Customer Reviews

ผจญภัยในแดนเงือก เล่ม 1 ชุดจักรภพพันธุ์มหัศจรรย์
5
ผลงานจากนักเขียนฝีมือคนไทยที่โด่งดังในต่างแดน
โดย: rasintra วันที่เขียนรีวิว: 06 ธันวาคม พ.ศ. 2557

"ชุดจักรภพพันธุ์มหัศจรรย์ ตอน ผจญภัยในแดนเงือก" จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์ แปลโดยสุมาลีที่มีผลงานแปลอันมีชื่อเสียงอย่าง "แฮร์รี่ พ็อตเตอร์"มาแล้ว นิยายเล่มนี้แต่งโดยฝีมือของนักเขียนคนไทย Pieretta Dawn เด็กสาววัย 15 ปี แถมนิยายเรื่องนี้ยังได้รับการการันตีจากจิระนันท์ พิตรปรีชา,สุมาลีและบินหลา สันกาลาคีรีว่าเป็นวรรณกรรมเยาวชนเรื่องเยี่ยมเรื่องหนึ่ง โดยที่เรื่องราวนั้นจะเริ่มต้นด้วยการอธิบายเกี่ยวกับพันธุกรรมของมนุษย์ที่ไม่ใช่คนแท้ร้อยเปอน์เซ็นต์เสียทีเดียว อาจจะมีบางส่วนที่เป็นอมนุษย์ทำให้แต่ละคนมีสมรรถภาพทางกายต่างกันไป ตัวอย่างเช่น หากมียีนส์เงือกมาก จะเดินไม่สะดวก มักหกล้มบ่อยๆ แต่เวลาอยู่ในน้ำจะปราดเปรียวว่องไว เป็นต้น เลลาห์ เป็นเด็กหญิงกำพร้าในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามอนเดรไซต์ หลังจากครูที่เธอสนิทด้วยที่สุดอย่างมิสซิสอัลเวอร์นาจากไป โชคชะตาของเด็กหญิงก็เปลี่ยนตาม เมื่อมีหญิงสาวที่ชื่อว่า ออรา ปรากฏตัวขึ้นรับเลลาห์ไปดูแล และยังพาเด็กชายอีกคนหนึ่ง แนทแทร์ ที่อาศัยอยู่กับแม่ที่ป่วยเพียงลำพังสองคน อาศัยเงินจากการทำงานสกปรกเป็นคนเจรจาลักลอบสินค้าหนีภาษี ออราได้บอกเรื่องราวอันน่าตกตะลึงเรื่องที่พวกเขามียีนส์เงือกอยู่ในกายและได้รับเลือกให้เป็นทูตของชาวเงือกเพื่อช่วยเหลือจักรภพคู่ขนาน
เรายอมรับเลยว่าวรรณกรรมเยาวชนเรื่องนี้ ยอดเยี่ยมมากจริงๆ อ่านได้ทุกเพศทุกวัย ภาษาที่ใช้ก็ลื่นไหล บรรยายได้ละเอียดละออจนสามารถจินตนาการถึงภาพในห้วงสมุทรได้เลยค่ะ ตัวพล็อตเรื่องก็ทำออกมาฉีกแนวมากใช้การเป็นทูตของชาวเงือกในการดำเนินเรื่อง ซึ่งทูตฝึกหัดก็ต้องมีปัญหาให้ตามแก้ไขในเรื่อง เราชอบตัวละครที่คนเขียนสร้างออกมามีมิติมาก เลลาห์แม้จะอ่อนด้อยในการใช้ปัญญาแต่เป็นคนมีไหวพริบและสัญชาตญาณดี มีคุณธรรมสูงช่วยถ่วงดุลกับแนทแทร์ที่เก่งด้านการใช้สมอง แต่บางครั้งแผนของเขาค่อนข้างโหดพอสมควร ทั้งเป็นคนนิ่งๆใจเย็นเข้าคู่กับเลลาห์ที่อารมณ์ร้อนเป็นอย่างดี แถมวรรณกรรมเรื่องนี้ยังมีข้อคิดแฝงอยู่ และอาจจะทำให้มุมมองของใครหลายๆคนเปลี่ยนไปว่าบางทีเด็กก็ทำอะไรได้มากกว่าที่คิด มิหนำซ้ำยังอาจเป็นที่พึ่งพาของพวกผู้ใหญ่ได้อีกด้วย วรรณกรรมเยาวชนที่คุ้มค่าลองอ่านดูค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ชอบแนวเทพนิยายเป็นพิเศษ
Detective Agency 19 Nights คู่สืบคดีหลอน 1
4
เรื่องราวความหลอนชวนขนหัวลุก ร่วมกันไขปริศนาแห่งอดีตระหว่างเจสันกับไนน์ทีนไนท์
โดย: rasintra วันที่เขียนรีวิว: 06 ธันวาคม พ.ศ. 2557

"Detective Agenncy 19 Nights คู่สืบคดีหลอน" นิยายแปลของไต้หวันจากสำนักพิมพ์ Enterbook ฝีมือการเขียนโดย wei ya แปลโดย Piyanof และภาพประกอบสุดสวยจาก Niang Xi เป็น้รื่องราวแนวสยองขวัญปนลุ้นระทึกเกี่ยวกับ เจสันหรือหวงฝู่เจวี๋ยเซิง นักสืบมือหนึ่งของตึกเขตซิ่นอี้แห่งกรุงไทเป ด้วยความหล่อเหลาบวกกับนิสัยขี้กะล่อนของเขามักจะเนื้อหอมในบรรดาสาวๆ แต่สร้างเรื่องวุ่นวายให้กับหัวหน้าจงกู่ ผู้อำนวยการของสำนักงานนักสืบอยู่เสมอ วันหนึ่งหัวหน้าสั่งเจสันให้ไปทำคดีเกี่ยวกับสำนักงานนักสืบพิศดารทางย่านตะวันออกโดยให้ไปสืบว่าสำนักงานนักสืบนั้นมีความเกี่ยวข้องกับคดีตุ๊กตา SD ได้อย่างไร ด้วยความที่เจสันมีคดีติดตัวอยู่จึงจำต้องรับงานนี้ เมื่อเขาก้าวสู่ตึกพิศดารของสำนักงานนักสืบสิบเก้าคืน เขาก็ได้พบกับภูตผีปีศาจมากมาย ทั้งยังได้พบกับสาวงามที่งดงามที่สุดเท่าที่เจสันเคยเห็นมาเลยด้วยกำลังโดนปีศาจจับตัวไว้อยู่
การบรรยายของเรื่องนี้ฮาได้ใจจริงๆค่ะ แฝงมุกตลกเกือบทุกตอน โดยเฉพาะเจสันที่เป็นตัวเอกเป็นคนที่รั่วมากมาย เป็นตัวชูรสของเรื่องเลย ทั้งติ๊งต๊อง บ้าๆบอๆ กะล่อน ชอบหว่านเสน่ห์สาวๆจนใครๆพากันหมั่นไส้ ส่วนไนน์ทีนไนท์ อ่านตอนแรกหลงนึกว่าเป็นผู้หญิง แท้ที่จริงเขาเป็นหนุ่มหน้าสวย(สวยดั่งสโนว์ไวท์ชนิดที่สาวๆไม่มีทางเทียบติด ขนาดเจสันยังเสียดายที่ไนน์ทีนไนท์เกิดมาเป็นผู้ชายเลยล่ะค่ะ)แถมยังเป็นคนลึกลับมีปริศนาซ่อนเร้น พอๆกับเจสันเลยทีเดียว เรื่องนี้จัดว่าเป็นแนวหลอนนะคะ บางฉากการบรรยายดีมาก อ่านไปขนลุกไป และบางฉากก็โหดเลือดสาดด้วย แต่ถึงกระนั้นเนื้อหาก็ไม่ได้เคร่งเครียดมากเพราะมีเจสันเป็นตัวตลกประจำเรื่อง เป็นนิยายแนวหลอนๆปนขำๆนิดหน่อย ที่สำคัญมีภาพประกอบในเล่มด้วยนะคะ วาดได้สวยมาก ขนาดไนน์ทีนไนท์ที่อยู่ตรงหน้าปกก็สวยสมคำบรรยายว่าไม่มีความงามใดจะเทียบเคียงได้จริงๆ เป็นเรื่องที่อ่านได้เรื่อยๆค่ะ
ฟาเร 01 ภาคการเดินทางสู่เกวนโดลีน
4
เมื่อเด็กสาวกำพร้ากลายเป็นผู้ครอบครองโรงละครอันมีชื่อเสียงของอีกโลกหนึ่ง ชีวิตเธอจะเป็นเช่นไร
โดย: rasintra วันที่เขียนรีวิว: 05 ธันวาคม พ.ศ. 2557

"ฟาเร" นิยายที่ออกมาสองเล่มของสำนักพิมพ์สถาพรบุ๊คส์ แล้วก็เงียบหายไปอีกเช่นเดียวกับเรื่องอื่นๆ เป็นผลงานของนักเขียนเจ้าของนามปากกา Miss Ya เล่มแรกมีขนาดใหญ่และหนาเอาเรื่องอยู่ แต่พอมาขึ้นเล่มสองจะบางลงราวกับคนละเรื่องเลยทีเดียว (แต่เราชอบเล่มสองนะ หน้าปกตัวละครและฉากมีสีสันและสวยสะดุดตากว่าเล่มแรก)
ทางด้านเนื้อเรื่องจะเกี่ยวกับนางเอก ฟาเร ที่เป็นเด็กสาวธรรมดาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า วันหนึ่งเธอได้รับบัตรเชิญให้ไปดูการแสดงของโรงละครที่ปิดตายมานานอย่างโลเวนสไตน์ โรงละครที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นเจ้าแห่งศิลปะทุกแขนงทำให้มีผู้คนกระหายคลั่งไคล้อยากจะครอบครองตั๋วเพื่อชมการแสดงในครั้งนี้ ฟาเรได้รับบัตรเชิญสีทองที่เป็นลูกค้าชั้นพิเศษและหลังจากการแสดงได้จบลง ฟาเรจึงได้รู้ว่าเธอคือเจ้าของโรงละครโลเวนสไตน์และถูกพาไปอยู่ ณ อีกโลกหนึ่งที่เป็นโลกที่แท้จริงที่เธอควรอยู่
นิยายเรื่องนี้ใช้เกี่ยวกับการแสดงเป็นเหมือนประเด็นหลักของเรื่อง แต่เราว่าเนื้อหาภายในค่อนข้างติดกลิ่นอายจากนิยายชื่อดังของสถาพรอย่าง "เซวีน่า มหานครแห่งมนตรา"มาไม่น้อย ตัวละครบางตัวก็คล้ายคลึงกันเพียงแต่ฟาเรจะเป็นเด็กสาวซุกซน แก่นแก้วหน่อยๆ มีการสร้างปมในอดีตขิงฟาเรเกี่ยวกับตระกูลของเธอ ความลับที่ตระกูลเธอปกปิดไว้และสาเหตุที่แท้จริงที่เธอถูกส่งไปอยู่ในอีกโลกหนึ่งคืออะไร เรียกได้ว่ามีปริศนาให้ติดตามมากมายเลยทีเดียวค่ะ แต่น่าเสียดายที่เรื่องนี้ไม่ได้ออกภาคต่อมานานแล้ว ค่อนข้างจะหมดหวัง ทั้งๆที่สำนวน ภาษา การบรรยายต่างๆล้วนทำออกมาได้ดี อ่านแล้วรู้สึกอยากจะไปอยู่ในโลกแบบนี้จังเลยค่ะ ประวัติความเป็นมาของแต่ละเมือง การปกครองก็ซับซ้อนดี เห็นได้ชัดว่าคนเขียนวางโครงและรายละเอียดต่างๆอย่างตั้งใจ แต่จะดีกว่านี้หากนิยายเรื่อง"ฟาเร" ได้ออกอย่างต่อเนื่องจนจบ ไม่ใช่เงียบหายไปแบบนี้
พิศวงมนตร์ซาตาน เล่ม 1 โชคชะตาฟ้าลิขิต
3
เรื่องราวแฟนตาซีในรั้วโรงเรียนของบรรดาเจ้าหญิงเจ้าชาย
โดย: rasintra วันที่เขียนรีวิว: 05 ธันวาคม พ.ศ. 2557

"พิศวงมนตร์ซาตาน"ผลงานจากปลายปากกาของ Lunarita ที่ตอนนี้ออกมาสองเล่มแล้วเงียบหายไปกับสายลม ทั้งๆที่ตัวบรรยายและเนื้อเรื่องแต่งออกมาดีแท้ๆ แต่สุดท้ายก็หายไปเลยไม่ได้สร้างเล่มต่อเป็นอะไรที่อ่านแล้วค้างคาใจมากมายค่ะ นี่เป็นหนึ่งในนิยายของสำนักพิมพ์ z-girl ที่หันมาเอาดีด้านแฟนตาซีบ้างในเครือของสถาพรบุ๊คส์
เนื้อเรื่องจะเกี่ยวกับมิวาโกะที่ไปเจอหนังสือเก่าแก่เล่มหนึ่งเข้า แล้วเห็นหน้าปกกับเนื้อเรื่องน่าสนใจจึงตัดสินใจจะยืมไปอ่าน ทว่าบรรณารักษ์สาวสึเธอาวะไม่ยอมให้เธอยืมด้วยเหตุผลบางประการ มิวาโกะจึงจำต้องแอบยืมกับบรรณารักษ์คนอื่นเพื่อที่จะอ่านเล่มนี้ให้ได้ หลังจากยืมมาแล้วเธอก็พบกับเหตุการณ์แปลกๆอย่างหนังสือเรืองแสง ซึ่งโทชิโอะ คนที่มิวาโกะเจอโดยบังเอิญก็มีหนังสือเรื่องนี้ในครอบครองเช่นกัน เขาก็เจอปรากฎการณ์ประหลาดแบบนั้นเหมือนกันด้วย วันหนึ่งหนังสือที่ทั้งสองอ่านก็พาเธอและเขาเข้าไปสู่โลกในหนังสือ ผสานร่างกลายเป็นผู้คนในโลกนั้น โดยโทชิโอะ เป็นเจ้าชายรัชทายาทออสติน ส่วนมิวาโกะกลายเป็นลูนาริต้า เด็กสาวจากหมู่บ้านจนๆแห่งหนึ่ง เมื่อทั้งคู่ได้มาใช้ชีวิตในโลกใหม่โดยลืมเรื่องราวของโลกที่จากมา ทำให้การพบกันอีกครั้งในโรงเรียนของทั้งคู่จึงกลายเป็นการชังน้ำหน้ากันโดยปริยาย
นี่เป็นนิยายอีกเรื่องที่เราชอบหน้าปกมาก วาดลูนาริต้ากับออสตินได้สวยเลอค่ามาก ตัวเล่มก็หนาและหนักใช่ย่อยตามสไตล์สถาพร แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ มีตัวบทบรรยายทุกอย่างลื่นไหล อ่านแล้วจินตนาการตามได้ไม่ยาก สำนวนใช้ได้เลยทีเดียว ตัวพล็อตอาจจะดูซ้ำซากไปบ้างอย่างการทะลุมิติผ่านหนังสือและเข้าไปในรั้วโรงเรียนเวทมนตร์ แต่ตัวละครแต่ละตัวจะมีปมเป็นของตัวเองค่ะ อ่านแล้วบางทีก็มีลุ้นกันบ้าง ฉากสวีทหวานก็มี แต่เราหงุดหงิดกับนางเอกนิดหน่อยที่นิสัยค่อนข้างเอาแต่ใจผิดกับตอนที่เป็นมิวาโกะ นิสัยออกน่ารักและเป็นเด็กสาวธรรมดาดี พอกลายเป็นลูนาริต้าแล้ว บางอารมณ์เราอ่านแล้วขัดใจจนอยากจะให้ทั้งคู่จำกันให้ได้เสียทีว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหน รู้จักกันตั้งแต่โลกนู่นเพราะโลกนี้เอาแต่กัดกันอยู่นั่นแหละ (กว่าจะจำกันได้ก็ปาไปใกล้จบเล่ม) แถมยังมีลุ้นความรักสามเส้าและความรักอื่นที่ผูกกันยุ่งไปหมด ให้คอยลุ้นตลอดว่าใครจะได้คู่กับใคร ไหนจะปริศนาทิ้งท้ายว่าเหตุใดซาตานจึงต้องสร้างเรื่องราวเหล่านี้ขึ้นมา เป็นนิยายที่น่าอ่านเล่มหนึ่งค่ะ ถึงจะยังไม่เข้าขั้นดีมากนักก็ตาม
ELEMENT ONLINE มหาเวทออนไลน์อลเวง PHASE 1.1
4
เมื่อสี่เทพอสูรตัวปลอมปรากฏตัวขึ้นป่วนโลกออนไลน์ กันต์หนึ่งในสี่เทพอสูรตัวจริงจำต้องหาคำตอบของเรื่องนี้
โดย: rasintra วันที่เขียนรีวิว: 04 ธันวาคม พ.ศ. 2557

"Element online มหาเวทออนไลน์ลเวง" หนึ่งในนิยายแนวเกมส์ออนไลน์ที่โด่งดังในช่วงนี้จากฝีมือของปลายปากกาอย่าง MaSaLan ผู้แต่ง Pride online ของสำนักพิมพ์ happy banana นั่นเอง ก่อนที่นักเขียนจะย้ายมาอยู่กับสถาพรบุ๊คส์และเปิดตัวเรื่องใหม่ด้วยเรื่องนี้ตามกระแสและความถนัดของเจ้าตัว Element online เป็นเกมส์โลกเสมือนจริง ที่นั่นมีทวีปแล้วแบ่งออกเป็น 4 เผ่า คือ เผ่าไฟ เผ่าดิน เผ่าน้ำ และเผ่าลม แต่ละเผ่ามีจุดเด่นและภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างกัน และในช่วงทดสอบเกมส์นี่เอง มีกลุ่มผู้เล่นจากทั้งสี่เผ่าจับกลุ่มกันทำภารกิจเป็นที่ฮือฮาไปทั่ว Element online จนพวกเขาได้รับการเรียกขานว่าเทพอสูรเพราะความเก่งกาจนั้น หลังจากจบช่วงทดลอง ไลท์นิ่ง หนึ่งในสี่เทพอสูรขอถอนตัวจากเกมส์นี้อย่างถาวรและจะไม่กลับมาเล่นเกมส์นี้อีกเพียงเพราะผู้หญิงคนหนึ่ง หลังจากผ่านไปหนึ่งปีกันต์ถูกพี่สาวขอร้องให้เข้าเล่นเกมส์ Element online เพื่อช่วยงาน กันต์จึงจำใจตกลงเพราะเห็นแก่เงินที่มากมายจากเกมส์ และเมื่อเขาออนไลน์เข้ามาได้ก็มีคนอื่นแอบใช้ชื่อเทพอสูรเอาหน้าไปแล้ว งานนี้กันต์จึงต้องตามหาเพื่อนทั้งสามคนเพื่อหาสาเหตุที่พวกเขายอมให้ตัวปลอมได้หน้านั้นไป นิยายเล่มนี้น่าเอาเรื่องเหมือนกันนะคะ ไม่แนะนำให้ถืออ่านเพราะอาจเกิดอาการเมื่อยได้ มีโปสเตอร์ในเล่มแถมการ์ดสวยๆก็นับว่าคุ้มค่าราคาอยู่เหมือนกันนะคะ การบรรยายขึ้นชื่อว่า MaSaLan ย่อมมีฝีมือในการเล่าเยี่ยมอยู่แล้ว บรรยายฉากทุกอย่างได้ละเอียดถี่ยิบมากค่ะ เห็นภาพเป็นฉากๆเลย แต่บางคนที่ไม่ชอบการบรรยายเวิ่นเว้ออาจจะไม่ชอบก็ได้นะคะ ตัวเนื้อเรื่องทำออกมาได้ดีเลยค่ะ ชอบพระเอกเรื่องนี้มาก คนอะไรเก่งไปเสียทุกอย่างจนน่าหมั่นไส้ (ฮา) แถมออกแนวขี้หลีหน่อยๆด้วย สาวๆในเรื่องก็เลยหลงเสน่ห์กันเป็นพรวน สร้างปมให้น่าติดตามค่ะ ว่าใครเป็นตัวการให้พระเอกเราเลิกเล่นเกมส์และบรรดาเทพอสูรคนอื่นหายไปไหน คนที่ชอบแนวเกมส์ออนไลน์และพระเอกเก่งเทพ ฉลาดแกมโกง แถมพราวเสน่ห์ เรื่องนี้ก็อาจจะทำให้นักอ่านหลายคนติดงอมแงมได้
สงครามข้ามขอบฟ้า เล่ม 1
3
บททดสอบในการจะเป็นเชื้อพระวงศ์ที่สุดแสนจะอลเวง
โดย: rasintra วันที่เขียนรีวิว: 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

"สงครามข้ามขอบฟ้า"เห็นชื่อเรื่องแวบแรกหลงนึกว่าจะเป็นแนวไซไฟแฟนตาซีเสียอีก แต่ก็ไม่ใช่มันเป็นแนวแฟนตาซีธรรมดาทั่วไป ตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ Z-Girl ในเครือสำนักพิมพ์สถาพร ซึ่งปกติ Z-Girl จะตีพิมพ์แนวรักใสๆกลับมีเจือปนแฟนตาซีมาเสียได้ แต่มีหลายเรื่องที่ทำออกมาได้ดี ถึงหน้าปกจะไม่สวยอีกเช่นเคยก็ตาม กล่าวถึงโลกใหม่ที่ชื่อ The Arching Sky ซึ่งคนที่อยู่บนโลกใบนี้แบางเป็นสองพวกคือคนที่ใช้เวทขาวหรือสายแสงสว่างกับเวทดำหรือสายความมืด ทุกๆปีเหล่าเจ้าหญิงเจ้าชายของแต่ละเมืองต้องได้รับการทดสอบเพื่อรับใบอนุญาตให้เป็นทายาทปกครองเมืองโดยชอบธรรม ด้วยเหตุนี้ สามพี่น้องเจ้าชายเจ้าหญิง นำทีมโดย แอเมทีสต์ นางเอกของเรื่องผู้ชื่นชอบการแต่งชุดที่มีขนแกะเป็นชีวิตจิตใจ ลีโอพาร์ท ผู้สุดแสนจะขี้หลี ชอบการพนัน และคาร์เนเลียน ผู้รักคทาเวทเสียยิ่งกว่าสตรี ทั้งสามต้องไปเข้ารับการทดสอบ โดยในการทดสอบนี้มาแปลกกว่าทุกทีคือให้แต่ละคนจับคู่กับเวทสายตรงข้าม ทั้งๆที่รู้ว่าคนของสายขาวและสายดำล้วนไม่ถูกกัน นางเอกเป็นคนของสายขาวต้องมาจับคู่กับเจ้าชายมาร์คัส คนของสายดำ ผู้มีผ้าสีดำคาดปากตลอด ไม่ยอมพูดจากับใครๆ งานนี้เพื่อคงความเป็นรัชทายาทต่อไป เธอจำเป็นต้องร่วมมือกับเจ้าชายที่แสนแปลกประหลาดนี้ "สงครามข้ามขอบฟ้า"เป็นนิยายที่เล่มบางขนาดพอๆกับนิยายของสำนักพิมพ์แจ่มใส ราคาสบายกระเป๋า ตัวเนื้อหาออกจะใช้ได้ในระดับหนึ่ง แต่บางช่วงก็น่าเบื่อมาก ภาษายังไม่ได้ดีเท่าไหร่ แถมยังมีเจ้าตัวอิโมติคอนแบบนิยายรักแจ่มใสติดมาด้วย สำหรับคนที่ไม่ชอบอะไรแบบนี้อาจจะอ่านสะดุดก็ได้ บางฉากที่น่าจะเรียกน้ำต่ได้แต่การบรรยายยังไม่ทำอินถึงขั้นนั้น ยอมรับว่าตัวพล็อตดีอยู่ที่ให้เจ้าหญิงเจ้าชายแต่ละคนมาทดสอบว่าคู่ควรกับตำแหน่งราชบัลลังก์หรือเปล่า เนื้อหาสบายๆไม่ได้เครียด แต่เล่มหลังๆอาจมีดราม่าเล็กน้อย เราชอบเรื่องราวเกี่ยวกับพี่น้อง แต่ความสัมพันธ์ของทั้งสามในเรื่องนี้มันออกจะไม่ค่อยตรงใจเราเท่าไหร่ ตัวละครมีเยอะแต่มีบุคลิกแตกต่างกันไป นางเอกเรื่องนี้เรารู้สึกเฉยๆ แต่เราชอบพระเอกที่แม้จะเงียบเป็นเป่าสากแต่เวลาที่บรรยายท่าทางการแสดงออกกลับดูน่ารักดี ตัวละครอื่นๆเรารู้สึกเฉยๆ ยังไม่มีอะไรที่เรียกความประทับใจจากเราได้เป็นพิเศษ
4
เมื่อเจ้าแห่งกาลเผลอสาปเจ้าชายให้กลายเป็นหญิง งานนี้เธอเลยต้องตามมาดูแลถึงที่
โดย: rasintra วันที่เขียนรีวิว: 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

หน้าปกไม่สวยอีกแล้วแต่เนื้อหาสนุกอย่าง "Zealinar เจ้ามนตราแห่งกาล" ฝีมือของผู้แต่ง Sheepy-bell เป็นนักเขียนอีกรายของสำนักพิมพ์สถาพรที่ไม่ยอมแต่งเรื่องต่อให้จบ หายหน้าไปนานหลายปี ซึ่งในช่วงนั้นก็มีนิยายอีกหลายเรื่องเช่นกันที่เป็นแบบนี้ เรื่องราวของ"Zealinar เจ้ามนตราแห่งกาล" เริ่มต้นในมิติที่สิบหก เป็นที่อยู่ของหลากหลายเผ่าพันธุ์ ที่แห่งนั้นมีเทพดำรงตำแหน่งต่างๆเพื่อดูแลสมดุลของโลก เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อเซรินเฟรย่า เป็นเจ้าแห่งกาลคนปัจจุบัน ได้เผลอใช้เวทมนตร์สาปเจ้าชายฟรานซิสเรย์ให้กลายเป็นผู้หญิงไปเสียได้ เพียงเพราะเธออยากเปลี่ยนปูที่ตัวเองกินให้เป็นปูตัวเมีย ด้วยเหตุนี้เมื่อเจ้าชายฟรานซิสเรย์มีอายุครบสิบห้าปี เธอจึงต้องรับผิดชอบทำหน้าที่ดูแลเจ้าชายโดยการเข้าไปเรียนในโรงเรียนเวทมนตร์เฟบีเธลด้วย อ่านคำโปรยด้านหลังโดยตัดสินใจมองข้ามหน้าปกเพราะเข้าใจดีว่าช่วงนั้นสำนักพิมพ์สถาพรมักจะออกแบบปกไม่ค่อยสวยเสมอ แต่เนื้อหาส่วนใหญ่มักจะสนุก แล้วก็คิดไม่ผิดมันสนุกเกินคาดด้วยซ้ำ ถึงการใช้ภาษาจะหยาบๆ ติดภาษาวัยรุ่นมาเยอะ การบรรยายไม่ค่อยลื่นไหลเท่าที่ควร แต่อ่านแล้วกลับสนุกได้ ถึงจะมีบางครั้งที่ใช้มุกออกจะปัญญาอ่อนไปบ้าง(อาจฟังดูแรงไปแต่เมื่ออ่านมุกแล้วจะคิดได้ว่ามันเพี้ยนดีจริงๆ) พล็อตเรื่องมาแบบสุดฮิตในสมัยนั้นคือเน้นเกี่ยวกับโรงเรียนเวทมนตร์ ซึ่งมีหลายคนเบื่อกับพล็อตซ้ำซากนี้ แต่เรากลับชอบอ่านแนวรั้วโรงเรียนมากๆ ไม่รู้ทำไม การสร้างตัวละครมีเอกลักษณ์และนิสัยที่เป็นตัวของตัวเอง ทำให้แยกออกได้ง่าย แถมตัวละครก็มีไม่เยอะนักผิดกับแฟนตาซีโรงเรียนเรื่องอื่น นอกจากนี้ที่นี่ยังมีแต่บรรดาเอลฟ์ ไม่มีมนุษย์และมีลักษณะธาตุแตกต่างกันไป นางเอกของเรื่องเป็นเอลฟ์ธาตุจันทรา อ่อนแอ ขี้โรคมากๆ แค่น้ำโคลนกระเด็นเปื้อนก็ผื่นขึ้น ตากฝนนิดหน่อยก็เป็นหวัด เจอฝุ่นมากไม่ได้จะจามไม่หยุด แต่เห็นเปราะบางแบบนี้ นางเอกเป็นคนเข้มแข็งเกินคาด แถมยังทั้งสวยทั้งเก่งไปเสียทุกอย่าง(ก็เจ้าตัวเป็นเจ้าแห่งกาลเวลา ไม่เก่งก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว)และถึงจะเป็นเทพแต่ก็ยากจน เป็นอะไรที่ผิดคาดมาก เธอต้องเก็บผลไม้มาขายที่ตลาด ฉากเรียกน้ำตาหรือความซาบซึ้งในเรื่องอย่าได้คิดที่จะหาเลยเพราะมันไม่มี เป็นแนวเพลินๆสบายๆ แฝงความตลกจนเกือบจะเพี้ยน ถึงกระนั้นเราก็ยังชอบเรื่องนี้อยู่ดีเพราะชอบตัวละครทุกตัวอย่างที่น้อยนักจะชอบหมด เป็นนิยายที่อ่านคลายเครียดได้จริงๆ
Raphael De l'air เจ้าแห่งสายลม
4
แฟนตาซีในรั้วโรงเรียนเวทและปริศนาของเจ้าชายแห่งสายลม
โดย: rasintra วันที่เขียนรีวิว: 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

นี่เป็นนิยายที่มีเนื้อหาดี การใช้ภาษาเยี่ยมเล่มหนึ่งของสำนักพิมพ์สถาพรบุ๊คส์และก็เป็นอีกเรื่องเช่นกันที่คนเขียนดันไม่ยอมแต่งตอนต่อไปสักที ทั้งๆที่ออกจะสนุกแท้ๆ อย่างที่บอกนิยายนี้เป็นแนวแฟนตาซี โรงเรียนเวทมนตร์อีกเช่นเคย มีกลิ่นอายของเรื่องอื่นติดมาหลายเรื่อง อย่าง เซวีน่าหรือหัวขโมยแห่งบารามอส แต่มีรายละเอียดรวมถึงการใช้ภาษาบรรยายต่างออกไป สนุกกว่าแนวรั้วโรงเรียนแฟนตาซีอื่นๆเสียอีก "เจ้าแห่งสายลม"กล่าวถึงอาณาจักรชายน์ที่ถูกตัดขาดออกจากดินแดนเอทรีสเพราะความผิดประการหนึ่งเมื่อครั้งอดีต ทำให้ทั้งสองฟากฝั่งพัฒนาบ้านเมืองไปคนละทาง อาณาจักรชายน์เน้นด้านเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ส่วนดินแดนเอทรีสกลับเต็มไปด้วยเวทมนตร์ เมื่อเวลาผ่านไปกำแพงที่ตัดขาดก็ได้พังทลายลง ทำให้สามารถจะเข้ามาหากันได้ แต่ยังไม่มีฝั่งไหนรู้ถึงเรื่องนี้ กระทั่งเจ้าชายราฟาเอลแห่งอาณาจักรชายน์เป็นผู้มีพรสวรรค์วิเศษ สามารถใช้พลังจากสายลมดุจเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ด้วยเหตุนี้เขาจึงถูกพาตัวำปเรียนที่โรงเรียนอาเดเลทด์ โรงเรียนของเหล่าผู้ใช้เวทเพื่อเรียนรู้ความสามารถของตนเอง พร้อมกับค้นหาความลับเกี่ยวกับสายเลือดแห่งเทพผู้รักษาในตัวเขาด้วย นิยายเรื่องนี้ค่อนข้างหนาเอาการอยู่แถมหน้าปกก็ไม่ค่อยสวยเหมือนทำออกมาลวกๆ น่าเสียดายมากๆ ทั้งที่เนื้อหาออกจะดี การใช้ภาษาคำบรรยายลื่นไหล สอดแทรกมุกตลกที่ต้องอ่านไปอมยิ้มไป เจ้าชายราฟาเอล เป็นเจ้าชายรูปงามสมบูรณ์แบบในทุกกระเบียด พลังในการใช้สายลมก็เก่งเทพซะจนไม่มีใครต่อกรได้ เราชอบพระเอกเก่งๆอยู่แล้ว เลยพลอยปลื้มเรื่องนี้ไปด้วย พลังสายลมของเจ้าชายก็ทำอะไรได้หลายอย่าง เช่น บิน ยกของ สร้างพายุ ใช้ลมอัดกระแทก สร้างใบมีดลมคมกริบตัดได้ทุกสิ่ง และทำให้ศัตรูขาดอากาศหายใจได้ด้วย แต่เพราะเขาใช้เวทลมได้ไม่มีขีดจำกัดนั่นเองจึงทำให้ใช้เวทสายอื่นไม่ได้เลย เพื่อนๆของพระเอกแต่ละคนก็น่าสนใจ เราคิดว่าเรื่องนี้มีตัวละครเยอะเอาการอยู่ ไหนจะเพื่อนร่วมชั้น อาจารย์ รุ่นพี่ที่ทำงานสภา ทำให้บางครั้งก็สับสนว่าคนนี้มันเป็นใคร มาจากไหน เป็นต้น เราชอบการบรรยายฉากตอนสอบเข้าโรงเรียนิาเดเลทด์เป็นอะไรที่สนุกและตลกกับท่าทางของตัวละคร อีกฉากที่ชอบคือตอนแข่งขันกระดาน เราคิดว่าคนเขียนไอเดียดีที่เปลี่ยนจากการแข่งแบบอื่นอย่าง ชิงธง หมากรุก มาเป็นการแข่งเกมกระดานเหมือนเกมบันไดงู และทำออกมาได้ดีเสียด้วย แต่มันจะดีกว่านี้หากนักเขียนออกเล่มต่อ ไม่ใช่เงียบหายนานเป็นปีแบบนี้ ทำให้รู้สึกเสียอรรถรสในการอ่านมาก ถ้ามีเล่มใหม่ออกเชื่อว่าจะต้องกลับไปทวนกันซะรอบก่อนค่อยอ่านต่อ ไม่งั้นเราจะหลงลืมบางประเด็นไป
ชาร์ลี เล่ม 1
5
อย่าคิดว่าหน้าปกไม่น่าอ่าน เนื้อหามันลึกล้ำกว่าที่คิด
โดย: rasintra วันที่เขียนรีวิว: 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

มาทางหนังสือของค่ายสถาพรบ้าง เราชื่นชอบสำนักพิมพ์นี้มาก ออกหนังสือสนุกๆดีมีคุณภาพเยอะ ที่เราจะรีวิวนั้นเป็นหนึ่งในเล่มโปรดของเรา และชอบหยิบขึ้นมาอ่านไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง จากตอนแรกยืมอ่านในห้องสมุดโรงเรียน สุดท้ายติดใจในเนื้อหาจนต้องตามเก็บเป็นของตนเองจนได้ "ชาร์ลี"เห็นหน้าปกธรรมดาไม่น่าดึงดูดขนาดนี้ อย่าได้คิดว่ามันไม่สนุกเชียว เราเองก็เป็นค่ะ เห็นหน้าปกกับเรื่องย่อด้านหลังไม่ค่อยน่าสนใจเลยยอมยืม จนอ่านแทบหมดห้องสมุดแล้วจึงจำใจต้องหยิบขึ้นมาอ่าน ปรากฎว่าเนื้อเรื่องเป็นอะไรที่ผิดคาดมากเลยค่ะ
นิยายกล่าวถึงแผ่นดินใหญ่นามว่า เซไลย์ ที่มีการคัดเลือกกษัตริย์เข้าปกครองดินแดน โดยมีผู้ท้าชิงเป็นเจ้าชายสองพระองค์คือ เจ้าชายคาลอส เจ้าชายผู้มีร่างกายอ้วนท้วมสมบูรณ์ มีอัธยาศัยดีมีเมตตา และเจ้าชาย ฆัวเน่ เจ้าชายผู้มีจิตใจอำมหิต แม้จะมีเสียงสนับสนุนให้เจ้าชายคาลอสขึ้นครองราชย์มากกว่าแต่เพื่อเป็นการประจักษ์ว่าใครคู่ควรที่สุด จึงต้องมีการทำภารกิจสามประการเพื่อยืนยันความเป็นกษัตริย์ ชาร์ลี ตัวเอกของเรื่องเป็นนูฟ (เผ่าพันธุ์ตัวเล็ก ที่มีหูยาวแหลมเป็นจุดเด่น และว่ายน้ำไม่ได้)เดินทางมาที่เซไลย์เพื่อสมัครเป็นผู้ช่วยของเจ้าชายคาลอส ตามคำขอของผู้เฒ่าแห่งเกาะนูฟ และการไปทำงานครั้งนี้ได้เปลี่ยนแปลงทัศนคติของเขาและหลายๆคนเกี่ยวกับเผ่าพันธุ์ที่แสนด้อยค่าอย่างนูฟ
ความจริงนิยายเรื่องนี้ดีมากๆเลยนะค่ะ น่าเสียดายที่คนเขียนไม่ยอมเขียนต่อเสียที รอมานานหลายปีแล้ว แต่จะให้คิดว่าเป็นเล่มเดียวจบก็ได้เหมือนกันเพราะเนื้อหามันค่อนข้างจบสมบูรณ์ในตัว เรายอมเก็บเรื่องนี้นอกจากเนื้อหาจะสนุกอ่านตามติดได้จนหมดเล่มแล้ว ยังมีข้อคิดอีกด้วย ชาร์ลี เป็นเด็กชายที่ดูถูกเผ่าพันธุ์ของตนเอง ว่าการเป็นนูฟนั้นมีข้อเสียหลายอย่าง ทั้งว่ายน้ำไม่ได้ ตัวก็เล็ก หน้าตาธรรมดาไม่ได้สวยชวนมอง มีหูแหลมยาวที่มักจะโดนเผ่าพันธุ์อื่นล้อเลียนประจำ ทักษะทางเวทมนต์เป็นศูนย์ เรียกได้ว่าข้อเสียร้อยแปด แต่เมื่อเขามาทำงานกับเจ้าชายคาลอส ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากพ่อมดเดลและมิตรภาพที่อัศวินอัสลันมีให้กับคนต่างเผ่าพันธุ์อย่างเขา ทำให้ชาร์ลีค่อยๆเปลี่ยนไป เราคิดว่าถึงจะมีข้อเสียหลายอย่างแต่เผ่าพันธุ์นูฟกลับมีทักษะอื่นมาทดแทนข้อด้อยเหล่านั้น เช่น มองเห็นได้ดีทั้งกลางวันกลางคืน ขนาดมองพระอาทิตย์ตาเปล่าได้ การเคลื่อนไหวที่ละเอียดละออจากการเป็นพรานทำให้นูฟมีทักษะทางอาวุธ นอกจากนี้นูฟยังปลดข้อต่อหรือเคลื่อนย้ายกระดูกในร่างกายเพื่อหลุดจากการจองจำได้อีกด้วย เป็นต้น เราชอบฉากการทำภารกิจมาก เพราะแสดงถึงความสามารถและลักษณะนิสัยของตัวละครเด่นชัด อ่านเพลินจนจบเลยล่ะค่ะ เป็นเนื้อหาที่ดีมากๆ อยากให้คนเขียนแต่งต่อจัง น่าจะต่อยอดเรื่องราวได้อีกเยอะ
แปดเซียนอลเวง เล่ม 1 (ชางขุย)
5
เปิดตำนานของเหล่าแปดเซียน เมื่อพวกเขามาป่วนยังโลกมนุษย์!
โดย: rasintra วันที่เขียนรีวิว: 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

มาถึงคราวของสำนักพิมพ์ happy banana กันบ้าง สำนักพิมพ์นี้ก็มีนิยายแปลจากไต้หวันแถมหน้าปกสีสันสดใสเยอะไม่น้อย เราขอมารีวิวเรื่อง "แปดเซียนอลเวง"จากนักเขียน ชางขุย ปกและภาพประกอบโดย เยี่ยเฟิง
หลันไฉ่เหอ หนึ่งในแปดเซียนได้ลงมายังโลกมนุษย์เพื่อตามหาเหล่าต้นไม้(หรือผัก ดอกไม้ พืชอะไรทำนองนั้น) ที่อาศัยอยู่ในตระกร้าของเขา เป็นบริวารรับใช้ กระทั่งเขามาพบกับ หลินเหมยฮัว เด็กหญิงตัวน้อยที่กำลังโดนน้องหมาชิวาว่ารังแก (เด็กหญิงนั่นคิดไปเองคนเดียว) เขาได้ช่วยเหลือเอาไว้และเหมยฮัวก็รู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจบวกกับตกหลุมรักหลันไฉ่เหอเข้าจึงให้เขามาอยู่ที่บ้าน ซึ่งที่นั่นก็มีหลินชวนซง พี่ชายของเหมยฮัวอาศัยอยู่ด้วย เพื่อให้ตนเองมีที่อยู่หลันไฉ่เหอจึงสมัครงานเป็นคนรับใช้ของบ้านหลังนี้ (แต่ตัวเองไม่เคยทำงานบ้านเลยสักครั้ง) และได้รู้ว่าที่บ้านนี้มีสิ่งที่เขากำลังตามหาอยู่
เหตุผลที่หยิบเล่มนี้ขึ้นมา ส่วนหนึ่งคือหน้าปกค่ะ สวยงามอลังการมาก แถมข้างในยังมีโปสเตอร์สีให้อีก ตัวละครแต่ละตัววาดออกมาได้งดงามมาก เราชอบอะไรแบบนี้ นับวันไต้หวันวาดสวยขึ้นทัดเทียมกับญี่ปุ่นแล้ว เนื้อเรื่องก็สุดแสนจะคลายเครียดได้ดีทีเดียวค่ะ หลันไฉ่เหอ เป็นเด็กหนุ่มผู้มีรอยยิ้มน้อยๆ ใสซื่อบริสุทธิ์ แต่เวลาอุทานออกมาคำหยาบโผล่มาเป็นพรวน และไม่ชอบให้ใครมาบอกว่าเขาเป็นหรือเหมือนผู้หญิงค่ะ ไม่งั้นพี่แกจะองค์ลงทันที แถมมีเรี่ยวแรงมหาศาลเกินคนธรรมดาด้วย ส่วนตัวเอกอีกคน หลินชวนซง เป็นนักเขียนนิยาย ผู้รัก(คลั่งไคล้)น้องสาวตัวเองสุดๆ ปกติเขาก็เป็นพี่ชายที่ดี อย่าให้โกรธแล้วกันน่ากลัวไม่แพ้หลันไฉ่เหอเลยทีเดียว สองคนนี้มาจับคู่ด้วยกันช่วยเพิ่มสีสันให้กับเรื่อง เพราะชอบทะเลาะกันบ่อยๆ (ส่วนใหญ่ชวนซงเป็นฝ่ายทะเลาะข้างเดียวมากกว่า หลันไฉ่เหอไม่ได้ทะเลาะกลับเลย) ส่วนตัวชอบเจ้าหัวไชเท้าของหลันไฉ่เหอ นามว่าอาหลัวค่ะ เจ้านี่ตัวฮาของเรื่องเลย อ่านไปแล้วอยากได้เจ้าตัวนี้สักต้นหนึ่ง ไว้ช่วยคลายเครียดจัง ในเรื่องก็จะมีปมปริศนาทิ้งไว้ให้ตามตลอด อย่างทำไมเหล่าต้นไม้วิเศษของหลันไฉ่เหอถึงได้หนีไป เกิดอะไรขึ้นตอนอยู่บนสวรรค์กันแน่ น่าติดตามมากๆค่ะ
จอมเวทบุปผาแดง 3
4
เรื่องราวความรักอันน่าประทับใจที่อาจทำให้ใครหลายๆคนต้องเสียน้ำตา
โดย: rasintra วันที่เขียนรีวิว: 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

นากาโนะ มิสึกิ จากนักเขียนเจ้าของเว็บนิยายออริจินัลเล็กๆบนโลกอินเตอร์เน็ต เปิดตัวเข้าสู่โลกแห่งนักเขียนเต็มตัวด้วยผลงานนิยาย "จอมเวทบุปผาแดง" พร้อมภาพประกอบฝีมือของ นากาโนะ เมกุมิอันสุดแสนจะงดงามและสีสันแดงบาดใจสมชื่อเรื่อง
นิยายเรื่องนี้อยู่ในยุคสมัยญี่ปุ่นโบราณ(ประมาณสมัยเฮย์อัน แต่ผู้เขียนได้สร้างโลกใบใหม่ขึ้นมาที่ไม่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นแต่อย่างใด เพียงแค่หยิบยืมลักษณะมาใช้บางส่วนเท่านั้น) นางเอกเรื่องนี้ชื่อว่า "อากิ" เป็นผู้ใช้ชิกิ(หรือชิกิคามิ ซึ่งก็คือการอัญเชิญวิญญาณมาลงร่างเนื้อเป็นการชั่วคราว เพื่อคอยรับใช้ก่อนที่จะไปสู่สุคติ) อากิไม่เคยอัญเชิญชิกิคามิมาได้เลยสักครั้งจำต้องรับคำท้าของศิษย์น้องร่วมสำนักซึ่งปัจจุบันเป็นจักรพรรดิผู้ปกครองประเทศ เพื่ออิสระภาพของตนเอง ครั้นเธอเรียกชิกิออกมาได้ กลับกลายเป็นชิกิคามิหนุ่มรูปงามที่ไร้ความทรงจำ แต่มีพลังที่ไม่ธรรมดา!
ขอบอกเลยว่าระหว่างทางกว่าจะอ่านจนจบเล่มเสียน้ำตาไปเป็นแก้ว ทีแรกเราไม่ชอบนางเอกลักษณะนี้เอามากๆ อ่อนแอ เปราะบาง ยอมให้คนอื่นรังแก แต่เพราะคุณพระเอกมีนิสัยที่ตรงข้ามกับอากิหน่อย แถมยังดีแสนดีสมชื่อที่เป็นพระเอกก็เลยพอถ่วงสมดุลกันได้บ้าง คนเขียนวางเนื้อเรื่องไว้ดีมาก นางเอกและพระเอกมีความสัมพันธ์เกี่ยวโยงกัน และตัวละครแต่ละตัวก็มีเหตุผลของการกระทำมารองรับ ทำให้บางครั้งถึงจะเป็นตัวร้ายแต่ก็ไม่ได้ร้ายอย่างที่คิดเสมอไป สำหรับใครที่ชื่นชอบแนวรักยุคโบราณผสมแฟนตาซี แถมเศร้าเคล้าน้ำตา(แต่ตอนจบแฮปปี้ไม่ต้องเป็นห่วง) นิยายเรื่องนี้ก็อาจจะทำให้ประทับใจถึงขั้นอารมณ์ค้างก็เป็นได้
www.batorastore.com © 2024