ดวงตาของคนที่เรารัก

1 รีวิว  1 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9789744753687
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 159.00 บาท 39.75 บาท
ประหยัด: 119.25 บาท ( 75.00% )

รายละเอียด

หนังสือเรื่องนี้ถ่ายทอดในลักษณะของจดหมายร้อยเรียงความหมายของการเป็นมนุษย์ จากคุณตานักจิตวิทยาถึงหลายชายผู้เป็นออทิสติก 

"...แซมหลานรัก ชีวิตตาเปลี่ยนไป นับตั้งแต่วินาทีที่หลานลืมตาดูโลก" นี่คือจุดเริ่มต้นของจดหมาย 32 ฉบับที่เปี่ยมไปด้วยความห่วงหาอาทร ใกล้ชิดสนิทสนมที่ "คุณตา" (แดน  ก็อตต์ลีบ) เขียนถึงแซม "หลานชาย" ของเขา เนื้อหาในจดหมายพูดถึงความหมายของการเป็นมนุษย์ ด้วยความตรงไปตรงมา สัตย์ซื่อและเปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจ แม้สาระสำคัญของจดหมายจะเป็นเรื่องสากล โดยกลั่นกรองจากประสบการณ์ส่วนตัวอย่างยิ่งของ กอตต์ลีพ ผู้เป็นอัมพาตตั้งแต่คอลงมาจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เกือบคร่าชีวิตเขาเมื่อ 25 ปีก่อน และแซม หลายชายที่ตรวจพบว่ามีอาการบกพร่องทางพัฒนาการแบบรอบด้านเมื่ออายุ 14 เดือน ซึ่งเป็นอาการของโรคออทิซึมแบบรุนแรง แดนเขียนจดหมายเหล่านี้ขึ้นมาด้วยความหวัง ว่าสักวันหนึ่ง แซมจะได้รู้จักคุณตาของแกผ่านจดหมายเหล่านี้  ดวงตาของคนที่เรารัก คือ บทพิสูจน์อันยืนยงถึงสายสัมพันธ์ระหว่างผู้คน ไม่ว่าอุปสรรคในการสื่อสารจะยากเย็นเพียงใด จดหมายที่เขียนด้วยความฉลาดหลักแหลมและอารมณ์ความรู้สึกที่น้อยคนจะเข้าถึงเหล่านี้ เป็นเครื่องเตือนใจที่เปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจ ให้เราพึงระลึกอยู่เสมอว่า ไม่ว่าความสามารถหรือข้อจำกัดของเราจะเป็นอย่างไร แต่เราก็เป็น 'คนเหมือนกัน' !! แล้วเรื่องราวจะดำเนินไปอย่างไร? ขอเชิญคุณผู้อ่านมาติดตามร่วมกันในนิยาย "ดวงตาของคนที่เรารัก" เล่มนี้

เขียนโดย "แดเนียล กอตต์ลีบ" (Daniel Gottlieb)

แปลโดย "ธิดารัตน์ เจริญชัยชนะ"

176 หน้า

 

สารบัญ

ภาค 1 ขอต้อนรับสู่โลกนี้

ภาค 2 เกี่ยวกับครอบครัวของหลาน

ภาค 3 หลานกับตา แซม

ภาค 4 ร่ายกาย จิตใจ และจิตวิญญาณของหลาน

ภาค 5 สิ่งที่รอหลานอยู่ข้างหน้า

ภาค 6 ที่ทางของหลานบนโลกนี้


รีวิว (1)

เขียนรีวิว

อ้วนแกะ | 1 รีวิว
17/12/2014

เล่มนี้ เราไม่ได้ตั้งใจจะอ่านเลย แต่เพราะดันจับพลัดจับผลูจะต้องไปนั่งอยู่ในวงวิจารณ์วรรณกรรมที่หยิบยกหนังสือเล่มนี้มาเป็นพระเอกพอดิบพอดี เลยต้องหามาอ่านเพื่อเตรียมตัวสักเล็กน้อย เดี๋ยวจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง จากที่ไม่เคยสนใจ เพราะไม่คิดว่าจะเป็นแนวหนังสือที่ชอบของตัวเอง กลายเป็นว่า ครึ่งหนึ่งเราคิดถูก และอีกครึ่งหนึ่งเราต้องคิดใหม่ พูดถึงเรื่องสำนวนภาษา เราเข้าใจว่าคนเขียนต้องการให้ออกมาดูอบอุ่น อ่อนโยน เป็นจดหมายที่มีถ้อยคำชวนให้คนอ่านมีหัวใจที่นุ่มนวลขึ้น แต่ก็นั่นแหละ ผลข้างเคียงของสำนวนการเขียนประเภทนี้คือ การทำให้คนอ่าน (ที่ไม่ใช่เป้าหมายหลักอย่างเรา) รู้สึกง่วงเหงาหาวนอน และแอบเบื่อในบางที แต่เราก็อ่านจนจบ ไม่ได้วางทิ้งไว้และเก็บขึ้นชั้นหนังสือกลางคัน นั่นก็เพราะ อีกครึ่งหนึ่งที่เหลือในความเป็นหนังสือเล่มนี้นั่นแหละ เราจำได้ฉากหนึ่งที่ต้องพับเอาไว้เตือนใจตัวเอง มันเป็นสิ่งธรรมดาสามัญที่ลืมนึกไปเลย คุณตาของเขา พูดถึงยามคับขัน เมื่อรถของเราเริ่มมีปัญหาอยู่ท่ามกลางท้องถนนอันแสนวุ่นวาย มีทางให้เราเลือกคือ ดันทุรังวิ่งต่อไป ซึ่งนั่นจะทำให้รถวิ่งได้ช้า และแน่นอนว่ารถคันหลังจะต้องบีบแตรไล่ ขับมาจี้ตูด หรือเปิดไฟสูงให้เราไปพ้นๆ แน่ๆ เราจะกลายเป็นตัวปัญหาที่คนอื่นๆ ในสังคมเหม็นขี้หน้าทันทีที่ไม่ยอมรับว่าตัวเองกำลังมีปัญหา แต่ในทางกลับกัน ถ้าเราเปิดไฟฉุกเฉิน เพื่อจะบอกคนอื่นๆ ว่า ฉันกำลังมีปัญหา ฉันกำลังอ่อนแอ ปฏิกิริยาของผู้คนจะแตกต่างไปในทันที พวกเขาจะไม่บีบแตรไล่ แต่จะหลีกเลี่ยงเราไปโดยการแซงซ้ายหรืออะไรก็ตามที มิหนำซ้ำ บางคนในพวกเขาเหล่านั้น ยังจะชะโงกหน้ามาถามเราด้วยความเป็นห่วงอีกด้วยว่า มีอะไรให้เขาช่วยไหม นั่นคือสิ่งหนึ่งที่เรายังจำมาได้จนทุกวันนี้ แม้ว่าจะอ่านหนังสือเล่มนี้นานแล้วก็ตาม ยามเมื่อเราอ่อนแอ ในบางสถานการณ์ แทนที่จะแสร้งชูคอทำเป็นเข้มแข็ง ทำเหมือนว่าเราสามารถผ่านพ้นปัญหาเหล่านั้นไปได้ด้วยตัวเอง เพราะเราเก่ง เราทำได้ แต่กลับกลายเป็นว่าสิ่งนั้นไปสร้างปัญหา ไปทำความเดือดร้อนให้คนอื่นทีหลัง เราควรจะชั่งน้ำหนัก และยอมรับว่าตัวเองอ่อนแอ กำลังต้องการความช่วยเหลือ เพื่อเปิดโอกาสให้คนอื่นมองเห็นปัญหาของเรา และช่วยเราแก้ไข ซึ่งแน่นอนว่า บางทีปัญหาที่เรากำลังเจอ มันไม่ใช่ปัญหาของเราเพียงคนเดียว และมันต้องอาศัยความร่วมมือ ต้องได้รับความช่วยเหลือจากคนอื่นๆ ช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ วิน-วินกันไปทั้งหมด อ่านในยามว่างๆ สุดสัปดาห์ ให้ชีวิตได้ช้าลง และได้ค้นพบสิ่งใหม่ คุณตาเขามีอะไรจะบอกหลายอย่างอยู่เหมือนกันนะ

สินค้าที่ใกล้เคียง (32 รายการ)

www.batorastore.com © 2024