Customer Reviews

เห็นชื่อเรื่องแล้วหยิบมาอ่านเล่นๆผ่อนคลายสมองหลังจากอ่านหนังสือเรียนมาทั้งวัน หนังสือเล่มนี้ก็ทั่วๆไปของกรุ๊ปเลือดนะคือเราอ่านมาหลายเล่มแล้วเรื่องพวกนี้ เท่าที่เราอ่านก็คล้ายๆกับเล่มอื่นๆก็สนุกน่ารักๆ เนื้อหาจะประมาณบอกนิสัยตามกรุ๊ปเลือดนั่นแหละ แต่คือเราอ่านทุกกรุ๊ปเลือดเลยเพราะคนรอบข้างเราก็กรุ๊ปเลือดต่างกันทุกกรุ๊ปเลยหละ ก็อยากจะรู้ว่ากรุ๊ปนี้นิสัยเป็นอย่างไรคนนี้นิสัยประมาณไหนก็เพื่อบางทีจะได้พอเดาได้ว่าจะพูดกันยังไงให้ถูกคอกัน จะได้ไม่ทะเลาะกันอะไรอย่างงี้ แต่ขั้นแรกเราก็ต้องรู้นิสัยเค้าก่อน เอ้ยยพอๆเข้าเรื่องเลยดีกว่า สำหรับเนื้อหาเล่มนี้ก็ทั่วๆไปนิสัยส่วนตัว การแสดงออก สถานการณ์อย่างนี้กรุ๊ปเลือดนี้จะมีท่าทีแบบไหน จะหาทางออกยังไง สำหรับกรุ๊ปเลือดเรา(ไม่บอกนะกรุ๊ปเลือดอะไรเดี๋ยวรู้นิสัยหมด55555) เอาเป็นว่าสำหรับเรานะตรงอะ คืออาจจะไมีได้ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ก็ถือว่าตรงมากทีเดียว แล้วเราก็เอาให้เพื่อนเราดูว่ากรุ๊ปเลือดเพื่อนเรานิสัยเป็นยังไงไรงี้ ก็พูดๆกันก็ตรงดี ก็อ่านแล้วก็ตลกไปอะก็แซวๆกับเพื่อน เฮ้ยยยแกเป็นงี้เองอ่อ 555555 ก็ตลกดี อ่านแล้วได้พูดคุยกับเพื่อนด้วย แบบไม่ใช่นั่งอ่านอยู่คนเดียวแบบPrivateอยู่ในโลกส่วนตัวของตัวเองไปเลยแบบเราอ่านนิยายอ่านการ์ตูนที่แบบติดจะอ่านๆ แต่อันนี้อ่านแล้วได้พูดคุยกับเพื่อนมากขึ้นแบบบางคนที่ไม่สนิทก็หาเรื่องคุย ก็ดีอะชอบ คนที่ไม่เคยอ่านเราก็แนะนำนะเอาไว้อ่านเล่นๆก็สนุกไปอีกแบบ

เห็นชื่อเรื่องแล้วหยิบมาอ่านเล่นๆผ่อนคลายสมองหลังจากอ่านหนังสือเรียนมาทั้งวัน หนังสือเล่มนี้ก็ทั่วๆไปของกรุ๊ปเลือดนะคือเราอ่านมาหลายเล่มแล้วเรื่องพวกนี้ เท่าที่เราอ่านก็คล้ายๆกับเล่มอื่นๆก็สนุกน่ารักๆ เนื้อหาจะประมาณบอกนิสัยตามกรุ๊ปเลือดนั่นแหละ แต่คือเราอ่านทุกกรุ๊ปเลือดเลยเพราะคนรอบข้างเราก็กรุ๊ปเลือดต่างกันทุกกรุ๊ปเลยหละ ก็อยากจะรู้ว่ากรุ๊ปนี้นิสัยเป็นอย่างไรคนนี้นิสัยประมาณไหนก็เพื่อบางทีจะได้พอเดาได้ว่าจะพูดกันยังไงให้ถูกคอกัน จะได้ไม่ทะเลาะกันอะไรอย่างงี้ แต่ขั้นแรกเราก็ต้องรู้นิสัยเค้าก่อน เอ้ยยพอๆเข้าเรื่องเลยดีกว่า สำหรับเนื้อหาเล่มนี้ก็ทั่วๆไปนิสัยส่วนตัว การแสดงออก สถานการณ์อย่างนี้กรุ๊ปเลือดนี้จะมีท่าทีแบบไหน จะหาทางออกยังไง สำหรับกรุ๊ปเลือดเรา(ไม่บอกนะกรุ๊ปเลือดอะไรเดี๋ยวรู้นิสัยหมด55555) เอาเป็นว่าสำหรับเรานะตรงอะ คืออาจจะไมีได้ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ก็ถือว่าตรงมากทีเดียว แล้วเราก็เอาให้เพื่อนเราดูว่ากรุ๊ปเลือดเพื่อนเรานิสัยเป็นยังไงไรงี้ ก็พูดๆกันก็ตรงดี ก็อ่านแล้วก็ตลกไปอะก็แซวๆกับเพื่อน เฮ้ยยยแกเป็นงี้เองอ่อ 555555 ก็ตลกดี อ่านแล้วได้พูดคุยกับเพื่อนด้วย แบบไม่ใช่นั่งอ่านอยู่คนเดียวแบบPrivateอยู่ในโลกส่วนตัวของตัวเองไปเลยแบบเราอ่านนิยายอ่านการ์ตูนที่แบบติดจะอ่านๆ แต่อันนี้อ่านแล้วได้พูดคุยกับเพื่อนมากขึ้นแบบบางคนที่ไม่สนิทก็หาเรื่องคุย ก็ดีอะชอบ คนที่ไม่เคยอ่านเราก็แนะนำนะเอาไว้อ่านเล่นๆก็สนุกไปอีกแบบ

อ่าาาาในปัจจุบันเราจะได้ยินกระแสSlow life มากขึ้นเรื่อยๆ เรียกได้เลยว่าใครที่ไม่รู้จักกระแสนี้ถือว่าเอ้าท์มากๆ55555 (ตอนแรกเราก็ไม่ค่อยรู้จักหรอก55555) คือตอนแรกเราก็สงสัยนะทำไมสโลแกนSlow lifeถึงฮิตกัน ตอนแรกก็ไม่เข้าใจว่าคืออะไร แต่ก็ลองSearchในอินเทอร์เน็ตดูบ้างไรบ้าง แล้วก็อ่านหนังสือเอาเองบ้าง อย่างเช่นหนังสือเล่มนี้นะเหมาะสุดๆใครไม่รู้จักSlow lifeนะลองอ่านดูเลย คือตอนแรกจะอธิบายเกี่ยวกับว่าทำไมต้องเปลี่ยนการใช้ชีวิตแบบเดิมๆของตัวเองมาเป็นการใช้ชีวิตแบบSlow life การใช้ชีวิตแบบSlow life มีวิธีการคิดอย่างไร ต้องทำอย่างไรบ้างคือจะประกอบด้วยวิธีเป็นStepไป ตั้งแต่เปลี่ยนทัศนคติ ปล่อยวาง และปฏิบัติในสิ่งที่เป็นประโยชน์กับตัวเอง หลายๆอย่างในหนังสือเล่มนี้แสดงให้เห็นเลยหละว่าการใช้ชีวิตแบบที่เป็นอยู่เดิมมันแย่ยังไงมีข้อเสียและเป็นโทษต่อตนเองอย่างไร คือเป็นชีวิตของเขาเลยก็ว่าได้ที่ใช้ชีวิตเร่งรีบแบบคนเมืองทั่วไปเป็นBusiness womanที่ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่กำลังใช้ชีวิตแบบนี้อยู่ คือก็เห็นด้วยกับผู้เขียนนะว่าคนทำงานปัจจุบันสมัยนี้ใช้ชีวิตกันแย่ๆอะทั้งเสียสุขภาพ ทั้งเครียด สุขภาพกายสุขภาพจิตแบบไปหมดเลย คือหนังสือเล่มนี้ชี้ทางใช้ชีวิตแบบที่ควรจะเป็น คือใช้ชีวิตให้ช้าลงหน่อยไม่ต้องเร่งรีบมากไม่ต้องอยากจะได้อะไรมากมาย แค่นี้ก็ทำให้เราสุขได้แล้ว แค่เราเปลี่ยนการใช้ชีวิตที่ไม่ต้องไปชิงดีชิงเด่นอะไรกับเขา เป็นคนทำงานที่ใช้ชีวิตแบบSlow lifeก็สามารถทำเงินและมีความสุขได้ไปพร้อมๆกัน พร้อมกับมีQuoteและคำพูดดีๆจากคนดังๆให้อ่าน คืออย่างคนที่รวยมหาศาลขนาดนั้นยังใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายได้ มีความสุขได้ เขารวยขนาดนั้นแต่ไม่ต้องมานั่งโอ้อวดใคร และสามารถเอาเงินไปบริจาคได้มากมาย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้หลงใหลไปกับเงินทองทรัพย์สินอะไรขนาดนั้นเลย รวยขนาดนั้นยังใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายเลยหละ

อ่าาาาในปัจจุบันเราจะได้ยินกระแสSlow life มากขึ้นเรื่อยๆ เรียกได้เลยว่าใครที่ไม่รู้จักกระแสนี้ถือว่าเอ้าท์มากๆ55555 (ตอนแรกเราก็ไม่ค่อยรู้จักหรอก55555) คือตอนแรกเราก็สงสัยนะทำไมสโลแกนSlow lifeถึงฮิตกัน ตอนแรกก็ไม่เข้าใจว่าคืออะไร แต่ก็ลองSearchในอินเทอร์เน็ตดูบ้างไรบ้าง แล้วก็อ่านหนังสือเอาเองบ้าง อย่างเช่นหนังสือเล่มนี้นะเหมาะสุดๆใครไม่รู้จักSlow lifeนะลองอ่านดูเลย คือตอนแรกจะอธิบายเกี่ยวกับว่าทำไมต้องเปลี่ยนการใช้ชีวิตแบบเดิมๆของตัวเองมาเป็นการใช้ชีวิตแบบSlow life การใช้ชีวิตแบบSlow life มีวิธีการคิดอย่างไร ต้องทำอย่างไรบ้างคือจะประกอบด้วยวิธีเป็นStepไป ตั้งแต่เปลี่ยนทัศนคติ ปล่อยวาง และปฏิบัติในสิ่งที่เป็นประโยชน์กับตัวเอง หลายๆอย่างในหนังสือเล่มนี้แสดงให้เห็นเลยหละว่าการใช้ชีวิตแบบที่เป็นอยู่เดิมมันแย่ยังไงมีข้อเสียและเป็นโทษต่อตนเองอย่างไร คือเป็นชีวิตของเขาเลยก็ว่าได้ที่ใช้ชีวิตเร่งรีบแบบคนเมืองทั่วไปเป็นBusiness womanที่ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่กำลังใช้ชีวิตแบบนี้อยู่ คือก็เห็นด้วยกับผู้เขียนนะว่าคนทำงานปัจจุบันสมัยนี้ใช้ชีวิตกันแย่ๆอะทั้งเสียสุขภาพ ทั้งเครียด สุขภาพกายสุขภาพจิตแบบไปหมดเลย คือหนังสือเล่มนี้ชี้ทางใช้ชีวิตแบบที่ควรจะเป็น คือใช้ชีวิตให้ช้าลงหน่อยไม่ต้องเร่งรีบมากไม่ต้องอยากจะได้อะไรมากมาย แค่นี้ก็ทำให้เราสุขได้แล้ว แค่เราเปลี่ยนการใช้ชีวิตที่ไม่ต้องไปชิงดีชิงเด่นอะไรกับเขา เป็นคนทำงานที่ใช้ชีวิตแบบSlow lifeก็สามารถทำเงินและมีความสุขได้ไปพร้อมๆกัน พร้อมกับมีQuoteและคำพูดดีๆจากคนดังๆให้อ่าน คืออย่างคนที่รวยมหาศาลขนาดนั้นยังใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายได้ มีความสุขได้ เขารวยขนาดนั้นแต่ไม่ต้องมานั่งโอ้อวดใคร และสามารถเอาเงินไปบริจาคได้มากมาย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้หลงใหลไปกับเงินทองทรัพย์สินอะไรขนาดนั้นเลย รวยขนาดนั้นยังใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายเลยหละ

หนังสือเล่มนี้นี้นี้แต่งโดยพี่นิ้วกลมอีกแล้วแอ้วแอ้วววววว และเราก็ชอบอีกแล้วแล้วแล้วววว แบบว่าเนื้อหามันน่ารักมากมากมากมากมากกกก แค่หน้าปกก็น่ารักแล้ว มีทั้งสุขเศร้าทุกอย่างเลยอะผสมกันได้อย่างลงตัวมากๆ คือมีทุกอารมณ์เลยอะบอกเลย มีเกริ่นนำเนื้อเรื่องเป็นเหมือนอธิบายชักนำเข้าสู้เนื้อเรื่องอย่างน่ารักๆ แล้วต่อด้วยลักษณะการเขียนแบบเป็นคำข้อความเรียงกันประมาณสองสามบรรทัด ไม่รู้ว่าเค้าเรียกการเขียนแบบนี้ว่าอะไร คล้ายๆQuoteแต่ก็ไม่เชิง ลักษณะเป็นข้อความที่กะทัดรัด คล้องจองบ้าง กินใจอะ ใช้คำใช้ภาษาน่ารักอะ อ้อออหนังสือเล่มนี้เกี่ยวกับความรักล้วนๆเลยหละ ถึงยังไม่มีความรักแต่อ่านแล้วรู้สึกสุขเศร้าเหงาทุกๆอย่างตามที่พี่เค้าเขียน พอนึกถึงอดีตแล้วแทบร้องไห้เลยก็มี บางข้อความอ่านแล้วยิ้มตาม อ่านแล้วสุขตาม อ่านแล้วเศร้าตาม อ่านแล้วเจ็บตาม คือพี่นิ้วกลมแต่งได้ดีจริงอะ มีการแยกเป็นบทๆเหมือนคั่นความรู้สึกให้ด้วย รักก็รัก เจ็บก็เจ็บ คืออ่านแล้วเคลิ้มไปตามนั้นมากกกกกนี่ขนาดตอนที่อ่านอะเราโสดนะ55555 อุ๊บส์5555 คือแล้วยิ่งคนมีคู่นี่ไม่อยากจะคิดยิ่งแบบอ๊ากกกกกกกเขิน ละถ้าคนที่อกหักหรือพึ่งเลิกกับแฟนแบบเศร้าๆเจ็บๆ คือรับรองเลยอะว่าอ่านแล้วมีน้ำตาร่วงแน่ๆเศร้าจริงไรจริง แต่ก็ต้องอ่านบทที่เศร้าๆนะ5555ไม่ใช่แบบไปอ่านความรักใสๆน่ารักๆ เอ้ยยยแต่ก็ไม่แน่นะคนมันเศร้าอ่านไรก็อาจจะเศร้าก็ได้มั้ง เอาเป็นว่าหนังสือของพี่นิ้วกลมเล่มนี้น่ารักมากกกกกกอ่านแล้วเคลิ้มตามเลยยย

หนังสือเล่มนี้นี้นี้แต่งโดยพี่นิ้วกลมอีกแล้วแอ้วแอ้วววววว และเราก็ชอบอีกแล้วแล้วแล้วววว แบบว่าเนื้อหามันน่ารักมากมากมากมากมากกกก แค่หน้าปกก็น่ารักแล้ว มีทั้งสุขเศร้าทุกอย่างเลยอะผสมกันได้อย่างลงตัวมากๆ คือมีทุกอารมณ์เลยอะบอกเลย มีเกริ่นนำเนื้อเรื่องเป็นเหมือนอธิบายชักนำเข้าสู้เนื้อเรื่องอย่างน่ารักๆ แล้วต่อด้วยลักษณะการเขียนแบบเป็นคำข้อความเรียงกันประมาณสองสามบรรทัด ไม่รู้ว่าเค้าเรียกการเขียนแบบนี้ว่าอะไร คล้ายๆQuoteแต่ก็ไม่เชิง ลักษณะเป็นข้อความที่กะทัดรัด คล้องจองบ้าง กินใจอะ ใช้คำใช้ภาษาน่ารักอะ อ้อออหนังสือเล่มนี้เกี่ยวกับความรักล้วนๆเลยหละ ถึงยังไม่มีความรักแต่อ่านแล้วรู้สึกสุขเศร้าเหงาทุกๆอย่างตามที่พี่เค้าเขียน พอนึกถึงอดีตแล้วแทบร้องไห้เลยก็มี บางข้อความอ่านแล้วยิ้มตาม อ่านแล้วสุขตาม อ่านแล้วเศร้าตาม อ่านแล้วเจ็บตาม คือพี่นิ้วกลมแต่งได้ดีจริงอะ มีการแยกเป็นบทๆเหมือนคั่นความรู้สึกให้ด้วย รักก็รัก เจ็บก็เจ็บ คืออ่านแล้วเคลิ้มไปตามนั้นมากกกกกนี่ขนาดตอนที่อ่านอะเราโสดนะ55555 อุ๊บส์5555 คือแล้วยิ่งคนมีคู่นี่ไม่อยากจะคิดยิ่งแบบอ๊ากกกกกกกเขิน ละถ้าคนที่อกหักหรือพึ่งเลิกกับแฟนแบบเศร้าๆเจ็บๆ คือรับรองเลยอะว่าอ่านแล้วมีน้ำตาร่วงแน่ๆเศร้าจริงไรจริง แต่ก็ต้องอ่านบทที่เศร้าๆนะ5555ไม่ใช่แบบไปอ่านความรักใสๆน่ารักๆ เอ้ยยยแต่ก็ไม่แน่นะคนมันเศร้าอ่านไรก็อาจจะเศร้าก็ได้มั้ง เอาเป็นว่าหนังสือของพี่นิ้วกลมเล่มนี้น่ารักมากกกกกกอ่านแล้วเคลิ้มตามเลยยย

ชื่อหนังสือน่ากินมากกกกกกกกก55555 (โอ้ยอยากกิน หอมมมคิดแล้วหิว5555พอๆเข้าเรื่องๆ)อย่างที่รู้กันว่านิ้วกลมเป็นคนแต่งหนังสือเล่มนี้ บอกก่อนเลยว่าเราเป็นคนนึงที่ชอบอ่านหนังสือของนิ้วกลม และอ่านเยอะมาก คือนิ้วกลมนี่อันดับแรกๆในใจเลย แต่เราไม่แน่ใจว่าที่พี่นิ้วกลมแต่งเป็นแนวอะไร แต่ชอบที่พี่เขาแต่งทุกเรื่องเลย เราว่าเราก็เหมือนเพื่อนๆหลายๆคนนั่นแหละ แนวหนังสือเล่มนี้ก็น่ารักๆไม่ต่างกัน เป็นแต่ละบทๆที่เนื้อหาแตกต่างกันไป แต่เล่มนี้จะไม่ได้เกี่ยวกับความรักซะทั้งหมด คือมีบ้างแต่ก็ไม่ใช่ส่วนใหญ่ เป็นแต่ละๆบทที่ไม่สั้นไม่ยาวเกินไป บางบทก็เป็นข้อคิดที่พี่เค้าพูดคุยกับคนดังแล้วพี่เค้าก็เอามาถ่ายทอดให้เราได้รู้ในแบบของพี่เค้าอ่านแล้วไม่น่าเบื่อ บวกกับความคิดของพี่นิ้วกลมที่ไม่เหมือนใครและภาษาที่ถ่ายทอดออกมาคือกระชับกินใจ ชอบเวลาที่พี่เค้ามีความเห็นทัศนคติที่แตกต่าง อ่านเล่มนี้แล้วได้คิดอะไรๆขึ้นเยอะนะ แบบเอ้ออออก็จริงแฮะ พี่เค้าคิดได้เนอะ อารมณ์นี้เลย บางทีเป็นสิ่งที่เราคุ้นชินแต่ไม่ได้สังเกตเห็น แต่พี่เค้าเห็นแล้วเอามาเรียบเรียงความคิดแสดงออกมาให้น่าอ่าน ได้แง่คิดหลายๆอย่างในการใช้ชีวิต เราว่าหนังสือเล่มนี้ไม่ได้ป๊อปปูล่าเหมือนเล่มอื่นที่ออกมาเวลาใกล้ๆกัน คืออาจจะไม่ได้โดดเด่นเท่าเล่มอื่นๆ ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกันแต่เราตัดสินใจซื้อเล่มนี้มาตั้งแต่แรก แล้วพอมาอ่านก็ไม่ผิดหวังจริงๆนั่นแหละ เพลิดเพลินในสำนวนภาษาของพี่เค้าและได้อะไรหลายๆอย่างเลยหละ

ชื่อหนังสือน่ากินมากกกกกกกกก55555 (โอ้ยอยากกิน หอมมมคิดแล้วหิว5555พอๆเข้าเรื่องๆ)อย่างที่รู้กันว่านิ้วกลมเป็นคนแต่งหนังสือเล่มนี้ บอกก่อนเลยว่าเราเป็นคนนึงที่ชอบอ่านหนังสือของนิ้วกลม และอ่านเยอะมาก คือนิ้วกลมนี่อันดับแรกๆในใจเลย แต่เราไม่แน่ใจว่าที่พี่นิ้วกลมแต่งเป็นแนวอะไร แต่ชอบที่พี่เขาแต่งทุกเรื่องเลย เราว่าเราก็เหมือนเพื่อนๆหลายๆคนนั่นแหละ แนวหนังสือเล่มนี้ก็น่ารักๆไม่ต่างกัน เป็นแต่ละบทๆที่เนื้อหาแตกต่างกันไป แต่เล่มนี้จะไม่ได้เกี่ยวกับความรักซะทั้งหมด คือมีบ้างแต่ก็ไม่ใช่ส่วนใหญ่ เป็นแต่ละๆบทที่ไม่สั้นไม่ยาวเกินไป บางบทก็เป็นข้อคิดที่พี่เค้าพูดคุยกับคนดังแล้วพี่เค้าก็เอามาถ่ายทอดให้เราได้รู้ในแบบของพี่เค้าอ่านแล้วไม่น่าเบื่อ บวกกับความคิดของพี่นิ้วกลมที่ไม่เหมือนใครและภาษาที่ถ่ายทอดออกมาคือกระชับกินใจ ชอบเวลาที่พี่เค้ามีความเห็นทัศนคติที่แตกต่าง อ่านเล่มนี้แล้วได้คิดอะไรๆขึ้นเยอะนะ แบบเอ้ออออก็จริงแฮะ พี่เค้าคิดได้เนอะ อารมณ์นี้เลย บางทีเป็นสิ่งที่เราคุ้นชินแต่ไม่ได้สังเกตเห็น แต่พี่เค้าเห็นแล้วเอามาเรียบเรียงความคิดแสดงออกมาให้น่าอ่าน ได้แง่คิดหลายๆอย่างในการใช้ชีวิต เราว่าหนังสือเล่มนี้ไม่ได้ป๊อปปูล่าเหมือนเล่มอื่นที่ออกมาเวลาใกล้ๆกัน คืออาจจะไม่ได้โดดเด่นเท่าเล่มอื่นๆ ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกันแต่เราตัดสินใจซื้อเล่มนี้มาตั้งแต่แรก แล้วพอมาอ่านก็ไม่ผิดหวังจริงๆนั่นแหละ เพลิดเพลินในสำนวนภาษาของพี่เค้าและได้อะไรหลายๆอย่างเลยหละ

ชื่อหนังสือก็น่าหยิบขึ้นมาอ่านใจจะขาดแล้วใช่ไหมหละครับ ผมบอกเลยว่าครั้งแรกที่ผมเห็นผมแปลกใจประหลาดใจมีแต่ความสงสัยเต็มไปหมด กบคืออะไรหนังสือเล่มนี้นำเสนอยังไงนะ ชื่อเรื่องน่าสนใจแต่เนื้อหาจะน่าสนใจรึเปล่า แต่ปรากฏว่าผมอ่านจบแล้วไม่ผิดหวังจริงๆครับ ผมได้เรียนรู้วิธีการใช้ชีวิตการทำงานที่ครบถ้วนจริงๆ ทำให้ผมจัดการกับสิ่งต่างๆทั้งที่เกิดจากตัวเองและผู้อื่น ทำความเข้าใจสิ่งรอบข้างได้มากขึ้น และจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการนำเสนอด้วยกบไปทั้งเล่ม แถมยังมีเรื่องเล่าน่ารักๆที่ซ่อนเร้นอะไรไว้ต่างๆมากมายให้เราได้ฉุกคิดและมองเห็นมุมต่างๆได้มากขึ้น ประกอบกับอธิบายวิธีการและมีแบบฝึกหัดในกรอบสี่เหลี่ยมน่ารักๆให้นำไปใช้ได้ในชีวิตจริงได้อีก มีquoteสอดแทรกบ้างบางบท บอกตรงๆว่าชอบมากกกกก ภาษาที่เขียนก็น่ารักๆอ่านแล้วสนุก ผมได้สนุกไปกับ'กบ'ตลอดเวลาที่อ่านเลยครับ ไม่สนุกอย่างเดียวแถมได้วิธีการคิด การปฏิบัติการจัดการตนเองแก้ไขปัญหา ยอมรับความจริงในแบบที่ควรจะเป็นและทำให้ชีวิตเรามีความสุขมากขึ้นในสไตล์ที่ไม่น่าเบื่อเลยครับ อ้อออีกอย่างนึง หนังสือเล่มนี้มีความรู้ครบครันขนาดนี้แต่บอกตรงๆว่าไม่หนาเลยครับประมาน150-160หน้าก็จบแล้ว บอกตรงๆว่าชอบมากครับ น่ารักสุดๆผมรู้สึกว่าหายากนะครับหนังสือแบบนี้ มีสาระแถมอ่านไปก็ประทับใจกับสไตล์การนำเสนอที่น่ารักอีกต่างหาก เพราะเขาใช้ภาษาไม่เยิ่นเย้อเข้าใจง่าย อ่านแปบๆก็จบ เพียงคุณสละเวลาสักนิดหน่อยต่อวันมาอ่านหนังสือเล่มนี้ดูรับรองว่าคุ้มจริงๆครับ เชียร์ๆๆเต็มที่

ชื่อหนังสือก็น่าหยิบขึ้นมาอ่านใจจะขาดแล้วใช่ไหมหละครับ ผมบอกเลยว่าครั้งแรกที่ผมเห็นผมแปลกใจประหลาดใจมีแต่ความสงสัยเต็มไปหมด กบคืออะไรหนังสือเล่มนี้นำเสนอยังไงนะ ชื่อเรื่องน่าสนใจแต่เนื้อหาจะน่าสนใจรึเปล่า แต่ปรากฏว่าผมอ่านจบแล้วไม่ผิดหวังจริงๆครับ ผมได้เรียนรู้วิธีการใช้ชีวิตการทำงานที่ครบถ้วนจริงๆ ทำให้ผมจัดการกับสิ่งต่างๆทั้งที่เกิดจากตัวเองและผู้อื่น ทำความเข้าใจสิ่งรอบข้างได้มากขึ้น และจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการนำเสนอด้วยกบไปทั้งเล่ม แถมยังมีเรื่องเล่าน่ารักๆที่ซ่อนเร้นอะไรไว้ต่างๆมากมายให้เราได้ฉุกคิดและมองเห็นมุมต่างๆได้มากขึ้น ประกอบกับอธิบายวิธีการและมีแบบฝึกหัดในกรอบสี่เหลี่ยมน่ารักๆให้นำไปใช้ได้ในชีวิตจริงได้อีก มีquoteสอดแทรกบ้างบางบท บอกตรงๆว่าชอบมากกกกก ภาษาที่เขียนก็น่ารักๆอ่านแล้วสนุก ผมได้สนุกไปกับ'กบ'ตลอดเวลาที่อ่านเลยครับ ไม่สนุกอย่างเดียวแถมได้วิธีการคิด การปฏิบัติการจัดการตนเองแก้ไขปัญหา ยอมรับความจริงในแบบที่ควรจะเป็นและทำให้ชีวิตเรามีความสุขมากขึ้นในสไตล์ที่ไม่น่าเบื่อเลยครับ อ้อออีกอย่างนึง หนังสือเล่มนี้มีความรู้ครบครันขนาดนี้แต่บอกตรงๆว่าไม่หนาเลยครับประมาน150-160หน้าก็จบแล้ว บอกตรงๆว่าชอบมากครับ น่ารักสุดๆผมรู้สึกว่าหายากนะครับหนังสือแบบนี้ มีสาระแถมอ่านไปก็ประทับใจกับสไตล์การนำเสนอที่น่ารักอีกต่างหาก เพราะเขาใช้ภาษาไม่เยิ่นเย้อเข้าใจง่าย อ่านแปบๆก็จบ เพียงคุณสละเวลาสักนิดหน่อยต่อวันมาอ่านหนังสือเล่มนี้ดูรับรองว่าคุ้มจริงๆครับ เชียร์ๆๆเต็มที่

สำหรับหนังสือเล่นหุ้นเล่มนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งเล่มที่ผมชอบอีกเล่มหนึ่งครับ เนื้อหาจะเกี่ยวกับกองทุนรวมโดยเฉพาะ ซึ่งเล่มนี้ได้รวบรวมตั้งแต่ขั้นตอนเล่นหุ้นขั้นแรก ไม่ว่าจะเป็น การให้คำแนะนำในเรื่องการเตรียมเอกสารที่จะใช้สมัครเล่นหุ้น ความรู้ต่างๆเรื่องกองทุนรวมอย่างเจาะลึก ความเป็นมาเป็นอย่างไร ใครเป็นผู้ก่อตั้ง กองทุนรวมคืออะไรข้อเปรียบเทียบของการเล่นหุ้นด้วยตัวเองกับการให้กองทุนรวมเล่นให้ รับรองว่าครบถ้วนจริงๆครับ แต่เอาจริงๆที่ผมชอบที่สุดเลย เรียกว่าเป็นทีเด็ดมากๆและผมก็คิดว่าเป็นส่วนสำคัญสุดๆหากเราจะเล่นหุ้น ก็จำเป็นที่จะต้องรู้เรื่องพวกนี้เลยเนี่ย คือ เครื่องมือช่วยในการพิจารณาเลือกว่าเราควรลงทุนกองทุนรวมไหน แบบไหนดีแบบไหนไม่ดี แบบไหนดีกว่าแบบไหน ใช้เครื่องมือตัวนี้ดูอะไรได้บ้าง ค่านี้แสดงออกถึงอะไร หมายความว่าอย่างไร บางค่าเราก็สามารถคิดเองได้ คิดอย่างไรยังไง ผมคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญนะครับเพราะการที่เลือกจะเลือกลงทุนในกองทุนรวมไหน เราก็ควรรู้ข้อมูลและดูเป็นว่าเราควรเลือกอันไหน ถ้าเลือกผิดแทนที่จะเล่นหุ้นในรวยกลับกลายเป็นหมดตัวก็แย่หนะสิครับ ผมเลยคิดว่าเครื่องมือที่หนังสือนี้บอกเป็นสิ่งที่สำคัญ ยังๆยังมีอีกเขายังมีการเตือนให้ระมัดระวังในเรื่องนู้นเรื่องนี้ กลยุทธ์วิธีการลงทุนว่าถ้าหากสถานการณ์อย่างนี้ควรทำอย่างไร และที่เด็ดไปกว่านั้น มีการยกตัวอย่างกองทุนของธนาคารพาณิชย์ชื่อดังหลายกองทุน และกองทุนที่ได้รับรางวัลอื่นๆอีกมากมาย นับว่าเป็นการยกตัวอย่างที่ใกล้ตัวมากๆ เพราะผมคิดว่าธนาคารพาณิชย์นี่แหละใกล้ตัวเราที่สุดและเหมาะกับมือใหม่อย่างเราที่สุด

สำหรับหนังสือเล่นหุ้นเล่มนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งเล่มที่ผมชอบอีกเล่มหนึ่งครับ เนื้อหาจะเกี่ยวกับกองทุนรวมโดยเฉพาะ ซึ่งเล่มนี้ได้รวบรวมตั้งแต่ขั้นตอนเล่นหุ้นขั้นแรก ไม่ว่าจะเป็น การให้คำแนะนำในเรื่องการเตรียมเอกสารที่จะใช้สมัครเล่นหุ้น ความรู้ต่างๆเรื่องกองทุนรวมอย่างเจาะลึก ความเป็นมาเป็นอย่างไร ใครเป็นผู้ก่อตั้ง กองทุนรวมคืออะไรข้อเปรียบเทียบของการเล่นหุ้นด้วยตัวเองกับการให้กองทุนรวมเล่นให้ รับรองว่าครบถ้วนจริงๆครับ แต่เอาจริงๆที่ผมชอบที่สุดเลย เรียกว่าเป็นทีเด็ดมากๆและผมก็คิดว่าเป็นส่วนสำคัญสุดๆหากเราจะเล่นหุ้น ก็จำเป็นที่จะต้องรู้เรื่องพวกนี้เลยเนี่ย คือ เครื่องมือช่วยในการพิจารณาเลือกว่าเราควรลงทุนกองทุนรวมไหน แบบไหนดีแบบไหนไม่ดี แบบไหนดีกว่าแบบไหน ใช้เครื่องมือตัวนี้ดูอะไรได้บ้าง ค่านี้แสดงออกถึงอะไร หมายความว่าอย่างไร บางค่าเราก็สามารถคิดเองได้ คิดอย่างไรยังไง ผมคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญนะครับเพราะการที่เลือกจะเลือกลงทุนในกองทุนรวมไหน เราก็ควรรู้ข้อมูลและดูเป็นว่าเราควรเลือกอันไหน ถ้าเลือกผิดแทนที่จะเล่นหุ้นในรวยกลับกลายเป็นหมดตัวก็แย่หนะสิครับ ผมเลยคิดว่าเครื่องมือที่หนังสือนี้บอกเป็นสิ่งที่สำคัญ ยังๆยังมีอีกเขายังมีการเตือนให้ระมัดระวังในเรื่องนู้นเรื่องนี้ กลยุทธ์วิธีการลงทุนว่าถ้าหากสถานการณ์อย่างนี้ควรทำอย่างไร และที่เด็ดไปกว่านั้น มีการยกตัวอย่างกองทุนของธนาคารพาณิชย์ชื่อดังหลายกองทุน และกองทุนที่ได้รับรางวัลอื่นๆอีกมากมาย นับว่าเป็นการยกตัวอย่างที่ใกล้ตัวมากๆ เพราะผมคิดว่าธนาคารพาณิชย์นี่แหละใกล้ตัวเราที่สุดและเหมาะกับมือใหม่อย่างเราที่สุด

ตอนแรกผมอ่านหนังสืออยู่เล่มนึงเป็นหนังสือกฎหมายนี่แหละ แต่ใช้เวลาอ่านนานมาก วนๆอยู่ที่เดิมอ่านเท่าไหร่ก็ไม่เข้าใจสักที เน้นข้อความเท่าไหร่ก็ไม่เข้าใจ พอมาเจอหนังสือเล่มนี้ก็เลยลองอ่านดูเพราะเขียนว่าความรู้ทั่วไปใช่ไหมละครับ ลองอีกสักตั้งละกัน อ่านจบแล้วไม่ผิดหวังจริงๆครับ หนังสือเล่มนี้เนื้อหาตามชื่อเรื่องเลยครับ เป็นความรู้เบื้องต้นที่ผู้ที่สนใจหรือนักศึกษากฎหมายจำเป็นต้องรู้ อธิบายเกี่ยวกับการพัฒนาของกฎหมาย หลายคนที่มองเผินๆแล้วคิดว่ากฎหมายง่ายๆ แค่ท่องจำตัวบทมาตราบลาๆๆก็รู้เรื่องแล้ว หากลองอ่านเล่มนี้จะรู้เลยครับว่าศาสตร์แห่งกฎหมายมีความเป็นมาอย่างยาวนาน ต้องไม่เพียงแค่ใช้ความจำแต่ต้องใช้ความเข้าใจอย่างมาก ก็ไม่แปลกครับที่คนทั่วไปอ่านหนังสือกฎหมายแล้วไม่เข้าใจ เพราะกฎหมายประกอบด้วยคำศัพท์ธรรมดาสามัญที่คนทั่วๆไปเข้าใจกับคำศัพท์ทางกฎหมายที่นักกฎหมายหรือผู้ที่สนใจจริงๆเท่านั้นที่รู้ หนังสือเช่มนี้มีเนื้อหาอธิบายตั้งแต่การเกิดกฎหมาย การพัฒนา บ่อเกิดของกฎหมาย ประเภทของกฎหมาย สิทธิต่างๆตลอดจนถึงการใช้การตีความกฎหมาย เรียกได้ว่าความรู้ครบถ้วนจริงๆครับ ใครที่อ่านหนังสือกฎหมายเล่มอื่นแล้วไม่เข้าใจ คิดว่าอ่านยากเนี่ย อะไรก็ไม่รู้ ลองอ่านเล่มนี้ดูครับ ถือว่าเป็นเล่มแรกที่จะใช้ทำความเข้าใจกฎหมายเลยก็ว่าได้ ผู้ที่สนใจหรือนักเรียนที่อยากจะศึกษากฎหมายในอนาคตเนี่ย ผมแนะนำให้อ่านหนังสือเล่มนี้ดูครับ เพราะหนังสือเล่มนี้ใชัภาษาไม่เชิงกฎหมายเกินไป เข้าใจง่าย คนทั่วไปอ่านแล้วสามารถเข้าใจได้ครับ จะเป็นเหมือนการปูพื้นฐานในเรื่องกฎหมายที่จำเป็นจะต้องรู้ได้อย่างดีเยี่ยมเลยหละครับ

ตอนแรกผมอ่านหนังสืออยู่เล่มนึงเป็นหนังสือกฎหมายนี่แหละ แต่ใช้เวลาอ่านนานมาก วนๆอยู่ที่เดิมอ่านเท่าไหร่ก็ไม่เข้าใจสักที เน้นข้อความเท่าไหร่ก็ไม่เข้าใจ พอมาเจอหนังสือเล่มนี้ก็เลยลองอ่านดูเพราะเขียนว่าความรู้ทั่วไปใช่ไหมละครับ ลองอีกสักตั้งละกัน อ่านจบแล้วไม่ผิดหวังจริงๆครับ หนังสือเล่มนี้เนื้อหาตามชื่อเรื่องเลยครับ เป็นความรู้เบื้องต้นที่ผู้ที่สนใจหรือนักศึกษากฎหมายจำเป็นต้องรู้ อธิบายเกี่ยวกับการพัฒนาของกฎหมาย หลายคนที่มองเผินๆแล้วคิดว่ากฎหมายง่ายๆ แค่ท่องจำตัวบทมาตราบลาๆๆก็รู้เรื่องแล้ว หากลองอ่านเล่มนี้จะรู้เลยครับว่าศาสตร์แห่งกฎหมายมีความเป็นมาอย่างยาวนาน ต้องไม่เพียงแค่ใช้ความจำแต่ต้องใช้ความเข้าใจอย่างมาก ก็ไม่แปลกครับที่คนทั่วไปอ่านหนังสือกฎหมายแล้วไม่เข้าใจ เพราะกฎหมายประกอบด้วยคำศัพท์ธรรมดาสามัญที่คนทั่วๆไปเข้าใจกับคำศัพท์ทางกฎหมายที่นักกฎหมายหรือผู้ที่สนใจจริงๆเท่านั้นที่รู้ หนังสือเช่มนี้มีเนื้อหาอธิบายตั้งแต่การเกิดกฎหมาย การพัฒนา บ่อเกิดของกฎหมาย ประเภทของกฎหมาย สิทธิต่างๆตลอดจนถึงการใช้การตีความกฎหมาย เรียกได้ว่าความรู้ครบถ้วนจริงๆครับ ใครที่อ่านหนังสือกฎหมายเล่มอื่นแล้วไม่เข้าใจ คิดว่าอ่านยากเนี่ย อะไรก็ไม่รู้ ลองอ่านเล่มนี้ดูครับ ถือว่าเป็นเล่มแรกที่จะใช้ทำความเข้าใจกฎหมายเลยก็ว่าได้ ผู้ที่สนใจหรือนักเรียนที่อยากจะศึกษากฎหมายในอนาคตเนี่ย ผมแนะนำให้อ่านหนังสือเล่มนี้ดูครับ เพราะหนังสือเล่มนี้ใชัภาษาไม่เชิงกฎหมายเกินไป เข้าใจง่าย คนทั่วไปอ่านแล้วสามารถเข้าใจได้ครับ จะเป็นเหมือนการปูพื้นฐานในเรื่องกฎหมายที่จำเป็นจะต้องรู้ได้อย่างดีเยี่ยมเลยหละครับ

สำหรับหนังสือเล่มนี้เราว่าเราก็โอเคอยู่นะ ถึงเพื่อนเราจะบอกว่าแบบน่าเบื่อมากกกกกไรทำนองนี้ แต่ก็แล้วแต่แต่ละคนละนะไม่เหมือนกัน แต่ยังไงๆหนังสือเล่มนี้ก็ได้รับรางวัลนะ เนื้อเรื่องจะเกี่ยวกับผู้หญิงคนนึงที่ลำบากมากอะ เป็นคนอีสานคือผู้เขียนใช้ชีวิตจริงของเขาเล่าเรื่องนี้เลย เล่าชีวิตตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบันนี้ เราอ่านละแบบน่าสงสารมากอะ อะไรจะลำบากแสนสาหัสได้ขนาดนั้น คือชีวิตของเรากับเขานี่คนละเรื่องเลย ทำให้ได้รู้ว่าแม้ว่าบ้านเมืองเจริญขึ้นขนาดนี้แล้วตั้งแต่สมัยก่อนอะ แต่ก็ยังมีคนที่มีชีวิตลำบากมากๆแบบนี้อยู่ คือชีวิตตั้งแต่เด็กของเขาเทียบกับเด็กปัจจุบันอย่างเราๆไม่ได้เลย ละตั้งแต่เล็กจนโตการใช้ชีวิตของเขาก็เหมือนผจญภัยเยอะมากๆ คล้ายกับปล่อยให้โชคชะตากำหนด ไปอยู่ที่นู่นบ้างที่นี่บ้าง เหมือนมีบุญแต่กรรมบังประมาณนั้นเลย เป็นคือชีวิตเหมือนจะดีละ หมดทุกข์หมดโศก แต่ก็มีเรื่องไม่ค่อยดีอีกเข้ามาไม่หยุดไม่หย่อน อย่างกับในสนามรบยังไงอย่างงั้น ชีวิตเขาน่าสงสารมากกกกกก (ก.ไก่ พันตัว) เป็นหนังสืออีกเล่มที่เราได้กำลังใจเยอะมาก คือเราว่าเราก็มีสะดุดบ้างบางทีก็ท้อแต่ชีวิตเรายังดีว่าเขาเยอะมากอะถ้าเทียบกันแล้ว พออ่านจบได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างเลยหละ แต่เราว่าครึ่งหลังจะน่าเบื่อหน่อยเพราะเขาจะเล่าเกี่ยวกับเรื่องสามีเขาเยอะ แต่สรุปว่าเป็นหนังสือที่เสริมสร้างกำลังใจในการดำเนินชีวิตให้ผู้อ่านอย่างเราๆได้ดีเล่มหนึ่งเลยหละ

สำหรับหนังสือเล่มนี้เราว่าเราก็โอเคอยู่นะ ถึงเพื่อนเราจะบอกว่าแบบน่าเบื่อมากกกกกไรทำนองนี้ แต่ก็แล้วแต่แต่ละคนละนะไม่เหมือนกัน แต่ยังไงๆหนังสือเล่มนี้ก็ได้รับรางวัลนะ เนื้อเรื่องจะเกี่ยวกับผู้หญิงคนนึงที่ลำบากมากอะ เป็นคนอีสานคือผู้เขียนใช้ชีวิตจริงของเขาเล่าเรื่องนี้เลย เล่าชีวิตตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบันนี้ เราอ่านละแบบน่าสงสารมากอะ อะไรจะลำบากแสนสาหัสได้ขนาดนั้น คือชีวิตของเรากับเขานี่คนละเรื่องเลย ทำให้ได้รู้ว่าแม้ว่าบ้านเมืองเจริญขึ้นขนาดนี้แล้วตั้งแต่สมัยก่อนอะ แต่ก็ยังมีคนที่มีชีวิตลำบากมากๆแบบนี้อยู่ คือชีวิตตั้งแต่เด็กของเขาเทียบกับเด็กปัจจุบันอย่างเราๆไม่ได้เลย ละตั้งแต่เล็กจนโตการใช้ชีวิตของเขาก็เหมือนผจญภัยเยอะมากๆ คล้ายกับปล่อยให้โชคชะตากำหนด ไปอยู่ที่นู่นบ้างที่นี่บ้าง เหมือนมีบุญแต่กรรมบังประมาณนั้นเลย เป็นคือชีวิตเหมือนจะดีละ หมดทุกข์หมดโศก แต่ก็มีเรื่องไม่ค่อยดีอีกเข้ามาไม่หยุดไม่หย่อน อย่างกับในสนามรบยังไงอย่างงั้น ชีวิตเขาน่าสงสารมากกกกกก (ก.ไก่ พันตัว) เป็นหนังสืออีกเล่มที่เราได้กำลังใจเยอะมาก คือเราว่าเราก็มีสะดุดบ้างบางทีก็ท้อแต่ชีวิตเรายังดีว่าเขาเยอะมากอะถ้าเทียบกันแล้ว พออ่านจบได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างเลยหละ แต่เราว่าครึ่งหลังจะน่าเบื่อหน่อยเพราะเขาจะเล่าเกี่ยวกับเรื่องสามีเขาเยอะ แต่สรุปว่าเป็นหนังสือที่เสริมสร้างกำลังใจในการดำเนินชีวิตให้ผู้อ่านอย่างเราๆได้ดีเล่มหนึ่งเลยหละ

เนื้อหาจะเชิงปรัชญามากกกก คือเป็นหนังสือที่เกี่ยวกับปรัชญาที่เขายกย่องกันมากที่สุดเล่มหนึ่งก็ว่าได้ ตอนแรกเราก็คิดว่าเป็นนิยาย แบบเป็นเรื่องราวของเด็กผู้หญิงคนนึงไรงี้ ที่แบบมีคนส่งจดหมายมาให้ เป็นบททดสอบบทเรียนเกี่ยวกับปรัชญา คือเขานำเสนอเรื่องน่าสนใจด้วยเรื่องราวของเด็กผู้หญิง แต่เนื้อหามันออกจะแบบปรัชญาทั้งเล่ม ลองอ่านๆดูละแบบ โอ้ววววว ไม่นะ คือมันไม่ใช่อะ อ่านไปละก็งงไป(หรือเราโง่หว่าา55555) เอางี้คือมันไม่ใช่สไตล์เราละกัน เรื่องปรัชญาไรงี้ เราคือใคร โลกคืออะไร อารมณ์นี้เลยอะ คือแรกๆก็ไม่อะไรแต่พออ่านๆไปละก็เอ้อออออ เค้าก็สงสัยกันได้เนอะ (พี่เพลียยยยย55555)มันออกจะนามธรรม เราเข้าถึงไม่ค่อยได้อะ คือไม่ใช่แนวเราจริงๆหละ ปรัชญงปรัชญาอะไรแบบอย่ามาพูดกะเราเลย เห็นแล้วเพลีย แล้วแบบเล่มหนาสุดดดด ไม่ไหวจริง ดีนะที่ไม่ได้ซื้อมา แค่ยืมของเพื่อนอ่าน แต่เอาจริงๆบางคนเขาก็ชอบกันแหละ เพื่อนเราบางคนก็อ่านนะ คือบางคนจริงๆ ย้ำว่าบางคน 5555 เขาชอบก็ปล่อยเขาไป แต่เราขอบายอะ คือใครไม่เคยรู้จักเรื่องปรัชญาเลยอยากจะแบบว่าปรัชญาคืออะไรอะ ปรัชญาน่าเรียนไม่ใช่หรอ ก็ดูเข้าท่านะไรงี้ ก็ลองอ่านดูก็ได้นะ แต่เราไม่แนะนำเท่าไหร่ เฉพาะคนที่สนใจจริงๆก้ลองอ่านดู แต่มันออกจะลึกซึ้ง แบบว่านั่นแหละเข้าถึงยาก

เนื้อหาจะเชิงปรัชญามากกกก คือเป็นหนังสือที่เกี่ยวกับปรัชญาที่เขายกย่องกันมากที่สุดเล่มหนึ่งก็ว่าได้ ตอนแรกเราก็คิดว่าเป็นนิยาย แบบเป็นเรื่องราวของเด็กผู้หญิงคนนึงไรงี้ ที่แบบมีคนส่งจดหมายมาให้ เป็นบททดสอบบทเรียนเกี่ยวกับปรัชญา คือเขานำเสนอเรื่องน่าสนใจด้วยเรื่องราวของเด็กผู้หญิง แต่เนื้อหามันออกจะแบบปรัชญาทั้งเล่ม ลองอ่านๆดูละแบบ โอ้ววววว ไม่นะ คือมันไม่ใช่อะ อ่านไปละก็งงไป(หรือเราโง่หว่าา55555) เอางี้คือมันไม่ใช่สไตล์เราละกัน เรื่องปรัชญาไรงี้ เราคือใคร โลกคืออะไร อารมณ์นี้เลยอะ คือแรกๆก็ไม่อะไรแต่พออ่านๆไปละก็เอ้อออออ เค้าก็สงสัยกันได้เนอะ (พี่เพลียยยยย55555)มันออกจะนามธรรม เราเข้าถึงไม่ค่อยได้อะ คือไม่ใช่แนวเราจริงๆหละ ปรัชญงปรัชญาอะไรแบบอย่ามาพูดกะเราเลย เห็นแล้วเพลีย แล้วแบบเล่มหนาสุดดดด ไม่ไหวจริง ดีนะที่ไม่ได้ซื้อมา แค่ยืมของเพื่อนอ่าน แต่เอาจริงๆบางคนเขาก็ชอบกันแหละ เพื่อนเราบางคนก็อ่านนะ คือบางคนจริงๆ ย้ำว่าบางคน 5555 เขาชอบก็ปล่อยเขาไป แต่เราขอบายอะ คือใครไม่เคยรู้จักเรื่องปรัชญาเลยอยากจะแบบว่าปรัชญาคืออะไรอะ ปรัชญาน่าเรียนไม่ใช่หรอ ก็ดูเข้าท่านะไรงี้ ก็ลองอ่านดูก็ได้นะ แต่เราไม่แนะนำเท่าไหร่ เฉพาะคนที่สนใจจริงๆก้ลองอ่านดู แต่มันออกจะลึกซึ้ง แบบว่านั่นแหละเข้าถึงยาก

ปกหนังสือเล่มนี้ดูจริงจังมากครับ ไม่เหมือนภาษาที่เขียนในเล่มเลย ปกติผมจะไม่ชอบการออกแบบปกอย่างนี้เลยครับ ถ้าเจอผมจะไม่หยิบมาอ่านเลย ไม่รู้สิ ความรู้สึกผมมันไม่น่าอ่านอะครับ (อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนนะครับ) แต่ผมก็ต้องขอบคุณพี่ผมที่แนะนำให้อ่านครับ ผมเลยลองหยิบมาเปิดผ่านๆดูปรากฏว่าเนื้อหาน่าสนใจนิ ไม่เหมือนที่ผมคิดไว้ตอนแรกว่าจะเป็นการสอนให้รวยแบบบรรยาย เขียนๆๆติดกันเป็นพืดแต่ที่ไหนได้ปรากฏว่าเป็นการตัวหนังสือตัวใหญ่หน่อย อ่านง่าย มีquoteเสริมๆ มีภาพประกอบน่ารักๆอีกด้วย แหม่เนื้อหาก็น่าสนใจ ตัดสินใจอ่านทันทีเลยครับ สำหรับหนังสือเล่มนี้เนื้อหาก็จะประมาณเปลี่ยนทัศนคติของเราถ้าเราอยากรวยเพราะทัศนคติของคนรวยกับคนจนมันคนละทางเลยหละครับ ถ้าหากว่าเราอยากจะรวยเราก็ต้องมีทัศนคติแบบคนรวยสิครับถึงจะถูก เพราะทุกวันนี้เงินเป็นตัวแปรสำคัญในชีวิต บางคนทำอย่างไรก็ไม่รวยสักที คนบางคนก็รวยเอาๆ ลองอ่านหนังสือเล่มนี้ดูครับจะบอกเกี่ยวกับวิธีการทำงานที่ทำให้เรารวยเป็นเศรษฐีอีกด้วย เคล็ดลับของการเป็นเศรษฐีนั่นเอง หนังสือเล่มนี้สอนให้รวยอย่างถูกวิธีแถมมีความสุขด้วยครับ วิธีที่ทำให้เรามีทั้งเงิน มีคนรักใคร่และมีความสุขไปพร้อมๆกัน พร้อมทั้งเป็นเครื่องมือชั้นดีที่กระตุ้นให้คุณไปถึงความรวยได้เร็วขึ้น ได้อย่างถูกทางมากขึ้น เป็นการสร้างสรรค์ชีวิตในแบบที่คุณต้องการเลยหละครับ อ้ออ อ่านอย่างเดียวคงไม่รวยแน่ เมื่อคุณรู้แนวทางแล้วอย่าลืมเอาไปใช้ในชีวิตจริงด้วยนะครับ

ปกหนังสือเล่มนี้ดูจริงจังมากครับ ไม่เหมือนภาษาที่เขียนในเล่มเลย ปกติผมจะไม่ชอบการออกแบบปกอย่างนี้เลยครับ ถ้าเจอผมจะไม่หยิบมาอ่านเลย ไม่รู้สิ ความรู้สึกผมมันไม่น่าอ่านอะครับ (อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนนะครับ) แต่ผมก็ต้องขอบคุณพี่ผมที่แนะนำให้อ่านครับ ผมเลยลองหยิบมาเปิดผ่านๆดูปรากฏว่าเนื้อหาน่าสนใจนิ ไม่เหมือนที่ผมคิดไว้ตอนแรกว่าจะเป็นการสอนให้รวยแบบบรรยาย เขียนๆๆติดกันเป็นพืดแต่ที่ไหนได้ปรากฏว่าเป็นการตัวหนังสือตัวใหญ่หน่อย อ่านง่าย มีquoteเสริมๆ มีภาพประกอบน่ารักๆอีกด้วย แหม่เนื้อหาก็น่าสนใจ ตัดสินใจอ่านทันทีเลยครับ สำหรับหนังสือเล่มนี้เนื้อหาก็จะประมาณเปลี่ยนทัศนคติของเราถ้าเราอยากรวยเพราะทัศนคติของคนรวยกับคนจนมันคนละทางเลยหละครับ ถ้าหากว่าเราอยากจะรวยเราก็ต้องมีทัศนคติแบบคนรวยสิครับถึงจะถูก เพราะทุกวันนี้เงินเป็นตัวแปรสำคัญในชีวิต บางคนทำอย่างไรก็ไม่รวยสักที คนบางคนก็รวยเอาๆ ลองอ่านหนังสือเล่มนี้ดูครับจะบอกเกี่ยวกับวิธีการทำงานที่ทำให้เรารวยเป็นเศรษฐีอีกด้วย เคล็ดลับของการเป็นเศรษฐีนั่นเอง หนังสือเล่มนี้สอนให้รวยอย่างถูกวิธีแถมมีความสุขด้วยครับ วิธีที่ทำให้เรามีทั้งเงิน มีคนรักใคร่และมีความสุขไปพร้อมๆกัน พร้อมทั้งเป็นเครื่องมือชั้นดีที่กระตุ้นให้คุณไปถึงความรวยได้เร็วขึ้น ได้อย่างถูกทางมากขึ้น เป็นการสร้างสรรค์ชีวิตในแบบที่คุณต้องการเลยหละครับ อ้ออ อ่านอย่างเดียวคงไม่รวยแน่ เมื่อคุณรู้แนวทางแล้วอย่าลืมเอาไปใช้ในชีวิตจริงด้วยนะครับ

ชื่อหนังสือบอกเลยว่าน่าอ่านมากกกกกก ใครจะไปเชื่อว่าแค่กระเป๋าสตางค์เนี่ยจะสามารถเปลี่ยนชีวิตได้ขนาดนี้ โอ้ววววว หลอกกันแหงๆ ไม่เชื่อหรอก และแน่นอนพิสูจน์ความไม่อยากเชื่อด้วยการหยิบหบังสือเล่มขึ้นมาเอง เอ๊ะเล่มบางนิดเดียวเอง เล่มแค่นี้นะหรอจะเปลี่ยนชีวิตได้ โม้แน่ๆ(คิดในใจ) แต่พออ่านๆไปเพลินอะ แปบเดียวจบเล่มแล้วววว คือดีอะ จะต้องเปลี่ยนกระเป๋าสตางค์เป็นแบบยาวละนะ คือผู้เขียนจะอธิบายเกี่ยวกับการใช้กระเป๋าสตางค์ของคนเรา และแนะนำการใช้แบบที่เขาเชื่อ การปฏิบัติต่อเงิน เห็นเงินไม่ใช่แค่เงินธรรมดาๆอะ ความเชื่อแบบว่าถ้าเราปฏิบัติดีต่อเงินเดี๋ยวเงินก็จะมาเอง ความเชื่อหลายๆอย่างจากการสังเกตของตัวผู้เขียนเองและคนที่ผู้เขียนพบเจอด้วย แต่มันก็ดีไปอย่างนะ แม้เราจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม แต่ถ้าเราทำตามที่เขาเชื่อก็ดีอะ บางอันเป็นความเชื่อแปลกๆของคนที่มีฐานะการปฏิบัติต่อเงินของเขา ลักษณะการสังเกตว่าคนรวยทำอย่างไร คนจนทำอย่างไรก็สังเกตที่กระเป๋าสตางค์ได้นะ แต่มันก็ไม่ทุกกรณีหรอกแค่บางกรณีเท่านั้น แต่มันก็มีเนื้อหาบางตอนที่เฉพาะคนญี่ปุ่นเท่านั้นที่เอาไปใช้ได้แค่ของเขา เพราะบ้านเราไม่ได้ใช้เงินแบบเดียวกับเขา ก็แน่นอนเพราะนักเขียนเป็นคนญี่ปุ่นนิ นอกจากเนื้อหาด้านกระเป๋าสตางค์แล้วยังมีวิธีที่หากเราสร้างความเชื่อแบบ้นแล้วที่ทำให้เราเก็บออมโดยไม่รู้ตัวอีกต่างหาก ถือว่าเป็นความเชื่อที่ดีและสร้างนิสัยการออมไปในตัวด้วย สรุปว่าชอบ เอาไว้อ่านเล่น ถ้าทำได้จริงๆก็ถือเป็นผลพลอยได้เลยหละ

ชื่อหนังสือบอกเลยว่าน่าอ่านมากกกกกก ใครจะไปเชื่อว่าแค่กระเป๋าสตางค์เนี่ยจะสามารถเปลี่ยนชีวิตได้ขนาดนี้ โอ้ววววว หลอกกันแหงๆ ไม่เชื่อหรอก และแน่นอนพิสูจน์ความไม่อยากเชื่อด้วยการหยิบหบังสือเล่มขึ้นมาเอง เอ๊ะเล่มบางนิดเดียวเอง เล่มแค่นี้นะหรอจะเปลี่ยนชีวิตได้ โม้แน่ๆ(คิดในใจ) แต่พออ่านๆไปเพลินอะ แปบเดียวจบเล่มแล้วววว คือดีอะ จะต้องเปลี่ยนกระเป๋าสตางค์เป็นแบบยาวละนะ คือผู้เขียนจะอธิบายเกี่ยวกับการใช้กระเป๋าสตางค์ของคนเรา และแนะนำการใช้แบบที่เขาเชื่อ การปฏิบัติต่อเงิน เห็นเงินไม่ใช่แค่เงินธรรมดาๆอะ ความเชื่อแบบว่าถ้าเราปฏิบัติดีต่อเงินเดี๋ยวเงินก็จะมาเอง ความเชื่อหลายๆอย่างจากการสังเกตของตัวผู้เขียนเองและคนที่ผู้เขียนพบเจอด้วย แต่มันก็ดีไปอย่างนะ แม้เราจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม แต่ถ้าเราทำตามที่เขาเชื่อก็ดีอะ บางอันเป็นความเชื่อแปลกๆของคนที่มีฐานะการปฏิบัติต่อเงินของเขา ลักษณะการสังเกตว่าคนรวยทำอย่างไร คนจนทำอย่างไรก็สังเกตที่กระเป๋าสตางค์ได้นะ แต่มันก็ไม่ทุกกรณีหรอกแค่บางกรณีเท่านั้น แต่มันก็มีเนื้อหาบางตอนที่เฉพาะคนญี่ปุ่นเท่านั้นที่เอาไปใช้ได้แค่ของเขา เพราะบ้านเราไม่ได้ใช้เงินแบบเดียวกับเขา ก็แน่นอนเพราะนักเขียนเป็นคนญี่ปุ่นนิ นอกจากเนื้อหาด้านกระเป๋าสตางค์แล้วยังมีวิธีที่หากเราสร้างความเชื่อแบบ้นแล้วที่ทำให้เราเก็บออมโดยไม่รู้ตัวอีกต่างหาก ถือว่าเป็นความเชื่อที่ดีและสร้างนิสัยการออมไปในตัวด้วย สรุปว่าชอบ เอาไว้อ่านเล่น ถ้าทำได้จริงๆก็ถือเป็นผลพลอยได้เลยหละ

หนังสือเล่มนี้สไตล์การเขียนมีสไตล์การนำเสนอเก๋ๆน่ารักน่าอ่าน เนื้อหาเหมือนชื่อหนังสือเป๊ะเลยครับ น่าสนใจไม่น้อยเลยหละ เป็นหนังสือที่นำเสนอความคิดอธิบายการขโมยให้ได้อย่างศิลปินอย่างมีชั้นเชิง มีวิธีการที่ให้เราขโมยได้อย่างแนบเนียนและน่ายกย่อง ใช้ความสามารถของเราให้เป็นประโยชน์และน่าจดจำ ใช้เวลาว่างของเราสร้างสรรค์ผลงานที่อาจจะนำมาซึ่งผลตอบแทนเกินคาด หนังสือเล่มนี้จะเหมาะกับผู้ที่ติสๆ เป็นศิลปะศิลปินหน่อยๆ แต่ก็ไม่ได้แหวกแนวถึงขั้นขนาดที่ว่าคนที่ไม่รู้จักงานศิลปะเท่าไหร่อ่านไม่รู้เรื่อง ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ ผมคิดว่าเป็นการเปิดมุมมองใหม่ในเรื่องศิลปะให้กับเราได้รู้จักมากขึ้น ในเราเห็นในแง่นึงของศิลปะหนะครับ อ่านแล้วเพลิดเพลินดีครับ เพราะส่วนตัวผมชอบงานที่เกี่ยวกับศิลปะอยู่แล้วและผมก็เห็นด้วยกับหนังสือเล่มนี้นะ เหมือนที่ศิลปินหลายๆท่านกล่าวไว้ ทำนองว่าศิลปะคือการขโมย นั่นหละครับประเด็นที่น่าสนใจ คุณจะได้เห็นว่าศิลปินที่เก่งๆมีชื่อเสียงอย่างปิกัสโซ ก็ได้กล่าวไว้ว่า'ศิลปะคือการขโมย' และอีกหลายๆท่านที่หนังสือเล่มนี้ได้อ้างถึงก็กล่าวทำนองเดียวกัน ผมไม่ได้ทึ่งที่เห็นชื่อหนังสือเล่มนี้สักเท่าไหร่เพราะผมเคยอ่านๆผ่านๆเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้มาบ้างแล้ว แต่หากใครยังไม่เคยได้ยินได้ฟังศิลปะกับการขโมยก็น่าสนใจไม่น้อยเลยหละครับ หนังสือเล่มนี้ก็นำเสนอวิธีการสร้างผลงาน ให้กำลังใจและอาจเป็นประโยชน์ในด้านเงินทองของเราด้วยหละครับ สำหรับใครที่ยังไม่เคยอ่านไม่เคยเห็นหรือรู้จักเกี่ยวกับศิลปะและการขโมยสัมพันธ์กันอย่างไร ลองอ่านหนังสือเล่มนี้ดูครับรับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน

หนังสือเล่มนี้สไตล์การเขียนมีสไตล์การนำเสนอเก๋ๆน่ารักน่าอ่าน เนื้อหาเหมือนชื่อหนังสือเป๊ะเลยครับ น่าสนใจไม่น้อยเลยหละ เป็นหนังสือที่นำเสนอความคิดอธิบายการขโมยให้ได้อย่างศิลปินอย่างมีชั้นเชิง มีวิธีการที่ให้เราขโมยได้อย่างแนบเนียนและน่ายกย่อง ใช้ความสามารถของเราให้เป็นประโยชน์และน่าจดจำ ใช้เวลาว่างของเราสร้างสรรค์ผลงานที่อาจจะนำมาซึ่งผลตอบแทนเกินคาด หนังสือเล่มนี้จะเหมาะกับผู้ที่ติสๆ เป็นศิลปะศิลปินหน่อยๆ แต่ก็ไม่ได้แหวกแนวถึงขั้นขนาดที่ว่าคนที่ไม่รู้จักงานศิลปะเท่าไหร่อ่านไม่รู้เรื่อง ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ ผมคิดว่าเป็นการเปิดมุมมองใหม่ในเรื่องศิลปะให้กับเราได้รู้จักมากขึ้น ในเราเห็นในแง่นึงของศิลปะหนะครับ อ่านแล้วเพลิดเพลินดีครับ เพราะส่วนตัวผมชอบงานที่เกี่ยวกับศิลปะอยู่แล้วและผมก็เห็นด้วยกับหนังสือเล่มนี้นะ เหมือนที่ศิลปินหลายๆท่านกล่าวไว้ ทำนองว่าศิลปะคือการขโมย นั่นหละครับประเด็นที่น่าสนใจ คุณจะได้เห็นว่าศิลปินที่เก่งๆมีชื่อเสียงอย่างปิกัสโซ ก็ได้กล่าวไว้ว่า'ศิลปะคือการขโมย' และอีกหลายๆท่านที่หนังสือเล่มนี้ได้อ้างถึงก็กล่าวทำนองเดียวกัน ผมไม่ได้ทึ่งที่เห็นชื่อหนังสือเล่มนี้สักเท่าไหร่เพราะผมเคยอ่านๆผ่านๆเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้มาบ้างแล้ว แต่หากใครยังไม่เคยได้ยินได้ฟังศิลปะกับการขโมยก็น่าสนใจไม่น้อยเลยหละครับ หนังสือเล่มนี้ก็นำเสนอวิธีการสร้างผลงาน ให้กำลังใจและอาจเป็นประโยชน์ในด้านเงินทองของเราด้วยหละครับ สำหรับใครที่ยังไม่เคยอ่านไม่เคยเห็นหรือรู้จักเกี่ยวกับศิลปะและการขโมยสัมพันธ์กันอย่างไร ลองอ่านหนังสือเล่มนี้ดูครับรับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน

ผมเป็นคนสนใจเล่นหุ้น อยากรู้จัก อยากเล่นเป็น แต่พึ่งจะเริ่มๆอ่านได้ไม่นาน เลยลองๆหาหนังสืออ่านดู งานหนังสือครั้งที่แล้วก็เลยได้หนังสือหุ้นติดไม้ติดมือกลับมาบ้างครับ เล่มนี้ก็เป็นหนังสือหุ้นที่ดีเล่มหนึ่งเลยหละ เนื้อหาจะเกี่ยวกับการแนะนำหุ้นปันผลซะส่วนใหญ่ครับ เหมาะมากๆสำหรับผู้ที่มีเงินออมและกำลังหาช่องทางลงทุนอยู่ ใครที่มีเงินเก็บเงินออมที่ต้องการสร้างผลตอบแทนที่มากกว่าการฝากเงินในธนาคารลองอ่านหนังสือเล่มนี้ดูครับ จะมีการแนะแนวทาง มีคำแนะนำต่างๆให้รู้จักเลือกหุ้นตัวที่เราสนใจ ประเภทหุ้นปันผล กองทุนรวมLTF , RMF สอนให้ดูนโยบาย หนังสือชี้ชวนต่างๆ และมีการเตือนให้ระมัดระวังการลงทุนเสมอ การใช้คำก็ไม่โอเว่อร์ไป น่าเชื่อถือและมีการอ้างอิงแหล่งข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ที่เชื่อถือได้ หนังสือเล่มนี้จะเขียนให้รู้จักเลือกหุ้นที่เหมาะกับตัวเรา รวมทั้งมีรายชื่อหลักทรัพย์ตัวเด็ดๆแถมให้เอาไว้พิจารณาอีกต่างหากคุ้มจริงๆครับ แต่จะบอกก่อนว่าหนังสือเล่มนี้จะหนักไปทางแนะนำเรื่องกองทุนรวมซะมากกว่าสอนการเล่นหุ้นด้วยตัวเอง เน้นหนักไปในทางที่ลงทุนระยะยาว ที่มีข้อดีก็คือ ได้ผลตอบแทนมากกว่า และมีความเสี่ยงน้อยกว่าการเล่นหุ้นระยะสั้นที่จะมีความเสี่ยงสูงครับ ส่วนตัวผมคิดว่าเล่มนี้ไม่เหมาะกับผมสักเท่าไหร่ เพราะผมเป็นคนชอบเสี่ยง และไม่มีเงินทุนเงินเย็นเยอะๆขนาดนั้น แล้วก็อยากจะเล่นด้วยตัวเองด้วย แต่อ่านไว้ก็ได้ความรู้เพิ่มขึ้นเยอะเลยหละเผื่ออนาคตมีเงินหนาๆละจะได้เล่นระยะยาวกับเขามั่ง ............สาธุ :)

ผมเป็นคนสนใจเล่นหุ้น อยากรู้จัก อยากเล่นเป็น แต่พึ่งจะเริ่มๆอ่านได้ไม่นาน เลยลองๆหาหนังสืออ่านดู งานหนังสือครั้งที่แล้วก็เลยได้หนังสือหุ้นติดไม้ติดมือกลับมาบ้างครับ เล่มนี้ก็เป็นหนังสือหุ้นที่ดีเล่มหนึ่งเลยหละ เนื้อหาจะเกี่ยวกับการแนะนำหุ้นปันผลซะส่วนใหญ่ครับ เหมาะมากๆสำหรับผู้ที่มีเงินออมและกำลังหาช่องทางลงทุนอยู่ ใครที่มีเงินเก็บเงินออมที่ต้องการสร้างผลตอบแทนที่มากกว่าการฝากเงินในธนาคารลองอ่านหนังสือเล่มนี้ดูครับ จะมีการแนะแนวทาง มีคำแนะนำต่างๆให้รู้จักเลือกหุ้นตัวที่เราสนใจ ประเภทหุ้นปันผล กองทุนรวมLTF , RMF สอนให้ดูนโยบาย หนังสือชี้ชวนต่างๆ และมีการเตือนให้ระมัดระวังการลงทุนเสมอ การใช้คำก็ไม่โอเว่อร์ไป น่าเชื่อถือและมีการอ้างอิงแหล่งข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ที่เชื่อถือได้ หนังสือเล่มนี้จะเขียนให้รู้จักเลือกหุ้นที่เหมาะกับตัวเรา รวมทั้งมีรายชื่อหลักทรัพย์ตัวเด็ดๆแถมให้เอาไว้พิจารณาอีกต่างหากคุ้มจริงๆครับ แต่จะบอกก่อนว่าหนังสือเล่มนี้จะหนักไปทางแนะนำเรื่องกองทุนรวมซะมากกว่าสอนการเล่นหุ้นด้วยตัวเอง เน้นหนักไปในทางที่ลงทุนระยะยาว ที่มีข้อดีก็คือ ได้ผลตอบแทนมากกว่า และมีความเสี่ยงน้อยกว่าการเล่นหุ้นระยะสั้นที่จะมีความเสี่ยงสูงครับ ส่วนตัวผมคิดว่าเล่มนี้ไม่เหมาะกับผมสักเท่าไหร่ เพราะผมเป็นคนชอบเสี่ยง และไม่มีเงินทุนเงินเย็นเยอะๆขนาดนั้น แล้วก็อยากจะเล่นด้วยตัวเองด้วย แต่อ่านไว้ก็ได้ความรู้เพิ่มขึ้นเยอะเลยหละเผื่ออนาคตมีเงินหนาๆละจะได้เล่นระยะยาวกับเขามั่ง ............สาธุ :)

ใครที่คิดว่าตัวเองตารางแน่นมาก ไม่มีเวลาให้ครอบครัว สุขภาพย่ำแย่ หรือไม่มีแม้กระทั่งเวลารับประทานอาหารเนี่ย ถ้าชีวิตคุณจะอมทุกข์โศกเศร้าซะขนาดนั้นละก็ผมแนะนำให้คุณเจียดเวลาที่แสนน้อยนิดของคุณมาอ่านหนังสือเล่มนี้อ่านดู แล้วคุณจะพบกับวิธีที่เยี่ยมยอดซึ่งจัดการกับตารางที่แน่นเอี๊ยดของคุณได้แบบสบายๆ วิธีการที่จะทำให้ชีวิตที่แสนเศร้าของคุณสดใสมากขึ้น มีรอยยิ้มให้กับคนรอบข้างมากขึ้น คุณจะมีเวลาทำในสิ่งที่คุณชอบ สิ่งที่คุณรัก มีเวลาให้คุณใช้ชีวิตกับครอบครัวคุณพ่อคุณแม่ ลูกๆ สามีหรือภริยาที่รัก มีเวลาออกกำลังกายพักผ่อนสมอง สุขภาพกายสุขภาพจิตดีขึ้น มีเวลาทำในสิ่งที่คุณอยากจะทำแล้วชีวิตของคุณก็มีความสุขสมบูรณ์มากขึ้น เพราะหน้งสือเล่มนี้แนะนำประคับประคองขั้นตอนการทำงานของคุณอย่างดี เป็นเหมือนผู้จัดการส่วนตัวเลยทีเดียวเชียวหละ ทั้งสอนให้คุณเลือกทำ สอนให้คุณมีเป้าหมาย หาเป้าหมาย และบรรลุเป้าหมาย เพราะว่าสโลแกนของเขาคือความเรียบง่ายนั่นเอง ความเรียบง่ายนี้แหละจะนำคุณให้มีชีวิตที่ก้าวหน้ามากขึ้น บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้เร็วขึ้น โดยคุณไม่ต้องเสียเวลาของสิ่งที่ไร้สาระ สิ่งที่ทุ่มเทเท่าไหร่ก็ไม่ได้ให้ผลตอบแทนกับเรา คุณสงสัยไหมว่าทำไมบางคนอายุเด็กกว่า มีประสบการณ์น้อยกว่า แต่ทำไมเขาก้าวหน้ากว่า มีความสุขมากกว่า หากคุณอยากรู้หละก็ลองหยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่านดูครับ คุณจะได้เห็นวิธีการที่เรียบง่ายธรรมดา แต่นำมาซึ่งความไม่ธรรมดาให้กับชีวิตของคุณได้เลยทีเดียว

ใครที่คิดว่าตัวเองตารางแน่นมาก ไม่มีเวลาให้ครอบครัว สุขภาพย่ำแย่ หรือไม่มีแม้กระทั่งเวลารับประทานอาหารเนี่ย ถ้าชีวิตคุณจะอมทุกข์โศกเศร้าซะขนาดนั้นละก็ผมแนะนำให้คุณเจียดเวลาที่แสนน้อยนิดของคุณมาอ่านหนังสือเล่มนี้อ่านดู แล้วคุณจะพบกับวิธีที่เยี่ยมยอดซึ่งจัดการกับตารางที่แน่นเอี๊ยดของคุณได้แบบสบายๆ วิธีการที่จะทำให้ชีวิตที่แสนเศร้าของคุณสดใสมากขึ้น มีรอยยิ้มให้กับคนรอบข้างมากขึ้น คุณจะมีเวลาทำในสิ่งที่คุณชอบ สิ่งที่คุณรัก มีเวลาให้คุณใช้ชีวิตกับครอบครัวคุณพ่อคุณแม่ ลูกๆ สามีหรือภริยาที่รัก มีเวลาออกกำลังกายพักผ่อนสมอง สุขภาพกายสุขภาพจิตดีขึ้น มีเวลาทำในสิ่งที่คุณอยากจะทำแล้วชีวิตของคุณก็มีความสุขสมบูรณ์มากขึ้น เพราะหน้งสือเล่มนี้แนะนำประคับประคองขั้นตอนการทำงานของคุณอย่างดี เป็นเหมือนผู้จัดการส่วนตัวเลยทีเดียวเชียวหละ ทั้งสอนให้คุณเลือกทำ สอนให้คุณมีเป้าหมาย หาเป้าหมาย และบรรลุเป้าหมาย เพราะว่าสโลแกนของเขาคือความเรียบง่ายนั่นเอง ความเรียบง่ายนี้แหละจะนำคุณให้มีชีวิตที่ก้าวหน้ามากขึ้น บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้เร็วขึ้น โดยคุณไม่ต้องเสียเวลาของสิ่งที่ไร้สาระ สิ่งที่ทุ่มเทเท่าไหร่ก็ไม่ได้ให้ผลตอบแทนกับเรา คุณสงสัยไหมว่าทำไมบางคนอายุเด็กกว่า มีประสบการณ์น้อยกว่า แต่ทำไมเขาก้าวหน้ากว่า มีความสุขมากกว่า หากคุณอยากรู้หละก็ลองหยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่านดูครับ คุณจะได้เห็นวิธีการที่เรียบง่ายธรรมดา แต่นำมาซึ่งความไม่ธรรมดาให้กับชีวิตของคุณได้เลยทีเดียว