ธุรกิจปัจจัย 4 หรือปัจจัยเสริม

            การทำธุรกิจหลากหลายประเภทในปัจจุบันที่ได้ถือกำเนิดขึ้นมาโดยฝีมือมนุษย์นั้นต่างก็มีการสนองความต้องการของคนเราในด้านต่างๆ ที่แตกต่างกันไป โดยผมจะลองแบ่งออกมาเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือธุรกิจปัจจัย 4 และธุรกิจปัจจัยเสริม ซึ่งสำหรับคนที่กำลังคิดที่จะทำธุรกิจนั้นอาจจะมีความคิดที่อยากจะทำธุรกิจที่เป็นปัจจัย 4 เสียมากกว่า เพราะคิดว่าคนเราอย่างไรก็ต้องกิน อย่างไรก็ต้องซื้อบ้าน ซื้อยา หรือซื้อเสื้อผ้า (ปัจจัย 4 มี อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค) ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรก็ตาม คนเราก็ต้องซื้อต้องใช้ของเหล่านี้ แต่บางคนก็เลือกจะทำธุรกิจเป็นอาชีพเสริม อย่างเช่น ธุรกิจโทรคมนาคม ธุรกิจสื่อ ธุรกิจบริการ ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจซอฟท์แวร์ ซึ่งก็สามารถทำจนใหญ่โตได้ไม่แพ้ธุรกิจปัจจัย 4 เลย แล้วสองอย่างนี้มันแตกต่างกันอย่างไรนะ?

            เท่าที่ผมดูรายชื่อนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและร่ำรวยติดอันดับต้นๆของเมืองไทยนั้น ไม่ได้มีเพียงแค่ธุรกิจปัจจัย 4 เท่านั้นแต่กลับมีธุรกิจปัจจัยเสริมอีกมากที่สามารถสร้างตัวจนรวยมหาศาลเป็นนักธุรกิจระดับแสนล้านได้ อย่างเช่นธุรกิจสื่อ เช่นเจ้าของช่อง 3 และช่อง 7 อีกทั้งยังมีธุรกิจที่เกี่ยวกับการค้าปลีกและให้เช่ารายใหญ่ที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัยซะทีเดียวคือกลุ่มจิราธิวัฒน์ และยังมีธุรกิจประกันชีวิต ธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์ หนังสือพิมพ์ อินเตอร์เน็ต ค้าปลีก และยังมีธุรกิจโรงภาพยนตร์อีกด้วย แต่ภายในรายชื่อนี้ก็มีนักธุรกิจที่ทำธุรกิจปัจจัย 4 อยู่มากเช่นกัน เช่น อาหาร น้ำดื่ม บ้านจัดสรร โรงพยาบาล ซึ่งอาจจะเีรียกได้ว่าประมาณครึ่งหนึ่งเป็นธุรกิจปัจจัย 4 และอีกครึ่งหนึ่งเป็นธุรกิจปัจจัยเสริมแบบนี้ก็อาจจะแสดงให้เราเห็นว่าในปัจจุบันนี้ไม่ว่าทำธุรกิจประเภทไหน ก็มีโอกาสสำเร็จได้ทั้งนั้น ไม่ได้แปลว่าถ้าเราขายสิ่งที่ไม่จำเป็นแล้วจะรวยไม่ได้เสมอไป สุดท้ายแล้วอาจจะอยู่ที่ความสามารถของเราต่างหาก ไม่ใช่การเลือกธุรกิจ แต่อย่างน้อยก็ต้องเป็นธุรกิจที่มีตลาดที่ใหญ่และมีการเติบโต แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นธุรกิจที่ขายสินค้าหรือบริการที่เป็นปัจจัย 4 เสมอไป

            ถ้าเราลองไปดูที่ต่างประเทศกันบ้าง โดยอย่างยิ่งประเทศที่พัฒนาแล้วนั้น ผู้ที่ร่ำรวยอันดับต้นๆนั้นส่วนใหญ่แล้วกลับไม่ได้ทำธุรกิจปัจจัย 4 ด้วยซ้ำ เอาง่ายๆ 10 อันดับแรกที่สหรัฐอเมริกานั้นเกินครึ่งมาจากธุรกิจเทคโนโลยี และมีธุรกิจประกันของวอเร็นบัฟเฟตที่น่าจะอยู่ในประเภทการเงินการลงทุน นี่อาจจะบอกอะไรเราได้ว่า สิ่งที่จะสร้างความมั่งคั่งในอนาคตนั้นเริ่มไม่ใช่ธุรกิจที่เป็นพื้นฐานของมนุษย์อีกต่อไป แต่กลับเป็นสิ่งที่จะสร้างความสะดวกสบายให้เราได้มากขึ้น โดยเหตุที่ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ก็อาจจะเพราะโลกของเราเริ่มพัฒนาไปอีกขั้นแล้ว ธุรกิจพื้นฐานต่างๆเริ่มเกิดการอิ่มตัวเพราะมีการแข่งขันกันมาก และส่วนใหญ่นั้นไม่ได้มีความได้เปรียบอย่างอื่นนอกจากเรื่องราคาเป็นหลักทำให้กลายเป็นธุรกิจ commodity ไปโดยปริยาย และธุรกิจประเภทนี้อย่างที่เรารู้กันอยู่ว่าสร้างผลตอบแทนได้ดีไม่เท่าธุรกิจประเภทที่มีจุดขายสำคัญด้านอื่นนอกจากเรื่องราคา


www.batorastore.com © 2024