หนังสือประวัติธุรกิจเจ๋งมาก
หนังสือประวัติธุรกิจนั้นมีสิ่งที่ดีๆ มากกว่าที่เราคิด ยิ่งเราเป็นนักลงทุนด้วยแล้ว การเข้าร้านหนังสือเพื่อไปหาหนังสือที่เกี่ยวแต่กับหุ้นนั้นอาจจะทำให้โลกแคบโดยไม่รู้ตัว เพราะแท้จริงแล้วนั้น หุ้นก็คือธุรกิจหนึ่งนั่นเอง การเข้าใจธุรกิจต่างๆตั้งแต่สมัยก่อนจนมาถึงปัจจุบันนั้นจะทำให้เราสามารถเข้าใจหุ้นได้มากขึ้น เช่นธุรกิจต่างๆที่มีอายุมาเป็นร้อยปีนั้นอย่างเช่น บริษัทโค้ก ก่อตั้งเมื่อไหร่ และสินค้าชิ้นแรกเป็นอย่างไร มีวิวัฒนาการอย่างไรบ้าง ผู้ก่อตั้งเป็นใครและสร้างความมั่งคั่งให้เขาได้เท่าไหร่ วิธีการทำการตลาด อัตราการเติบโต โดยหนังสือประวัติธุรกิจที่ดีต้องละเอียดมาก และมีตัวเลขที่สำคัญอยู่ภายในเล่มเยอะ การได้อ่านทำให้เราได้ทำความเข้าใจธุรกิจในระยะยาว ไม่ใช่แค่เปิดดูงบการเงินย้อนหลังเพียง 5 ปีก็ตัดสินใจลงทุนได้แล้ว หารู้ไม่ว่าธุรกิจนั้นมีช่วงอายุที่ยาวนานกว่านั้นมาก บางธุรกิจดีระยะสั้น แต่ธุรกิจที่ยอดเยี่ยมต้องเติบโตติดต่อกัน โดยไม่มีความเสี่ยงหรือเสี่ยงน้อยมากๆติดต่อกันหลายสิบปี ยิ่งเราอ่านประวัติของธุรกิจหลากหลายประเภทเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้เรามีความรู้กว้างขวางมากขึ้น
ยิ่งหนังสือบางเล่มมีเรื่องราวเกี่ยวกับผู้ก่อตั้งมากมาย ยิ่งทำให้เราเข้าใจเกี่ยวกับคนมากขึ้นอีกด้วย ว่าต้องเป็นคนแบบไหนถึงสามารถสร้างธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ เช่นโค้กนั้นจริงๆแล้วเกิดขึ้นมาก่อนปี 1900 เสียอีก และคู่แข่งอย่าง pepsi ก็เกิดขึ้นในระยะเวลาใกล้เคียงกัน และได้แข่งขันกันตลอดมาราวกับเป็นคู่แข่งตลอดกาล โดยการถือกำเนิดของโค้กนั้นจริงๆเป็นเหมือนกับยาเสียมากกว่า และได้ถูกขายสูตรให้กับนักธุรกิจคนหนึ่ง ซึ่งหลังการทำการตลาดแล้วก็ได้สร้างความมั่งคั่งให้เขาเป็นจำนวนมากนอกจากนี้ยังมีหนังสือเขียนโดย sam walton ผู้ก่อตั้งวอลมาร์ทห้างค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลก นี่ก็ได้เทคนิคลับของวอลมาร์ทอยู่ภายในเล่มเช่นกันเรื่องเกี่ยวกับการ discount ราคาสินค้าและทำให้ยอดขายโตมากกว่าเดิม ซึ่งเพียงแค่ 2-3 บรรทัดนี้ก็มีค่ามหาศาลแล้วไม่รวมเนื้อหาที่ดีอื่นๆ ที่อยู่ภายในเล่ม การจะเข้าใจธุรกิจค้าปลีกแทนที่เราจะมัวแต่ไปอ่านในเว็บบอร์ดหุ้น หรือดูแต่งบการเงินอย่างเดียวจะทำให้เรารู้แค่ตัวเลขระยะสั้นๆหรือความคิดเห็นของนักลงทุนท่านอื่น แต่เราจะพลาดเรื่องราวเกี่ยวกับบริษัทในอดีต และเรื่องราวเกี่ยวกับผู้ก่อตั้งรวมไปถึงเทคนิคการทำธุรกิจต่างๆอีกมากมายที่จะอยู่ในหนังสือราคาเพียงเล่มละไม่กี่บาทเมื่อเทียบกับจำนวนเงินที่นักลงทุนจะต้องใช้ไปในการลงทุนในหุ้น
โดยหนังสือเหล่านี้ไม่ใช่ว่าต้องเป็นหนังสือภาษาอังกฤษเพียงอย่างเดียว ถ้าเราหาดีๆ ตามร้านหนังสือมือสอง ร้านหนังสือเก่า หรือแม้แต่ร้านหนังสือในห้าง อาจจะเจอของดีก็เป็นได้ โดยหนังสือยิ่งละเอียดยิ่งดี ยิ่งเล่มใหญ่ยิ่งดี ยิ่งมีตัวเลขเยอะก็ยิ่งดี ให้ลองอ่านคร่าวๆดูก่อนที่จะซื้อว่ามีข้อมูลในระดับลึก และย้อนหลังไปตั้งแต่บริษัทก่อตั้งเลยครับ และให้ลองอ่านให้หลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ค้าปลีก บันเทิง เครื่องดื่ม รถยนต์ ไอที น้ำมัน โดยที่ผมเคยอ่านก็จะมีประวัติ โค้ก วอลท์ดิสนีย์ วอลมาร์ท เบียร์แอนฮอยเซอร์บุช ไมโครซอฟท์(บิลเกตส์) พอล อัลเลน กรุ๊ปปอง ดรีมเวิร์คส์ ยิ่งอ่านหลากหลายเท่าไหร่ยิ่งดีครับ