Customer Reviews

บุพเพสันนิวาส เขียนโดยรอมแพง ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์แฮปปี้บานานา ตอนนี้ได้รับการตีพิมพ์เป็นครั้งที่16(โอโฮ้ เยอะมาก)แค่จำนวนครั้งก็บอกได้แล้วว่า ต้องสนุกและน่าติดตามแน่ๆ โดยเรื่องนี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการย้อนยุค ข้ามเวลา ข้ามมิติ เพื่อไปพบรักแม้ที่รอคอย ไปเที่ยวอยุธยากับเพื่อนและเกิดเหตูรถชนขึ้นทำให้วิญญาณของเกศสุรางค์ย้อนเวลาไปในอดีตแล้วไปอยู่ในร่างของ “การะเกด” ซึ่งการะเกดในขณะนั้นได้ทำให้คนตายแต่ไม่ยอมรับผิด ท่านขุนและลูกชาย “พ่อเดช” (เรื่องราวเล่าผ่านตัวละครที่ชื่อ “เกศสุรางค์” สาวอ้วนหน้าสวย(หรอ?เราคิดว่าน่าจะสวยติดตรงอ้วนไง) เราเรียกแบบนี้ก่อน เพราะในเรื่องจะมีการเปลี่ยนชื่อตามตำแหน่งยศหลายครั้ง จึงมีหลายชื่อ)ใช้มนต์กฤษณะกาลีพิสูจน์ว่าเป็นการะเกดที่ทำให้คนตาย คือการะเกดจะต้องตายหรือเป็นบ้า แต่ถ้าไม่ได้ทำก็จะไม่เป็นอะไร แต่สุดท้ายการะเกดตายวิญญาณเกศสุรางค์มาแทน(ง่ายๆการะเกดตาย)ตั้งแต่นั้นมาเกศสุรางค์ต้องใช้ชีวิตในร่างการะเกดซึ่งมีบุคลิก รูปร่างหน้าตาต่างกับเกศสุรางค์อย่างสิ้นเชิง การะเกดตัวจริงไม่เป็นที่รักของใครเลยแม้แต่พ่อเดช แต่เมื่อเกศสุรางค์มาอยู่ในร่างการะเกดทุกคนเห็นความเปลี่ยนแปลงและรู้สึกรักการะเกดคนใหม่ รวมถึงพ่อเดชด้วย แต่เรื่องราวยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้ อยากรู้ต้องซื้อหามาอ่านกันนะคะ
โดยส่วนตัวไม่เคยอ่านของรอมแพง แต่พอมาอ่านเรื่องนี้คือ รักเลย สนุกมาก เพราะนอกจากความสนุกในด้านนิยาย ตัวละครแล้ว เรายังได้รับความรู้ในแง่ประวัติศาสตร์ด้วย โดยรอมแพงเขียนได้อย่างน่าอ่าน ไม่รู้สึกว่ามันน่าเบื่อเพราะมีการสอดแทรกมุกและเหตุการณ์ที่น่าติดตามว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร ตัวพระนางจะแก้ไขปัญหาอย่างไร และที่สำคัญนิสัยตัวนางเอกไม่เหมือนกับนางเอกในนิยายอื่นๆด้วย ในเรื่องนี้นักอ่านจะได้หลากหลาย ทั้งความสนุก และความรู้ที่อาจจะลืมไปแล้ว ต้องขอบคุณรอมแพงที่ทำให้เรามีนิยายดีๆไว้ได้อ่านกันคะ

บุพเพสันนิวาส เขียนโดยรอมแพง ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์แฮปปี้บานานา ตอนนี้ได้รับการตีพิมพ์เป็นครั้งที่16(โอโฮ้ เยอะมาก)แค่จำนวนครั้งก็บอกได้แล้วว่า ต้องสนุกและน่าติดตามแน่ๆ โดยเรื่องนี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการย้อนยุค ข้ามเวลา ข้ามมิติ เพื่อไปพบรักแม้ที่รอคอย ไปเที่ยวอยุธยากับเพื่อนและเกิดเหตูรถชนขึ้นทำให้วิญญาณของเกศสุรางค์ย้อนเวลาไปในอดีตแล้วไปอยู่ในร่างของ “การะเกด” ซึ่งการะเกดในขณะนั้นได้ทำให้คนตายแต่ไม่ยอมรับผิด ท่านขุนและลูกชาย “พ่อเดช” (เรื่องราวเล่าผ่านตัวละครที่ชื่อ “เกศสุรางค์” สาวอ้วนหน้าสวย(หรอ?เราคิดว่าน่าจะสวยติดตรงอ้วนไง) เราเรียกแบบนี้ก่อน เพราะในเรื่องจะมีการเปลี่ยนชื่อตามตำแหน่งยศหลายครั้ง จึงมีหลายชื่อ)ใช้มนต์กฤษณะกาลีพิสูจน์ว่าเป็นการะเกดที่ทำให้คนตาย คือการะเกดจะต้องตายหรือเป็นบ้า แต่ถ้าไม่ได้ทำก็จะไม่เป็นอะไร แต่สุดท้ายการะเกดตายวิญญาณเกศสุรางค์มาแทน(ง่ายๆการะเกดตาย)ตั้งแต่นั้นมาเกศสุรางค์ต้องใช้ชีวิตในร่างการะเกดซึ่งมีบุคลิก รูปร่างหน้าตาต่างกับเกศสุรางค์อย่างสิ้นเชิง การะเกดตัวจริงไม่เป็นที่รักของใครเลยแม้แต่พ่อเดช แต่เมื่อเกศสุรางค์มาอยู่ในร่างการะเกดทุกคนเห็นความเปลี่ยนแปลงและรู้สึกรักการะเกดคนใหม่ รวมถึงพ่อเดชด้วย แต่เรื่องราวยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้ อยากรู้ต้องซื้อหามาอ่านกันนะคะ
โดยส่วนตัวไม่เคยอ่านของรอมแพง แต่พอมาอ่านเรื่องนี้คือ รักเลย สนุกมาก เพราะนอกจากความสนุกในด้านนิยาย ตัวละครแล้ว เรายังได้รับความรู้ในแง่ประวัติศาสตร์ด้วย โดยรอมแพงเขียนได้อย่างน่าอ่าน ไม่รู้สึกว่ามันน่าเบื่อเพราะมีการสอดแทรกมุกและเหตุการณ์ที่น่าติดตามว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร ตัวพระนางจะแก้ไขปัญหาอย่างไร และที่สำคัญนิสัยตัวนางเอกไม่เหมือนกับนางเอกในนิยายอื่นๆด้วย ในเรื่องนี้นักอ่านจะได้หลากหลาย ทั้งความสนุก และความรู้ที่อาจจะลืมไปแล้ว ต้องขอบคุณรอมแพงที่ทำให้เรามีนิยายดีๆไว้ได้อ่านกันคะ

อาญารักเจ้าพ่อ เขียนโดยPream ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์อักษรศาสตร์ ถือว่าเป็นเล่มแรกของพรีมเลยละ เป็นแนวเกี่ยวกับเจ้าพ่อ(ตามชื่อเรื่องเลย) “ระบิล มิคาเอล ราชิด” เจ้าของผับชื่อดังและถูกตาต้องใจนางเอก “ดาราวดี” หรือนางไก่หลงโดยนางเอกของเรามีปมเกี่ยวกับแม่ ที่ไม่รัก ไม่ต้องการ แต่ด้วยความดี ลูกกตัญญู สุดท้ายแม่ก็กลับมารักมาห่วงใย ย้อนกลับมาที่พระเอกบ้าง ด้วยความที่ถูกใจแต่ไม่ทำอะไร ลูกน้องผู้หวังดีก็เลยเอามาให้ถึงที เจ้าพ่อก็เลยจัดการซะเลย แต่เจ้าพ่อก็ต้องเลยมาด้วยเงินจำนวนมากพร้อมทั้งทะเบียนสมรสด้วย เจ้าพ่อจะยอมไหม? ตอบ ยอมสิ ฮ่า ฮ่าฮ่า หลังจากนั้นก็มีเรื่องราวเข้ามาอีกมากมาย ไหนจะเสี่ยที่จองนางไก่หลงเหมือนกัน ไหนจะศัตรูของเจ้าพ่อเองอีกละ แต่ขึ้นชื่อว่าเจ้าพ่อก็ต้องจัดการได้ทุกอย่างอยู่แล้ว
ถามว่าเราชอบไหม? บอกเลย ชอบมาก แค่เห็นชื่อนักเขียนว่าพรีมเขียนก็ซื้อแล้วอะ เพราะของพรีมเป็นแนวที่พระเอกเก่งเว่อร์ รวยเว่อร์ รักนางเอกเว่อร์ คือแบบในชีวิตจริงมันไม่มีไง...อีกอย่างของพรีมจะมีเสน่ห์ตรงสำนวน ภาษาที่ใช้เขียน มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เพราะพรีมเขาจะใช้วิธีตีความ อย่างจะบอกว่าตำรวจก็ใช้คำเป็นพวกมีสีบ้าง เรียกว่าพ่อบ้าง บางทีเราก็งงว่าหมายความว่าอะไรแต่พอได้อ่านหลายเรื่องเข้าก็พอจะจับจุดได้ว่าคืออะไร เรื่องนี้เราอ่านหลายรอบมาก สนุกถึงกับต้องตามซื้อเล่มต่อไป ฉะนั้นมันก็สรุปได้ง่ายเลยว่า อาญารักเจ้าพ่อ เป็นเรื่องที่สนุกมากๆ แอบกระซิบว่ามีภาคต่อรุ่นลูกอีกนะ ลองอ่านกันดู สนุกมากๆ

อาญารักเจ้าพ่อ เขียนโดยPream ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์อักษรศาสตร์ ถือว่าเป็นเล่มแรกของพรีมเลยละ เป็นแนวเกี่ยวกับเจ้าพ่อ(ตามชื่อเรื่องเลย) “ระบิล มิคาเอล ราชิด” เจ้าของผับชื่อดังและถูกตาต้องใจนางเอก “ดาราวดี” หรือนางไก่หลงโดยนางเอกของเรามีปมเกี่ยวกับแม่ ที่ไม่รัก ไม่ต้องการ แต่ด้วยความดี ลูกกตัญญู สุดท้ายแม่ก็กลับมารักมาห่วงใย ย้อนกลับมาที่พระเอกบ้าง ด้วยความที่ถูกใจแต่ไม่ทำอะไร ลูกน้องผู้หวังดีก็เลยเอามาให้ถึงที เจ้าพ่อก็เลยจัดการซะเลย แต่เจ้าพ่อก็ต้องเลยมาด้วยเงินจำนวนมากพร้อมทั้งทะเบียนสมรสด้วย เจ้าพ่อจะยอมไหม? ตอบ ยอมสิ ฮ่า ฮ่าฮ่า หลังจากนั้นก็มีเรื่องราวเข้ามาอีกมากมาย ไหนจะเสี่ยที่จองนางไก่หลงเหมือนกัน ไหนจะศัตรูของเจ้าพ่อเองอีกละ แต่ขึ้นชื่อว่าเจ้าพ่อก็ต้องจัดการได้ทุกอย่างอยู่แล้ว
ถามว่าเราชอบไหม? บอกเลย ชอบมาก แค่เห็นชื่อนักเขียนว่าพรีมเขียนก็ซื้อแล้วอะ เพราะของพรีมเป็นแนวที่พระเอกเก่งเว่อร์ รวยเว่อร์ รักนางเอกเว่อร์ คือแบบในชีวิตจริงมันไม่มีไง...อีกอย่างของพรีมจะมีเสน่ห์ตรงสำนวน ภาษาที่ใช้เขียน มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เพราะพรีมเขาจะใช้วิธีตีความ อย่างจะบอกว่าตำรวจก็ใช้คำเป็นพวกมีสีบ้าง เรียกว่าพ่อบ้าง บางทีเราก็งงว่าหมายความว่าอะไรแต่พอได้อ่านหลายเรื่องเข้าก็พอจะจับจุดได้ว่าคืออะไร เรื่องนี้เราอ่านหลายรอบมาก สนุกถึงกับต้องตามซื้อเล่มต่อไป ฉะนั้นมันก็สรุปได้ง่ายเลยว่า อาญารักเจ้าพ่อ เป็นเรื่องที่สนุกมากๆ แอบกระซิบว่ามีภาคต่อรุ่นลูกอีกนะ ลองอ่านกันดู สนุกมากๆ

พจนานุกรม ญี่ปุ่น-ไทย(รวมศัพท์กว่า 40,000คำ) ได้รับการตีพิมพ์ใหม่มามากกว่า8ครั้งแล้ว เป็นพจนานุกรมเล่มพื้นฐานที่ผู้เรียนภาษาญี่ปุ่นจะต้องมีติดตัวไว้ตลอดเวลาในการเรียนหรือแม้กระทั่งในการทำงานก็ยังจะต้องใช้อยู่เสมอ พจนานุกรมเล่มปัจจุบันถือว่าเป็นรูปเล่มใหม่ ทั้งรูปแบบ ปก ถ้าหากเทียบกับรูปแบบเก่าถือว่าแบบเก่าใช้ง่ายกว่า ด้วยแบบเก่ากระดาษจะมีขนาดเท่ากันกับหน้าปก จับง่าย ตัวกระดาษก็เปิดง่าย มีลักษณะบาง แต่ในรูปแบบใหม่ตัวกระดาษเนื้อหามีการทำให้เว้าเข้า ถ้าถามความสวยงาม ถือว่าสวย แต่ในด้านการใช้งานถือว่าค่อนข้างลำบากในการจับ เปิดหาคำศัพท์ กระดาษมีความหนากว่าแบบเก่า ส่วนในด้านเนื้อ คำศัพท์ ถือว่ามีความละเอียดในระดับที่น่าพอใจ แต่(มันจะมีข้อติอยู่เสมอ)คำศัพท์เฉพาะยังน้อยอยู่ หากดูภาพรวมทั้งศัพท์ฮิรากะนะ คาตาคะนะ หรือแม้กระทั่งคันจิ ถือว่าดี และอีกอย่างหากใครต้องการพจนานุกรมญี่ปุ่นไทยเล่มนี้แบบเก่าก็หายากแล้ว (พอดีเรามีแบบเก่า)
แต่โดยส่วนตัว เราว่าตัวคันจิดูเล็กไป บางครั้งก็มองเส้นไม่ค่อยเห็น (พอดีเราเรียนภาษาญี่ปุ่นมา)แต่บางคนก็จะบอกว่า ก็เค้ามีพจนานุกรมคันจิแย่งให้หนิ ก็ใช้ บางครั้งพอหาความหมายมันก็มีคันจิให้ จะเอามาใช้ก็ดูไม่ค่อยเห็นอีก ยิ่งตัวไหนเส้นมาก มันก็จะดูมั่วๆ แต่ก็นะมันก็เป็นเพียงจุดเล็ก โดยรวมถือว่าพจนานุกรมเล่มนี้ดี ใช้ง่าย พกติดตัวได้ง่ายเพราะมีขนาดไม่ใหญ่มาก และที่สำคัญเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับคนที่เรียนภาษาญี่ปุ่น เพราะอาจารย์มักจะบอกให้ไปซื้อพจนานุกรมเล่มนี้มาเป็นเล่มแรกเลยละ และหลังจากนั้นเวลามาเรียนก็จะต้องพกมาด้วยตลอด ถ้ามาเอามาอาจารย์ก็จะด่าอีก (แบบว่าโดยมาแล้ว เลยบอกได้)ง่ายๆเลยซื้อเลยคะ สำหรับคนที่จะเรียน กำลังเรียนภาษาญี่ปุ่น ดีคะ

พจนานุกรม ญี่ปุ่น-ไทย(รวมศัพท์กว่า 40,000คำ) ได้รับการตีพิมพ์ใหม่มามากกว่า8ครั้งแล้ว เป็นพจนานุกรมเล่มพื้นฐานที่ผู้เรียนภาษาญี่ปุ่นจะต้องมีติดตัวไว้ตลอดเวลาในการเรียนหรือแม้กระทั่งในการทำงานก็ยังจะต้องใช้อยู่เสมอ พจนานุกรมเล่มปัจจุบันถือว่าเป็นรูปเล่มใหม่ ทั้งรูปแบบ ปก ถ้าหากเทียบกับรูปแบบเก่าถือว่าแบบเก่าใช้ง่ายกว่า ด้วยแบบเก่ากระดาษจะมีขนาดเท่ากันกับหน้าปก จับง่าย ตัวกระดาษก็เปิดง่าย มีลักษณะบาง แต่ในรูปแบบใหม่ตัวกระดาษเนื้อหามีการทำให้เว้าเข้า ถ้าถามความสวยงาม ถือว่าสวย แต่ในด้านการใช้งานถือว่าค่อนข้างลำบากในการจับ เปิดหาคำศัพท์ กระดาษมีความหนากว่าแบบเก่า ส่วนในด้านเนื้อ คำศัพท์ ถือว่ามีความละเอียดในระดับที่น่าพอใจ แต่(มันจะมีข้อติอยู่เสมอ)คำศัพท์เฉพาะยังน้อยอยู่ หากดูภาพรวมทั้งศัพท์ฮิรากะนะ คาตาคะนะ หรือแม้กระทั่งคันจิ ถือว่าดี และอีกอย่างหากใครต้องการพจนานุกรมญี่ปุ่นไทยเล่มนี้แบบเก่าก็หายากแล้ว (พอดีเรามีแบบเก่า)
แต่โดยส่วนตัว เราว่าตัวคันจิดูเล็กไป บางครั้งก็มองเส้นไม่ค่อยเห็น (พอดีเราเรียนภาษาญี่ปุ่นมา)แต่บางคนก็จะบอกว่า ก็เค้ามีพจนานุกรมคันจิแย่งให้หนิ ก็ใช้ บางครั้งพอหาความหมายมันก็มีคันจิให้ จะเอามาใช้ก็ดูไม่ค่อยเห็นอีก ยิ่งตัวไหนเส้นมาก มันก็จะดูมั่วๆ แต่ก็นะมันก็เป็นเพียงจุดเล็ก โดยรวมถือว่าพจนานุกรมเล่มนี้ดี ใช้ง่าย พกติดตัวได้ง่ายเพราะมีขนาดไม่ใหญ่มาก และที่สำคัญเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับคนที่เรียนภาษาญี่ปุ่น เพราะอาจารย์มักจะบอกให้ไปซื้อพจนานุกรมเล่มนี้มาเป็นเล่มแรกเลยละ และหลังจากนั้นเวลามาเรียนก็จะต้องพกมาด้วยตลอด ถ้ามาเอามาอาจารย์ก็จะด่าอีก (แบบว่าโดยมาแล้ว เลยบอกได้)ง่ายๆเลยซื้อเลยคะ สำหรับคนที่จะเรียน กำลังเรียนภาษาญี่ปุ่น ดีคะ

ปรารถนารัตติกาล เขียนโดย พราวตะวัน พิมพ์กับสำนักพิมพ์มันดี ซึ่งเป็นหนึ่งในนิยายชุดรัตติกาล เล่มนี้ถือเป็นเล่มแรก โดยมีเล่มสองและสามออกมาแล้วคะ เราจะเล่าเรื่องราวในเล่มแรกคร่าวๆ แบบเรียกน้ำจิ้มให้อ่านกันดู เผื่อมีใครชอบจะได้ตามซื้อ หามาอ่านกัน เรื่องราวเริ่มต้นหลังจากที่เอ็ดเวิร์ดถูกซ้อมและได้รับบาดเจ็บสาหัส จนเขาคิดว่าเขากำลังจะตาย แต่เขาก็ได้รับความช่วยเหลือและได้ถูกเปลี่ยนให้กลายมาเป็นแวมไพร์และใช้ชื่อว่า “เอ็ดเวิร์ด อีวาน” และได้เข้าร่วมกลุ่มกับกลุ่มแวมไพร์ไนท์เพื่อตามล่าและสังหารพวกฟินแทน(คล้ายๆพวกซอมบี้หรือปีศาจ ประมาณนั้นอะ) และเขาก็ได้เจอกับ “โรสแมรี” ผู้ที่มาทำให้เอ็ดเวิร์ดจอมเย็นชากลับมามีหัวใจและต้องการที่จะปกป้องสิ่งที่สำคัญกับเขา แต่เขาไม่กล้าที่จะบอกกับโรสแมรีว่าเขาเป็นแวมไพร์ เพราะเขากลัวว่าโรสแมรีจะรับไม่ได้และทิ้งเขาไปเหมือนที่เขาเคยโดยมาตลอด 100ปีที่อยู่มาอย่างยาวนาน แต่เมื่อเขาตัดสินใจบอกความจริง เขาก็ไม่อยากจะเชื่อว่าโรสแมรีจะยอมรับได้ เรื่องราวดูจะจบลงด้วยดีในเมื่อทั้งสองคนยอมรับในตัวกันและกันได้แต่ หากไม่มีผู้ร้าย พระเอกก็จะไม่ได้โชว์แมน มันก็เลยต้องมีตัวร้ายในฝ่ายฟินแทนออกมาสู้กันอย่างดุเดือน (ตัวร้ายตายเร็วมาก แม้ว่าจะกลับมาได้สองรอบก็เถอะ)หลังจากตัวร้ายตายทั้งสองก็ได้ครองคู่กันอย่างสมบูรณ์
จบแล้ว เย้!งงละสิตอนแรกบอกว่าเล่าคร่าวแต่ไปๆมาก็จบซะงัน แต่ก็นะ เราว่าเรื่องนี้สำหรับเรา เฉยๆอะ อาจจะเพราะแนวแวมไพร์มันมีออกมาเยอะมาก ยิ่งโดยสำนวนของพราวตะวันแล้วมันเหมือนจะเป็นหนังสือแปลแต่ก็ไม่ใช่ แต่ถ้าว่าอ่านแบบเพลิน แก้เบื่อได้ไหม?ตอบเลยได้ ยังไงก็ลองหามาอ่านกันดู นักอ่านท่านอื่นๆอาจจะชอบก็ได้

ปรารถนารัตติกาล เขียนโดย พราวตะวัน พิมพ์กับสำนักพิมพ์มันดี ซึ่งเป็นหนึ่งในนิยายชุดรัตติกาล เล่มนี้ถือเป็นเล่มแรก โดยมีเล่มสองและสามออกมาแล้วคะ เราจะเล่าเรื่องราวในเล่มแรกคร่าวๆ แบบเรียกน้ำจิ้มให้อ่านกันดู เผื่อมีใครชอบจะได้ตามซื้อ หามาอ่านกัน เรื่องราวเริ่มต้นหลังจากที่เอ็ดเวิร์ดถูกซ้อมและได้รับบาดเจ็บสาหัส จนเขาคิดว่าเขากำลังจะตาย แต่เขาก็ได้รับความช่วยเหลือและได้ถูกเปลี่ยนให้กลายมาเป็นแวมไพร์และใช้ชื่อว่า “เอ็ดเวิร์ด อีวาน” และได้เข้าร่วมกลุ่มกับกลุ่มแวมไพร์ไนท์เพื่อตามล่าและสังหารพวกฟินแทน(คล้ายๆพวกซอมบี้หรือปีศาจ ประมาณนั้นอะ) และเขาก็ได้เจอกับ “โรสแมรี” ผู้ที่มาทำให้เอ็ดเวิร์ดจอมเย็นชากลับมามีหัวใจและต้องการที่จะปกป้องสิ่งที่สำคัญกับเขา แต่เขาไม่กล้าที่จะบอกกับโรสแมรีว่าเขาเป็นแวมไพร์ เพราะเขากลัวว่าโรสแมรีจะรับไม่ได้และทิ้งเขาไปเหมือนที่เขาเคยโดยมาตลอด 100ปีที่อยู่มาอย่างยาวนาน แต่เมื่อเขาตัดสินใจบอกความจริง เขาก็ไม่อยากจะเชื่อว่าโรสแมรีจะยอมรับได้ เรื่องราวดูจะจบลงด้วยดีในเมื่อทั้งสองคนยอมรับในตัวกันและกันได้แต่ หากไม่มีผู้ร้าย พระเอกก็จะไม่ได้โชว์แมน มันก็เลยต้องมีตัวร้ายในฝ่ายฟินแทนออกมาสู้กันอย่างดุเดือน (ตัวร้ายตายเร็วมาก แม้ว่าจะกลับมาได้สองรอบก็เถอะ)หลังจากตัวร้ายตายทั้งสองก็ได้ครองคู่กันอย่างสมบูรณ์
จบแล้ว เย้!งงละสิตอนแรกบอกว่าเล่าคร่าวแต่ไปๆมาก็จบซะงัน แต่ก็นะ เราว่าเรื่องนี้สำหรับเรา เฉยๆอะ อาจจะเพราะแนวแวมไพร์มันมีออกมาเยอะมาก ยิ่งโดยสำนวนของพราวตะวันแล้วมันเหมือนจะเป็นหนังสือแปลแต่ก็ไม่ใช่ แต่ถ้าว่าอ่านแบบเพลิน แก้เบื่อได้ไหม?ตอบเลยได้ ยังไงก็ลองหามาอ่านกันดู นักอ่านท่านอื่นๆอาจจะชอบก็ได้

บัลลังก์เงา ผลงานเขียนของคุณหญิงวิมล นามปากกาโรสลาเรน ซึ่งเป็นแนวเกี่ยวกับนิยายรักจินตนิยาย (เราว่าคงเป็นรักที่แบบไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ประมาณนั้นอะ) ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม เป็นเรื่องราวของเจ้าชายสององค์ “ไศลเรนทร” และ “ศรีวิเรนทร” (ไซรีและซีรี ของเรานั้นเองน่ารักมาก)จากเมืองคันธารา ที่จะต้องไปเรียนต่างประเทศเพื่อกลับมาตัดสินว่าใครจะได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ และในระหว่างการไปเรียนทั้งสองได้เจอกับเจ้าหญิงจากอันทรา “สุไรยาวาตี” (ราย่านั้นเอง) ทั้งสามเป็นเพื่อนกันโดยที่ไม่มีใครรู้ว่าทั้งสามเป็นเจ้าหญิงเจ้าชายมาจากเมืองอะไรและเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ทั้งสามต้องเดินทางกลับบ้านเมืองของตัวเองเพื่อไปแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นและทำให้ทั้งสามได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง แต่เรื่องราวที่ต่อจากนั้นที่นำมาสู้ผลสรุปว่าใครระหว่างไซรีและซีรีจะได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ (แอบกระซิบว่านักอ่านทุกท่านถ้าได้อ่านน่าจะทายกันถูก) อยากรู้สรุปสุดท้ายเป็นอย่างไรหาอ่านกันดูนะคะ
เป็นอีกเรื่องในนามปากกาโรสลาเรนที่ชอบมาก ถ้าถามว่าอ่านเป็นครั้งที่เท่าไหร่บอกเลยว่า ครั้งนี้ครั้งที4แล้วค้า คือถ้าไม่ชอบคงไม่อ่านมากขนาดนี้ อย่างที่รู้ๆกันละคะ ภาษา สำนวน อาจจะอ่านยากสำหรับคนที่ไม่เคยอ่านหรือเพิ่งอ่านครั้งแรก แต่สำหรับคนที่ชอบและเคยอ่านจะรู้เลยว่าเป็นอีกเรื่องที่น่ารักมาก ตัวเราชอบไซรีมาก ดูเป็นผู้ชายแมนๆมาก ในขณะที่ซีรีดูเป็นคนที่นิ่มๆหน่อย ดูแบบอ่อนโยน ยิ่งตอนที่ไซรีหวานกับราย่ายิ่งน่ารักมาก อ้อ มีตอนที่แอบเศร้าด้วยตอนที่ไซรีได้รับบาดเจ็บแล้วราย่าไปดู โอ้ย! ฟินมาก เรื่องนี้แนะนำเลยสำหรับคนที่ชอบรับรองไม่ผิดหวังจ้า

บัลลังก์เงา ผลงานเขียนของคุณหญิงวิมล นามปากกาโรสลาเรน ซึ่งเป็นแนวเกี่ยวกับนิยายรักจินตนิยาย (เราว่าคงเป็นรักที่แบบไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ประมาณนั้นอะ) ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม เป็นเรื่องราวของเจ้าชายสององค์ “ไศลเรนทร” และ “ศรีวิเรนทร” (ไซรีและซีรี ของเรานั้นเองน่ารักมาก)จากเมืองคันธารา ที่จะต้องไปเรียนต่างประเทศเพื่อกลับมาตัดสินว่าใครจะได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ และในระหว่างการไปเรียนทั้งสองได้เจอกับเจ้าหญิงจากอันทรา “สุไรยาวาตี” (ราย่านั้นเอง) ทั้งสามเป็นเพื่อนกันโดยที่ไม่มีใครรู้ว่าทั้งสามเป็นเจ้าหญิงเจ้าชายมาจากเมืองอะไรและเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ทั้งสามต้องเดินทางกลับบ้านเมืองของตัวเองเพื่อไปแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นและทำให้ทั้งสามได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง แต่เรื่องราวที่ต่อจากนั้นที่นำมาสู้ผลสรุปว่าใครระหว่างไซรีและซีรีจะได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ (แอบกระซิบว่านักอ่านทุกท่านถ้าได้อ่านน่าจะทายกันถูก) อยากรู้สรุปสุดท้ายเป็นอย่างไรหาอ่านกันดูนะคะ
เป็นอีกเรื่องในนามปากกาโรสลาเรนที่ชอบมาก ถ้าถามว่าอ่านเป็นครั้งที่เท่าไหร่บอกเลยว่า ครั้งนี้ครั้งที4แล้วค้า คือถ้าไม่ชอบคงไม่อ่านมากขนาดนี้ อย่างที่รู้ๆกันละคะ ภาษา สำนวน อาจจะอ่านยากสำหรับคนที่ไม่เคยอ่านหรือเพิ่งอ่านครั้งแรก แต่สำหรับคนที่ชอบและเคยอ่านจะรู้เลยว่าเป็นอีกเรื่องที่น่ารักมาก ตัวเราชอบไซรีมาก ดูเป็นผู้ชายแมนๆมาก ในขณะที่ซีรีดูเป็นคนที่นิ่มๆหน่อย ดูแบบอ่อนโยน ยิ่งตอนที่ไซรีหวานกับราย่ายิ่งน่ารักมาก อ้อ มีตอนที่แอบเศร้าด้วยตอนที่ไซรีได้รับบาดเจ็บแล้วราย่าไปดู โอ้ย! ฟินมาก เรื่องนี้แนะนำเลยสำหรับคนที่ชอบรับรองไม่ผิดหวังจ้า

ไวษณวี ผลงานเขียนของทมยันตี แค่ชื่อนามปากกาก็บอกเราได้อยู่แล้วว่าจะต้องสนุก และมีข้อคิดให้แก่คนอ่านแน่ๆ ในเรื่องนี้จะบอกเราถึงเรื่องราวของ ไวษรี หญิงสาวที่มีความแปลกในตัว เธอมักได้ยินเสียงจากในสมองตัวเอง ได้เห็นภาพที่เกิดขึ้นแล้วหรือที่กำลังจะเกิด จนเธอคิดว่าเธอเป็นบ้า หรือมีอาการทางประสาทหรือเปล่า จนเธอได้รู้ว่าเธอเป็นอณูแห่งเดวะ แรกๆเธอไม่เชื่อจนเธอได้รับข้อพิสูจน์มากมายจนยอมรับได้ และเธอยังได้บอกให้คนรอบข้างขยันทำความดีเพื่อที่ตายไปจะได้มีที่อยู่ที่ดีๆ และสุดท้ายมาอยู่ที่ตัวไวษรีเองที่จะต้องวางทุกอย่างเพื่อกลับไปยังที่ที่เธอจากมา
แค่เราเห็นชื่อนามปากกาเรารู้เลยว่าสนุกแน่ๆ แต่สำหรับคนที่ไม่เคยอ่านนวนิยายของทมยันตีมาก่อนคงจะงงอยู่บ้าง เพราะเราจะต้องคิดและตีความหมายของประโยคและบทสนทนาอยู่เรื่อยๆว่าคืออะไร โดนเรื่องนี้จะมีแนวเดียวกับมายา จิตา ฌาน ซึ่งเป็นแนวเกี่ยวกับธรรมะ บอกเลยว่าให้ข้อคิดดีๆมากมายเลยละ อ้อ! มีบางตอนที่แอบน้ำตาซึมด้วย (งงละซิว่ามันซึ้งยังไง) หากนักอ่านท่านไหนอยากรู้ว่าเรื่องราวจะจบแบบไหน จะค้างแบบเรื่องอื่นๆของทมยันตีรึเปล่าต้องไปหามาอ่านกันดูนะคะ
โดยส่วนตัวเลยชอบมาก เพราะไม่ใช่ว่าจะกล่าวถึงแต่ธรรมะอย่างเดียวแต่ยังกล่าวถึงเรื่องราวความเป็นไปของตัวละครต่างๆได้อย่างน่าอ่านมากๆ สอนให้เรารู้จักทำความดี คิดดี เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ใครชอบแนวนี้จะชอบมากๆ สารภาพเลยตอนนี้เรากำลังตามอ่านผลงานของทมยันตีอยู่ รวมถึงนามปากกาอื่นด้วยอย่างลักษณวดี โรสลาเรน กรกเรขา เพราะแต่ละนามปากกาจะมีเนื้อหาที่แตกต่างกัน ไว้จะรีวิวเรื่องอื่นให้อ่านดูนะคะ

ไวษณวี ผลงานเขียนของทมยันตี แค่ชื่อนามปากกาก็บอกเราได้อยู่แล้วว่าจะต้องสนุก และมีข้อคิดให้แก่คนอ่านแน่ๆ ในเรื่องนี้จะบอกเราถึงเรื่องราวของ ไวษรี หญิงสาวที่มีความแปลกในตัว เธอมักได้ยินเสียงจากในสมองตัวเอง ได้เห็นภาพที่เกิดขึ้นแล้วหรือที่กำลังจะเกิด จนเธอคิดว่าเธอเป็นบ้า หรือมีอาการทางประสาทหรือเปล่า จนเธอได้รู้ว่าเธอเป็นอณูแห่งเดวะ แรกๆเธอไม่เชื่อจนเธอได้รับข้อพิสูจน์มากมายจนยอมรับได้ และเธอยังได้บอกให้คนรอบข้างขยันทำความดีเพื่อที่ตายไปจะได้มีที่อยู่ที่ดีๆ และสุดท้ายมาอยู่ที่ตัวไวษรีเองที่จะต้องวางทุกอย่างเพื่อกลับไปยังที่ที่เธอจากมา
แค่เราเห็นชื่อนามปากกาเรารู้เลยว่าสนุกแน่ๆ แต่สำหรับคนที่ไม่เคยอ่านนวนิยายของทมยันตีมาก่อนคงจะงงอยู่บ้าง เพราะเราจะต้องคิดและตีความหมายของประโยคและบทสนทนาอยู่เรื่อยๆว่าคืออะไร โดนเรื่องนี้จะมีแนวเดียวกับมายา จิตา ฌาน ซึ่งเป็นแนวเกี่ยวกับธรรมะ บอกเลยว่าให้ข้อคิดดีๆมากมายเลยละ อ้อ! มีบางตอนที่แอบน้ำตาซึมด้วย (งงละซิว่ามันซึ้งยังไง) หากนักอ่านท่านไหนอยากรู้ว่าเรื่องราวจะจบแบบไหน จะค้างแบบเรื่องอื่นๆของทมยันตีรึเปล่าต้องไปหามาอ่านกันดูนะคะ
โดยส่วนตัวเลยชอบมาก เพราะไม่ใช่ว่าจะกล่าวถึงแต่ธรรมะอย่างเดียวแต่ยังกล่าวถึงเรื่องราวความเป็นไปของตัวละครต่างๆได้อย่างน่าอ่านมากๆ สอนให้เรารู้จักทำความดี คิดดี เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ใครชอบแนวนี้จะชอบมากๆ สารภาพเลยตอนนี้เรากำลังตามอ่านผลงานของทมยันตีอยู่ รวมถึงนามปากกาอื่นด้วยอย่างลักษณวดี โรสลาเรน กรกเรขา เพราะแต่ละนามปากกาจะมีเนื้อหาที่แตกต่างกัน ไว้จะรีวิวเรื่องอื่นให้อ่านดูนะคะ