Customer Reviews

เงา
5
ลองอ่านกันดูครับ แล้วจะคิดเหมือนที่ผมคิด
โดย: Takeshi วันที่เขียนรีวิว: 20 มกราคม พ.ศ. 2558

ผู้เขียน โรสลาเรน
สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม

เป้นนิยายที่เกี่ยวกับเรื่องของกฎแห่งกรรมครับ เรื่องราวของนรก และสวรรค์ ผ่านตัวละครอย่าง ท่านชายวสวัต หรือพระยายมราช อิศรา เจริญขวัญ (ชื่อบ้านนอกมาก ๆ ) และชาลินี ถูกนำมาทำเป็นละครหลายครั้งแล้วครับ แต่ละครั้งก็จะมีความน่าสนใจและน่ากลัวแตกต่างกันไป อย่างเวอร์ชั่นล่าสุดนี่ก็โอเคนะครับ น่ากลัวดี ทีนี้เนื้อหาในหนังสือเนี่ย ก็ค่อนข้างจะตรงกับในละครเวอร์ชั่นล่าสุดครับ มีปรับแก้ไปบ้าง ก็คงจะเพิ่มอรรถรสในการชม เพราะผมเองอ่านแล้วก็ยังรู้สึกว่ามันขาด ๆ หาย ๆ บางช่วงก็รู้สึกเหมือนกระด้างไป แต่บางช่วงกลับซึ้งกินใจมากกว่าในละคร ส่วนที่ดีคือไม่ใช่แค่เรื่องราวของตัวละครหลักเท่านั้นครับ แต่ยังมีเหตุการณ์อื่น ๆ มาสอดแทรก ให้เรารับรู้ว่า กรรมแต่ละชนิด จะมีวิธีลงโทษต่างกันอย่างไร คนดีกับคนชั่วต่างกันอย่างไร ซึ่งก็เป็นนิยายแนวความเชื่อ ที่ไม่ค่อยจะมีคนเขียนและนำมาสร้างเป็นละครมากนัก เรื่องนี้เลยกลายเป็นเรื่องที่คนจะนึกถึงมากที่สุดถ้าพูดถึงละครเกี่ยวกับกฎแห่งกรรมครับ อ่านจบแล้วผมก็ยังสงสัยตัวเองนะ ว่าจะกล้าทำความผิดอีกหรือเปล่า และเราเคยทำกรรมอะไรไว้บ้าง ที่สำคัญก็คือ คนรอบ ๆ ตัวเราเนี่ย แท้จริงแล้วเป็นคน หรือเป็นใคร ปลอมตัวมาเพื่อทดสอบความดี ความเลวของเราหรือเปล่า แล้วเราจะมีโอกาสเลือกเหมือนที่อิศราได้เลือกบ้างหรือไม่ ความตายจริง ๆ แล้วน่ากลัวมั้ย เยอะแยะไปหมดครับ ซึ่งมันไม่สามารถหาคำตอบได้ ลองอ่านกันดูครับ แล้วจะคิดเหมือนที่ผมคิด
แก้วตาหวานใจ (ดวงตะวัน)
5
เป็นนิยายแนวอบอุ่น ที่สะท้อนสังคมปัจจุบันได้ดีมาก ๆ ครับ
โดย: Takeshi วันที่เขียนรีวิว: 20 มกราคม พ.ศ. 2558

ผู้เขียน ดวงตะวัน
จำนวนหน้าหนังสือ 512 หน้า

เป็นนิยายที่น่ารักมาก ๆ และถูกนำมาสร้างเป็นละคร 2 ครั้งแล้วครับ เวอร์ชั่นล่าสุดกำลังจะฉายในอีกไม่นานนี้ เนื้อหาของเรื่องจะเป็นเรื่องราวของความรัก ความอบอุ่นในครอบครัวเป็นหลักครับ เรื่องจะดำเนินไปด้วยพระเอกอย่าง ลุงช้าง ชายหนุ่มสุดเนี้ยบเรื่องงานบ้านงานเรือน จนใคร ๆ ก็มองว่า เป็นเกย์ นางเอกสุดห้าวอย่างไข่หวาน และเด็กน้อยสุดน่ารักอย่างมดตะนอยครับ

เนื้อเรื่องก็คือนางเอกมาตามหาหลาน หลังจากที่พี่ชายพบว่า ตัวเองมีลูกกับผู้หญิงคนนึง และนางเอกก็ได้หลุดเขามาอยู่ในบ้านของลุงช้างและหลานสาวอย่างมดตะนอย ซึ่งเรื่องทั้งหมดก็จะไม่เกิดขึ้น หากมดตะนอยไม่ใช่ลูกของพี่ชายที่เธอตามหาอยู่ เนื้อหาแรก ๆ ก็จะเบา ๆ ครับ น่ารักดี แต่เริ่มมาดราม่าเมื่อความจริงทุกอย่างเปิดเผย ทีนี้ก็จะเป็นเรื่องราวที่สะท้อนถึงการตั้งท้องก่อนวัยอันควร การไม่ป้องกัน รวมไปถึงความไม่อบอุ่นในครอบครัว ซึ่งมันก็ส่งผลอะไรหลาย ๆ อย่างตามมา แม้นิยายจะจบลงด้วยดี แต่ในชีวิตจริงมันคงไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกครับ ผมชื่นชอบตัวละครอย่างลุงช้างนะ ดูจับต้องได้ดี เป็นผู้ชายที่อบอุ่นมาก รักหลานเหมือนลูก จนไม่รู้สึกว่ามดตะนอยขาดความอบอุ่นแต่อย่างใด เกลียดก็แต่คุณอาพาราวีนี่แหละครับ ที่ทำให้มดตะนอยเป็นเด็กแก่แดด ตัวไข่หวานเองก็น่ารักในมุมมองของสาวห้าวที่จำเป็นต้องไปบริการกิจการของครอบครัวที่พี่ชายจอมไม่เอาถ่านไม่ยอมรับอะไรสักอย่าง ยกเว้นอย่างเดียวคือเรื่องลูก ละครสะท้อนสังคมมาก ๆ ครับ แต่เมื่อทุกอย่างลงเอยได้ดี ผมคิดว่านิยายเรื่องนี้ทำได้ครบรส ไม่มีขาดไม่มีเกินเลย
ผลัดแผ่นดินกรุงศรี (พรรณี เกษกมล)
5
เป็นหนังสือที่บอกเล่าประวัติช่วงอยุธยาได้ดีมาก ๆ เลยครับ
โดย: Takeshi วันที่เขียนรีวิว: 15 มกราคม พ.ศ. 2558

ผู้เขียน ดร.พรรณี เกษกมล
จำนวนหน้าหนังสือ 304 หน้า

ประวัติศาสตร์อยุธยา เป็นประวัติศาสตร์ที่ดูเหมือนว่าจะสนุกที่สุดครับ ด้วยความที่กินระยะเวลายาวนานถึง 417 ปี มีกษัตริย์ถึง 33 พระองค์ ช่วงเสียกรุงทั้ง 2 ครั้งต่างก็อยู่ในยุคอยุธยานี้ ภาพยนตร์ที่นำประวัติศาสตร์มาทำ ก็เลือกทำเฉพาะช่วงเสียกรุง ที่เราเห็นก็คือการล้างราชบัลลังก์ครับ ยุวกษัตริย์จำนวนมากที่ต้องถูกประหารชีวิตเพราะเหตุผลทางการเมือง คือภาพที่เราได้เห็นจากในภาพยนตร์ แต่ความจริงที่ไม่มีบอกในหนังสือทั่วไปและหนังสือเรียนก็คือ การผลัดแผ่นดินครั้งหนึ่ง มีผู้คนล้มตายจำนวนมากเท่าใด

หนังสือเล่มนี้ทำออกมาได้ดีมากครับ เนื้อหาข้างในดีเยี่ยมพอสมควรเลย มีทุกช่วงเวลาของสมัยอยุธยา เริ่มมาตั้งแต่ราชวงศ์อู่ทองเลยครับ ซึ่งช่วงที่หนักที่สุด และผลัดแผ่นดินกันบ่อยที่สุด ก็คือช่วงราชวงศ์บ้านพลูหลวงนี่แหละครับ ต้นกำเนิดมาจากสามัญชน ถ้าจำไม่ผิดก็คือคนเลี้ยงช้างนี่แหละ เริ่มในสมัยพระเพทราชา ไปจนถึงพระเจ้าเอกทัศน์ เป็นอะไรที่วุ่นวายมากครับ ยุทธหัตถีกันเพื่อแย่งราชบัลลังก์ก็เกิดขึ้นมาแล้วในราชวงศ์นี้ อ่านจบแล้วมันก็รู้ปวดหัวและรู้สึกสลดใจยังไงไม่รู้ครับ อำนาจมันทรงพลังขนาดที่จะต้องฆ่ากัน ล้างกันไปหมด นอกจากกษัตริย์แล้วก็ยังจะขุนนางที่จงรักภักดีกันอีก ถ้าไม่ตายก็ต้องหนีไปบวช เป็นแบบนี้ จนสุดท้ายก็เหลือแต่คนอ่อนแอ ขี้ประจบ สอพลอ เลยเป็นเหตุให้เสียกรุงอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะขึ้นธนบุรี ซึ่งก็ยังมีปัญหาอยากเป็นเจ้าตามมาอีกแหละครับ
หลั่งเลือดที่นานกิง พ.9
5
เป็นหนังสือที่ดีที่สุดที่จะบอกเล่าเรื่องราวของสงครามนานกิงครับ
โดย: Takeshi วันที่เขียนรีวิว: 15 มกราคม พ.ศ. 2558

ผู้เขียน ไอริช ชาง
ผู้แปล ฉัตรนคร องค์สิงห์
จำนวนหน้าหนังสือ 355 หน้า

ผมนึกว่าหนังสือเล่มนี้หาซื้อไม่ได้แล้วนะเนี่ย หายากมาก ๆ ครับ ต้องในงานสัปดาห์หนังสือถึงจะเจอ จะเริ่มยังไงดี คือหนังสือเล่มนี้ ผมเชื่อว่าเป็นเพียงเล่มเดียวและเป็นเล่มที่ดีที่สุดที่ได้มีการตีแผ่ความชั่วร้ายของชาวญี่ปุ่นในช่วงสงครามนานกิงออกมาครับ มีทั้งภาพประกอบ และบทสัมภาษณ์ต่าง ๆ มากมาย ออกตัวไว้เลยว่า ถ้าใจไม่ถึง ไม่สมควรอ่านครับ

ในช่วงแรก ๆ ของหนังสือก็จะเป็นการบรรยายการทำสงครามของญี่ปุ่นและการเข้ามาในนานกิงของญี่ปุ่น ชาวจีนทั้งหมดยอมแพ้และยอมตกเป็นเชลยโดยที่ไม่รู้ว่าอะไรรออยู่ข้างหน้า และเมื่อชาวญี่ปุ่นได้ประกาศชัยชนะและปักธงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แค่นั้นละครับ หายนะเกิดขึ้นแล้ว มีชาวจีนถูกฆ่าอย่างมากมายที่ไม่สามารถประมาณตัวเลขได้ เด็กและผู้หยิงตกเป็นเหยื่อ มีสตรีมากมายที่ถูกข่มขืนและฆ่า ในพาร์ตต่อไปก็จะเป็นบทสัมภาษณ์ของชาวต่างชาติที่อยู่ในนานกิงในช่วงนั้น และได้ช่วยชีวิตชาวนานกิงไว้ได้ไม่ต่ำกว่า 2 แสนคนครับ ซึ่งเค้าก็ได้มาบรรยายว่าต้องเจออะไรบ้าง ทำอย่างไร หัวหน้าก็คือ จอห์น ราเบ้ ผู้มีตรานาซีเป็นสัญลักษณ์ครับ และตรานาซีนี่เองที่ได้คุ้มครองพวกเค้าและชาวนานกิงไว้ แต่ก็ใช่ว่าชาวต่างชาติเหล่านี้จะไม่เจ็บตัวเลยนะครับ แต่ละคนก็ได้มาบรรยายไว้ ซึ่งมันมองเห็นภาพและเต็มไปด้วยความหดหู่มากครับ และก็มาถึงพาร์ทต่อไป พาร์ทนี้หดหู่ที่สุด เพราะเป็นรูปภาพจริง ๆ ในช่วงเวลานั้น มีทั้งตัดคอ ข่มขืน ไม่อยากจะพูดเลยครับ แต่รับรองว่าภาพมีมากกว่าในอินเตอร์เน็ทแน่นอน ในท้าย ๆ เรื่องก็จะเป็นเรื่องราวของเหตุการณ์ต่อจากนั้น ท่าทีของชาวต่างชาติ และทุกอย่างที่อยู่รอบ ๆ ญี่ปุ่นในช่วงเวลานั้นครับ

ตอนหยิบมาอ่านผมก็รู้สึกสบายใจดีอยู่นะ แต่พออ่านจบแล้วไม่โอเคเลย มันหดหู่จริง ๆ ครับ ว่านาซีแย่แล้ว แต่ญี่ปุ่นมันแย่กว่าหลายเท่า มันชวนให้สะอิดสะเอียนมาก ก็ไม่แปลกใจหรอกครับ ทำไมความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับญี่ปุ่นถึงไม่ดีขึ้นสักที
ห้วงรักแห่งราชสำนัก
5
เป็นหนังสือเกี่ยวกับความรักที่น่าประทับใจมาก ๆ ครับ
โดย: Takeshi วันที่เขียนรีวิว: 15 มกราคม พ.ศ. 2558

ผู้เขียน ผศ.สมบัติ จำปาเงิน
จำนวนหน้าหนังสือ 272 หน้า

ความรู้สึกที่เห็นหนังสือเล่มนี้ครั้งแรกก็คิดแล้วครับว่าน่าอ่าน เลยไม่พลาดที่จะซื้อมาอ่าน ทีแรกที่เห้นหน้าปกก็เข้าใจว่าจะเป็นเรื่องราวของ ร.5 กับพระมเหสีครับ ที่ไหนได้ ยังมีเรื่องราวของรัชกาลที่ 1 และสุนทรภู่แถมมาด้วย รู้สึกดีมาก ๆ ครับ ราคาหนังสือก็คุ้มค่ากับตัวหนังสือมาก ๆ เป็นหนังสือที่อัดแน่นไปด้วยคุณค่าจริง ๆ ครับ

ความรัก ไม่ว่าเกิดกับใครก็สวยงามเสมอนะครับ ไม่เว้นแม้กระทั่งกษัตริย์ของเรา แต่เริ่มเรื่องได้สลดใจมาก ๆ ครับ เพราะเริ่มเรื่องกันด้วยเรื่องราวของพระนางเรือล่มก่อนเลย เรื่องนี้อ่านยังไงก็ยังรู้สึกสลดใจทุกครั้งครับ อีก 3 เรื่องต่อมาก็ยังเป็นเรื่องของรัชกาลที่ 5 อยู่ ก็เป็นเรื่องของสมเด้จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี เจ้าดารารัศมี และเจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับครับ 3 เรื่องนี้เนี่ย เป็นอะไรที่อ่านแล้วอบอุ่นใจมาก มันก็เป็นอะไรที่น่าทึ่งมากนะครับ เราต่างรู้กันดีว่า รัชการที่ 5 มีพระสนม พระมเหสีมากมายเพียงไร แต่ท่านก็ทรงรักแต่ละคนได้ไม่เหมือนกันเลย รักมากเท่า ๆ กันด้วย ยิ่งอ่านก็ยิ่งประทับใจครับ (แต่ถ้าถามผม ผมประทับเรื่องของเจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับที่สุดนะครับ) ทีนี้ก็เข้าสู่เรื่องราวความรักของรัชกาลที่ 1 ครับ เป็นเรื่องราวของเจ้าคุณเสือ ที่ทุกคนอาจจะไม่คุ้น หรือไม่ค่อยจะได้ยินกันเสียเท่าไรเรื่องนี้ผมชอบเป็นพิเศษเลยครับ อยากให้อ่านกันจริง ๆ คือเจ้าคุณเสือเป็นผู้หญิงที่เรียกว่าเปิ๊ดสะก๊าด เป็นชาวลาวครับ เป็นคนที่ในวังค่อนข้างจะให้ความเกรงใจ และจบ 4 ตอนสุดท้ายด้วยเรื่องราวชีวิตรักของท่านสุนทรภู่ ที่ไม่มีเรื่องไหนสมหวังเลย อันนี้ผมไม่แปลกใจมากครับ แต่ชอบที่ผู้เขียนได้ไปเสาะหาเรื่องราวต่าง ๆ เหล่านี้มาให้อ่าน อ่านจบก็รู้สึกหลาย ๆ อย่างผสมกันครับ ทั้งอบอุ่น ซาบซึ้ง และสลดใจ แต่ที่รู้สึกมากที่สุดก็คือประทับใจนี่แหละครับ
อาดอล์ฟ ฮิทเลอร์ อวตารแห่งระบอบเผด็จการ
2
รูปเล่มโอเค แต่เนื้อหาไม่โอเคครับ
โดย: Takeshi วันที่เขียนรีวิว: 15 มกราคม พ.ศ. 2558

ผู้เขียน เจษฎา ทองรุ่งโรจน์
จำนวนหน้าหนังสือ 144 หน้า

ผมเป็นคนชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับฮิตเลอร์นะ แล้วก็จะชอบเปรียบเทียบหนังสือแต่ละเล่มว่า ต่างกันมากน้อยอย่างไรในส่วนของเนื้อหา อันดับต่อไปก็คือภาพประกอบครับ ในเล่มนี้ก็มีสีบ้าง ขาวดำบ้าง แต่เนื้อหาน้อยมากถ้าเทียบกับราคา แค่ 144 หน้าเองครับ แล้วก็ซอยย่อยออกมาเป็นหลาย ๆ ตอน เลือกมาเฉพาะแต่ใจความสำคัญ มันก็โอเคในระดับหนึ่งนะครับ คือเริ่มเล่าเรื่องราวของฮิตเลอร์ตั้งแต่ในวัยเด็กเลย มีการเท้าความไปถึงครอบครัวของฮิตเลอร์ และชีวิตตั้งแต่วัยรุ่นจนไปจับปืนอาสาเข้าร่วมรบจนได้รับบาดเจ็บ และการเริ่มเข้าสู่เส้นทางทางการเมือง ฮิตเลอร์ต้องผ่านอะไรมาบ้าง ต้องทำอะไรบ้างถึงจะได้เป็นผู้นำ เพราะอะไรประชาชนถึงได้ไว้วางใจและมีศรัทธาในตัวท่านผู้นำ ทำไมทหารถึงได้จงรักภักดีกับฮิตเลอร์ ก่อนเบอร์ลินจะแตก ก่อนเยอรมันจะแพ้สงคราม ไปจนถึงวาระสุดท้ายของฮิตเลอร์ครับ

ทีนี้หลังผมอ่านจบแล้ว ผมมีความรู้สึกว่าหนังสือที่เขียนถึงชีวประวัติของฮิตเลอร์เนี่ย มันมีเยอะมากในประเทศไทย ต่างกันก็เพียงแค่ชื่อเรื่อง อย่างเล่มนี้ผมเองก็ไม่ชอบมากนัก คือเนื้อหามันหาอ่านได้ในเล่มอื่น ๆ ครับ รูปภาพก็มีลักษณะคล้าย ๆ กัน คือถ้าหนังสือลักษณะแบบนี้ ก็คือซื้อเล่มเดียวที่ดีที่สุด ที่หนาที่สุดก็เพียงพอแล้ว เล่มอื่นที่ได้มาก็เพื่อที่จะอ่านในมุมที่แตกต่างกันออกไปบ้าง ก็สรุปง่าย ๆ ว่าไม่โอเคครับกับเล่มนี้ ที่ไม่โอเคเพราะเนื้อหาไม่ได้แตกต่าง แต่การทำรูปเล่มกับภาพประกอบก็โอเคอยู่ครับ
อีเลียดแห่งสงคราม เล่ม 01 ตอนปฐมบทแห่งสงคราม
4
สีสี่ทั้งเล่มเลยครับ ภาพสวยมาก
โดย: Takeshi วันที่เขียนรีวิว: 15 มกราคม พ.ศ. 2558

ผู้เขียน โฮเมอร์
ผู้แปล เนตรนภา ปปะวะคัง
จำนวนหน้าหนังสือ 40 หน้า

หนังสือประวัติศาสตร์ตอนนี้นี่หายากจริง ๆ นะครับ หลาย ๆ คนคงรู้จักอีเลียดกันดี สงครามกรุงทรอย มหากาพย์โอดิสซีอุส มีความต่อเนื่องกันทั้งนั้น และหนังสือในประเทศไทยก็หายากด้วยครับ เล่มนี้ที่ผมนำมารีวิวเนี่ย เป็นหนังสือใหม่ พิมพ์สีทั้งเล่มเสียด้วย ก็คงจะเหมาะกับเด็กรุ่นใหม่ที่ยังไม่รู้จักประวัติศาสตร์เรื่องนี้ด้วยครับ

แต่แบบ แค่ 40 หน้าเอง เนื้อหามันเลยไม่ค่อยเยอะครับ สั้น ๆ คือสรุปใจความออกมา และเล่มนี้ก็เป็นเพียงเล่มแรกเท่านั้น กว่าจะจบเรื่องก็คงจะต้องเสียเงินอีกหลายบาทแน่นอน เรื่องเริ่มขึ้นจาก แอปเปิ้ลทองคำครับ ง่าย ๆ แค่นั้นเอง มันก็คงไม่ได้มีความสำคัญอะไรมากมายถ้าไม่ได้สลักไว้ว่า แด่สตรีที่งามที่สุดในปฐพี ทีนี้ก็เกิดแย่งกันเลยครับ ระหว่าง 3 เทพ เฮร่า อะโฟรไดต์ อาธีน่า แล้วก็ได้ให้เจ้าชายปารีสจากกรุงทรอยมาตัดสิน ซึ่งก็มีการติดสินบนกัน แล้วเทพีอะโฟรไดต์ก็ชนะไป เพราะเธอสัญญาว่าจะให้สตรีที่งามที่สุดกับเจ้าชายปารีส นั่นก็คือเฮเลน ภรรยาของเมเนเลอุส เมื่อปารีสขโมยภรรยาเค้า สงครามก็เลยเกิดขึ้น เหล่าเทพเจ้าต่างพากันเข้าข้างฝ่ายกรีก - ฝ่ายทรอยตามแต่ใจ โดยเฉพาะเทพีสององค์แรกที่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในเรื่องของแอปเปิ้ลทองคำ ได้ไปเข้าข้างฝ่ายกรีก ลำพังว่าคนก็ยุ่งมากแล้ว แล้วนี่ยังมีเทพเจ้าที่มีฤทธิ์เดชเข้ามายุ่งอีก ทีนี้ก็วิบัติแหละครับ เรื่องราวในเล่มแรกนี่ก็จบลงที่ตรงนี้ครับ จบตรงที่กองทัพกรีกกำลังยกทัพมาล้อมกรุงทรอย
วิถีเล่าปี่ ชัยชนะของคนไม่เอาถ่าน
2
ก็อ่านง่าย เข้าใจง่าย แต่ไม่ค่อยสนุกเท่าไรครับ
โดย: Takeshi วันที่เขียนรีวิว: 15 มกราคม พ.ศ. 2558

ผู้เขียน เปี่ยมศักดิ์ คุณากรประทีป
จำนวนหน้าหนังสือ 144 หน้า

เห็นหน้าปกแล้วแอบขำครับ มันเหมือนกันกับ โนบิตะ ชัยชนะของคนไม่เอาถ่านเลย ชื่อหนังสือมาแนวเดียวกันเป๊ะ ๆ ลักษณะแบบนี้มันจะต้องเป็นหนังสือจิตวิทยามากกว่าประวัติศาสตร์แน่นอน แล้วก็เป็นไปดังคาดครับ หนังสือจิตวิทยาที่สามารถเรียกกำลังใจได้ (ถ้าอ่านจบแล้วทำได้จริง ๆ นะครับ) อย่างที่เรารู้กันแหละครับว่า ในอมตะนิยายเรื่อง "สามก๊ก" นั้น เล่าปี่เป็นพระเอก แต่เหมือนจะไม่เห็นได้ทำอะไร ? ไม่เก่งทั้งบู๊และบุ๋น แต่กลับได้ครองเมือง เป็นผู้ยิ่งใหญ่ เป็นพระเอกที่คนจะนึกถึงและจำได้ก่อนเพื่อนเมื่อนึกถึงคำว่า "สามก๊ก" (อีกคนนึงที่ผมนึกถึงคือโจโฉครับ)

ในเนื้อหาก็ตามหน้าปกครับ 144 หน้า ไม่มากเกินไปนักสำหรับคนอ่าน ก็จะเป็นเรื่องราวว่า ก่อนจะมาถึงจุด ๆ นี้เนี่ย เล่าปี่ได้ทำอะไรบ้าง ก็จะเป็นประมาณว่า ต้องมีคุณธรรม ต้องรู้จักเคารพผู้อาวุโส ไม่ว่าจะแก่กว่าหรือเก่งกว่า ต้องเป็นผู้มีมนุษย์สัมพันธ์ดี มีปิยวาจา ลักษณะก็คล้าย ๆ หลักสูตรของนักการทูตสมัยปัจจุบันนี่แหละครับ แต่มีเนื้อเรื่องของสามก๊กในแต่ละตอนเข้ามาสอดแทรก ผมไม่ค่อยชอบเท่าไรนะครับ ถึงมันจะอ่านง่าย เข้าใจง่ายก็ตาม ผมเชื่อว่าคนที่อ่านสามก๊กจริง ๆ ก็จะสามารถวิเคราะห์ตัวละครแต่ละตัวออกมาได้อยู่แล้วครับ ว่าแต่ละตัวละครมีลักษณะนิสัยอย่างไร ลองอ่านดูดี ๆ คือมันก็ยังอิงการเมืองนะครับ มีหลักการบริหารคน ผมคิดว่ามันเป็นไปได้ยากกับชีวิตจริงในปัจจุบัน ถึงจะบอกว่านำมาปรับใช้ได้ก็ตาม ยุคแห่งกาลสมัยมันเปลี่ยนไปมากมายแล้วครับ ยิ่งเรื่องของการสื่อสารนี่ยิ่งแล้วใหญ่เลย
เจ้านายฝ่ายเหนือและตำนานรักมะเมียะ
5
หาอ่านยากจริง ๆ ครับ ประวัติของเจ้าทางเหนือ
โดย: Takeshi วันที่เขียนรีวิว: 12 มกราคม พ.ศ. 2558

ผู้เขียน วรชาติ มีชูบท
จำนวนหน้าหนังสือ 428 หน้า

เวลาดูละคร สังเกตมั้ยครับ ที่เค้าเรียกกันว่า เจ้าอย่างโน้น เจ้าอย่างนี้ เป็นเจ้าทางไหน ใช่ครับ ในละครก็จะบอกว่าเป็นเจ้าทางเหนือ แล้วเคยรู้มั้ยครับว่าเจ้าทางเหนือแม้จริงแล้วเนี่ย มีใครบ้าง และเป็นอย่างไร อยู่ในราชวงศ์เหมือนราชวงศ์จักรีหรือเปล่า แล้วทำไมเดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว

หนังสือเล่มนี้รวบรวมประวัติของเจ้าทางเหนือได้เยี่ยมยอดมากครับ ในที่นี้จะเป็นเรื่องของเจ้าเชียงใหม่ล้วน ๆ นะครับ คนเชียงใหม่อาจจะคุ้นเคยอยู่บ้าง อย่างพระเจ้ากาวิละ หรือเจ้าแก้วนวรัฐครับ แต่คนกรุงเทพแบบผมนี่ ไม่คุ้นเลย ได้ยินแต่ชื่อเพียงอย่างเดียว หนังสือก็จะรวบรวมประวัติของเจ้าทางเหนือให้ได้อ่านกันจริง ๆ ครับ สืบกันมาแต่ล้านนาเลย อ่านแล้วสนุกดี เหมือนอ่านประวัติกษัตริย์ทั่ว ๆ ไปแหละครับ แต่ที่ผมสนใจและอยากจะเน้นมากเป็นพิเศษก็คือเรื่องของมะเมี๊ยะและเจ้าน้อยศุขเกษมครับ

เรื่องของมะเมี๊ยะเนี่ย หาอ่านได้ตามทั่วไปในกูเกิ้ลนะครับ เพราะฉะนั้นขอไม่พูดถึง แต่จะขอพูดถึงเรื่องข้อเท็จจริงในประวัติศาสตร์ ที่ขัดแย้งกันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่ ตามที่หนังสือนำเสนอครับ ซึ่งผู้เขียนทำออกมาได้ดีมาก ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง แต่สำหรับผม ผมเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงครับ แต่สิ่งที่ขัดแย้งคือช่วงเวลาครับ บ้างก็บอกว่ามะเมี๊ยะไม่มีตัวตนจริง ๆ บ้างก็บอกว่าไม่มีประวัติของเจ้าน้อยศุขเกษม มันก็ยากที่จะบอกครับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่ผมเชื่อ ยิ่งเห็นหลักฐานจากในหนังสือเล่มนี้ยิ่งเชื่อมากขึ้นครับ ลองอ่านมาดูนะครับ ตำนานเรื่องนี้เศร้าและรันทดพอ ๆ กับเรื่องของสาวเครือฟ้าและที่มาของเพลงลาวดวงเดือนเลยครับ


เปิดกรุหญิงดังในอดีตชุด 3
4
เนื้อหาเยอะดีครับ มีผู้หญิงที่โด่งดังแต่ไม่เป็นที่รู้จักสำหรับผมเยอะเลย
โดย: Takeshi วันที่เขียนรีวิว: 12 มกราคม พ.ศ. 2558

ผู้เขียน อัสการ
จำนวนหน้าหนังสือ 260 หน้า

มีผู้หญิงหลาย ๆ คนครับ ที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ ซึ่งก็มีทั้งดีและไม่ดี โดยที่เราก็ไม่รู้ว่ามันจริงหรือไม่ โลกเราได้จารึกประวัติศาสตร์ที่มีผู้ชายเป็นผู้นำ เป็นวีรบุรุษมากมาย และวีรบุรุษหลาย ๆ คนก็ต้องพ่ายแพ้แก่ผู้หญิง บางทีก็ต้องเสียเมือง เสียชีวิต ซึ่งประวัติศาสตร์ต่างก็จารึกว่าเพราะผู้หยิงเหล่านี้เป็นกาลกินี ไม่ยุติธรรมเลยใช่มั้ยละครับ

เล่มนี้ประกอบไปด้วยเรื่องราวของชีวิตผู้หญิงที่โด่งดังจากอดีตมากมายครับ ผมก็จะขอยกตัวอย่างไม่กี่คนให้ไปอ่านกันเองนะครับ อย่าง มารีย์ แมกดาลีน ที่เป็นภรรยาพระเยซู ก็ยังมีการตั้งข้อสงสัยว่า แท้จริงเธอก็เป็นเพียงแค่คนบาป หรือเรื่องราวของตัวจริงของภาพเหมือนโมนาลิซา ที่ก็ไม่มีใครบอกได้ว่าแท้จริงแล้ว ใครคือแบบของภาพนี้ พระนางมุมทัช มาฮาล ที่เป็นต้นกำเนิดของอนุสรณ์แห่งความรัก อะมีเลีย เอียร์ฮาร์ต หญิงผู้หายสาปสูญไประหว่างบินข้ามโลก มารี อังตัวเน็ตต์ ที่เสียชีวิตเพียงเพราะเธอตกเป็นเหยื่อของการเมืองช่วงปฏิวัติฝรั่งเศส และจริงหรือไม่ ที่คริสตศาสนา เคยมมีพระสันตปาปาเป็นผู้หญิง นามว่าโจนส์ครับ

ยังไม่หมดนะครับ มีอีกเยอะจริง ๆ ผมเองรู้จักเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้นเองครับ ในหนังสือก็จะเป็นการรวบรวมประวัติของเธอเหล่านี้ และข้อเท็จจริงที่คนทั้งโลกรู้จักเธอ เพราะฉะนั้นจุดขายของหนังสือก็คือการนำเสนอสิ่งที่ต่างออกไป คือเรื่องราวของประวัติศาสตร์ ในช่วงเวลาที่เกี่ยวข้องกับเธอเหล่านี้ครับ ลองอ่านกันดูนะครับ มีหลายตอนที่สนุก แต่บางตอนก็น่าเบื่อเหมือนกันครับ
รัฐบุรุษสร้างชาติทรราชสร้างแผ่นดิน
5
เหรียญสองด้าน คือสิ่งที่หนังสือเล่มนี้อยากจะบอกครับ
โดย: Takeshi วันที่เขียนรีวิว: 12 มกราคม พ.ศ. 2558

ผู้เขียน สุพัตรา แซ่ลิ่ม
จำนวนหน้าหนังสือ 228 หน้า

หน้าปกน่าสนใจที่จะหยิบมาอ่านมากครับ บ่งบอกให้รู้ว่าเราอาจจะต้องใช้ตรรกะส่วนบุคคลในการคิดต่อพอสมควรเลย เราอาจจะมองว่าหลาย ๆ คนเป็นฮีโร่ เป็นคนเก่ง ซึง่คนเหล่านี้คือผู้นำที่คนไม่เคยจดจำด้านมืดของเขา แต่ในขณะเดียวกัน อีกหลาย ๆ คน เรากลับมองว่าเค้าเป็นอาชญากร เป็นคนป่าเถื่อน ทำได้ทุกอย่างเพื่ออำนาจ โดยลืมมองไปว่า ความดีที่เค้าได้ทำเนี่ย มันมีอะไรบ้าง เปรียบหนังสือเล่มนี้ ก็แสดงให้เห็นถึงเหรียญสองด้านของมนุษย์ครับ ว่าคนเราจะถูกมองในด้าานไหนมากกว่ากัน ประเด็นตรงนี้แหละครับ ที่จะทำให้หนังสือน่าสนุกมากยิ่งขึ้น

ในหนังสือได้นำเรื่องราวของผู้นำหลาย ๆ ชาติทั่วโลกมาเขียนครับ อย่างเจงกิสข่าน เนี่ย เราจะนึกถึงเค้าในด้านไหน บุรุษผู้สร้างชาติ ยึดอำนาจได้กว้างไกล เป็นผู้ยิ่งใหญ่ หรือคนป่าเถื่อนผู้เหี้ยมโหด ยกตัวอย่างอีกสักคนก็นโปเลียนครับ เราจะรู้จักนโปเลียนในฐานะทรราชผู้ถูกเนรเทศและไปเสียชีวิตบนเกาะเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง หรือแม้กระทั่ง เลนินผู้ล้างราชวงศ์โรมานอฟ แต่ในทางกลับกันนะครับ อย่างจอร์จ วอชิงตัน คนรู้จักในฐานะปธน.คนแรกของอเมริกา แล้วความเป็นมาของเค้าก่อนหน้านั้นละครับ นี่แหละครับ คนเราถึงจะตายไปแล้ว ก็ไม่มีวันได้เป็นอิสระอย่างสมบูรณ์ การอ่านหนังสือเล่มนี้จึงเป็นการต่อยอดของความคิดที่ดีเลยทีเดียว ทุกอย่างต่างก็เต็มไปด้วยผลประโยชน์ครับ ราชวงศ์ ศาสนา การเมือง แล้วแต่ว่าจะถูกบิดเบือนให้ประชาชนธรรมดาอย่างเรา ๆ รับรู้ว่าอย่างไร เยอรมันเค้าก็ชื่นชมฮิตเลอร์ที่แก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ แต่ชาติอื่น ๆ ไม่ได้ชื่นชมด้วย ก็แบบนี้แหละครับ ประวัติศาสตร์มันถูกเขียนด้วยผู้ชนะ ยากที่จะตัดสินว่าจริงหรือไม่ ก็ถ้าพูดตามหนังสือเล่มนี้มันก็ดีครับ สนุกมาก บางเรื่องเราก็ไม่เคยรู้ บางเรื่องก็รู้แล้ว ทีนี้ก็คงอยู่ที่ว่าเราจะมองยังไง เราจะมองเห็นสิ่งเดิม ๆ เหล่านี้เปลี่ยนไปหรือเปล่า แค่นั้นเองครับ
แรกเริ่มเดิมทีในสยาม
5
สนุกนะครับ ที่มาของบางสิิ่งบางอย่างในประเทศไทย
โดย: Takeshi วันที่เขียนรีวิว: 12 มกราคม พ.ศ. 2558

ผู้เขียน ถุงเงิน พุทธสรณ์
จำนวนหน้าหนังสือ 488 หน้า

หนังสือแนวนี้ อ่านสนุกนะครับ ก็แนว ๆ ที่สุดของโลกแหละครับ บางคนอาจจะชอบอ่านว่า อะไรบ้างที่เป็นที่สุดของโลก คราวนี้เราก็มาลองอ่านกันบ้าง อะไรเอ่ย ที่เริ่มมีในประเทศไทย ประวัติความเป็นมาเป็นอย่างไร อ่านเรื่อย ๆ ก็เพลินดีเหมือนกันครับ (แต่ถ้าอ่านนาน ๆ ก็รู้สึกน่าเบื่อนะ)

ผมมีหนังสือเล่มนึง เป็นเรื่องราวแบบนี้แหละ อ่านสนุกมากครับ แต่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นสมัย ร.5 แต่ในหนังสือเล่มนี้เนี่ย เริ่มกันตั้งแต่สมัยสุโขทัยเลยทีเดียว และส่วนมาก คนไม่ค่อยรู้ครับ เราเกิดมาในสมัยที่มีทุกอย่างเรียบร้อยสมบูรณ์แล้ว แต่เราเคยคิดบ้างมั้ยว่า สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ มีที่มาอย่างไร อย่างกระทรวงธรรมการ กระทรวงยุทธนา คือกระทรวงอะไรในปัจจุบัน มีที่มาอย่างไร ซึ่งผมว่ามันโอเคมากเลยนะ หรือแม้กระทั่งเรื่องการกู้เงินจากต่างประเทศ การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ มันก็เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของประเทศไทยที่เราสมควรจะรู้ และเอาไว้สนทนากับชาวต่างชาติได้ครับ แม้กระทั่งเรื่องของผู้ที่รับรัฐธรรมนูญจากพระหัตถ์ของพระปกเกล้าคนแรก ก็ยังมีไว้ในหนังสือเลยครับ อ่านไปอ่านมามันก็สนุกจริง ๆ ครับ อ่านแล้วลองคิดไปว่า สมัยนั้น ในยุคนั้น การมีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมาใหม่ ๆ คนเหล่านั้นเค้าจะรู้สึกยังไงกัน มันเลยเป็นความคลาสสิคอย่างหนึ่งยังไงละครับ อ่านแล้วก็ภูมิใจนะ เก่งจริง ๆ แล้วก็พลอยตื่นเต้นไปด้วย อย่างเรื่องน้ำแข็งเนี่ย คุณทราบมั้ยครับว่าเมื่อก่อน ถ้าอยากกินต้องนำเข้าจากสิงคโปร์เท่านั้น ใครเป็นคนคิดค้นและนำเข้ามา เข้ามาแล้วอยู่อย่างไร ชาวบ้านสมัยนั้นคิดยังไงกับ " น้ำแข็ง " หรือแม้กระทั่ง เบียร์ โซดา นั่นแหละครับ
เรื่องของจัน ดารา
5
เป็นนิยายสะท้อนสังคมด้านมืดของมนุษย์ที่ทำออกมาได้ดีเยี่ยมจริง ๆ ครับ
โดย: Takeshi วันที่เขียนรีวิว: 12 มกราคม พ.ศ. 2558

ผู้เขียน อุษณา เพลิงธรรม
จำนวนหน้าหนังสือ 428 หน้า

เป็นที่โด่งดังมากครับ ทั้งในแบบฉบับหนังสือ และในแบบฉบับของภาพยนตร์ ไม่ขอพูดถึงภาพยนตร์นะครับ เพราะภาพยนตร์ทำเกินกว่าคำว่าศิลปะมากไปสักหน่อย เริ่มจากเนื้อหานะครับ ก็ไม่ขอเล่าละกันครับ เพราะว่ามันเหมือนกับภาพยนตร์เวอร์ชั่นล่าสุดเลย ซึ่งอาจจะมีผิดเพี้ยนไปบ้างเล็กน้อย จริงครับ ที่บอกว่านิยายเรื่องนี้เป็นแนวสังวาส เพราะตัวละครทุกตัว ต่างลุ่มหลวงไปในวังวนแห่งกามโลกีย์ ซึ่งตรงนี้ผู้เขียนได้ใช้สำนวนออกมาได้อย่างสละสลวยมาก ดูยังไงก็ไม่หยาบโลนครับ เป็นการสะท้อนจิตใจด้านมืดของมนุษย์ออกมาได้อย่างดีจริง ๆ ตัวละครอย่างจัน ก็คือเด็กที่ขาดพ่อแม่ ขาดความอบอุ่น และได้นำเรื่องของเซ็กส์มาทดแทน

ในส่วนของตัวละครที่ดีที่สุดนี่ คงต้องยกให้น้าวาดนะครับ การกระทำต่าง ๆ ไม่ได้เกิดจากความเต็มใจของเธอสักนิดเดียว แต่เธอทำเพราะเป็นความรับผิดชอบ เป็นหน้าที่ที่ควรพึงกระทำ และในท้ายที่สุด เธอได้เลือกทางเดินของชีวิตด้วยการไปบวชครับ ส่วนคุณบุญเลื่อง คุณหลวง และคุณแก้ว ผมคงไม่ต้องเอ่ยถึงนะครับ ตัวละคร 3 ตัวนี้เป็นตัวละครที่ติดอยู่ในวังวนของเซ็กส์อย่างไม่รู้จบ ที่นำไปสู่จุดจบในท้ายที่สุด อ่านจบแล้วมันก็ได้ความรู้สึกปะปนกันนะครับ ทั้งรังเกียจ สังเวช สมเพช ในส่วนที่ดีงามอย่างน้าวาดก็คือซาบซึ้งครับ ในส่วนของจันนี่ก็คงจะเป็น สมน้ำหน้า อ่านจบจริง ๆ ก็ได้แต่คิดนะครับ เพราะผมเชื่อว่าเรื่องแบบนี้มันมีอยู่จริงนะ แม้กระทั่งสมัยปัจจุบันก็ยังมี เป็นนิยายสะท้อนสังคมด้านมืดของมนุษย์ที่ทำออกมาได้ดีเยี่ยมจริง ๆ ครับ
เพชรพระนารายณ์ (สร้างสรรค์)
5
ประวัติศาสตร์ในช่วงพระนารายณ์ เล่มนี้จะเป็นเรื่องของทหารเอก 3 ท่านครับ
โดย: Takeshi วันที่เขียนรีวิว: 12 มกราคม พ.ศ. 2558

ผู้เขียน พลตรี หลวงวิจิตรวาทการ
จำนวนหน้าหนังสือ 258 หน้า

ผมนึกว่าจะหาหนังสือเล่มนี้อ่านไม่ได้แล้วนะเนี่ย ดีใจที่ยังมีขายอยู่ที่บาโทร่า เล่มนี้เป็นนิยายจริง ๆ ครับ นิยายที่อิงประวัติศาสตร์ในสมัยพระนารายณ์ ผมว่าในช่วงนี้ก็หาอ่านยากนะครับ ช่วงที่จะผลัดแผ่นดินเป็นพระเพทราชา เป็นพระเจ้าเสือเนี่ย มันมีอะไรที่น่าสนใจ เพราะคนมักจะรู้และศึกษาแต่เฉพาะในช่วงรัชสมัยพระนารายณ์รุ่งเรือง ครับ ในหนังสือเล่มนี้จะเป็นเรื่องราวของทหารเอกของพระนารายณ์ที่เรียกว่าเป็นเพชรพระนารายณ์ครับ จะกล่าวถึงตั้งแต่ประวัติความเป็นมาเลย ของพระยาสีหาราชเดโชชัย (ทิป) พระยาสุรสงคราม (สอน) และพระยารามเดโช (เดช) ที่ก่อนจะกลายมาเป็นทหารเอกพระนารายณ์ ในช่วงแรก ๆ มันก็อืด ๆ ในแบบนิยายครับ กว่าจะเจอกัน กว่าจะได้กลายมาเป็นเพื่อนรักกัน มาเริ่มสนุกตรงที่ต่างคนต่างเข้าประจำการในแต่ละที่ ที่ ๆ แต่ละคนมีความถนัดไม่เหมือนกัน และดูเหมือนนายสอนจะไปได้ดีสุดและไกลสุด เมื่อเขาได้เป็นพระยาเป็นคนแรก ( น่าจะได้ถึงเจ้าพระยาด้วยนะถ้าผมจำไม่ผิด) ส่วนนายทิปนี่เป็นฝ่ายปบูครับ เป็นทหารออกรบแบบนำหน้าเลย ใครได้ยินชื่อพระยาสีหราชเดโชนี่เป้นต้องอกสั่นทุกราย ด้านพระยารามเดโชก็ไปได้แบบกลาง ๆ เป็นทั้งสายบู๊และบุ๋น ในตอนท้าย ๆ เรื่องนี่ดราม่าจริง ๆ ครับ ช่วงที่พระนารายณ์เริ่มป่วย และได้มีการคบคิดที่จะกบฏ พระยาสีหราชเดโชก็แก่มากเกินกว่าที่จะไปสู้รบ พระยารามเดโชก็อยู่ไกลเกินไปกว่าที่จะเข้ามาช่วยทัน เหลือแต่พระยาสุรสงคราม ที่ในตอนหลังได้เฉลยออกมาว่า เป็นหนึ่งในผู้ที่คิดกบฏ และเมื่อได้สังหารพระปีย์ เด็กรับใช้คนสนิทของพระนารายณ์แล้ว พระนารายณ์ก็ได้สิ้นพระชนม์ลงในวันนั้นเลย ซึ่งทหารเอกที่เหลืออยู่ 2 คนไม่มีโอกาสได้ทันเข้าเฝ้า และสุดท้ายอย่างสมน้ำหน้าที่สุด คือการกำจัดพระยาสุรสงคราม หลังจากยึดอำนาจได้แล้ว อ่านจบนี่แบบ สะใจมาก ๆ ครับ
แผ่นดินพระเจ้าตาก
5
ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนไม่เคยอ่านประวัติศาสตร์ตอนนี้ครับ
โดย: Takeshi วันที่เขียนรีวิว: 12 มกราคม พ.ศ. 2558

ผู้เขียน นายแพทย์ วิบูล วิจิตรวาทการ
จำนวนหน้าหนังสือ 326 หน้า

ระหว่างที่อ่านหนังสือเล่มนี้ ผมคิดถึงหนังสืออยู่เล่มนึงนะครับ ที่เป็นนิยายกึ่งประวัติศาสตร์ เขียนถึงเรื่องราวที่มีชายชาวฝรั่งเศสผู้หนึ่ง เข้ามารับใช้ราชการในพระเจ้าตากสินมหาราช เป็นหนังสือที่ผมจะหยิบมาอ่านอยู่บ่อย ๆ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจริงเท็จตามประวัติศาสตร์จริงหรือไม่ เมื่อมาอ่านหนังสือเล่มนี้แล้วผมก็ต้องทึ่งกับประวัติศาสตร์ที่ผมไม่เคยอ่านในหนังสืออื่น ๆ จริง ๆ เพราะเนื้อหาจาก 2 เล่มนี้เหมือนกันเลย อย่าเรื่องของมหาดา ภิกษุที่คิดแข่งบารมี ที่ลงท้ายก็ถูกประหาร หรือแม้แต่เจ้าพระฝาง ภิกษุห่มจีวรแดงที่ในท้ายที่สุดก็หนีหายไปอย่างไร้ร่องรอย ที่น่าสนใจคือเรื่องของบาทหลวงฝรั่งเศสที่เหมือนกับหนังสือที่ผมพูดถึงเลยครับ เลยอดคิดไม่ได้ว่า สรุปมีชายชาวฝรั่งเศสมารับใช้ราชสำนักจริง ๆ ใช่มั้ย เรื่องของกรมหมื่นพิพิธที่มีเชื้อไขมาจากกษัตริย์อยุธยา และเกือบจะได้เป็นพระเจ้าแห่งกรุงสยาม เรื่องราวของพระยาสรรค์ที่ได้กลายเป็นบุคคลสำคัญ และเป็นคนที่นำไปสู่การเปลี่ยนแผ่นดินเมื่อพระเจ้าตากเสียสติ ซึ่งในหนังสือเล่มนี้ก็ยังยืนยันอยู่นะครับว่าพระเจ้าตากเสียสติ ไม่ได้หนีไปบวชแต่อย่างใด ซึ่งก็ได้นำเรื่องนี้มาเป็นตอนก่อนสุดท้าย และจบลงที่การประหารชีวิตพระเจ้าตาก ตามประวัติศาสตร์ที่คนไทยรับรู้ต่อ ๆ กันมาครับ ตกหลานไปคือเรื่องของการบำรุงพระพุทธศาสนาครับ พระเจ้าตากได้เป็นผู้อุปถัมภ์ศาสนาอย่างแท้จริง ตรงนี้ผมก็อยากให้อ่านนะครับ ท่านมีความดีมาก มากจนกว่าที่คนจะจดจำในฐานะกษัตริย์ผู้เสียสติ ซ฿งไม่แน่ชัดในข้อเท็จจริงตามประวัติศาสตร์ครับ
www.batorastore.com © 2024