10 อันดับ หนังสือการ์ตูนผู้ชายที่ต้องอ่าน!!!

10 อันดับ หนังสือการ์ตูนผู้ชายที่ต้องอ่าน!!!

10 อันดับหนังสือการ์ตูนที่ควรได้อ่านสักครั้ง (การ์ตูนผู้ชาย)

ในช่วงนี้หนังสือการ์ตูนที่น่าอ่านและน่าดูผุดขึ้นมากมายเป็นดอกเห็ดเลยล่ะค่ะ ทำเอาแอดมินทั้งดูทั้งอ่านทั้งเสพย์แทบจะไม่หวาดไม่ไหว แต่ก็ยอมรับว่าหนังสือการ์ตูนทุกเรื่องมีความสนุกในตัวมันเองอยู่ทุกเรื่องเลยค่ะ คงไม่อาจตัดสินได้อย่างเป็นเอกฉันท์ว่าเรื่องไหนสนุกที่สุด ดีที่สุด แต่สำหรับแอดมินแล้ว วันนี้จะขออนุญาตแนะนำ การ์ตูน 10 เรื่องที่น่าจะได้มีโอกาสอ่านสักครั้ง บางเรื่องเก่าบ้าง ใหม่บ้าง แต่ก็ขอรับรองว่าสนุกอย่างแน่นอนค่ะ

 

Dragonball – อันนี้ปฏิเสธไม่ได้นะคะ ว่าเรื่องนี้เป็นการ์ตูนที่ครองใจเด็กผู้ชายมาอย่างยาวนานมากกว่า 20 ปี กับการผจัญภัยของ ซุนโกคู กับผองเพื่อน ที่เริ่มต้นจากการตามหา ดราก้อนบอล ให้ครบทั้ง 7 ลูก เพื่อที่จะสามารถเรียกมังกรออกมาและขอพรที่ปรารถนาได้ทั้งหมด 3 ข้อ และต่อๆมาก็กลายเป็นศึกจ้าวประลองยุทธ์เพื่อหาความเป็นหนึ่ง ลงท้ายด้วยการมีศัตรูจากบนโลกและนอกโลก (ซึ่งอัตราส่วนศัตรูจากนอกโลกจะมีมากกว่า) เข้ามารุกรานโลก และสุดท้ายก็จบลงด้วยการสละชีวิตของโกคูในการต่อสู้ครั้งสำคัญในที่สุด...

สำหรับเรื่องนี้พล๊อตเรื่องไม่ค่อยซับซ้อนนัก เป็นการต่อสู้ที่ปะทะกันด้วยพลังกับพลัง ใครที่มีพลังมากกว่า ย่อมเป็นฝ่ายชนะ ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆอย่างไม่ต้องสงสัย (คุณนักอ่านผู้ชายอย่าได้เถียงเชียวว่าตอนเด็กๆไม่เคยจะลองเลียนแบบท่าเคลื่อนย้ายในพริบตา พลังคลื่นเต่าสะท้านฟ้า เบ่งพลังซุปเปอร์ไซย่ากันจนหน้าดำหน้าแดง หรือแม้กระทั่งการชูมือขึ้นฟ้าเลียนพลังบอลเก็งกิ และการกินถั่วโดยสมมติว่าเป็นถั่ววิเศษที่กินแล้วฟื้นพลังได้) แต่ในพล๊อตที่เรียบง่ายนั้น กลับทำให้ผู้อ่านสนุก มันส์ และลุ้นไปกับทุกๆตอนในเรื่อง (ซึ่งขอชมว่าคนเขียนร้ายกาจมากที่ทิ้งฉากไคลแมกซ์เอาไว้ตอนท้ายตอนเพื่อให้เด็กน้อยอย่างเราๆต้องลงไปแดดิ้นเพราะอยากรู้ตอนต่อไปในอาทิตย์หน้าใจจะขาด) และโกคู ก็เป็นพระเอกที่แสนดี๊ แสนดี เรียกได้ว่าเป็นตัวละครสีขาวที่สุดในเรื่องทีเดียวค่ะ ต่างกับตัวเอกที่เป็นตัวร้ายในเรื่องที่ไม่มีมิตรแท้หรือศัตรูที่ถาวร สามารถกลับใจเป็นเพื่อนกับพระเอกได้ (ยกตัวอย่างเช่น เบจิต้า หมายเลข 18 และจอมมารบู) ดังนั้นเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่เน้นมิตรภาพอย่างเข้มข้นมากค่ะ ความสนุกของเรื่องนอกจาก เนื้อหาที่สนุกแล้ว การตั้งชื่อตัวละครก็แสดงให้เห็นถึงอารมณ์ขันของผู้เขียนได้เป็นอย่างดี  ซึ่งมีคนเคยแยกชื่อตัวละครออกเป็นหมวดๆไว้ด้วย ได้แก่หมวดอาหาร (ปิลาฟ –ข้าวผัด , โกฮัง –ข้าว , คุริลิน – เกาลัด , เบจิต้า – ผัก, คาคาล๊อต – แครอท) หมวดเครื่องแต่งกาย (บลูม่า – กางเกงใน , ทรังค์ – กางเกงในผู้ชาย) หมวดร่างกาย (จีจี้ – หน้าอก) หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า (คูลล่า – เครื่องทำน้ำเย็น , ฟรีซเซอร์-ช่องแช่แข็ง) แอดมินเห็นแล้วยังอดซูฮกในความเทพของอาจารย์ โทริยาม่า อากิระ ไม่ได้จริงๆค่ะ คิดได้ยังไงที่เอาของที่อยู่ในชีวิตประจำวันมาตั้งชื่อเป็นตัวละครได้

และด้วยองค์ประกอบเหล่านี้ เมื่อเอามารวมกันแล้ว จึงไม่แปลกใจเลยที่เรื่องนี้จะได้รับความนิยมยาวนานหลายสิบปี มีการสร้างภาคต่อยอดมาอีกหลายภาค และเป็นที่รู้จักกันดีทั้งในญี่ปุ่นและทั่วโลก ถือว่าเป็นการ์ตูนที่ผู้อ่านรุ่นใหม่ๆไม่ควรพลาดนะคะ

 

วันพีช – การเดินทางที่แสนยาวนานเพื่อทำความฝันของตนเองให้เป็นจริง

นี่ก็เป็นอีกเรื่องค่ะ ที่ถ้าใครไม่ได้อ่านแล้วคงเสียดายแย่ เรื่องราวการผจญภัยของ หนุ่มน้อย ลูฟี่ และผองเพื่อน ที่มุ่งเข้าสู่แกรนด์ไลน์เพื่อตามหา วันพีช (จะตามหากันทำไมน้า ตามห้างก็น่าจะมี/โดนต่อย) ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสมบัติในตำนาน ที่มีเพียง โกลด์ ดี โรเจอร์ จอมโจรสลัดผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้นที่เคยได้เห็น แต่นึกไม่ถึงว่าคำพูดของเขาจะเป็นตัวจุดประกายให้เกิดยุคทองแห่งโจรสลัดขึ้นมาในที่สุดค่ะ เสน่ห์ของเรื่องนี้ คือเหล่าคาแรคเตอร์ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะ ลูฟี่ เขาป็นชายหนุ่มที่ร่าเริงและขี้เล่นได้ทุกสถานการณ์ ไม่คิดเล็กคิดน้อย (จะเรียกว่าซื่อบื้อได้รึเปล่านะ ขนาดเจ๊โบอามาชอบหมอนี่ยังไม่รู้เรื่องอะไรกับเขาเล้ย) แต่ที่มีเสน่ห์มากที่สุดไม่ใช่เพียงการที่มีฝีมือการต่อสู้ที่ร้ายกาจ แต่อยู่ที่เขาเป็นคนที่รักพวกพ้องมาก และไม่ลังเลเลยที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือยามที่มีคนหรือพวกพ้องได้รับอันตราย อาจเพราะเป็นคนที่ทุ่มเทมากถึงขนาดนี้ จึงไม่แปลกใจเลย ที่จะมีคนติดตามเขาออกผจญภัยไปด้วยกัน เสน่ห์อีกอย่างคือการต่อสู้ที่ไม่เหมือนกับการ์ตูนที่เกี่ยวกับโจรสลัดโดยทั่วไป ยังมีพลังที่ได้มาจากผลปิศาจที่จะมีความสามารถในการต่อสู้ที่แตกต่างกันไปอีกด้วยค่ะ อย่างผลปิศาจ โกมุโกมุ ที่ทำให้ร่างกายของคนที่กินมันเข้าไปกลายเป็นยางยืด  การได้เห็นพัฒนาการของโจรสลัดหมวกฟาง จากเดิมที่มีแค่ลูฟี่เพียงคนเดียวออกเดินทางพร้อมเรือลำน้อย จนกระทั่งได้พรรคพวกจากที่ต่างๆ ทั้งลูกเรือที่มาโดยถาวร อย่าง อุซป โซโล นามิ ซันจิ และ โรบิน หรือเข้าร่วมกับกลุ่มโดยเหตุผลบางอย่างอย่าง เนเฟลตาลี บีบี เจ้าหญิงแห่งอลาบาสต้า ตลอดระยะเวลาการเดินทางอันยาวนาน พวกเขาได้พบกับศัตรูที่ร้ายกาจที่ทำให้สามารถขัดเกลาฝีมือของตัวเองได้ ได้พบเห็นโลกใหม่ๆและอาณาจักรที่แปลกประหลาดที่ทำให้เหล่าลูกเรือได้ตื่นตาตื่นใจ อย่าว่าแต่ตัวละครในเรื่องเลยค่ะ เรียกได้ว่าขนาดแอดมินเป็นคนที่ไม่ค่อยสันทัดเรื่องแฟนตาซีสักเท่าไหร่ยังรู้สึกสนุกไปด้วยเลย ไม่แปลกที่เรื่องจะมีแฟนคลับเหนียวแน่นทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ และยอดการตีพิมพ์สูงที่สุดในโลกในขณะนี้ด้วยนะคะ การันตีด้วยรางวัลจากกินเนสบุ๊คเลย

 

กินทามะ – การดิ้นรนเอาชีวิตรอดของเหล่าซามูไรในยุคที่ดาบไม่จำเป็นอีกต่อไป

เรื่องราวของร้านรับจ้างสารพัดอย่างที่ถือกำเนิดขึ้นหลังจากยุคสมัยอันวุ่นวายสงบลง ชาวสวรรค์ (หรือก็คือมนุษย์ต่างดาวน่ะแหละ) กำลังเรืองอำนาจ โดยมีซามูไรที่บ้าบอที่สุดในปฐพี อย่าง ซากาตะ กินโทกิ เป็นเจ้าของร้าน มีอาหมวยชาวยาโตะขาโหดกินจุ อย่างคางุระ และ พ่อขาแว่นไร้บท เอ้ย ชินปาจิ เป็นลูกน้องที่คอยทำงานรองมือรองเท้าคุณกินอยู่เสมอ (เหรอ?) เสน่ห์ของเรื่องนี้คือความเกรียนและความบ้าบอคอแตกของตัวละครทุกตัวในเรื่อง (เรื่องนี้ไม่มีคนปกติซักกะคน) ตรรกะก็สุดแสนจะป่วย แต่ก็เพราะตรรกะป่วยๆและความเสื่อมไม่เหมือนใครนี่ล่ะค่ะ เป็นจุดขายที่ดีของเรื่องนี้เลยทีเดียว โดยเฉพาะคาแรคเตอร์ของคุณโทกิ ที่ดูไม่น่าจะเหมาะเป็นพระเอกเลยสักนิดเดียว ทั้งเฉื่อยแฉะ ไร้ความรับผิดชอบ นัยน์ตาปลาตายหาความเชื่อมั่นมีไม่ แถมยังชอบกินพาเฟ่ต์และนมรสสตรอเบอรี่ จนน้ำตาลในเลือดสูงสุ่มเสี่ยงจะเป็นโรคเบาหวานอยู่รอมร่อ ขนาดที่แอดมินอ่านครั้งแรกยังคิดไม่ตกว่าตานี่เป็นพระเอกของเรื่องนี้แน่ๆเหรอ? แต่พออ่านไปเรื่อยๆ ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า เสน่ห์ของคุณกินและตัวละครในเรื่องที่ผุดออกมาเป็นน้ำหลากก็คือความรั่ว อุบาทว์ บ้าบอ และการกระทำหลายอย่างที่ไม่อาจตัดสินกันด้วยสามัญสำนึกของคนทั่วไปได้ (เรียกง่ายๆว่า “ทำไปได้...”) จนแอดมินกล้าบอกได้ว่า คนที่กำลังมีเรื่องเศร้าในชีวิต รับรองว่าอ่านแล้วต้องยิ้มออก แต่ในความฮาและแก๊กล้อเลียนเสียดสีสังคม การ์ตูน หนัง ข่าว กฎหมาย และบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์แบบไม่เกรงใจกันแล้ว บทจะมีดราม่าก็ดราม่าปวดตับจัดเต็มชนิดที่ไม่สงสารตับไตของผู้อ่านกันเลยทีเดียว ส่วนตัวแอดมินชอบนะ รู้สึกว่าถ้ามันเอาแต่มีเรื่องฮาสนุกอย่างเดียวมันก็จะกลายเป็นการ์ตูนแก๊กไร้สาระไปวันๆหนึ่ง ต้องมีดราม่าจุกอกเลือดตกยางออกมันถึงจะสนุก (หรือแอดมินจะเป็นสาวใฝ่ SM เหมือนซัทจังเข้าให้ซะแล้วแฮะ)

 

Assassination Classroom – ห้องเรียนลอบสังหาร

ถ้าคุณว่า โอนิสึกะ เคอิจิ จากเรื่อง GTO เป็นอาจารย์ที่สุดเจ๋งแล้ว แอดมินขอแนะนำอาจารย์อีกท่านหนึ่ง นั่นคือ อาจารย์ฆ่าไม่ตาย หรือ โคโระเซนเซย์นั่นเองล่ะค่ะ เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ดวงจันทร์ถูกโจมตีจนเว้าแหว่งไปครึ่งเสี้ยวด้วยพลังอันร้ายกาจของสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งที่มีรูปร่างคล้ายกับปลาหมึก พร้อมประกาศว่า ต้องฆ่าเขาให้ได้ก่อนที่เขาจะลงมือทำลายล้างโลกในเดือนมีนาปีหน้า ซึ่งหมายความว่าถ้าใครคิดจะฆ่าเขา จะมีเวลาลงมือเพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น และผู้ที่รับหน้าที่ในการลอบสังหาร คือนักเรียนชั้นปี 3 ห้อง E ที่ใครๆต่างก็รู้ว่าเป็นห้องที่รวมแต่ “สวะกากเดน” เอาไว้ทั้งนั้น แต่สัตว์ประหลาดตนนั้นกลับเลือกให้เด็กห้องนี้เป็นผู้ลอบสังหารเขา และถ้าใครทำสำเร็จก็จะได้รับรางวัลไป 1 หมื่นล้านเยน หลังจากที่ได้อ่านแล้ว แอดมินก็รู้สึกชอบค่ะ เพราะนอกจากความสนุกและลุ้นว่าอาจารย์โคโระจะถูกฆ่าด้วยวิธีไหนแล้ว เรื่องนี้ยังสอดแทรกระบบการเรียนการสอนในปัจจุบันได้อย่างแนบเนียน โดยเปรียบเทียบระหว่างห้องเรียน 2 ห้อง การเรียนการสอนในฝั่งห้อง A บรรยากาศเคร่งเครียดมาก ทุกคนในห้องคือศัตรู ต้องตั้งใจเรียนอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อไม่ให้ตกชั้นไปอยู่ห้อง E หรือถูกแบนจากเพื่อนในห้อง ส่วนการเรียนการสอนของโคโระเซ็นเซย์ถือเป็นความใฝ่ฝันของนักเรียนหลายคนค่ะ คืออาจารย์โคโระจะให้เด็กได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง สถานที่จริง ให้เด็กได้คิด และวิเคราะห์ด้วยตนเอง (ทางประเทศไทยก็พยายามผลักดันให้มีการเรียนรู้เช่นนี้แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ผลสักเท่าไหร่ ) และอาจารย์โคโระก็ทำให้เห็นว่า แม้ว่าจะอยู่ห้องบ๊วยแต่ก็สามารถเปล่งประกายศักยภาพของตนเองออกมาได้อย่างเจิดจ้าอย่างสง่างาม แน่นอนว่าหลายตอนยังคงไม่ทิ้งความเป็นการ์ตูนสายหลักที่ต้องมีฉากบู๊เข้ามาอยู่แล้วซึ่งเรื่องนี้ก็ทำออกมาได้ดี โดยเฉพาะ นางิสะ นางแต่งหญิงขึ้นมาก เอ้ย มีความสามารถในการลอบสังหารที่ดีเยี่ยม แต่ในขณะเดียวกันเพื่อนร่วมชั้นแต่ละคนต่างก็มีความสามารถที่แตกต่างกัน ดังนั้นรูปแบบการลอบสังหารที่ อ.โคโระและผู้อ่านต้องเจอจึงแปลกใหม่ไม่ซ้ำใครในแต่ละตอน และยังไม่รวมถึงว่าเมื่อทุกคนได้รู้อดีตของอ.โคโระ และกลับมานึกขึ้นได้ว่าพวกเขาต้องทำหน้าที่ สังหาร อาจารย์ของตัวเอง ต่อจากนี้การ์ตูนเรื่องนี้จะดำเนินต่อไปเช่นไร ถือว่าเป็นอีกเรื่องที่น่าลองหาอ่านมากๆค่ะ

 

นารูโตะ – การ์ตูนนินจาที่เป็นมากกว่านินจา

เอาเป็นว่าถ้าเด็กๆคนไหนไม่รู้จักเรื่องนี้ ก็นับว่าค่อนข้างเชยนะคะ เพราะว่าการ์ตูนเรื่องนี้ตีพิมพ์มาอย่างยาวนานเกือบ 15 ปีอย่างเรื่องนินจาคาโอ้โฮเฮะนี้ ถือว่าเป็นการ์ตูนขึ้นหิ้งเรื่องหนึ่งที่พลาดไม่ได้ กล่าวถึง อุซึมากิ นารูโตะ ที่ถูกคนทั้งหมู่บ้านรังเกียจด้วยเพราะมีจิ้งจอกเก้าหางอยู่ในตัว แต่ในวัยเด็กเขาไม่รู้เลยว่าทำไมใครๆถึงได้รังเกียจเขาและหมางเมินเขา ด้วยความคิดแบบเด็กๆจึงได้ทำเรื่องแผลงๆหลายอย่างๆหวังเรียกร้องความสนใจจากคนรอบข้าง แต่สิ่งที่ได้กลับตรงกันข้าม ผู้คนยิ่งเกลียดและทำตัวหมางเมินกับเขายิ่งกว่าเดิม ทำให้นารูโตะต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวเสมอมา จนวันหนึ่ง นารูโตะที่สอบตกซ้ำซากด้วยวิชาที่ไม่ถนัดคือ วิชาแยกร่าง กลับได้รับคำแนะนำจากอาจารย์ที่อยู่ในโรงเรียนนินจาให้ไปขโมยศึกษาม้วนคัมภีร์ที่เก็บในห้องของโฮคาเงะ แล้วเขาก็จะได้สอบผ่าน แต่แท้จริงเป็นแล้วเป็นการที่จะชิงคัมภีร์แล้วจะฆ่านารูโตะจากนั้นก็ป้ายความผิดให้ โชคดีที่ได้ อิรุกะ ครูประจำชั้นที่คอยดูแลนารูโตะเสมอเข้าปกป้องจนต้องเป็นฝ่ายบาดเจ็บเอง ด้วยความโกรธและเคียดแค้น ทำให้นารูโตะสามารถใช้วิชาชั้นสูงที่ตนไม่ถนัดที่สุด คือ “วิชาแยกเงาพันร่าง” สำหรับแอดมินที่ติดตามเรื่องนี้มานาน เหมือนเราเป็นเพื่อนสนิทของนารูโตะที่คอยเฝ้ามองการเติบโตของเขาอยู่ห่างๆ จากเด็กนอกคอกที่ไม่มีใครเหลียวแล จนกระทั่งกลายเป็นวีรบุรุษของหมู่บ้านอย่างเต็มภาคภูมิ แถมท้ายที่สุดเขายังได้ตำแหน่งที่เขาใฝ่ฝันจะเป็นมานานอีกด้วย พออ่านจบแล้วก็รู้สึกเหมือนญาติ หรือน้องชายได้รับปริญญาหรือแต่งงานน่ะค่ะ เป็นความรู้สึกที่เต็มตื้นอย่างบอกไม่ถูกค่ะ แต่นอกจากนี้ยังมีการต่อสู้ที่มันส์หยดไม่แพ้เรื่องอื่นๆ เลย และยังไม่รวมถึงดราม่าที่เข้ามาในเรื่องอยู่เป็นระยะๆทำให้แอดมินและผู้อ่านได้บริหารตับไตเป็นระยะๆอีกด้วย ถ้าคุณผู้อ่านจะลองมองหาการ์ตูนดีๆ สนุกสักเรื่อง ขอแนะนำเรื่องนี้นะคะ

 

Tokyo Ghoul -  เรื่องราวเกิดขึ้นในโตเกียว มีสิ่งมีชีวิตอยู่ชนิดหนึ่งที่ถูกเรียกว่า "กูล" กูลเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะภายนอกเหมือนมนุษย์ทุกประการ แต่พวกเขาต้องอยู่รอดโดยการกินมนุษย์เนื่องจากไม่สามารถรกินอาหารเช่นเดียวกับมนุษย์ทั่วไปได้ ร่างกายของกูลนั้นทนทานขนาดของมีคมธรรมดาไม่สามารถทำอันตรายได้ แต่กูลมีทั้งพวกที่ทำร้ายมนุษย์เพื่อฆ่ากิน และไม่ทำร้ายมนุษย์ โดยกูลส่วนใหญ่ใช้ชีวิตปะปนและแฝงตัวกับมนุษย์ทั่วไปในสังคม ในโตเกียวเขต 20 เค็น คาเนกิ เด็กหนุ่มมัธยมปลายผู้ซึ่งพ่อแม่ได้เสียชีวิตไปแล้ว ได้ถูกกูลสาวตนหนึ่งชื่อ ริเสะ หลอกล่อเพื่อหวังจะฆ่าเขากิน ระหว่างที่กำลังหลบหนี ได้เกิดอุบัติเหตุกับทั้งสอง เพื่อช่วยชีวิตของคาเนกิแพทย์จึงได้ผ่าตัดนำอวัยวะภายในบางส่วนจากริเสะที่เสียชีวิต มาทดแทนอวัยวะของคาเนกิ เมื่อคาเนกิฟื้น เขาพบว่ามีความผิดปกติกับตัวเอง และค้นพบว่าตัวเองได้ได้กลายเป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งกูล และไม่สามารถทานอาหารของมนุษย์ได้ ระหว่างที่เขากำลังทุกข์ทรมานกับความหิวโหยและความเจ็บปวดจากการกลายเป็นกูล เขาก็ได้รับความช่วยเหลือจากเหล่ากูลที่สังกัดร้านกาแฟนามว่า "อันเตกุ" ซึ่งสมาชิกของร้านแห่งนี้ล้วนเป็นกูล สิ่งเหล่านี้ทำให้คาเนกิเริ่มยอมรับในตัวตนของกูล และ เพื่อที่จะได้เข้าใจกูลและเรียนรู้วิถีของกูล คาเนกิจึงมาทำงานเสริมที่ร้านกาแฟอันเตกุ พร้อมๆกับการที่เขาตัองใช้ชีวิตอย่างเสแสร้งและปิดบังความจริงไม่ให้คนอื่นที่เป็นคนธรรมดารู้

โตเกียว กูล หรือว่า ปอบโตเกียว (ฮา) ตามที่หลายๆคนที่เป็นแฟนเรืองนี้เรียกกันค่ะ เป็นเรื่องที่ออกแนวไซไฟนิดๆด้วยการเพิ่ม กูล ที่เป็นสิ่งมิชีวิตแปลกประหลาด ฆ่าด้วยวิธีการธรรมดาก็ไม่ตาย แถมมีทั้งกินคนและไม่กินคน แต่ก็ยังมีปะปนอยู่ในสังคมทั่วๆไป แบบนี้ถ้ามีอยู่ในชีวิตจริง แอดมินคงหลอนน่าดู เพราะไม่รู้ว่าใครเป็นคน ใครเป็น กูล (ปอบ) เรื่องนี้พระเอกค่อนข้างจะ...ดวงซยไปนิด ที่ได้การเปลี่ยนถ่ายอวัยวะจาก กูลสาวที่ตามไล่ล่าเขา เขาก็เลยต้องกลายเป็นครึ่งคนครึ่งกูลไปโดยปริยาย นับว่าเรื่องนี้แปลก แต่สนุกค่ะ แน่นอนว่าเมื่อมีตัวกูลที่กินคนเป็นอาหารฉากหวาดเสียวเลือดกระฉูด ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่คนอ่านหนีไม่พ้นฉากสยองและการกินเครื่องในมนุษย์อย่างโหดเหี้ยมของเหล่าชาวกูลค่ะ อ่านแล้วก็สยองดี (แต่แอดมินคอการ์ตูนสยองขวัญอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ) แต่เรื่องนี้ก็สนุกที่ได้ลุ้นว่าพระเอกจะสามารถปิดบังอาการที่กำลังจะกลายเป็นกูลอยู่รอมร่อได้อย่างไร แต่พออ่านไปเรื่อยๆ จะเห็นได้ว่าพระเอกไม่สามารถควบคุมสัญชาตญาณของตนเองได้และเมื่อถูกครอบงำจนกลายเป็นกูลโดยสมบูรณ์ เมื่อนั้นความสนุกจะเข้มข้นทวีคูณ (แต่ค่อนข้างปูเรื่องช้าหน่อย คนอ่านต้องอดใจรอนิดนึง) แต่สำหรับใครที่ชอบแนวโหด แต่ก็ยังมีเรื่องที่เปี่ยมไปด้วยความลับที่ต้องรอการแก้ไข แนะนำเรื่องนี้เลยนะคะ 

 

โคนัน – การ์ตูนแนวสืบสวนที่มีเด็ก (แต่สมองเป็นผู้ใหญ่) เป็นผู้คลี่คลายคดี

เรื่องราวของ คุโด้ ชินอิจิ นักสืบม.ปลายอายุ 17 ปี ที่มีความฉลาดเฉลียวรอบด้าน และใช้ความสามารถนั้นในการคลี่คลายคดียากๆให้ลุล่วงไปด้วยดีเสมอมา จนกระทั่งวันหนึ่งเขาไปเที่ยวกับ โมริ รัน เพื่อนสนิทตั้งแต่เด็กของเขาที่สวนสนุก และเกิดคดีฆาตกรรมเข้า หลังจากคุโด้คลี่คลายคดีเสร็จ เขาก็ได้เห็นชายชุดดำน่าสงสัย จึงได้เลี่ยงไปตรวจสอบ เขาโดนชายชุดดำพวกนั้นทำร้ายและโดนจับกรอกยาพิษเพื่อต้องการให้ตาย แต่แทนที่เขาจะตาย เขากลับตัวหดสั้นเท่ากับเด็กอายุ 7 ขวบ และด้วยความช่วยเหลือของ ดร.อากาสะ ทำให้เขาสามารถปิดบังตัวตนของตัวเอง และได้ไปอาศัยอยู่ที่บ้านของรันที่เป็นสำนักงานนักสืบ เพื่อความสะดวกในการตามหาชายชุดดำ

เรื่องราวของเด็กชายที่ไปที่ไหนก็มีคนตายที่นั่นนี้ถือว่าเรื่องอันดับ 2 ที่คนญี่ปุ่นอยากอ่านตอนจบมากที่สุดรองจากเรื่อง คุณตำรวจป้อมยาม ค่ะ แอดมินเองก็อยากรู้ตอนจบเหมือนกันนะ คืออ่านตั้งแต่ยังเป็นเด็กประถม จนตอนนี้เข้าทำงานมานานพอสมควรแล้ว มันก็ยังไม่จบ คิดว่าถ้าให้แอดมินทำพินัยกรรมตั้งแต่อายุเท่านี้นี่ ขอเขียนว่าให้ลูกหลานเผาการ์ตูนเรื่องโคนันไปให้ข้าพเจ้าอ่านด้วย ข้าพเจ้าตายตาไม่หลับถ้าไม่ได้อ่านตอนจบ ได้มั้ยเนี่ย เพราะถือว่ามันเป็นอะไรที่ค้างคาใจมากค่ะ เนื้อเรื่องนี่เมื่อเทียบกับเล่มแรกๆแล้ว ดีกรีความโหดของคดีนี่น้อยลงไปเยอะ (คดีแรกนี่เล่นเอาหัวขาดเลือดกระฉูด) แต่คิดว่าเพราะหลังๆมีเด็กๆอ่านเรื่องโคนันกันมากขึ้นมั้งคะ ก็เลยโดนบอกให้เพลาๆความรุนแรงลงมาแน่ๆ และความซับซ้อนของคดีถึงแม้จะไม่มากเท่าเรื่องอื่นๆ แต่เรื่องความสนุกนี่ถือว่าเด็กอ่านได้ (แต่อยู่ในวิจารณญาณของผู้ใหญ่หน่อยก็จะดี)ผู้ใหญ่อ่านดีค่ะ

 

ยอดนักปรุงโซมะ – การต่อสู้ด้วยอาหาร ที่เดิมพันด้วยเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีทั้งหมด

 เรื่องราวของยุคิฮิระ โซมะ เป็นเด็ก ม. 3 อายุ 15 ที่อาศัยอยู่กับพ่อ ยุคิฮิระ โจอิจิโร่ ที่เป็นเจ้าของร้านอาหารชุดธรรมดา แต่ฝีมือดีอย่างยิ่ง ทำให้โซมะได้ฝึกทำอาหารตั้งแต่สามขวบ โซมะชอบลองทำอาหารแปลกๆ มากมาย ระหว่างที่แข่งกับพ่อ ร้านอาหารยุคิฮิระโภชนาอยู่ในทำเลดี ทำให้มีบริษัทอสังหาริมทรัพย์มากว้านซื้อที่ ซึ่งโซมะก็รับมือได้ แต่ที่ตามมาคือพ่อกลับปิดร้านเพื่อออกไปทำงานต่างประเทศ เลยให้ลูกชายไปเรียนต่อ ม. ปลาย ที่โรงเรียนสอนทำอาหารโทสึคิ ที่เป็นโรงเรียนทำอาหารอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นและตั้งอยู่ในที่ดินที่ตั้งอยู่บนภูเขาเจ็ดลูก โรงเรียนนี้คุมโดยนักเรียนในสภาสิบยอดเยี่ยมและมีระบบท้าดวลทำอาหารที่เรียกว่า โชคุเงคิเ พื่อตัดสินปัญหา คนที่มาสอบคือ นาคิริ เอรินะ หลานสาวของมาเฟียอาหาร นาคิริ เซ็นสะเอมอน เธอสอบผ่านเป็นอันดับหนึ่งในการเลื่อนชั้นจาก ม. ต้น ฝีมือการทำอาหารเป็นอัจฉริยะ ซึ่งเอรินะได้ออกข้อสอบอาหารไข่ โซมะเลยรับมือด้วยข่าวราดฟุริคาเคะที่ใช้นิโคโกริกลายร่าง ซึ่งตอนแรกผลการตัดสิน เอรินะไม่ให้เขาผ่าน (ด้วยความซึน) แต่ปู่ของเอรินะได้มาชิมอาหารของโซมะเข้า จึงได้ส่งหนังสือให้เขาเข้าเรียนที่โรงเรียนโทซึกินี้ โดยจะใช้คนอื่นเป็นบันไดเหยียบไปถึงจุดมุ่งหมายสูงสุด และทำให้เอรินะยอมรับรสชาติอาหารของเขาให้ได้ภายใน 3 ปี

เรื่องนี้เป็นการ์ตูนทำอาหารที่ไม่ต่างจากการ์ตูนทำอาหารค่ะ มีการบอกถึงเครื่องปรุง กลเม็ดเคล็ดลับที่เราสามารถนำไปใช้ได้จริง เช่นนำน้ำผึ้งทาที่เนื้อจะทำให้เนื้อนุ่มและมีรสชาติดี (ไก่ย่างอบน้ำผึ้งก็อารมณ์ประมาณนี้) การตุ๋นน้ำซุปและทิ้งให้จนจับตัวเป็นเยลลี่แบบเดียวกับการทำไส้เสี่ยวหลงเปา (ซาลาเปาทที่กัดแล้วมีน้ำซุปไหลออกมานั่นแหละค่ะ) และยังมีการแข่งทำอาหารที่เรียกว่า โชคุเงคิ ที่จะเป็นการท้าดวลแข่งทำอาหาร ใครแพ้ ไม่เพียงแต่จะไม่มีที่ยืนในวงการพ่อครัวแล้ว ร้านยังต้องถูกพังย่อยยับไม่เหลือซากอีกด้วย เรียกได้ว่ายิ่งถ้าผู้ถูกท้าเดิมพันมีศักด์ศรีสูงเท่าไหร่ ของเดิมพันก็จะมีค่าตามไปด้วยซึ่งพระเอกและผองเพื่อนก็ต้องผ่านการทดสอบที่ยากลำบากต่างๆเพื่อที่จะได้จบออกมาเป็นเชฟที่ภาคภูมิ แต่เรื่องนั้นยังไม่เท่ารีแอ๊คชั่นของผู้ชิมค่ะ ซึ่งดูยังไง๊ยังไงก็ไม่ใช่ท่าที่ฟินเพราะรสชาติอาหารแน่ๆ และด้วยท่าทางและใบหน้าฟินๆที่ชวนใจเต้นราวกับอ่านโดจิน H 18+ ทำให้เรื่องนี้มีฉากเซอร์วิสมากมายค่ะ และสาวๆแต่ละคนต่างก็หลงเสน่ห์ในการฝีมือการทำอาหารของโซมะแบบหัวปักหัวปำ (แต่ไม่เคยแสดงออกสักคน ต่างกับพระเอกของเราที่ทื่อมะลื่อไม่เคยเอะใจสักนิดเลย แต่ก็เป็นเรื่องปกติของการ์ตูนสายโชเน็นอยู่แล้วละนะ และด้วยความแหวกแนวจากการ์ตูนทำอาหารที่แฝงเซอร์วิสได้อย่างแนบเนียน ทำให้เรื่องนี้กำลังติดอันดับในนิตยสารจั๊มป์อย่างรวดเร็ว ขอแนะนำว่าให้ลองอ่านนะคะ ขนาดแอดมินอ่านครั้งแรกแล้วยังติดใจเลย

 

ซิลเวอร์สปูน Silver Spoon – การ์ตูนเกี่ยวกับการเกษตรที่ชวนให้น้ำตา (และน้ำลาย) ไหล

เรื่องราวของ ฮาจิเคน ยูโงะ เด็กหนุ่มผู้มีผลการเรียนดีเลิศ เขาต้องการแยกจากครอบครัวมาอยู่ด้วยตัวเองคนเดียว และด้วยความมั่นใจในตนเองว่าผลการเรียนระดับเขาจะไปเรียนที่ไหนก็ได้อยู่แล้วดังนั้นเขาจึงได้ตัดสินใจเลือกจะเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมปลายสำหรับการเกษตรกรรมโอเอะโสะ หรือเอโซโนะ ซึ่งแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาแต่สำหรับตัวเขาที่มาจากสังคมเมืองเมื่อมาเรียนที่นี่จึงเป็นเรื่องใหม่ไปซะหมดทุกอย่าง ผิดกับเพื่อนๆร่วมชั้นที่ส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับเรื่องราวการเกษตรอยู่แล้ว นอกจากยูโงะจะต้องปรับตัวเข้ากับเพื่อนใหม่ และสังคมใหม่แล้ว เขายังต้องทำความคุ้นเคยกับสัตว์ต่างๆที่มีอยู่มากมายในโรงเรียนนี้อีกด้วยและชีวิตนักเรียนมัธยมปลายของ ฮาจิเคน ยูโงะ ในรั้วโรงเรียนเกษตรกรรมโอเอะโสะได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!!

เรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจาก โรงเรียนการเกษตรโอบิฮิโระ ฮอกไกโด (Hokkaido Obihiro Agricultural High School) ซึ่งเป็นโรงเรียนการเกษตรที่ตั้งอยู่ในบ้านเกิดของคนเขียนนั่นเองค่ะ ประกอบกับ อ.วัว เอ้ย คนเขียนเคยทำอาชีพเกษตรกรมาก่อน ดังนั้นความรู้ทางด้านการเกษตรของเรื่องนี้ก็แน่นปึกเลย ซึ่งในโรงเรียนการเกษตรนี้ นอกจากจะสอนทุกอย่างเกี่ยวกับการเกษตร ตั้งแต่การปลูก ดูแลรักษา คัดสายพันธุ์ เก็บเกี่ยว และการปศุสัตว์ตั้งแต่ การทำความสะอาดคอก คัดสายพันธุ์ การให้อาหาร ไปจนถึงการส่งเข้าโรงฆ่า ยังรวมไปถึงการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรทุกชนิดเลยค่ะ (แอดมินไปดูในเว็บโรงเรียนต้นแบบแล้ว มีการแปรรูปอาหารต่างๆตั้งแต่หมัก ดอง รมควัน ชีส โอยยย เห็นแล้วเกิดกิเลศอยากไปบ้าง) และยังมีการเอาของที่ได้ไปขายในงานเทศกาลอีกด้วย คนเขียนยิ่งอ่านก็ยิ่งเข้าใจค่ะว่าการทำเกษตรกรรมนี่เป็นงานที่สนุกแต่ก็โคตรเหนื่อยสุดๆเลยค่ะ เรื่องเราก็เลยจะได้เห็นพระเอกสลัดคราบจากด็กเรียน กลายเป็น ขี้ข้าเกษตรกร ที่ทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน๊อตตลอดทั้งเรื่อง  (ฮา) เรียกได้ว่าเรื่องนี้ครบรสทั้งๆที่เป็นการ์ตูนเกี่ยวกับการเกษตรจริงๆค่ะ ทั้งสนุก ฮา บ้าบอ แต่ก็มีหลายๆตอนที่ซึ้งมากๆ ทั้งเรื่องที่เกี่ยวกับครอบครัวของแต่ละคน ตอนที่เอาหมูที่เลี้ยงดูประคบประหงมมาแต่เล็กเข้าโรงเชือด การตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของแต่ตัวละครละคน ถ้าคนอ่านตามถึงตอนล่าสุด พระเอกของเราก็มีแพลนที่จะเปิดกิจการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร นางเอกก็ตัดสินใจไม่รับสืบทอดกิจการที่บ้านและเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยด้วย และยังได้ลุ้นถึงความรักแบบปั๊บปี้เลิฟของพระเอกนางเอกด้วย คือแบบพระเอกก็ซื่อ นางเอกก็ซื่อ แต่ลุ้นไปก็เอ็นดูเจ้าแว่นกับน้องอาคิจริงค่ะ น่ารักมากเลย ถ้าใครสนใจเกี่ยวกับการเกษตรที่ดูแล้วจริงจังมากกว่า รากหญ้าบรรดาศักดิ์ แนะนำเรื่องนี้เลยค่ะ

 

รักลวงป่วนใจ – เด็กชายที่มีสัญญารักผูกพันกับสาวน้อยทั้ง 5 แล้วเขาจะเลือกใคร?

เรื่องราวที่เกิดขึ้นจากคำสัญญาของเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงคู่หนึ่งที่ได้ให้กันไว้เมื่อในอดีต โดยมีรอยแผลเป็นบนหน้าผากของเด็กชาย และลูกกุญแจไดอารี่ของเด็กหญิงเป็นหลักฐาน… แม้เวลาผ่านมา 10 ปีสัญญานั้นก็ยังไม่เป็นความจริง เด็กผู้ชายคนนั้นหรือ ”อิจิโจ ราคุ” ยังคงดำเนินชีวิตของตัวเองต่อไป รอวันที่จะได้พบกับผู้หญิงในสัญญาอีกครั้งหนึ่ง… แต่โชคชะตาได้เล่นตลก ชีวิตของเขาเปลี่ยนไป เมื่อเขาถูกทางบ้านบังคับให้คบกับ “คิริซากิ จิโตเกะ” นักเรียนสาวผมทองที่ตัดกับที่คาดผมสีแดงที่ย้ายมาใหม่ ซึ่งเป็นคนที่เขาไม่ชอบหน้าอยู่แล้วด้วยอีกต่างหาก!! เธอคนนี้เป็นใครกันนะ!? ทำไมเขาถึงต้องเป็นแฟนกับเธอด้วย!? แล้วเด็กผู้หญิงที่อยู่ในสัญญาจะทำยังไงต่อไปล่ะ…?! ขอพบกับเรื่องราวความรักอันแสนจอมปลอมปนเสียงตลกขบขันได้แล้ว ณ บัดนี้

เรื่องนี้อ่านแล้วสนุกมากค่ะ ให้ความรู้สึกเหมือนอ่านเลิฟฮินะ เลย ที่ว่าพระเอกมีสัญญาใจกับเด็กผู้หญิงที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กเหมือนกัน ต่างแค่เรื่องแรกนั้นสัญญาว่าจะสอบเข้ามหาลัยให้ติดที่เดียว แต่เรื่องสัญญาว่าจะกลับมาแต่งงานกัน พระเอกก็เป็นประเภทรักเดียวใจเดียวจริงๆค่ะ เขายังคงรอเด็กผู้หญิงที่เขาเคยให้สัญญาด้วยกลับมาแต่งงานกับเขา (เรื่องนี้พระเอกมีมุมน่ารักๆแบบนี้ด้วยก็เลยนึกชอบพระเอกอยู่เหมือนกันค่ะ) แต่ในต้นเรื่องเขากลับโดนคลุมถุงชนให้คบกับเด็กผู้หญิงที่เขาไม่ถูกชะตาด้วยเลย ซึ่งก็นับว่าแปลกที่จู่ๆพ่อแม่ของพระเอกตัดสินใจแบบนั้น จนมารู้ความจริงในภายหลังว่าแท้จริงแล้ว จิโตเกะนั้นคือ ลูกสาวแก๊งมาเฟีย บีไฮฟ์ ซึ่งราคุต้องรับบทคนรักหลอกๆของเธอเพื่อไม่ให้เป็นที่สะดุดตาแก่ฝ่ายตรงข้าม และตัวจิโตเกะเองก็เป็นตัวละครที่น่ารักมากค่ะ เธอเก่งรอบด้าน ซึนเดเระตัวแม่ และก็ไม่ชอบหน้าพระเอกพอๆกับที่พระเอกก็ไม่ชอบหน้าเธอ แต่พอเวลาผ่านไปความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็พัฒนาขึ้น ราคุเป็นคนที่เข้าใจในตัวเธอมากกว่าใคร และเป็นผู้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเธอในยามที่เธอตกอยู่ในภาวะคับขัน ทำให้เธอหลงรักเขามากขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มจะสงสัยว่าพระเอกคือเด็กผู้ชายที่เคยสัญญากับเธอไว้หรือเปล่า ซึ่งทางฝ่ายพระเอกก็เริ่มระแคะระคาย  แต่ก้างชิ้นใหญ่ 2 ข้างก็ปรากฏตัวขึ้นเมื่อมีเด็กผู้หญิงอีก 2 คนอ้างเป็นเด็กหญิงที่ทำสัญญากับพระเอกไว้โดยมีหลักฐานที่เหมือนนางเอกทุกอย่าง เรื่องนี้ก็เลยสนุกตรงที่ว่า เราต้องช่วยพระเอกสืบหาความจริงค่ะ ว่าใครคือนางเอกตัวจริงของเขา สำหรับใครที่ชอบเรืองแนวเลิฟคอเมดี้แบบนี้ ขอแนะนำให้ลองหาซื้อมาอ่านนะคะ

 


www.batorastore.com © 2024