ออกจากงานมาเล่นหุ้นดีจริงไหม
ถ้าคุณเคยเข้าร้านหนังสือเพื่อไปหาหนังสือหุ้นหรืออ่านเว็บบอร์ดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเงินๆทองๆทั้งหลาย รับรองได้ว่าคุณจะต้องเจอกระทู้หรือเรื่องราวที่เกี่ยวกับการลาออกจากงานประจำแล้วมาเล่นหุ้นอย่างเดียว ซึ่งก็จะมีผู้ที่เข้ามาตอบมากมาย มีทั้งคนที่เข้ามาตอบเล่นๆ ตอบจริงจัง ตอบแบบแซว ตอบแบบตักเตือน ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งในภาวะที่หุ้นทำกำไรให้กับคนหลายต่อหลายคนอย่างเป็นกอบเป็นกำ แต่ถ้าถามจริงๆ แบบซีเรียสว่าการทิ้งงานทิ้งการที่ได้เงินเดือนอย่างแน่นอนทุกๆ เดือน เพื่อออกมาเล่นหุ้นที่บางเดือนอาจจะได้ บางเดือนอาจจะเสียนั้น มันเป็นการกระทำที่ดีแล้วจริงๆหรือ สำหรับคนที่มีเงินไม่มากแล้วคิดจะทำกำไรให้ได้ซักวันละสองสามพันติดต่อกันทุกวันนั้น สิ่งที่คิด กับสิ่งที่สามารถทำได้จริงนั้น แน่นอนว่าเป็นละเรื่องเดียวกันอย่างแน่นอน
ต้องบอกก่อนว่าอันนี้ไม่นับนักลงทุนในหุ้นระยะยาวที่มีพอร์ตใหญ่มาก และสามารถดำรงชีพได้ด้วย "เงินปันผล" เพียงอย่างเดียว นักลงทุนเหล่านี้มีรายได้จากเงินปันผลปีละหลายล้านบาท ไปจนถึงหลักร้อยล้านบาท ซึ่งการที่เขาไม่ได้ซื้อขายหุ้น ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จะได้ผลตอบแทนต่ำมากเพราะโดนค่าธรรมเนียมของบริษัทหลักทรัพย์ แม้บางวันจะได้เยอะแต่เวลาเสียก็เสียเยอะเช่นกัน และถ้าทำไปเรื่อยๆสุดท้ายก็จะกลายเป็น zero sum game โดยแน่แท้ แต่เรากำลังพูดถึงนักลงทุนที่มีพอร์ตขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง ระดับ 100k ไปจนถึง 5 ล้านบาท และไม่เกิน 10 ล้านบาท เพราะถ้าคิดถึง yield ของเงินปันผลที่ 3% แล้ว เงิน 5 ล้านบาท จะได้เงินปันผลเพียงปีละ 150k และ 10 ล้านบาท จะได้เงินปันผลเพียง 300k ซึ่งเฉลี่ยต่อเดือนแล้วเพียงเดือนละ 12,500-25,000 เท่านั้นเอง ซึ่งไม่สามารถเรียกได้ว่ามีอิสรภาพทางการเงินอย่างแท้จริง สรุปคือ ถ้าเราคิดว่าการลงทุนแบบถือยาวเท่านั้นที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ และถ้าพอร์ต 10 ล้านแบบถือยาวนั้น ยังไม่สามารถสร้างอิสรภาพทางการเงินได้ และนักลงทุนที่มีพอร์ตมากกว่า 10 ล้านบาท นั้นก็มีไม่เยอะ ผมจึงสรุปได้ว่าคนที่สามารถออกจากงานแล้วมาเป็นนักลงทุนอย่างเดียวได้นั้นก็ควรจะมีน้อยมากๆเช่นกัน
คนที่เคยมีความคิดจะลาออกมาเล่นหุ้นนั้น อาจจะเบื่องาน หรือไม่ก็มองโลกในแง่ดีเกินไปซึ่งอาจจะเกิดจากการเล่นหุ้นแล้วได้กำไรติดต่อกันหลายต่อหลายครั้งทำให้เกิดความมั่นใจว่าจะได้เล่นได้ตลอดไปโดยไม่ซื้อหนังสือหุ้นมาอ่านเพื่อหาความรู้เพิ่มเติมอยู่สม่ำเสมอ ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในโลกแห่งความเป็นจริง นอกจากเรื่องนี้แล้วยังมีเรื่องเกี่ยวกับประสบการณ์ที่เราจะได้จากการทำงานไม่ว่าจะเป็นในงานที่เราทำ ประสบการณ์เรื่องคน เรื่องธุรกิจ และเรื่องชีวิตทั่วไปต่างๆอีกมากมาย ที่ไม่สามารถหาได้จากหน้าจอคอมพิวเตอร์ ไม่แน่ว่าการออกไปทำงานอาจจะทำให้เราสามารถมี Idea การลงทุนใหม่ๆหรือแม้แต่การเริ่มต้นธุรกิจใหม่ๆก็เป็นได้ และอย่าลืมอีกอย่างหนึ่งว่าการลงทุนระยะยาวที่แท้จริง ไม่จำเป็นต้องใช้เวลามากมายขนาดนั้น ไม่จำเป็นต้องนั่งจ้องหน้าจอคอมวันละเป็น 10 ชั่วโมงเสียหน่อย (ถ้าเราลงทุนระยะยาว) เวลาที่เสียไปกับการเล่นสั้นนั้นช่างมากมาย เวลาเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ถ้าเสียไปจะเอากลับคืนกลับมาไม่ได้ ต่างกับเงินที่ถ้าเสียไปยังมีโอกาสหากลับมาได้อยู่ นักลงทุนที่ชาญฉลาดควรต้องตีค่าเวลาให้มาก และดูว่ามีอะไรบ้างที่สามารถลงเวลาไปแล้วได้ผลตอบแทนกลับมาอย่างคุ้มค่า การลงทุนระยะยาวจะทำให้ได้ผลตอบแทนสูงที่สุด และยังใช้เวลาน้อยที่สุด แล้วทำไมเราไม่ใช้เวลาเล่นหุ้นระยะสั้น เอาเวลาที่มีไปหาประสบการณ์เพื่อสร้างให้เราเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพีกันล่ะ!