กระต่ายหลงจันทร์ เล่ม 01 (โสภี พรรณราย)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9789749001721-1
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 225.00 บาท 56.25 บาท
ประหยัด: 168.75 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

1

            พิมทองจ้องมองบนเวทีตาไม่กะพริบ

                หล่อนตื่นเต้นและดีใจกับความสำเร็จของเพื่อนรัก... ศุภราหรือชื่อ

เล่นว่า...อ้อย

                หล่อนกับศุภราสนิทกันมาก เรียนหนังสือมาด้วยกันตั้งแต่ชั้นประถมจน

ต่างคนต่างจบการศึกษา

                พิมทองจบพยาบาล

                ศุภราจบพาณิชย์การขาย และเบนเข็มไปเป็นนางแบบ

                ทั้งสองต่างเป็นกำพร้า และเช่าคอนโดฯอยู่ด้วยกัน

                แทบไม่มีใครเชื่อว่าพิมทองกับศุภราจะอยู่ด้วยกันได้ เพราะนิสัยใจคอ

บุคลิกแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

                พิมทอง....ชื่อเล่น กระต่าย...หล่อนได้ชื่อว่า เป็นสาวเชย...ขี้เหนียว...

จริงใจ และธรรมะธัมโม...สวมแว่น...หน้าอ่อน...ราวกับเป็นเด็กคงแก่เรียน

                ศุภรา หรืออ้อยเป็นสาวสวย เปรี้ยว สูงระหงชอบสังคมหาเงินเก่งและใช้

เงินเก่ง ใช้แต่ของมียี่ห้อแบรนด์เนมดัง ราคาแพง และกระตือรือร้นอยากมีชื่อเสียง

 

 

                ศุภราไต่เต้าจากนางแบบไร้ชื่อเสียง...จนทุกวันนี้...หล่อนดังแล้ว...

หล่อนอยู่ระดับแนวหน้า

                พอหล่อนเดินออกมาจากในฉาก...จะมีเสียงปรบมือต้อนรับ และ

แน่ล่ะ...เสียงปรบมือของพิมทองจะดังที่สุด

                พิมทองปรบมือเต็มที่ จนคนอื่นหยุดแล้ว หล่อนยังปรบมืออยู่คนเดียว

จนคนข้างๆ หันมามองหล่อน

                หญิงสาวถึงได้รู้ว่าทำอะไรเชยๆ ออกมาอีกแล้ว รีบหยุดปรบมือ...

หน้าแดง...อาย

                หล่อนไม่ค่อยมาชมศุภราเดินแบบนักหรอก งานพยาบาลกับนางแบบ

ห่างกันสุดขั้ว แถมงานกลางคืนต้องแต่งตัวสวยๆ พิมทองไม่ถนัด หล่อนมีชุดสวย

ไม่กี่ชุด...และเลือกชุดเก่งมาสวมใส่ประจำ เป็นชุดที่หล่อนคิดว่าสวยที่สุดแล้ว

                จะซื้อเสื้อผ้าใหม่ก็เสียดายเงิน...

                ชุดเก่งก็ถูกศุภราตำหนิว่าเชย....หุ่นหล่อนใกล้เคียงกัน ศุภราให้ยืมชุด...

พิมทองเลือกไม่ถูก

                ชุดของศุภราสวยไป หรูไป โป๊ไป บางไป...สารพัดที่พิมทองจะมีข้ออ้าง

                สุดท้ายก็ใช้ชุดของตัวเองมั่นใจดี...แต่เข้ามาในงานแล้ว ต้องเดินตัวลีบ

หล่อนรู้เลยชุดของหล่อนด้อยกว่าทุกคน

                ด้อยทั้งคุณภาพ ราคา และแบบ

                เชยกว่าเพื่อน...

                ไม่เป็นไร...นานๆ หล่อนจะมาเชียร์เพื่อนสักที

                งานคืนนี้เป็นงานแฟชั่นการกุศล ต้องมีบัตร...บัตรราคาเป็นพัน พิมทอง

ถูกศุภราบังคับให้มา

                สปอนเซอร์เครื่องสำอางของศุภรา ซื้อบัตรไว้หลายสิบใบ และแจกคน

รู้จัก ศุภราได้รับแจกจึงแจกต่อให้พิมทอง

                แรกๆ พิมทองปฏิเสธ ศุภราทั้งขู่และบังคับ และแถมข้อเสนอพิเศษ

 

 

                “กินอาหารฟรีหนึ่งมื้อ...”

                ตอนนั้นพิมทองแย้ง

                “ฉันอยู่บ้านกินบะหมี่สำเร็จรูปง่ายๆ”

“กินบ่อยๆ ไม่เบื่อบ้างหรือไง ไปกินอาหารอร่อยๆ และเปิดหูเปิดตา

บ้างจ้ะ”

                อาหารอร่อยอย่างที่ศุภราคุย

                ศุภราเดินแค่สามชุด...พิมทองรู้คิว...พอหมดคิวเพื่อน หล่อนจึงผละ

จากบริเวณเวทีไปมุมที่วางอาหาร

                จัดแบบบุฟเฟ่ต์...ใครใคร่ทาน...ทาน...เลือกตักตามใจชอบ มีโต๊ะเก้าอี้

ให้นั่ง

                พิมทองตั้งใจมาดูเพื่อนเดินแบบคนเดียว...คนอื่นเดิน...หล่อนไม่สนใจ

                ทานให้อิ่มท้องไว้ก่อน...ของอร่อยทั้งนั้น

                อาหารเหลือตั้งมากมาย...แขกล้วนสนใจชมงาน...ชมการแสดงบนเวที

ไม่ค่อยมีใครสนใจอาหาร

                อาหารเหลือมาก...จนพิมทองนึกอยากตักกลับบ้าน

                จริงๆนะอยากตักกลับบ้านอยากบอกบริกรของโรงแรมเหลือเกิน...

เพราะความเสียดาย แต่ทำไม่ได้ หล่อนไม่ใช่เจ้าภาพ

                อาหารโรงแรมไม่ใช่ถูกๆ ไม่ใช่แค่หัวละร้อย...สองร้อย...ต่ำๆ หัวละ

ห้าร้อย...

                มุมเค้ก...มุมของหวานกับผลไม้ เหลือเป็นถาดๆ

                พิมทองไม่ใช่คนตะกละ แต่เพราะความเสียดาย จึงทานให้อิ่ม...อิ่มกว่า

ปกติ...

                โชคดีเอวกระโปรงเป็นยางยืด หน้าท้องเอย...พุงเอย... จะยื่นหน่อยก็

ไม่เป็นไร

                อิ่มอาหารคาวต่อด้วยอาหารหวาน

 

 

                ขนมเค้กของโปรด

                เค้กช็อกโกแลตโปรดอันดับหนึ่ง ตักชิ้นใหญ่ใส่จาน เล็งว่าจะไปหลบมุม

นั่งทานคนเดียว

                คิดในใจว่าชิ้นเดียวไม่พอด้วยซ้ำ เดี๋ยวทานหมดจะตักเพิ่มไม่ต้องกลัว

หมดเลย เพราะแขกในงานสนใจอาหารน้อยมาก

                หล่อนต้องรีบหาที่นั่งด้วย...คืนนี้สวมรองเท้าส้นสูงสามนิ้วครึ่งอยากสวย

อยากสง่า...ผลคือ...ปวดขาและรองเท้ากัด

                นานๆเอามาใส่ที...กัดเท้าทุกครั้ง

                ปกติใส่รองเท้าส้นสูง สูงแค่นิ้วสองนิ้ว เดินสบาย แต่ศุภราตำหนิว่า

ไม่สง่าพอ

                ศุภราพยายามเปลี่ยนแปลงหล่อน แต่เปลี่ยนยาก หล่อนมีเอกลักษณ์

เฉพาะตัว โบราณด้วย...ศุภราต้องใจเย็นค่อยเป็นค่อยไป

                กำลังหาที่นั่ง ได้ยินเสียงประกาศจากบนเวที...ว่า...นางแบบทุกคนจะ

ออกมาโชว์ตัว ย่อมหมายถึงต้องมีศุภราด้วย

                พิมทองต้องไปดูเพื่อนก่อน...เค้กทานทีหลัง...ถอยหลังหมุนตัวจะวาง

จากเค้ก ด้วยความเร่งรีบ ไม่ทันคิดว่าจะมีคนยืนอยู่ข้างหลัง...

                ถอยปุ๊บปะทะกับชายคนหนึ่งเรียกว่าชนเข้าเต็มๆ

                “อุ๊ย!”

                เค้กช็อกโกแลตละเลงอยู่บนเสื้อเชิ้ตขาว...เต็มอก...พอดี...

                พิมทองตกใจ...ร้อง

                “ตายแล้ว!”

                ตกใจทำอะไรไม่ถูก...จานกับช้อนก็หล่นไปบนพื้น เค้กส่วนหนึ่งรวมทั้ง

ครีมเค้กอยู่บนเสื้อเขา...อีกส่วนหนึ่งหล่นแหมะลงข้างๆรองเท้า

                “ขอ...ขอ...ขอโทษค่ะ” รัวแทบไม่เป็นภาษา...รีบใช้มืดปัดเสื้อให้เขา

                ปัดพัลวัน...เสื้อเลอะเทอะ...ลามไปกันใหญ่

 

 

                เค้กปัดได้อย่างไง...ยิ่งปัดยิ่งเลอะ

                เขาขยับถอยก้าวหนึ่ง

                “ไม่...ไม่...ต้อง!” ร้องห้าม

            “ขอ...ขอโทษ...” รีบหยิบผ้าเช็ดหน้าจะเช็ดต่อ ทั้งที่ถูกร้องห้ามแล้ว

                ก้อ... พิมทองกำลังตกใจ...ซุ่มซ่าม เซ่อเซอะเป็นประจำ

                “ไม่ต้อง!” เสียงเขาเข้มขึ้น

                หญิงสาวค่อยๆ เงยหน้าสบตา...

                ชายหนุ่ม

                อุ๊ย! ผู้ชายหน้าเข้ม เสียงเข้ม

                วูบแรก...เขาเป็นคนหล่อ...

                คม...ดวงตาสีน้ำตาลเข้ม จมูกโด่ง...สง่า...สูง

                คิ้วขมวดเข้าหากัน...อารมณ์เสีย

                เห็นเขา...วูบแรก...พิมทองใจเต้นแรงแปลกประหลาด

                ด้วยมารยาทแล้ว...หล่อนผิด หล่อนเป็นฝ่ายชนเขา หล่อนกล่าวขอโทษ

แล้ว เขาน่าจะบอกว่าไม่เป็นไรครับ...

                ถ้าใครชนหล่อน ไม่ได้เจตนาทำเสื้อผ้าหล่อนเลอะเทอะ...หล่อนจะบอก

ว่าไม่เป็นไรค่ะ

                แต่เขา...โกรธ...เห็นได้ชัดเลยว่าอารมณ์บูด

            “...ไปล้างในห้องน้ำสิค่ะ...” พิมทองแนะนำ อยากให้อะไรๆ มันดีขึ้น

                “ผมรู้แล้ว...คุณไม่ต้องบอก”

                “ใช้น้ำเช็ดออกหน่อยจะดีขึ้นค่ะ”

                หล่อนเดินตามเขา...เซ่อซ่าจะเดินตามเข้าห้องน้ำผู้ชาย

                ชายหนุ่มโคลงศีรษะ เตือนว่า

                “ห้องน้ำผู้ชายนะคุณ...”

                “อ๋อ...” พิมทองผงะ “เอ้อ...ค่ะ...ลืมค่ะ”

 

 

                “คุณไปเถอะ...ผมจัดการเอง...”

                ชายหนุ่มใช้น้ำเช็ดรอยเปื้อนพอให้จางหน่อย เขามีเสื้อสูทมาด้วยแขวน

อยู่ในงาน...ถ้าสวมเสื้อสูททับ ก็คงปกปิดรอยเปื้อนได้

                พิมทองเดินกลับเข้ามาในงาน                             

                ดวงตาดุๆ ของเขายังลอยตามมา จนหล่อนต้องสะบัดศีรษะแรงๆ

                งานใกล้จะเลิกแล้ว...

                งานแฟชั่นโชว์เป็นรายการสุดท้าย...ยังไม่สุดท้ายเลยทีเดียว...ตอนท้าย

ยังจับฉลากชิงรางวัลมากมาย...จากหางบัตรที่แขกหย่อนไว้ในพานก่อนเดินเข้างาน

                รางวัลมีตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้า บัตรรับประทานอาหารในโรงแรม เครื่อง

สำอาง น้ำหอม ส่วนรางวัลใหญ่เป็นเข็มกลัดเพชร

                ศุภราเสร็จงานแล้ว...หล่อนลงจากเวทีอยู่ในกลุ่มเพื่อนๆ ซึ่งเป็นนางแบบ

                แต่ละคนสวยๆทั้งนั้น...

                นางแบบอีกคนชื่อ...จิดาภา เป็นคู่แข่งศุภรา

                จิดาภาเป็นนางแบบมาแรงคนหนึ่ง โดยอาศัยนามสกุลผู้ดีเก่าเป็น

บันไดปูทาง

                หล่อนดังเร็ว เพราะนามสกุลบวกกับมีความสามารถ

                จิดาภาเป็นรุ่นน้องศุภรา แต่เขม่นกับศุภรา ไม่ถูกชะตา และเคยมีปัญหา

แย่งกันเลือกชุดเดินแบบในงานหนึ่ง

                งานนั้นชุดเจ้าสาวที่สวยที่สุดต้องเป็นของศุภรา...แต่จิดาภาเกิดอยากสวย

อาศัยเส้นสายเปลี่ยนชุดกับนางแบบรุ่นพี่

                ศุภราก็ถือว่าตัวเองมีศักดิ์ศรีไม่ยอมทะเลาะกันลั่น...จนผู้ใหญ่ต้องยื่นมือ

มาไกล่เกลี่ย

                ศักดิ์ศรีรุ่นพี่ยังใช้ได้ ศุภราเป็นผู้ชนะ...

                จิดาภาเก็บความแค้นไว้ ตั้งใจว่าหล่อนต้องดังกว่าศุภราให้ได้

                งานใหญ่คืนนี้...ทั้งสองต้องประชันกัน...ต่างสงวนท่าที...เย็นชาใส่กัน ถ้า

 

 

มีจังหวะก็จะพูดจากระทบกันและกัน

                พีรวัสรับศึกหนัก...

                พีรวัสเป็นเจ้าของและผู้จัดการบริษัทสกาย ซึ่งเป็นบริษัทจัดหา

นางแบบ...เขากว้างขวาง...และมีนางแบบในสังกัดมากมาย...รวมทั้งนางแบบดังๆ

นอกสังกัดเขาก็สามารถติดต่อได้

                เขารับหน้าที่จัดแฟชั่นคืนนี้...

                แม้ศุภรากับจิดาภา ไม่ใช่นางแบบในสังกัด แต่พีรวัสก็เจรจาจ้าง

นางแบบดังๆ มาร่วมงานด้วย

                เครดิตบริษัทพีรวัสดี เขาจะรับเฉพาะงานใหญ่ ในวงการรู้ทั่ว งานดี

เงินดี...พีรวัสเอ่ยคำเดียว...ทุกคนอยากร่วมงานกับเขา

                เสร็จจากการเดินแบบ พีรวัสถูกรุมล้อม เพราะเขาประสบความสำเร็จ

อีกงานหนึ่งแล้ว

                ทั้งแขกและนางแบบอยู่รายล้อม...

                แขกคนหนึ่งเอ่ยชุมศุภรากับพีรวัสว่า

                “คุณอ้อยสวมชุดราตรีสวยมาก...คุณพีรวัสเลือกนางแบบเก่งนะค่ะ”

                “ครับ...คุณอ้อยเธอสวมชุดอะไรก็สวยทั้งนั้นล่ะครับ” พีรวัสชมย้ำอีก...

ทำให้ศุภราหน้าบาน

                แต่แล้วจิดาภาก็กล่าวแทรกขึ้นมา

                “ที่ดูสวย เพราะได้เครื่องเพชรจากร้านญาติของภาสวมประดับจึง

ดูสวย...ถ้าไม่มีเครื่องเพชรล่ะก็...จืดสนิท”

                ใครๆก็รู้...จิดาภาเป็นนางแบบไฮโซฯ ตระกูลพ่อแม่พี่น้อง ร่ำรวยหมด

                จิดาภากล้าเป็นศัตรูกับนางแบบรุ่นพี่อย่างศุภราอย่างเปิดเผย เหตุผล

ง่ายนิดเดียว...

                หมั่นไส้!

                ถูกตอกหน้า...ศุภราไม่ยอม...

 

 

                “อย่าอิจฉาริษยา...วิญญาณนังมารเข้าสิง”

                เรียกเป็นนังมาร...จิดาภาตาโต

                “เรียกชื่อให้ถูกๆ หน่อยนะ”

                “ช่วยไม่ได้...อยากเรียก...”

                เอาอีกแล้ว จะทะเลาะกันอีกแล้ว พีรวัสต้องเป็นกรรมการห้ามโดย

กล่าวว่า

                “งานกุศล...ได้บุญ...อย่าเถียงกันเลยนะครับ” เขาให้เพื่อนๆ ช่วยกันแยก

สองสาวไปอยู่คนละมุมสิ้นเรื่อง

                พีรวัสเดินมาหาพี่ชาย...

                กร...

                กร...อยู่บริษัทโฆษณา...บริษัทวินเนอร์

                ทั้งกรและพีรวัสเป็นหนุ่มสังคม ที่มีชื่อเสียงประสบความสำเร็จทั้งคู่

ร่ำรวยเกียรติยศ และเงินทอง เพียบพร้อมทั้งรูปสมบัติ และคุณสมบัติ

                กรสูงกว่าพีรวัสเล็กน้อย...หน้าคม...ขรึม ยามทำงาน กรจะได้ชื่อว่าเป็น

คนบ้างาน

                พีรวัส...จัดว่าหล่อ ถ้าไม่เทียบกับพี่ชายซึ่งหล่อกว่า พีรวัสมักมีผู้หญิง

มารุมล้อม เพราะนิสัยร่าเริง คุยเก่ง แถมออกเจ้าชู้ เจ้าสำราญ

                พีรวัสเปิดบริษัทสกายจัดหานางแบบจนโด่งดัง

                กรก็เป็นหุ้นส่วนสำคัญของบริษัทโฆษณา...วินเนอร์ ซึ่งจัดเป็นบริษัท

โฆษณาติดอันดับหนึ่งในสิบของประเทศ

                กรบอกกับน้องชายว่า

                “เดินแบบคืนนี้...แขกชอบนะ...นายทำได้ดีมาก”
                “ขอบคุณที่ชมครับ....ผมเลือกแต่นางแบบดังๆ ดังต่อดังเจอกัน...บางทีก็

มีปัญหา...ปวดหัว” ปากบอกปวดหัว แต่พีรวัสยังยิ้มแย้ม เพราะเป็นคนไม่ซีเรียส

กับอะไร

 

 

                มองเรื่องใหญ่เป็นเรื่องเล็กไปหมด

                พีรวัสจึงเป็นคนทำงานสบายมาก...

                “นายแก้ปัญญาได้มัง...”

                “ได้ครับ...ให้พวกหล่อนปะทะกันหอมปากหอมคอ...แล้วเป็น

กรรมการแยก” กล่าวพรางหัวเราะ

                กรชี้หน้าน้องชาย

                “นายร้ายไม่ใช่เล่น...”

                “โธ่ พี่กร...พวกผู้หญิงขี้อิจฉา...ให้พวกเธอได้มีทางระบายออกมาบ้าง

ไม่งั้นอกจะระเบิด”

                “นายรู้ใจผู้หญิงดีนะ”

                “เรื่องผู้หญิงให้ถามผม...ผมอยู่กับผู้หญิง...”

                หากินกับผู้หญิงสาวๆ สวยๆ พีรวัสชอบ

                “ผู้เชี่ยวชาญ!” กรเรียกประชด

                น้องชายหัวเราะ

                “ผู้หญิงนะครับ...ส่วนใหญ่มองตาก็รู้ทันที...เป็นอย่างไง...นิสัยใจคอหรือ

ความนึกคิด”

                “มองอย่างนาย...มันมองแบบคนเจ้าชู้”

                “โธ่...ผู้หญิงมาชอบผมเอง...”

                “ปรบมือข้างเดียวไม่ดัง”

                “ผมมันขี้เกรงใจ...ผู้หญิงมาหาเรา...เราจะไม่บริการได้อย่างไง...” พีร

วัสคุย

                “จริงใจหน่อยสิว่ะ...”

                “ครับ...ครับ...คุณพี่...เดี๋ยวจะถึงคิวของคุณพี่ขึ้นเวทีแล้วครับผม”

                บนเวที...กำลังจับฉลากแจกรางวัล...โดยสปอนเซอร์บริษัทต่างๆ เป็นผู้

จับหางบัตรซึ่งมีเลขหมาย...

 

 

                กร...เป็นสปอนเซอร์รายสุดท้ายในฐานะตัวแทนบริษัทวินเนอร์เพราะ

รางวัลของเขาล้ำค่า

                เข็มกลัดเพชร...มูลค่าเป็นแสน...

                ราคาตั้งไว้...แสนห้าหมื่นบาทถ้วน!

                ถ้าบริษัทวินเนอร์จะให้...มักให้ของล้ำค่า

                รางวัลที่ทุกคนอยากได้....

                เฉพาะแขกในงานและอยู่ในงานระหว่างจับรางวัลจึงมีสิทธิ์ได้รับรางวัล

แขกส่วนใหญ่จึงไม่ยอมกลับ...ต่างรอลุ้นรางวัลใหญ่ ทั้งเครื่องไฟฟ้า โทรทัศน์

ตู้เย็น...จากบริษัทต่างๆ

                รางวัลสุดท้ายล้ำค่าที่สุด....

                เข็มกลัดรูปกระต่ายกำลังเหม่อมองดวงจันทร์

                เป็นเข็มกลัดเพชร...เม็ดเล็กๆ แต่รวมน้ำหนักเพชรหลายกะรัต ดวงตา

ของกระต่ายฝังด้วยทับทิมสีแดงสวย...

                งานชิ้นนี้ประณีตมาก งดงาม

                กร...ลงทุนเพื่อชื่อเสียงของบริษัท

                งานละเอียด ฝีมือเยี่ยม... ที่สำคัญเพชรคัดทุกเม็ด...ล้วนน้ำงาม...

                เข็มกลัด...วางบนกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินเข้ม....


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (93 รายการ)

www.batorastore.com © 2024