PS4: Middle Earth: Shadow of Mordor - Game of the Year Edition (Z-3)

 

รีวิวเกมส์ PS4: Middle-earth: Shadow of Mordor

 

J. R. R. Tolkien ได้รังสรรค์พงศาวดารแห่งดินแดนมัชฌิมโลกไว้มากมาย แต่ที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางก็มีเพียงงานภาพยนต์ในกำกับของ Peter Jackson เท่านั้น ที่จริงยังมีงานของคุณ Tolkien อีกมากที่ไม่ได้ถ่ายทอดสู่ภาพยนต์ทั้ง 6 เรื่อง นับว่าน่าเสียดายเหลือเกินที่เราจะไม่ได้เห็นโลกที่ถูกบรรยายไว้อย่างละเอียดละออนี้ อย่างไรก็ตามค่าย Warner Bros ร่วมกับผู้พัฒนา Monolith Productions ได้นำเนื้อหาส่วนที่ไม่เป็นที่รู้จักนักมาผนวกกับโลกทัศน์ของ Peter Jackson จนกลายเป็นเกม action-RPG ที่จะนำท่านไปผจญภัยในดินแดนแห่งเปลวเพลิงและประตูทมิฬ Mordor ในสายตาของบุรุษผู้ที่เป็นทั้งบิดา ผู้วายชนม์ และผู้อับโชคที่ตกอยู่ใต้คำสาปของมือทมิฬแห่งเซารอน

 

Talion และภรรยา

 

เนื้อเรื่อง

บุรุษร่างใหญ่โตนามว่า Talion ผู้ดำรตำแหน่งหัวหน้าพรานไพร (ranger) สัญชาติ Gondor ใช้เวลาว่างฝึกเพลงดาบให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน โดยมีภรรยาสาวสวยเฝ้าดูอยู่ไม่ห่าง เมื่อเขาตามภรรยาเข้าไปในงานเลี้ยงฉลอง ทั้งคู่ก็ปรึกษากันเรื่องการขยับขยายย้ายที่อยู่ไปที่เมืองอื่น เพราะเมืองหน้าด่านแบบนี้ช่างอันตรายเหลือเกิน นับว่าเป็นคำพูดต้องห้ามในหนัง การ์ตูน และเกมก็ว่าได้ เพราะฉากต่อมาก็มีฝูงออร์คบุกเข้าโจมตีป้อมปราการที่ Talion ปกป้องอยู่ และพรากชีวิตของเขา ภรรยา รวมทั้งลูกไปอย่างทารุณสุดบรรยาย แต่ดูเหมือนนี่ไม่ใช่การบุกโจมตียึดพื้นที่ธรรมดา เพราะผู้ที่พรากวิญญาณไปจากร่างของ Talion คือมือทมิฬแห่งเซารอน (Black Hand of Sauron) หรือผู้สำเร็จประสงค์แห่งเซารอนนั่นเอง มันได้สะกดวิญญาณของ Talion ทำให้เขาต้องติดอยู่ในโลกระหว่างภพ (โลกเดียวกับที่ Frodo มองเห็นตอนสวมแหวนเอกธำมรงค์) และได้พบกับผู้ร่วมชะตากรรมเป็นวิญญาณของเอลฟ์อีกดวงหนึ่ง และด้วยพลังบางอย่างทำให้วิญญาณทั้งสองดวงรวมกันจนกลายเป็นร่างเนื้ออีกครั้ง Talion พบว่าตัวเองไม่ได้อยู่ที่ป้อมปราการอีกแล้ว แต่เป็นใจกลาง Mordor ดินแดนที่เต็มไปด้วยเถ้าภูเขาไฟ ออร์ค และสัตว์ดุร้าย แต่ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว เอลฟ์ที่เหมือนวิญญาณตามติดเขาได้แบ่งพลังให้ทั้งการมองไกล อาวุธ และความรู้โบราณที่จะเป็นกุญแจไขปริศนาที่มือทมิฬกุมอยู่ ที่สำคัญทั้งสองเห็นพ้องกันว่าหัวที่อยู่บนบ่าของมือทมิฬนั้นไม่เข้าท่าเสียเลย น่าจะกุดออกมาทำลูกบอลเสียเห็นจะเหมาะ

 

วิญญาณเอฟล์ผู้ไม่รู้กระทั่งชื่อตัวเอง

 

ระบบในเกม

เกมนี้เป็นแบบ open world ตามสมัยนิยมที่ผู้เล่นสามารถเดินเล่น ซุ่มโป่ง เก็บดอกไม้ ฆ่าสัตว์ เก็บเควสย่อย หรือจะทำอย่างอื่นก็ได้ตามใจชอบ ขออย่างเดียวอย่าพลาดไปตายเข้า ไม่ใช่ว่าเราจะเกิดใหม่ไม่ได้หรืออะไร แต่ตัวเกมมีระบบที่จะเพิ่มพลัง (ในเกมเรียก power แต่จริงๆ ก็เหมือน level นั่นแหล่ะ) ให้บอสหรือลูกน้องที่ฆ่าเราสำเร็จ ก็คือถ้าเราตายบ่อยๆ เกมก็จะยากขึ้นนั่นเอง อีกทั้งพวกบอสเหล่านี้ยังมีระดับชั้นศักดินาแบ่งชนชั้นกันอีก พวกที่อยู่ในชั้นสูงจะมีลูกน้องเยอะและฆ่ายาก ทำให้เราต้องระวังไม่ไปโดนมันฆ่า หรือจะให้ดีเราต้องตัดไฟเสียแต่ต้นลมด้วยการเข้าไปปลิดชีพตั้งแต่ยังอยู่ในระดับล่างก็ยังได้

 

ระบบศักดินาบัญชาการของพวกออร์ค (ในเกมมันจะเรียกตัวเองว่า อุรุก)

 

ระบบในเกม: การเค้นข้อมูล

เกมนี้เปิดให้ผู้เล่นสามารถจัดการกับศัตรูด้วยวิธีต่างๆ กัน เช่นยิงธนูจากระยะไกล หรือปล่อยเสือ (จริงๆ เป็นสัตว์คล้ายเสือชื่อ caragor) มาขย้ำคอก็ได้ แต่พวกที่เป็นตัวหัวหน้านั้นจะพิเศษหน่อย เพราะบางตัวจะป้องกันการยิงระยะไกล ตอนใกล้ตายจะมีพลังเพิ่มเลือดเต็ม หรือต้องใช้วิธีพิเศษเท่านั้นถึงจะจัดการได้ ถ้าเป็นแบบนี้ผู้เล่นมีกี่ชีวิตก็คงไม่พอแน่ๆ เว้นแต่เราจะทำการรีดข้อมูลจุดอ่อนของพวกมันออกจากปากลูกน้องเสียก่อน ในเกมจะมีออร์คที่เรียกว่า worm สังเกตได้จากสัญลักษณ์สีเขียวเหนือหัวหรือเมื่อมองผ่านตาเอลฟ์จะเห็นตัวพวกมันเป็นสีเขียว เจ้าพวกนี้เมื่อจับตัวสำเร็จจะสามารถใช้พลังวิญญาณของเอลฟ์เพื่อดึงข้อมูลจุดอ่อนจากพวกมันได้ จุดอ่อนพวกนี้มีตั้งแต่กลัวไฟ กลัวเสือ กลัวผึ้ง ไปจนถึงสามารถถูกปลิดชีพได้จากการลอบสังหาร ทำให้ก่อนจะฆ่าตัวบอสพวกนี้จะต้องเค้นข้อมูลก่อนทุกครั้ง เพื่อให้รู้จุดอ่อนจุดแข็งและวิธีรับมือกับพวกมัน นอกจากการรีดข้อมูลจากลูกน้องแล้วเรายังสามารถเก็บข้อมูลจากเอกสารตามค่ายพัก หรือจากทาสแรงงานที่เราไปช่วยชีวิตไว้

 

ถ้าไม่พูดเดียวบิดหูขาดเลยนะ!

 

ระบบในเกม: หัวหน้าออร์ค

ตัวหัวหน้านับเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของเกมเลยครับ เพราะนอกจากเราจะต้องปราบพวกมันเพื่อเพิ่ม power ของเรา (ซึ่งจำเป็นสำหรับการปลดความสามารถระดับสูง) การผ่านเนื้อเรื่องและภารกิจส่วนใหญ่ก็ต้องข้ามศพพวกมันนี่แหล่ะ แถมเกมยังมีลูกเล่นน่าสนใจ เพราะตัวที่เราประมือกับมัน แต่ยังฆ่ามันไม่ได้ (ไม่ว่าจะแค่หนี หรือโดนมันฆ่าเสียแทน) ตัวหัวหน้าพวกนี้ยังจำหน้าเราได้ด้วย ตัวหนึ่งที่ผมไปเจอกับมันเข้าเป็นหนที่สอง มันตะโกนด่ามาตามสคริปแล้วยังมีบทแทรกด้วยว่า “เอ็งอยากตายอีกรอบล่ะสิ ถึงกล้ากลับมาสู้กับข้า!” ทำให้ทราบว่าผู้ผลิตใส่ใจส่วนนี้มากเป็นพิเศษ อีกอย่างหนึ่งตอนที่เรากำลังจะสู้กับมัน ยังมีการพูดเปิดตัวด้วยนะ (อย่างกับมวยปล้ำเลย) เช่น “ข้า แมกก๊อตกระดูกเหล็ก จะมอบความตายที่เจ็บปวดที่สุดให้เอ็งเอง” แถมยังซูมหน้าหยุดเวลาอย่างกับคัทซีนเลย

 

จุดอ่อน จุดแข็งของแต่ละตัวจะระบุในหน้านี้

 

ระบบในเกม: โคตรหัวหน้าออร์ค

หรือที่ในเกมเรียกว่า warchief เจ้าพวกนี้เราจะไม่เจอเข้าตามรายทางเหมือนกับตัวหัวหน้า จะเจอเมื่อกดรับภารกิจหลักเท่านั้น และในเมื่อเป็นโคตรหัวหน้าจะมาเดี่ยวๆ ก็ไม่สมฐานะ มันยังเดินเข้าฉากมาพร้อมกับหัวหน้าอีก 2-5 ตัวด้วย แน่นอนว่าถ้าเราเข้าปะทะทั้งแบบนี้มีแต่ตายกับตายแน่นอน การรีดข้อมูลจึงเป็นตัวช่วยตามเคย เพราะข้อมูลที่เราได้มาจะบอกด้วยว่าลูกน้องของ warchief มีใครบ้าง แค่เราไปจัดการเด็ดหัวพวกลูกน้องก่อน เท่านี้เราก็จะได้ไปเดี่ยวกับ warchief อย่างสะดวกใจ

 

มาขี่เสือ (caragor) ผจญภัยใน Mordor กัน

 

ระบบต่อสู้: พลังวิญญาณเอลฟ์

วิญญาณตามติดที่อยู่ข้างกายเราจะค่อยๆ แข็งแกร่งขึ้นตาม power ที่เราได้รับ และจาก item ที่เราเก็บได้ในฉาก และจากเนื้อเรื่อง ซึ่งจะทำให้เขาค่อยๆ จำความได้ว่าตัวเองเป็นใครและมีความสำคัญอย่างไรถึงได้โดนสะกดวิญญาณอยู่ใน Mordor แต่ที่แน่ๆ ความสามารถที่เราเอาไปใช้ต่อสู้ได้ก็นับว่าเด็ดดวงและสวยงามมากทีเดียวครับ อย่างเช่น การสะกดจิตเสือ ซึ่งจะทำให้เราสามารถขี่เสือในฉากได้ นอกจากเสือพวกนี้จะวิ่งเร็วแล้ว หัวหน้าบางตัวจะฆ่าได้ก็ต้องใช้เสือพวกนี้ช่วยด้วย หรืออีกท่าที่ผมชอบเป็นพิเศษคือการกดคอมโบต่อยสตั้นท์ และปิดฉากด้วยการรัวดาบเข้าใส่อย่างเท่ห์สุดๆ

 

เมื่อดาบเรืองแสง แสดงว่าใช้ท่าใหญ่ (พลังวิญญาณ) ได้แล้ว

 

ระบบต่อสู้: คอมโบ

คอมโบที่เราทำได้ระหว่างต่อสู้ไม่ได้มีไว้โก้ๆ เท่านั้น แต่มันยังเป็นตัวบอกเราด้วยว่าเราจะสามารถปล่อยท่าพิเศษได้เมื่อไร เพราะพลังวิญญาณที่เรามีมันรุนแรงจนถึงขั้นโกงก็ว่าได้ ถ้าให้กดใช้ได้รัวๆ เกมก็จะง่ายไป จะให้เป็นมานาเหมือนเกมอื่นก็คงจะเกร่อไป ผู้พัฒนาจึงกำหนดว่าทุกๆ 8 การโจมตีต่อเนื่อง (8 คอมโบ) เราจะกดปล่อยท่าได้ 1 ครั้ง การกดปล่อยจะทำได้โดยการกดสองปุ่มพร้อมกัน (ปุ่มอะไรแล้วแต่ท่าที่อยากให้ออก) เช่น ปุ่มวงกลมกับกากบาท จะเป็นการทุบกำปั้นลงพื้น และสร้างความเสียหายรอบวง ส่วนปุ่มสามเหลี่ยมกับวงกลมก็จะเป็นท่าดาบเดียวปลิดชีวา (ถ้าใช้กับตัวหัวหน้าจะเป็นการลดเลือดแทน แต่หัวหน้าบางตัวจะใช้ท่านี้กับพวกมันไม่ได้เลย) ผมว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกที่เอาการปล่อยท่าและคอมโบมารวมกัน เพราะทำให้การต่อสู้ไม่ง่ายเกินไป การเคลื่อนไหวของตัวเอกและวิญญาณก็ทำออกมาได้ไม่สะดุด สวยงาม สนุกได้ทั้งคนเล่นคนดูเลยครับ

 

หนึ่งในพลังของวิญญาณคือการมองเห็นอักขระลับ

 

ระบบพัฒนาตัวละคร: ความสามารถ

การปลดความสามารถใหม่ในเกมนี้มีสองสายใหญ่ๆ คือ ธรรมดา และเนื้อเรื่อง สำหรับส่วนเนื้อเรื่องคงไม่ต้องขยายความมาก แต่ส่วนธรรมดานั้นต้องอธิบายหน่อย เพราะความสามารถจะถูกแบ่งเป็นชั้นๆ โดยพลังระดับสูงจะปลดได้ต่อเมื่อ 1.ปลดความสามารถก่อนหน้า (ถ้ามี) 2.มี power สูงพอ โดย power นี้จะไม่ลดลงเมื่อปลดความสามารถ แค่สะสมไว้เพื่อปลดชั้นต่อไปเท่านั้นเอง โดยการปลดนั้นจะมีอีกค่าหนึ่งเรียกว่า skill point ซึ่งจะได้มาโดยการเพิ่ม level ตัวเอกหรือเก็บของบางอย่างในฉาก

 

ในหน้าเพิ่มความสามารถมีตัวอย่างของพลังให้ดูด้วย

 

ระบบพัฒนาตัวละคร: อาวุธและ rune

เนื่องจากในเกมเราอยู่ใน Mordor ตลอดเราคงไม่มีโอกาสไปเจอพ่อค้าอาวุธเหมือนเกมอื่นๆ ตัวเอกเลยมีอาวุธแค่ดาบ ธนู และมีดสั้น (เป็นดาบยาวที่หัก และเอามาใช้เป็นมีด) แต่ด้วยพลังสแตนด์..เอ้ย พลังวิญญาณทำให้เขาสามารถสลักอักขระลงบนอาวุธทั้งสามได้ ซึ่งจะเพิ่มพลังโจมตี หรือเติมเลือดให้เราตามเงื่อนไขบางอย่าง เช่น ถ้าทำคอมโบติดกัน 30 ครั้งขึ้นได้พลังโจมตีจะเพิ่มขึ้น 25% เป็นต้น ส่วน rune ต่างๆ นั้นจะได้มาจากหัวหน้าออร์คหรือ warchief ที่เราจัดการสำเร็จ

 

การสลัก rune บนดาบ

 

เราจะได้ rune จากการจัดการพวกหัวหน้าออร์ค

 

ดารารับเชิญ

ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะดำเนินในช่วงเวลาหลังเหตุการณ์ใน The Hobbit แต่ก่อนหน้า The Lord of the Rings เพราะเจ้า Gollum ก็โผล่มาแจมในเนื้อเรื่องเสียด้วย ทำให้แฟนหนังอย่างผมตื่นเต้นที่ได้เห็นเจ้าตัวน่าเกลียดน่าชังนี่อีกครั้ง แถมน่าจะใช้นักพากย์คนเดียวกันด้วยเพราะเสียงเหมือนในภาพยนตร์อย่างไม่ผิดเพี้ยน ภารกิจเมื่อเราได้เจอ Gollum มักจะเป็นการหาของโดยตามรอยเท้าของมัน ดูเหมือนจะน่าเบื่อไปหน่อย แต่นับเป็นการได้เงินในเกมที่ง่ายที่สุดแล้ว

 

เล่นเกมนี้เหมือนได้ดูหนังภาคต่อจาก The Hobbit

 

ภารกิจ และเงิน

ในเกมนี้จะใช้ Mithril แทนเงินสำหรับจับจ่ายเพิ่มเลือด เพิ่มช่องใส่ rune และเพิ่มค่า focus (สำหรับใช้เล็งธนู) ซึ่งจะได้มาต่อเมื่อทำภารกิจรอง (ในแผนที่จะปรากฎเป็นสัญลักษณ์สีขาว สีเหลืองคือเนื้อเรื่อง) ทำให้ภารกิจรองเป็นอะไรที่ไม่สำคัญเท่าไร เพียงแต่ถ้าทำเยอะๆ เราจะเก่งขึ้นนั่นเอง นอกจากการทำภารกิจแล้วในเกมจะมีอักขระโบราณและสิ่งของบางอย่างที่เราสามารถเก็บรวบรวมได้ ซึ่งจะให้ผลตอบแทนเป็น Mithril กับบทสนทนาที่บรรยายถึงสภาพความเป็นอยู่ใน Mordor ด้วยเสียงพากย์อย่างดี เป็นเกมที่รายละเอียดเยอะน่าประทับใจจริงๆ ครับ

 

การเพิ่มความสามารถด้วย Mithril

 

สรุป

ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเกมนี้ถึงไม่ค่อยดังในบ้านเรา แต่รางวัลที่เกมนี้ได้รับมีโคตรเยอะจนไม่อยากเอามาเขียนถึง ซึ่งเป็นเครื่องการันตีว่านี่เป็นเกมที่มีระบบน่าสนใจ รายละเอียดเพียบ และจะทำให้คุณเหม็นขี้หน้าศัตรูตัวที่ฆ่าคุณได้อย่างไม่เคยมีเกมไหนทำได้มาก่อน และสำหรับแฟนๆ The Lord ที่ชอบหนังจนเข้าเส้นและอยากสานต่อเนื้อเรื่องในมัชฌิมโลกแล้วล่ะก็ Shadow of Mordor เป็นอะไรที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ

 

ถ้ายังไม่หนำใจกับบทพูดนับพันในเกม ในส่วน appendices ยังมีบทความให้อ่านอีกเยอะเลย

 

ภาพสวยพอใช้ สภาพแวดล้อมและศัตรูมีหลากหลาย 8/10

AI ของศัตรูฉลาดน้อยไปหน่อย โดยเฉพาะตอนเราวิ่งหนี 7/10

ระบบจดจำความตายของผู้เล่น-ระบบศักดินา-ระบบจุดอ่อน แตกต่างอย่างยอดเยี่ยม 10/10

แทบทุกอย่างมีบทพูด เก็บของ เข้าฉาก ระหว่างสู้ เดินเฉยๆ ยังคุยกับตัวเองได้ บางทีก็เยอะไปนะ 8/10

ถึงจะไม่ใช่แฟนพันธ์แท้ The Lord ก็สนุกไปกับระบบของเกมได้ 9/10