Customer Reviews

5
อายุขึ้นเลขสามเชิญทางนี้เลยจ้า
โดย: Bobaba วันที่เขียนรีวิว: 04 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เล่มนี้จะเหมาะกับใครไปไม่ได้เพราะชื่อเรื่องก็บอกไว้อยู่แล้วนั่นเองว่าเมื่ออายุ30 ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายถ้ามีอายุ30แล้วอ่านซะเลย อะอะอ้าวววใครที่วันนี้พรุ่งนี้จะสามสิบแล้วก็อ่านซะเลยมัวช้าอยู่ไยยย เดี๋ยวก็พลาดเรื่องดีๆไปโดยไม่รู้ตัว5555 เมื่ออายุครึ่งเลขสามก็เรียกได้ว่าเป็นผู้ใหญ่พอควรวัยผู้ใหญ่วัยทำงานวัยใช้ชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์ แน่นอนเรื่องมากมายก่ายกองที่รอให้เราไปจัดการในแต่ละวันก็นำมาซึ่งปัญหาที่ตามมาเช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่หากเป็นคุณพ่อคุณแม่ของลูกตัวน้อยก็มีภาระใหญ่คือการเลี้ยงลูกให้ความสำคัญกับลูก ไหนจะเรื่องเรียนของลูก ไหนจะต้องทำงานเพื่อหาเงินมาเลี้ยงลูก ไหนจะเลี้ยงพ่อแม่อีกก เรียกได้ว่าเป็นช่วงกอบโกยสร้างฐานะครอบครัวกันเลยทีเดียว หนังสือเล่มนี้เป็นการเตือนสติและดูแลเราไปในตัว ให้รู้จักแยกแยะ บางทีวัยนี้เรื่องต่างๆปัญหาต่างๆมากมายถาโถมเข้ามา เราควรจะจัดการกับปัญหาดังกล่าวอย่างไร ควรคิดอย่างไร เรียกได้ว่าพออ่านแล้วกลับเห็นอะไรๆต่างๆมากยิ่งขึ้นที่สิ่งเราทุ่มเทกับสิ่งที่เราลืม คือเตือนสติสิ่งที่เราลืมไปมากๆสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญ เมื่อเครียดๆหรือมีเวลาว่างลองอ่านดูได้อะไรเยอะแยะมากมายเลยหละ เตือนสติให้คิดได้ว่าวัยเข้าเลขสามแล้วควรจะทำอะไร คิดอะไร เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่แนะนำการดำเนินชีวิตอย่างดีเลยหละ วัยนี้แล้วควรเสาะแสวงหาอะไร ใช้ชีวิตอย่างไรเป็นความคิดแบบที่ควรจะคิดเลย เราชอบที่ทำรูปแบบหน้าหนังสือแต่ละหน้าได้น่าสนใจ(เพราะเราชอบสีดหลืองด้วยแหละ เราว่ามันสบายตาดี) คือชอบอะ ใครที่สามสิบแล้วต้องไม่พลาดน้าาาาา
ฝันให้ใหญ่ไปให้สุด
4
ความฝันยิ่งใหญ่เสมอทำให้ใกล้ความฝันเข้าไว้
โดย: Bobaba วันที่เขียนรีวิว: 04 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

แค่ชื่อเรื่องก็น่าอ่านแล้วยิ่งเปิดไปผ่านๆก็ยิ่งน่าอ่าน คือเขานำเสนอแบบเป็นสีๆและใช้ฟอนท์ที่เราชอบด้วย มีการประกอบภาพแบบบางทีก็เป็นกราฟฟิก คือตกแต่งการจัดวางอะไรต่างๆดีอะชอบๆ มันดูทันสมัยดูเข้ากับชีวิตวัยรุ่นอย่างเราๆนี่แหละ แต่เนื้อหานี่ก็ใช่ย่อยสอนความจริงของชีวิตที่อยากประสบความสำเร็จเลยหละ เราว่าเนื้อหาคือดี เตือนสติเราให้เราพัฒนาตัวเอง เวลาท้อเราทำอย่างไร ดูมดสิยังขยันขนาดนั้นแล้วเราหละ บางทีที่เราหมดกำลังใจไม่อยากทำตามความฝันของตัวเองต่อแล้ว ลองอ่านเล่มนี้ดู ทำให้เราฮึดสู้ขึ้นมาได้อีกเฮือกใหญ่เลยหละ ชอบที่มีการยกตัวอย่างเพื่ออธิบายให้เราเข้าใจ แต่เขาจะไม่ได้บอกว่าเช่นอันนี้ๆๆ แต่จะเป็นการเล่าเรื่องเอาเลย ให้เราคิดเองว่าอ่านแล้วได้อะไรรู้สึกอย่างไร เพราะเราก็โตๆกันแล้วมานั่งบอกว่าบทความนี้ๆให้อะไรก็คงไม่ใช่ เพราะฉะนั้นเราเลยชอบ แล้วเรื่องที่เขาเล่าก็มีประโยชน์ทั้งนั้น คืออ่านแล้วได้อะไรเยอะอะ แล้วก็มีคล้ายๆQuoteที่เป็นการกระตุ้นเตือนสติเราอีก เหมือนตอกย้ำเราอีกทีหนึ่ง แบบว่าอ่านไปยิ่งชอบไป ชีวิตคนก็อย่างนี้แหละมาดูกันว่าเราจะใช้ชีวิตหนึ่งๆนี้ได้คุ้มแค่ไหน เราเลือกที่จะทำอะไร เราฝ่าฟันอุปสรรคได้มากแค่ไหน เรายอมแพ้แล้วรึยัง เรากล้าเสี่ยงพอไหม เราจะเสียใจกับความล้มเหลวไปทำไมถ้าไม่มีความล้มเหลวก็......... ที่เราถามๆนั่นคือสิ่งที่เราสรุปได้เนื้อหาคร่าวๆนะ คือหนังสือไม่ได้เขียนอย่างนั้นโดยตรง แต่เราบอกสิ่งที่เราได้จากหนังสือเล่มนี้
3
วิธีที่ทำให้เข้าใจชีวิตมากขึ้นแก้ปัญหาได้ดีขึ้น
โดย: Bobaba วันที่เขียนรีวิว: 04 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

หนังสือเล่มเล็กๆที่ทำออกมาได้อย่างน่าสนใจ เราคิดเองว่าอาจจะเพื่อให้พกไปไหนมาไหนได้สะดวกเวลาที่มีปัญหาต้องการกำลังใจจะได้หาทางออกได้ถูกต้องตามที่หนังสือเล่มนี้เขียนไว้ เหมือนการเตือนสติทำให้เราตื่น คือจะเป็นเนื้อหาที่เกี่ยวกับวิธีการปฏิบัติง่ายๆไม่ยากแต่ละบทก็เพียงหนึ่งหน้าสั้นๆหรือบางทีก็สองหน้า(แต่อย่าลืมนะว่าหนังสือหนะเล่มเล็ก และตัวหนังสือก็ใหญ่อ่านง่ายอีกต่างหาก)คือเนื้อหาสั้นกระชับเพื่อให้เข้าใจและปฏิบัติตามได้ง่ายไม่น่าเบื่อ จะออกแนวพระพุทธศาสนาวิธีการปฏิบัติต่างๆ บางครั้งมีการเล่าเรื่องสั้นๆในพระพุทธศาสนา อธิบายด้วยภาษาง่ายๆทำให้เราเข้าใจได้ คนที่นับถือศาสนาอื่นก็อ่านได้น้าาา เป็นหนังสือที่แนะนำการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องทำให้มีความสุข ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขมากขึ้น ทำให้เข้าใจชีวิตมากขึ้น เราว่าเป็นเหมือนครูผู้แนะแนวทางการใช้ชีวิตในปัจจุบันมากๆที่มีปัญหาเกิดขึ้นมากมายทุกวันมีสิ่งล่อตาล่อใจต่างๆมากมาย บางคนแก้ปัญหาด้วยวิธีผิดๆ ลองอ่านเล่มนี้ดูเลย เขาเสนอเรื่องวิธีปฏิบัติให้ทัังสุขกายสุขใจวิธีคิดอะไรต่างๆในเกือบทุกๆเรื่องเลย เช่น แบ่งเป็นในชีวิตประจำวัน การศึกษา การทำงาน ความสัมพันธ์ ครอบครัว และในแต่ละบทก็แบ่งย่อยๆไปอีกเป็นเรื่องๆ เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่เจอประจำวัน สอนไปทุกๆการดำเนินชีวิตของคนๆหนึ่ง เป็นการทำให้เข้าใจชีวิตมากขึ้น สุขมากขึ้น ปล่อยวางมากขึ้น มีสติมากขึ้น รู้จักพอมากขึ้น เหมาะมากๆสำหรับคนที่มีปัญหาเยอะๆแล้วไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร คือแบบชอบพกติดตัวไปเลยเพื่อเตือนสติตนเอง หากยังไม่มีปัญหาอะไรก็อ่านเล่นๆก็ได้เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันของชีวิตนั่นไงหละ แนะนำให้อ่านเลยยย^^
4
ให้ลูกเล่นนี่หละเจ๋งสุดๆเผยวิธีเล่นพัฒนาลูกน้อย
โดย: Bobaba วันที่เขียนรีวิว: 04 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

แค่ชื่อหนังสือก็น่าสนใจอีกแล้ว เราว่าแค่รุ่นเรายังน่าสนใจแล้วคนที่เป็นพ่อเป็นแม่ที่พึ่งมีลูกน้อยเนี่ยยย ต้องรีบหยิบมาอ่านไม่ทันแน่ๆ คือเห้ยยยยยยยยยยเล่นยังไงให้เก่งอะ ทึกทีจะคุ้นหูกับค่านิยมของสังคมที่บอกให้เรียนเรียนและเรียน พ่อแม่บางคนก็ตกใจต้องให้ลูกเรียนเร็วขนาดนี้เลยหรอเพราะรุ่นคุณพ่อคุณแม่กว่าจะเรียนก็นู่นหละ แต่เด็กสมัยนี้เรียนเร็วมาก หากไม่ส่งให้เช้าเรียนก็กลัวจะตามเพื่อนไม่ทันตามสังคมไม่ทัน แต่ที่ไหนได้หนังสือเล่มนี้บอกเราๆว่าการเล่นก็ทำให้ลูกๆฉลาดขึ้นได้ อ่าวอึ้งหละสิรออะไรอยู่ลองอ่านกันเลย เล่มนี้จากคุณหนูดี วนิษา เรซ สำหรับเล่มนี้มีการใช้ภาพสีสันที่น่าอ่านเป็นกระดาษมันๆ(เราไม่รู้ว่าเรียกว่ากระดาษอะไร5555 โง่เอง-_____-) มาเข้าเนื้อหากันดีกว่า จะเป็นนการถามที่มีคำถามที่น่าสนใจที่เราว่าคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายต้องสงสัยแน่ๆ มาไขความกระจ่างกันด้วยเล่มนี้เลย เขามีวิธีการเล่นที่คุณพ่อคุณแม่สามารถนำไปใช้ได้จริงไปเล่นกับลูกได้เพื่อพัฒนาทักษะของเด็กๆ หากอยากให้รู้ได้พัฒนาทักษะด้านไหนก็ให้เล่นเกมแบบนั้นโดยให้ลูกทำอย่างไรเล่นอย่างไรโดยมีการบอกวัตถุประสงค์ของกิจกรรมนี้เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ได้พัฒนาทักษะของลูกอย่างตรงจุด หนังสือเล่มนี้ทำให้เราคลายกังวลกับเรื่องเรียนของลูก โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ที่อยากให้ลูกเก่งนู่นเก่งนี่ส่งให้ลูกเรียนเยอะๆหนักๆเลย ลองอ่านอ่านเพื่อทำความเข้าใจกันใหม่ดีกว่านะเออ วิธีเล่นก็ทำให้ลูกๆเก่งได้เหมือนกันนะ ทำให้เข้าใจลูกมากขึ้นด้วยย
เปลี่ยนมุมคิดด้วยจิตวิทยาภาคพิสดาร
4
วีเลิร์นสำนักพิมพ์นี้ไม่ธรรมดาจริงๆ
โดย: Bobaba วันที่เขียนรีวิว: 04 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

หนังสือเล่มนี้มาอีกแล้วจากสำนักพิมพ์วีเลิร์นนั่นเอง สำนักพิมพ์นี้เราชอบมากๆเลยหละ ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับจิตวิทยา การพัฒนาตนเอง ส่วนใหญ่จะเป็นงานแปลที่อ่านแล้วเข้าใจได้ นำเสนอสิ่งธรรมดาที่ไม่ธรรมดาคือมันเจ๋งอะ ความคิดสิ่งที่หนังสือนำเสนอมาแบบเอ้ออออแปลกดี ก็คิดได้เนอะ ชอบๆตอนนี้ติดตามทุกเรื่องของสำนักพิมพ์นี่เลย เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาจริงๆ สำหรับเรื่องนี้ก็มาแปลกอีกแล้วพลิกอ่านปกหลังของหนังสือแล้วลองอ่านๆดู โอ้ยยยยยยน่าสนใจอีกแล้ว มีแต่คำถามน่าฉงนแบบน่าอ่านอีกแล้ว เสียตังค์อีกแล้วใช่ไหมTT 55555 ซึ่งคำถามที่น่าสนใจของหนังสือเล่มนี้จะเกี่ยวกับเรื่องแปลกๆหละ ทำไมต้องเป็นแบบนู้นแบบนี้ คือน่าอ่านมาก พอเราอ่านคือก็จะมีคำถามเพิ่มมาอีก และพอเขาตั้งคำถาม ทีนี้ก็ถึงเวลาต้องหาคำตอบ นั่นก็คือ.......55555 อยากรู้หละสิ จะเป็นการทดลอง ไม่รู้สามารถเรียกว่าการทดลองทางวิทยาศาสตร์ได้ไหม เพราะมันเป็นเรื่องสังคม ไม่ใช่เป็นทดลองอะไรที่เป็นเคมีหรือชื่อสาร แต่คำถามและการทดลองก็จะสัมพันธ์กัน เป็นเรื่องสังคมชีวิตคนแต่เราพูดอย่างนี้ดีกว่า คือมช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์มาทดลองดู เช่นเอาคนรวยมาอย่างนี้ๆ คนจนมาอย่างนี้ๆ ดูปฏิกิริยาว่ามีพฤติกรรมอย่างไร อะไรยังไง แต่ก็ต้องควบคุมปัจจัยคือเช่นจำนวนคน สิ่งแวดล้อม นู่นนี่นั่นโน่น แบบว่าเจ๋งดีอะ เรียกได้ว่าหนังสือเล่มนี้ทำให้เราคิดว่าได้อ่านสิ่งที่คนต่างประเทศเขาทำแล้วน่าสนใจ คือเหมือนได้รับรู้เลยว่าเขาจริงจังแค่ไหน และผลที่ได้รับแบบว่าชอบอะ แต่ที่ติดขัดนิดหน่อยก็คงเป็นเรื่องของชื่อคนนี่แหละก็จะยากนิดนึงเพราะเป็นหนังสือแปลไงหละ แต่สรุปว่าเราชอบ ฮิฮิ
เหยียบโลกไว้ ไม่ต้องเครียด (หนุ่มเมืองจันท์)
4
พี่หนุ่มเมืองจันท์สุดเลิฟฟฟฟ ชอบอะ
โดย: Bobaba วันที่เขียนรีวิว: 04 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

สำหรับเรื่องนี้เป็นหนังสือฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ เล่ม7 ของพี่หนุ่มเมืองจันท์นั่นเองง แค่เห็นชื่อพี่หนุ่มเมืองจันท์เท่านั้นหละก็ร่บหยิบมาอ่านแทบไม่ทัน กลัวพลาดอะไรดีๆไปนั่นเอง สำหรับใครที่สงสัยว่าฟาสต์ฟู้ดธุรกิจคืออะไร ตอนแรกเราก็งงคำว่าฟาสต์ฟู้ดธุรกิจไม่เห็นว่าจะเกี่ยวกับชื่อเรื่องตรงไหน แต่พออ่านคำนำเท่านั้นหละเลยร้องอ๋ออออ ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจมีตั้งหลายเล่มแหนะ แต่เราพึ่งอ่านเล่มนี้เป็นเล่มแรก แหะๆ พี่หนุ่มเมืองจันท์เขาเขียนได้ดีจริงๆ เนื้อหาก็จะประมาณว่าเป็นบทๆเล่าเรื่องๆไป ทำนองว่าเล่าเรื่องที่ตนเองไปเจอมาได้รู้ว่าได้เห็นมาจากประสบการณ์ชีวิตของตนเอง คือตอนแรกเราก็เอ๊ะเล่าทำไมเราไม่ได้อยากรู้55555แต่พออ่านไปเรื่อยๆก็รู้เลยว่าเล่าทำไม เล่าเรื่องที่ตนไปเจอมาเหมือนเป็นการกล่าวนำชักโยงเข้าสู่สิ่งที่พี่เขาอยากจะบอกเรานั่นเอง สิ่งที่พี่เขาอยากบอกเราก็เป็นเรื่องที่ใครคนหนึ่งในแต่ละบททำอะไรที่น่าสนใจที่พี่เขาก็คิดว่าเอ้ออความคิดนี้เจ๋งดี แม้มันจะเป็นเรื่องที่ต้องเจอในชีวิตประจำวันที่พี่เขาไม่มองข้ามไป แต่เราก็คิดว่าถ้าเป็นเรา เราอาจจะไม่ได้คิดว่ามันน่าสนใจขนาดนั้น แต่ถ้าลองคิดดูดีๆแล้วเราว่ามันเป็นความคิดที่ดีนะที่จะเอามาให้คนๆอื่นได้รู้ คือเราจะมองข้ามมันนั่นแหละ บางสิ่งบางอย่างที่ละเอียดอ่อนบางทีมันอาจจะนำมาซึ่งความก้าวหน้าทางธุรกิจหรือแม้เรื่องเล็กๆก็ทำให้มันง่ายขึ้นมาได้มากเลยหละ เรียกได้ว่าเอาไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันของเราหรือเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจได้เลย เรียกได้ว่าทำสิ่งที่ธรรมดาให้ไม่ธรรมดากันเลยทีเดียว ที่สำคัญคืออย่ามองข้ามสิ่งเล็กๆนะ
www.batorastore.com © 2024