PS4: Final Fantasy Type-0 HD (EN Ver.)

รีวิวเกม PS4: Final Fantasy Type-0 HD
ตำนานของเหล่านักรบรุ่นเยาว์ ผู้อยู่ท่ามกลางไฟสงคราม

 

อีกหนึ่งเรื่องราวของเกม RPG อันโด่งดังที่น้อยคนนักจะไม่รู้จักกับตำนานของ “Final Fantasy” ที่ในครั้งนี้ได้กลับมารูปแบบของเกม Action RPG ซึ่งใน “Final Fantasy Type-0” นี้ ได้เคยมีการวางจำหน่ายมาแล้วบนเครื่อง PSP (Play Station Portable) และได้ถูกนำกลับมาปรับปรุงแก้ไขกราฟฟิคและตัวเกมใหม่อีกครั้ง จนได้กลับมาในนามของ “Final Fantasy Type-0 HD” ซึ่งยังคงคุณภาพของเกมเอาไว้เช่นเคย

 

 

เรื่องราวของ ”Final Fantasy Type-0 HD” ได้อ้างอิงตำนาน “Fabula Nova Crystallis” เช่นเดียวกันกับ “Final Fantasy XIII” โดยเป็นเรื่องราวของสงครามการแย่งชิงพลัง “คริสตัล” ของทั้ง 4 อาณาจักร ได้แก่ เบียคโค, เซย์ริว, เก็นบุ และสุซาคุ เรื่องราวจะเต็มไปด้วยสงครามการนองเลือด โดยถ่ายทอดผ่านเหล่าตัวเอกที่ยังเป็นเด็ก แต่ต้องออกมาต่อสู้ท่ามกลางไฟสงครามเพื่อปกป้องและการมีชีวิตอยู่ต่อไป ท้ายที่สุดแล้วชะตากรรมของพวกเขาจะลงเอยเช่นไร นี่ก็เป็นสิ่งที่ผู้เล่นจะได้ติดตามในเนื้อเรื่องอันเข้มข้นดราม่าของเกมนี้

 

เกมเพลย์ของ “Type-0” นั้นเป็นรูปแบบของ Action RPG ที่มีรูปแบบการเล่นคล้ายกับ “Final Fantasy VII : Crisis Core” ซึ่งเป็นผลงานของทีมงานก่อนหน้านี้ แต่ในภาคนี้จะมีการปรับปรุงและเพิ่มรูปแบบการเล่นมากขึ้น โดยเราจะได้เล่นตัวละครหลักทั้ง 14 คน ที่มีอาวุธและรูปแบบการต่อสู้ที่ต่างกันไป ซึ่งในการเล่นนั้นเราจะต้องเลือกตัวละครมาร่วมปาร์ตี้ 3คน ในการเล่น แต่เราสามารถเปลี่ยนตัวละครที่ใช้บังคับหรือเปลี่ยนผู้ร่วมปาร์ตี้ได้ตลอดเช่นกัน และด้วยความที่มีตัวละครที่แตกต่างกันเยอะแยะมากมายให้เลือกใช้แบบนี้ ทำให้การค้นหาตัวละครที่เราเล่นถนัดและชอบที่สุดก็เป็นความสนุกอย่างหนึ่งสำหรับเกมนี้เช่นกัน บางคนอาจจะถนัดใช้ดาบเป็นอาวุธ บางคนอาจจะวิชาการต่อสู้ระยะประชิด บางคนอาจจะใช้ปืน หรือบางคนก็อาจจะใช้ “ไพ่เวทมนตร์” หรือ “ขลุ่ย” เป็นอาวุธได้ด้วยเช่นกัน และเรายังสามารถเล่นเก็บ Level ของตัวละครให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มความสามารถและนำท่าโจมตีใหม่มาใช้ได้ด้วยเพราะงั้นแล้ว การได้ลองใช้ตัวละครหลากหลายแบบ ก็นับเป็นความเพลิดเพลินที่ทำให้เล่นเกมนี้ได้เป็นอย่างดี

 

 

ในเกมนั้นเราจะได้อยู่ที่ โรงเรียนสุซาคุ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีนักเรียนและเหล่าผู้ใช้อาวุธและเวทมนตร์ สำหรับการต่อสู้อยู่มากมาย ภายในโรงเรียนนั้นเราสามารถไปยังส่วนต่างๆของโรงเรียน เพื่อพูดคุย ซื้อของ ฝึกฝน หรือทำเควสต์ได้ และแน่นอนว่าเรายังเป็นนักเรียนอยู่ เพราะงั้นจึงต้องคอยหมั่นเข้าเรียนเพื่อเพิ่มความสามารถให้กับตัวเองด้วย สิ่งเหล่านี้ก็จะเป็นส่วนที่ผู้เล่นจะได้เล่นกัน นอกจากการออกไปต่อสู้หรือการเล่นเนื้อเรื่องหลัก

 

แม้ตัวเกมจะฉีกแนวเปลี่ยนไปเป็น Action RPG แต่ “Type-0” ก็ยังมีองค์ประกอบของความเป็น “Final Fantasy” อยู่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น “มนตร์อสูร” ที่เราสามารถอันเชิญออกมาใช้บังคับเองได้โดยการสังเวยตัวเอง หรือแม้กระทั่งการเดินทางบน “World Map” ที่ห่างหายจากซีรี่ย์ไปนาน แน่นอนว่ามีถึงขนาดนี้แล้ว ตัวเกมก็ไม่พลาดที่จะมี “โจโคโบะ” และ “เรือเหาะ” ที่เป็นพาหนะคู่ใจของซีรี่ย์ “Final Fantasy” ให้ผู้เล่นได้ใช้เดินทางไปค้นหาสิ่งต่างๆ บนโลกกว้างนี้ด้วย

 

 

สำหรับตัวเกมเวอร์ชั่น “HD” นั้นมีบางสิ่งบางอย่างที่ถูกแก้ไขปรับปรุงใหม่ให้ดีขึ้น หลักๆแล้วก็เป็นเรื่องของภาพ ซึ่งโมเดลตัวละครได้ถูกปรับปรุงใหม่ให้สวยงามขึ้น แต่ในส่วนนี้จะแก้ไขเฉพาะส่วนของตัวละครหลักเท่านั้น ส่วนตัวละครอื่นๆจนถึงภาพต่างๆ จะถูกปรับเทกเจอร์ให้ชัดขึ้นเท่านั้น ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรไปมากกว่านี้ ซึ่งก็ทำให้ดูแปลกไปบ้างเหมือนกันเวลาที่เห็นตัวละครหลักในแบบ HD คุยกับตัวละครในเวอร์ชั่นเดิมที่ยังพูดแบบปากพะงาบๆตามต้นฉบับเดิมอยู่เลย ในส่วนอื่นที่มีการแก้ไขก็มี เพลงประกอบ ที่ได้ถูกเรียบเรียงขึ้นใหม่ทั้งหมด ทำให้เพลงหลายเพลงที่มีความเพราะเป็นทุมเดิมอยู่แล้ว ได้เพิ่มความเพราะแบบอลังการมากขึ้นไปด้วย และในส่วนนี้ก็รวมถึงการมีเพลงประกอบหลักเพลงใหม่เพิ่มเข้ามาด้วยเช่นกัน และอีกส่วนที่ขาดไม่ได้เลยในการปรับปรุงเกมให้ดีขึ้น คือเกมเพลย์ของเกม ที่ได้มีการปรับสมดุลของตัวเกมให้ดีขึ้น ตัวละครบางคนโจมตีหรือวิ่งได้เร็วขึ้น และการหมุนมุมกล้องก็ได้มีการปรับปรุงไปบ้างเช่นกัน แต่ในส่วนนี้นับว่ายังปรับปรุงได้ไม่ดีเท่าไหร่ เพราะมุมกล้องของเกมนั้นค่อนข้างจะหมุนอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจจะทำให้หลายคนที่ยังไม่ชิน เกิดความรู้สึกเวียนหัวกันได้เลยทีเดียว

 

 

“Final Fantasy Type-0” นับเป็นอีกหนึ่งเกมที่ “สนุก” เป็นอันดับต้นๆ ท่ามกลางซีรี่ย์ของ “Final Fantasy” ที่มีอยู่มากมายในปัจจุบัน ตัวเกมมีองค์ประกอบดีๆ ที่เป็นสเน่ห์ของเกมอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวเนื้อหาอันเข้มข้นซับซ้อน, ตัวละครที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น, เกมเพลย์ที่สนุกรวดเร็วและหลากหลาย, เพลงประกอบที่ทำออกมาได้เป็นอย่างดี และส่วนต่างๆที่ถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นในเวอร์ชั่น “HD” หากคุณได้ลองสัมผัสและพบกับความสนุกของผลงานอลังการงานสร้างชินนี้แล้ว รับรองว่าจะต้องหลงใหลและตราตรึงใจกับบทสรุปสุดท้ายของเกมอย่างแน่นอน