Customer Reviews

เป็นหนังสือพ๊อกเก็ตบุ๊คที่รวบรวมเรื่องราวของเจ้าหญิงอาร์แอนด์บีของเมืองไทย(ฉายาของเธอในยุคนั้น)ลิเดีย ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา นักร้องสาวค่ายอาร์เอสที่เรียกว่าในยุคนั้นของลิเดียเธอคือเจ้าหญิงอาร์แอนด์บีของเมืองไทยเพลงของเธอดังมากชนิดว่าเปิดกันทุกคลื่นวิทยุขึ้น
ชาจน์เพลงอันดับ1ทุกคลื่นวิทยุออกงานอีเว้นท์ออกคอนเสริต์เดินสายกันทั่วประเทศเรียกว่านาทีนั้นไม่มีใครไม่รู้จักนักร้องสาวคนนี้โดยเพลงที่ดังมากของเธอคือเพลงว่างแล้วช่วยโทรกลับเชื่อว่าทุกคนคงจำการร้องอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเธอได้ดีผลงานอันโดดเด่นเสียงดีหน้าตาน่ารักทำให้เธอมีชื่อเสียงโด่งดังภายในชั่วเวลาไม่นานหลังจากนั้นก็มีอีกหลายอัลบั้มตามมาแต่ไม่เพียงแค่ผลงานเพลงของเธอเท่านั้นที่เป็นที่กล่าวถึงแต่ข่าวคราวอื่นๆของเธอก็เป็นที่พูดถึงกันอยู่เรื่อยๆไม่ว่าจะเป็นข่าวกับแมทธิว ดีน(แฟนหนุ่มในปัจจุบันของเธอ)ข่าวเม้าส์ต่างๆกับบุคคลระดับนักการเมืองแถวหน้าของเมืองไทย(ขออนุญาตไม่เอ่ยชื่อนะค่ะ)คิดว่าหลายคนคงจำข่าวที่ลิเดียตกเป็นจำเลยสังคมกับอดีตนักการเมืองคนนั้นได้ซึ่งทำให้ลิเดียเจอกระแสสังคมต่างๆมากมายรวมถึงกระแสเหล่านั้นได้พาดพิงไปถึงครอบครัวของเธอด้วยลิเดียจึงใช้โอกาสนี้ในการแก้ข่าวแถลงถึงความจริงผ่านพ๊อกเก๊ตบุ๊คส์ของเธอซะเลยว่าความจริงคืออะไรและระบายถึงความอัดอั้นตันใจที่ต้องเป็นที่เม้าส์กระจายซึ่งได้ลามไปถึงครอบครัวเธอด้วยเรียกว่าเปิดใจเปิดตัวตนทุกมุมของนักร้องสาวเสียงดีคนนี้เลยทีเดียวแต่เราอ่านแล้วก็เฉยๆนะกับการบอกเล่าอะไรต่างๆในชีวิตนักร้องของลิเดีย(แต่ยอมรับว่าอ่านเพราะอยากรู้ความจริงของข่าวลือมากกว่า)แต่เราคิดว่าพ๊อกเก๊ตบุ๊คส์เล่มนี้เหมาะกับผู้ที่เป็นแฟนเพลงหรือแฟนคลับของลิเดียที่อยากเก็บหนังสือนี้ไว้สะสมเป็นที่ระลึกซึ่งเหมาะมากค่ะเพราะรูปเล่มสวยเหมาะแก่การสะสมจริงๆค่ะ

เป็นหนังสือพ๊อกเก็ตบุ๊คที่รวบรวมเรื่องราวของเจ้าหญิงอาร์แอนด์บีของเมืองไทย(ฉายาของเธอในยุคนั้น)ลิเดีย ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา นักร้องสาวค่ายอาร์เอสที่เรียกว่าในยุคนั้นของลิเดียเธอคือเจ้าหญิงอาร์แอนด์บีของเมืองไทยเพลงของเธอดังมากชนิดว่าเปิดกันทุกคลื่นวิทยุขึ้น
ชาจน์เพลงอันดับ1ทุกคลื่นวิทยุออกงานอีเว้นท์ออกคอนเสริต์เดินสายกันทั่วประเทศเรียกว่านาทีนั้นไม่มีใครไม่รู้จักนักร้องสาวคนนี้โดยเพลงที่ดังมากของเธอคือเพลงว่างแล้วช่วยโทรกลับเชื่อว่าทุกคนคงจำการร้องอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเธอได้ดีผลงานอันโดดเด่นเสียงดีหน้าตาน่ารักทำให้เธอมีชื่อเสียงโด่งดังภายในชั่วเวลาไม่นานหลังจากนั้นก็มีอีกหลายอัลบั้มตามมาแต่ไม่เพียงแค่ผลงานเพลงของเธอเท่านั้นที่เป็นที่กล่าวถึงแต่ข่าวคราวอื่นๆของเธอก็เป็นที่พูดถึงกันอยู่เรื่อยๆไม่ว่าจะเป็นข่าวกับแมทธิว ดีน(แฟนหนุ่มในปัจจุบันของเธอ)ข่าวเม้าส์ต่างๆกับบุคคลระดับนักการเมืองแถวหน้าของเมืองไทย(ขออนุญาตไม่เอ่ยชื่อนะค่ะ)คิดว่าหลายคนคงจำข่าวที่ลิเดียตกเป็นจำเลยสังคมกับอดีตนักการเมืองคนนั้นได้ซึ่งทำให้ลิเดียเจอกระแสสังคมต่างๆมากมายรวมถึงกระแสเหล่านั้นได้พาดพิงไปถึงครอบครัวของเธอด้วยลิเดียจึงใช้โอกาสนี้ในการแก้ข่าวแถลงถึงความจริงผ่านพ๊อกเก๊ตบุ๊คส์ของเธอซะเลยว่าความจริงคืออะไรและระบายถึงความอัดอั้นตันใจที่ต้องเป็นที่เม้าส์กระจายซึ่งได้ลามไปถึงครอบครัวเธอด้วยเรียกว่าเปิดใจเปิดตัวตนทุกมุมของนักร้องสาวเสียงดีคนนี้เลยทีเดียวแต่เราอ่านแล้วก็เฉยๆนะกับการบอกเล่าอะไรต่างๆในชีวิตนักร้องของลิเดีย(แต่ยอมรับว่าอ่านเพราะอยากรู้ความจริงของข่าวลือมากกว่า)แต่เราคิดว่าพ๊อกเก๊ตบุ๊คส์เล่มนี้เหมาะกับผู้ที่เป็นแฟนเพลงหรือแฟนคลับของลิเดียที่อยากเก็บหนังสือนี้ไว้สะสมเป็นที่ระลึกซึ่งเหมาะมากค่ะเพราะรูปเล่มสวยเหมาะแก่การสะสมจริงๆค่ะ

เป็นหนังสือฉีกแนวมาก(ในความคิดเรานะ)เป็นหนังสือเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ทางอารมณ์ที่เล่มค่อนข้างหนาตอนที่คิดว่าจะอ่านยังคิดว่าจะอ่านรู้เรื่องไหมแต่ความที่เล่มนี้เป็นBest Sellerก็เลยอยากลองอ่านพอเปิดอ่านจากบทแรกไล่ไปเรื่อยๆก็รู้สึกว่าสนุกดีนะบางอย่างเราไม่เคยรู้เหตุผลว่าทำไมเพราะอะไรพอได้อ่านเล่มนี้ก็ไขปัญญาเราให้สว่างมากขึ้นและหนังสือก็ไม่ได้อ่านยากอย่างที่คิดอ่านได้เรื่อยๆสบายเพลิดเพลินไม่เครียดหรือใช้ศัพท์ที่ดูฟังยากซับซ้อนจนเกินไปผู้เขียนคือ นพ.ชัชพล เกียรติขจรธาดา ซึ่งตอนแรกเราคิดว่าท่านผู้เขียนคงเขียนเรื่องยากๆศัพท์วิทย์ศัพท์หมอฟังรู้เรื่องเฉพาะกลุ่มแน่นอนแต่ปรากฎว่าท่านผู้เขียนสามารถเขียนได่เข้าใจง่ายค่ะอ่านได้ทุกกลุ่มจริงๆค่ะจากที่เคยไม่ชอบอ่านแนววิทยาศาสตร์ก็เริ่มรู้สึกสนใจอ่านแนววิทยาศาสตร์มากขึ้นคงเพราะความประทับใจส่วนตัวที่ได้อ่านหนังสือ500ล้านปีของความรักแน่ๆเลยพอพูดถึงจุดนี้แล้วเราก็แอบคิดนะว่าทำไมตั้งชื่อหนังสือว่า500ล้านปีของความรักกันนะทั้งๆที่ในเล่มก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความรักมากมายซะเท่าไรเพราะจริงๆเนื้อหาในเล่มมีหลากหลายเรื่องราวมาก(แต่เพราะชื่อเล่มแบบนี้ดูน่าสนใจมากกว่านะ)ในหนังสือได้แบ่งเป็นตอนๆไม่ว่าจะเกี่ยวกับอารมณ์เกี่ยวกับความรักวิวัฒนาการทางเพศในแง่วิทยาศาสตร์คือคำตอบจะดูเป็นหลักวิชาการแต่ก็ไม่หนักจนเกินไปนะค่ะเอาเป็นว่าถ้าอยากหาหนังสือสักเล่มที่เป็นแนววิทยาศาสตร์อ่านแล้วได้ความรู้ในหลักการที่พิสูจน์ได้อ่านแล้วไม่เครียดกับเนื้อหาที่ดูหนักจนเกินไปอ่านแล้วเปิดโลกให้กว้างขึ้นขอแนะนำเล่มนี้เลยค่ะเป็นอาหารสมองชั้นเลิศมีเนื้อหาสาระที่ดีมากอ่านแล้วฉลาดรอบรู้ขึ้นได้ความรู้ใหม่ๆเพิ่มเติมเพลินๆอ่านแป๊บเดียวก็จบเล่มแล้วค่ะ(มันเพลินจริงค่ะถึงเล่มจะหนา)เด็กรุ่นใหม่ก็เหมาะสมควรอ่านนะค่ะหนังสือเขาดีจริงๆค่ะ

เป็นหนังสือฉีกแนวมาก(ในความคิดเรานะ)เป็นหนังสือเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ทางอารมณ์ที่เล่มค่อนข้างหนาตอนที่คิดว่าจะอ่านยังคิดว่าจะอ่านรู้เรื่องไหมแต่ความที่เล่มนี้เป็นBest Sellerก็เลยอยากลองอ่านพอเปิดอ่านจากบทแรกไล่ไปเรื่อยๆก็รู้สึกว่าสนุกดีนะบางอย่างเราไม่เคยรู้เหตุผลว่าทำไมเพราะอะไรพอได้อ่านเล่มนี้ก็ไขปัญญาเราให้สว่างมากขึ้นและหนังสือก็ไม่ได้อ่านยากอย่างที่คิดอ่านได้เรื่อยๆสบายเพลิดเพลินไม่เครียดหรือใช้ศัพท์ที่ดูฟังยากซับซ้อนจนเกินไปผู้เขียนคือ นพ.ชัชพล เกียรติขจรธาดา ซึ่งตอนแรกเราคิดว่าท่านผู้เขียนคงเขียนเรื่องยากๆศัพท์วิทย์ศัพท์หมอฟังรู้เรื่องเฉพาะกลุ่มแน่นอนแต่ปรากฎว่าท่านผู้เขียนสามารถเขียนได่เข้าใจง่ายค่ะอ่านได้ทุกกลุ่มจริงๆค่ะจากที่เคยไม่ชอบอ่านแนววิทยาศาสตร์ก็เริ่มรู้สึกสนใจอ่านแนววิทยาศาสตร์มากขึ้นคงเพราะความประทับใจส่วนตัวที่ได้อ่านหนังสือ500ล้านปีของความรักแน่ๆเลยพอพูดถึงจุดนี้แล้วเราก็แอบคิดนะว่าทำไมตั้งชื่อหนังสือว่า500ล้านปีของความรักกันนะทั้งๆที่ในเล่มก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความรักมากมายซะเท่าไรเพราะจริงๆเนื้อหาในเล่มมีหลากหลายเรื่องราวมาก(แต่เพราะชื่อเล่มแบบนี้ดูน่าสนใจมากกว่านะ)ในหนังสือได้แบ่งเป็นตอนๆไม่ว่าจะเกี่ยวกับอารมณ์เกี่ยวกับความรักวิวัฒนาการทางเพศในแง่วิทยาศาสตร์คือคำตอบจะดูเป็นหลักวิชาการแต่ก็ไม่หนักจนเกินไปนะค่ะเอาเป็นว่าถ้าอยากหาหนังสือสักเล่มที่เป็นแนววิทยาศาสตร์อ่านแล้วได้ความรู้ในหลักการที่พิสูจน์ได้อ่านแล้วไม่เครียดกับเนื้อหาที่ดูหนักจนเกินไปอ่านแล้วเปิดโลกให้กว้างขึ้นขอแนะนำเล่มนี้เลยค่ะเป็นอาหารสมองชั้นเลิศมีเนื้อหาสาระที่ดีมากอ่านแล้วฉลาดรอบรู้ขึ้นได้ความรู้ใหม่ๆเพิ่มเติมเพลินๆอ่านแป๊บเดียวก็จบเล่มแล้วค่ะ(มันเพลินจริงค่ะถึงเล่มจะหนา)เด็กรุ่นใหม่ก็เหมาะสมควรอ่านนะค่ะหนังสือเขาดีจริงๆค่ะ

เป็นหนังสือดีอีกเล่มที่เราอยากแนะนำแต่รู้สึกว่าอ่านแบบใช้เวลานานมากเพราะเล่มหนาตัวอักษรแน่นมากกว่าจะอ่านจบเล่มในเล่มพูดถึงชีวประวัติคร่าวๆรวมถึงความสำเร็จของเหล่ามหาเศรษฐีระดับโลกซึ่งบางท่านก็ไม่ได้ร่ำรวยมาตั้งแต่ต้นแต่เพราะความอุตสาหะความคิดก้าวหน้าและความฝันทำให้ท่านเหล่านั้นก้าวมายิ่งใหญ่เป็นระดับเศรษฐีแนวหน้าของโลกได้ซึ่งในแต่ละท่านก็ล้วนต้องฟันฝ่าอุปสรรคปัญหามากมายต้องล้มและลุกหลายครั้งกว่ามาถึงฝั่งฝันเช่นอาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ กว่าจะมามีชีวิตเป็นที่รู้จักสวยหรูได้อย่างทุกวันนี้เขาก็เคยมีอดีตที่ลำบากมาก่อนแต่เพราะความมุ่งมั่นไม่ละทิ้งความฝันทำให้เขาพยายามสร้างตัวเองจนมาโด่งดังและมีชื่อเสียงเงินทองได้อย่างทุกวันนี้รวมถึงมหาเศรษฐีอีกหลายๆท่านที่มีความฝันมีแรงบันดาลใจทุกท่านล้วนมีความเข้มแข็งเวลาเผชิญปัญหามีคำคมประจำใจที่ไว้ปลุกปลอบใจยามลำบากให้ฮึดสู้เรียกได้ว่าทุกครั้งที่ลงมือทำธุรกิจหรืออะไรก็ตามแต่ท่านมหาเศรษฐีเหล่านั้นต่างทุ่มเททำอย่างเต็มที่เคล็ดลับเหล่านี้ได้ถูกถ่ายทอดสู่ลูกสู้หลานเรียกได้ว่าการมีพ่อแม่ที่เป็นแบบอย่างที่ดีก็ทำให้ลูกเดินได้อย่างมั่นคงไม่ผิดเพี้ยนหลายท่านได้มีเคล็ดลับประจำใจที่จะนำตัวเองไปสู่เป้าหมายความสำเร็จด้านการเงินซึ่งหลังจากอ่านจบเราพบว่ากว่าจะมาเป็นมหาเศรษฐีได้อย่างทุกวันนี้ทุกท่านรู้จักวางแผนการใช้เงินการรู้จักออมเงินการลงทุนให้เกิดประโยชน์สูงสุดการมีเป้าหมายที่ชัดเจนฝันไกลแล้วต้องไปให้ถึงการได้อ่านได้รู้ถึงวิธีคิดและการใช้ชีวิตของเหล่ามหาเศรษฐีระดับโลกเหล่านี้นอกจากเปิดโลกทัศน์แล้วยังสามารถนำมาปรับใช้ในการใช้ชีวิตประจำวันได้ด้วยแม้อาจจะไม่เก่งได้เท่าท่านเหล่านั้นแต่ถือว่าเป็นเคล็ดลับที่ดีควรปฏิบัติตามมากค่ะ

เป็นหนังสือดีอีกเล่มที่เราอยากแนะนำแต่รู้สึกว่าอ่านแบบใช้เวลานานมากเพราะเล่มหนาตัวอักษรแน่นมากกว่าจะอ่านจบเล่มในเล่มพูดถึงชีวประวัติคร่าวๆรวมถึงความสำเร็จของเหล่ามหาเศรษฐีระดับโลกซึ่งบางท่านก็ไม่ได้ร่ำรวยมาตั้งแต่ต้นแต่เพราะความอุตสาหะความคิดก้าวหน้าและความฝันทำให้ท่านเหล่านั้นก้าวมายิ่งใหญ่เป็นระดับเศรษฐีแนวหน้าของโลกได้ซึ่งในแต่ละท่านก็ล้วนต้องฟันฝ่าอุปสรรคปัญหามากมายต้องล้มและลุกหลายครั้งกว่ามาถึงฝั่งฝันเช่นอาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ กว่าจะมามีชีวิตเป็นที่รู้จักสวยหรูได้อย่างทุกวันนี้เขาก็เคยมีอดีตที่ลำบากมาก่อนแต่เพราะความมุ่งมั่นไม่ละทิ้งความฝันทำให้เขาพยายามสร้างตัวเองจนมาโด่งดังและมีชื่อเสียงเงินทองได้อย่างทุกวันนี้รวมถึงมหาเศรษฐีอีกหลายๆท่านที่มีความฝันมีแรงบันดาลใจทุกท่านล้วนมีความเข้มแข็งเวลาเผชิญปัญหามีคำคมประจำใจที่ไว้ปลุกปลอบใจยามลำบากให้ฮึดสู้เรียกได้ว่าทุกครั้งที่ลงมือทำธุรกิจหรืออะไรก็ตามแต่ท่านมหาเศรษฐีเหล่านั้นต่างทุ่มเททำอย่างเต็มที่เคล็ดลับเหล่านี้ได้ถูกถ่ายทอดสู่ลูกสู้หลานเรียกได้ว่าการมีพ่อแม่ที่เป็นแบบอย่างที่ดีก็ทำให้ลูกเดินได้อย่างมั่นคงไม่ผิดเพี้ยนหลายท่านได้มีเคล็ดลับประจำใจที่จะนำตัวเองไปสู่เป้าหมายความสำเร็จด้านการเงินซึ่งหลังจากอ่านจบเราพบว่ากว่าจะมาเป็นมหาเศรษฐีได้อย่างทุกวันนี้ทุกท่านรู้จักวางแผนการใช้เงินการรู้จักออมเงินการลงทุนให้เกิดประโยชน์สูงสุดการมีเป้าหมายที่ชัดเจนฝันไกลแล้วต้องไปให้ถึงการได้อ่านได้รู้ถึงวิธีคิดและการใช้ชีวิตของเหล่ามหาเศรษฐีระดับโลกเหล่านี้นอกจากเปิดโลกทัศน์แล้วยังสามารถนำมาปรับใช้ในการใช้ชีวิตประจำวันได้ด้วยแม้อาจจะไม่เก่งได้เท่าท่านเหล่านั้นแต่ถือว่าเป็นเคล็ดลับที่ดีควรปฏิบัติตามมากค่ะ

ตอนอ่านครั้งแรกรู้สึกงงๆนิดหน่อยค่ะเนื่องจากเราไม่เคยอ่านหนังสือแนวนี้เลยหนังสือพ่อรวยสอนลูกเล่มนี้ถือเป็นเล่มแรกที่เราได้ลองอ่านเรียกว่าเปิดมุมมองเปิดทัศนคติเป็นเล่มแรกในชีวิตเราเลยทีเดียวพอได้อ่านไปสักพักปรับใจปรับความคิดตามไปด้วยรู้สึกว่าเป็นหนังสือที่ดีมากเล่มนึงทำให้เราหันมาชอบอ่านหนังสือแนวนี้มากขึ้นทำให้เรารู้จักหันมาสนใจการใช้เงินการเก็บเงินการวางแผนด้านการเงินเพื่ออนาคตที่จะยั่งยืนขึ้นเมื่อก่อนเราไม่เคยรู้ความหมายของคำว่าอิศรภาพทางการเงินเลยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรจะทำยังไงเริ่มต้นยังไง พ่อรวยสอนลูก เล่มนี้บอกเราได้มากทีเดียวถึงแม้เราจะยังไม่สามารถนำมาใช้ได้ทุกข้อแต่ในหลายๆหัวข้อก็สามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตจริงได้ตอนนี้เราเริ่มรู้แล้วว่าการวางแผนทางการเงินเป็นเรื่องสำคัญมากแค่ไหนคนเราจะอยู่ได้อย่างไรถ้ามีแต่การใช้จ่ายไปวันๆโดยไม่รู้วิธีออมที่เหมาะสมการควบคุมรายจ่ายการหาวิธีลงทุนที่เหมาะสมสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่จะต่อยอดอนาคตทางการเงินของเราให้มีอิศรภาพมากขึ้นมีทางเลือกมากขึ้นคงไม่มีใครอยากทำแต่งานทำไปอย่างไม่มีจุดมุ่งหมายทุกคนล้วนอยากให้มีการเจริญเติบโตทางการงานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกคนก็ต่างอยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายมากขึ้นได้เกษียนตัวเองเร็วขึ้นเราคิดว่าหนังสือพ่อรวยสอนลูกเล่มนี้เปรียบเสมือนพ่อสอนแนวทางการดำเนินการเงินที่ถูกวิธีให้แก่ลูกสอนให้วางแผนและสอนให้คิดเป็นสามารถยืนบนลำแข้งตัวเองได้ตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกหนังสือเล่มนี้มาอ่านจริงๆได้จุดประกายความคิดให้เราเยอะมากอย่างน้อยก็ทำให้เราใช้จ่ายเงินได้เป็นระบบและรู้จักคำนึงถึงอนาคตข้างหน้าไม่ใช้จ่ายโดยไม่คิดอีกและยังช่วยเปิดมุมมองทำให้เราสนใจการลงทุนต่างๆที่เหมาะสมกับตัวเราเองเพื่ออิศรภาพทางการเงินในอนาคต

ตอนอ่านครั้งแรกรู้สึกงงๆนิดหน่อยค่ะเนื่องจากเราไม่เคยอ่านหนังสือแนวนี้เลยหนังสือพ่อรวยสอนลูกเล่มนี้ถือเป็นเล่มแรกที่เราได้ลองอ่านเรียกว่าเปิดมุมมองเปิดทัศนคติเป็นเล่มแรกในชีวิตเราเลยทีเดียวพอได้อ่านไปสักพักปรับใจปรับความคิดตามไปด้วยรู้สึกว่าเป็นหนังสือที่ดีมากเล่มนึงทำให้เราหันมาชอบอ่านหนังสือแนวนี้มากขึ้นทำให้เรารู้จักหันมาสนใจการใช้เงินการเก็บเงินการวางแผนด้านการเงินเพื่ออนาคตที่จะยั่งยืนขึ้นเมื่อก่อนเราไม่เคยรู้ความหมายของคำว่าอิศรภาพทางการเงินเลยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรจะทำยังไงเริ่มต้นยังไง พ่อรวยสอนลูก เล่มนี้บอกเราได้มากทีเดียวถึงแม้เราจะยังไม่สามารถนำมาใช้ได้ทุกข้อแต่ในหลายๆหัวข้อก็สามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตจริงได้ตอนนี้เราเริ่มรู้แล้วว่าการวางแผนทางการเงินเป็นเรื่องสำคัญมากแค่ไหนคนเราจะอยู่ได้อย่างไรถ้ามีแต่การใช้จ่ายไปวันๆโดยไม่รู้วิธีออมที่เหมาะสมการควบคุมรายจ่ายการหาวิธีลงทุนที่เหมาะสมสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่จะต่อยอดอนาคตทางการเงินของเราให้มีอิศรภาพมากขึ้นมีทางเลือกมากขึ้นคงไม่มีใครอยากทำแต่งานทำไปอย่างไม่มีจุดมุ่งหมายทุกคนล้วนอยากให้มีการเจริญเติบโตทางการงานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกคนก็ต่างอยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายมากขึ้นได้เกษียนตัวเองเร็วขึ้นเราคิดว่าหนังสือพ่อรวยสอนลูกเล่มนี้เปรียบเสมือนพ่อสอนแนวทางการดำเนินการเงินที่ถูกวิธีให้แก่ลูกสอนให้วางแผนและสอนให้คิดเป็นสามารถยืนบนลำแข้งตัวเองได้ตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกหนังสือเล่มนี้มาอ่านจริงๆได้จุดประกายความคิดให้เราเยอะมากอย่างน้อยก็ทำให้เราใช้จ่ายเงินได้เป็นระบบและรู้จักคำนึงถึงอนาคตข้างหน้าไม่ใช้จ่ายโดยไม่คิดอีกและยังช่วยเปิดมุมมองทำให้เราสนใจการลงทุนต่างๆที่เหมาะสมกับตัวเราเองเพื่ออิศรภาพทางการเงินในอนาคต

หลายคนมีความรักแต่ยากนักที่จะไปให้ถึงคำตอบทุกข้อสงสัยในความรักเราเองก็เป็นคนนึงในจำนวนนั้นที่ไม่เคยเข้าใจอะไรในความรักเลยพอได้เจอได้พบรักแต่พอเจอเหตุการณ์โน่นนี่นั่นหลายอย่างเราก็สอบตกวิชารักจนได้แต่พอได้อ่านหนังสือเล่มนี้"เป็นอะไรไปความรัก"ตอบโจทย์ในใจเราได้ทุกข้อละเอียดลึกซึ้งเป็นหนังสือที่เรียกได้ว่ารวบรวมทุกคำถามที่ค้างคาใจไว้หมดแล้วนับตั้งแต่ช่วงที่ยังเหงาๆไม่มีใครจนมามีความรักจวบจนเจอสารพัดปัญหาในความรักคนที่กลัวความรักช้ำรักอกหักรักคุดก็สมควรอ่านผู้เขียนได้ตอบโจทย์ไว้ดีมากทำให้เรารู้สึกว่าคนเราถึงจะเคยเจ็บหนักมามากแค่ไหนมันก็แค่อดีตสู้ใช้ชีวิตวันนี้ให้มีคุณค่าจะดีกว่าเพราะสักวันเราก็ต้องมีโอกาสได้เจอคนที่รักและเข้าใจในตัวตนที่แท้จริงของเราความโสดมันก็แค่ช่วงเวลาพักผ่อนได้เป็นอิศระและเรียนรู้อะไรด้วยตัวเองให้เข้มแข็งพร้อมรับมือสำหรับความรักในครั้งต่อไปอย่าให้อดีตที่เจ็บมาตอกย้ำตัวเองจนกระทั่งได้มีรักครั้งใหม่เราก็ยังมีปัญหามีโจทย์มากมายที่ตั้งคำถามอยู่ในใจยอมรับเลยเราไม่เคยเข้าใจความรู้สึกหรอกนะว่าเพราะอะไรผู้ชายถึงมองผู้หญิงว่าน่ารำคาญ(ในบางการกระทำ)ไม่เข้าใจหรอกว่าการกระทำอะไรเหรอ?ที่ทำให้ผู้ชายเค้าต้องไปจากเรา!!เชื่อได้เลยว่าผู้หญิงหลายคนเจอปัญหานี้คิดว่าตัวเองรู้จักความรักดีแล้วตัวเองทำทุกอย่างดีที่สุดแล้วพอได้อ่านหนังสือเล่มนี้ตรรกกะเหล่านี้หายไปหมดเรารู้เลยว่าเราเจอเพื่อนแท้แล้วไม่ต้องไปปรึกษาพึ่งพาความเห็นของศิราณีที่ไหนหนังสือเล่มนี้บอกเราหมดแล้วและได้เปลี่ยนเราให้เป็นคนที่มองความรักอย่างเข้าใจมากขึ้นรู้เท่าทันความรักความทุกข์ที่บางอย่างไม่ใช่การกระทำของใครแต่มาจากตัวเราเองคิดมากไปเองล้วนๆสอนให้เราได้รู้จักรับมือมีสติและวางตัวกับคนรักได้ดีมากขึ้นแม้แต่ความกลัวความหวาดระแวงในความรักได้ถูกทำลายกำแพงในใจเราไปจนหมดเรากล้าพูดเลยว่าเพราะหนังสือเล่มนี้เลยนะที่ทำให้เรากลายเป็นคนรักที่ดีขึ้นและมีความรักที่สวยงามมากขึ้นหากใครได้อ่านก็ต้องรู้สึกเหมือนเรา"ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์"(เคยมีผู้กล่าวไว้)แต่สำหรับในความคิดของเราที่ใดมีหนังสือเป็นอะไรไปความรัก ที่นั่นไม่มีทุกข์เพราะรัก(อย่าเพิ่งเชื่อที่เราพูดจนกว่าคุณจะได้อ่านสักครั้ง)

หลายคนมีความรักแต่ยากนักที่จะไปให้ถึงคำตอบทุกข้อสงสัยในความรักเราเองก็เป็นคนนึงในจำนวนนั้นที่ไม่เคยเข้าใจอะไรในความรักเลยพอได้เจอได้พบรักแต่พอเจอเหตุการณ์โน่นนี่นั่นหลายอย่างเราก็สอบตกวิชารักจนได้แต่พอได้อ่านหนังสือเล่มนี้"เป็นอะไรไปความรัก"ตอบโจทย์ในใจเราได้ทุกข้อละเอียดลึกซึ้งเป็นหนังสือที่เรียกได้ว่ารวบรวมทุกคำถามที่ค้างคาใจไว้หมดแล้วนับตั้งแต่ช่วงที่ยังเหงาๆไม่มีใครจนมามีความรักจวบจนเจอสารพัดปัญหาในความรักคนที่กลัวความรักช้ำรักอกหักรักคุดก็สมควรอ่านผู้เขียนได้ตอบโจทย์ไว้ดีมากทำให้เรารู้สึกว่าคนเราถึงจะเคยเจ็บหนักมามากแค่ไหนมันก็แค่อดีตสู้ใช้ชีวิตวันนี้ให้มีคุณค่าจะดีกว่าเพราะสักวันเราก็ต้องมีโอกาสได้เจอคนที่รักและเข้าใจในตัวตนที่แท้จริงของเราความโสดมันก็แค่ช่วงเวลาพักผ่อนได้เป็นอิศระและเรียนรู้อะไรด้วยตัวเองให้เข้มแข็งพร้อมรับมือสำหรับความรักในครั้งต่อไปอย่าให้อดีตที่เจ็บมาตอกย้ำตัวเองจนกระทั่งได้มีรักครั้งใหม่เราก็ยังมีปัญหามีโจทย์มากมายที่ตั้งคำถามอยู่ในใจยอมรับเลยเราไม่เคยเข้าใจความรู้สึกหรอกนะว่าเพราะอะไรผู้ชายถึงมองผู้หญิงว่าน่ารำคาญ(ในบางการกระทำ)ไม่เข้าใจหรอกว่าการกระทำอะไรเหรอ?ที่ทำให้ผู้ชายเค้าต้องไปจากเรา!!เชื่อได้เลยว่าผู้หญิงหลายคนเจอปัญหานี้คิดว่าตัวเองรู้จักความรักดีแล้วตัวเองทำทุกอย่างดีที่สุดแล้วพอได้อ่านหนังสือเล่มนี้ตรรกกะเหล่านี้หายไปหมดเรารู้เลยว่าเราเจอเพื่อนแท้แล้วไม่ต้องไปปรึกษาพึ่งพาความเห็นของศิราณีที่ไหนหนังสือเล่มนี้บอกเราหมดแล้วและได้เปลี่ยนเราให้เป็นคนที่มองความรักอย่างเข้าใจมากขึ้นรู้เท่าทันความรักความทุกข์ที่บางอย่างไม่ใช่การกระทำของใครแต่มาจากตัวเราเองคิดมากไปเองล้วนๆสอนให้เราได้รู้จักรับมือมีสติและวางตัวกับคนรักได้ดีมากขึ้นแม้แต่ความกลัวความหวาดระแวงในความรักได้ถูกทำลายกำแพงในใจเราไปจนหมดเรากล้าพูดเลยว่าเพราะหนังสือเล่มนี้เลยนะที่ทำให้เรากลายเป็นคนรักที่ดีขึ้นและมีความรักที่สวยงามมากขึ้นหากใครได้อ่านก็ต้องรู้สึกเหมือนเรา"ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์"(เคยมีผู้กล่าวไว้)แต่สำหรับในความคิดของเราที่ใดมีหนังสือเป็นอะไรไปความรัก ที่นั่นไม่มีทุกข์เพราะรัก(อย่าเพิ่งเชื่อที่เราพูดจนกว่าคุณจะได้อ่านสักครั้ง)

ลูกอีสานนวนิยายเรื่องเยี่ยมที่มีรางวัลการรันตีเป็นหนังสือที่เด็กถึงผู้ใหญ่ต่างต้องมีโอกาสได้ยินได้เห็นหรือได้อ่านกันบ้างเราเองก็เป็นหนึ่งในนั้นตั้งแต่เด็กก็มีโอกาสได้รู้จักและอ่านเรื่องลูกอีสานเรียกว่าติดงอมแงมอ่านหลายรอบมากสำหรับนวนิยายเรื่องนี้ชอบมากประทับใจมากเป็นเรื่องที่ใช้คำง่ายๆแต่ดูสวยงามใช้ภาษาแบบชาวบ้านอ่านแล้วเห็นภาพตามเลยค่ะ(เหมือนเห็นวิถีชีวิตชาวบ้านมาลอยอยู่ตรงหน้า)นวนิยายเรื่องลูกอีสานเท่าที่รู้มีการพิมพ์ใหม่หลายรอบมีรูปแบบหลายแบบ(คือโด่งดังจริง)และเป็นหนังสือที่เด็กเยาวชนสมัยนี้ควรอ่านอย่างยิ่งจะได้รู้จักวิถีแบบชาวบ้านที่อยู่กับแบบพอเพียงและอดทนต่อความยากลำบากถึงแม้ว่าแผ่นดินจะแห้งแล้งแต่ชาวอีสานก็ยังรู้จักปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมและการดำเนินเรื่องผ่านตัวเอกที่ชื่อคูณในเรื่องนี้อาจมีตัวละครไม่เยอะแต่เราคิดว่าผูกเรื่องได้ดีและแฝงเนื้อหาความรู้เกี่ยวกับภูมิปัญญาชาวบ้านไว้ด้วยอย่างการทำปลาร้า นวนิยายเรื่องนี้ทำให้เราถึงบางอ้อเลยว่าทำไมชาวอีสานถึงได้ผูกพันธ์กับอาหารขึ้นชื่ออย่างปลาร้ามากๆเรียกว่าเป็นอาหารประจำทุกบ้านเลยทีเดียวอ่านแล้วรู้สึกเข้าใจถึงความยากลำบากของชาวบ้านเลยกว่าจะหาอาหารได้(เวลาแล้งมันก็แล้งจริงๆ)แต่พวกเขาก็เก่งขยันอดทนมีภูมิปัญญาทำให้อยู่รอดได้ในยามที่แห้งแล้งขาดแคลนอาหารหรือแม้แต่การหาของในป่าจับสัตว์ต่างๆเช่นงู กบ เขียด มาทานโดยเฉพาะตัวบึ้ง(เกิดมาเราไม่เคยรู้จักตัวนี้เลยว่ามันคืออะไรมารู้จักได้เพราะอ่านหนังสือลูกอีสานเนี่ยแหละ)รวมถึงความรักความผูกพันธ์ภายในครอบครัวของคูณที่ทำให้เรารู้สึกว่าบางทีเงินก็ไม่ใช่ปัจจัยสำคัญขอเพียงคนในครอบครัวมีความรักความเข้าใจกันก็พอและยังมีการเที่ยวเล่นตามแบบเด็กๆชาวบ้านของคูณและจันดี(เพื่อนซี้)ก็ทำให้เราคิดถึงชีวิตวัยเด็กแม้ไม่ได้ผจญภัยเท่าคูณแต่ก็มีเพื่อนซี้ไปไหนไปกันทุกที่แบบนี้(คิดถึงช่วงเวลาเด็กๆขึ้นมาทันที)ในหนังสือเล่มนี้เราว่าตัวละครใช้คำพูดแบบดูซื่อๆแต่น่ารักดีเป็นมนต์เสน่ห์ที่ทำให้อ่านเพลิดเพลินจนจบลงแบบไม่รู้ตัวในความรู้สึกเราลูกอีสานคือนวนิยายที่ไม่ว่ากี่ปีผ่านไปก็ยังน่าอ่านน่าส่งเสริมให้คนทุกเพศทุกวัยได้อ่านได้สะสม

ลูกอีสานนวนิยายเรื่องเยี่ยมที่มีรางวัลการรันตีเป็นหนังสือที่เด็กถึงผู้ใหญ่ต่างต้องมีโอกาสได้ยินได้เห็นหรือได้อ่านกันบ้างเราเองก็เป็นหนึ่งในนั้นตั้งแต่เด็กก็มีโอกาสได้รู้จักและอ่านเรื่องลูกอีสานเรียกว่าติดงอมแงมอ่านหลายรอบมากสำหรับนวนิยายเรื่องนี้ชอบมากประทับใจมากเป็นเรื่องที่ใช้คำง่ายๆแต่ดูสวยงามใช้ภาษาแบบชาวบ้านอ่านแล้วเห็นภาพตามเลยค่ะ(เหมือนเห็นวิถีชีวิตชาวบ้านมาลอยอยู่ตรงหน้า)นวนิยายเรื่องลูกอีสานเท่าที่รู้มีการพิมพ์ใหม่หลายรอบมีรูปแบบหลายแบบ(คือโด่งดังจริง)และเป็นหนังสือที่เด็กเยาวชนสมัยนี้ควรอ่านอย่างยิ่งจะได้รู้จักวิถีแบบชาวบ้านที่อยู่กับแบบพอเพียงและอดทนต่อความยากลำบากถึงแม้ว่าแผ่นดินจะแห้งแล้งแต่ชาวอีสานก็ยังรู้จักปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมและการดำเนินเรื่องผ่านตัวเอกที่ชื่อคูณในเรื่องนี้อาจมีตัวละครไม่เยอะแต่เราคิดว่าผูกเรื่องได้ดีและแฝงเนื้อหาความรู้เกี่ยวกับภูมิปัญญาชาวบ้านไว้ด้วยอย่างการทำปลาร้า นวนิยายเรื่องนี้ทำให้เราถึงบางอ้อเลยว่าทำไมชาวอีสานถึงได้ผูกพันธ์กับอาหารขึ้นชื่ออย่างปลาร้ามากๆเรียกว่าเป็นอาหารประจำทุกบ้านเลยทีเดียวอ่านแล้วรู้สึกเข้าใจถึงความยากลำบากของชาวบ้านเลยกว่าจะหาอาหารได้(เวลาแล้งมันก็แล้งจริงๆ)แต่พวกเขาก็เก่งขยันอดทนมีภูมิปัญญาทำให้อยู่รอดได้ในยามที่แห้งแล้งขาดแคลนอาหารหรือแม้แต่การหาของในป่าจับสัตว์ต่างๆเช่นงู กบ เขียด มาทานโดยเฉพาะตัวบึ้ง(เกิดมาเราไม่เคยรู้จักตัวนี้เลยว่ามันคืออะไรมารู้จักได้เพราะอ่านหนังสือลูกอีสานเนี่ยแหละ)รวมถึงความรักความผูกพันธ์ภายในครอบครัวของคูณที่ทำให้เรารู้สึกว่าบางทีเงินก็ไม่ใช่ปัจจัยสำคัญขอเพียงคนในครอบครัวมีความรักความเข้าใจกันก็พอและยังมีการเที่ยวเล่นตามแบบเด็กๆชาวบ้านของคูณและจันดี(เพื่อนซี้)ก็ทำให้เราคิดถึงชีวิตวัยเด็กแม้ไม่ได้ผจญภัยเท่าคูณแต่ก็มีเพื่อนซี้ไปไหนไปกันทุกที่แบบนี้(คิดถึงช่วงเวลาเด็กๆขึ้นมาทันที)ในหนังสือเล่มนี้เราว่าตัวละครใช้คำพูดแบบดูซื่อๆแต่น่ารักดีเป็นมนต์เสน่ห์ที่ทำให้อ่านเพลิดเพลินจนจบลงแบบไม่รู้ตัวในความรู้สึกเราลูกอีสานคือนวนิยายที่ไม่ว่ากี่ปีผ่านไปก็ยังน่าอ่านน่าส่งเสริมให้คนทุกเพศทุกวัยได้อ่านได้สะสม

จำได้ว่าตอนที่ซื้อหนังสือเล่มนี้ตอนนั้นเป็นช่วงที่รู้สึกแย่มากสุดๆกับทุกๆสิ่งในชีวิตรู้สึกไม่มีความสุขกับทุกสิ่งที่กำลังทำแต่พออ่านตั้งแต่หน้าแรกจนหน้าสุดท้ายตัวเบาจ้ายิ้มได้กินได้นอนหลับสบายคือได้ปลดปล่อยความทุกข์ความเหน็ดเหนื่อยกับทุกสิ่งไปได้ทันทียอมรับเลยว่าคุณฐิตินาถ ณ พัทลุง เป็นผู้เขียนที่มีจิตใจเข้มแข็งและมองโลกในแง่บวกมากคุณผู้เขียนไม่ได้โลกสวยจนโอเว่อร์นะแต่คุณผู้เขียนสามารถเขียนความรู้สึกที่เรามองเป็นลบให้กลายเป็นบวกได้เพียงแค่มองโลกตามความเป็นจริงมองอย่างเข้าใจมองแบบคนที่ปล่อยวางแล้วคือปล่อยวางความว้าวุ่นความเครียดความกดดันลงซะคุณผู้เขียนได้สอนและแนะนำแนวทางให้เรารู้จักเท่าทันความคิดสอนให้รู้จักฉลาดที่จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและรู้จักปลดปล่อยความรู้สึกออกไปอย่างไม่ยึดติดไม่กระวนกระวายในหนังสือเล่มนี้มีทั้งตัวอย่างต่างๆมีทั้งความคิดดีๆจากหลากหลายผู้คนนอกจากนั้นยังสอดแทรกหลักความดีของศาสนาพุทธด้วยแถมยังมีข้อคิดคำคมภาษาอังกฤษสอดแทรกในแต่ละบทอีกด้วย(เก๋มากค่ะได้ความรู้เพิ่มด้านภาษาด้วย)อ่านจบรู้สึกชีวิตดีมีคุณค่าอยากใช้ชีวิตให้มีความสุขทันทีใครกำลังหมดพลังหมดกำลังใจเราคิดว่าเข็มทิศชีวิต3ช่วยได้ค่ะอ่านจบแล้วโลกสวยอย่างมีความสุขจริงๆแรงบันดาลใจไม่ได้อยู่ไกลจากตัวเราหรอกค่ะความสุขอยู่แค่เอื้อมอยู่ที่เราจะเห็นมันหรือเปล่าดังที่คุณฐิตินาถ เขียนไว้"เพราะเราทุกคนมีสิ่งที่ดีที่สุดอยู่ในตัวเอง"ประโยคนี้มันช่างกินใจการใช้ชีวิตให้ดีมีคุณภาพรู้จักทำตัวเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นสิ่งเหล่านี้อาจดูเหมือนเล็กน้อยแต่ความหมายในคุณค่าของการกระทำมันยิ่งใหญ่นะเราเชื่อว่าชีวิตเกิดมาเพื่อมีความสุขใช้ชีวิตทุกนาทีให้เหมือนวันนี้เป็นวันสุดท้ายเต็มที่กับสิ่งที่เราทำอยู่ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตามทำในสิ่งที่ถูกต้องอยู่บนพื้นฐานของความดีเราคิดว่าถ้าทุกคนทำได้โลกใบนี้คงน่าอยู่มากขึ้นอย่างน้อยในวันนี้เราก็ได้เรียนรู้ที่จะรับมือและกำจัดปมชีวิตแล้วบนทางเดินชีวิตอาจไม่ราบเรียบมันต้องเจอะเจออะไรมากขึ้นตามกาลเวลาแต่ถ้าใจเราคิดดีเราจะสามารถสร้างความสุขในกำมือเราได้ไม่ยากอยากให้ทุกคนที่ไม่รู้จะเริ่มต้นแก้ไขปัญหาชีวิตยังไงได้ลองอ่านแล้วคุณจะวางไม่ลงต้องอ่านให้จบอ่านจบปุ๊บชีวิตดีขึ้นจริงๆนะเริ่มต้นอ่านและลงมือทำแค่นั้นความสุขก็อยู่ใกล้ๆแล้วล่ะ

จำได้ว่าตอนที่ซื้อหนังสือเล่มนี้ตอนนั้นเป็นช่วงที่รู้สึกแย่มากสุดๆกับทุกๆสิ่งในชีวิตรู้สึกไม่มีความสุขกับทุกสิ่งที่กำลังทำแต่พออ่านตั้งแต่หน้าแรกจนหน้าสุดท้ายตัวเบาจ้ายิ้มได้กินได้นอนหลับสบายคือได้ปลดปล่อยความทุกข์ความเหน็ดเหนื่อยกับทุกสิ่งไปได้ทันทียอมรับเลยว่าคุณฐิตินาถ ณ พัทลุง เป็นผู้เขียนที่มีจิตใจเข้มแข็งและมองโลกในแง่บวกมากคุณผู้เขียนไม่ได้โลกสวยจนโอเว่อร์นะแต่คุณผู้เขียนสามารถเขียนความรู้สึกที่เรามองเป็นลบให้กลายเป็นบวกได้เพียงแค่มองโลกตามความเป็นจริงมองอย่างเข้าใจมองแบบคนที่ปล่อยวางแล้วคือปล่อยวางความว้าวุ่นความเครียดความกดดันลงซะคุณผู้เขียนได้สอนและแนะนำแนวทางให้เรารู้จักเท่าทันความคิดสอนให้รู้จักฉลาดที่จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและรู้จักปลดปล่อยความรู้สึกออกไปอย่างไม่ยึดติดไม่กระวนกระวายในหนังสือเล่มนี้มีทั้งตัวอย่างต่างๆมีทั้งความคิดดีๆจากหลากหลายผู้คนนอกจากนั้นยังสอดแทรกหลักความดีของศาสนาพุทธด้วยแถมยังมีข้อคิดคำคมภาษาอังกฤษสอดแทรกในแต่ละบทอีกด้วย(เก๋มากค่ะได้ความรู้เพิ่มด้านภาษาด้วย)อ่านจบรู้สึกชีวิตดีมีคุณค่าอยากใช้ชีวิตให้มีความสุขทันทีใครกำลังหมดพลังหมดกำลังใจเราคิดว่าเข็มทิศชีวิต3ช่วยได้ค่ะอ่านจบแล้วโลกสวยอย่างมีความสุขจริงๆแรงบันดาลใจไม่ได้อยู่ไกลจากตัวเราหรอกค่ะความสุขอยู่แค่เอื้อมอยู่ที่เราจะเห็นมันหรือเปล่าดังที่คุณฐิตินาถ เขียนไว้"เพราะเราทุกคนมีสิ่งที่ดีที่สุดอยู่ในตัวเอง"ประโยคนี้มันช่างกินใจการใช้ชีวิตให้ดีมีคุณภาพรู้จักทำตัวเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นสิ่งเหล่านี้อาจดูเหมือนเล็กน้อยแต่ความหมายในคุณค่าของการกระทำมันยิ่งใหญ่นะเราเชื่อว่าชีวิตเกิดมาเพื่อมีความสุขใช้ชีวิตทุกนาทีให้เหมือนวันนี้เป็นวันสุดท้ายเต็มที่กับสิ่งที่เราทำอยู่ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตามทำในสิ่งที่ถูกต้องอยู่บนพื้นฐานของความดีเราคิดว่าถ้าทุกคนทำได้โลกใบนี้คงน่าอยู่มากขึ้นอย่างน้อยในวันนี้เราก็ได้เรียนรู้ที่จะรับมือและกำจัดปมชีวิตแล้วบนทางเดินชีวิตอาจไม่ราบเรียบมันต้องเจอะเจออะไรมากขึ้นตามกาลเวลาแต่ถ้าใจเราคิดดีเราจะสามารถสร้างความสุขในกำมือเราได้ไม่ยากอยากให้ทุกคนที่ไม่รู้จะเริ่มต้นแก้ไขปัญหาชีวิตยังไงได้ลองอ่านแล้วคุณจะวางไม่ลงต้องอ่านให้จบอ่านจบปุ๊บชีวิตดีขึ้นจริงๆนะเริ่มต้นอ่านและลงมือทำแค่นั้นความสุขก็อยู่ใกล้ๆแล้วล่ะ

หนังสือชีวประวัติดร.ซุน ยัดเซ็น ถือว่าเป็นการรวบรวมชีวประวัติตั้งแต่วัยเด็กจนขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีซึ่งกว่าจะมาถึงวันที่ท่านประสบความสำเร็จเป็นมหาบุรุษที่ยิ่งใหญ่เป็นตำนานได้อย่างนี้ท่านต้องฝ่าฟันอุปสรรคและอันตรายมากมายต้องฝ่าฟันหลายสิ่งอยู่นานหลายปีกว่าจะสำเร็จนั่นก็เพราะความมุ่งมั่นที่จะปฏิวัติระบอบการปกครองแบบเดิมๆของจีนความต้องการที่จะให้ประชาชนอยู่ดีกินดีมากขึ้นและมีความเท่าเทียมมากขึ้นได้กลายเป็นเป้าหมายที่อยู่ในใจของท่านตลอดจึงทำให้ท่านมุมานะพยายามทำเพื่อประชาชนชาวจีน ได้ทุ่มเทมากมายขนาดนี้(นี่คือความรู้สึกส่วนตัวที่เราสัมผัสได้มันคงเป็นจิตวิญญาณของผู้นำที่อยากเห็นประเทศก้าวหน้ามากขึ้น)ซึ่งท่านดร.ซุน ยัดเซ็น ก็ได้มีความมานะพยายามอยู่นานนับหลายปีกว่าจะปฏิวัติจีนให้เป็นระบบสาธารณรัฐได้สำเร็จซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยกับการสร้างชาติขึ้นใหม่แต่เราคิดว่าท่านเป็นคนที่มีความสามารถในการพูดและในการจูงใจคนรวมถึงมีความคิดที่ก้าวไกล(ความรู้สึกส่วนตัวเรานะ)ไม่เช่นนั้นท่านคงไม่สามารถรวบรวมคนเก่งๆมาช่วยงานของท่านได้และคงไม่สามารถก่อตั้งพรรคก๊กมินตั๋งได้แน่ๆในความคิดของเราท่านดร.ซุน ยัดเซ็น เป็นผู้นำสิ่งใหม่ทำความหวังของประชาชนชาวจีนให้กลายเป็นจีนที่รุ่งเรืองให้จีนได้มีบทบาทมีความเท่าเทียมกับประเทศอื่นๆและหลายสิ่งที่พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นท่านเป็นผู้เสียสละและรักชาติบ้านเมืองมากสมกับเป็นบิดาของจีนอย่างที่ใครๆยกย่องมายาวนานหลังอ่านจบสิ่งที่ได้รับนอกจากความรู้ด้านประวัติศาสตร์การเมืองของจีนยังได้รู้ถึงคุณสมบัติและจิตวิญญาณอันสำคัญของผู้ที่นำพาประเทศไปสู่ความก้าวหน้ารุ่งเรืองได้ถือเป็นแบบอย่างที่ดีที่น่าจะมีในตัวบุคคลระดับผู้นำอย่างมาก

หนังสือชีวประวัติดร.ซุน ยัดเซ็น ถือว่าเป็นการรวบรวมชีวประวัติตั้งแต่วัยเด็กจนขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีซึ่งกว่าจะมาถึงวันที่ท่านประสบความสำเร็จเป็นมหาบุรุษที่ยิ่งใหญ่เป็นตำนานได้อย่างนี้ท่านต้องฝ่าฟันอุปสรรคและอันตรายมากมายต้องฝ่าฟันหลายสิ่งอยู่นานหลายปีกว่าจะสำเร็จนั่นก็เพราะความมุ่งมั่นที่จะปฏิวัติระบอบการปกครองแบบเดิมๆของจีนความต้องการที่จะให้ประชาชนอยู่ดีกินดีมากขึ้นและมีความเท่าเทียมมากขึ้นได้กลายเป็นเป้าหมายที่อยู่ในใจของท่านตลอดจึงทำให้ท่านมุมานะพยายามทำเพื่อประชาชนชาวจีน ได้ทุ่มเทมากมายขนาดนี้(นี่คือความรู้สึกส่วนตัวที่เราสัมผัสได้มันคงเป็นจิตวิญญาณของผู้นำที่อยากเห็นประเทศก้าวหน้ามากขึ้น)ซึ่งท่านดร.ซุน ยัดเซ็น ก็ได้มีความมานะพยายามอยู่นานนับหลายปีกว่าจะปฏิวัติจีนให้เป็นระบบสาธารณรัฐได้สำเร็จซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยกับการสร้างชาติขึ้นใหม่แต่เราคิดว่าท่านเป็นคนที่มีความสามารถในการพูดและในการจูงใจคนรวมถึงมีความคิดที่ก้าวไกล(ความรู้สึกส่วนตัวเรานะ)ไม่เช่นนั้นท่านคงไม่สามารถรวบรวมคนเก่งๆมาช่วยงานของท่านได้และคงไม่สามารถก่อตั้งพรรคก๊กมินตั๋งได้แน่ๆในความคิดของเราท่านดร.ซุน ยัดเซ็น เป็นผู้นำสิ่งใหม่ทำความหวังของประชาชนชาวจีนให้กลายเป็นจีนที่รุ่งเรืองให้จีนได้มีบทบาทมีความเท่าเทียมกับประเทศอื่นๆและหลายสิ่งที่พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นท่านเป็นผู้เสียสละและรักชาติบ้านเมืองมากสมกับเป็นบิดาของจีนอย่างที่ใครๆยกย่องมายาวนานหลังอ่านจบสิ่งที่ได้รับนอกจากความรู้ด้านประวัติศาสตร์การเมืองของจีนยังได้รู้ถึงคุณสมบัติและจิตวิญญาณอันสำคัญของผู้ที่นำพาประเทศไปสู่ความก้าวหน้ารุ่งเรืองได้ถือเป็นแบบอย่างที่ดีที่น่าจะมีในตัวบุคคลระดับผู้นำอย่างมาก

ตอนแรกที่เห็นปกก็คิดว่าเกี่ยวกับอะไรนะจะสอนทำงานฟรีแลนซ์ เล่นหุ้นหรือธุรกิจออนไลน์แล้วข้อคิดแบบไหนเหรอที่จะทำให้เราก้าวสู่อิศรภาพของชีวิตได้พอได้เปิดอ่านจึงถึงบางอ่อว่านี่คือหนังสือดีๆอีกเล่มที่จะสร้างแรงบันดาลใจได้อย่างมากมายแค่เริ่มต้นเรื่องจาก 20ข้อที่ควรรู้และปฏิบัติก่อนอายุ40 เราก็ว่าเจ๋งแล้วนะข้อคิดสั้นๆกระชับได้ใจความแต่โดนจังๆหลังจากนั้นเราเริ่มอยากอ่านต่ออย่างจริงจัง(ถึงเล่มมันจะหนาไปนิดก็ตาม)เพราะเราอยากรู้ข้อคิดต่อไปอยากรู้มุมมองใหม่ๆอ่านต่อไปเรื่อยๆให้ความรู้สึกเหมือนกำลังฟังรุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จแล้วมาบอกเล่าชีวิตและความคิดถ่ายทอดประสบการณ์ออกมาเป็นตัวหนังสือใช่แล้วเรากำลังฟังชีวิตของคนๆหนึ่งว่าเค้าเจออะไรมาบ้างเริ่มทำอะไรมาคิดอะไรอยู่เค้าใช้อะไรเป็นแรงผลักดันตัวเองแม้แต่ความคิดของเขาที่ว่า ลองทำงานด้วยความรู้สึกแบบนายจ้างไม่ใช่แบบลูกจ้าง(สำหรับคนที่เป็นมนุษย์เงินเดือน)เราว่ามันใช่อ่ะ!!ผู้เขียนสามารถเขียนบรรยายความแตกต่างของพนักงานเงินเดือนกับฟรีแลนซ์ออกมาได้ละเอียดกระชับใช้คำอ่านเข้าใจง่ายฟังแล้วต่อยอดคิดตามได้ทันทีนอกจากนั้นยังมีการยกตัวอย่างดีๆที่สามารถมองเห็นภาพตามได้ทันทีอีกด้วยยิ่งอ่านยิ่งเกิดกำลังใจยิ่งเกิดพลังแฝงยิ่งอยากรู้อยากติดตามจนจบเล่มยิ่งอ่านยิ่งคิดตามรู้สึกว่าแต่ละคำมันสะท้อนอยู่ในใจ ใช่ค่ะมันคือการตอบโจทย์ที่พนักงานเงินเดือนสมัยนี้ตามหาคำตอบหรืออย่างน้อยก็แรงบันดาลใจทำให้เราอยากกล้าที่จะเป็นตัวเองเดินออกมาจากกรอบกล้าที่จะคิดก็ต้องกล้าทำและรู้แนวทางว่าควรวางแผนทางเดินไว้บ้างอย่างน้อยสิ่งหนึ่งที่เราได้รับหลังอ่านจบคือการวางแผนและมุ่งมั่นเพื่อโอกาสแรกที่จะต่อยอดไปสู่โอกาสต่อไปเพื่อไปสู่เป้าหมายคืออิศรภาพ

ตอนแรกที่เห็นปกก็คิดว่าเกี่ยวกับอะไรนะจะสอนทำงานฟรีแลนซ์ เล่นหุ้นหรือธุรกิจออนไลน์แล้วข้อคิดแบบไหนเหรอที่จะทำให้เราก้าวสู่อิศรภาพของชีวิตได้พอได้เปิดอ่านจึงถึงบางอ่อว่านี่คือหนังสือดีๆอีกเล่มที่จะสร้างแรงบันดาลใจได้อย่างมากมายแค่เริ่มต้นเรื่องจาก 20ข้อที่ควรรู้และปฏิบัติก่อนอายุ40 เราก็ว่าเจ๋งแล้วนะข้อคิดสั้นๆกระชับได้ใจความแต่โดนจังๆหลังจากนั้นเราเริ่มอยากอ่านต่ออย่างจริงจัง(ถึงเล่มมันจะหนาไปนิดก็ตาม)เพราะเราอยากรู้ข้อคิดต่อไปอยากรู้มุมมองใหม่ๆอ่านต่อไปเรื่อยๆให้ความรู้สึกเหมือนกำลังฟังรุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จแล้วมาบอกเล่าชีวิตและความคิดถ่ายทอดประสบการณ์ออกมาเป็นตัวหนังสือใช่แล้วเรากำลังฟังชีวิตของคนๆหนึ่งว่าเค้าเจออะไรมาบ้างเริ่มทำอะไรมาคิดอะไรอยู่เค้าใช้อะไรเป็นแรงผลักดันตัวเองแม้แต่ความคิดของเขาที่ว่า ลองทำงานด้วยความรู้สึกแบบนายจ้างไม่ใช่แบบลูกจ้าง(สำหรับคนที่เป็นมนุษย์เงินเดือน)เราว่ามันใช่อ่ะ!!ผู้เขียนสามารถเขียนบรรยายความแตกต่างของพนักงานเงินเดือนกับฟรีแลนซ์ออกมาได้ละเอียดกระชับใช้คำอ่านเข้าใจง่ายฟังแล้วต่อยอดคิดตามได้ทันทีนอกจากนั้นยังมีการยกตัวอย่างดีๆที่สามารถมองเห็นภาพตามได้ทันทีอีกด้วยยิ่งอ่านยิ่งเกิดกำลังใจยิ่งเกิดพลังแฝงยิ่งอยากรู้อยากติดตามจนจบเล่มยิ่งอ่านยิ่งคิดตามรู้สึกว่าแต่ละคำมันสะท้อนอยู่ในใจ ใช่ค่ะมันคือการตอบโจทย์ที่พนักงานเงินเดือนสมัยนี้ตามหาคำตอบหรืออย่างน้อยก็แรงบันดาลใจทำให้เราอยากกล้าที่จะเป็นตัวเองเดินออกมาจากกรอบกล้าที่จะคิดก็ต้องกล้าทำและรู้แนวทางว่าควรวางแผนทางเดินไว้บ้างอย่างน้อยสิ่งหนึ่งที่เราได้รับหลังอ่านจบคือการวางแผนและมุ่งมั่นเพื่อโอกาสแรกที่จะต่อยอดไปสู่โอกาสต่อไปเพื่อไปสู่เป้าหมายคืออิศรภาพ

ตอนแรกที่เห็นชื่อหนังสือเล่มนี้เราคิดเลยว่าน่าจะเกี่ยวกับพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ความเชื่อของคนและก็ประสบการณ์ของผู้ที่ถูกรบกวนหรือสัมผัสวิญญาณได้โดยตรงแต่พอได้เปิดอ่านมันไม่ใช่อ่ะมันพลิกผันความคิดของเรามากเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้เริ่มเรื่องเลยจะเป็นบทความที่ดูมีความเป็นวิชาการมากๆค่ะและยังมีเรื่องเกี่ยวกับผีสางเทวดาอะไรมากมายที่ท่านราชบัณฑิตย์และภาคีสมาชิกท่านอื่นมาเล่าเสริมด้วยแล้วนับว่าเป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ยอดเยี่ยมมากค่ะอ่านแล้วตื่นเต้นตื่นตาตื่นใจโดยเฉพาะประสบการณ์อันน่าเหลือเชื่อของผู้เขียนเรียกได้ว่าเรานั่งอ่านไปแบบหน้าต่อหน้าบรรทัดต่อบรรทัดไม่กล้ากระพริบตาเลยด้วยซ้ำกับเรื่องเล่าจากประสบการณ์จริงของผู้เขียนมีเรื่องผีวิปัสสนา วิญญาณผีเขย วิญญาณบรรพบุรุษช่วยชีวิต แต่ละเรื่องมีสีสันชวนติดตามที่สุดทำให้เรารู้สึกเชื่อเลยนะว่าที่จริงแล้วภพภูมิของมนุษย์โลกวิญญาณและผีสางนางไม้เทวดาคงจะมีจริงๆเพราะระดับท่านราชบัณฑิตยังเคยประสบมาด้วยตัวเองเลยนอกจากนั้นในหนังสือยังมีการสอดแทรกหลักธรรมทางศาสนาด้วยถือเป็นการต่อยอดความเชื่อความคิดของเราให้รู้จักพินิจพิเคราะห์ให้ถูกต้องมากขึ้นว่าความเชื่อแต่ละสิ่งควรเชื่อหรือไม่อย่างน้อยก็ยังมีเหตุและผลมาประกอบต่อยอดปัญญามีทั้งพระพุทธพจน์เกี่ยวกับคติของสัตว์โลกมีทั้งประสบการณ์ความคิดทัศนะต่างๆรวมทั้งประการณ์อันเหลือเชื่อเกี่ยวกับวิญญาณและยังมีข้อชี้แจงแนะนำวิเคราะห์ข้อสงสัยต่างๆด้วยหลักฐานในพระไตรปิฎกหลังอ่านจบเรากล้าบอกเลยนะหนังสือเล่มนี้ไม่ได้ทำให้เรางมงายในเรื่องเหนือธรรมชาติแต่ช่วยให้เรามีวิธีคิดที่จะเชื่อในเรื่องเหนือธรรมชาติอย่างมีสติปัญญามากขึ้น

ตอนแรกที่เห็นชื่อหนังสือเล่มนี้เราคิดเลยว่าน่าจะเกี่ยวกับพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ความเชื่อของคนและก็ประสบการณ์ของผู้ที่ถูกรบกวนหรือสัมผัสวิญญาณได้โดยตรงแต่พอได้เปิดอ่านมันไม่ใช่อ่ะมันพลิกผันความคิดของเรามากเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้เริ่มเรื่องเลยจะเป็นบทความที่ดูมีความเป็นวิชาการมากๆค่ะและยังมีเรื่องเกี่ยวกับผีสางเทวดาอะไรมากมายที่ท่านราชบัณฑิตย์และภาคีสมาชิกท่านอื่นมาเล่าเสริมด้วยแล้วนับว่าเป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ยอดเยี่ยมมากค่ะอ่านแล้วตื่นเต้นตื่นตาตื่นใจโดยเฉพาะประสบการณ์อันน่าเหลือเชื่อของผู้เขียนเรียกได้ว่าเรานั่งอ่านไปแบบหน้าต่อหน้าบรรทัดต่อบรรทัดไม่กล้ากระพริบตาเลยด้วยซ้ำกับเรื่องเล่าจากประสบการณ์จริงของผู้เขียนมีเรื่องผีวิปัสสนา วิญญาณผีเขย วิญญาณบรรพบุรุษช่วยชีวิต แต่ละเรื่องมีสีสันชวนติดตามที่สุดทำให้เรารู้สึกเชื่อเลยนะว่าที่จริงแล้วภพภูมิของมนุษย์โลกวิญญาณและผีสางนางไม้เทวดาคงจะมีจริงๆเพราะระดับท่านราชบัณฑิตยังเคยประสบมาด้วยตัวเองเลยนอกจากนั้นในหนังสือยังมีการสอดแทรกหลักธรรมทางศาสนาด้วยถือเป็นการต่อยอดความเชื่อความคิดของเราให้รู้จักพินิจพิเคราะห์ให้ถูกต้องมากขึ้นว่าความเชื่อแต่ละสิ่งควรเชื่อหรือไม่อย่างน้อยก็ยังมีเหตุและผลมาประกอบต่อยอดปัญญามีทั้งพระพุทธพจน์เกี่ยวกับคติของสัตว์โลกมีทั้งประสบการณ์ความคิดทัศนะต่างๆรวมทั้งประการณ์อันเหลือเชื่อเกี่ยวกับวิญญาณและยังมีข้อชี้แจงแนะนำวิเคราะห์ข้อสงสัยต่างๆด้วยหลักฐานในพระไตรปิฎกหลังอ่านจบเรากล้าบอกเลยนะหนังสือเล่มนี้ไม่ได้ทำให้เรางมงายในเรื่องเหนือธรรมชาติแต่ช่วยให้เรามีวิธีคิดที่จะเชื่อในเรื่องเหนือธรรมชาติอย่างมีสติปัญญามากขึ้น