PS4: Grand Theft Auto V (GTA 5)[Z3]

 

รีวิวเกมส์ Grand Theft Auto V

ประเภทการเล่น : Single Player + Online World

เครื่องที่รองรับ: PS3, Xbox 360 และ PC

วันเปิดตัว : PS3 & XB 360 – 17/09/2013, PS4 & XB one - 18/11/2014, PC - 14/4/2015

 

 

               สำหรับเกมส์ยอดนิยมอย่าง Grand Theft Auto V (GTA 5) เวอร์ชั่น Playstation 4 นี้ในกล่องเกมส์จะประกอบไปด้วย DVD ทั้งหมด 2 แผ่น, กล่องใส่คู่มือสำหรับแนะนำตัวเกมส์และกล่องใหญ่ ก่อนเริ่มเล่นจะต้องโหลดแพทช์อีกกว่า 5 GB ด้วยกันผ่านทางช่องทางที่ทีมงานของ SONY จัดเตรียมเอาไว้ให้ (ใครเน็ตกากนี่เตรียมตัวตายแน่นอน 555+) แต่มาถึงขนาดนี้เราต้องไม่ย่อท้อครับกลั้นใจเสียบสายเน็ตแล้วโหลดให้ไว ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมง (เน็ตดีบ้างไม่ดีบ้าง) ก็เป็นอันเสร็จสรรพเรียบร้อยครับ เมื่อรวมกับพาร์ทใหญ่ของตัวเกมที่มากับแผ่นก็จะสามารถเริ่มต้นกด Start เข้าตัวเกมได้เลยทันทีไปพบกับความมันเต็มรูปแบบของตัวเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น (รู้ภายหลังว่าแพทช์ที่โหมดเพิ่มนั้นทำออกมาเพื่อแก้ไข Bug ในบางส่วนของตัวเกมส์ทีหลังเพื่อทำให้สมจริงมากยิ่งขึ้นและช่วยให้ไม่เสียอารมณ์ในขณะที่กำลังเล่นเกมอย่างต่อเนื่อง)

หลังจากเราได้ทดสอบกับเครื่องเล่นเกมส์ Playstation4 ก็พบว่ามันได้ภาพที่ดีไม่แพ้ในคอมพิวเตอร์ (ปรับระดับ Quality ประมาณแบบ High) ซึ่งพบว่าการเคลื่อนไหวต่างๆ, การโชว์เอฟเฟกต์ขณะขับรถหรือยิงและแสงเงาต่างๆ นั้นออกมาในเกณฑ์ดีเยี่ยมเลยทีเดียว แต่ว่าอาจจะไม่ไหลลื่นเท่ากับการเล่นในเครื่องเล่นอย่างคอมพิวเตอร์ประกอบที่สามารถอัพเกรดสเปคเครื่องใหม่มารองรับได้เป็นอย่างดี

 

แผนที่ (Mapping )

                สำหรับตัวเกมในเนื้อเรื่องหลักสำหรับภาค 5 นั้นก็ยังคงวนเวียนอยู่กับเมืองอย่าง  Los Santos ที่แฟนๆ เกมส์ซีรีส์นี้ต่างรู้จักกันเป็นอย่างดีมาก่อนหน้านี้จากภาค San Andreas กันอยู่แล้ว แต่สำหรับภาคใหม่นี้ทีมงานพัฒนาเกมอย่าง Rockstar ได้ใส่ใจรายละเอียดของแผนที่มากขึ้นหลายเท่าด้วยการรังสรรค์กราฟฟิกที่สวยงามและใช้ขนาดพื้นที่การจัดเก็บข้อมูลที่ใหญ่มากกว่าเดิม (ชนิดที่ว่าใหญ่กว่าในภาค 4 ไปหลายเท่า) ให้เหล่าบรรดาเกมเมอร์นั้นได้ผจญภัยกันตามใจชอบในดินแดนสวรรค์แห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นแสงสีในตัวเมืองที่ยังคงคึกคักเหมือนเดิม, ภูเขาลำเนาไพรที่ใส่ใจทุกรายละเอียดทุกพิกเซลกันเลยทีเดียวและรายละเอียดรวมๆ ที่พัฒนาขึ้นไปมากกว่าเดิมเป็นอย่างมาก ยิ่งถ้าหากว่าภาพนั้นปรับความละเอียดสูงสุดนั้นก็จะทำได้การเล่นเป็นไปอย่างสมบูรณ์มากกว่าเดิม

 

 

แนวทางการเล่น (Roleplay)

                ในส่วนของการเริ่มต้นเกมส์นั้นหากใครที่ชอบเล่นแนวแบบ Open World (ไม่ชอบเล่นตามเนื้อเรื่อง) ทีมงานผู้สร้างนั้นก็ไม่ได้จำกัดความคิดของคุณให้ทำตามภารกิจอย่างเดียวเท่านั้น โดยขาเกรียนนั้นสามารถเริ่มป่วนเมืองได้ตั้งแต่ต้นเกมส์เลยทีเดียวโดยที่ไม่ต้องทำตามเนื้อเรื่องซึ่งในจุดนี้นับว่าถูกใจคนรีวิวเป็นอย่างมาก (โดยเฉพาะคนรีวิวที่นั่งเล่นอยู่ตรงนี้ของทีมงานเอง 55555+)

                แต่สำหรับใครมีชอบแนวการเล่นแบบเนื้อเรื่อง (Story) โครงเรื่องก็ยังคงวางได้อย่างดีเช่นเคย โดยในภาคนี้เราจะได้เห็นการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครที่ดีกว่าเดิม (สามารถเชื่อมโยงสมจริงทั้ง 3 คน) ที่ทำให้แฟนๆหลายคนชื่นชอบเป็นอย่างมากเนื่องจากได้ความสนุกที่มากขึ้นกว่าเดิม แต่บางครั้งนั้นการสลับไปมานี่แหละที่อาจจะทำเรางงได้ในช่วงแรกเนื่องจากมันยังไม่ชินกับตัวเกมเท่าไรนัก  ซึ่งของแบบนี้แนะนำให้เพื่อนๆ ลองฝึกไปด้วยครับระหว่างเล่นให้พยายาม Swap ตัวละครบ่อยๆ (ถึงแม้ไม่อยากทำก็ตาม) สักพักก็จะทำให้คล่องขึ้นและเก่งขึ้นได้อย่างแน่นอน ซึ่งมันจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการเล่นเกมระยะยาวครับ

 

แมพกว้างแบบสุดยอดเลยครับท่าน

 

ตัวละคร (Characters)

 

                ถือเป็นไฮไลท์ที่สำคัญอีกอย่างเลยของเกมส์ในซีรีย์นี้เมื่อในภาคที่ 5 นั้นเขาจะใช้การบังคับตัวละครแบบ 3 ตัวพร้อมกันหรือที่ทีมงานผู้สร้างนั้นเรียกว่า "Three Men Army" ซึ่งทำให้ท่านนั้นสามารถบังคับตัวละครทั้ง 3 ตัวในการทำภารกิจได้อย่างเต็มที่โดยการบังคับและสลับกันไปมาตามสถานการณ์ได้ตามใจคนบังคับ โดยตัวละครทั้ง 3 แบบนั้นจากการที่ทางทีมงานของเราลองเล่นคร่าวๆ ก็พบว่าแต่ละตัวนั้นก็มีจุดเด่นแตกต่างกันออกไปดังนี้

                Michael- ตามเนื้อเรื่องแล้วตัวละครแรกอย่างทาง Michael มีพื้นเพเดิมเป็นนักปล้นธนาคารที่มีชื่อเสียงในอดีตและกลับตัวกลับใจไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่ปัจจุบันนั้นตัวเขาเองและครอบครัวกำลังประสบปัญหาวิกฤตทางด้านการเงินทำให้ต้องหวนตัวกลับมาสู่งการนี้อีกครั้ง โดยตัวละครนี้มีสกิลพิเศษคือ "Bullet Time" ที่ทำให้สามารถช่วยชะลอเวลา (เหมือน Slow Motion) ทำให้ระหว่างเล่นนั้นช่วยเล็งเป้าได้ง่ายขึ้น

 

 

                Franklin- เด็กหนุ่มผิวดำที่เป็นตัวละครที่มีอายุน้อยที่สุด เริ่มต้นจากการเป็นเด็กแก๊งค์แต่กลับเบื่อชีวิตที่ซ้ำซากจำเจในที่เดิมๆ จึงได้ตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตด้วยการร่วมมือกับทาง Michael ในการทำภารกิจเสี่ยงตายต่างๆ ต่อจากนี้ โดยตัวละครนี้มีสกิลพิเศษคือ "Driving Skill" หรือการหน่วงเวลาในการขับรถ เพื่อเข้าโค้งสวยๆ กับเร่งแซงได้ชั่วอึดใจซึ่งเป็นความสามารถที่จำเป็นอย่างมากในขณะปฎิบัติภารกิจและในขณะการหลบหนี

 

 

Travor- ตัวโหดโรคจิตที่เป็นซี้เก่าของ Michael เป็นเจ้าของบริษัทค้ายาและบริษัทอย่าง Travor Phillips Industries แต่ด้วยสถานการณ์นำพาก็ทำให้เขาต้องกลับมาเจอเพื่อนเก่าอีกครั้งจนได้ โดยตัวละครนี้มีสกิลพิเศษคือ "Rage Mode" หรือเรียกเป็นไทยว่าโหมดบ้านั่นเอง ที่ช่วยเพิ่มพลังโจมตีและความอึดแบบสุดๆ (ของเดิมมันก็ทั้งบ้าทั้งอึดอยู่แล้ว)

 

 

ออฟชั่นการแต่งรถ (Car Equiptment Option)

                สิ่งที่เพิ่มมาอีกอย่างหนึ่งสำหรับในภาคใหม่นี้ก็คือระบบการแต่งรถที่ทำได้ดีขึ้นมากกว่าเดิมโดยการแต่งยานพาหนะนั้นนอกเหนือจากความสวยงามแบบภาคเก่าแล้วมันยังสามารถทำให้เป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมได้ เช่น การเพิ่มซอง (ที่ใส่กระสุน) ให้มีการบรรจุได้มากกว่าเดิม, การเพิ่มกระบอกเก็บเสียงหรือแม้กระทั่งการเปลี่ยนออฟชั่นต่างๆ รอบคันของตัวรถ

 

กิจกรรมต่างๆ (Activities)

                ตัวเกมภาคใหม่นี้มีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำมากมายกว่าเดิม ทั้งการช็อปปิ้งเสื้อผ้า, การซื้อปืนกับเจ้าของร้านสุดโหด, กิจกรรมโดดร่มดิ่งพสุธา, การดำน้ำทั้งตื้นและลึก, การตีเทนนิส, ขี่เจ็ตสกี, ตีกอล์ฟ, แข่งรถซิ่ง, วิ่งไตรกีฬา, แหวกว่ายน้ำ, การขับเครื่องบินขึ้นฟ้าแม้กระทั่งการออกกำลังกายในฟิตเนสและสิ่งต่างๆ อีกมากมายชนิดว่าเล่นเองยังแทบจะทำไม่ครบเลยทีเดียว

 

พี่ Michel ขอโชว์วงสวิงชนิด Tiger Wood เรียกพี่

 

ภารกิจที่สมจริง (Real Mission)

                ในส่วนของการทำภารกิจจากที่กล่าวข้างต้นแล้วว่ามันทำได้สมจริงมากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับภาคเก่าๆ โดยการทำภารกิจของ 3 ตัวเอกข้างต้นนั้นไล่ตั้งแต่การปล้นร้านธรรมดาที่สามารถทำได้อย่างง่ายดายไม่มากนักไปจนถึงระดับ 3 ดาว - 6 ดาวที่คุณจะต้องปล้นธนาคารระดับชาติหรือแม้กระทั่งสู้กับหน่วย SWAT และหน่วยงานของรัฐบาลกันอย่างหนักหน่วง

 

คู่ปรับเก่าที่ฉลาดขึ้น (AI Police&SWAT)

                สำหรับตำรวจนั้นถือเป็นศัตรูโดยแท้จริงของเหล่าบรรดาเกมเมอร์ที่ติดตามเกม GTA มาทุกภาคอย่างแน่นอน โดยในภาคใหม่นี้การสลัดหนีการจับกุมนั้นจะต้องสลัดให้พ้นระยะการมองเห็นของตำรวจตามระยะเวลาและจำนวนดาวที่ดี (คนเล่นต้องขอบอกว่ายากไปไหน = =") รวมไปถึงการไล่ล่านั้นก็จะเข้มข้นมากยิ่งขึ้นและไม่สามารถหลอกได้ง่ายดายเหมือนเดิมอีกแล้ว

 

ถ้าจะมาขนาดนี้ก็ยอมเหอะพี่ 55555+

 

บทสรุปและการณ์วิจารณ์ (Review Result)

                สำหรับเกม Grand Theft Auto V สำหรับเล่นบน PC & PS4  นั้นได้คะแนนรีวิวถึง 9/10 จากสื่อชื่อดังอย่าง Gamespot โดยพวกเขาได้ให้ความเห็นที่ดีไว้ว่ามันเป็นเกม Open Wolrd ที่ดีที่สุดนับตั้งแต่โลกนี้มีมาเลยทีเดียว (ซึ่งในจุดนี้ทีมงานของเราก็เห็นด้วยเพราะ Map และออฟชั่นต่างๆ นั้นทำได้อย่างจัดเต็มแบบสุดๆ) แต่ก็ยังคงมีบางจุดบกพร่องเล็กๆอย่างเช่น Bug ต่างๆ ในบางฉากเพียงเล็กน้อยที่เป็นตัวดึงคะแนนของซีรีย์เกมส์ชื่อดังนี้ ซึ่งสุดท้ายนี้เราจะพาไปวิเคราะห์ถึงข้อดีข้อเสียกันอย่างละเอียดอีกรอบ

 

ข้อดีของตัวเกมส์ในภาค 5

1.ภาพในตัวเกมส์ Grand Theft Auto V ใหม่นี้มีความสวยงามเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในเวอร์ชั่น PS4 แบบเรานี่ละก็สวยงามอย่าบอกใครเลยทีเดียว

2.ในการเล่นโหมดเล่นคนเดียว (Single Player) มีข้อแตกต่างไปจากเดิม ทำให้ได้รับความรู้สึกสนุกตื่นเต้นอย่างถึงที่สุด

3.มีการผูกปมเกี่ยวกับการเขียนเนื้อหาเกมส์ที่ดีทำให้เนื้อเรื่องมีความสวยงามมากกว่าเดิม ส่งผลให้การเล่นโดยรวมมีอรรถรสมากยิ่งขึ้น การเชื่อมโยงของทั้ง 3 ตัวละครนั้นถูกทำออกมาเป็นอย่างดีไร้ที่ติเลยทีเดียว

4.แผนที่ภายในเกม (เมือง Los Santos ในภาคใหม่มีออฟชั่นเพิ่มเติมที่สามารถปรับแต่งเมืองตามใจคุณได้เลย

5.มีภารกิจในการปล้นที่หลากหลายและน่าตื่นเต้น อาทิเช่น ภารกิจย่อยในการปล้นรถต่างๆ ตามแผนที่, ภารกิจการเล่นกีฬาประเภทต่างๆ กับตัวละครในเมือง, ภารกิจขับรถแข่งกันภายในตัวเมือง, ภารกิจปล้นย่อยๆ ในระหว่างทำ Quest หลักหรือแม้กระทั่งภารกิจการไล่ล่าตำรวจ

6.การสลับตัวละครในการเล่น (Three Men Army) ถึงแม้ว่ามันจะเหมือนว่าเป็นจุดบอดในการบังคับสำหรับตัวเกมในภาคใหม่นี้ แต่ว่ามันก็ยังคงเป็นไฮไลท์สำคัญของตัวเกมอย่าง GTA ในภาคใหม่ภาคที่ 5 นี้เพราะว่ามันเป็นสิ่งแปลกใหม่ที่คาดว่าเกมเมอร์หลายๆ คนนั้นคงไม่เคยเห็นมาก่อนแน่นอน

 

ข้อเสียของตัวเกมส์ในภาค 5

1.มี Bug อยู่เป็นจำนวนมากพอสมควร จากการที่ทีมงานลองเล่นพบว่าบางฉากของเกมส์ยังมีการแสดงผิดพลาด เวลาที่มีตัวละครมีการเคลื่อนไหวเยอะมากกว่าปกติ

2.โหมดเล่นคนเดียวยังไม่ค่อยเร้าใจเท่าที่ควร ยังคงห่างไกลกับความสนุกมากสำหรับเม่อเทียบกับการเล่นแบบ Online

3.การสลับตัวละครนั้นยังทำได้ไม่เนียนเท่าไร โดยเฉพาะในการต่อสู้จริงที่ต้องสลับตัวละครไปมาเร็วๆ ก็ยังพบว่ามันยังไม่มีความต่อเนื่องแบบ Real-Time โดยยังมีการหน่วงของเวลาอยู่เพราะว่าในบางฉากนั้นตัวละครอีกตัวอยู่อีกที่หนึ่งแต่เมื่อสลับกลับไปก็พบว่ามันไปอยู่อีกที่เสียแล้ว ซึ่งอาจจะทำให้ความมันส์ขณะเล่นเกมจะต้องเสียไปอย่างแน่นอนสำหรับใครที่จริงจังในการเล่นโหมดแบบเล่นคนเดียว (Single Player)