ชมพู่ม่าเหมี่ยว (โสภี พรรณราย)

ชมพู่ม่าเหมี่ยว (โสภี พรรณราย)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9789749452592
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 190.00 บาท 47.50 บาท
ประหยัด: 142.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

มนุษย์มี ‘กรรม’ เป็นเครื่องกำหนดวิถีชีวิต

และไม่สามารถจะหลบเลี่ยงได้เมื่อคราวจะตอบสนอง

การอภัยและอโหสิกรรมให้กันนั้นเป็นเพียงเพื่อบรรเทา

ความสำนึกและการยอมรับ คือสิ่งที่กระทำได้ดีที่สุด

 

 

1

 

เพียงตะวัน

                เป็นชื่อโรงพยาบาล ชื่อโรงพยาบาลที่แสนหวานและอบอุ่น เป็น

โรงพยาบาลเล็ก ๆ  รักษาคนไข้และมีเตียงจำกัดเป็นเรือนไม้ส่วนใหญ่ และ

สร้างตึกสี่ชั้นอยู่ข้าง ๆ  สำหรับรักษาคนไข้นอก

                ถึงเป็นโรงพยาบาลเล็ก ๆ  แต่มีเนื้อที่กว้างขวางหลายสิบไร่ ปลูก

ต้นไม้ร่มรื่นราวกับเป็นรีสอร์ต หรือสถานที่ท่องเที่ยว

                        มุมพักผ่อนมีลำธารไหลผ่าน การดูแลรักษาให้งดงามด้วยพรรณไม้

นานาชนิดต้องอาศัยคนสวนดูแลหลายคน

                เจ้าของโรงพยาบาลรักพรรณไม้ รักธรรมชาติ การทุ่มเทรักษา

คนไข้ไม่ได้เน้นต้องการเงิน แต่เน้นความช่วยเหลือคนเจ็บ รวมทั้งสิ่งแวดล้อม

ในโรงพยาบาลต้องเป็นธรรมชาติ

                ท่ามกลางธรรมชาติกว้างใหญ่ อันเป็นอาณาเขตของโรงพยาบาล

สาวสวยคนหนึ่งอยู่ในวัยยี่สิบปีนี้ หากดูอ่อนเยาว์หน้าใส ตัวเล็กระหง

สวมเสื้อยืดกางเกงยีน น่ารัก กระโดดข้ามลำธาร เดินผ่านไม้เล็ก ๆ

เรียงรายเพื่อไปยังโขดหินข้างหน้า

 

2

 

                เป้าหมายของหล่อนไปยังต้นชมพู่ต้นที่โดดเด่น ตอนนี้ชมพู่

กำลังออกผลเก็บกินได้ทุกวัน เปรี้ยวอมหวานอร่อย

                หล่อนเสร็จงานแล้ว มักจะแวะมาที่นี่ทุกวัน หล่อนชื่อชมพูนุท

ชื่อเล่นชมพู่ ชมพู่ชอบกินชมพู่ ค่อยๆปีนขึ้นไปไม่สูงนัก

                หล่อนไม่ใช่เด็กหญิงเล็ก ๆ แต่ปีนี้อายุยี่สิบปีแล้ว เคยปีนต้นไม้

ตั้งแต่เด็ก จึงปีนเป็นประจำ อายุเท่าไหร่ไม่ใช่อุปสรรค เลือกนั่งบนกิ่งที่

แข็งแรง เลือกเด็ดชมพู่ที่เป็นสีแดงเข้ม

                หล่อนทานอย่างสบายอารมณ์ ราวกับโลกนี้เป็นของหล่อน

                สาวสวย ผิวเนียนละเอียดแก้มใส ดวงตากลม จมูกโด่ง มีคน

ชมว่าหล่อนสวย หล่อนมักจะยิ้มรับคำชม

                โลกของหล่อนอยู่แค่โรงพยาบาลแห่งนี้ หลายปีแล้ว หลายปี

เหลือเกิน

                ยามนี้เป็นยามที่หล่อนมีความสุข ได้ทำอะไรอย่างที่ใจอยากจะทำ

อย่างเช่นซุกซนแบบเด็ก ๆ ปราศจากสายตาของผู้ใหญ่คอยจับจ้อง

หล่อนจึงมักหนีมาที่นี่เป็นประจำ ใคร ๆ ในโรงพยาบาลว่าหล่อนไม่รู้จักโต

                โรงพยาบาลเพียงตะวัน มีป้ารำไพเป็นจ้าของ

                ป้ารำไพเป็นคุณหมอแก่ ๆ ที่ใจดี แต่บางขณะก็เคร่งรขรึมเอางาน

เอาการ ใครทำผิดท่านจะตำหนิ ใครทำถูกท่านจะสรรเสริญชมเชย ไม่มี

ใครอยากคุยกับป้ารำไพเท่าไหร่เนื่องจากเกรงกลัวท่าน

                ท่านเป็นโสดตัวคนเดียว แต่มีเงินมากมาย และทุ่มเทกับงานใน

โรงพยาบาลเล็ก ๆ ของท่าน หัวหน้าพยาบาลชื่ออนงค์ ชมพูนุทจะเรียก

ป้าอนงค์ ป้าอนงค์เป็นหม้ายและอยู่กับลูกสาว พี่โศรยา พี่โศรยาเป็น

พยาบาลเช่นกัน

                ป้าอนงค์ก็เป็นเพื่อนสนิทของิป้ารำไพ งานน้อยใหญ่ในโรงพยาบาล

ป้ารำไพก็ได้ป้าอนงค์กับพี่โศรยาช่วยดูแล ชมพูนุทจะสนิทกับพี่โศรยา จะ

เรียกพี่สาวคนสวยเสมอ และพี่โศรยามักจะเรียกหล่อนว่า ชมพู่ม่าเหมี่ยว

ชื่อเล่นว่าชมพู่ แต่เรียกซะยาว

                หล่อนกินนอนในโรงพยาบาลแห่งนี้ ด้านหลังโรงพยาบาลมี

 

 

 

3

 

บ้านพักสองหลัง หลังหนึ่งเป็นของพยาบาลกับคนงานที่นอนค้างใน

โรงพยาบาล อีกหลังเป็นหลังใหญ่ของป้ารำไพ เจ้าของโรงพยาบาล ป้า

อนงค์กับโศรยาก็อยู่กับท่าน และหล่อน ชมพูนุทก็อยู่กับท่าน อยู่ที่นี่

โรงพยาบาล ตั้งแต่เมื่อไหร่ ตั้งแต่เมื่อไหร่?

                เอ๊ะ! ทำไมหล่อนคิดไม่ออก

                วูบหนึ่งหล่อนเห็น เห็นเปลวไฟ และเสียงระเบิด รถ รถระเบิด

ในรถมีคน ใคร เป็นใคร ทำไมหล่อนมักฝันร้ายเช่นนี้ ทั้งที่ในชีวิตจริง

หล่อนเป็นคนร่าเริง แจ่มใส

                หล่อนฝันร้าย เปลวไฟ...ระเบิด...รถ

                “โอ๊ย!” ชมพู่ในมือหลุดมือ กิ่งไม้หัก

                หล่อนตกลงมา

                วูบเดียวเปลวไฟกับระเบิดหลดหายไปจากสมองราวกับปิดโทรทัศน์

ภาพที่เห็นหายไป และหลุดจากความทรงจำ

                หล่อนตกลงมา ปะทะกับร่างของใครซึ่งตกใจร้อง

                “เฮ้ย...” เป็นผู้ชาย

                ผู้ชายเข้ามาในเขตบริเวณโรงพยาบาลได้อย่างไร ถ้าเป็นคนที่มา

ใช้บริการมักอยู่แค่ด้านหน้า เพราะด้านหลังเป็นสถานที่ส่วนตัว เป็นเขต

สวนผลไม้และดอกไม้

                เขารับร่างของหล่อน ร่างหล่อนปะทะอย่างแรงจนเขาล้มลง หล่อน

อยู่บนร่างเขา เขาโอบกอด

                หล่อนหน้าแดงรีบพยายามลุกขึ้นยืน ลุกยากทั้งคู่เพราะคนหนึ่ง

ตกจากที่สูง อีกคนอยู่ข้างลน่าง อยู่ ๆ ก็มีอะไรตกลงมา

                ชมพูนุทเจ็บน้อยกว่า เขาเจ็บมากกว่า เขาลุกไม่ค่อยจะขึ้นเลย

เจ็บจากแรงปะทะ รับเต็ม ๆ

                เจ็บยังไม่เท่าไหร่ งานของเขาเสียหายด้วยเพราะเขากำลังวาดภาพ

อยู่ริมธารเล็ก ภาพที่ตั้งใจวาดไว้ พอล้มลงก็กระเด็นลงไปในลำธารนั้นเปียกหมด

เสียหาย

 

 

 

 

 

 

4

 

                พอลุกขึ้นก็รีบโจนลงหยิบแผ่นภาพขึ้นมา แต่ไม่ทันแล้ว ภาพ

เปียกหมดแล้ว เสียหายไปแล้ว

                วูบหนึ่ง เขาอารมณ์เสีย

                “คุณไปอยู่บนไม้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมตกลงมา ดูสิ ผลงานของ

ผมเสียหายหมดเลย ใช้ไม่ได้เลย ต้องวาดใหม่”

                ภาพวิวในโรงพยาบาลสวยมาก ฝีมือเขาดีมาก วาดจน

เกือบเสร็จแล้ว วาดตั้งแต่บ่ายจนเย็น เสียเวลาไปหลายชั่วโมง จนเกือบ

เสร็จ เกือบถึงขั้นตอนลงสีแล้ว

                ชมพูนุทยังไม่ทันพูดอะไร เขาใส่ต่ออีกชุด

                “อะไรกัน ไม่ใช่เด็กแล้วนะโตเป็นสาวยังปีนต้นไม้ ขึ้นไปทำไมข้าง

บน แล้วไม่ระวัง ตกลงมา ดีผมไม่แขนขาหัก ตับไตไส้พุงไม่ทะลัก คุณน่ะ

ไม่เป็นอะไรหรอกเพราะคุณอยู่บนมีผมเป็นเบาะรองรับ ผมหนักอยู่คนเดียว

เล่นแบบเด็ก ๆ คุณน่ะเด็กหนวดแล้วไม่ใช่เด็กเล็ก”

                โอ้โฮ หล่อนอ้าปาก

                พูดเป็นชุด คงโกรธมาก ว่าหล่อน จริง ๆ แล้วหล่อนผิด ผิดเต็ม

ประตู แต่ไม่มีเจตนา หากโดนว่าเป็นชุดแบบนี้หล่อนก็เล่นบทดื้อ เกเรเป็น

หล่อนยังรู้สึกตัวเองเป็นเด็กอยู่เลย

                เด็กเกเร หล่อนก็เล่นเป็น ขืนยอมรับผิด หล่อนคคงถูกต่อว่า เถียง

ซะเลย

                “แล้วคุณเป็นใครมาจากไหน อยู่ ๆ บุกรุกเข้ามาในบริเวณสวน

หลังโรงพยาบาล ถึงคุณจะอ้างเป็นคนไข้หรือญาติมาเยี่ยมคนไข้ก็มีเขตกั้น

ด้านโน้น ด้านหน้าเป็นเขตบริการ มีเขตกั้นห้ามเข้าบริเวณด้านหลัง เป็น

เขตส่วนบุคคล คุณบุกรุกเข้ามาฉันจะจับส่งตำรวจ”

                พูดกันคนละเรื่องเลย หล่อนจะจับเขา เขาเองก็งง ต่อว่าหล่อน

หยก ๆ หล่อนกับย้อน จากคนผิดกลายเป็นเขาผิด

                “คุณ คุณ มันคนละประเด็นกันเลยนะ คุณตกลงมาทับผม ทำให้

รูปวาดของผมกระเด็นตกลำธาร คุณจะว่าอย่างไร”

                ชมพูนุทพูดหน้าหยิ่ง ๆ

 

5       

 

“แล้วคุณบุกรุกเข้ามาเขตหวงห้าม คุณจะว่าอย่างไร”

                “เขตหวงห้าม”

                “ก็ใช่น่ะสิ คุณผิดที่บุกรุก”

                “ผม”

                “ถ้าคุณไม่แอบบุกรุกเข้ามา ฉันก็ไม่ตกทับคุณภาพวาดคุณก็

ไม่กระเด็นลงลำธาร”

                “เดี่ยว เดี๋ยว” เขาไม่ยอมรับ เขาไม่ผิดแน่นอน

                “คุณเป็นคนผิด”

                “คุณสิ โตเป็นสาวยังปีนต้นไม้ ขึ้นไปทำไม หรือคิดว่าตัวเองเป็น

ลิง”

                เป็นลิง

                “บ้า ใครเป็นลิง”

                “ก็คุณ”

                “ฉันไม่ใช่ลิง”

                “แต่คุณทำท่าเหมือนลิง”

                “ใครว่า”

                “คุณไง”

                “ฉันไม่ใช่”

                “แต่คุณทำท่าเป็นลิง ปีนขึ้นไป” ชมพูนุทกำมือแน่น

                หล่อนปีนต้นไม้ตั้งแต่เด็ก คนในโรงพยาบาลแซวว่าหล่อนเป็นลิง

หล่อนยอมรับ แต่ผู้ชายคนนี้เป็นใคร หล่อนไม่ยอมรับ เขาเป็นคนแปลกหน้า

เขาเป็นคนที่หล่อนไม่เคยพบ

                “ฉันปีนตั้งแต่เด็กแล้ว ฉันปีนเป็นประจำ”

                เขากลับหัวเราะ หล่อนฟังแล้วเหมือนกับเสียงหัวเราะเยาะ

                “โธ่คุณ ถ้าคุณปีนตอนเป็นเด็ก ผมจะไม่ว่าเลย เด็กย่อมซนเป็น

ธรรมดา แต่คุณ”

 

                6

 

 

หล่อนโบกมือ “พอ พอ”

                “คุณยังไม่ขอโทษผมเลย” เขารูสึกหงุดหงิด

                “แต่ไม่มีประโยชน์เลย ภาพผมเสียหาย และผมต้องเจ็บตัวเพราะ

คุณ” ว่าหล่อนอีกแล้ว

                ชมพูนุทเถียงและพูดเรื่องความผิดของเขาบ้าง

                “แล้วคุณล่ะ บุกรุกเข้ามา ฉันจะจับคุณไปส่งยามและอาจจับส่ง

ตำรวจ”

                ชายหนุ่มกลับหัวเราะ

                “จับผม”

                “ก็จับคุณน่ะสิ”

                “ข้อหาอะไร”

                “บุกรุก”

                “ผมไม่ได้บุกรุก”

                “คุณบุกรุกเห็นๆ ฉันเป็นพยาน ตายแล้วคุณอาจเป็นผู้ร้ายก็ได้”

                “ผู้ร้ายอะไรของคุณ ผมมาวาดภาพ คุณก็เห็น และผมวาดภาพ

ตั้งแต่บ่ายแล้ว”

 

 

 7

 

ชมพู่เบิกตากว้าง

“คุณบุกรุกเข้ามาตั้งแต่บ่าย คุณกล้าดีอย่างไร ในสวนหวงห้าม

ของฉัน”

                ชายหนุ่มเบิกตากว้าง

                “ของคุณ”

                “ใช่ สวนของฉัน”

                “ที่นี่ของคุณ”

                “ใช่”

                “ไม่ใช่มั้ง”

                “เอ๊ะ! คุณพูดอะไร คุณบุกรุกแล้วยังพูดมาก”

                “เท่าที่ผมทราบ โรงพยาบาลกับสวนเป็นของคุณรำไพนี่นา”

                เออ...เขารู้เสียอีกแน่ะ รู้ด้วย รู้จักป้ารำไพ

                “แต่คุณรำไพที่คุณพูดถึงเป็นป้ารำไพของฉัน”

                ชายหนุ่มทำท่าทางงง

                “เอ แต่เท่าที่ผมทราบ คุณรำไพมีแต่หลานชายสามคน ไม่มี

หลานสาว”

 

                8

 

“ฉันเป็นหลาน ชมพูนุทยืนยัน เขาก็ยืนยัน

                “แต่ผมทราบมาว่าคุณรำไพเป็นโสด มีแค่น้องชายคนเดียวและ

น้องชายของท่านก็มีลูกชายสามคน เพราะฉะนั้นคุณรำไพมีหลานชาย

เกิดจากน้องชายเพียงสามคน”

                ท่านไม่เคยพูดเรื่องนี้กับหล่อนเลย ชมพูนุทรู้แต่ ใช่ ท่านเป็นโสด

ผู้ชายคนนี้พูดเหลวไหล

                “คุณพูดเหลวไหล”

                “ผมพูดความจริง”

                “เหลวไหล กลัวฉันจับส่งตำรวจเลยพูดจาเพ้อเจ้อ  ถึงอย่างไร

ฉันจะจับคุณส่งตำรวจ

                ชายหนุ่มโคลงศีรษะ

                “คุณน่ะเป็นใครจะจับผม”

                “ฉันเป็น”

                เป็นใคร? ชมพูนุทงง

                หล่อนเป็นอะไรกับเจ้าของโรงพยาบาลแห่งนี้ หล่อน เป็น เป็นแค่

ผู้อาศัย แค่คนมาขออยู่ แค่คนที่ท่านเมตตาและรัก

                หล่อนเป็นใคร เด็กกำพร้า พ่อแม่ตาย ไร้ญาติ ท่านรับเลี้ยง หล่อน

ไม่ได้เป็นอะไรกับท่าน ถ้าไม่ได้ท่าน หล่อนอาจเป็นเด็กอยู่ข้างถนน

                “คุณเป็นอะไรกับคุณรำไพ” เขาถาม

                เป็น เป็น วูบ หล่อนเห็นประกายไฟ กับระเบิดรถ อเห็น เห็นเปลว

ไฟ ไฟ ระเบิด รถ

                ใบหน้าหล่อนซีด ใจเต้นแรงทรุดลงกับพื้น ไร้เรี่ยวแรง

                ชายหนุ่มตกใจ

                “เฮ้ย...คุณเป็นอะไร” เขารีบประคองร่างหล่อน หล่อนแน่นิ่งไป

ชั่วครู่ ราวกับเป็นหุ่น หุ่นยนต์ ตัวแข็ง ดวงตาเบิกโพลง

                และแล้ว ผ่านไปอย่างรวดเร็ว รวดเร็วมาก ผ่านไปแล้วผ่านไป

หล่อนลืมทุกอย่าง อะไรกัน หล่อนอยู่ในอ้อมแขนเขา ชมพูนุทตกใจ ตวาด

                “คุณจะทำอะไรฉัน”

               

 

                9

 

จะลวนลามหล่อนใช่มั้ย ในเมื่อเขาโอบประคอง หล่อนรีบลุกขึ้นยืน

                “คุณจะลวนลามฉัน” หล่อนว่า

                ชายหนุ่มสะบัดศีรษะแรง ๆ

                “ก็คุณจะเป็นลม อยู่ ๆ เบิกตากว้างจะเป็นลม ทำเอาผมตกใจ

จะบ้าตาย”

                “ฉัน ฉัน” ฉันเป็นอะไร เปล่า ฉันไม่ได้เป็น หล่อนลืมสนิท ลืม

ลืมสนิท

                “คุณจะเป็นลม”

                “ฉันเปล่านะ ฉันไม่ได้เป็นอะไรเลย ฉันยืนเฉย ๆ ฉันไม่ได้เป็น

อะไร

                ชายหนุ่มกระพริบตาถี่ ๆ เพิ่งเคยเจอผู้หญิงแบบนี้ บอกว่าไม่ได้เป็น

อะไร เมื่อกี้หยก ๆ หล่อนวูบไปเลย โดยเบิกตากว้างอย่างตกใจ หวาดกลัว

เป็นไม่กี่วินาที บทจะหายก็หายเป็นปกติ

                “คุณมาจับฉันทำไม”

                “ผมช่วยพยุงคุณ”

                “ฉวยโอกาสจะลวนลามฉัน”

                “ผม” เจอคนประสาทแล้วหรือ

                “คุณจะต้องไปพบยคามกับฉัน” หล่อนบอกอย่างเคร่งเครียด

                ชายหนุ่มไม่ยอมไป

                “ผมไม่ไป”

                “คุณบุกรุก”

                “ผมไม่ได้บุกรุก”

                “คุณบุกรุก”

                “เอ้า...ผมบอกว่าผมไม่ได้บุกรุก”

                “แล้วคุณเป็นใคร”

                “ผม่ชื่อรุจ”

                รุจ?

                ขณะเดียวกันนั้น คุณรำไพ นางอนงค์กับโศรยาเดินมา

 

                10

 

คุณรำไพทักทายกับชายหนุ่ม

                “อ้าว...รุจ มาอยู่แถวนี้เอง”

                “ครับ คุณป้า”

                “เป็นไง วาดรูปไปถึงไหน”

                “เสียหายหมดแล้วครับ”

                “อ้าว”

                “นั่นไงครับ” ตกลำธารถึงเอาขึ้นมาแล้วก็เปียกจนใช้งานไม่ได้

สกปรกด้วย

                “ทำไมเป็นอย่างงั้น”

                “นั่นล่ะครับ ต้นเหตุทำภาพผมเสียหาย” รุจชี้ไปทางชมพูนุท

                หญิงสาวงง ผู้ชายคนนี้รู้จักกับป้ารำไพ เจ้าของโรงพยาบาลได้อย่างไร

หล่อนอยู่กับป้ามานาน ยังไม่เคยเห็น ‘เขา’ เลย

                “หนูชมพู่” คุณรำไพหันมา

                “ป้าคะ ป้ารู้จักนายคนนี้ด้วยหรือคะ”

                “รู้จัก”

                “ตายแล้ว เขาเป็นใคร ชมพู่ปีนขึ้นไปเด็ดชมพู่กิน อยู่ ๆ ก็ตกลง

มาทับถูกนายคนนี้ มานั่งเกะกะอยู่ริมลำธารตอนตกลงมาแข้งขาเลยไป

ปัดถูกรูปตกลงไปในน้ำ ชมพู่ไม่ใช่คนผิดนะคะ นายคนนี้บุกรุกต่างหาก”

                ตอนปีนขึ้นไปอยู่คนละด้านกัน หล่อนไม่ทันสังเกตว่าจะมีใครเข้า

มาในอาณาเขตของหล่อน ชมพู่ต้นนี้ถือเป็นอาณาเขตของหล่อน

                รุจบอกกับคุณรำไพ

                “ผมบอกว่าผมไม่ได้บุกรุกเธอไม่ฟังผมเลยครับ เธอเป็นใครครับ

คุณป้า”

                ชมพูนุทงง ผู้ชายคนนี้ก็เรียกคุณรำไพเป็นป้า

                คุณรำไพพยักหน้าช้า ๆ

                “เกิดเข้าใจผิดกันแล้ว”

                ชมพูนุทจับแขนโศรยา พี่สาวคนสวยของหล่อน

                “พี่โศ เขาเป็นใครคะ”

 

                11

 

“เขาชื่อคุณรุจพี่ไม่เคยบอกเธอ คุณรุจเป็นหลานแท้ ๆ ของป้ารำไพ”

                หลานแท้ ๆ

                “รุจเป็นลูกของน้องชายป้าเอง” คุณรำไพบอก

                ชมพูนุททำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก

                “ไปคุยกันที่ห้องรับแขกในบ้านกันเถอะ จะได้ล้างหน้าล้างตากิน

อาหารเย็นด้วยกัน”

                กลับขึ้นมาในบ้าน บ้านที่อยู่หลังโรงพยาบาล ตัวบ้านมีเนื้อที่

กว้างขวางตกแต่งสวยงาม และมีเครื่องอำนวยความสะดวกทุกอย่าง

                ป้ารำไพ เจ้าของบ้านไม่ต้องไปไหนเลย อยู่กินในอาณาเขต เข้า

ไปทำงานเดินไม่กี่ก้าว บ่ายก็กลับมาพัก ใช้เวลาอยู่ที่นี่ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง

                สาวใช้เตรียมอาหารขึ้นโต๊ะเรียบร้อย ชมพูนุทอาบน้ำอาบท่ารีบ

มาที่โต๊ะอาหาร ทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตา

                คุณรำไพ ป้าอนงค์กับลูกสาวของอนงค์ โศรยา เพิ่มอีกคนคือ

ผู้ชายที่ชื่อรุจ

                และหล่อนก็ได้รับรู้ ป้ารำไพมีน้องชายคือ คุณสุจิตต์ ท่านเป็น

รัฐมนตรี เป็นอดีตรัฐมนตรีมีชื่อเสียง แต่งงานกับคุณหญิงคมคายมีลูก

สามคน สุรวุฒิ ชาตวิทย์ และรุจ สุรวุฒิแต่งงานกับศิวาพร ชาติวิทย์กับ

รุจยังเป็นโสดเนื้อหอม มารดาคุณรำไพยังมีชีวิตอยู่

                คุณนายสายสมอายุปีนี้ย่างแปดสิบแล้ว

                คุณรำไพออกจากบ้านมาสร้างโรงพยาบาลเอง เมื่อสิบห้าปีก่อน

เพราะมีข้อขัดแย้งกับคุณสุจิตต์ รวมทั้งคุณนายสายสมเข้าข้างบุตรชาย

คุณรำไพน้อยใจ

                คุณรำไพได้มรดกมาจากบิดา ออกจากบ้านมาสร้างโรงพยาบาล

และไม่ได้กลับบ้านอีกเลยสิบห้าปี

                คุณสุจิตต์มีติดต่อกันบ้างแต่นาน ๆ ครั้ง กับบรรดาหลานชายทั้งสาม

สองสามปีจะพบกันสักครั้ง

                เรื่องส่วนตัวนี้ นางอนงค์เพื่อนสนิทจะรับรู้ โศรยาก็รับรู้ ชมพูนุท

 

               

 

12

 

คนเดียวที่ไม่รู้เรื่อง เพราะหล่อนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณรำไพ ทางสายเลือด

ใด ๆ รู้แต่...

                หล่อนมาอยู่โรงพยาบาลนี้สิบปีแล้ว สิบปี ตั้งแต่อายุสิบขวบ มา

อยู่ในฐานะคนไข้ ฟื้นจากการสลบ หล่อนจำได้แค่เคยอยู่กับบิดามารดา

มีความสุข แล้วอยู่ ๆ หล่อนก็สลบไป ไม่สบาย มานอนรักษาตัว

                คนที่นี่บอกว่า หล่อนเป็นเด็กกำพร้า พ่อแม่ตายหมด คุณป้ารำไพ

ท่านเป็นจ้าของโรงพยารบาล ท่านรับเลี้ยงเด็กกำพร้าคนนี้ รับเลี้ยงหล่อน

รับเลี้ยงตั้งแต่อายุสิบปีจนบัดนี้ยี่สิบปี หล่อนช่วยงานในโรงพยารบาล เป็น

พยาบาลฝึกหัด รวมทั้งช่วยงานด้านต่าง ๆ

                ความทรงจำหล่อนหายไปช่วงหนึ่ง ช่วงที่หล่อนป่วยตอนสิบขวบ

เป็นช่วงที่สูญเสียบิดามารดาด้วย หล่อนสูญเสียความทรงจำอย่างสิ้นเชิง

                เมื่อถามถึงพ่อกับแม่ ป้าหมอจะบอกว่า ท่านป่วยตายทั้งคู่ แต่

ชมพูนุทมักฝีนร้าย ฝันร้ายเสมอ ฝันเห็นเปลวไฟกับระเบิด รถ แล้วก็จะ

ลืม ลืม ชนิดปิดสวิตช์เลยทีเดียว

                ชมพูนุท หล่อนจึงเป็นแค่เด็กกำพร้า เป็นผู้อาศัย ผิดกับนายรุจ

เป็นหลานแท้ ๆ ของท่าน

                รุจถามคุณรำไพระหว่างทานอาหาร

                “แล้วคุณชมพูนุทคนนี้เป็นใครครับ” ถามต่อหน้าหล่อนเลยทีเดียว

                หล่อนรู้สึกว่านายรุจจะฉีกหน้าหล่อนหรือไร

 

13

 

                นายรุจจะทำให้หล่อนอับอาย ชมพูนุทเป็นแค่เด็กขออาศัย โดย

ความเมตตาของคุณป้ารำไพหรือป้าหมอของเด็ก ๆ

                หล่อนเป็นคนป่วย ถูกนำส่งโรงพยาบาลตอนเป็นเด็กสิบขวบ ได้

ชื่อเนเด็กกำพร้าตัวคนเดียว

                ป้ารำไพหรือป้าหมอรักษาหล่อนจนหายและรับเลี้ยงเป็นหลาน

ให้กินอยู่ในโรงพยาบาล ร่ำเรียนสิบปี ที่นี่ โรงพยาบาลเป็นบ้านตของชมพูนุท

ไปเสียแล้ว

                “ชมพู่เป็นเด็กที่ป้ารับเลี้ยงเป็นหลาน เป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่ ป้า

รักมากนะเพราะชมพู่น่ารัก”

                รุจพนักหน้ายิ้ม เขายิ้มธรรมดา

                หากชมพูนุทไม่ชอบหน้านายรุจจึงมอง เขายิ้มเยาะถือตัวเป็น

หลานแท้ ๆ

                คุณรำไพคุยกับรุจ

                “เอ้อ...คุณย่าเป็นอย่างไรบ้าง” ถามถึงมารดา คุณย่าสายสม

                ปีนี้ก็แปดสิบแล้วนะ ตัวเองเกือบหกสิบ ปีนี้ก็ห้าสิบแปด จาก

บ้านมาสิบห้าปี ไม่เคยกลับไปเลย สิบห้าปีตามคำพูดไม่กลับไป ไม่กลับ

 

14     

 

คุณรำไพเป็นคนดื้อและทิฐิแรงกล้า ออกจากบ้านทะเลาะกับน้อง

ชายกับคุณแม่ ออกจากบ้านด้วยความไม่เข้าใจด้วยเรื่องรุนแรงทะเลาะกัน

คุณรำไพทนไม่ได้ รับไม่ได้กับพฤติกรรมของผู้เป็นน้องชายที่คิดว่าตัวเอง

ยิ่งใหญ่นัก

                คุณสุจิตต์น้องชาย เคยเป็นรัฐมนตรี เคยมีอำนาจมากมาย รำไพ

อายุมากกว่าน้องชายสามปี รำไพเป็นโสด...โสด เคยมีคนรักตอนท่านอายุ

สี่สิบเศษ ท่านมีรักครั้งแรกในชีวิต

                สิบห้าปีก่อน ท่านยังระลึกถึงความหลัง ท่านอายุสี่สิบสาม ผู้ชาย

คนนั้นยี่สิบอายุน้อยกว่าท่าน เขาชื่อมิ่งยศ มิ่งยศทำงานเป็นพนักงานบัญชี

ในบริษัท เป็นลูกกำพร้ายากจน

                ความรักต่างวัยบวกกับยากจน คุณสายสมไม่เห็นด้วย น้องชาย

สุจิตต์ก็ไม่เห็นด้วย คุณรำไพรักมิ่งยศดื้อดึงจะแต่งงาน

                ทางนั้นเห็นว่ามิ่งยศต้องการตกถังข้าวสาร หากรำไพมองว่าเป็น

รักแท้ และแล้วก่อนวันแต่งงานวันเดียว มิ่งยศเกิดอุบัติเหตุรถชน คนชน

หนี มิ่งยศตาย

                คุณรำไพปักใจว่าเป็นคำสั่งของน้องชายนายสุจิตต์ที่มีอิทธิพลเหลือล้น

ในยุคนั้น ยุคที่ท่านเป็นรัฐมนตรีหลายปี มีทั้งเกียรติยศชื่อเสียงและอำนาจ

คำสั่งให้มิ่งยศตาย ทำให้เป็นอุบัติเหตุ คุณรำไพทะเลาะกับคุณสุจิตต์อย่าง

รุนแรง

                มารดาสายสมเข้าข้างบุตรชาย ท่านเอ่ยปากอย่างลืมตัวไล่ลูกสาว

ออกจากบ้าน คุณรำไพก็เตรียมจะออกจากบ้านแล้ว หล่อนอยู่ร่วมกับน้องชาย

ไม่ได้ อยู่ร่วมกับคนที่ฆ่าคนรักไม่ได้

                กฎหมายไม่สามารถเอาผิด มิ่งยศตายฟรี  คุณรำไพไม่สบายใจ

ท่านจะออกจากบ้าน คุณสายสมลั่นปาก ไปแล้วไม่ต้องกลับมา คุณรำไพ

เสียใจทั้งคนรักตาย ทั้งน้องชายกับมารดาใจร้าย ท่านเองก็กล่าวว่า จะ

ไม่กลับรมาอีก แล้วท่านก็เริ่มสร้างโรงพยาบาลของตัวเอง

                ท่านเป็นหมอ อุทิศชีวิตทั้งหมดกับการช่วยเหลือคนป่วยเพื่อให้

ลืมความเศร้า ความผิดหวัง ทั้งชีวิตรักและชีวิตส่วนตัว สิบห้าปีออกจากบ้าน

 

15

 

อยู่โรงพยาบาล ท่านอยู่ที่ไหนมีหรือทางบ้านจะไม่รู้ คุณสุจิตต์ติดต่อกลับ

มาบ้าง แต่ห่างเหินกันเหลือเกิน

                ส่วนคุณสายสมมารดา คุณรำไพแอบสืบมาว่ามารดาล้มป่วย

มีผลกระทบกระเทือนทางสมอง ความทรงจำไม่ดีนัก

                คุณสายสมเคยถามหาลูกสาวคุณรำไพกับสุจิตต์ คุณสุจิตต์ก็ตอบว่า

ไม่ให้มารดาติดต่อกับพี่สาว เป็นการตัดบทและตัดปัญหาทุกอย่าง

                ส่วนหลานชายสามคน สุรวุฒิ ชาตวิทย์และรุจยังติดต่อกับป้าหมอ

บ้างแต่เพียงนาน ๆ ครั้ง

                วันนี้รุจมาโรงพยาบาลตั้งใจจะมาพบป้าหมอและตั้งใจจะขอวาด

ภาพวิวในสวนของท่าน เขาวาดรูปจนพบกับชมพูนุทจนมีเรื่องมีราว

                และเมื่อป้าหมอถามถึงคุณย่า รุจจึงตอบว่า

                “คุณย่าเจ็บออด ๆ แอด ๆ ครับ เชิญหมอมารักษาตัวที่บ้านและ

จ้างพยาบาลดูแลท่าน”

                “เป็นอะไรบ้าง” คุณรำไพไม่สบายใจ ตัวเองเป็นหมอกลับไม่ได้

ดูแลรักษามารดา

                ใจจริงคุณรำไพโกรธสุจิตต์เพราะเป็นต้นเหตุให้คนรักเสียชีวิต

ทุกวันนี้ยังโกรธน้องชายแต่ไม่โกรธมารดา อยากไปเยี่ยมท่านแต่ไม่อยาก

พบสุจิตต์ ไม่ถูกกับน้องสะใภ้ด้วยคุณหญิงคมคาย จึงตัดใจไม่ไป

                “หลายโรคครับ เห็นว่าเป็นโรคคนแก่ล่ะครับ คุณย่าถามหาคุณป้า

บ่อย ๆ” คนเป็นแม่ไม่เคยตัดขาดจากลูกได้ ต่างคิดถึงกันและกัน

                “แล้วหลานตอบท่านว่าอย่างไร”

                “คุณพ่อให้บอกว่าคุณป้าไปอยู่เมืองนอก”

                จริงสิ คุณสุจิตต์คงไม่อยากให้ตนพบกับมารดา มรดกมารดามากมาย

จะได้ไม่ต้องแบ่งสอง

                ตอนบิดาเสียมรดกก็แบ่งส่วนหนึ่งแล้ว จนคุณรำไรสามารถสร้าง

โรงพยาบาลได้ ท่านไม่โลภ พอแล้วกินไม่หมดแล้ว ตัวคนเดียวด้วย จะโลภ

มากไปทำไม


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (95 รายการ)

www.batorastore.com © 2024