PS3: JoJo's Bizarre Adventure All Star Battle (Z2)

 

รีวิวเกมส์ PS3: JoJo's Bizarre Adventure All Star Battle

 

หยุดเวลาเอาไว้! ได้เวลาแอ่นตัวปล่อยหมัด “โอร่าโอร่าโอร่า” แล้ว!!




 

“สาวก โจโจ้ เข้ามาเลย!!”

“ผู้ใช้สแตนด์ ย่อมดึงดูดผู้ใช้สแตนด์ด้วยกัน” ไหนมีใครเป็นแฟนการ์ตูน “โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ” (“JoJo's Bizarre Adventure” หรือในชื่อญี่ปุ่นคือ “JoJo no Kimyou na Bouken”) กันบ้างรึเปล่า? ด้วยลายเส้นตัวละครที่มีสเน่ห์เป็นเอกลักษณ์ในแบบของตัวเอง และเรื่องราวการต่อสู้สุดเข้มข้นเร้าใจจากฝีมือของ อาจารย์อารากิ ฮิโรฮิโกะ ทำให้นี่เป็นการ์ตูนอีกเรื่องหนึ่งที่ได้รับความนิยมจนฮิตระเบิดเถิดเทิงไปทั่วโลก แต่เวลาที่ได้อ่านหนังสือหรือเวลาที่ได้ดูการ์ตูนอนิเมชั่น เคยรู้สึกกันบ้างมั้ยว่า เราเองก็อยากปล่อยท่าโจมตีเท่ๆ แบบนั้นบ้างเหมือนกัน... ผ่านมานานหลายหลายปี ตอนนี้ฝันเป็นจริงแล้วครับ โดย คุณมัตสึยาม่า ฮิโรชิ และทีมงาน “CyberConnect2” ที่มีความรักในการ์ตูนเรื่องนี้ และเคยฝากผลงานเกมสุดอลังการจากหนังสือการ์ตูนมาแล้วอย่างซีรีส์เกม “Naruto Ultimate Ninja Series” ได้เลือกที่จะนำการ์ตูนเรื่องนี้กลับมาปัดฝุ่นใหม่อีกครั้งในรูปแบบของเกมต่อสู้ เนื่องในโอกาสการเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปี โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ!!

”ตัวละครในเกมมีให้เลือกใช้อย่างหลากหลาย จะเป็นการต่อสู้ในฝันก็ดี จะเป็นการต่อสู้ของตัวละครจากยุคสมัยต่างๆที่ไม่น่ามาเจอกันได้ก็ได้”

ความจริงแล้วทาง Capcom เองก็เคยทำเกมโจโจ้ออกมาแล้วในชื่อ “JoJo's Venture” สมัยตู้เกมอาร์เคดเมื่อปี 1998 ก่อนที่จะตามมาลงให้กับเครื่องเกม PlayStation1 ในปี 1999 ซึ่งตอนนั้นตัวเกมก็จะเน้นไปที่ตัวละครจากภาค3 “Stardust Crusaders” ที่กำลังเป็นที่นิยมและโด่งดังในตอนนั้นเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งถ้ามองจากมือใหม่หรือขาจรเกมต่อสู้แล้ว ตัวรูปแบบการเล่นของเกมในสมัยนั้นก็อาจจะดูยากพอสมควร แต่ถึงอย่างนั้นก็มีหลายคนที่ชื่นชอบและมีตัวละครให้เลือกใช้ได้เยอะแยะมากมาย ผ่านมาหลายปีถึงปัจจุบัน เรื่องราวของโจโจ้ได้ดำเนินมาถึงเกม “JoJo's Bizarre Adventure All Star Battle” ที่จะเป็นการรวมเหล่า All Stars ของโจโจ้ในแต่ละภาคเอาไว้ตามชื่อ ซึ่งตัวละครที่มีให้เล่นนั้นก็มีมาตั้งแต่ตัวละครภาคแรกสุดจนถึงภาคปัจจุบันในตอนนี้อย่าง “Jojolion” เลยทีเดียว ทำให้ตัวละครที่มีให้เลือกเล่นนั้นมีมากกว่าสามสิบตัวละคร และแน่นอนว่าตัวละครแต่ละตัวในโจโจ้นั้นมาจากยุคสมัยและเรื่องราวที่แตกต่างกัน ทำให้รูปแบบการโจมตีของแต่ละคนก็จะมี “Style” ที่แตกต่างกันไปตามแบบฉบับของหนังสือการ์ตูนด้วย

 

“แม้เป็นคนที่เล่นเกมต่อสู้ไม่เก่ง ก็สามารถรัวหมัดปล่อยคอมโบเท่ๆ ได้ง่ายๆ”

พูดถึงการเป็นเกมต่อสู้แล้ว หลายคนก็อาจจะเป็นห่วงกันว่าจะเล่นทำคอมโบอะไรได้มากน้อยแค่ไหน ก่อนอื่นสำหรับผู้ที่เล่นเกมต่อสู้ไม่เก่งก็ไม่ต้องเป็นห่วงไปครับ เพราะตัวเกมจะมีระบบการทำคอมโบง่ายๆ ที่เรียกว่า “Easy Beat” อยู่ ซึ่งเราแค่กดปุ่ม สี่เหลี่ยม เพียงอย่างเดียว  หรือกดไล่ปุ่มเบากลางหนัก สี่เหลี่ยม>สามเหลี่ยม>วงกลม ก็สามารถเกิดเป็นคอมโบสั้นๆ ได้แล้ว แต่ถ้าใครที่เป็นสายฮาร์ดคอร์ก็คงต้องลองใช้เวลาศึกษาท่าต่อคอมโบกันดู ว่าจะทำคอมโบได้มากน้อยหรือจบท่าได้สวยๆ แค่ไหน เพราะคิดว่าหลายคนที่ได้สัมผัสเกมเป็นครั้งแรก ก็น่าจะรู้สึกได้ถึง “ความง่าย” ที่แตกต่างจากภาคก่อนหน้านี้หรือแตกต่างจากเกมต่อสู้เกมอื่นๆ เพราะว่าเกมนี้กดแค่ไม่กี่ปุ่มง่ายๆ ก็สามารถทำคอมโบออกมาได้แล้ว ทั้งที่ความจริงถ้าลองศึกษาดูมากขึ้นเรื่อยๆ เกมก็ยังมีจังหวะของการออกท่าหรือการแคนเซิลท่าโจมตีเพื่อต่อคอมโบอยู่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นการจะทำคอมโบสวยๆ ให้ได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย เพียงแต่ถ้าจะเล่นแบบทำคอมโบง่ายๆ ตัวเกมก็สามารถสนองส่วนนี้ให้ทุกคนทำได้เท่านั้นเอง

“บิดตัวแอ่นหลบขนาดนี้แล้ว ไม่ได้กินพี่หรอก”

นอกจากนี้ก็ยังมีการหลบท่าโจมตีไปด้านข้างในแบบ “Stylish Move” ที่จะทำได้ด้วยการกดถอยหลังให้ตรงจังหวะที่โดนโจมตี การหลบแบบนี้เรียกได้ว่าถ้าฝึกฝนลองประยุกต์การใช้งานได้ถูกจังหวะแล้ว นอกจากจะแอ่นตัวหลบการโจมตีได้แบบสวยๆ ทันท่วงทีแล้ว ก็ยังมีโอกาสชิงไหวชิงพริบพลิกเกมกลับมาเป็นฝ่ายชนะได้ด้วย

“ท่าไม้ตายสุดเท่ มาพร้อมกับมุมกล้องท่าโพสต์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและการรัวหมัดตะโกนอย่างสะใจ”

ส่วนท่าไม้ตายของแต่ละคนก็กดกันได้ง่ายๆ และจะมีกันคนละ 2 ท่า โดยการสะสมเกจ HHA (Heart Heat Gauge) จนเต็ม ซึ่งจะมีท่าแบบ HHA (Heart Heat Attacks) ที่ใช้เกจ HHA เพียงแค่เกจเดียว และแบบ GHA (Great Heat Attacks) ที่เป็นท่าไม้ตายใหญ่ และใช้เกจ HHA 2 เกจ ซึ่งถ้าหากใช้ติดก็จะตัดเป็นฉากการใช้ท่าไม้ตายสุดเท่ของแต่ละตัวละคร ที่เห็นแล้วรับประกันว่ารุนแรงสะใจแน่นอน แถมถ้าหากเราเอาท่าไม้ตายไปใช้กับตัวละครต่างๆ ที่มีบทบาทด้วยกันในการ์ตูนแล้ว ก็ยังสามารถเกิดเป็นบทพูดหรือฉากพิเศษที่ต่างออกไปจากเดิมได้ด้วย

 

“ไม่เพียงแค่เป็นเกมต่อสู้ธรรมดาๆ แต่ยังมีกิมมิคต่างๆที่คอการ์ตูนรู้จักกันเป็นอย่างดี ซึ่งมันพร้อมจะเล่นงานทั้งเราทั้งศัตรูด้วย”

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ สำหรับด่านในแต่ละด่านที่มีให้เล่นก็จะเป็นด่านที่ถอดแบบมาจากในหนังสือการ์ตูนทั้งนั้น ทำให้เวลาเล่นนั้นก็จะพบกับกิมมิคต่างๆ ของในแต่ละด่านที่จะออกมาเล่นงานหรือช่วยเหลือผู้เล่นแบบในการ์ตูนด้วย อีกทั้งถ้าหากเราโจมตีในจังหวะเดียวกับคู่ต่อสู้ ก็จะเกิดเป็นโหมด “Rush Mode” ให้ได้รัวทั้งหมัดทั้งปุ่มกดกันว่าใครจะเป็นผู้โดนอัดกันแน่ ซึ่งกิมมิคต่างๆ มากมายในระหว่างเล่นนี้ ถ้าใครที่เป็นแฟนของโจโจ้ก็น่าจะรู้กันได้ดีทีเดียวว่ามันเจ๋งแค่ไหน

 

“โหมดต่างๆที่มีให้เลือกเล่นในแบบของเกมต่อสู้”

ในส่วนของโหมดที่มีให้เล่นก็เรียกว่ามีตามเกมต่อสู้ทั่วไป ไล่มาจาก “Story Mode” ที่ค่อนข้างจะดูเป็นข้อเสียที่สุดของเกมเลยก็ว่าได้ เพราะเนื้อเรื่องจะเล่นโดยการบรรยายเล่าเรื่องไปในแต่ละภาค และภาคไหนที่ตัวละครน้อยก็จะเล่นจบอยู่เพียงแค่ตัวละครนั้นๆ ส่วนภาคไหนที่มีตัวละครเยอะ ก็จะได้เวียนตัวละครสู้กันเยอะหน่อย ทำให้ค่อนข้างเล่นแล้วรู้สึกอารมณ์ขาดๆเกินๆพอสมควร เหมือนไม่ต้องมีโหมดนี้ก็ได้

ต่อมากับ “Campaign Mode” ซึ่งเป็นโหมดที่ให้ผู้เล่นปลดล็อคของต่างๆ ในเกมได้ ไม่ว่าจะสีชุดหรือท่าโพสต์ต่างๆ ที่ได้จากการเล่นต่อสู้ในโหมดนี้ แต่ในโหมดนี้จะต้องออนไลน์เล่น และมีรูปแบบคล้ายๆ กับการเล่น Social Game ซึ่งเมื่อผู้เล่นเล่นไปหนึ่งรอบแล้ว ต้องรอเวลาเติมพลังงานประมาณรอบละ10 นาที ถึงจะเล่นต่อได้ จึงค่อนข้างเป็นโหมดที่ต้องใช้เวลาในการเล่นพอสมควร หากใครอยากจะเก็บชุดต่างๆ ของทุกตัวละครให้ครบ

“เลือกตัวละครที่ชอบ แล้วมาดูฝีมือกัน”

ต่อมากับโหมด “Versus” ที่น่าจะเป็นธรรมดาอยู่แล้ว กับการที่เราจะเลือกสู้ระหว่างคอมหรือเพื่อนก็ได้ อีกทั้งยังสามารถออนไลน์สู้กับคนอื่นในโหมดนี้ได้อีกด้วย แต่ถ้ายังไม่มั่นใจในฝีมือก็ยังมี “Practice Mode” ที่ไว้ให้ฝึกลองท่าต่างๆ ก่อนไปปล่อย สแตนด์ ใส่คนอื่นได้ด้วยเหมือนกัน

”จะเปลี่ยนเป็นสีชุดแปลกๆ แบบนี้ก็มี แม้แต่การเปลี่ยนท่าโพสต์ตอนชนะก็ยังทำได้”

อีกโหมดหนึ่งก่อนจะหมดเกม คือโหมด “Customize” ที่ให้เราสามารถปรับแต่งท่าโพสต์ประจำของแต่ละตัวละครทั้งในตอนเล่นหรือตอนที่เล่นจบรอบแล้ว ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนได้ตั้งแต่ท่าโพสต์ สีชุด บทพูดตอนชนะ ไปยันตัวอักษรที่เป็นเสียงประกอบที่อยู่ข้างหลังได้ด้วย อย่างคำว่า “ผ่าง!!” เราก็สามารถยืดขยายเอียงมุมยังไงก็ได้ เพราะนี่ก็เป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของโจโจ้เช่นกัน และปิดท้ายด้วย “Gallery Mode” ที่ไว้ซื้อของดูชุดดูภาพฟังเสียงต่างๆประกอบในเกมตามประสาของเกมต่อสู้

”ความเท่ของผู้ที่มีความฝันนั้นไม่แพ้ใคร”

ส่วนภาพของเกมก็จัดว่าทำออกมาสวยงามในแบบของโจโจ้มาก ทั้งมุมกล้องทั้งการเคลื่อนไหวต่างๆเรียกได้ว่าถอดแบบมาจากในหนังสือการ์ตูนเป๊ะๆ อีกทั้งบทพูดหรือลูกเล่นท่าโจมตีต่างๆ ก็ยังมีความเป็นโจโจ้แฝงอยู่มากมายด้วย แสดงให้เห็นว่าทั้งเหล่านักพากย์และทีมงาน CyberConnect2 (โดยเฉพาะคุณมัตสึยาม่า) นั้นบ้าพลังและทุ่มเทความรักที่มีต่อการ์ตูนเรื่องนี้ลงไปอย่างเต็มที่จริงๆ

 

”โจเหยิน เอ้ย โจสุเกะ จากภาคล่าสุดก็มานะครับ!”

สำหรับผู้ที่เป็นแฟนของการ์ตูน “โจโจ้” อยู่แล้ว “JoJo's Bizarre Adventure All Star Battle” เป็นเกมที่รวมรายละเอียดองค์ประกอบทุกอย่างของ โจโจ้ เอาไว้อย่างครบถ้วน เพราะคุณจะได้สนุกสนานเพลิดเพลินกับการปล่อยท่าต่างๆรวมถึงท่าไม้ตายเท่ๆ ที่มาพร้อมมุมกล้องสุดเร้าใจแบบในการ์ตูน พร้อมกับสีสันองค์ประกอบต่างๆ ที่คุ้นเคยกันดี แต่สำหรับผู้ที่เล่นเกมต่อสู้แบบสายฮาร์ดคอร์ อาจจะต้องลองศึกษาระบบกันดูว่าถูกใจหรือไม่ เพราะนี่เป็นเกมต่อสู้ที่มีสเน่ห์ของมันเอง และเป็นเกมที่ไม่ว่าใครก็สามารถเล่นได้สนุกได้ง่ายๆ

“รายชื่อตัวละครที่มีให้เลือกเล่นภายในเกม”

< Playable Characters >

Part1 – Phantom Blood
- Jonathan Joestar
- William Anthonio Zeppeli
- Dio Brando

Part2 – Battle Tendency
- Joseph Joestar
- Caesar Anthonio Zeppeli
- Wamuu
- Esidisi
- Kars

Part3  - Stardust Crusaders
- Kujo Jotaro (Star Platinum)
- Muhammad Avdol (Magician's Red)
- Noriaki Kakyoin (Hierophant Green)
- Jean Pierre Polnareff (Silver Chariot)
- Hol Horse (Emperor)
- Dio Brando (The World)

Part4 - Diamond Is Unbreakable
- Higashikata Josuke (Crazy Diamond)
- Nijimura Okuyasu (The Hand)
- Hirose Kōichi (Echoes)
- Kishibe Rohan  (Heaven's Door)
- Otoishi Akira (Red Hot Chili Pepper)
- Kira Yoshikage (Killer Queen)

Pasrt5 - Vento Aureo
- Giorno Giovanna (Gold Experience)
- Bruno Buccellati (Sticky Fingers)
- Guido Mista (Sex Pistols)
- Narancia Ghirga (Aerosmith)
- Diavolo (King Crimson)

Part6 - Stone Ocean
- Kujo  Jolyne (Stone Free)
- Ermes Costello (Kiss)
- Enrico Pucci (Whitesnake / C-Moon / Made in Heaven)

Pasrt7 – Steel Ball Run
- Johnny Joestar (Tusk)
- Gyro Zeppeli (Ball Breaker)
- Funny Valentine (Dirty Deeds Done Dirt Cheap)

Pasrt8 - JoJolion
Higashikata Jōsuke (Soft & Wet)

< DLC Characters >
- Lisa_Lisa
- Joseph Joestar (Hermit Purple)
- Iggy (The Fool)
- Vanilla Ice (Cream)
- Yangū Shigekiyo (Harvest)
- Kira Yoshikage (Killer Queen)
- Pannacotta Fugo (Purple Haze)
- Narciso Anasui (Diver Down)
- Baoh