Customer Reviews

ผลงานของนักเขียนเจ้าของนามปากกา เจ้าหญิงผู้เลอโฉม กับเรื่อง "ปิ๊งรักร้ายนายตัวแสบ" ที่จัดว่าเป็นผลงานรุ่นแรกๆของสำนักพิมพ์แจ่มใสค่ะ
คิมซอยอน ดันไปมีเรื่องกับเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง จนเธอเกือบจะเอาตัวไม่รอด ดีที่ว่ายูแจอินแห่งโรงเรียนซางยูลิน(คู่อริกับโรงเรียนของนางเอก) บังเอิญผ่านมาช่วยเธอไว้ และเพื่อเป็นการตอบแทนยูแจอินจึงขอให้คิมซอยอนมาเป็นแฟนกับเขา ซึ่งมันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเธอมีจุนเซ แฟนสุดหล่อของเธออยู่แล้ว ถึงกระนั้นแจอินก็ไม่หวั่นพยายามเอาชนะใจเธอทีละนิด
อันนี้มาแนวเกาหลีจ๋าเลยค่ะ เห็นตัวพล็อตแล้วนึกถึงภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่เป็นสามเส้าและมีโรงเรียนคู่อริแบบนี้เช่นกัน เราค่อนข้างชอบแนวศึกสามเส้านะคะ มันสนุกดีแต่น่าเสียดายตรงที่นางเอกน่ารำคาญมากๆ ทั้งๆที่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว แต่กลับหวั่นไหวกับยูแจอินง่ายๆ มันเหมือนกับจะบอกว่านางเอกไม่ได้รักจุนเซจริงๆ จนเผลอใจไปรักอีกคนได้ จริงอยู่ว่านายแจอินนั้นก็ดีแสนดี แต่จุนเซ แฟนของนางเอกก็ดีไม่แพ้กันเลย อ่านไปก็รู้สึกสงสารจุนเซค่ะ เขาทำให้นางเอกทุกอย่างแต่กลับตอบแทนกันแบบนี้ ไม่แปลกเลยที่เพื่อนสนิทของนางเอกจะบอกว่าใจง่าย การดำเนินเรื่องบางช่วงติดๆขัดๆเป็นไปตามปกติของผลงานเรื่องแรกของนักเขียน แต่เล่มหลังๆเจ้าหญิงผู้เลอโฉมทำออกมาดีนะคะ โดยเฉพาะเรื่อง "BANG! สืบค้นรักหัวใจเจ้าชายยากูซ่า"นั้นถือว่าเยี่ยมเลยค่ะ "ปิ๊งรักร้ายนายตัวแสบ" เรื่องนี้เศร้านะคะ แต่มันก็จบแบบสุขสมหวังนะ ฉากหวานก็มีบ้าง แต่จะเผยความสับสนในใจของนางเอกเป็นส่วนใหญ่ ออกแนวน้ำเน่ายอดนิยมในตอนนั้น ถึงเนื้อหาจะไม่มีอะไรมากก็ตาม

ผลงานของนักเขียนเจ้าของนามปากกา เจ้าหญิงผู้เลอโฉม กับเรื่อง "ปิ๊งรักร้ายนายตัวแสบ" ที่จัดว่าเป็นผลงานรุ่นแรกๆของสำนักพิมพ์แจ่มใสค่ะ
คิมซอยอน ดันไปมีเรื่องกับเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง จนเธอเกือบจะเอาตัวไม่รอด ดีที่ว่ายูแจอินแห่งโรงเรียนซางยูลิน(คู่อริกับโรงเรียนของนางเอก) บังเอิญผ่านมาช่วยเธอไว้ และเพื่อเป็นการตอบแทนยูแจอินจึงขอให้คิมซอยอนมาเป็นแฟนกับเขา ซึ่งมันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเธอมีจุนเซ แฟนสุดหล่อของเธออยู่แล้ว ถึงกระนั้นแจอินก็ไม่หวั่นพยายามเอาชนะใจเธอทีละนิด
อันนี้มาแนวเกาหลีจ๋าเลยค่ะ เห็นตัวพล็อตแล้วนึกถึงภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่เป็นสามเส้าและมีโรงเรียนคู่อริแบบนี้เช่นกัน เราค่อนข้างชอบแนวศึกสามเส้านะคะ มันสนุกดีแต่น่าเสียดายตรงที่นางเอกน่ารำคาญมากๆ ทั้งๆที่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว แต่กลับหวั่นไหวกับยูแจอินง่ายๆ มันเหมือนกับจะบอกว่านางเอกไม่ได้รักจุนเซจริงๆ จนเผลอใจไปรักอีกคนได้ จริงอยู่ว่านายแจอินนั้นก็ดีแสนดี แต่จุนเซ แฟนของนางเอกก็ดีไม่แพ้กันเลย อ่านไปก็รู้สึกสงสารจุนเซค่ะ เขาทำให้นางเอกทุกอย่างแต่กลับตอบแทนกันแบบนี้ ไม่แปลกเลยที่เพื่อนสนิทของนางเอกจะบอกว่าใจง่าย การดำเนินเรื่องบางช่วงติดๆขัดๆเป็นไปตามปกติของผลงานเรื่องแรกของนักเขียน แต่เล่มหลังๆเจ้าหญิงผู้เลอโฉมทำออกมาดีนะคะ โดยเฉพาะเรื่อง "BANG! สืบค้นรักหัวใจเจ้าชายยากูซ่า"นั้นถือว่าเยี่ยมเลยค่ะ "ปิ๊งรักร้ายนายตัวแสบ" เรื่องนี้เศร้านะคะ แต่มันก็จบแบบสุขสมหวังนะ ฉากหวานก็มีบ้าง แต่จะเผยความสับสนในใจของนางเอกเป็นส่วนใหญ่ ออกแนวน้ำเน่ายอดนิยมในตอนนั้น ถึงเนื้อหาจะไม่มีอะไรมากก็ตาม

หากใครกำลังมองหาแนวมาเฟียหรือยากูซ่าในชุด Love series สไตล์วัยรุ่นอยู่ล่ะก็ ขอนำเสนอเรื่อง "BANG! สืบค้นรักหัวใจเจ้าชายยากูซ่า" แต่งโดยเจ้าหญิงผู้เลอโฉม จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์แจ่มใสค่ะ
ลิลินหรือเจ๊ลิน ลูกสาวผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ผู้รักความยุติธรรมสุดๆ เมื่อได้ยินว่ามียาเสพติดแพร่ระบาดในโรงเรียน ด้วยสายเลือดตำรวจผู้รักความยุติธรรม เธอจึงไม่รอช้าสืบหาตัวการ จนได้ผู้ต้องสงสัยเป็น โยชิกิ แห่งตระกูลยากูซ่าและเป็นครอบครัวที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยของพ่อเธอด้วย งานนี้เธอเลยต้องเข้าไปใกล้ชิดเพื่อหาหลักฐานมัดตัวให้ได้
เห็นเรื่องย่ออย่าเข้าใจว่ามันเป็นนิยายโรแมนส์นะ ถึงพล็อตจะดูเป็นยังงั้นก็เถอะ (ฮา) ยังไงซะการบรรยายก็เป็นแนวแจ่มใสเลิฟซีรีส์อยู่ดี มีตัวอีโมติคอนหอมปาดหอมคอ แต่เรื่องนี้แนะนำสุดๆเพราะสนุกมากๆ ขนาดว่าเราเห็นแนวพระเอกเป็นมาเฟียมาก็เยอะจนเอียน เรื่องนี้เรายังต้องบอกว่าสนุกจนเราเก็บไว้เป็นหนึ่งในนิยายที่ชอบของเจ้าหญิงผู้เลอโฉม เราชอบวิธีที่นางเอกเข้าไปใกล้ชิดพระเอกสุดๆ สืบจนได้ตารางเวลาไปไหนต่อไหนของโยชิกิเลยทีเดียว (ฮา) จากนั้นก็ใช้มารยาหญิงสารพัดเข้าไปใกล้ชิด ถึงขนาดย้ายไปอยู่คอนโดและอยู่ข้างห้องของพระเอก ตีหน้าซื่อว่าย้ายมาด้วยความบังเอิญ (ฮา)และนางเอกเรื่องนี้ฉลาด สู้คน เก่งต่อสู้อีกต่างหาก ไม่ร้องห่มร้องไห้ฟูมฟายง่ายๆ แต่บทจะน่ารักก็ทำให้พระเอกอดไม่ไหวไปหลายครั้ง ส่วนพระเอกออกแนวขรึมเย็นชาตามสไตล์มาเฟีย แต่เวลาเขินน่ารักสุดๆ (กรี๊ด) นางเอกชอบเรียกพระเอกว่าโยจัง ในเรื่องมีพระรองอีกคนเป็นเพื่อนสมัยเด็กของนางเอกค่ะ นี่ก็มาแนวหวงคอยเป็นห่วงเป็นใยนางเอกตลอด เป็นศึกแย่งชิงนางเอกที่มันส์มาก ใครชอบพล็อตแนวนี้ลองอ่านดูนะคะ รับรองจะติดใจ

หากใครกำลังมองหาแนวมาเฟียหรือยากูซ่าในชุด Love series สไตล์วัยรุ่นอยู่ล่ะก็ ขอนำเสนอเรื่อง "BANG! สืบค้นรักหัวใจเจ้าชายยากูซ่า" แต่งโดยเจ้าหญิงผู้เลอโฉม จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์แจ่มใสค่ะ
ลิลินหรือเจ๊ลิน ลูกสาวผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ผู้รักความยุติธรรมสุดๆ เมื่อได้ยินว่ามียาเสพติดแพร่ระบาดในโรงเรียน ด้วยสายเลือดตำรวจผู้รักความยุติธรรม เธอจึงไม่รอช้าสืบหาตัวการ จนได้ผู้ต้องสงสัยเป็น โยชิกิ แห่งตระกูลยากูซ่าและเป็นครอบครัวที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยของพ่อเธอด้วย งานนี้เธอเลยต้องเข้าไปใกล้ชิดเพื่อหาหลักฐานมัดตัวให้ได้
เห็นเรื่องย่ออย่าเข้าใจว่ามันเป็นนิยายโรแมนส์นะ ถึงพล็อตจะดูเป็นยังงั้นก็เถอะ (ฮา) ยังไงซะการบรรยายก็เป็นแนวแจ่มใสเลิฟซีรีส์อยู่ดี มีตัวอีโมติคอนหอมปาดหอมคอ แต่เรื่องนี้แนะนำสุดๆเพราะสนุกมากๆ ขนาดว่าเราเห็นแนวพระเอกเป็นมาเฟียมาก็เยอะจนเอียน เรื่องนี้เรายังต้องบอกว่าสนุกจนเราเก็บไว้เป็นหนึ่งในนิยายที่ชอบของเจ้าหญิงผู้เลอโฉม เราชอบวิธีที่นางเอกเข้าไปใกล้ชิดพระเอกสุดๆ สืบจนได้ตารางเวลาไปไหนต่อไหนของโยชิกิเลยทีเดียว (ฮา) จากนั้นก็ใช้มารยาหญิงสารพัดเข้าไปใกล้ชิด ถึงขนาดย้ายไปอยู่คอนโดและอยู่ข้างห้องของพระเอก ตีหน้าซื่อว่าย้ายมาด้วยความบังเอิญ (ฮา)และนางเอกเรื่องนี้ฉลาด สู้คน เก่งต่อสู้อีกต่างหาก ไม่ร้องห่มร้องไห้ฟูมฟายง่ายๆ แต่บทจะน่ารักก็ทำให้พระเอกอดไม่ไหวไปหลายครั้ง ส่วนพระเอกออกแนวขรึมเย็นชาตามสไตล์มาเฟีย แต่เวลาเขินน่ารักสุดๆ (กรี๊ด) นางเอกชอบเรียกพระเอกว่าโยจัง ในเรื่องมีพระรองอีกคนเป็นเพื่อนสมัยเด็กของนางเอกค่ะ นี่ก็มาแนวหวงคอยเป็นห่วงเป็นใยนางเอกตลอด เป็นศึกแย่งชิงนางเอกที่มันส์มาก ใครชอบพล็อตแนวนี้ลองอ่านดูนะคะ รับรองจะติดใจ

ในช่วงที่สำนักพิมพ์แจ่มใสเพิ่งจะเปิดตัวได้ไม่นาน มีนิยายแนวรักวัยรุ่นไม่กี่เรื่องที่วางขายแล้วต้องตาเหล่านักอ่าน เปิดกระแสนิยายแนวใหม่อย่างเรื่อง "ยัยเวอร์จิ้นปิ๊งรักนักเพลย์บอย" ผลงานเรื่องแรกของแสตมป์เบอรี่นั่นเองค่ะ เป็นเรื่องที่ฮิตกันปากต่อปาก ขนาดนิยายยังขายดีอย่างไม่น่าเชื่อจนทุกวันนี้ยังมีคนอยากได้นิยายเล่มนี้กันอยู่เยอะเลยค่ะ
ริบบิ้น นางเอกผู้สุดแสนใสซื่อและติ๊งต๊องอย่างหาที่ใดเปรียบ เธอต้องการพิสูจน์ว่าตนเองนั้นไม่ได้ใสซื่ออินโนเซนต์แบบที่เพื่อนๆกล่าว จึงแอบคนในครอบครัวไปเที่ยวผับกับเพื่อนๆ ขากลับเธอเจอรถของตนเองจอดผิดที่ผิดทางแถมยังลืมล็อครถก็ไม่ได้ใส่ใจ โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าขับรถผิดคัน เป็นผลให้จีซัสต้องไล่ตามมาเอารถคืน และชีวิตของเธอก็เข้าไปพัวพันของหนุ่มหล่อยอดเพลย์บอยที่ขยันหม้อสาวไม่เว้นแต่ละวันอย่างจีซัสแห่งวงไซโคเข้าจนได้ แถมเขายังถือสิทธิ์ความเป็นเจ้าของตัวเธอด้วยการเซ็นชื่อลงบนหน้าอกของเธอด้วย
ความรู้สึกหลังจากอ่านเรื่องนี้จบ จะว่าสนุกก็ได้นะคะแต่มันยังไม่สุดในหลายๆทาง แบบว่าอ่านแล้วมุกตลกในเรื่องจะฮาใช้ได้ แต่ด้วยความที่นางเอกติ๊งต๊องกับใสซื่อจนเกินบรรยาย ขนาดนึกว่าถุงยางอนามัยกลิ่นสตรอเบอรี่คือหมากฝรั่ง ทำเอาเราหมดอารมณ์ เดิมทีก็ไม่ได้รังเกียจนางเอกประเภทนี้แท้ๆนะ แต่คุณเธอดูจะเกินไปนิด พระเอกยังโอเคกว่าเลย ถ้าเราเป็นพระเอกคงจะปวดหัวกับนางเอกน่าดู พระเอกทำอะไรลามกใส่แต่นางเอกกลับไม่รู้ว่าคืออะไร เล่นเอาพระเอกเหวอทำอะไรไม่ถูกไปหลายครั้ง (ฮา) ตัวเนื้อเรื่องเรียบๆไม่มีอะไรหวือหวา ผลงานเรื่องแรกของนักเขียนแสตมป์เบอรี่ยังเป็นแบบมือใหม่อยู่ พล็อตจึงยังไม่โดดเด่น เทียบกับปัจจุบันของสแตมป์เบอรี่แล้ว เล่มหลังๆสนุกกว่ามากค่ะ อย่าง "loveland หัวใจกิ๊กกั๊กคู่รักอลเวง" ที่เราเคยรีวิวก่อนหน้านี้ สนุกสุดๆเลยค่ะ ยัยเวอร์จิ้นปิ๊งรักนักเพลย์บอยถึงการใช้มุกที่ส่อทางลามกจะเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวที่ทำให้คนอ่านติดตามผลงาน (เราก็เป็นหนึ่งในนั้น) ถ้ามีคะแนนเต็มสิบ เราคงให้คะแนนแค่พอผ่าน ไม่ถึงกับชอบมากมาย

ในช่วงที่สำนักพิมพ์แจ่มใสเพิ่งจะเปิดตัวได้ไม่นาน มีนิยายแนวรักวัยรุ่นไม่กี่เรื่องที่วางขายแล้วต้องตาเหล่านักอ่าน เปิดกระแสนิยายแนวใหม่อย่างเรื่อง "ยัยเวอร์จิ้นปิ๊งรักนักเพลย์บอย" ผลงานเรื่องแรกของแสตมป์เบอรี่นั่นเองค่ะ เป็นเรื่องที่ฮิตกันปากต่อปาก ขนาดนิยายยังขายดีอย่างไม่น่าเชื่อจนทุกวันนี้ยังมีคนอยากได้นิยายเล่มนี้กันอยู่เยอะเลยค่ะ
ริบบิ้น นางเอกผู้สุดแสนใสซื่อและติ๊งต๊องอย่างหาที่ใดเปรียบ เธอต้องการพิสูจน์ว่าตนเองนั้นไม่ได้ใสซื่ออินโนเซนต์แบบที่เพื่อนๆกล่าว จึงแอบคนในครอบครัวไปเที่ยวผับกับเพื่อนๆ ขากลับเธอเจอรถของตนเองจอดผิดที่ผิดทางแถมยังลืมล็อครถก็ไม่ได้ใส่ใจ โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าขับรถผิดคัน เป็นผลให้จีซัสต้องไล่ตามมาเอารถคืน และชีวิตของเธอก็เข้าไปพัวพันของหนุ่มหล่อยอดเพลย์บอยที่ขยันหม้อสาวไม่เว้นแต่ละวันอย่างจีซัสแห่งวงไซโคเข้าจนได้ แถมเขายังถือสิทธิ์ความเป็นเจ้าของตัวเธอด้วยการเซ็นชื่อลงบนหน้าอกของเธอด้วย
ความรู้สึกหลังจากอ่านเรื่องนี้จบ จะว่าสนุกก็ได้นะคะแต่มันยังไม่สุดในหลายๆทาง แบบว่าอ่านแล้วมุกตลกในเรื่องจะฮาใช้ได้ แต่ด้วยความที่นางเอกติ๊งต๊องกับใสซื่อจนเกินบรรยาย ขนาดนึกว่าถุงยางอนามัยกลิ่นสตรอเบอรี่คือหมากฝรั่ง ทำเอาเราหมดอารมณ์ เดิมทีก็ไม่ได้รังเกียจนางเอกประเภทนี้แท้ๆนะ แต่คุณเธอดูจะเกินไปนิด พระเอกยังโอเคกว่าเลย ถ้าเราเป็นพระเอกคงจะปวดหัวกับนางเอกน่าดู พระเอกทำอะไรลามกใส่แต่นางเอกกลับไม่รู้ว่าคืออะไร เล่นเอาพระเอกเหวอทำอะไรไม่ถูกไปหลายครั้ง (ฮา) ตัวเนื้อเรื่องเรียบๆไม่มีอะไรหวือหวา ผลงานเรื่องแรกของนักเขียนแสตมป์เบอรี่ยังเป็นแบบมือใหม่อยู่ พล็อตจึงยังไม่โดดเด่น เทียบกับปัจจุบันของสแตมป์เบอรี่แล้ว เล่มหลังๆสนุกกว่ามากค่ะ อย่าง "loveland หัวใจกิ๊กกั๊กคู่รักอลเวง" ที่เราเคยรีวิวก่อนหน้านี้ สนุกสุดๆเลยค่ะ ยัยเวอร์จิ้นปิ๊งรักนักเพลย์บอยถึงการใช้มุกที่ส่อทางลามกจะเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวที่ทำให้คนอ่านติดตามผลงาน (เราก็เป็นหนึ่งในนั้น) ถ้ามีคะแนนเต็มสิบ เราคงให้คะแนนแค่พอผ่าน ไม่ถึงกับชอบมากมาย

มาอีกครั้งกับนิยายจากปลายปากกาของแสตมป์เบอรี่เรื่อง "Love land หัวใจกิ๊กกั๊ก คู่รักอลเวง" หนึ่งในสี่เล่มดินแดนอัศจรรย์ อันประกอบด้วย "Loveless land เสกมนตร์ร้ายให้หัวใจไม่ไร้รัก", "Power land สูตรรักลุ้นหัวใจนายปีศาจ"และ "Fighting land เทรักมัดหัวใจนายนักสู้" โดยที่นิยายเรื่องนี้เป็นเล่มแรกของทั้งหมดค่ะ
ยูริไดซ์ นางของเรื่องอกหักครบสิบครั้ง ทำให้ถูกพาตัวไปยังดินแดนแห่งรักพร้อมกับซีเดย์ ดาราหนุ่มสุดฮอต โดยดินแดนนี้มอบโอกาสให้กับคนที่ผิดหวังกับความรักมาใช้ชีวิตร่วมกัน และยูริไดซ์กับซีเดย์ก็ได้รับเลือกเพื่อเติมเต็มพื้นที่ประชากร ทั้งสองคนจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ แต่งงานกันและมีทายาทตามคำสั่งของราชาดินแดนแห่งรัก
ในบรรดาผลงานของแสตมป์เบอรี่ เราชอบเรื่องนี้ที่สุดเลยค่ะ สนุกมากๆ แบบว่านอกจากพล็อตจะแฟนตาซีแล้ว ยังแหวกแนวมาก คิดได้ไง ดินแดนแห่งรักที่ทุกคนเกิดมาก็ต้องแต่งงานมีคู่ชีวิต และต้องผ่านด่านทดสอบแห่งรักเพื่อได้สิทธิ์พลเมืองและความสะดวกสบายต่างๆ ยิ่งระดับสูงขึ้นจะสามารถใช้เวทมนตร์เสกอะไรต่ออะไรได้มากขึ้นด้วย แม้บททดสอบแต่ละอันนี่... เป็นฉากชวนฟินกิ๊วก๊าวใจมากค่ะ เจอแบบนี้มาหลายด่านมันจะไม่รักกันได้เหรอ(ฮา) มีแต่บททดสอบที่ทำให้ใกล้ชิดกันทั้งนั้นเลย และเมืองที่พวกนางเอกกับพระเอกอยู่ก็มีแต่สีชมพู เวลาจะซื้อของก็ไม่ต้องจ่ายด้วยเงินสดแต่จ่ายด้วยการหอมแก้มคนขายเพื่อเพิ่มระดับพลังชีวิตรัก (ฮา) พระเอกเราก็เท่บาดใจ ถึงจะกวนไปหน่อยแต่ก็โอเคกว่าเรื่องอื่นๆล่ะ ขี้หึงทีน่ารักมากเลย การดำเนินเรื่องก็ไม่เบื่อเลยด้วย อ่านติดหนึบค่ะ รับรอง

มาอีกครั้งกับนิยายจากปลายปากกาของแสตมป์เบอรี่เรื่อง "Love land หัวใจกิ๊กกั๊ก คู่รักอลเวง" หนึ่งในสี่เล่มดินแดนอัศจรรย์ อันประกอบด้วย "Loveless land เสกมนตร์ร้ายให้หัวใจไม่ไร้รัก", "Power land สูตรรักลุ้นหัวใจนายปีศาจ"และ "Fighting land เทรักมัดหัวใจนายนักสู้" โดยที่นิยายเรื่องนี้เป็นเล่มแรกของทั้งหมดค่ะ
ยูริไดซ์ นางของเรื่องอกหักครบสิบครั้ง ทำให้ถูกพาตัวไปยังดินแดนแห่งรักพร้อมกับซีเดย์ ดาราหนุ่มสุดฮอต โดยดินแดนนี้มอบโอกาสให้กับคนที่ผิดหวังกับความรักมาใช้ชีวิตร่วมกัน และยูริไดซ์กับซีเดย์ก็ได้รับเลือกเพื่อเติมเต็มพื้นที่ประชากร ทั้งสองคนจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ แต่งงานกันและมีทายาทตามคำสั่งของราชาดินแดนแห่งรัก
ในบรรดาผลงานของแสตมป์เบอรี่ เราชอบเรื่องนี้ที่สุดเลยค่ะ สนุกมากๆ แบบว่านอกจากพล็อตจะแฟนตาซีแล้ว ยังแหวกแนวมาก คิดได้ไง ดินแดนแห่งรักที่ทุกคนเกิดมาก็ต้องแต่งงานมีคู่ชีวิต และต้องผ่านด่านทดสอบแห่งรักเพื่อได้สิทธิ์พลเมืองและความสะดวกสบายต่างๆ ยิ่งระดับสูงขึ้นจะสามารถใช้เวทมนตร์เสกอะไรต่ออะไรได้มากขึ้นด้วย แม้บททดสอบแต่ละอันนี่... เป็นฉากชวนฟินกิ๊วก๊าวใจมากค่ะ เจอแบบนี้มาหลายด่านมันจะไม่รักกันได้เหรอ(ฮา) มีแต่บททดสอบที่ทำให้ใกล้ชิดกันทั้งนั้นเลย และเมืองที่พวกนางเอกกับพระเอกอยู่ก็มีแต่สีชมพู เวลาจะซื้อของก็ไม่ต้องจ่ายด้วยเงินสดแต่จ่ายด้วยการหอมแก้มคนขายเพื่อเพิ่มระดับพลังชีวิตรัก (ฮา) พระเอกเราก็เท่บาดใจ ถึงจะกวนไปหน่อยแต่ก็โอเคกว่าเรื่องอื่นๆล่ะ ขี้หึงทีน่ารักมากเลย การดำเนินเรื่องก็ไม่เบื่อเลยด้วย อ่านติดหนึบค่ะ รับรอง

มาถึงคราวนิยายที่รวมตัวละครหล่อๆกันบ้าง ผลงานของนักเขียนสำนักพิมพ์แจ่มใสที่มีชื่ออย่างแสตมป์เบอรี่ ที่มากับเรื่อง "Ze-Guys แก็งหล่อวายร้ายกับยัยจำเลย(น่า)รัก ที่เห็นเพียงแค่ชื่อก็รู้ว่าตัวพล็อตนั้นได้แรงบันดาลใจมาจากจำเลยรักนั่นเอง (ฮา)
นางเอกของเรื่องคือ ยาคูลท์ เธอเป็นเด็กกำพร้าที่มีชีวิตอันน่ารันทดอย่างยิ่ง เมื่อคนที่เคยอุปถัมภ์เธอมาตลอดเสียชีวิต จึงต้องระเห็จออกมาจากสถานเลี้ยงเด็กเะราะเธออายุถึงวัยจะสามารถพึ่งพาตัวเองได้แล้ว ทั้งๆที่ยาคูลท์เรียนจบมาแค่ม.6เท่านั้น เธอได้งานทำโดยการแกล้งเป็นแฟนของเดล เพราะได้เงินเยอะและเธอมีคุณสมบัติครบ แต่ที่ไหนได้เดลกลับหลอกให้เธอเป็นตัวประกันใช้หนี้ให้กับพวกซีกายส์ สามหนุ่มสุดหล่อ เจ้าของดาร์คซิตี้ มหกรรมการกลั่นแกล้งแสนปวดใจจึงเริ่มต้นขึ้น
ทุกคนอาจจะคิดว่าเรื่องนี้เป็นจำเลยรักภาคพิศดารก็ได้นะคะ (ฮา) แบบว่านางเอกโดนหลอกให้มาเป็นตัวแทนใช้หนี้และโดนสามหนุ่มกลั่นแกล้งเธอสารพัด ซึ่งวิธีการแกล้งก็สุดแสนจะพิศดารจนต้องคิดว่าทำไปได้นะ นางเอกก็... จะว่ายังไงดีออกติ๊งต๊องตามระเบียบของนิยายสำนักพิมพ์นี้ แต่ก็ยอมรับว่าคุณเธอโดนแกล้งสารพัดอย่างมากก็แค่โวยวาย ไม่ได้เจ็บแค้นเคืองโกรธ เล่นเอาสามหนุ่มรู้สึกหมดอารมณ์ไปตามๆกัน ช่วงแรกจะเดาทางไม่ออกหรอกค่ะว่าใครเป็นพระเอกก็มีตั้งสามคนนี่ คนแรกคือซีโร่ รายนี้มาดกวน ชอบนักเรื่องการพนัน พี่แกพนันหมดกระทั่งเรื่องสะดือจุ่นหรือสะดือโบ๋ยังเอามาพนันได้ (ฮา) คนที่สองคือโซนิค ชอบซิ่งรถ เป็นนักแข่งรถมือหนึ่ง เคยลากนางเอกให้นั่งรถไปด้วย ส่วนสภาพของนางเอกหลังจากนั่งรถก็ไปอ่านเองนะคะ คนสุดท้าย เซลกิ เก่งการต่อสู้ที่สุดที่ในกลุ่ม หลงรักแมวมาก จับนางเอกมาเป็นแมว (เราว่าคนสุดท้ายนี่ใจดีสุดแล้วนะ เมื่อเทียบกับสองคนแรก) การดำเนินเรื่องเต็มไปด้วยความตลกโปกฮาของนางเอก ดราม่าแทบจะไม่มี เพราะพอมาบรรยายแบบมีอิโมติคอนแล้ว อารมณ์จะเครียดหายหมดเลย (ฮา) ใครชอบผลงานของนักเขียนแสตมป์เบอรี่ อันนี้ก็ไม่ควรพลาดค่ะ

มาถึงคราวนิยายที่รวมตัวละครหล่อๆกันบ้าง ผลงานของนักเขียนสำนักพิมพ์แจ่มใสที่มีชื่ออย่างแสตมป์เบอรี่ ที่มากับเรื่อง "Ze-Guys แก็งหล่อวายร้ายกับยัยจำเลย(น่า)รัก ที่เห็นเพียงแค่ชื่อก็รู้ว่าตัวพล็อตนั้นได้แรงบันดาลใจมาจากจำเลยรักนั่นเอง (ฮา)
นางเอกของเรื่องคือ ยาคูลท์ เธอเป็นเด็กกำพร้าที่มีชีวิตอันน่ารันทดอย่างยิ่ง เมื่อคนที่เคยอุปถัมภ์เธอมาตลอดเสียชีวิต จึงต้องระเห็จออกมาจากสถานเลี้ยงเด็กเะราะเธออายุถึงวัยจะสามารถพึ่งพาตัวเองได้แล้ว ทั้งๆที่ยาคูลท์เรียนจบมาแค่ม.6เท่านั้น เธอได้งานทำโดยการแกล้งเป็นแฟนของเดล เพราะได้เงินเยอะและเธอมีคุณสมบัติครบ แต่ที่ไหนได้เดลกลับหลอกให้เธอเป็นตัวประกันใช้หนี้ให้กับพวกซีกายส์ สามหนุ่มสุดหล่อ เจ้าของดาร์คซิตี้ มหกรรมการกลั่นแกล้งแสนปวดใจจึงเริ่มต้นขึ้น
ทุกคนอาจจะคิดว่าเรื่องนี้เป็นจำเลยรักภาคพิศดารก็ได้นะคะ (ฮา) แบบว่านางเอกโดนหลอกให้มาเป็นตัวแทนใช้หนี้และโดนสามหนุ่มกลั่นแกล้งเธอสารพัด ซึ่งวิธีการแกล้งก็สุดแสนจะพิศดารจนต้องคิดว่าทำไปได้นะ นางเอกก็... จะว่ายังไงดีออกติ๊งต๊องตามระเบียบของนิยายสำนักพิมพ์นี้ แต่ก็ยอมรับว่าคุณเธอโดนแกล้งสารพัดอย่างมากก็แค่โวยวาย ไม่ได้เจ็บแค้นเคืองโกรธ เล่นเอาสามหนุ่มรู้สึกหมดอารมณ์ไปตามๆกัน ช่วงแรกจะเดาทางไม่ออกหรอกค่ะว่าใครเป็นพระเอกก็มีตั้งสามคนนี่ คนแรกคือซีโร่ รายนี้มาดกวน ชอบนักเรื่องการพนัน พี่แกพนันหมดกระทั่งเรื่องสะดือจุ่นหรือสะดือโบ๋ยังเอามาพนันได้ (ฮา) คนที่สองคือโซนิค ชอบซิ่งรถ เป็นนักแข่งรถมือหนึ่ง เคยลากนางเอกให้นั่งรถไปด้วย ส่วนสภาพของนางเอกหลังจากนั่งรถก็ไปอ่านเองนะคะ คนสุดท้าย เซลกิ เก่งการต่อสู้ที่สุดที่ในกลุ่ม หลงรักแมวมาก จับนางเอกมาเป็นแมว (เราว่าคนสุดท้ายนี่ใจดีสุดแล้วนะ เมื่อเทียบกับสองคนแรก) การดำเนินเรื่องเต็มไปด้วยความตลกโปกฮาของนางเอก ดราม่าแทบจะไม่มี เพราะพอมาบรรยายแบบมีอิโมติคอนแล้ว อารมณ์จะเครียดหายหมดเลย (ฮา) ใครชอบผลงานของนักเขียนแสตมป์เบอรี่ อันนี้ก็ไม่ควรพลาดค่ะ

มาแนวสำนักพิมพ์แจ่มใส Love series กันบ้างนะคะ กับเรื่อง "เกมลึกลับลุ้นรักข้ามดินแดน" ผู้เขียนคือหนูการ์ตูน ค่ะ
ใบเฟิร์น เด็กสาวผู้คลั่งไคล้การเล่นเกม ได้แผ่นเกมฟรีจากทางร้านมาทดลองเล่น เป็นแนว RPG เธอได้รับบทบาทให้เป็นเจ้าหญิง ขณะที่กำลังเล่นอยู่ ใบเฟิร์นก็ถูกดูดเข้าไปในเกม และเมื่อลืมตาก็พบว่าเธอมาอยู่ในโลกแสนประหลาดที่มีทั้งสัตว์ประหลาดและเวทมนตร์ ใบเฟิร์นในฐานะเจ้าหญิงเพียงหนึ่งเดียวต้องเป็นผู้นำทัพไปปราบปีศาจก่อนที่พวกมันจะลงมือสังหารเธอ โดยมีจอมเวทสุดหล่อผู้ทะลุมิติมาเหมือนกับเธอคอยฝึกฝนและคุ้มครองเธอ
หลายคนฟังเรื่องย่อแล้ว อาจเกิดอาการเหวอว่า นี่แนวแจ่มใสเลิฟซีรีย์จริงดิ ทำไมมันถึงได้ดูแฟนตาซีแบบเอนเทอร์ล่ะ (ฮา) ความจริงมันก็คือแนวเรื่องแบบแจ่มใสล่ะนะคะ มีพวกอิโมติคอนทั้งหลายแทรกเป็นระยะ และการใช้ประโยคพูด คำบรรยายน้อยๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของสำนักพิมพ์ก็ยังคงเดิม ถึงจะว่าแฟนตาซีมันก็ไม่เต็มขั้น กระเดียดไปทางคอเมดี้ด้วยซ้ำ คือนางเอกติ๊งต๊องมากมาย ส่วนพระเอกก็กวนพระบาทาซะ (ฮา) การดำเนินเรื่องจะเกี่ยวกับการฝึกฝนนางเอกให้เป็นผู้นำทัพด้วยเวทมนตร์อันพิศดาร มีล้อเลียนดารานักร้องนิดหน่อย (เป็นเราถ้าได้คาถานั้นมาคงปลอมเป็นดาราเหมือนกัน ฮ่าๆ) และระหว่างฝึกก็ยิ่งสนิทกันขึ้นเรื่อยๆ ตามพล็อต มีสัตว์วิเศษอย่างมังกรน้อยช่วยเสริมส่งความรัก(หรือขัดขวางความรัก) ให้ดูสนุกสนานขึ้นมานิดหน่อย ถึงตอนจบของเรื่องนี้จะทำออกมาได้ถูกใจเรามากก็ตาม แต่การดำเนินเรื่องกว่าจะจบนี่... น่าเบื่อเอามากๆเลยค่ะ ถึงเล่มจะบาง (มีแค่ไม่กี่ร้อยหน้าเองค่ะ) เนื้อหาไม่เยอะมากก็ตาม มันเหมาะสำหรับคนที่ต้องการหาหนังสือเบาๆ มาอ่านฆ่าเวลามากกว่าค่ะ

มาแนวสำนักพิมพ์แจ่มใส Love series กันบ้างนะคะ กับเรื่อง "เกมลึกลับลุ้นรักข้ามดินแดน" ผู้เขียนคือหนูการ์ตูน ค่ะ
ใบเฟิร์น เด็กสาวผู้คลั่งไคล้การเล่นเกม ได้แผ่นเกมฟรีจากทางร้านมาทดลองเล่น เป็นแนว RPG เธอได้รับบทบาทให้เป็นเจ้าหญิง ขณะที่กำลังเล่นอยู่ ใบเฟิร์นก็ถูกดูดเข้าไปในเกม และเมื่อลืมตาก็พบว่าเธอมาอยู่ในโลกแสนประหลาดที่มีทั้งสัตว์ประหลาดและเวทมนตร์ ใบเฟิร์นในฐานะเจ้าหญิงเพียงหนึ่งเดียวต้องเป็นผู้นำทัพไปปราบปีศาจก่อนที่พวกมันจะลงมือสังหารเธอ โดยมีจอมเวทสุดหล่อผู้ทะลุมิติมาเหมือนกับเธอคอยฝึกฝนและคุ้มครองเธอ
หลายคนฟังเรื่องย่อแล้ว อาจเกิดอาการเหวอว่า นี่แนวแจ่มใสเลิฟซีรีย์จริงดิ ทำไมมันถึงได้ดูแฟนตาซีแบบเอนเทอร์ล่ะ (ฮา) ความจริงมันก็คือแนวเรื่องแบบแจ่มใสล่ะนะคะ มีพวกอิโมติคอนทั้งหลายแทรกเป็นระยะ และการใช้ประโยคพูด คำบรรยายน้อยๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของสำนักพิมพ์ก็ยังคงเดิม ถึงจะว่าแฟนตาซีมันก็ไม่เต็มขั้น กระเดียดไปทางคอเมดี้ด้วยซ้ำ คือนางเอกติ๊งต๊องมากมาย ส่วนพระเอกก็กวนพระบาทาซะ (ฮา) การดำเนินเรื่องจะเกี่ยวกับการฝึกฝนนางเอกให้เป็นผู้นำทัพด้วยเวทมนตร์อันพิศดาร มีล้อเลียนดารานักร้องนิดหน่อย (เป็นเราถ้าได้คาถานั้นมาคงปลอมเป็นดาราเหมือนกัน ฮ่าๆ) และระหว่างฝึกก็ยิ่งสนิทกันขึ้นเรื่อยๆ ตามพล็อต มีสัตว์วิเศษอย่างมังกรน้อยช่วยเสริมส่งความรัก(หรือขัดขวางความรัก) ให้ดูสนุกสนานขึ้นมานิดหน่อย ถึงตอนจบของเรื่องนี้จะทำออกมาได้ถูกใจเรามากก็ตาม แต่การดำเนินเรื่องกว่าจะจบนี่... น่าเบื่อเอามากๆเลยค่ะ ถึงเล่มจะบาง (มีแค่ไม่กี่ร้อยหน้าเองค่ะ) เนื้อหาไม่เยอะมากก็ตาม มันเหมาะสำหรับคนที่ต้องการหาหนังสือเบาๆ มาอ่านฆ่าเวลามากกว่าค่ะ

ก่อนหน้านี้รีวิวเล่มแรกของนักเขียนเจ้าของนามปากกา Je t' aime ไปแล้ว คราวนี้มาที่เล่มสองบ้างกับเรื่อง "Wonderful Movie โยงรักข้ามขอบฟ้า" ของสำนักพิมพ์แจ่มใสค่ะ
หลังจากที่เพทายทะลุมิติเข้าไปในหนังเรื่องแรกในโลกแห่งแฟนตาซีแล้ว คราวนี้เธอกลับมาเพื่อไขปริศนาแห่งหัวใจใหม่ เธอเรื่องหัวข้อรักโรแมนติก แล้วนำพาเธอไปสู่โลกในอนาคตอีกสองปีข้างหน้า ในดินแดนแห่งความหนาวเย็นอย่างลัตเวีย ขณะรอสอบเข้าคณะมหาวิทยาลัยที่นั่น เพทายอาศัยอยู่ในบ้านเช่าเดียวกันกับ ไรวิส ชายหนุ่มชาวลัตเวียที่ค่อยๆเข้ามาอิทธิพลต่อจิตใจของเธอมากขึ้นทีละนิด จนเธอแทบจะลืมรักครั้งเก่าในโลกแฟนตาซีอย่างเจ้าชายเอลดิสได้
เล่มแรกเราไม่ชอบมันเลย แต่พอเล่มสองนี่ตรงสเป็กเลยค่ะ ถูกใจมาก (ฮา) แต่งได้ดีจนน่าจะเอาไปสร้างเป็นละครได้เลยนะคะ โรแมนติกมากๆ เพทายคนใหม่นี้เป็นผู้ใหญ่กว่าเล่มแรกเพราะรอเตรียมสอบเข้ามหาลัย เธอดูสงบขึ้น เรียบร้อยขึ้น แต่ยังคงความสดใสของตัวเธออยู่ ดีกว่าเล่มแรกที่ดูจะเงอะงะ ต๊องหน่อยๆ พระเอกคนใหม่ของเรื่องนี้คือไรวิส หนุ่มชาวลัตเวียที่นิสัยดีเป็นสุภาพบุรุษเหลือเกิน อ่อนโยน อบอุ่น แบบผู้ใหญ่ อ่านไปแล้วแทบลบภาพเจ้าชายเอลดิสก่อนหน้านี้ทิ้งทันทีค่ะ อันที่จริงเอลดิสก็ปรากฏในเล่มนี้ด้วยนะคะ แต่เป็นในฐานะรุ่นน้อง แถมยังมีคนรักเป็นตัวเป็นตนแล้วด้วย เหมือนเป็นการตัดทางนางเอกไปในตัวว่าเธอไม่มีทางได้คู่กับเจ้าชายเอลดิสอีก ถึงไม่ได้คู่เก่าแต่คู่ใหม่ดีกว่าเยอะค่ะ ในนิสัยหลายๆอย่าง เราชอบที่เขาบรรยายบรรยากาศและวัฒนธรรมของลัตเวีย(รัสเซีย) มีอาหารเครื่องดื่มอะไรบ้าง งานเลี้ยงสังสรรค์ มารยาท ชื่อ ภาษา ได้อรรรถรสได้ใจเต็มๆค่ะ ไม่มีเจ้าอีโมติคอนในเรื่องด้วย ยิ่งอ่านได้เพลินเข้าไปใหญ่ เราเก็บเรื่องนี้ไว้ในหมวดนิยายรักโรแมนติกที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งค่ะ

ก่อนหน้านี้รีวิวเล่มแรกของนักเขียนเจ้าของนามปากกา Je t' aime ไปแล้ว คราวนี้มาที่เล่มสองบ้างกับเรื่อง "Wonderful Movie โยงรักข้ามขอบฟ้า" ของสำนักพิมพ์แจ่มใสค่ะ
หลังจากที่เพทายทะลุมิติเข้าไปในหนังเรื่องแรกในโลกแห่งแฟนตาซีแล้ว คราวนี้เธอกลับมาเพื่อไขปริศนาแห่งหัวใจใหม่ เธอเรื่องหัวข้อรักโรแมนติก แล้วนำพาเธอไปสู่โลกในอนาคตอีกสองปีข้างหน้า ในดินแดนแห่งความหนาวเย็นอย่างลัตเวีย ขณะรอสอบเข้าคณะมหาวิทยาลัยที่นั่น เพทายอาศัยอยู่ในบ้านเช่าเดียวกันกับ ไรวิส ชายหนุ่มชาวลัตเวียที่ค่อยๆเข้ามาอิทธิพลต่อจิตใจของเธอมากขึ้นทีละนิด จนเธอแทบจะลืมรักครั้งเก่าในโลกแฟนตาซีอย่างเจ้าชายเอลดิสได้
เล่มแรกเราไม่ชอบมันเลย แต่พอเล่มสองนี่ตรงสเป็กเลยค่ะ ถูกใจมาก (ฮา) แต่งได้ดีจนน่าจะเอาไปสร้างเป็นละครได้เลยนะคะ โรแมนติกมากๆ เพทายคนใหม่นี้เป็นผู้ใหญ่กว่าเล่มแรกเพราะรอเตรียมสอบเข้ามหาลัย เธอดูสงบขึ้น เรียบร้อยขึ้น แต่ยังคงความสดใสของตัวเธออยู่ ดีกว่าเล่มแรกที่ดูจะเงอะงะ ต๊องหน่อยๆ พระเอกคนใหม่ของเรื่องนี้คือไรวิส หนุ่มชาวลัตเวียที่นิสัยดีเป็นสุภาพบุรุษเหลือเกิน อ่อนโยน อบอุ่น แบบผู้ใหญ่ อ่านไปแล้วแทบลบภาพเจ้าชายเอลดิสก่อนหน้านี้ทิ้งทันทีค่ะ อันที่จริงเอลดิสก็ปรากฏในเล่มนี้ด้วยนะคะ แต่เป็นในฐานะรุ่นน้อง แถมยังมีคนรักเป็นตัวเป็นตนแล้วด้วย เหมือนเป็นการตัดทางนางเอกไปในตัวว่าเธอไม่มีทางได้คู่กับเจ้าชายเอลดิสอีก ถึงไม่ได้คู่เก่าแต่คู่ใหม่ดีกว่าเยอะค่ะ ในนิสัยหลายๆอย่าง เราชอบที่เขาบรรยายบรรยากาศและวัฒนธรรมของลัตเวีย(รัสเซีย) มีอาหารเครื่องดื่มอะไรบ้าง งานเลี้ยงสังสรรค์ มารยาท ชื่อ ภาษา ได้อรรรถรสได้ใจเต็มๆค่ะ ไม่มีเจ้าอีโมติคอนในเรื่องด้วย ยิ่งอ่านได้เพลินเข้าไปใหญ่ เราเก็บเรื่องนี้ไว้ในหมวดนิยายรักโรแมนติกที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งค่ะ

มาที่สำนักพิมพ์แจ่มใสกันอีกเช่นเคย กับเรื่อง "Wonderful Movie เชื่อมรักทะลุมิติ" เป็นหนึ่งในชุด Wonderful movie แบบสามเล่มจบค่ะ ผู้แต่งคือ Je t' aime โดยเรื่องที่เรานำมารีวิวนี้เป็นเล่มแรกค่ะ อันที่จริงไม่จำเป็นต้องตามเก็บครบสามเล่มก็ได้ เพราะเนื้อเรื่องจะจบในตัวเอง ถึงไม่ได้อ่านก่อนหน้านี้มาน่าจะรู้เรื่องนะคะ
เพทาย ผู้รักการดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ เธอได้รับแผ่น DVD เรื่องหนึ่งซึ่งพนักงานร้านสุดหล่อเป็นคนแนะนำ พอเปิดดูกลับมีแต่เมนูแปลกๆ เมื่อเธอกดเลือกแฟนตาซีก็ถูกดูดเข้าไปในหนังเรื่องนั้น ที่นั่นเธอได้พบกับราชาแสนใจร้าย ที่สั่งประหารเธอในฐานะผู้บุกรุก หากยังไม่อยากตายเธเต้องทำให้เจ้าชายเอกิลกลับมาพูดอีกครั้งให้ได้ โดยที่มีเจ้าชายเอลดิส ผู้มีหน้าตาเหมือนกับพนักงานร้านเช่าวีดีโอคนนั้น คอยช่วยเหลือและนำพาความหวั่นไหวมาให้เธอด้วย
มีหลายคนบอกว่าเรื่องนี้สนุกนะคะ แต่ว่าเรากลับเฉยๆ มันพอจะอ่านได้เพลินๆ แต่ไม่ได้ตื่นเต้น หวือหวา หรือว่าฟินเลย เรายอมรับค่ะว่าเรื่องนี้ตัวภาพทำออกมาสวย น่าประทับใจ ดึงดูคนซื้อได้ แต่เนื้อเรื่องมันเรียบไปหน่อยค่ะ นางเอกของเราต้องรับบทหนักหาสารพัดวิธีมาให้เจ้าชายเอกิลพูด จนถ้าเป็นเรานี่คงอาจจะตัดใจเลยก็ได้ ช่างเป็นคนที่พูดยากพูดเย็นเหลือเกิน ถึงเจ้าชายเอกิลตอนไม่พูดจะดูน่ารักดี เพราะใช้ท่าทางในการสื่ออารมณ์หรือใช้การกระทำในการแสดงออกเป็นส่วนใหญ่ ส่วนพระเอกของเรื่องเจ้าชายเอลดิส นี่ก็มาดเจ้าชายเทพนิยายเต็มสูตร อ่อนโยน ใจดี เป็นที่พึ่งพาได้ หลายคนที่เบื่อแนวพระเอกกวนส้นและหยิ่งยโส ไม่แปลกเลยที่จะเทใจให้กับเรื่องนี้ เพราะบางฉากเจ้าชายเอลดิสอย่างเท่ ถ้าบนโลกมีผู้ชายแบบนี้บ้างก็ดีน่ะสิ (ฮา) มีตัวละครหลายตัวที่เอามาจากเทพนิยายอย่างภูต เงือก หรือคนแคระ มันก็โอเคนะคะ ตอนจบเหมือนจะสมหวังแล้วก็ไม่สมหวังไปในตัวด้วย คือมีให้ติดตามต่อในเล่มต่อไป ซึ่งเราก็ไปซื้อเล่มต่อมาจริงๆ เนื่องจากจบได้ค้างคาใจยิ่งนัก (ฮา) ถ้าชอบแจ่มใสแบบอิงแฟนตาซีก็เอาเลยค่ะ

มาที่สำนักพิมพ์แจ่มใสกันอีกเช่นเคย กับเรื่อง "Wonderful Movie เชื่อมรักทะลุมิติ" เป็นหนึ่งในชุด Wonderful movie แบบสามเล่มจบค่ะ ผู้แต่งคือ Je t' aime โดยเรื่องที่เรานำมารีวิวนี้เป็นเล่มแรกค่ะ อันที่จริงไม่จำเป็นต้องตามเก็บครบสามเล่มก็ได้ เพราะเนื้อเรื่องจะจบในตัวเอง ถึงไม่ได้อ่านก่อนหน้านี้มาน่าจะรู้เรื่องนะคะ
เพทาย ผู้รักการดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ เธอได้รับแผ่น DVD เรื่องหนึ่งซึ่งพนักงานร้านสุดหล่อเป็นคนแนะนำ พอเปิดดูกลับมีแต่เมนูแปลกๆ เมื่อเธอกดเลือกแฟนตาซีก็ถูกดูดเข้าไปในหนังเรื่องนั้น ที่นั่นเธอได้พบกับราชาแสนใจร้าย ที่สั่งประหารเธอในฐานะผู้บุกรุก หากยังไม่อยากตายเธเต้องทำให้เจ้าชายเอกิลกลับมาพูดอีกครั้งให้ได้ โดยที่มีเจ้าชายเอลดิส ผู้มีหน้าตาเหมือนกับพนักงานร้านเช่าวีดีโอคนนั้น คอยช่วยเหลือและนำพาความหวั่นไหวมาให้เธอด้วย
มีหลายคนบอกว่าเรื่องนี้สนุกนะคะ แต่ว่าเรากลับเฉยๆ มันพอจะอ่านได้เพลินๆ แต่ไม่ได้ตื่นเต้น หวือหวา หรือว่าฟินเลย เรายอมรับค่ะว่าเรื่องนี้ตัวภาพทำออกมาสวย น่าประทับใจ ดึงดูคนซื้อได้ แต่เนื้อเรื่องมันเรียบไปหน่อยค่ะ นางเอกของเราต้องรับบทหนักหาสารพัดวิธีมาให้เจ้าชายเอกิลพูด จนถ้าเป็นเรานี่คงอาจจะตัดใจเลยก็ได้ ช่างเป็นคนที่พูดยากพูดเย็นเหลือเกิน ถึงเจ้าชายเอกิลตอนไม่พูดจะดูน่ารักดี เพราะใช้ท่าทางในการสื่ออารมณ์หรือใช้การกระทำในการแสดงออกเป็นส่วนใหญ่ ส่วนพระเอกของเรื่องเจ้าชายเอลดิส นี่ก็มาดเจ้าชายเทพนิยายเต็มสูตร อ่อนโยน ใจดี เป็นที่พึ่งพาได้ หลายคนที่เบื่อแนวพระเอกกวนส้นและหยิ่งยโส ไม่แปลกเลยที่จะเทใจให้กับเรื่องนี้ เพราะบางฉากเจ้าชายเอลดิสอย่างเท่ ถ้าบนโลกมีผู้ชายแบบนี้บ้างก็ดีน่ะสิ (ฮา) มีตัวละครหลายตัวที่เอามาจากเทพนิยายอย่างภูต เงือก หรือคนแคระ มันก็โอเคนะคะ ตอนจบเหมือนจะสมหวังแล้วก็ไม่สมหวังไปในตัวด้วย คือมีให้ติดตามต่อในเล่มต่อไป ซึ่งเราก็ไปซื้อเล่มต่อมาจริงๆ เนื่องจากจบได้ค้างคาใจยิ่งนัก (ฮา) ถ้าชอบแจ่มใสแบบอิงแฟนตาซีก็เอาเลยค่ะ

นิยายในสำนักพิมพ์ฟิสิกส์เซ็นเตอร์ในเครือของ Happy Banana กับเรื่อง "Princess or Prince วุ่นจริงเจ้าหญิงหรือเจ้าชาย" แต่งโดยนักเขียน la lune ค่ะ
เซเรเน่ย์ เจ้าหญิงแห่งอเล็กซิสซ์ ผู้มีนิสัยแก่นแก้ว เก่งกาจด้านเวทมนตร์และการต่อสู้ จู่ๆพระบิดาก็จับหมั้นกับเจ้าชายเล็มเรย์แห่งแคว้นโรเนียร์ ที่ขึ้นชื่อว่าเย็นชาและเลือดเย็น แต่มีหรือที่เซเรเน่ย์จะยอมง่ายๆ เธอจึงปลอมตัวเป็นชายเพื่อหลบหนีงานหมั้น และไปดูว่าที่สามีคนนั้นว่าเป็นยังไงถึงได้อยากแต่งกับเธอ
เป็นหนึ่งในนิยายที่ตามกระแสเรื่องการที่นางเอกปลอมตัวเป็นชายในสมัยนั้น แต่เราว่านางเอกเรื่องนี้มาดแมนดีนะคะ เท่และเก่งสมกับเป็นเจ้าหญิงดี ส่วนพระเอกที่มีภาพลักษณ์เย็นชาแต่พออยู่กับคนใกล้ชิดหรือสนิท นิสัยก็จะเปลี่ยนไปอีกแบบค่ะ อย่างน้อยก็เป็นกันเองมากขึ้น แต่ขยันทะเลาะกับนางเอกประจำจนเซเรเน่ห์ตั้งฉายาว่าเจ้าลาหัวดื้อ เนื่องจากเมื่อเจ้าชายเรย์ต้องการอะไรแล้วก็ต้องเอามาให้ได้ เขาอยากจะประลองกัยเซเรเน่ห์ แต่เธอปฏิเสธทุกครั้งจึงตามตื้อตลอดจนเธออ่อนใจยอมประลอง ฉากหวานๆฟินๆก็มีเยอะค่ะ ออกแนวฮาเร็มหน่อยๆด้วยซ้ำเพราะมีคนมาชอบนางเอกตั้งหลายคน (ฮา) ตัวละครเป็นตัวของตัวเองดีค่ะ แยกแยะง่าย นิสัยของแต่ละคนก็เด่นด้วย ตัวละครก็เยอะเช่นกัน แต่เราว่ามันยังจำได้ง่ายอยู่นะคะอาจจะสับสนแค่ชื่อของพ่อมดประจำหอคอยทิศทั้งสี่เท่านั้นแหละ ที่จำยากเย็นจัง โดยรวมถือว่าสนุกดีค่ะ แม้หลังๆจะเริ่มยืดเยื้อแล้วก็ตาม เป็นนิยายที่มีด้านการเมืองปนมาหน่อย ดราม่ามีไม่เยอะนัก เป็นแฟนตาซีผจญภัยที่ทำให้เพลิดเพลินได้ในระดับหนึ่งค่ะ

นิยายในสำนักพิมพ์ฟิสิกส์เซ็นเตอร์ในเครือของ Happy Banana กับเรื่อง "Princess or Prince วุ่นจริงเจ้าหญิงหรือเจ้าชาย" แต่งโดยนักเขียน la lune ค่ะ
เซเรเน่ย์ เจ้าหญิงแห่งอเล็กซิสซ์ ผู้มีนิสัยแก่นแก้ว เก่งกาจด้านเวทมนตร์และการต่อสู้ จู่ๆพระบิดาก็จับหมั้นกับเจ้าชายเล็มเรย์แห่งแคว้นโรเนียร์ ที่ขึ้นชื่อว่าเย็นชาและเลือดเย็น แต่มีหรือที่เซเรเน่ย์จะยอมง่ายๆ เธอจึงปลอมตัวเป็นชายเพื่อหลบหนีงานหมั้น และไปดูว่าที่สามีคนนั้นว่าเป็นยังไงถึงได้อยากแต่งกับเธอ
เป็นหนึ่งในนิยายที่ตามกระแสเรื่องการที่นางเอกปลอมตัวเป็นชายในสมัยนั้น แต่เราว่านางเอกเรื่องนี้มาดแมนดีนะคะ เท่และเก่งสมกับเป็นเจ้าหญิงดี ส่วนพระเอกที่มีภาพลักษณ์เย็นชาแต่พออยู่กับคนใกล้ชิดหรือสนิท นิสัยก็จะเปลี่ยนไปอีกแบบค่ะ อย่างน้อยก็เป็นกันเองมากขึ้น แต่ขยันทะเลาะกับนางเอกประจำจนเซเรเน่ห์ตั้งฉายาว่าเจ้าลาหัวดื้อ เนื่องจากเมื่อเจ้าชายเรย์ต้องการอะไรแล้วก็ต้องเอามาให้ได้ เขาอยากจะประลองกัยเซเรเน่ห์ แต่เธอปฏิเสธทุกครั้งจึงตามตื้อตลอดจนเธออ่อนใจยอมประลอง ฉากหวานๆฟินๆก็มีเยอะค่ะ ออกแนวฮาเร็มหน่อยๆด้วยซ้ำเพราะมีคนมาชอบนางเอกตั้งหลายคน (ฮา) ตัวละครเป็นตัวของตัวเองดีค่ะ แยกแยะง่าย นิสัยของแต่ละคนก็เด่นด้วย ตัวละครก็เยอะเช่นกัน แต่เราว่ามันยังจำได้ง่ายอยู่นะคะอาจจะสับสนแค่ชื่อของพ่อมดประจำหอคอยทิศทั้งสี่เท่านั้นแหละ ที่จำยากเย็นจัง โดยรวมถือว่าสนุกดีค่ะ แม้หลังๆจะเริ่มยืดเยื้อแล้วก็ตาม เป็นนิยายที่มีด้านการเมืองปนมาหน่อย ดราม่ามีไม่เยอะนัก เป็นแฟนตาซีผจญภัยที่ทำให้เพลิดเพลินได้ในระดับหนึ่งค่ะ

ชุดหนังสือ "นรกซีรีส์"มีทั้งหมดสามภาค ของสำนักพิมพ์สถาพรบุ๊คส์ค่ะ เรื่องนี้ก็เงียบหายเข้ากลีบเมฆเช่นกันทั้งๆที่เนื้อเรื่องสนุกมาก ผู้แต่งคือ Div แปลโดย อนุรักษ์ กิจไพบูลทวีค่ะ
การจะท่องไปยังแดนนรกได้ ปัจจุบันมีรถด่วนที่นำส่งผู้โดยสารไปยังปรโลกเรียกว่ารถด่วนนรก แต่ละตู้จะแบ่งแยกผู้โดยสารประเภทต่างๆเอาไว้ และมีผู้คุมรถไฟคอยตรวจตรา แต่แล้วเมื่อมีเจ้าตัวหายนะขึ้นมาบนรถด่วนนรก และยากเกินจะรับมือ พวกเขาจึงต้องติดต่อหน่วยปราบปีศาจที่ขึ้นชื่อที่สุด นั่นคือหน่วยปราบปีศาจแมนฮัตตัน เพื่อออกโรงกำราบให้รถด่วนนรกไปถึงที่หมายตรงตามกำหนดการ ไม่เช่นนั้นเหล่าผู้โดยสารทั้งหลายจะออกมาอาละวาดบนโลก
ขอนับถือคนเขียนที่กล้าเอาบุคคลสำคัญระดับโลกมาใช้เป็นตัวละครโดยไม่กลัวเกรง หรือจะเพราะแบบนี้หรือเปล่านะถึงได้เงียบหายไป(ฮา) ตัวละครบางตัวทุกคนจะต้องรู้จักอย่างแน่นอนอย่างท่านเคาทน์แเร็กคิวร่า กษัตริย์อาเธอร์ มนุษย์หมาป่า โจนออฟอาร์ค พระนางแมรี่ อังตัวเนต หรือบุคคลระดับเทพเจ้าอย่างพระศิวะ ยังนำมาเป็นตัวละครในเรื่องนี้ เนื้อหาแนวแอ็คชั่นชิงไหวชิงพริบเหมือนกับกำลังดูภาพยนตร์ ภาษาคำบรรยายรวบรัดดีมาก แถมตัดตอนจบดีด้วย ทำให้ต้องอ่านต่อเนื่องด้วยความค้างคาใจ ใครจะคิดได้ว่าเอากษัตริย์อาเธอร์กับเคาน์ทแดร็กคิวร่ามาร่วมมือกัน หรือเอาโรบินฮู้ดมาร่วมมือกับแมวเชสชายน์ กระทั่งศึกปะทะของปีเตอร์แพนกับบาร์คยังแต่งมาได้ เราก็ไม่รู้จะสรรหาคำพูดใดมาอธิบายแล้วล่ะค่ะ(ฮา) ตัวละครที่เด่นที่สุดคือเด็กหนุ่มชาวจีนชื่อ หนุ่มน้อย H ตัวละครในหน่วยปราบปีศาจแมนฮัตตันจะไม่เรียกชื่อจริงกัน แต่พออ่านไปเรื่อยๆจะรู้เองค่ะว่าพวกเขาเป็นใคร อย่างหนุ่มน้อย H เป็นผู้คิดค้นวิชาไทเก็กของจีนค่ะจึงมีฝีมือและวิทยายุทธ์พอสมควรเลย การดำเนินเรื่องลึกล้ำ มันส์และน่าติดตามมากค่ะ จนต้องอุทานหลายครั้งว่าคิดได้ยังไงอยู่บ่อยๆ

ชุดหนังสือ "นรกซีรีส์"มีทั้งหมดสามภาค ของสำนักพิมพ์สถาพรบุ๊คส์ค่ะ เรื่องนี้ก็เงียบหายเข้ากลีบเมฆเช่นกันทั้งๆที่เนื้อเรื่องสนุกมาก ผู้แต่งคือ Div แปลโดย อนุรักษ์ กิจไพบูลทวีค่ะ
การจะท่องไปยังแดนนรกได้ ปัจจุบันมีรถด่วนที่นำส่งผู้โดยสารไปยังปรโลกเรียกว่ารถด่วนนรก แต่ละตู้จะแบ่งแยกผู้โดยสารประเภทต่างๆเอาไว้ และมีผู้คุมรถไฟคอยตรวจตรา แต่แล้วเมื่อมีเจ้าตัวหายนะขึ้นมาบนรถด่วนนรก และยากเกินจะรับมือ พวกเขาจึงต้องติดต่อหน่วยปราบปีศาจที่ขึ้นชื่อที่สุด นั่นคือหน่วยปราบปีศาจแมนฮัตตัน เพื่อออกโรงกำราบให้รถด่วนนรกไปถึงที่หมายตรงตามกำหนดการ ไม่เช่นนั้นเหล่าผู้โดยสารทั้งหลายจะออกมาอาละวาดบนโลก
ขอนับถือคนเขียนที่กล้าเอาบุคคลสำคัญระดับโลกมาใช้เป็นตัวละครโดยไม่กลัวเกรง หรือจะเพราะแบบนี้หรือเปล่านะถึงได้เงียบหายไป(ฮา) ตัวละครบางตัวทุกคนจะต้องรู้จักอย่างแน่นอนอย่างท่านเคาทน์แเร็กคิวร่า กษัตริย์อาเธอร์ มนุษย์หมาป่า โจนออฟอาร์ค พระนางแมรี่ อังตัวเนต หรือบุคคลระดับเทพเจ้าอย่างพระศิวะ ยังนำมาเป็นตัวละครในเรื่องนี้ เนื้อหาแนวแอ็คชั่นชิงไหวชิงพริบเหมือนกับกำลังดูภาพยนตร์ ภาษาคำบรรยายรวบรัดดีมาก แถมตัดตอนจบดีด้วย ทำให้ต้องอ่านต่อเนื่องด้วยความค้างคาใจ ใครจะคิดได้ว่าเอากษัตริย์อาเธอร์กับเคาน์ทแดร็กคิวร่ามาร่วมมือกัน หรือเอาโรบินฮู้ดมาร่วมมือกับแมวเชสชายน์ กระทั่งศึกปะทะของปีเตอร์แพนกับบาร์คยังแต่งมาได้ เราก็ไม่รู้จะสรรหาคำพูดใดมาอธิบายแล้วล่ะค่ะ(ฮา) ตัวละครที่เด่นที่สุดคือเด็กหนุ่มชาวจีนชื่อ หนุ่มน้อย H ตัวละครในหน่วยปราบปีศาจแมนฮัตตันจะไม่เรียกชื่อจริงกัน แต่พออ่านไปเรื่อยๆจะรู้เองค่ะว่าพวกเขาเป็นใคร อย่างหนุ่มน้อย H เป็นผู้คิดค้นวิชาไทเก็กของจีนค่ะจึงมีฝีมือและวิทยายุทธ์พอสมควรเลย การดำเนินเรื่องลึกล้ำ มันส์และน่าติดตามมากค่ะ จนต้องอุทานหลายครั้งว่าคิดได้ยังไงอยู่บ่อยๆ

เรื่องนี้เป็นหนึ่งในนิยายรุ่นแรกๆของสำนักพิมพ์สถาพรบุ๊คส์ค่ะ กับเรื่อง "อาเซนธาเรีย ตามรักข้ามมิติ" แต่งโดยนักเขียนนามปากกาว่า กานต์จิรา ค่ะ เป็นแนวแฟนตาซีกลิ่นอายจีนค่ะ
ซายูริ เด็กสาวที่มีนิสัยแก่นแก้ว ซุกซน เป็นบุตรบุญธรรมของตระกูล โทชิกาว่า และสนิทสนมกับลูกชายของตระกูลอย่างมาซาอิ เป็นอย่างดีดุจพี่น้องกัน วันหนึ่งซายูริได้รับตลับแปลกๆมาและทำให้เธอฝันถึงชายหนุ่มปริศนา ไลซา ที่บอกว่าเธอคือท่านหญิงอาเซนธาเรีย ผู้เป็นดวงใจของระบบสุริยะทั้งมวล และมีหน้าที่ในการรวบรวมบุคคลที่กลับมาเกิดใหม่ทั้งหมดต่อสู้กับจักรวรรดิอันยิ่งใหญ่โปกาดอนอย่างคิงโซโร ผู้หวังจะทำลายมนุษยชาติในอีกหลายร้อยปีข้างหน้า
เป็นนิยายที่สนุกมากจนน่าเสียดายเลยค่ะ ที่มีฉบับพิมพ์ต่อแล้ว และจบลงในเล่มสี่ เป็นนิยายแนวโรแมนติกแฟนตาซีไปทางจีนค่ะ เพราะมีเรื่องวิทยายุทธ์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ภาษาของตัวเรื่องเหมือนกับกำลังอ่านนิยายรักเลยค่ะ หวานมาก ฟินมาก สำนวนดีสุดๆ การบรรยายทำได้ดีไม่ยืดเยื้อน่ารำคาญด้วย เรียกว่าเลือกสรรคำบรรยายออกมาได้สวยมากค่ะ ตัวเรื่องคล้ายฮาเร็มนิดหน่อย คือมีผู้หญิงอยู่คนเดียวนั่นคือ ซายูริ ที่เป็นนางเอก รายล้อมไปด้วยองครักษ์ที่มีความเกี่ยวพันกัน ถึงจะบอกว่าเป็นพล็อตแนวกลับชาติมาเกิดใหม่ แต่ก็ต่างออกไปนะคะ เพราะพวกนางเอกมาจากโลกหลายร้อยปีข้างหน้า ย้อนเวลามาเกิดในอดีตเพื่อเปลี่ยนแปลง ทำให้ตรงนี้ต่างออกไปค่ะ ตัวละครทุกตัวมีเสน่ห์ นางเอกแม้จะเก่งดีแต่แก่นแก้วไปหน่อย บางครั้งชอบเอาแต่ใจ เราเลยไม่ชอบค่ะ (ฮา) เทียบกันแล้วตอนนางเอกเป็นอาเซนธาเรีย นิสัยยังดีกว่าอีก สวยสง่ามีเหตุมีผล เป็นผู้ใหญ่ เรื่องนี้เราเดาทางพระเอกลำบากค่ะ เพราะมีเลือกเยอะอยู่ (ฮา) เป็นเนื้อเรื่องที่อ่านแล้วติดหนึบเป็นแฟนตาซีแปลกใหม่ไม่ซ้ำใครดีค่ะ

เรื่องนี้เป็นหนึ่งในนิยายรุ่นแรกๆของสำนักพิมพ์สถาพรบุ๊คส์ค่ะ กับเรื่อง "อาเซนธาเรีย ตามรักข้ามมิติ" แต่งโดยนักเขียนนามปากกาว่า กานต์จิรา ค่ะ เป็นแนวแฟนตาซีกลิ่นอายจีนค่ะ
ซายูริ เด็กสาวที่มีนิสัยแก่นแก้ว ซุกซน เป็นบุตรบุญธรรมของตระกูล โทชิกาว่า และสนิทสนมกับลูกชายของตระกูลอย่างมาซาอิ เป็นอย่างดีดุจพี่น้องกัน วันหนึ่งซายูริได้รับตลับแปลกๆมาและทำให้เธอฝันถึงชายหนุ่มปริศนา ไลซา ที่บอกว่าเธอคือท่านหญิงอาเซนธาเรีย ผู้เป็นดวงใจของระบบสุริยะทั้งมวล และมีหน้าที่ในการรวบรวมบุคคลที่กลับมาเกิดใหม่ทั้งหมดต่อสู้กับจักรวรรดิอันยิ่งใหญ่โปกาดอนอย่างคิงโซโร ผู้หวังจะทำลายมนุษยชาติในอีกหลายร้อยปีข้างหน้า
เป็นนิยายที่สนุกมากจนน่าเสียดายเลยค่ะ ที่มีฉบับพิมพ์ต่อแล้ว และจบลงในเล่มสี่ เป็นนิยายแนวโรแมนติกแฟนตาซีไปทางจีนค่ะ เพราะมีเรื่องวิทยายุทธ์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ภาษาของตัวเรื่องเหมือนกับกำลังอ่านนิยายรักเลยค่ะ หวานมาก ฟินมาก สำนวนดีสุดๆ การบรรยายทำได้ดีไม่ยืดเยื้อน่ารำคาญด้วย เรียกว่าเลือกสรรคำบรรยายออกมาได้สวยมากค่ะ ตัวเรื่องคล้ายฮาเร็มนิดหน่อย คือมีผู้หญิงอยู่คนเดียวนั่นคือ ซายูริ ที่เป็นนางเอก รายล้อมไปด้วยองครักษ์ที่มีความเกี่ยวพันกัน ถึงจะบอกว่าเป็นพล็อตแนวกลับชาติมาเกิดใหม่ แต่ก็ต่างออกไปนะคะ เพราะพวกนางเอกมาจากโลกหลายร้อยปีข้างหน้า ย้อนเวลามาเกิดในอดีตเพื่อเปลี่ยนแปลง ทำให้ตรงนี้ต่างออกไปค่ะ ตัวละครทุกตัวมีเสน่ห์ นางเอกแม้จะเก่งดีแต่แก่นแก้วไปหน่อย บางครั้งชอบเอาแต่ใจ เราเลยไม่ชอบค่ะ (ฮา) เทียบกันแล้วตอนนางเอกเป็นอาเซนธาเรีย นิสัยยังดีกว่าอีก สวยสง่ามีเหตุมีผล เป็นผู้ใหญ่ เรื่องนี้เราเดาทางพระเอกลำบากค่ะ เพราะมีเลือกเยอะอยู่ (ฮา) เป็นเนื้อเรื่องที่อ่านแล้วติดหนึบเป็นแฟนตาซีแปลกใหม่ไม่ซ้ำใครดีค่ะ

"The Legend of Sun Knight พลิกตำนานเทพอัศวิน"ก่อนหน้านี้เคยรีวิวภาคต่อไปแล้ว คราวนี้มาภาคหลักบ้างในรูปแบบการ์ตูน ผลงานของนักวาด Neko Kreuz ที่วาดออกมาโดยคงความสนุกตามต้นฉบับของนิยาย Yu Wo เป็นอย่างดีค่ะ
ในดินแดนที่เต็มไปด้วยลัทธิเทพ ทำให้มีสาวกคอยดูแลปกป้องมนุษย์เกิดขึ้นมากมาย แต่ลัทธิที่มีชื่อเสียงและมีประวัติเก่าแก่ยาวนานมากที่สุดคือ ลัทธิเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง นำโดยเทพอัศวินทั้งสิบสององค์ เกรเซียส คือผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าเทพครีอุสรุ่นที่ 38 มีภาพลักษณ์ตรงกับในตำนานมาดที่สุด ต้องมาคอยรับมือกับเรื่องวุ่นวายไม่หยุดหย่อนในตำหนักเทพแห่งนี้
รู้สึกว่าฉบับการ์ตูนจะดีกว่าฉบับนิยายอีกนะเนี่ย อ่านแล้วฟินแปลกๆ(ฮา) ขอบอกเลยว่าลายเส้นเรื่องนี้สวยทุกมุม ละเอียดละออสุดๆ ตัวละครทุกตัวสวยเด่นหล่อเท่บาดตาบาดใจมาก แม้การบรรยายเนื้อหาจะไม่ต่างจากฉบับนิยายเท่าไหร่ แต่แบบการ์ตูนเข้าใจได้ง่ายกว่ามากค่ะ เราชอบไอเดียของ Yu Wo จริงๆ ที่เบื้องหน้าเทพทั้งสิบสองต้องปฏิบัติตามแบบที่เทพในตำนานเป็น ทั้งๆที่จริงนิสัยของทุกคนไปอีกทาง ยกตัวอย่างนะคะ เทพครีอุสจะต้องมีผมสีทอง ตาสีฟ้า ผิวขาว มีรอยยิ้มตลอดเวลา เก่งกาจสมบูรณ์แบบในทุกๆด้าน คออ่อนและมักจะพูดพร่ำยาวเกี่ยวกับองค์เทพเป็นประจำ แน่นอนค่ะเกรเซียสทำแบบเทพครีอุสได้เป๊ะทุกอย่าง ทั้งๆที่จริงแล้วกว่าขาวจะผิวขาวได้ต้องพอกหน้าพอกผิวทุกวันจนเงินเดือนแทบไม่พอใช้(ฮา) มีรอยยิ้มต่อหน้าคนอื่น ลับหลังไม่ยิ้มเพราะเมื่อยปาก ที่ว่าเก่งก็มีวิชาดาบอย่างเดียวที่ห่วยแตก คออ่อนแต่จริงๆเป็นเซียนเหล้าไม่มีทางเมาง่ายๆ และการพูดถึงเทพทุกครั้งก็แทบจะให้พระเอกของเราอยากตายวันละหลายรอบแล้วค่ะ(ฮา) เรียกได้ว่าการเป็นเทพมันไม่ง่ายจริงๆ ยิ่งต้องรักษาศรัทธา ตัวตนที่แท้จริงก็ต้องเก็บงำเอาไว้ ไม่งั้นมีหวังลัทธิแห่งแสงสว่างล่มและตกงานกันหมดแน่นอน(ฮา) เป็นรูปแบบการ์ตูนที่ยังคงความเป็น The Legend of Sun Knight จากนิยายได้ดีจริงๆค่ะ ถึงจะมีฉบับนิยายแล้วก็มาอ่านรูปแบบการ์ตูนได้ค่ะ

"The Legend of Sun Knight พลิกตำนานเทพอัศวิน"ก่อนหน้านี้เคยรีวิวภาคต่อไปแล้ว คราวนี้มาภาคหลักบ้างในรูปแบบการ์ตูน ผลงานของนักวาด Neko Kreuz ที่วาดออกมาโดยคงความสนุกตามต้นฉบับของนิยาย Yu Wo เป็นอย่างดีค่ะ
ในดินแดนที่เต็มไปด้วยลัทธิเทพ ทำให้มีสาวกคอยดูแลปกป้องมนุษย์เกิดขึ้นมากมาย แต่ลัทธิที่มีชื่อเสียงและมีประวัติเก่าแก่ยาวนานมากที่สุดคือ ลัทธิเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง นำโดยเทพอัศวินทั้งสิบสององค์ เกรเซียส คือผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าเทพครีอุสรุ่นที่ 38 มีภาพลักษณ์ตรงกับในตำนานมาดที่สุด ต้องมาคอยรับมือกับเรื่องวุ่นวายไม่หยุดหย่อนในตำหนักเทพแห่งนี้
รู้สึกว่าฉบับการ์ตูนจะดีกว่าฉบับนิยายอีกนะเนี่ย อ่านแล้วฟินแปลกๆ(ฮา) ขอบอกเลยว่าลายเส้นเรื่องนี้สวยทุกมุม ละเอียดละออสุดๆ ตัวละครทุกตัวสวยเด่นหล่อเท่บาดตาบาดใจมาก แม้การบรรยายเนื้อหาจะไม่ต่างจากฉบับนิยายเท่าไหร่ แต่แบบการ์ตูนเข้าใจได้ง่ายกว่ามากค่ะ เราชอบไอเดียของ Yu Wo จริงๆ ที่เบื้องหน้าเทพทั้งสิบสองต้องปฏิบัติตามแบบที่เทพในตำนานเป็น ทั้งๆที่จริงนิสัยของทุกคนไปอีกทาง ยกตัวอย่างนะคะ เทพครีอุสจะต้องมีผมสีทอง ตาสีฟ้า ผิวขาว มีรอยยิ้มตลอดเวลา เก่งกาจสมบูรณ์แบบในทุกๆด้าน คออ่อนและมักจะพูดพร่ำยาวเกี่ยวกับองค์เทพเป็นประจำ แน่นอนค่ะเกรเซียสทำแบบเทพครีอุสได้เป๊ะทุกอย่าง ทั้งๆที่จริงแล้วกว่าขาวจะผิวขาวได้ต้องพอกหน้าพอกผิวทุกวันจนเงินเดือนแทบไม่พอใช้(ฮา) มีรอยยิ้มต่อหน้าคนอื่น ลับหลังไม่ยิ้มเพราะเมื่อยปาก ที่ว่าเก่งก็มีวิชาดาบอย่างเดียวที่ห่วยแตก คออ่อนแต่จริงๆเป็นเซียนเหล้าไม่มีทางเมาง่ายๆ และการพูดถึงเทพทุกครั้งก็แทบจะให้พระเอกของเราอยากตายวันละหลายรอบแล้วค่ะ(ฮา) เรียกได้ว่าการเป็นเทพมันไม่ง่ายจริงๆ ยิ่งต้องรักษาศรัทธา ตัวตนที่แท้จริงก็ต้องเก็บงำเอาไว้ ไม่งั้นมีหวังลัทธิแห่งแสงสว่างล่มและตกงานกันหมดแน่นอน(ฮา) เป็นรูปแบบการ์ตูนที่ยังคงความเป็น The Legend of Sun Knight จากนิยายได้ดีจริงๆค่ะ ถึงจะมีฉบับนิยายแล้วก็มาอ่านรูปแบบการ์ตูนได้ค่ะ

หนังสือชุด"โรงเรียนเสนาธิการแห่งอานาธีเซีย"จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์สถาพรบุ๊คส์ ผู้แต่งคือ Sherry Blossum มีทั้งหมด 5 ภาคค่ะ ประกอบด้วยภาคกระจกแห่งสัจธรรม, ภาคดาบแห่งคุณธรรม, ภาคกุญแจแห่งความรู้แจ้ง, ภาคจอกศักดิ์สิทธิ์แห่งนิรันดรและภาคคทาจอมพลค่ะ
คาเรลล่า ท่านหญิงแห่งธาทีเอเนีย เป็นสาวงามแต่มักชอบปลอมตัวเป็นพี่ชายฝาแฝดของตน คารอส ออกไปเล่นซุกซนเสมอ จนโดนตำหนิอยู่หลายครั้ง ในวันเกิดครบรอบของสองพี่น้องฝาแฝด คาเรลล่าและคารอส พวกเขาโดนกลุ่มคนปริศนาจู่โจม ทำให้คารอสบาดเจ็บสาหัส และวิธีการช่วยมีเพียงอย่างเดียวคือตามหาจอกแห่งนิรันดรของกราโซริสที่อยู่ในโรงเรียนเสนาธิการแห่งอานาธีเซียมาช่วยรักษา คาเรลล่าจึงต้องปลอมตัวเข้าโรงเรียนโดยอ้างตัวว่าเป็นคารอสเพื่อหาของมาช่วยพี่ชาย
เนื้อหากับการบรรยายของเรื่องนี้ค่อนข้างละเอียดนะคะ เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นเลยก็ว่าได้ การเล่าเรื่องจะดำเนินไปเรื่อยๆแบบให้เห็นทุกรายละเอียด ทำให้บางครั้งเนื้อเรื่องบางช่วงยืดเยื้อน่าเบื่อไปสักหน่อย ยิ่งคนที่ไม่ชอบการบรรยายเยอะๆอาจจะบายตั้งแต่บทแรกๆแล้วก็ได้ค่ะ ตัวพล็อตซ้ำซากไปนิด นางเอกปลอมตัวเป็นชายเข้าโรงเรียนเพื่อตามหาของเรียกได้ว่ามีเยอะมากค่ะ ถึงอย่างนั้นในแต่ละภาคก็มีคำสอนด้วยแฝงอยู่ในตัวเนื้อหา ตัวละครมีเยอะและชื่อก็จำยาก เอกลักษณ์ยังไม่โดดเด่นจนจำได้ติดหูติดตานัก ตัวละครคล้ายๆกับเซวีน่านิดหน่อยด้วยคนที่ไม่ถนัดจำชื่อตัวละครอาจมีปัญหาได้ค่ะ เราเองเช่นกัน(ฮา) ชนิดที่ว่าถ้าไม่อ่านติดต่อกันจนจบ มีหวังลืมตัวละครแน่นอนค่ะ ฉากสวีทหวานของแต่ละคู่ก็ทำออกมาได้น่ารักและหวานดี มีบทดราม่าให้น้ำตาซึมกันบ้าง เราคิดว่าการที่เขาอธิบายละเอียดขนาดนี้ทำให้เข้าถึงอารมณ์ของตัวละครได้ง่ายขึ้นและอินไปเรื่องได้ดี เป็นเรื่องราวที่เกิดในโรงเรียนที่สร้างออกมาอย่างมีสีสันดีค่ะ เราชอบสเต็ปการอ้อนของคาเรลล่ามากเลย เป็นท่าไม้ตายที่กล่อมให้พวกผู้ชายอยู่หมัดดีมากๆ(ฮา) ใครชอบแฟนตาซีติดกลิ่นอายของเซวีน่ากับบารามอสก็อ่านได้เลยค่ะ

หนังสือชุด"โรงเรียนเสนาธิการแห่งอานาธีเซีย"จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์สถาพรบุ๊คส์ ผู้แต่งคือ Sherry Blossum มีทั้งหมด 5 ภาคค่ะ ประกอบด้วยภาคกระจกแห่งสัจธรรม, ภาคดาบแห่งคุณธรรม, ภาคกุญแจแห่งความรู้แจ้ง, ภาคจอกศักดิ์สิทธิ์แห่งนิรันดรและภาคคทาจอมพลค่ะ
คาเรลล่า ท่านหญิงแห่งธาทีเอเนีย เป็นสาวงามแต่มักชอบปลอมตัวเป็นพี่ชายฝาแฝดของตน คารอส ออกไปเล่นซุกซนเสมอ จนโดนตำหนิอยู่หลายครั้ง ในวันเกิดครบรอบของสองพี่น้องฝาแฝด คาเรลล่าและคารอส พวกเขาโดนกลุ่มคนปริศนาจู่โจม ทำให้คารอสบาดเจ็บสาหัส และวิธีการช่วยมีเพียงอย่างเดียวคือตามหาจอกแห่งนิรันดรของกราโซริสที่อยู่ในโรงเรียนเสนาธิการแห่งอานาธีเซียมาช่วยรักษา คาเรลล่าจึงต้องปลอมตัวเข้าโรงเรียนโดยอ้างตัวว่าเป็นคารอสเพื่อหาของมาช่วยพี่ชาย
เนื้อหากับการบรรยายของเรื่องนี้ค่อนข้างละเอียดนะคะ เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นเลยก็ว่าได้ การเล่าเรื่องจะดำเนินไปเรื่อยๆแบบให้เห็นทุกรายละเอียด ทำให้บางครั้งเนื้อเรื่องบางช่วงยืดเยื้อน่าเบื่อไปสักหน่อย ยิ่งคนที่ไม่ชอบการบรรยายเยอะๆอาจจะบายตั้งแต่บทแรกๆแล้วก็ได้ค่ะ ตัวพล็อตซ้ำซากไปนิด นางเอกปลอมตัวเป็นชายเข้าโรงเรียนเพื่อตามหาของเรียกได้ว่ามีเยอะมากค่ะ ถึงอย่างนั้นในแต่ละภาคก็มีคำสอนด้วยแฝงอยู่ในตัวเนื้อหา ตัวละครมีเยอะและชื่อก็จำยาก เอกลักษณ์ยังไม่โดดเด่นจนจำได้ติดหูติดตานัก ตัวละครคล้ายๆกับเซวีน่านิดหน่อยด้วยคนที่ไม่ถนัดจำชื่อตัวละครอาจมีปัญหาได้ค่ะ เราเองเช่นกัน(ฮา) ชนิดที่ว่าถ้าไม่อ่านติดต่อกันจนจบ มีหวังลืมตัวละครแน่นอนค่ะ ฉากสวีทหวานของแต่ละคู่ก็ทำออกมาได้น่ารักและหวานดี มีบทดราม่าให้น้ำตาซึมกันบ้าง เราคิดว่าการที่เขาอธิบายละเอียดขนาดนี้ทำให้เข้าถึงอารมณ์ของตัวละครได้ง่ายขึ้นและอินไปเรื่องได้ดี เป็นเรื่องราวที่เกิดในโรงเรียนที่สร้างออกมาอย่างมีสีสันดีค่ะ เราชอบสเต็ปการอ้อนของคาเรลล่ามากเลย เป็นท่าไม้ตายที่กล่อมให้พวกผู้ชายอยู่หมัดดีมากๆ(ฮา) ใครชอบแฟนตาซีติดกลิ่นอายของเซวีน่ากับบารามอสก็อ่านได้เลยค่ะ

อีกครั้งกับหนังสือชุด "Drawing Comic"แต่คราวนี้เป็นเล่มสามในชื่อว่า "ออกแบบและวาดภาพตัวละครสุดประทับใจ"เขียนโดย C•C Club แปลโดย ณิชา จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ Infopress group ได้ถูกใช้เพื่อเป็นสื่อการเรียนการสอนมาแล้วทั้งฮ่องกง ญี่ปุ่นและไต้หวันค่ะ เชื่อถือหนังสือเล่มนี้ได้เลย
เล่มสามจะเป็นการสร้างคาแรกเตอร์ตัวละครให้ออกมาโดดเด่น น่าจดจำ น่าประทับใจ และมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำแบบใคร แม้จะมีพล็อตดี เนื้อเรื่องดีก็ตาม แต่ถ้าตัวละครจืดชืดก็ไร้ความหมายและอาจทำให้เสียอรรถรสไปอย่างน่าเสียดายด้วย ถ้าตัวละครมีเสน่ห์จะช่วยให้การดำเนินเรื่องลื่นไหล เป็นที่ดึงดูดใจสำหรับนักอ่านได้ เพราะอย่าลืมว่าหน้าปกก็เป็นจุดขายที่สำคัญเช่นกัน
ก่อนหน้านี้เราเคยรีวิวเล่มแรกที่สอนหลักการพื้นฐานแล้ว คราวนี้ขอข้ามขั้นตอนมารีวิวเล่มสามเลยแล้วกันค่ะ เพราะเล่มสามนี้เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับนักว่ดการ์ตูนค่ะ นั่นคือตัวละคร ในเล่มจะมีการอธิบายพล็อตเรืองและตัวละคร, พื้นฐานการสร้างคาแรกเตอร์, การออกแบบทรงผม, สีหน้าท่าทางตัวละคร, เสื้อผ้าและเครื่องประดับที่โดดเด่น, วิธีการสร้างตัวละครแบบ SD รวมไปถึงการฝึกวาดตัวละครให้สมบูรณ์แบบในทุกสัดส่วนและฉากประกอบต่างๆด้วย การสอนจะเหมือนกับเล่มหนึ่งคือ มีหัวข้อย่อยอธิบายสรุป, ข้อควรระวังในการวาด, ชื่อบทตรงขอบเพื่อให้ค้นหาง่าย และขั้นตอนกับภาพตัวอย่างที่ฝึกให้วาดทีละสเต็ป เป็นต้นค่ะ เราชอบบทที่สอนการวาดทรงผมตัวละครมากค่ะ แบบเอาการ์ตูนจากสองเรื่องที่ชอบมาเทียบกัน คนหนึ่งเป็นผู้หญิงหวานผมยาวประบ่ากับอีกคนเป็นหญิงห้าวๆตัดสั้นมีแว่นกันลมบนหัว จากนั้นเขาก็จับลักษณะทรงผมทั้งสองตัวละครมาผสมกัน ออกมาเป็นหญิงสาวท่าทางแก่นแก้วไว้ผมออกบ็อบแต่ปลายผมกระดก มีแว่นกันลมคาดไว้ น่าประทับใจมากค่ะ เราว่าสำหรับมือใหม่อยากเป็นนักวาดควรเก็บเล่มนี้ไว้อีกเล่ม เพราะตัวละครนับว่าเป็นจุดขายหนึ่งเช่นกันที่จะทำให้หนังสือเราขายดีค่ะ

อีกครั้งกับหนังสือชุด "Drawing Comic"แต่คราวนี้เป็นเล่มสามในชื่อว่า "ออกแบบและวาดภาพตัวละครสุดประทับใจ"เขียนโดย C•C Club แปลโดย ณิชา จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ Infopress group ได้ถูกใช้เพื่อเป็นสื่อการเรียนการสอนมาแล้วทั้งฮ่องกง ญี่ปุ่นและไต้หวันค่ะ เชื่อถือหนังสือเล่มนี้ได้เลย
เล่มสามจะเป็นการสร้างคาแรกเตอร์ตัวละครให้ออกมาโดดเด่น น่าจดจำ น่าประทับใจ และมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำแบบใคร แม้จะมีพล็อตดี เนื้อเรื่องดีก็ตาม แต่ถ้าตัวละครจืดชืดก็ไร้ความหมายและอาจทำให้เสียอรรถรสไปอย่างน่าเสียดายด้วย ถ้าตัวละครมีเสน่ห์จะช่วยให้การดำเนินเรื่องลื่นไหล เป็นที่ดึงดูดใจสำหรับนักอ่านได้ เพราะอย่าลืมว่าหน้าปกก็เป็นจุดขายที่สำคัญเช่นกัน
ก่อนหน้านี้เราเคยรีวิวเล่มแรกที่สอนหลักการพื้นฐานแล้ว คราวนี้ขอข้ามขั้นตอนมารีวิวเล่มสามเลยแล้วกันค่ะ เพราะเล่มสามนี้เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับนักว่ดการ์ตูนค่ะ นั่นคือตัวละคร ในเล่มจะมีการอธิบายพล็อตเรืองและตัวละคร, พื้นฐานการสร้างคาแรกเตอร์, การออกแบบทรงผม, สีหน้าท่าทางตัวละคร, เสื้อผ้าและเครื่องประดับที่โดดเด่น, วิธีการสร้างตัวละครแบบ SD รวมไปถึงการฝึกวาดตัวละครให้สมบูรณ์แบบในทุกสัดส่วนและฉากประกอบต่างๆด้วย การสอนจะเหมือนกับเล่มหนึ่งคือ มีหัวข้อย่อยอธิบายสรุป, ข้อควรระวังในการวาด, ชื่อบทตรงขอบเพื่อให้ค้นหาง่าย และขั้นตอนกับภาพตัวอย่างที่ฝึกให้วาดทีละสเต็ป เป็นต้นค่ะ เราชอบบทที่สอนการวาดทรงผมตัวละครมากค่ะ แบบเอาการ์ตูนจากสองเรื่องที่ชอบมาเทียบกัน คนหนึ่งเป็นผู้หญิงหวานผมยาวประบ่ากับอีกคนเป็นหญิงห้าวๆตัดสั้นมีแว่นกันลมบนหัว จากนั้นเขาก็จับลักษณะทรงผมทั้งสองตัวละครมาผสมกัน ออกมาเป็นหญิงสาวท่าทางแก่นแก้วไว้ผมออกบ็อบแต่ปลายผมกระดก มีแว่นกันลมคาดไว้ น่าประทับใจมากค่ะ เราว่าสำหรับมือใหม่อยากเป็นนักวาดควรเก็บเล่มนี้ไว้อีกเล่ม เพราะตัวละครนับว่าเป็นจุดขายหนึ่งเช่นกันที่จะทำให้หนังสือเราขายดีค่ะ

"Drawing Comic เล่ม 1 พื้นฐานที่ดีสำหรับการเริ่มวาดการ์ตูน" ของสำนักพิมพ์ Infopress Group เขียนโดย C•C Club และแปลโดย ตามฝันค่ะ
หนังสือเล่มนี้ได้รับการขายลิขสิทธิ์และใช้เป็นตำราเรียนของประเทศต่างๆมาแล้ว ทั้งฮ่องกง ญี่ปุ่นและไต้หวัน อธิบายพื้นฐานทุกอย่างของการวาดการ์ตูน แม้บางคนจะไม่มีฝีมือ ถ้าฝึกตามหนังสือเล่มนี้อย่างสม่ำเสมอและจริงจังก็จะสามารถพัฒนาฝีมือได้ โดยเล่มนี้จะวางพื้นฐานทางด้านการ์ตูนให้แน่นขึ้นเพื่อต่อยอดต่อไป
เรามีติดเล่มไว้ที่บ้าน ส่วนหนึ่งเพราะมันมีขั้นตอนและคำอธิบายละเอียดมากค่ะ วางใจได้เพราะภาพทุกภาพที่นำมาใช้ประกอบการสอนมาจากทีมนักวาดมืออาชีพทั้งนั้น สามารถเป็นตัวอย่าง ทำให้เรียนรู้ได้รวดเร็วขึ้นค่ะ แถมในแต่ละหน้ายังมีการแบ่งส่วนให้เข้าใจง่ายๆ เช่นในหน้าหนึ่งจะมีหัวข้อย่อยในแต่ละบทพร้อมคำสรุปอธิบาย ข้อควรระวัง ขั้นตอนและภาพตัวอย่างในการวาด มีชื่อบทเพื่อให้ง่ายต่อการค้นหา สิ่งที่ควรรู้เพื่อใช้ในการวาด เป็นต้น ในหนังสือจะสอนเกี่ยวกับ อุปกรณ์พื้นฐานในการวาด, วาดการ์ตูนแบบครึ่งตัว, อารมณ์และความรู้สึกบนใบหน้าของตัวการฺตูน, สัดส่วนร่างกาย, ท่าทางการเคลื่อนไหว, เสื้อผ้าและอุปรณ์อื่นๆ, วาดฉาก, การจัดตำแหน่งภาพ, ทำการ์ตูนหน้าเดียวจบและการลงสี เรียกได้ว่าเล่มเดียวคุ้มเลยค่ะ เข้าใจเลยว่าทำไมเขาถึงได้เลือกหนังสือเล่มนี้ไปสอน เพราะอ้างอิงได้ดี ภาพประกอบมีทุกหน้าทำให้เข้าใจได้ง่ายกว่าใช้แต่ตัวหนังสือบรรยายเพียงอย่างเดียว โดยในชุด Drawing Comic ยังมีอีกหลายเล่มค่ะ ซึ่งแต่ละเล่มจะมีหัวข้อหลักของหนังสือต่างกันออกไป โดยอันนี้จะเน้นขั้นพื้นฐานของการวาดการ์ตูนก่อนค่ะ เหมาะสำหรับมือใหม่เพิ่งหัดวาดหรือคนที่อยากจะฝึกฝนพื้นฐานให้แน่นก่อนจะก้าวขั้นต่อไปค่ะ

"Drawing Comic เล่ม 1 พื้นฐานที่ดีสำหรับการเริ่มวาดการ์ตูน" ของสำนักพิมพ์ Infopress Group เขียนโดย C•C Club และแปลโดย ตามฝันค่ะ
หนังสือเล่มนี้ได้รับการขายลิขสิทธิ์และใช้เป็นตำราเรียนของประเทศต่างๆมาแล้ว ทั้งฮ่องกง ญี่ปุ่นและไต้หวัน อธิบายพื้นฐานทุกอย่างของการวาดการ์ตูน แม้บางคนจะไม่มีฝีมือ ถ้าฝึกตามหนังสือเล่มนี้อย่างสม่ำเสมอและจริงจังก็จะสามารถพัฒนาฝีมือได้ โดยเล่มนี้จะวางพื้นฐานทางด้านการ์ตูนให้แน่นขึ้นเพื่อต่อยอดต่อไป
เรามีติดเล่มไว้ที่บ้าน ส่วนหนึ่งเพราะมันมีขั้นตอนและคำอธิบายละเอียดมากค่ะ วางใจได้เพราะภาพทุกภาพที่นำมาใช้ประกอบการสอนมาจากทีมนักวาดมืออาชีพทั้งนั้น สามารถเป็นตัวอย่าง ทำให้เรียนรู้ได้รวดเร็วขึ้นค่ะ แถมในแต่ละหน้ายังมีการแบ่งส่วนให้เข้าใจง่ายๆ เช่นในหน้าหนึ่งจะมีหัวข้อย่อยในแต่ละบทพร้อมคำสรุปอธิบาย ข้อควรระวัง ขั้นตอนและภาพตัวอย่างในการวาด มีชื่อบทเพื่อให้ง่ายต่อการค้นหา สิ่งที่ควรรู้เพื่อใช้ในการวาด เป็นต้น ในหนังสือจะสอนเกี่ยวกับ อุปกรณ์พื้นฐานในการวาด, วาดการ์ตูนแบบครึ่งตัว, อารมณ์และความรู้สึกบนใบหน้าของตัวการฺตูน, สัดส่วนร่างกาย, ท่าทางการเคลื่อนไหว, เสื้อผ้าและอุปรณ์อื่นๆ, วาดฉาก, การจัดตำแหน่งภาพ, ทำการ์ตูนหน้าเดียวจบและการลงสี เรียกได้ว่าเล่มเดียวคุ้มเลยค่ะ เข้าใจเลยว่าทำไมเขาถึงได้เลือกหนังสือเล่มนี้ไปสอน เพราะอ้างอิงได้ดี ภาพประกอบมีทุกหน้าทำให้เข้าใจได้ง่ายกว่าใช้แต่ตัวหนังสือบรรยายเพียงอย่างเดียว โดยในชุด Drawing Comic ยังมีอีกหลายเล่มค่ะ ซึ่งแต่ละเล่มจะมีหัวข้อหลักของหนังสือต่างกันออกไป โดยอันนี้จะเน้นขั้นพื้นฐานของการวาดการ์ตูนก่อนค่ะ เหมาะสำหรับมือใหม่เพิ่งหัดวาดหรือคนที่อยากจะฝึกฝนพื้นฐานให้แน่นก่อนจะก้าวขั้นต่อไปค่ะ