ข้าบดินทร์ (เล่ม 1-2) (วรรณวรรธน์)

SCR. |
30/11/2014

ไม่ค่อยผิดหวังกับหนังสือของสำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรมมาก ยิ่งเล่มนี้ยิ่งไม่ผิดหวังค่ะ นิยายแนวพีเรียดรักชาติ ในช่วงยุคสมัยของรัชกาลที่ 3 ในช่วงที่คนไทยเริ่มค้าขายกับต่างประเทศ เริ่มทำสนธิสัญญาฉบับแรกกับต่างประเทศ ออกจะดูแตกต่างกับนิยายรักชาติเล่มอื่น ๆ บ้าง แต่ก็กินใจไม่แพ้เหล่าวีรบุรุษที่ออกรบชิงดินแดนคืนค่ะ ในเล่มนี้เป็นเรื่องของพ่อเหม ชายหนุ่มที่เพียบพร้อมไปด้วยความรู้ ชาติตระกูล ทรัพย์สินเงินทอง แต่ต้องมาตกระกำลำบากกลายเป็นตะพุ่นช้าง เมื่อพ่อถูกกล่าวหาว่าไปฆ่าฝรั่งตาย (ฝรั่งในยุคนั้นมีความสำคัญมากค่ะ) แต่ด้วยความเฉลียวฉลาดของเหม ทำให้เหมสามารถเรียนวิชาที่เกี่ยวกับช้างได้ทั้งหมดสำเร็จ และได้พบกับ ลำดวน สาวน้อยที่ชื่นชอบเหมมาตั้งแต่เล็ก (ตรงนี้ถึงแม้จะไม่ได้สวีทกันออกนอกหน้าเหมือนนิยายสมัยใหม่ แต่อ่านแล้วก็รู้สึกเขินอายได้ค่ะ ฝีมือเกี้ยวสาวของพ่อเหมนี่ก็ไม่แพ้วิชาบังคับช้างเลย) เหมที่ตอนนี้เป็นแค่ตะพุ่นช้าง หรือเสดียงก็ได้พยายามทำทุกอย่างให้ขึ้นไปเท่าเทียมกับลำดวน ซึ่งก็สมใจอยาก เพราะเหมได้เป็น หลวงสุรบดินทร์ในท้ายที่สุด อยากจะบอกว่าอ่านจบแล้วประทับใจจริง ๆ ค่ะ เรื่องนี้ไม่ได้เน้นหนักไปในทางรบ ไม่ได้เน้นไปทางชิงดินแดนคืนหรือกู้เอกราช แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก และทำให้รู้ว่าเราอยู่ใต้อำนาจของพวกฝรั่งมากแค่ไหน อ่านแล้วได้ความรู้ดีมากค่ะ ปกติในช่วงรัชกาลที่ 3 นี้จะหาข้อมูลยากนิดนึง อยากให้มีหนังสือแนวนี้ออกมาเยอะ ๆ ค่ะ อ่านแล้วรู้สึกรักชาติขึ้นมามากจริง ๆ

Kwindy |
27/10/2014

เป็นวรรณกรรมที่มีความสวยงาม หวานซึ้ง และมีความเด็ดเดี่ยวในแนวคิดเป็นอย่างมาก และท่ามกลางวรรณกรรมที่งดงาม ความสวยงามของวรรณกรรม ผู้อ่านจะสามารถสัมผัสได้ถึงความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยวในงานศิลป์แห่งวรรณกรรม เป็นงานเขียนอีกงานหนึ่งที่ชื่นชอบ น่าประทับใจมากๆ และน่าเก็บเป็นที่ระลึกอีกงานหนึ่งของสำนักพิมพ์บ้านวรรณกรรม ความสวยงามของวรรณกรรมเรื่องนี้ อ่านแล้วรู้สึกได้เลยถึงความหวัง ความฝัน และแสงสว่างในชีวิต ถ้าในชีวิตนี้มีใครซักคนที่รักเราและให้ความสำคัญกับเราได้ขนาดนี้ รับรองค่ะไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่ใจอ่อนให้กับคนที่เทิดทูนเราขนาดนั้นหรอกค่ะ นอกเหนือจากนั้นนะคะ ข้าบดินทร์ยังสอนให้เรายึดมั่นในความภักดี ยึดมั่นในคำสัตย์ ยึดมั่นในสัจจะและให้ความสำคัญกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ศักดิ์ศรี และบ้านเมืองของเราด้วยค่ะ สำคัญใดจะเสมอเหมือนถิ่นบ้านเกิด เมืองนอนของเราคะ เราเป็นข้าบดินทร์ เราเป็นคนไทยด้วยกัน เราต้องรักกันซิคะ ถ้าคนเรารัก เชื่อมั่น และซื่อสัตย์ในกันและกัน เมื่อนั้นปัญหาอุปสรรคต่างๆ ก็จะแก้ไขได้โดยง่ายค่ะ อ่านแล้วรู้สึกภูมิใจมากค่ะและหวังว่าผู้อ่านคนอื่นๆ จะชอบเหมือนกันนะคะ ยิ่งตอนนี้จะมีการนำมาทำเป็นบทละครโทรทัศน์ด้วยละ รับรองแฟนพระเอกเจมส์ มาร์และนางเอกแมท ภีรนีย์ ไม่ยอมพลาดแน่นอนค่ะ แถมในนิยายเรื่องนี้ยังมีฉากเด็ดๆ หลายๆ ฉาก เช่น ฉากขี่ช้าง, ฉากต่อสู้สมัยโบราณ ต้องคอยรอดูนะคะ ว่าเวอร์ชั่นละครจะสนุกเหมือนในหนังสือนิยายเล่มนี้รึเปล่า แต่โดยส่วนตัว ข้าบดินทร์เวอร์ชั่นหนังสือสนุกจริงๆ ค่ะ อ่านแล้ววางแทบไม่ลงเลยค่ะ ผู้อ่านเองอ่านรวดเดียวคืนเดียวจบเลยค่ะ สนุกมาก

ฐาปนัส |
25/07/2014

ผู้เขียน วรรณวรรธน์ สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม จำนวนหน้าหนังสือ 716 หน้า ( 2 เล่มจบ) " ข้าบดินทร์ " ละครพีเรียดฟอร์มยักษ์ที่กำลังถ่ายทำอยู่ในขณะนี้ ผมก็ยังงง ๆ นะ มีหนังสือแนวประวัติศาสตร์รัตนโกสินทร์ที่เป็นนวนิยายที่ผมไม่รู้จักด้วยหรือ ? แลพผมเองก็นิยมชมชอบพระเอกเรื่องนี้เป็นการส่วนตัวอยู่แล้วคือ 'เจมส์ มาร์" เพราะฉะนั้นหลังจากรู้ข่าว ผมก็รีบไปตามล่าหาหนังสือเล่มนี้โดยทันทีครับ โดยหนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสืออิงประวัติศาสตร์ในสมัยรัชการที่ 3 แห่งราชวงศ์จักรีครับ เป็นช่วงที่ฝรั่ง (หรือที่ตามหนังสือเรียกว่า วิลาศ) เข้ามามีบทบาททางการค้ากับประเทศไทย โดยเรื่องราวจะถูกเล่าผ่าน "เหม" บุตรชายพระยาบริรักษ์กับคุณหญิงชม ชายหนุ่มรูปงาม ที่สนใจใฝ่รู้ภาษาวิลาศ และแอบไปเรียนอยู่บ่อย ๆ แต่เมื่อผู้เป็นพ่อรู้ก็ไม่พอใจ จึงได้ส่งเหมไปเรียนกับพระครูที่วัด เหมจึงได้เรียนวิชาดาบอาทมาฎติดตัวมาอีกแขนงหนึ่ง หลังจากนั้นไม่นาน ชีวิตของเหมที่ดูจะเพียบพร้อมทุกอย่างกลับต้องพลิกผัน เมื่อผู้เป็นพ่อถูกกล่าวหาว่าฆ่าพวกวิลาศตาย ครอบครัวของพระยาบริรักษ์ต้องกลายเป็นตะพุ่นช้าง ที่ตกต่ำเสียยิ่งกว่าไพร่ แต่ด้วยความมานะพยายามของเหม ทำให้เหมได้เรียนรู้ศาสตร์แห่งคชสารจนได้เป็นหมอควาญช้างหรือ "เสดียง" และทำให้เค้าได้พบกับ ลำดวน อีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ในวัยเด็ก ทั้งคู่เคยรู้จักกันมาแล้ว แม้จะต้องเจออุปสรรคมากมาย ทั้งหลวงวิชิต ชายหนุ่มที่มีฐานะดีพร้อมเทียมทัด ลำดวน แต่พร้อมจะแทงข้างหลังได้ทุกเมื่อ แต่ด้วยความรักที่เหมมีให้ต่อลำดวน เหมจึงเพียรพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้มีฐานะทัดเทียมกับลำดวน ซึ่งเค้าก็สามารถก้าวขึ้นไปสู่ตำแหน่ง "หลวงสุรบดินทร์" ได้อย่างภาคภูมิใจ จากความสามารถในวิชาดาบอาทมาฏของเหมครับ ในท้าย ๆ เรื่อง จะเห็นถึงความเสียสละของเหมที่ตั้งใจจะทำเพื่อชาติ ที่ถึงแม้จะไม่มียศ ไม่มีศักดิ์ใด ๆ ก็ตาม โดยผ่านคุณชายช่วง (ผมนึกยศไม่ออกเสียแล้ว) คุณชายช่วงก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เห็นเหมมาแต่เล็ก ๆ และเฝ้ารอเวลาที่เหมจะสามารถล้างมลทินให้กับครอบครัวได้ และเมื่อเหมสามารถทำได้สำเร็จ คุณชายช่วงก็ไม่รีรอที่จะสนับสนุนเหมในหน้าที่การงานและทำงานร่วมกันกับเหม ซึ่งอะไรที่เหมสามารถทำเพื่อช่วยชาติได้ เหมยินดีที่จะทำในฐานะ "ข้าแห่งบดินทร์โดยแท้จริง" อยากจะบอกว่า สนุกมาก ๆ ครับ สนุกผิดคาดเลย ภาษาที่ใช้ก็สละสลวย แม้จะอ่านยากไปสักนิด อ่านแล้วรู้สึกรักชาติยิ่งขึ้นไปอีก และรู้สึกเกลียดฝรั่งที่ตั้งใจจะเข้ามาเอาเปรียบไทย ตามที่ได้เรียนจากตำราประวัติศาสตร์มา (เซอร์ เจมส์ บรู๊ก , บาวริ่ง ทำนองนั้นแหละครับ) ยอมรับครับว่าอ่านหนังสือแล้วก็คาดหวังกับละคร แต่รู้สึกว่าละครจะเปลี่ยนเชื้อชาติพ่อเหมจากมอญเป็นจีนแทนนะครับ นอกจากนี้ในหนังสือยังเต็มไปด้วยเรื่องราวเกี่ยวศาสตร์แห่งคชสารของจริง ที่คิดว่าน่าจะหาอ่านได้ยากในตอนนี้ และยังได้เห็นข้อบังคับของเหล่าควาญช้างสมัยโบราณด้วยครับ อ่านแล้วก็รู้สึกทึ่ง ๆ ข้อบังคับเค้าเยอะมาก ละเอียดมาก ๆ ด้วยครับ เพราะฉะนั้นถ้าใครสนใจประวัตศาสตร์ในช่วงต้นรัตนโกสินทร์ หนังสือเล่มนี้ก็เป็นอีกเล่มที่ไม่ควรพลาดครับ