ความโดดเดี่ยวของผู้ประกอบการ
ผมอ่านเรื่องราวของผู้ก่อตั้งธุรกิจมามากมายและได้หาข้อมูลเกี่ยวกับความยากของการก่อตั้งธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตก็ได้พบว่าจริงๆ แล้วหนทางการเป็นผู้ประกอบการนั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ซึ่งหลายๆคนอาจจะบอกว่ารู้อยู่แล้ว แต่ถ้าได้ลองมาทำจริงๆดูแล้วอาจจะโหดร้ายกว่าที่คิดเสียอีก เพราะตอนแรกนั้นจะมีแค่เราคนเดียว ที่เราจะต้องทำคือสร้างสรรค์ให้ไอเดียของเราสามารถเกิดเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้และกำไรและจะต้องมีการสร้างระบบให้สามารถเดินไปได้ด้วยตัวเอง ซึ่งแน่นอนย่อมหนีไม่พ้นเรื่องคนที่จะสร้างความปวดหัวให้ในเวลาต่อมา แต่ตอนที่สุดน่าจะเป็นตอนเริ่มต้นเลยมากกว่า เพราะสิ่งที่เราทำนั้นยิ่งเป็นสิ่งที่แตกต่างและดูเหมือนจะยากกว่าปรกติซักเท่าไหร่ มันจะยิ่งทำให้เส้นทางที่เราเลือกเดินนั้นต้องเต็มไปด้วยขวากหนามมากเท่านั้น
ในระหว่างที่เราดำเนินธุรกิจนั้น เราจะพบว่ามันมีทั้งช่วงขึ้นและลงอย่างน่ากลัว โดยช่วงที่ยอดขายดูเหมือนจะไม่เติบโต หรือแม้แต่ตกลง เราก็จะรู้สึกว่าเราทำผิดอะไรตรงไหนหรือป่าว และมีอะไรที่ทำได้อีกมั๊ย คิดวนไปวนมาจนทำให้รู้แย่อย่างบอกไม่ถูก บางครั้งอาจจะอยากเลิกทำไปให้รู้แล้วรู้รอด แต่เมื่อผ่านช่วงนั้นมาแล้ว ก็อาจจะรู้สึกว่าธุรกิจใหม่ของเรายังมีอนาคตและมันจะเติบโตกลายเป็นธุรกิจอย่างจริงจัง มีความเข้มแข็ง และสร้างความมั่งคั่งให้กับเราไปอีกนาน แต่พอผ่านไปอีกซักพักเราก็จะกลับมารู้สึกแย่อีกครั้งเมื่อเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นมา เปรียบได้กับว่าการทำธุรกิจเป็นดั่งการขึ้นรถไฟเหาะที่ต้องมีช่วงขึ้นและลง ซึ่งไม่ธรรมดาเพราะขึ้นแรงและลงแรงอย่างมากเพราะการเริ่มธุรกิจใหม่ๆซักอย่างที่อาจจะยังไม่มีใครเคยทำมาก่อน หรือยังทำได้ไม่ดีนั้น เราจะพบว่าหลายสิ่งหลายอย่างนั้นไม่ได้เป็นไปตามความคาดหวังของเรา เราคิดว่าน่าจะมีรายได้เท่านี้ต่อเดือน แต่พอเอาเข้าจริงกลับทำได้ไม่ถึงครึ่งนึงของที่คิดใว้ ทำให้เราคิดมาก หลายครั้งคิดไปถึงความสามารถของเรา ว่าจริงๆแล้วอาจจะไม่เก่งอย่างที่เราคาดคิดใว้ก็ได้ แ่ต่ก็ต้องเดินหน้าต่อไปเพราะได้ลงทุนไปไม่น้อยแล้ว อาจจะต้องคิดหาวิธีใหม่ๆ ทำการตลาดใหม่ๆ หรือแม้แต่ต้องลงทุนเพิ่มเข้าไปอีก อาจจะได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง แต่สุดท้ายแล้วสำหรับธุรกิจเริ่มใหม่นั้น ยิ่งเป็นการก่อตั้งด้วยตัวเองคนเดียวแล้ว จะต้องทำงานเยอะมาก เรื่องเงินเดือนไม่ต้องพูดถึง แค่ทำกำไรให้บริษัทในช่วงแรกก็ยากมากแล้ว ไหนจะคู่แข่งอีก
นักธุรกิจต้องรู้รอบด้านเกี่ยวกับหลายๆเรื่องในธุรกิจ ถ้าทำคนเดียวไม่มีผู้ร่วมก่อตั้ง ก็ต้องรู้เรื่องบัญชี เรื่องสินค้า เรื่องการตลาด การเงิน การโฆษณา การจ้างพนักงาน การประสานงาน สรุปง่ายๆคือต้องทำทุกอย่างนั่นเอง การทำงานที่กว้างแบบนี้มีน้อยคนนักที่จะสามารถทำได้ มันจึงเป็นสิ่งที่ยากมากในการก่อตั้งธุรกิจให้รอดได้เกิน 5 ปี เพราะธุรกิจใหม่ก็คือเจ้าของนั่นเอง ไม่มีเจ้าของก็ไม่มีธุรกิจเพราะต้องทำคนเดียวทุกอย่าง ถ้ายอมแพ้ก็จบกัน เพราะไ่มมีพนักงานมาซัพพอร์ต ต้องคอยคุมอารมณ์ของตัวเอง และให้กำลังใจตัวเองให้สามารถสู้ต่อไปได้เวลาที่ทุกอย่างดูเหมือนจะสิ้นหวัง เคยมีนักลงทุนคนหนึ่งกล่าวใว้ว่า ธุรกิจที่สำเร็จคือธุรกิจที่สามารถอยู่รอดได้ ก็แสดงว่าเพียงทำให้ัตัวเองอยู่รอดได้ นั่นเท่ากับว่าสำเร็จแล้ว เพราะการอยู่รอดให้ได้เป็นระยะเวลานานนั้นกลับเป็นเรื่องที่อยากที่สุดครับ