65 ข้อสงสัยที่เด็กผู้หญิงอยากรู้

happiness |
31/08/2014

65 ข้อสงสัยที่เด็กผู้หญิงอยากรู้ เป็นหนังสือที่จะมาไขข้อสงสัยให้กับความอยากรู้อยากเห็นของเด็กผู้หญิงตัวน้อยๆทั้งหลายที่มักจะช่างสังเกตและขี้สงสัยในทุกเรื่องเมื่อเค้าอยากรู้เค้าเลยก็ต้องหาคำตอบด้วยวิธีการถามพ่อแม่หรือผู้ปกครองของเค้าเองเพื่ออยากได้คำตอบเพื่อมาไขข้อข้องใจของพวกเค้าซึ่งในบางครั้งนั้นคำถามที่เค้าอยากรู้มันอยากจะเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่อย่างเราๆยากที่จะหาคำพูดเพื่อมาตอบคำถามของพวกเค้าก็เป็นได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับสรีระร่างกายของผู้หญิงที่มีรูปร่างที่ไม่เหมือนกัน เรื่องของการมีประจำเดือน การเป็นตกขาว และอีกหลายๆเรื่องที่บางครั้งเราก็ต้องบอกเค้าในเวลาที่เหมาะสมด้วยภาษาที่เค้าสามารถฟังแล้วเข้าใจในคำตอบของเราด้วย คำถามเกี่ยวกับเรื่องของประวัติศาสตร์และเรื่องราวในสิ่งที่เค้าอยากจะรู้ขึ้นมาอย่าง ทำไมผู้หญิงถึงต้องใส่ชุดแต่งงานด้วยสีขาว? ทำไมหญิงสาวชาวมุสลิมต้องมีผ้าคุมหน้า? ผู้หญิงในสมัยก่อนเค้ามีการไดเอทกันหรือเปล่า? เป็นต้น ในบางครั้งเราก็ต้องไปศึกษาหาคำตอบมาเพื่อเป็นการสั่งสอนเค้าต่อไปอีก และยังมีเรื่องราวที่เค้าอยากจะรู้และมักจะหันมาถามเราทุกครั้งไป ในหนังสือเล่มนี้ได้รวบรวมคำถามและวิธีการตอบคำถามให้คุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองทุกท่านได้เลือกหาอ่านและนำไปใช้กับลูกหลานขี้สงสัยของตัวเองกันได้นอกจากที่คนใกล้ชิดน้องสมควรที่จะศึกษาแล้วก็ยังรวมไปถึงคุณครูทั้งหลายอีกด้วยเพราะเวลาส่วนใหญ่ของพวกเค้าต้องใช้ชีวิตอยู่ที่โรงเรียนกับคุณครูดังนั้นครูจึงต้องเรียนรู้เพื่อจะได้นำไปใช้ตอบคำถามของเหล่าลูกศิษย์ทั้งหลายได้อีกด้วย แต่ถึงในหนังสือเล่มนี้จะมีเทคนิคและวิธีการรับมือกับเด็กเจ้าคำถาม แต่ดิฉันขอติงนิดนึงว่าตัวอย่างคำถามที่เค้านำมานี้เป็นคำถามของเด็กตัวเล็กๆทั้งหลายจริงหรือเพราะบ้างเรื่องอาจจะเป็นเรื่องที่เจ้าตัวเค้าอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อนเลยก็มี แต่ถ้าถามว่ามันมีประโยชน์ไหมก็ตอบว่ามีประโยชน์นะ เพราะเด็กผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะมีคำพูดและคำถามแปลกๆให้เราแปลกใจเล่นอยู่เสมอ ดิฉันขอยกตัวอย่างเรื่องของหลานสาวตัวเองชื่อน้องโซบีนา เค้าเป็นเด็กช่างพูดและก็ช่างถามมาตั้งแต่เด็ก และในแต่ละครั้งที่เราเจอกันเค้าก็มักจะมีคำถามที่ต่อเนื่องกันแต่เป็นเรื่องเดียวกันกับสิ่งที่เค้าถามเสมอเช่น ที่โรงเรียนของอามีเด็กไม่ชอบกินผักไหม? ถ้าเราตอบว่ามีเค้าก็จะถามต่อว่า มีกี่คนแล้วชื่ออะไรบ้าง?ถ้าเราตอบเค้าไปอีกเค้าจะถามเราต่อไปอีกว่าแล้วอาทำยังไงกับเด็กที่ไม่กินผักล่ะ?ตอบไปเค้าก็จะถามว่าเด็กที่ไม่ชอบกินผักจะเป็นยังไงหรออา? ซึ่งก็ยังไม่หมดความสงสัยและจะถามจนกว่าตัวเองจะพอใจ ถามว่ารำคาญไม่ที่เค้าถามไม่หยุดตอบเลยว่าไม่เพราะความที่เป็นครูเลยทำให้เค้าใจว่าการที่ไปสกัดกลั้นความคิดของเค้านั้นจะทำให้เค้านั้นไม่กล้าที่จะถามเราอีกแล้วต่อไปเค้าก็จะมักมีอะไรแล้วไม่ค่อยอยากที่จะเล่าให้ฟังฉะนั้นการที่เด็กเค้าถามเราก็ตอบเค้าไปเถอะอย่าไปดุหรือว่าเค้าเลยดีซะอีกเค้าจะได้มีพัฒนาการที่ดีขึ้นเยอะๆ...