คิดแง่บวก

1 รีวิว  1 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9749966090
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 195.00 บาท 175.50 บาท
ประหยัด: 19.50 บาท ( 10.00% )

รีวิว (1)

เขียนรีวิว

ปุณิกา | 1 รีวิว
22/08/2014

การมองโลกในแง่ร้ายทำให้เรามีภูมิคุ้มกันหรือเกราะคุ้มกันตัวเองจากภัยอันตรายและความไม่ดีไม่งามทั้งหลาย ส่วนการมองโลกในแง่ดีก็เหมือนกับการสร้างกำลังใจในการมีชีวิตอยู่ต่อไปท่ามกลางภยันตรายและความไม่ดีไม่งามทั้งหลายเหล่านั้น พูดง่ายๆก็คือการมองโลกในแง่ดีก็แสดงให้เห็นว่าเรายังมีความหวังในเรื่องนั้นๆอยู่ การคิดบวกตามความกชหมายของหนังสือเล่มนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกำจัดความเครียดและปัญหาที่รุมเร้าตัวเราอยู่ หลักการในภาพรวมของหนังสือเล่มนี้ในการที่จะบรรลุจุดประสงค์ดังกล่าวก็คือ เราจะต้องมีความกล้าที่จะเผชิญปัญหาก่อนเป็นอันดับแรก ไม่วิ่งหนีปัญหาไปไหนออเมื่อกล้าที่จะเผชิญปัญหาแล้ว ก็ค้นเข้าไปหาต้นตอของปัญหานั้น แล้วพยายามมองหาจุดดีของมันเพื่อดึงออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่มองว่าปัญหาคือสิ่งที่จะมาทับถมเราให้จมอยู่กับความทุกข์ ตรงนี้เองที่เป็นการคิดแง่บวก พูดง่ายๆก็คือการเผชิญปัญหาด้วยความหวังนั่นเอง เมื่อพูดถึงลักษณะของการคิดแง่บวกแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการลองดูตัวอย่างวิธีปรับมุมมองหรือทัศนคติในการมองปัญหาแบบคนคิดแง่บวกกัน เช่น แง่ลบ : ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว แต่จะพักก็ไม่ได้เพราะต้องล้างจานอีก แง่บวก : ฉันเป็นคนกำหนดทุกอย่าง ฉันเลือกได้ว่าอยากจะล้างจานเมื่อไหร่ ตอนนี้ฉันเหนื่อย ดังนั้นฉันควรพักก่อน มาถึงตรงนี้จะเห็นว่าหนังสือเล่มนี้อ่านเข้าใจง่ายดี แถมมีตัวอย่างประกอบด้วย สิ่งที่ประทับใจอีกอย่างเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้คือ การยกตัวอย่างบุคลิกภาพของคนประเภทต่างๆมาอธิบาย เช่น บุคลิกภาพของชายชาตรี บุคลิกภาพของคนหน้าไหว้หลังหลอก เป็นต้น เนื้อหาส่วนถัดมาจะเป็นการพูดถึงลักษณะของปัญหาต่างๆที่คุณอาจต้องพบเจอ โดยจะเริ่มจากการพูดถึงลักษณะของปัญหาก่อน แล้วตามด้วยหลักการที่เป็นทฤษฎี แล้วปิดท้ายด้วยบทพูดที่เป็นตัวอย่างในการนำทฤษฎีไปปรับใช้ ในแง่ของปัญหาไม่มีอะไรแปลกใหม่ แต่ความน่าสนใจอยู่ที่หลักการและทฤษฎี เน้อหาส่วนสุดท้ายจะพูดถึงเรื่องการสะกดจิต การทดลองทำจริงและผลจากการักษา รวมทั้งการใช้การสร้างจินตนาการในการรักษาความเจ็บป่วย ตัวอย่างที่น่าสนใจสำหรับผม ก็คือ ผู้ป่วยคนหนึ่งเป็นคนไม่กล้าทำอะไร เมื่อเกิดปัญหา เขาจะละทิ้งโครงการที่คิดจะทำไปทันที ผลที่ตามมาคือเขารู้สึกเสียใจและโกรธตัวเอง ในการสร้างจินตนาการนั้น ผู้เขียนให้จินตนาการถึงภูเขาสูงใหญ่ตรงหน้าที่ต้องปีนขึ้นไป ผู้ป่วยคนนั้นเห็นความสูงชันก็เตรียมล้มเลิกความตั้งใจ ผู้เขียนกระตุ้นให้เขาหาเครื่องมือมาช่วยปีน ที่สุดเขาพบรองเท้าปีนเขา เขาค่อยๆปีนขึ้นไปอย่างช้าๆ จนเหนื่อยและตัดสินใจว่าไม่ไหวแล้ว ผู้เขียนถามว่ามีใครพอจะช่วยเขาได้มั้ย เขารีบตอบกลับมาว่ามีคนโยนเชือกลงมาช่วย จนในที่สุดเขาสามารถปีนจนถึงยอดเขา หลังจากรักษาด้วยวิธีนี้หลายครั้ง ผู้ป่วยคนนี้ได้ตัดสินใจเข้าสอบ หลังจากผัดวันประกันพรุ่งมานานเต็มที ในที่สวุดเขาสอบผ่านและได้งานใหม่แล้ว

สินค้าที่ใกล้เคียง (93 รายการ)

www.batorastore.com © 2024