บำเรอสิเน่หา (ธีรธร)

บำเรอสิเน่หา (ธีรธร)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786167715063
มีสินค้าในสต็อค
ราคา: 227.00 บาท 56.75 บาท
ประหยัด: 170.25 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทนำ

รีกานต์ก้าวขาตามแรงจูงของมารดาอย่างไม่เต็มใจนัก

เข้ามาในบริเวณค่ายทหารอเมริกัน นวลนารถหยุดหน้าร้านฟาสต์ฟู้ด

บล็อกหนึ่งในค่ายแล้วหันมาสั่งลูกสาววัยสิบเจ็ดปี

“รออยู่ตรงนี้นะหญิง แม่จะไปพบพ่อของลูก” ใบหน้าสวย

หวานที่กาลเวลาไม่อาจทำลายได้ประดับรอยยิ้ม “นี่อาจเป็นข่าวดีก็ได้

นะหญิง ที่พ่อนัดแม่มาเจอ”

“คิดว่าเขาจะกลับมาหาเราสองคนหรือคะ” นรีกานต์ย้อน

หันหน้าหนีอย่างไม่เชื่อว่า ‘ผู้ชายคนนั้น’ เกิดจะมามีความรับผิดชอบ

เอาตอนนี้

เขาไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าหล่อนมีตัวตน!

“เดี๋ยวเถอะหญิง” มารดาตีหน้าดุ ถอดแหวนทองหัวทับทิม

สีแดงสดส่งให้ลูกสาว แล้วชูแหวนอีกวงที่หน้าตาเหมือนกัน ต่างกัน

แค่หัวแหวนที่เป็นมรกตสีเขียว “หญิงคอยดูนะ คนที่สวมแหวนทอง

หัวมรกตนั่นแหละ พ่อของหญิง”

นวลนารถจูบแก้มสีแดงปลั่งของบุตรสาวแล้วเดินหายลับ

เข้าไปในเขตค่ายที่ลึกขึ้น นรีกานต์ถอนใจตาม ไม่เชื่อว่าวันนี้หล่อนจะ

ได้พบพ่ออย่างที่แม่หล่อนเชื่อมั่น

หญิงสาวกวาดตามองรอบๆ ค่ายทหารที่มีความเจริญตาม

ฉบับอเมริกัน ต่างจากบรรยากาศนอกค่ายโดยสิ้นเชิง ปกติแล้วค่าย

ทหารอเมริกันเป็นเขตปลอดคนไทย ยกเว้นทหารระดับสูงและบุคคล

ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ซึ่งหล่อนกับมารดาเข้ามาได้เพราะมีจดหมาย

จากท่านจอมพลเป็นหลักประกันว่าไม่มีอันตรายต่อค่ายนี้

ช่วงนี้เป็นยุคสงครามเวียดนาม ประเทศไทยถูกใช้เป็นฐานทัพ

ในการสร้างสนามบินเพื่อให้สะดวกต่อการรบ ฐานทัพอุบลฯ เป็นหนึ่ง

ในฐานที่กองกำลังอเมริกันมาลงหลักไว้ นอกเหนือจากฐานอื่นๆ ที่

รัฐบาลไทยเปิดให้เข้ามาตั้งกองทัพตั้งแต่พุทธศักราช 2507

ขณะเขี่ยก้อนหินรออย่างเบื่อๆ และหลบไปนั่งมุมกันสายตา

ฝรั่งมังค่าที่ลามเลียหล่อนไม่หยุด แหม่มสาวคนหนึ่งก็เข้ามาทักด้วย

นึกเอ็นดูในหน้าตาสดใสของเด็กสาวชาวไทยคนนี้

“สวัสดีจ้ะ เธอเป็นใคร เข้ามาทำอะไรในค่ายนี้หืม” หล่อน

เอียงคอรอคำตอบแล้วสะดุ้งเหมือนนึกขึ้นได้ “เอ้อ ขอโทษทีจ้ะ พูด

ภาษาอังกฤษได้หรือเปล่า”

“พูดได้ค่ะ” นรีกานต์ตอบสำเนียงสุภาพ ภาษาอังกฤษเป็น

สิ่งที่แม่นวลนารถฝึกให้ตั้งแต่เด็ก เพราะหล่อนเป็นลูกครึ่ง ถึงจะเป็น

ลูกครึ่งที่ไม่เคยเห็นหน้าพ่อตัวเองก็เถอะ “ฉันกับแม่มาทำธุระค่ะ”

“อ้าว แล้วแม่เธอไปไหนล่ะ”

“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ เดินไปทางนู้น” หล่อนชี้ไปยังทิศที่

มารดาเดินลับไป

แหม่มผมทองอุทานถึงพระเจ้า เบิกตากว้างอย่างตระหนก

“พระเจ้า! ทางนั้นมันทางหลังเขานี่”

“มีอะไรหรือเปล่าคะ” นรีกานต์เริ่มรู้สึกถึงกลิ่นแปลกๆ จึง

รีบถาม

“วันนี้มีทิ้งระเบิดที่หลังภูเขา” คนตอบหน้าเผือดสี

ปกติแล้วบริเวณหลังเขาจะไม่มีชาวบ้านอาศัยอยู่ ใช้เป็น

สถานที่สำหรับทิ้งระเบิดที่เหลือกลับมาจากการรบ เป็นเขตอันตรายที่

ไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปเหยียบย่าง

‘ให้ตายสิ! แล้วแม่ของเด็กคนนี้ไปทำอะไรแถวนั้น

“แม่!” นรีกานต์ช็อก วิ่งไปทางที่แม่ไป แต่ถูกสาวอเมริกันวิ่ง

มาดึงตัวไว้

“ไปไม่ได้นะ มันอันตราย”

“ปล่อยฉัน แม่ฉันอยู่ที่นั่น ฉันจะไปหาแม่” นรีกานต์ดิ้นสะบัด

หวาดกลัวจนน้ำตาทะลัก

หล่อนกำพร้าพ่อคนเดียวก็มากพอแล้ว...อย่าให้ต้องเสียแม่

ไปอีกคนเลย!

ทว่า...สิ่งที่หล่อนวอนขอพระในใจไม่เป็นผล แสงสีเหลือง

ปนส้มประกายแดงสว่างวาบพร้อมเสียงกัมปนาทกึกก้อง ทุกคนใน

ค่ายดูเคยชิน ไม่มีใครสะดุ้งสะเทือน หากคนที่รอมารดากลับรู้สึก

เหมือนโลกตีลังกากลับ ท้องไส้ให้ปั่นป่วน วาบโหวงในอกราวกับถูก

ใครกระชากหัวใจออกจากร่าง

“กรี๊ด!”

รีกานต์ไม่ใช่คนมองโลกในแง่ดี แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายนัก หาก

คราวนี้เมื่อหล่อนต้องการจะมองโลกในแง่ดี...ดีที่สุด...แต่โลกกลับ

มอบสิ่งที่เลวร้ายที่สุดให้

ร่างโชกเลือดของมารดาถูกเคลื่อนย้ายบนรถจี๊ปผ่านหน้า

หล่อนไป นรีกานต์กรีดร้องแทบเป็นลม แหม่มสาวใจดีเห็นแล้วสงสาร

จึงอาสาพาหล่อนขึ้นรถอีกคันตามไปส่งที่โรงพยาบาล พร้อมขอให้

ทุกอย่างไม่รุนแรงอย่างที่คิดแล้วกลับไป

นวลนารถถูกนำส่งโรงพยาบาลในตัวจังหวัดไม่ใช่อนามัย

เพราะว่าอาการสาหัสพอควร เข้าห้องไอซียูตั้งแต่พยาบาลเห็นสภาพ

นรีกานต์วิ่งมาเกาะประตูร้องไห้ปานจะขาดใจ มีทหารนายหนึ่งที่ตาม

ติดมารดาหล่อนมา จำได้ว่าเป็นคนที่ขับรถมาส่ง

หมอพยายามเยียวยาอยู่เกือบเช้า สุดท้ายก็ออกมาส่ายศีรษะ

ดับความหวังของนรีกานต์ให้ดำดิ่งลงนรก หญิงสาวกรีดร้องลั่น โผน

เข้าไปในห้องไอซียู วิ่งไปกุมมือมารดาที่นอนหายใจผะแผ่ว รอยเลือด

เป็นคราบบนเสื้อซึ่งขาดกะรุ่งกะริ่ง

“แม่จ๋า ฮือๆ อย่าทิ้งหญิงไป”

“คลิฟต์...ลอฟ...”

นวลนารถไม่รับรู้สิ่งที่ลูกสาวสื่อ หล่อนเพ้อถึงชื่อนั้นอย่าง

ยากลำบาก แล้วปล่อยลมหายใจห้วงสุดท้ายออกมา ก่อนแน่นิ่งไป

ตลอดกาล

“แม่! แม่ ฮือๆ อย่าทิ้งหญิงไป แม่!” นรีกานต์ดึงที่ช่วยหายใจ

มาครอบจมูกมารดา ตะโกนเรียกหมอให้ช่วยยื้อชีวิตของมารดาอีกครั้ง

แต่ทุกอย่างก็สายเกินไป หญิงสาวสะอื้นลึก ซบหน้ากับอกเปื้อนโลหิต

อย่างหดหู่

“แม่ แม่จ๋า ฮือๆ”

หลังจากนั้นสิบนาที เจ้าหน้าที่ทางโรงพยาบาลก็มารับศพ

นวลนารถไปไว้ที่ห้องดับจิต นรีกานต์รั้งแม่ไม่ให้ใครมาเอาไป แต่แรง

เด็กสาวหรือจะสู้บุรุษพยาบาลที่คุ้นเคยกับอาการรับไม่ได้ของญาติ

คนตายเช่นนี้

สุดท้ายนรีกานต์ก็มานั่งจมปลักในภวังค์ความเศร้าสลดและ

สูญเสียอยู่ตรงหน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ สติของหล่อนคงไม่คืน

มาง่ายๆ หากไม่มีคนมาถามหามารดาหล่อนกับพยาบาล

“ขอโทษนะครับ คนไข้ฉุกเฉิน ที่โดนสะเก็ดระเบิด เมื่อครู่เป็น

อย่างไรบ้างครับ”

“เสียชีวิตแล้วค่ะ” พยาบาลตอบ

“ท่านครับ” คนถามหันไปหาชายร่างสูงใหญ่ชาวอเมริกัน

คนหนึ่ง ใบหน้านิ่งขรึมดูดุจัด “เธอเสียชีวิตแล้วครับ”

ม่านน้ำตาไม่อาจบดบังภาพตรงหน้าได้ นรีกานต์จ้องชาย

คนนั้นนิ่ง เลื่อนสายตาลงไปมองนิ้วมือเขาด้วยห้ามสายตาไม่ได้ หัวใจ

หล่อนเต้นระทึกราวกับรัวกลอง

และเหมือนจะหยุดเต้น...เมื่อสายตาปะทะกับแหวนทอง

หัวมรกตบนนิ้วก้อยของผู้ชายคนนั้น!

พ่อของหล่อน!

“ฝากจัดการติดต่อครอบครัวของเธอด้วยแล้วกัน ฉันต้อง

บินกลับอเมริกาคืนนี้แล้ว” เขาสั่งแล้วกลับออกไปจากโรงพยาบาล ไม่

แม้แต่จะชายตามองเด็กสาวที่ร่ำไห้มองตามเขาอย่างตกตะลึง

ความรับผิดชอบเดียวที่มีให้หลังจากเป็นต้นเหตุให้แม่หล่อน

ต้องตาย คือทิ้งเรื่องไว้ให้คนอื่นจัดการต่ออย่างนั้นหรือ

พอกันที! หล่อนไม่มีพ่อเห็นแก่ตัวอย่างนี้อีกต่อไป!


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (31 รายการ)

www.batorastore.com © 2024