทำให้เวลาอ่านไม่เบื่อ ไม่ง่วง เนื้อหาด้านในกล่าวถึง เทคนิคช่วยจำ ,การเพิ่มความจำ,การเขียนแผนผังความคิด ซึ่งประเด็นหลักก็คือ การเขียนผังความคิดนี่แหล่ะ เพราะในหนังสือระบุและเรียงลำดับทีละขั้นตอนไว้ว่า ขั้นตอนแรกจะต้องทำอย่างไร ควรกำหนดคีย์เวิร์ดอย่างไร ควรโยงเส้นอย่างไร ซึ่งบอกเอาไว้ได้ละเอียดมากและอ่านได้เข้าใจง่ายดี ใช้ภาษาในการบรรยาย อธิบายได้เรียบง่าย อ่านแล้วเข้าใจได้และสามารถปฏิบัติตามไปด้วยได้ ใช้เวลาอ่านจริงๆแค่ไม่เกิน1อาทิตย์ก็อ่านจบเพราะเนื้อหาไม่ได้มีความซับซ้อนและสามารถเข้าใจได้ง่าย เมื่ออ่านจบก็ได้ทดลองเขียน ผังความคิดเป็นครั้งแรกโดยเริ่มจากการเขียนผังจากนิทานง่ายๆ และเริ่มสรุปวิชาที่ต้องใช้สอบเป็นผังความคิด ในตอนแรกๆนั้นอาจจะต้องเปิดหนังสือระลึกความจำกันบ้าง 555 แต่เมื่อทำแผนผังจนเคยชินแล้วจะสามารถจับจุดได้ โดยปกติแล้วเราเป็นคนชอบหลงๆลืม บางทีสรุปเนื้อหามาแล้วใส่สมุดไว้แล้ว มาอ่านทวนตอนเช้าก็ยังลืมเนื้อหาสำคัญไปบ่อยๆ เราเลยลองหันมาใช้วิธีนี้ดูในช่วงสอบกลางภาค ปรากฏว่าคะแนนเรามีขึ้นจากเทอมที่แล้วมากจริงๆ จนตัวเองยังตกใจ ฮ่าๆ ใครที่ความจำไม่ค่อยจะดีนักจะใช้วิธีและเคล็ดลับจากหนังสือเล่มนี้มาช่วยในการสอบก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่ง ถ้าถ้าต้องการให้ผังความคิดสมบูรณ์มันก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าเรากดหนดตัวแปร และสรูปคำได้กระชับ ได้ใจความเพียงใดด้วย เราชอบหนังสือเล่มนี้มากเพราะเนื้อหาด้านในจะกำชับนักกำชับหนาว่า ถึงแม้คนเราจะเกิดมามีความจำที่ดีไม่เหมือนกัน แต่ก็ใช่ว่าสมองของเรานั้นจะพัฒนาไม่ได้ แค่คำพูดประโยคนี้แหล่ะที่ทำให้เราฮึด สู้ขึ้นมา พยายามปรับปรุงตัวเองและพัฒนาตัวเองให้มีความจำดีๆอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นด้านอาหารการกิน ในหนังสือก็ได้ระบุไว้ วิธีทำให้ความจำดีไม่เสื่อม(อันนี้ชอบมากก)ก็มีระบุเอาไว้ เทคนิคต่างๆอีกมากมายที่ได้จากหนังสือเล่มนี้ล้วนเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ทั้งสิ้น หนังสือเล่มเล็กกระทัดรัดแต่ว่ามีน้ำหนักที่มากเอาการอยู่ทำให้พกไปไหนมาไหนไม่สะดวกเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรเพราะเราเอาไว้อ่านตอนกลางคืนและช่วงที่เงียบสงบเท่านั้น ใครที่อยากที่จะพัฒนาตัวเองและรู้ตัวว่าหลงๆลืมๆ แนะนำให้ซื้อแบบด่วนๆเพราะมันช่วยได้จริงๆเราคอนเฟิร์ม !

ในตอนแรกที่ซื้อหนังสือเล่มนี้มาก็เพราะมันมีรูปลักษณ์ที่สวยงามชวนให้ติดตาม หนังสือทั้งเล่มทำด้วยกระดาษอาร์ตมันซึ่งหาได้ยากและมีต้นทุนสูง แต่ราคาหนังสือไม่ได้สูงอย่างที่คิดเลย ด้านในพิมพ์ด้วยหมึก4สี่ มีรูปภาพประกอบสีสันสดใสทำให้เวลาอ่านไม่เบื่อ ไม่ง่วง เนื้อหาด้านในกล่าวถึง เทคนิคช่วยจำ ,การเพิ่มความจำ,การเขียนแผนผังความคิด ซึ่งประเด็นหลักก็คือ การเขียนผังความคิดนี่แหล่ะ เพราะในหนังสือระบุและเรียงลำดับทีละขั้นตอนไว้ว่า ขั้นตอนแรกจะต้องทำอย่างไร ควรกำหนดคีย์เวิร์ดอย่างไร ควรโยงเส้นอย่างไร ซึ่งบอกเอาไว้ได้ละเอียดมากและอ่านได้เข้าใจง่ายดี ใช้ภาษาในการบรรยาย อธิบายได้เรียบง่าย อ่านแล้วเข้าใจได้และสามารถปฏิบัติตามไปด้วยได้ ใช้เวลาอ่านจริงๆแค่ไม่เกิน1อาทิตย์ก็อ่านจบเพราะเนื้อหาไม่ได้มีความซับซ้อนและสามารถเข้าใจได้ง่าย เมื่ออ่านจบก็ได้ทดลองเขียน ผังความคิดเป็นครั้งแรกโดยเริ่มจากการเขียนผังจากนิทานง่ายๆ และเริ่มสรุปวิชาที่ต้องใช้สอบเป็นผังความคิด ในตอนแรกๆนั้นอาจจะต้องเปิดหนังสือระลึกความจำกันบ้าง 555 แต่เมื่อทำแผนผังจนเคยชินแล้วจะสามารถจับจุดได้ โดยปกติแล้วเราเป็นคนชอบหลงๆลืม บางทีสรุปเนื้อหามาแล้วใส่สมุดไว้แล้ว มาอ่านทวนตอนเช้าก็ยังลืมเนื้อหาสำคัญไปบ่อยๆ เราเลยลองหันมาใช้วิธีนี้ดูในช่วงสอบกลางภาค ปรากฏว่าคะแนนเรามีขึ้นจากเทอมที่แล้วมากจริงๆ จนตัวเองยังตกใจ ฮ่าๆ ใครที่ความจำไม่ค่อยจะดีนักจะใช้วิธีและเคล็ดลับจากหนังสือเล่มนี้มาช่วยในการสอบก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่ง ถ้าถ้าต้องการให้ผังความคิดสมบูรณ์มันก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าเรากดหนดตัวแปร และสรูปคำได้กระชับ ได้ใจความเพียงใดด้วย เราชอบหนังสือเล่มนี้มากเพราะเนื้อหาด้านในจะกำชับนักกำชับหนาว่า ถึงแม้คนเราจะเกิดมามีความจำที่ดีไม่เหมือนกัน แต่ก็ใช่ว่าสมองของเรานั้นจะพัฒนาไม่ได้ แค่คำพูดประโยคนี้แหล่ะที่ทำให้เราฮึด สู้ขึ้นมา พยายามปรับปรุงตัวเองและพัฒนาตัวเองให้มีความจำดีๆอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นด้านอาหารการกิน ในหนังสือก็ได้ระบุไว้ วิธีทำให้ความจำดีไม่เสื่อม(อันนี้ชอบมากก)ก็มีระบุเอาไว้ เทคนิคต่างๆอีกมากมายที่ได้จากหนังสือเล่มนี้ล้วนเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ทั้งสิ้น หนังสือเล่มเล็กกระทัดรัดแต่ว่ามีน้ำหนักที่มากเอาการอยู่ทำให้พกไปไหนมาไหนไม่สะดวกเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรเพราะเราเอาไว้อ่านตอนกลางคืนและช่วงที่เงียบสงบเท่านั้น ใครที่อยากที่จะพัฒนาตัวเองและรู้ตัวว่าหลงๆลืมๆ แนะนำให้ซื้อแบบด่วนๆเพราะมันช่วยได้จริงๆเราคอนเฟิร์ม !

“ถ้าคุณอยากมีรายได้เพิ่มขึ้น
ถ้าคุณอยากได้งานในฝันที่ตอบโจทย์
ถ้าคุณอยากให้มีโอกาสดีๆคนดีๆเข้ามาในชีวิต
ถ้าคุณอยากมีความรักที่สมหวังได้เจอคนที่ตรงใจ
ถ้าคุณอยากมีความสงบทางจิตใจ ไม่อยากสับสน
ถ้าคุณอยากมีชีวิตที่ดีๆ ยิ่งขึ้นไปอีก
หนังสือเล่มนี้ช่วยคุณได้”
นี่คือ คำนำในหนังสือเล่มนี้ หนังยางล้างใจ โดยปกติก่อนจะตัดสินใจซื้อหนังสือเล่มใด มักจะอ่านคำนำของหนังสือก่อนเป็นอันดับแรก ถ้าไม่น่าสนใจจะวางทันที แต่หนังสือหนังยางล้างใจเล่มนี้ไม่ธรรมดา แฮะ! อ่านแค่คำนำก็ตัดสินใจเดินไปที่เคาน์เตอร์จ่ายตังค์ทันทีเลย ยังไม่ทันได้เปิดอ่านเนื้อหาสาระด้านในเลยด้วยซ้ำ ก็มันน่าสนใจมั้ยล่ะ
มันสะดุดตาตั้งแต่ชื่อเรื่องแล้วล่ะ จริงมั้ย! “หนังยางล้างใจ”
กลับมาบ้านรีบเปิดอ่านดู มันจะคุ้มกับราคาที่จ่ายไปมั้ยน๊า สิ่งแรกที่เห็นของหนังสือเล่มนี้คือ สีสันที่สวยงาม ภาพประกอบด้านในดูแปลกตาน่ารักดี แต่ตัวหนังสือในแต่ล่ะหน้ามีแค่ไม่กี่บรรทัด ไม่เหมือนรูปลักษณ์ภายนอกที่หนังสือดูหนาๆ เหมือนจะต้องอ่านเยอะๆ แต่เรื่องจริงแล้วไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย แต่ล่ะหน้าจะมีภาพและสีสันเป็นส่วนใหญ่ ก็ดูสวยแปลกตาดีเป็นภาพกราฟฟิคเป็นส่วนใหญ่นะ
เนื้อหาของหนังสือหนังยางล้างใจ บทแรกๆ ผู้เขียนจะเขียนเกี่ยวกับความสำเร็จของชีวิตมนุษย์และอารมณ์ความรุ้สึกของเรา เราจะถูกสอนเสมอว่ามนุษย์เป็นสัตย์ประเสริฐมีเหตุผล แต่ในความเป็นจริงแล้วในชีวิตประจำวันจริงๆของเราเราไม่ค่อยได้ใช้หรอกเหตุผลน่ะ ส่วนใหญ่จะใช้อารมณ์และความรุ้สึกตัดสินสิ่งต่างๆรอบตัวซะมากกว่า เช่น ที่เราซื้อหนังสือมาแล้วยังไม่ได้อ่าน เพราะเราไม่มีเวลา หรือ ยังไม่มีอารมณ์อยากจะอ่านกันแน่ ( เออ จิงอ่ะ เราก็เป็นแบบนี้เลย)
ผู้เขียนจึงบอกว่า งั้นถ้าเราอยากจะเจอแต่สิ่งดีๆ คนดีๆ เงินดีๆ งานดีๆ เราก็ต้องควบคุมอารมณ์ตัวเราเองให้ได้ ให้คิดแต่สิ่งดีๆ หรือ คิดให้เป็นบวก แต่เราเองเหมือนถูกหลอกมาตลอด เพราะเราไม่รู้เลยว่าการคิดบวกนั้น มันต้องคิดยังไง มีแนวทางปฎิบัติยังไงล่ะ ถ้าเจอสถานการณ์แย่ๆ เรายังจะคิดบวกได้หรือไม่ หนังสือเล่มนี้จึงเป็นหนังสือที่มีเนื้อหาในการแนะแนวทางการใช้ชีวิตให้มีความสุขในสังคมปัจจุบันด้วยการใช้ความคิด มุมมองที่แตกต่าง
โดยส่วนตัวแล้วหนังสือหนังยางล้างใจ เป็นหนังสือที่สามารถอ่านได้ทุกเพศ ทุกวัย ส่วนผลลัพธ์ของหนังสือจะเป็นเหมือนที่ผู้เขียนบอกไว้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับตัวผู้เอาไปปฏิบัติว่าจะทำได้ บังคับใจตัวเองได้มากน้อยแค่ไหน ภาษาที่ใช้เขียนและถ่ายทอดของผู้เขียนเข้าใจง่าย มีการสอดแทรกมุขตลก อ่านแล้วบางทีก็หัวเราะออกมาเพราะบางสถานการณ์มันเกิดขึ้นในชีวิตจริงๆ และในหนังสือบอกว่าให้อ่านทีล่ะบท จนครบ 21 วัน บางทีถ้าเราเข้าใจอะไรต่างๆ เราก็อ่านทีล่ะหลายๆบทได้นะ ^^ เราว่าถ้าใครกำลังมองหาหนังสือดีๆสักเล่ม เพื่อมาเปลี่ยนมุมมองชีวิต เล่มนี้แหละตอบโจทย์

“ถ้าคุณอยากมีรายได้เพิ่มขึ้น
ถ้าคุณอยากได้งานในฝันที่ตอบโจทย์
ถ้าคุณอยากให้มีโอกาสดีๆคนดีๆเข้ามาในชีวิต
ถ้าคุณอยากมีความรักที่สมหวังได้เจอคนที่ตรงใจ
ถ้าคุณอยากมีความสงบทางจิตใจ ไม่อยากสับสน
ถ้าคุณอยากมีชีวิตที่ดีๆ ยิ่งขึ้นไปอีก
หนังสือเล่มนี้ช่วยคุณได้”
นี่คือ คำนำในหนังสือเล่มนี้ หนังยางล้างใจ โดยปกติก่อนจะตัดสินใจซื้อหนังสือเล่มใด มักจะอ่านคำนำของหนังสือก่อนเป็นอันดับแรก ถ้าไม่น่าสนใจจะวางทันที แต่หนังสือหนังยางล้างใจเล่มนี้ไม่ธรรมดา แฮะ! อ่านแค่คำนำก็ตัดสินใจเดินไปที่เคาน์เตอร์จ่ายตังค์ทันทีเลย ยังไม่ทันได้เปิดอ่านเนื้อหาสาระด้านในเลยด้วยซ้ำ ก็มันน่าสนใจมั้ยล่ะ
มันสะดุดตาตั้งแต่ชื่อเรื่องแล้วล่ะ จริงมั้ย! “หนังยางล้างใจ”
กลับมาบ้านรีบเปิดอ่านดู มันจะคุ้มกับราคาที่จ่ายไปมั้ยน๊า สิ่งแรกที่เห็นของหนังสือเล่มนี้คือ สีสันที่สวยงาม ภาพประกอบด้านในดูแปลกตาน่ารักดี แต่ตัวหนังสือในแต่ล่ะหน้ามีแค่ไม่กี่บรรทัด ไม่เหมือนรูปลักษณ์ภายนอกที่หนังสือดูหนาๆ เหมือนจะต้องอ่านเยอะๆ แต่เรื่องจริงแล้วไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย แต่ล่ะหน้าจะมีภาพและสีสันเป็นส่วนใหญ่ ก็ดูสวยแปลกตาดีเป็นภาพกราฟฟิคเป็นส่วนใหญ่นะ
เนื้อหาของหนังสือหนังยางล้างใจ บทแรกๆ ผู้เขียนจะเขียนเกี่ยวกับความสำเร็จของชีวิตมนุษย์และอารมณ์ความรุ้สึกของเรา เราจะถูกสอนเสมอว่ามนุษย์เป็นสัตย์ประเสริฐมีเหตุผล แต่ในความเป็นจริงแล้วในชีวิตประจำวันจริงๆของเราเราไม่ค่อยได้ใช้หรอกเหตุผลน่ะ ส่วนใหญ่จะใช้อารมณ์และความรุ้สึกตัดสินสิ่งต่างๆรอบตัวซะมากกว่า เช่น ที่เราซื้อหนังสือมาแล้วยังไม่ได้อ่าน เพราะเราไม่มีเวลา หรือ ยังไม่มีอารมณ์อยากจะอ่านกันแน่ ( เออ จิงอ่ะ เราก็เป็นแบบนี้เลย)
ผู้เขียนจึงบอกว่า งั้นถ้าเราอยากจะเจอแต่สิ่งดีๆ คนดีๆ เงินดีๆ งานดีๆ เราก็ต้องควบคุมอารมณ์ตัวเราเองให้ได้ ให้คิดแต่สิ่งดีๆ หรือ คิดให้เป็นบวก แต่เราเองเหมือนถูกหลอกมาตลอด เพราะเราไม่รู้เลยว่าการคิดบวกนั้น มันต้องคิดยังไง มีแนวทางปฎิบัติยังไงล่ะ ถ้าเจอสถานการณ์แย่ๆ เรายังจะคิดบวกได้หรือไม่ หนังสือเล่มนี้จึงเป็นหนังสือที่มีเนื้อหาในการแนะแนวทางการใช้ชีวิตให้มีความสุขในสังคมปัจจุบันด้วยการใช้ความคิด มุมมองที่แตกต่าง
โดยส่วนตัวแล้วหนังสือหนังยางล้างใจ เป็นหนังสือที่สามารถอ่านได้ทุกเพศ ทุกวัย ส่วนผลลัพธ์ของหนังสือจะเป็นเหมือนที่ผู้เขียนบอกไว้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับตัวผู้เอาไปปฏิบัติว่าจะทำได้ บังคับใจตัวเองได้มากน้อยแค่ไหน ภาษาที่ใช้เขียนและถ่ายทอดของผู้เขียนเข้าใจง่าย มีการสอดแทรกมุขตลก อ่านแล้วบางทีก็หัวเราะออกมาเพราะบางสถานการณ์มันเกิดขึ้นในชีวิตจริงๆ และในหนังสือบอกว่าให้อ่านทีล่ะบท จนครบ 21 วัน บางทีถ้าเราเข้าใจอะไรต่างๆ เราก็อ่านทีล่ะหลายๆบทได้นะ ^^ เราว่าถ้าใครกำลังมองหาหนังสือดีๆสักเล่ม เพื่อมาเปลี่ยนมุมมองชีวิต เล่มนี้แหละตอบโจทย์

หนังสือการละเล่นของเด็กไทย
ถ้าคุณมองหารหนังสือดีๆสักหนึ่งเล่มที่เพิ่มเติมความรู้ให้บุตรหลาน หรือตัวท่านเอง หนังสือการละเล่นของเด็กไทยถือว่าเป็นหนังสือแนะนำอีกเล่มหนึ่งที่สามารถพัฒนาความรู้ ความคิดแปลกๆใหม่หรือกลับไปรำลึกถึงสมัยที่เรายังเด็กๆที่ค่อยหากิจกรรมทำหลังเลิกเรียนก็ดี หรือ ระหว่างเรียนก็ดี เชื่อว่าการละเล่นของไทยเป็นส่วนหนึ่งของทุกคน เชื่อว่าหลายคนเคยผ่านมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นมอญซ่อนผ้า ท่าต้องมีอุปกรณ์เข้ามาเป็นส่วนประกอบ หนังสือบอกลายระเอียดการเล่นได้ดีเช่นกัน เช่น การเล่นรีรีข้าวสาร ที่ต้องมีผู้เล่นอย่างน้อยๆ 3 ขึ้นไป แล้วต้องมีผู้เล่น 2 คนจับมือกันแล้วชูขึ้นเป็นรูปสามเหลี่ยม แล้วพวกที่เหลือจับเอวต่อกันเป็นขบวน แล้วช่วยกันร้องว่า “รีรีข้าวสาร สองทะนานข้าวเปลือก เด็กน้อยตาเหลือก เลือกท้องใบลาน คดข้าวใส่จาน เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน พานเอาคนข้างหลังไว้ให้ดี” เมื่อถึงคำสุดท้าย สองคนที่ทำเป็นซุ้มอยู่จะจับคนที่อยู่สุดท้าย ผู้เล่นที่ถูกจับอาจถูกคัดออกหรืออาจถูกลงโทษได้ หรือ เกมกระต่ายขาเดียว ที่ผู้เล่นจะมีจำนวนไม่จำกัดแล้วผู้เล่นต้องเลือกว่าใครจะเป็นกระต่าย คนที่ถูกเลือกจะต้องวิ่งขาเดียวในทีนี้หมายถึง ผู้เล่นต้องยกขาข้างหนึ่งขึ้นมาแล้วกระโดด หรือวิ่งเล่นไล่แปะผู้เล่นคนอื่น คนที่โดนแปะ หรือโดนจับได้จะต้องออกจากการแข่งขันทันที เพื่อรอเล่นรอบต่อไป หรือ บางที อาจจะจะให้คนที่โดนแปะเป็นกระต่ายแทน ถือว่าเป็นกิจกรรมที่เล่นได้หลายคน และสามารถผลัดกันเป็นกระต่ายได้เลย หรือจะเป็นการเล่นที่ชื่อว่าลิงชิงหลัก สามารถเล่นได้หลายคน กติกาคือต้องมีผู้เล่นหนึ่งคนสมมุติว่าเป็นลิง แล้วให้คนอื่นอยู่ตามหลักของตนเอง แล้วให้ผู้เล่นที่ไม่ใช่ลิงวิ่งสลับหลักกันไปมา แล้วคนที่สมมุติที่ตัวเองเป็นลิงคอยแยกหลักกับคนอื่น ถ้าผู้เล่นโดนแย่ง คนนั้นต้องโดนมาเป็นลิงคอยแย่งหลักคนอื่นต่อไป เป็นต้นการละเล่นของไทยยังมีอีกมากมาย ไม่ใช่แค่ยกตัวอย่างมาเท่านั้น ในหนังสือยังสอดแทรกภาพการ์ตูนน่ารักๆลงไปทำให้การอ่านหนังสือเล่มนี้ไม่มีเบื่อ หนังสือยังพาเราย้อนไปวัยสมัยเด็ก ยังย้อนกลับไปรำลึกถึงการเล่นสมัยก่อนที่ยังไม่มีเทคโนโลยีเข้ามา บางคนอาจยังเล่นก้านกล้วย ขี่ม้าส่งเมืองกันออยู่เลย พูดได้เลยว่าหนังสือเล่มนี้มันเหมาะกับเด็กและผู้ใหญ่ หรือเหมาะกับทุกวัยที่ต้องการเพิ่มพูนความรู้ให้มากกว่า โลกออนไลน์หรือเกมในมือถือคุณพ่อคุณแม่สามารถใช้กิจกรรมการละเล่นเป็นกิจกรรมยามว่างได้เลยทีเดียว เป็นกิจกรรมที่ไม่น่าเบื่อแถมยังสนุกและใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ได้ดีเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ถือว่าเป็นหนังสือที่ดีและอยากแนะนำอีกเล่มหนึ่ง

หนังสือการละเล่นของเด็กไทย
ถ้าคุณมองหารหนังสือดีๆสักหนึ่งเล่มที่เพิ่มเติมความรู้ให้บุตรหลาน หรือตัวท่านเอง หนังสือการละเล่นของเด็กไทยถือว่าเป็นหนังสือแนะนำอีกเล่มหนึ่งที่สามารถพัฒนาความรู้ ความคิดแปลกๆใหม่หรือกลับไปรำลึกถึงสมัยที่เรายังเด็กๆที่ค่อยหากิจกรรมทำหลังเลิกเรียนก็ดี หรือ ระหว่างเรียนก็ดี เชื่อว่าการละเล่นของไทยเป็นส่วนหนึ่งของทุกคน เชื่อว่าหลายคนเคยผ่านมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นมอญซ่อนผ้า ท่าต้องมีอุปกรณ์เข้ามาเป็นส่วนประกอบ หนังสือบอกลายระเอียดการเล่นได้ดีเช่นกัน เช่น การเล่นรีรีข้าวสาร ที่ต้องมีผู้เล่นอย่างน้อยๆ 3 ขึ้นไป แล้วต้องมีผู้เล่น 2 คนจับมือกันแล้วชูขึ้นเป็นรูปสามเหลี่ยม แล้วพวกที่เหลือจับเอวต่อกันเป็นขบวน แล้วช่วยกันร้องว่า “รีรีข้าวสาร สองทะนานข้าวเปลือก เด็กน้อยตาเหลือก เลือกท้องใบลาน คดข้าวใส่จาน เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน พานเอาคนข้างหลังไว้ให้ดี” เมื่อถึงคำสุดท้าย สองคนที่ทำเป็นซุ้มอยู่จะจับคนที่อยู่สุดท้าย ผู้เล่นที่ถูกจับอาจถูกคัดออกหรืออาจถูกลงโทษได้ หรือ เกมกระต่ายขาเดียว ที่ผู้เล่นจะมีจำนวนไม่จำกัดแล้วผู้เล่นต้องเลือกว่าใครจะเป็นกระต่าย คนที่ถูกเลือกจะต้องวิ่งขาเดียวในทีนี้หมายถึง ผู้เล่นต้องยกขาข้างหนึ่งขึ้นมาแล้วกระโดด หรือวิ่งเล่นไล่แปะผู้เล่นคนอื่น คนที่โดนแปะ หรือโดนจับได้จะต้องออกจากการแข่งขันทันที เพื่อรอเล่นรอบต่อไป หรือ บางที อาจจะจะให้คนที่โดนแปะเป็นกระต่ายแทน ถือว่าเป็นกิจกรรมที่เล่นได้หลายคน และสามารถผลัดกันเป็นกระต่ายได้เลย หรือจะเป็นการเล่นที่ชื่อว่าลิงชิงหลัก สามารถเล่นได้หลายคน กติกาคือต้องมีผู้เล่นหนึ่งคนสมมุติว่าเป็นลิง แล้วให้คนอื่นอยู่ตามหลักของตนเอง แล้วให้ผู้เล่นที่ไม่ใช่ลิงวิ่งสลับหลักกันไปมา แล้วคนที่สมมุติที่ตัวเองเป็นลิงคอยแยกหลักกับคนอื่น ถ้าผู้เล่นโดนแย่ง คนนั้นต้องโดนมาเป็นลิงคอยแย่งหลักคนอื่นต่อไป เป็นต้นการละเล่นของไทยยังมีอีกมากมาย ไม่ใช่แค่ยกตัวอย่างมาเท่านั้น ในหนังสือยังสอดแทรกภาพการ์ตูนน่ารักๆลงไปทำให้การอ่านหนังสือเล่มนี้ไม่มีเบื่อ หนังสือยังพาเราย้อนไปวัยสมัยเด็ก ยังย้อนกลับไปรำลึกถึงการเล่นสมัยก่อนที่ยังไม่มีเทคโนโลยีเข้ามา บางคนอาจยังเล่นก้านกล้วย ขี่ม้าส่งเมืองกันออยู่เลย พูดได้เลยว่าหนังสือเล่มนี้มันเหมาะกับเด็กและผู้ใหญ่ หรือเหมาะกับทุกวัยที่ต้องการเพิ่มพูนความรู้ให้มากกว่า โลกออนไลน์หรือเกมในมือถือคุณพ่อคุณแม่สามารถใช้กิจกรรมการละเล่นเป็นกิจกรรมยามว่างได้เลยทีเดียว เป็นกิจกรรมที่ไม่น่าเบื่อแถมยังสนุกและใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ได้ดีเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ถือว่าเป็นหนังสือที่ดีและอยากแนะนำอีกเล่มหนึ่ง

คณิตคิดเลขเร็ว ชั้น ป.1

หนังสือคณิตคิดเร็วของสำนักพิมพ์ภูมิบัณฑิต ถ้าขึ้นชื่อของสำนักพิมพ์เราของการันตีได้เลยว่า เนื้อหาในเล่มมีประโยชน์เกือบดีที่สุดเพราะเขาสามารถจัดหาเนื้อหาได้เกือบครบถ้วนในแต่ละบทเรียนในแต่ละช่วงของวัย หรือช่วงชั้นนั้นๆ และคณิตศาสตร์เป็นอีกวิชาที่เราต้องใช้ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว ยิ่งเรามีความรู้ การ บวก ลบ คูณ หารได้มากแค่ไหน มันจะยิ่งช่วยให้เราใช้ชีวิตประจำวันได้รวดเร็วและสะดวกมากยิ่งขึ้น การเตรียมความพร้อมตั้งแต่เล็ก จะส่งผลดีต่อในอนาคตได้มาก หนังสือคณิตคิดเร็ว มักมีหลายช่วงชั้น และเนื้อหาแตกต่างกันไป ตัวอย่างเล่มนี้จะเป็นบทเรียนของน้องๆป. 1 ระดับชั้นนี้จะเน้นการบวกลบ ซะส่วนใหญ่ การคิดของระดับนี้ ต้องเริ่มจากการคิดจากภาพ เพราะหนูๆวัยนี้ยังไม่สามารถนึกตัวเลขได้แม่นยำได้ เราต้องๆค่อยๆสอนจากภาพ การบวก ก็คือการเพิ่ม การลบคือการเอาออกหรือดึง ถ้าเราสอนจากการเริ่มจากภาพก่อนจะส่งผลดีต่อเด็กๆได้มาก เริ่มจากเบสิก ค่อยๆขยับไปเป็นตัวเลข เนื้อหาในหนังสือมันไม่ยากอย่างที่ผู้ปกครองหลายท่านเข้าใจ มักค่อยๆขยับจากการบวกหลักน้อยๆจนไปสู่หลักที่จำนวนตัวเลขมากๆ การบวกลบ แบบจำนวนตัวเลขโดด จนขยับไปถึงการวิเคราะห์โจทย์ปัญหา เอเลยถ้าเห็นโจทย์ปัญหาไม่ว่าจะสั้นจะยาวถ้าเราไม่สามารถวิเคราะห์ออกได้ เราจะไม่สามารถรู้วิธีการหาคำตอบได้เลย ในหนังสือเขายังมีเทคนิคให้เด็กๆวิเคราะห์ แยกแยะ และการตีความหมายของโจทย์ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการบวกหรือการลบ เช่น ถ้าเราเจอคำว่า รวมทั้งหมด,นำมาต่อกัน ( ในกรณีที่เป็นสิ่งของสองสิ่ง) ในโจทย์ปัญหา วิเคราะห์ได้เลยว่าเป็นวิธีการบวก แต่ถ้าเราเจอคำว่า เหลือเท่าไร , น้อยกว่าหรือมากกว่ากันเท่าไร , หักออกไป , จ่ายเงินไปแล้วเหลือเงิน , ได้รับเงินทอน ในโจทย์ปัญหา สามารถวิเคราะห์ได้อย่างรวดเร็วเลยว่ามันต้องเป็น วิธีการลบแน่นอน การฝึกทักษะให้น้องๆบ่อย จะเป็นฝึกพัฒนาทางกระบวนการทางความคิดในเชิงคิดวิเคราะห์ คำนวณ เพราะคณิตศาสตร์มันเป็นปัจจัยในการใช้ชีวิตอยู่แล้วในทุกๆวัน เช่นเราซื้อของเราก็ต้องคิดว่า เราจ่ายไปแล้วจะได้เงินทอนเท่าไรเพื่อป้องกันการโกงของแม่ค้า หรือ เราจะตัดเชือกหรือหักยางลบไปแล้วเราจะเหลือใช้เท่าไรนะ เด็กๆเขาเจอในชีวิตประจำอยู่แล้วแค่เราต้องเสริมให้เด็กๆมีความรู้ความสามารถให้มากยิ่งขึ้น ยิ่งโตขึ้นเด็กๆจะเจอโจทย์ที่ยากและซ้ำซ้อนมากยิ่งขึ้น ถ้าฝึกเขาตั้งแต่วันนี้จะเป็นผลดีมากต่ออนาคตของพวกเขา แล้วใช่ว่าซื้อไปแล้วผู้ปกครองจะนิ่งดูดายผู้ปกครองต้องเป็นตัวช่วยสนับสนุนในเด็กๆด้วยการกระตุ้นความคิดของเขาและคอยเป็นกำลังใจเขาด้วยยิ่งจะเกิดผลดีมากๆขึ้นมาอีก ถือเป็นหนังสือแนะนำอีกเล่มที่ดี และเหมาะสมในการหาความรู้เพิ่มเติม

คณิตคิดเลขเร็ว ชั้น ป.1

หนังสือคณิตคิดเร็วของสำนักพิมพ์ภูมิบัณฑิต ถ้าขึ้นชื่อของสำนักพิมพ์เราของการันตีได้เลยว่า เนื้อหาในเล่มมีประโยชน์เกือบดีที่สุดเพราะเขาสามารถจัดหาเนื้อหาได้เกือบครบถ้วนในแต่ละบทเรียนในแต่ละช่วงของวัย หรือช่วงชั้นนั้นๆ และคณิตศาสตร์เป็นอีกวิชาที่เราต้องใช้ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว ยิ่งเรามีความรู้ การ บวก ลบ คูณ หารได้มากแค่ไหน มันจะยิ่งช่วยให้เราใช้ชีวิตประจำวันได้รวดเร็วและสะดวกมากยิ่งขึ้น การเตรียมความพร้อมตั้งแต่เล็ก จะส่งผลดีต่อในอนาคตได้มาก หนังสือคณิตคิดเร็ว มักมีหลายช่วงชั้น และเนื้อหาแตกต่างกันไป ตัวอย่างเล่มนี้จะเป็นบทเรียนของน้องๆป. 1 ระดับชั้นนี้จะเน้นการบวกลบ ซะส่วนใหญ่ การคิดของระดับนี้ ต้องเริ่มจากการคิดจากภาพ เพราะหนูๆวัยนี้ยังไม่สามารถนึกตัวเลขได้แม่นยำได้ เราต้องๆค่อยๆสอนจากภาพ การบวก ก็คือการเพิ่ม การลบคือการเอาออกหรือดึง ถ้าเราสอนจากการเริ่มจากภาพก่อนจะส่งผลดีต่อเด็กๆได้มาก เริ่มจากเบสิก ค่อยๆขยับไปเป็นตัวเลข เนื้อหาในหนังสือมันไม่ยากอย่างที่ผู้ปกครองหลายท่านเข้าใจ มักค่อยๆขยับจากการบวกหลักน้อยๆจนไปสู่หลักที่จำนวนตัวเลขมากๆ การบวกลบ แบบจำนวนตัวเลขโดด จนขยับไปถึงการวิเคราะห์โจทย์ปัญหา เอเลยถ้าเห็นโจทย์ปัญหาไม่ว่าจะสั้นจะยาวถ้าเราไม่สามารถวิเคราะห์ออกได้ เราจะไม่สามารถรู้วิธีการหาคำตอบได้เลย ในหนังสือเขายังมีเทคนิคให้เด็กๆวิเคราะห์ แยกแยะ และการตีความหมายของโจทย์ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการบวกหรือการลบ เช่น ถ้าเราเจอคำว่า รวมทั้งหมด,นำมาต่อกัน ( ในกรณีที่เป็นสิ่งของสองสิ่ง) ในโจทย์ปัญหา วิเคราะห์ได้เลยว่าเป็นวิธีการบวก แต่ถ้าเราเจอคำว่า เหลือเท่าไร , น้อยกว่าหรือมากกว่ากันเท่าไร , หักออกไป , จ่ายเงินไปแล้วเหลือเงิน , ได้รับเงินทอน ในโจทย์ปัญหา สามารถวิเคราะห์ได้อย่างรวดเร็วเลยว่ามันต้องเป็น วิธีการลบแน่นอน การฝึกทักษะให้น้องๆบ่อย จะเป็นฝึกพัฒนาทางกระบวนการทางความคิดในเชิงคิดวิเคราะห์ คำนวณ เพราะคณิตศาสตร์มันเป็นปัจจัยในการใช้ชีวิตอยู่แล้วในทุกๆวัน เช่นเราซื้อของเราก็ต้องคิดว่า เราจ่ายไปแล้วจะได้เงินทอนเท่าไรเพื่อป้องกันการโกงของแม่ค้า หรือ เราจะตัดเชือกหรือหักยางลบไปแล้วเราจะเหลือใช้เท่าไรนะ เด็กๆเขาเจอในชีวิตประจำอยู่แล้วแค่เราต้องเสริมให้เด็กๆมีความรู้ความสามารถให้มากยิ่งขึ้น ยิ่งโตขึ้นเด็กๆจะเจอโจทย์ที่ยากและซ้ำซ้อนมากยิ่งขึ้น ถ้าฝึกเขาตั้งแต่วันนี้จะเป็นผลดีมากต่ออนาคตของพวกเขา แล้วใช่ว่าซื้อไปแล้วผู้ปกครองจะนิ่งดูดายผู้ปกครองต้องเป็นตัวช่วยสนับสนุนในเด็กๆด้วยการกระตุ้นความคิดของเขาและคอยเป็นกำลังใจเขาด้วยยิ่งจะเกิดผลดีมากๆขึ้นมาอีก ถือเป็นหนังสือแนะนำอีกเล่มที่ดี และเหมาะสมในการหาความรู้เพิ่มเติม

วาดการ์ตูนสุดน่ารักง่ายๆเป็นใน 1 นาที
ถ้าขึ้นชื่อว่าการวาดการ์ตูน เชื่อว่าใครหลายๆคน ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ต้องหลงรักการวาดตัวการ์ตูนมากกว่าการวาดภาพเหมือนอยู่แล้ว การวาดการ์ตูนมันเป็นการเสริมสร้างจินตนาการ ในการเกิดความคิดสร้างสรรค์ไม่ว่าเราจะวาดเป็นสัตว์อะไรก็แล้วแต่ แมว นก หมู ปู ปาก ก็เป็นสิ่งที่ออกมาจากจินตนาการทั้งนั้น เชื่อว่าหลายๆคนชอบวาดการ์ตูน ตอนเด็กๆหลายคนต้องผ่านการเรียนศิลปะมาบ้างแล้ว การวาดรูปยังเป็นการผ่อนคลายจิตใจ ผ่อนคลายความคิด เป็นการปลดปล่อยจินตนาการในตัวเอง ศิลปะไม่เคยมีคำว่าสวยหรือไม่สวย มีแต่คำว่าเราสามารถเพิ่มจินตนาการมากขนาดไหน ในหนังสือ วาดการ์ตูนสุดน่ารักง่ายๆเป็นใน 1 นาทีเป็นหนังสือที่สอนการวาดภาพตั้งแต่ขั้นแรก ขั้นการเริ่มลงภาพร่าง แล้วค่อยบรรจงลงสีเข้มแล้วค่อยๆเกิดเป็นรูปร่างขึ้นมา ตั้งแต่รูปสัตว์เล็กที่เราคิดว่ายากแสนยากเหลือเกิน ค่อยๆไล่ไปเป็นสัตว์ตัวเล็กๆเช่นแมว นก น่ารักๆ ไล่ระดับถึงรูปคน และการสร้างเรื่องราว ในหนังสือ ส่วนตัวคิดว่า รูปแบบของผู้เขียนเข้าใจง่ายกว่าเล่มอื่นๆ แต่ก็ใช้ว่าเล่มอื่นไม่เข้าใจ เพราะเล่มนี้ เขาไม่ได้สอนเราวาดแบบยากถึงขนาดต้องเหมือนตามต้นฉบับ แต่เป็นการดักแปลงตัวการ์ตูนให้ดูน่ารัก ดูสดใสมากกว่า ใครที่คิดว่าตัวเองวาดไม่ได้ ไม่มีพื้นฐานเลย ขอให้ลืมไปเลย เพราะ การวาดเล่มนี้สนุกจริงๆ เต็มไปด้วยตัวการ์ตูนรูปคน สัตว์ สิ่งของ การเพิ่มสี เติมแต่งให้ได้เรื่องราวที่ที่น่าสนใจ การใช้น้ำหนักการลงเส้น เริ่มจากภาพร่าง วาดร่างๆเป็นรูปเรขาคณิต ในบางรูป แล้วค่อยใช้ใช้เมจิสีดำเติมลง พร้อมลงสีสัน ให้ดูสดใส โดดเด่นเป็นการเพิ่มชีวิตให้ตัวละคร หลังจากที่เราวาดได้เป็นตัวการ์ตูนแล้วเรายังสามารถต่อยอดให้มันเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจเข้าไปอีกได้ให้ การสร้างสถานที่โดยให้สัตว์อาศัยอยู่มากกมายเติมคนเข้าไปอยู่ในตลาด การสร้างตลาดให้มีคนมากมายก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แต่มันจะเป็นเรื่องที่สนุกสนาน ที่ทุกคนทำได้ ไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็ก ที่เพิ่งเริ่มฝึกหัดวาดการ์ตูน หรือจะเป็นวัยรุ่นที่ลองมองหากิจกรรมใหม่ๆทำ หรือแม้กระทั่งวัยกลางคนที่กำลังมองหากิจกรรมยามว่างทำ นอกจากจิบกาแฟ หรือ ทานชา กิจกรรมการวาดรูปถือเป็นกิจกรรมที่ไม่เลวนัก บวกกับภาพสีสันต่างๆที่อยู่ในหนังสือ ก็ทำให้เราเพลิดเพลินได้สบายได้ไม่ยาก แค่มีเวลาว่างสักนิด ลองชวนเพื่อนๆมาลองฝึกฝนสมาธิในการวาดรูปดูก็ถือว่ากิจกรรมที่ไม่เลวนัก สามารถต่อเติมตามจินตนาการ ได้ไม่สิ้นสุดเพียงดินสอ ด้ามเดียวกับกระดาษพร้อมเติมสีสันให้สวยงาม ก็สามารถสร้างกิจกรรมที่สนุกสนานได้แล้ว

วาดการ์ตูนสุดน่ารักง่ายๆเป็นใน 1 นาที
ถ้าขึ้นชื่อว่าการวาดการ์ตูน เชื่อว่าใครหลายๆคน ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ต้องหลงรักการวาดตัวการ์ตูนมากกว่าการวาดภาพเหมือนอยู่แล้ว การวาดการ์ตูนมันเป็นการเสริมสร้างจินตนาการ ในการเกิดความคิดสร้างสรรค์ไม่ว่าเราจะวาดเป็นสัตว์อะไรก็แล้วแต่ แมว นก หมู ปู ปาก ก็เป็นสิ่งที่ออกมาจากจินตนาการทั้งนั้น เชื่อว่าหลายๆคนชอบวาดการ์ตูน ตอนเด็กๆหลายคนต้องผ่านการเรียนศิลปะมาบ้างแล้ว การวาดรูปยังเป็นการผ่อนคลายจิตใจ ผ่อนคลายความคิด เป็นการปลดปล่อยจินตนาการในตัวเอง ศิลปะไม่เคยมีคำว่าสวยหรือไม่สวย มีแต่คำว่าเราสามารถเพิ่มจินตนาการมากขนาดไหน ในหนังสือ วาดการ์ตูนสุดน่ารักง่ายๆเป็นใน 1 นาทีเป็นหนังสือที่สอนการวาดภาพตั้งแต่ขั้นแรก ขั้นการเริ่มลงภาพร่าง แล้วค่อยบรรจงลงสีเข้มแล้วค่อยๆเกิดเป็นรูปร่างขึ้นมา ตั้งแต่รูปสัตว์เล็กที่เราคิดว่ายากแสนยากเหลือเกิน ค่อยๆไล่ไปเป็นสัตว์ตัวเล็กๆเช่นแมว นก น่ารักๆ ไล่ระดับถึงรูปคน และการสร้างเรื่องราว ในหนังสือ ส่วนตัวคิดว่า รูปแบบของผู้เขียนเข้าใจง่ายกว่าเล่มอื่นๆ แต่ก็ใช้ว่าเล่มอื่นไม่เข้าใจ เพราะเล่มนี้ เขาไม่ได้สอนเราวาดแบบยากถึงขนาดต้องเหมือนตามต้นฉบับ แต่เป็นการดักแปลงตัวการ์ตูนให้ดูน่ารัก ดูสดใสมากกว่า ใครที่คิดว่าตัวเองวาดไม่ได้ ไม่มีพื้นฐานเลย ขอให้ลืมไปเลย เพราะ การวาดเล่มนี้สนุกจริงๆ เต็มไปด้วยตัวการ์ตูนรูปคน สัตว์ สิ่งของ การเพิ่มสี เติมแต่งให้ได้เรื่องราวที่ที่น่าสนใจ การใช้น้ำหนักการลงเส้น เริ่มจากภาพร่าง วาดร่างๆเป็นรูปเรขาคณิต ในบางรูป แล้วค่อยใช้ใช้เมจิสีดำเติมลง พร้อมลงสีสัน ให้ดูสดใส โดดเด่นเป็นการเพิ่มชีวิตให้ตัวละคร หลังจากที่เราวาดได้เป็นตัวการ์ตูนแล้วเรายังสามารถต่อยอดให้มันเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจเข้าไปอีกได้ให้ การสร้างสถานที่โดยให้สัตว์อาศัยอยู่มากกมายเติมคนเข้าไปอยู่ในตลาด การสร้างตลาดให้มีคนมากมายก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แต่มันจะเป็นเรื่องที่สนุกสนาน ที่ทุกคนทำได้ ไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็ก ที่เพิ่งเริ่มฝึกหัดวาดการ์ตูน หรือจะเป็นวัยรุ่นที่ลองมองหากิจกรรมใหม่ๆทำ หรือแม้กระทั่งวัยกลางคนที่กำลังมองหากิจกรรมยามว่างทำ นอกจากจิบกาแฟ หรือ ทานชา กิจกรรมการวาดรูปถือเป็นกิจกรรมที่ไม่เลวนัก บวกกับภาพสีสันต่างๆที่อยู่ในหนังสือ ก็ทำให้เราเพลิดเพลินได้สบายได้ไม่ยาก แค่มีเวลาว่างสักนิด ลองชวนเพื่อนๆมาลองฝึกฝนสมาธิในการวาดรูปดูก็ถือว่ากิจกรรมที่ไม่เลวนัก สามารถต่อเติมตามจินตนาการ ได้ไม่สิ้นสุดเพียงดินสอ ด้ามเดียวกับกระดาษพร้อมเติมสีสันให้สวยงาม ก็สามารถสร้างกิจกรรมที่สนุกสนานได้แล้ว

ข้อสอบใกล้เคียงข้อสอบจริง O-NET ป. 6 อ.กนกวลี

การสอบถือว่าเป็นบทเรียนวิชาหนึ่งที่เราต้องผ่านไปเพื่อข้ามขั้น หรือขึ้นชั้นต่อไป การสอบ o net ก็ถือว่าเป็นข้อสอบที่ต้องการวัดผลในการศึกษาในก่อนจบการศึกษา หรือบางสถาบันที่ต้องใช้ผลสอบหรือคะแนนเฉลี่ยทั้งหมดตั้งแต่ ป.1 – ป.6 การสอบ o – net เป็นการสอบทั้งหมด 8 วิชา หรือ มากกว่านั้นตรงตามหลักสูตร การศึกษาขั้นพื้นฐาน การสอบส่วนใหญ่จะเป็นข้อสอบเดียวกัน เป็นมาตรฐานทั่วประเทศ วิชาหลักๆที่เด็กๆต้องรู้คือ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาอังกฤษ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาภาษาไทย วิชาสังคมศึกษา และวิชาอื่นๆอีก 3 วิชาหลัก ที่เด็กๆต้องสอบ เชื่อว่าเด็กๆหลายๆคน หรือผู้ปกครองหลายๆท่าน ต้องเกิดการกังวลแน่นอนว่า จะอ่านหนังสือทันไหม หรือ จะเตรียมการอ่านมากน้อยเพียงไร แต่คราวนี้ถ้ามีตัวช่วยเพิ่มขึ้นมา เราคิดว่าจะทันต่อการสอบแน่นอน บางทีเด็กๆอาจจะต้องไปเรียนพิเศษถามว่ามีผลดีไหม เชื่อว่าน่าจะดี แต่ถ้าเราเรียนมากๆ เข้าแล้วไม่เคยกลับมานั่งลองทำข้อสอบเพื่อวัดตัวเองเลย อาจจะยากสะหน่อยที่จะได้คะแนนสูงๆ มันก็จริงอยู่นะที่ว่าข้อสอบวัดมาตรฐานมันไม่ตก ไม่มีต้องสอบใหม่ แต่มันก็คือการสอบครั้งเดียวในชีวิตแล้วต้องใช้ไปตลอก เมื่อน้องๆต้องการเรียนสถาบันอื่น ก็ต้องใช้เหมือนกัน การมีตัวช่วยที่ดีถือว่าเป็นการที่ดีกว่า ในการเตรียมตัวลงสนามจริง หนังสือของอาจารย์ กนกวลี ถือว่าเป็นหนังสือที่ใช้ได้อีกเล่มในบรรดาหนังสือเตรียมสอบ แต่ถึงไม่ดีที่สุดสำหรับเรา เพราะตอนที่เปิดหนังสือครั้งแรกลองเปิดอ่านแบบไม่มองรายละเอียด มันจะเป็นแนวแบบมีแต่ข้อสอบล้วนๆ พร้อมเฉลย ถามว่าดีไหม มันดีกับคนที่เขาอ่านมาบ้างแล้ว แต่มันจะกลายเป็นโชคไม่ค่อยดีกลับคนที่ไม่เคยอ่านเนื้อหาที่ต้องสอบ แล้วมาเปิดมานั่งทำข้อสอบเลย หลายคนอาจงง และมึนได้เลยทีเดียว แต่ถึงแม้ว่ามันจะเหมาะกับบางคนแต่ก็ถือว่าเป็นหนังสือที่ดีเลย ข้อสอบเหมือนจริงตามที่เขากลายมา ลองเอาเปรียบจากในเว็บต่างๆที่เอาข้อสอบมาเปิดเผย ก็ถือว่าใกล้เคียงประมาณ 90% ถือว่าใช้ได้ แต่บางข้อผู้ใหญ่อย่างเราก็อาจจะมีงงบ้าง แต่ถ้าเด็กๆมีพื้นฐานที่ดีอยู่แล้วก็ถือว่าข้อสอบในการสอบวัดผลครั้งนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องยากเท่าไรที่จะทำให้ได้คะแนนสูงๆ เพราะข้อสอบส่วนใหญ่เท่าที่อ่านและลองศึกษาด้วยตัวเอง มันเป็นเนื้อหาที่น้องๆผ่านตามาบ้างแล้ว การสอบแต่ละครั้งมันขึ้นอยู่กับการเตรียมตัวของน้อง ที่ใครเตรียมมากกว่าก็จะมีสิทธิในการได้คะแนนที่เยอะกว่า ถือว่าหนังสือเล่มนี้ก็พออ่านได้ และสามารถทำให้น้องมุ่งสู่คะแนนสูงๆได้เลย ถือว่าเป็นหนังสือแนะนำอีกเล่มที่ต้องเตรียมตัวก่อนสอบได้เลย

ข้อสอบใกล้เคียงข้อสอบจริง O-NET ป. 6 อ.กนกวลี

การสอบถือว่าเป็นบทเรียนวิชาหนึ่งที่เราต้องผ่านไปเพื่อข้ามขั้น หรือขึ้นชั้นต่อไป การสอบ o net ก็ถือว่าเป็นข้อสอบที่ต้องการวัดผลในการศึกษาในก่อนจบการศึกษา หรือบางสถาบันที่ต้องใช้ผลสอบหรือคะแนนเฉลี่ยทั้งหมดตั้งแต่ ป.1 – ป.6 การสอบ o – net เป็นการสอบทั้งหมด 8 วิชา หรือ มากกว่านั้นตรงตามหลักสูตร การศึกษาขั้นพื้นฐาน การสอบส่วนใหญ่จะเป็นข้อสอบเดียวกัน เป็นมาตรฐานทั่วประเทศ วิชาหลักๆที่เด็กๆต้องรู้คือ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาอังกฤษ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาภาษาไทย วิชาสังคมศึกษา และวิชาอื่นๆอีก 3 วิชาหลัก ที่เด็กๆต้องสอบ เชื่อว่าเด็กๆหลายๆคน หรือผู้ปกครองหลายๆท่าน ต้องเกิดการกังวลแน่นอนว่า จะอ่านหนังสือทันไหม หรือ จะเตรียมการอ่านมากน้อยเพียงไร แต่คราวนี้ถ้ามีตัวช่วยเพิ่มขึ้นมา เราคิดว่าจะทันต่อการสอบแน่นอน บางทีเด็กๆอาจจะต้องไปเรียนพิเศษถามว่ามีผลดีไหม เชื่อว่าน่าจะดี แต่ถ้าเราเรียนมากๆ เข้าแล้วไม่เคยกลับมานั่งลองทำข้อสอบเพื่อวัดตัวเองเลย อาจจะยากสะหน่อยที่จะได้คะแนนสูงๆ มันก็จริงอยู่นะที่ว่าข้อสอบวัดมาตรฐานมันไม่ตก ไม่มีต้องสอบใหม่ แต่มันก็คือการสอบครั้งเดียวในชีวิตแล้วต้องใช้ไปตลอก เมื่อน้องๆต้องการเรียนสถาบันอื่น ก็ต้องใช้เหมือนกัน การมีตัวช่วยที่ดีถือว่าเป็นการที่ดีกว่า ในการเตรียมตัวลงสนามจริง หนังสือของอาจารย์ กนกวลี ถือว่าเป็นหนังสือที่ใช้ได้อีกเล่มในบรรดาหนังสือเตรียมสอบ แต่ถึงไม่ดีที่สุดสำหรับเรา เพราะตอนที่เปิดหนังสือครั้งแรกลองเปิดอ่านแบบไม่มองรายละเอียด มันจะเป็นแนวแบบมีแต่ข้อสอบล้วนๆ พร้อมเฉลย ถามว่าดีไหม มันดีกับคนที่เขาอ่านมาบ้างแล้ว แต่มันจะกลายเป็นโชคไม่ค่อยดีกลับคนที่ไม่เคยอ่านเนื้อหาที่ต้องสอบ แล้วมาเปิดมานั่งทำข้อสอบเลย หลายคนอาจงง และมึนได้เลยทีเดียว แต่ถึงแม้ว่ามันจะเหมาะกับบางคนแต่ก็ถือว่าเป็นหนังสือที่ดีเลย ข้อสอบเหมือนจริงตามที่เขากลายมา ลองเอาเปรียบจากในเว็บต่างๆที่เอาข้อสอบมาเปิดเผย ก็ถือว่าใกล้เคียงประมาณ 90% ถือว่าใช้ได้ แต่บางข้อผู้ใหญ่อย่างเราก็อาจจะมีงงบ้าง แต่ถ้าเด็กๆมีพื้นฐานที่ดีอยู่แล้วก็ถือว่าข้อสอบในการสอบวัดผลครั้งนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องยากเท่าไรที่จะทำให้ได้คะแนนสูงๆ เพราะข้อสอบส่วนใหญ่เท่าที่อ่านและลองศึกษาด้วยตัวเอง มันเป็นเนื้อหาที่น้องๆผ่านตามาบ้างแล้ว การสอบแต่ละครั้งมันขึ้นอยู่กับการเตรียมตัวของน้อง ที่ใครเตรียมมากกว่าก็จะมีสิทธิในการได้คะแนนที่เยอะกว่า ถือว่าหนังสือเล่มนี้ก็พออ่านได้ และสามารถทำให้น้องมุ่งสู่คะแนนสูงๆได้เลย ถือว่าเป็นหนังสือแนะนำอีกเล่มที่ต้องเตรียมตัวก่อนสอบได้เลย

ญี่ปุ่น (หน้าต่างสู่โลกกว้าง) ฉ.ปรับปรุงใหม่
สมกับเป็นหนังสือชุดหน้าต่างสู่โลกกว้างเลยจริงๆ โดยเล่มนี้จะเป็นการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น เมืองแห่งอาทิตย์อุทัยที่หลายๆคนอยากไปเยือนสักครั้งในชีวิต เล่มนี้มีประโยชน์อย่างมากตรงที่ช่วยให้เราเตรียมตัวจะได้ไม่ลำบากเวลาไปเที่ยวญี่ปุ่น แถมยังได้ความรู้ประกอบทำงานอย่างอื่นที่เดี่ยวข้องกับประเทศไว้อย่างมากมาย เรียกได้ว่าเล่มเดียวคุ้นกันเลยทีเดียว ในเล่มนี้ก็จะมีข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางตั้งแต่เริ่มเดินทางไปจนถึงวันกลับเลยทีเดียว มีทั้งข้อมูลการเดินทางท่องเที่ยวสำหรับนักเดินทาง โดยเฉพาะแบบไม่ง้อทัวร์ตามสไตล์ของชาวหน้าต่างสู่โลกกว้างเลย พร้อมทั้งยังมีรูปภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจเหมือนไปยืนถ่ายในสถานะที่จริงๆด้วยตัวเอง ตามฉบับของหน้าต่างสู่โลกกว้าง ที่ขึ้นชื่อเรื่องการถ่ายภาพ และเรียบเรียงภาพสีได้สะดุดตา และยังสามารถสะท้อนให้เห็นถึงแก่นแท้เบื้องลึกตื้นหนาบางของประเทศญี่ปุ่นได้อย่างลึกซึ้งและจับใจ หนังสือเล่มนี้เปรียบเสมือนของที่ระลึกที่มีค่าที่สุดของการเดินทางท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นเลยล่ะ มีเนื้อหาที่น่าตื่นตาตื่นใจเช่นกัน จากนักเขียนฝีมือชั้นเซียนที่บรรยากาศได้อย่างเรียบง่ายแต่น่าติดตามจนวางไม่ลง มีเนื้อหาเรื่องราวของประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมที่ควรจะรู้ ศิลปะยุคโบราณ เรื่องราวของยากุซ่าที่ยังคงมีอยู่ในประเทศญี่ปุ่น และที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือการเขียนถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวญี่ปุ่น วัฒนธรรมด้านภาษาที่เป็นเอกลักษณ์ และการปลูกฝั่งนิสัย จิตสำนึกรักของชาวญี่ปุ่นที่น่าทึ่งเอามากๆ เจาะลึกลงไปอีกในเรื่องของอาหารการกิน โดนเฉพาะย่านกินซาที่กรุงโตเกียว เมืองหลวงที่หลายคนเลือกจะไปเยือนเป็นที่แรก ราชธานีโบราณที่เกียวโต ตามด้วยยอดเขาภูเขาไฟฟูจิ ภูเขาไฟที่ยังไม่มอดดับลงไปดี แต่ก็ยังดูสวยงามจนอดที่จะแว๊บไปถ่ายรูปสักครั้งไม่ได้ ป่าไม้ที่เกาะฮ็อกไกโด เกาะชื่อดังอย่างโอกินาว่า และยังมีแผนที่เส้นทางอย่างละเอียด โดยเฉพาะแผนที่เส้นทางรถไฟ เพราะคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะเดินทางไปไหนมาไหนกันด้วยรถไฟซะเป็นส่วนใหญ่ และข้อควรระวังเวลาขึ้นรถไฟที่ยุ่งยากและสับซ้อนจนน่ามึนไปหมด และยังมีหมายเลขไว้สำหรับค้นหาสถานที่ต่างๆไว้โดยง่าย มีศัพท์และบทสนทาที่จะเป็นเผื่อไว้ถามทางชาวญี่ปุ่น และชาวพื้นเมืองต่างๆ เผื่อเอาตัวรอดเวลาหลงทางสักครั้ง โดยเฉาพะสถานที่สำคัญๆจะพิมพ์เน้นเป็นตัวหนาให้เราสะดุดตา อ่านง่าย เข้าใจดี มีข้อมูลด้านการเดินทางท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหาร หรือหมายเลขโทรศัพท์ที่ควรต้องรู้อย่างละเอียดสุดๆไปเลย

ญี่ปุ่น (หน้าต่างสู่โลกกว้าง) ฉ.ปรับปรุงใหม่
สมกับเป็นหนังสือชุดหน้าต่างสู่โลกกว้างเลยจริงๆ โดยเล่มนี้จะเป็นการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น เมืองแห่งอาทิตย์อุทัยที่หลายๆคนอยากไปเยือนสักครั้งในชีวิต เล่มนี้มีประโยชน์อย่างมากตรงที่ช่วยให้เราเตรียมตัวจะได้ไม่ลำบากเวลาไปเที่ยวญี่ปุ่น แถมยังได้ความรู้ประกอบทำงานอย่างอื่นที่เดี่ยวข้องกับประเทศไว้อย่างมากมาย เรียกได้ว่าเล่มเดียวคุ้นกันเลยทีเดียว ในเล่มนี้ก็จะมีข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางตั้งแต่เริ่มเดินทางไปจนถึงวันกลับเลยทีเดียว มีทั้งข้อมูลการเดินทางท่องเที่ยวสำหรับนักเดินทาง โดยเฉพาะแบบไม่ง้อทัวร์ตามสไตล์ของชาวหน้าต่างสู่โลกกว้างเลย พร้อมทั้งยังมีรูปภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจเหมือนไปยืนถ่ายในสถานะที่จริงๆด้วยตัวเอง ตามฉบับของหน้าต่างสู่โลกกว้าง ที่ขึ้นชื่อเรื่องการถ่ายภาพ และเรียบเรียงภาพสีได้สะดุดตา และยังสามารถสะท้อนให้เห็นถึงแก่นแท้เบื้องลึกตื้นหนาบางของประเทศญี่ปุ่นได้อย่างลึกซึ้งและจับใจ หนังสือเล่มนี้เปรียบเสมือนของที่ระลึกที่มีค่าที่สุดของการเดินทางท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นเลยล่ะ มีเนื้อหาที่น่าตื่นตาตื่นใจเช่นกัน จากนักเขียนฝีมือชั้นเซียนที่บรรยากาศได้อย่างเรียบง่ายแต่น่าติดตามจนวางไม่ลง มีเนื้อหาเรื่องราวของประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมที่ควรจะรู้ ศิลปะยุคโบราณ เรื่องราวของยากุซ่าที่ยังคงมีอยู่ในประเทศญี่ปุ่น และที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือการเขียนถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวญี่ปุ่น วัฒนธรรมด้านภาษาที่เป็นเอกลักษณ์ และการปลูกฝั่งนิสัย จิตสำนึกรักของชาวญี่ปุ่นที่น่าทึ่งเอามากๆ เจาะลึกลงไปอีกในเรื่องของอาหารการกิน โดนเฉพาะย่านกินซาที่กรุงโตเกียว เมืองหลวงที่หลายคนเลือกจะไปเยือนเป็นที่แรก ราชธานีโบราณที่เกียวโต ตามด้วยยอดเขาภูเขาไฟฟูจิ ภูเขาไฟที่ยังไม่มอดดับลงไปดี แต่ก็ยังดูสวยงามจนอดที่จะแว๊บไปถ่ายรูปสักครั้งไม่ได้ ป่าไม้ที่เกาะฮ็อกไกโด เกาะชื่อดังอย่างโอกินาว่า และยังมีแผนที่เส้นทางอย่างละเอียด โดยเฉพาะแผนที่เส้นทางรถไฟ เพราะคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะเดินทางไปไหนมาไหนกันด้วยรถไฟซะเป็นส่วนใหญ่ และข้อควรระวังเวลาขึ้นรถไฟที่ยุ่งยากและสับซ้อนจนน่ามึนไปหมด และยังมีหมายเลขไว้สำหรับค้นหาสถานที่ต่างๆไว้โดยง่าย มีศัพท์และบทสนทาที่จะเป็นเผื่อไว้ถามทางชาวญี่ปุ่น และชาวพื้นเมืองต่างๆ เผื่อเอาตัวรอดเวลาหลงทางสักครั้ง โดยเฉาพะสถานที่สำคัญๆจะพิมพ์เน้นเป็นตัวหนาให้เราสะดุดตา อ่านง่าย เข้าใจดี มีข้อมูลด้านการเดินทางท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหาร หรือหมายเลขโทรศัพท์ที่ควรต้องรู้อย่างละเอียดสุดๆไปเลย

ทวีปยุโรป (หน้าต่างสู่โลกกว้าง) ฉ.ปรับปรุงใหม่
เป็นหนังสือที่รวบรวมเกี่ยวประเทศต่างๆในทวีปยุโรปไว้อย่างอัดแน่นไปด้วยข้อมูล และรูปภาพประกอบ รวมถึงวัฒนธรรมทั้งที่หลากหลาย ทั้งประเทศ กรีซ , โครเอเชีย , เซอร์เบีย , สาธารณรัฐเช็ก , เดนมาร์ก , ซานมารีโน , นอร์เวย์ , เนเธอร์แลนด์ , บอสเนีย และเฮอร์เซโกวีนา , บัลกาเรีย , เบลเยี่ยม , เบลารุส , โปรตุเกส , โปแลนด์ , ฝรั่งเศส , ฟินแลนด์ , มอนเตเนโกร , มอลโดวา , มอลตา , มาซิโดเนีย , โมนาโก , ยูเครน , เยอรมนี , รัสเซีย , โรมาเนีย , ลักเซมเบิร์ก , ลัตเวีย , ลิกเตนสไตน์ , ลิทัวเนีย , นครรัฐวาติกัน , สเปน , สโลวาเกีย , สโลวาเนีย , สวิตเซอร์แลนด์ , สวีเดน , สหราชอาณาจักร , ออสเตรีย , อันดอร์รา , อิตาลี , เอสโตเนีย , แอลเบเนีย , ไอซ์แลนด์ , ไอร์แลนด์ , ฮังการี ซึ่งเป็นทวีปที่เต็มไปด้วยความหลากหลายและความรุ่มรวยทางวัฒนธรรมของยุโรป เนื้อหาเขียนถึงจุดเด่นที่มักจะสร้างให้เห็นถึงความพิศวง และช่วยเพิ่มความรู้รอบตัวต่างๆที่ไม่เคยได้รู้และสัมผัสให้กับเหล่านักเดินทางที่มาเยือนเสมอๆ เขียนถึงวัฒนธรรมดั้งเดิมที่น่าสัมผัส เพราะยุโรปเป็นทวีปที่มักทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกแปลกใจกับสิ่งรอบตัวแปลกๆ ธรรมเนียมที่ว่าเรื่องากรจูบทักทายกันของชนพื้นเมืองต่างๆที่ วัฒนธรรมที่แตกต่างแต่ก็ลงตัวและน่าหลงใหล ไปถึงการเข้าคิวการซื้ออะไรต่างๆ เป็นศูนย์กลางการคอรัปชั่น ประวัติศาสตร์และงานศิลป์ ไปจนถึงการกินการอยู่ของชาวพื้นเมืองที่หลายๆคนไม่เคยรู้ ถึงแม้จะเป็นหนังสือที่หนาหน่อย เพราะรวมหลายเรื่อง หลายประเทศ หลายวัฒนธรรมไว้ในเล่มเดียวนี้ แต่ก็เขียนด้วยภาษาที่สวย เข้าใจง่าย มีการเรียงลำดับเนื้อหาได้ไม่งงและสับสน เขียนอย่างพิถีพิถันสมกับเป็นหนังสือของหน้าต่างสู่โลกกว้าง ทำให้คนอ่านเข้าใจได้ถึงทวีปยุโรปอย่างลึกซึ้ง แถมยังมีข้อมูลที่ครบถ้วน ส่วนสำคัญๆก็ไม่ขาดตกหล่นหายไปไหน มีเรื่องของการขอวีซ่า และธรรมเนียมก่อนจะเข้าประเทศนั้นๆเลยด้วย และเสนอถึงแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ แบบเจาะลึกเหมือนชาวพื้นเมืองมาสอนอยู่ตรงหน้าซะอ่าน เข้าใจถึงเนื้อหาวัฒนธรรมด้านภาษา การปรับตัวเพื่อให้เข้าถึงนิสัยโดยธรรมชาติของชาติพื้นเมืองต่างๆ การเรียนรู้ประวัติศาสตร์เพื่อเข้าใจถึงจุดสำคัญๆของชาวพื้นเมือง สถานะภาพทางการเงิน และการเมืองของแต่ละประเทศ แหล่งรวบรวมงานศิลปะก็เขียนบอกไว้อย่างชัดเจนเพื่อไม่ให้พลาดสำหรับการไปเยือนทวีปนี้ทั้งที ตลอดไปจนถึงการรวบรวมข้อมูลที่สำคัญที่สุดไว้ท้ายเล่ม ซึ่งก็คือข้อมูลเรื่องที่พักที่สำคัญ และเหมือนผู้เขียนจะรู้ใจคนอ่านเป็นอย่างดี ก็เลยจัดหาที่พักไว้สำหรับใกล้สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ เส้นทางการเดินทางไว้อย่างสะดวก แถมยังบอกราคาไว้อย่างย่อมเยา และละเอียดสุดๆ รวมไปถึงร้านอาหารแนะนำราคาถูก แต่รสชาติดีการันตีโดยทีมงานไว้อย่างดี รับรองว่าคุ้มเลยจ้า!

ทวีปยุโรป (หน้าต่างสู่โลกกว้าง) ฉ.ปรับปรุงใหม่
เป็นหนังสือที่รวบรวมเกี่ยวประเทศต่างๆในทวีปยุโรปไว้อย่างอัดแน่นไปด้วยข้อมูล และรูปภาพประกอบ รวมถึงวัฒนธรรมทั้งที่หลากหลาย ทั้งประเทศ กรีซ , โครเอเชีย , เซอร์เบีย , สาธารณรัฐเช็ก , เดนมาร์ก , ซานมารีโน , นอร์เวย์ , เนเธอร์แลนด์ , บอสเนีย และเฮอร์เซโกวีนา , บัลกาเรีย , เบลเยี่ยม , เบลารุส , โปรตุเกส , โปแลนด์ , ฝรั่งเศส , ฟินแลนด์ , มอนเตเนโกร , มอลโดวา , มอลตา , มาซิโดเนีย , โมนาโก , ยูเครน , เยอรมนี , รัสเซีย , โรมาเนีย , ลักเซมเบิร์ก , ลัตเวีย , ลิกเตนสไตน์ , ลิทัวเนีย , นครรัฐวาติกัน , สเปน , สโลวาเกีย , สโลวาเนีย , สวิตเซอร์แลนด์ , สวีเดน , สหราชอาณาจักร , ออสเตรีย , อันดอร์รา , อิตาลี , เอสโตเนีย , แอลเบเนีย , ไอซ์แลนด์ , ไอร์แลนด์ , ฮังการี ซึ่งเป็นทวีปที่เต็มไปด้วยความหลากหลายและความรุ่มรวยทางวัฒนธรรมของยุโรป เนื้อหาเขียนถึงจุดเด่นที่มักจะสร้างให้เห็นถึงความพิศวง และช่วยเพิ่มความรู้รอบตัวต่างๆที่ไม่เคยได้รู้และสัมผัสให้กับเหล่านักเดินทางที่มาเยือนเสมอๆ เขียนถึงวัฒนธรรมดั้งเดิมที่น่าสัมผัส เพราะยุโรปเป็นทวีปที่มักทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกแปลกใจกับสิ่งรอบตัวแปลกๆ ธรรมเนียมที่ว่าเรื่องากรจูบทักทายกันของชนพื้นเมืองต่างๆที่ วัฒนธรรมที่แตกต่างแต่ก็ลงตัวและน่าหลงใหล ไปถึงการเข้าคิวการซื้ออะไรต่างๆ เป็นศูนย์กลางการคอรัปชั่น ประวัติศาสตร์และงานศิลป์ ไปจนถึงการกินการอยู่ของชาวพื้นเมืองที่หลายๆคนไม่เคยรู้ ถึงแม้จะเป็นหนังสือที่หนาหน่อย เพราะรวมหลายเรื่อง หลายประเทศ หลายวัฒนธรรมไว้ในเล่มเดียวนี้ แต่ก็เขียนด้วยภาษาที่สวย เข้าใจง่าย มีการเรียงลำดับเนื้อหาได้ไม่งงและสับสน เขียนอย่างพิถีพิถันสมกับเป็นหนังสือของหน้าต่างสู่โลกกว้าง ทำให้คนอ่านเข้าใจได้ถึงทวีปยุโรปอย่างลึกซึ้ง แถมยังมีข้อมูลที่ครบถ้วน ส่วนสำคัญๆก็ไม่ขาดตกหล่นหายไปไหน มีเรื่องของการขอวีซ่า และธรรมเนียมก่อนจะเข้าประเทศนั้นๆเลยด้วย และเสนอถึงแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ แบบเจาะลึกเหมือนชาวพื้นเมืองมาสอนอยู่ตรงหน้าซะอ่าน เข้าใจถึงเนื้อหาวัฒนธรรมด้านภาษา การปรับตัวเพื่อให้เข้าถึงนิสัยโดยธรรมชาติของชาติพื้นเมืองต่างๆ การเรียนรู้ประวัติศาสตร์เพื่อเข้าใจถึงจุดสำคัญๆของชาวพื้นเมือง สถานะภาพทางการเงิน และการเมืองของแต่ละประเทศ แหล่งรวบรวมงานศิลปะก็เขียนบอกไว้อย่างชัดเจนเพื่อไม่ให้พลาดสำหรับการไปเยือนทวีปนี้ทั้งที ตลอดไปจนถึงการรวบรวมข้อมูลที่สำคัญที่สุดไว้ท้ายเล่ม ซึ่งก็คือข้อมูลเรื่องที่พักที่สำคัญ และเหมือนผู้เขียนจะรู้ใจคนอ่านเป็นอย่างดี ก็เลยจัดหาที่พักไว้สำหรับใกล้สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ เส้นทางการเดินทางไว้อย่างสะดวก แถมยังบอกราคาไว้อย่างย่อมเยา และละเอียดสุดๆ รวมไปถึงร้านอาหารแนะนำราคาถูก แต่รสชาติดีการันตีโดยทีมงานไว้อย่างดี รับรองว่าคุ้มเลยจ้า!