PS4: Brothers: A Tale of Two Sons

รีวิวเกมส์ PS4: Brothers - A Tale of Two Sons

Puzzle แนว Fantasy หนึ่งในเกมเนื้อหาดีที่ไม่ควรมองข้าม

 

 

ดูผ่านๆก็คิดว่าเกมคงไม่น่าสนใจซักเท่าไหร่ แต่พอหยิบมาลองเล่นดูท่านั้นแหละ ด้วยรูปแบบเกมที่โลดแล่นไปในจินตนาการเรื่อยๆ กับความสวยงามภาพของในเกมที่ดูแล้วรู้สึกเหมือนเข้าไปในโลกแห่งนิยาย และเนื้อหาเกมที่กินใจ ดึงอารมณ์คนเล่น (อย่างผม) ให้อินได้มากอยู่เลยที่เดียว ด้วยการสร้างสรรค์ของ StarBreeze Studios และ 505 Games (ผู้ผลิตเกม How To Survive ใน Steam) ผลิตเกมที่มีความน่าสนใจจนเกินคาด

 

 

เนื้อเรื่องเล่าถึง สองพี่น้อง ไนอี (Naiee) น้องชายและ ไนอา (Naia) พี่ชาย สองพี่น้องที่ต้องเสียแม่ไปอย่างไม่มีวันกลับด้วยเหตุที่คาดไม่ถึง ผู้เป็นแม่จมน้ำเสียชีวิตขณะที่อยู่บนเรือกับ ไนอี โดยที่เขาไม่สามารถช่วยอะไรแม่ได้เลยเพราะเขาว่ายน้ำไม่เป็น จึงต้องเห็นแม่จมน้ำตาหน้าต่อตา เขารู้สึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเสียใจต่อหน้าหลุมศพของแม่ (เริ่มเรื่องมาก็ดราม่าเลย T_T)

 

แม่จ๋า! อย่าทิ้งผมไป ผมลงไปช่วยแม่ไม่ได้ ผมว่ายน้ำไม่เป็น

 

สุดท้ายผู้เป็นแม่ก็เข้าใจและรับรู้ถึงความรู้สึกของลูกแล้วก็ออกมาบอกกับลูกว่า “ลูกต้องอยู่ต่อไปเพื่อที่ดูแลพ่อกับพี่ชายเจ้านะ”

 

และขณะในที่เรากำลังเศร้าโศกเสียใจนั้นเองเป็นเวลาเดียวกันกับพี่ชาย ไนอา ก็ตะโกนเรียกเราบอกว่าพ่อป่วย ช่วยพาพ่อไปหาหมอหน่อย เราก็พาพ่อไปหาหมอเมื่อพบหมอ แล้วหมอบอกว่า  “พ่อเจ้าป่วยหนักนัก ยาที่ข้ามีนั้นไม่สามารถรักษาได้ เจ้าจงขึ้นไปบนจุดสูงสุดของแผ่นดิน เพื่อไปเอาน้ำศักดิ์สิทธิ์ จากต้นไม้แห่งชีวิต แต่การไปถึงนั้นชั่งไกลและยากลำบากมากนะ”

ไนอา จึงพูดออกไปว่า “ไม่ว่าจะยากลำบากซักเพียงใดข้าก็จะเอามาเพื่อรักษาพ่อข้าให้หายดีให้ได้”  ปฐมบทแห่งการเดินทางจึงได้เริ่มขึ้น ณ จุดนี้เอง

 

พาพ่อเจ้าเข้าไปข้างในก่อนเร็วเข้า ข้าจะดูอาการก่อน

 

เป้าหมายที่พวกเจ้าต้องไปคือที่นี้นะ แล้วระวังตัวด้วยนะ หนทางที่เจ้าจะไปนั้นอันตรายมากๆ

 

ตัวระบบของเกมนั้นมีความแตกต่างจากเกมอื่นๆ เป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าเราจะเห็นว่ามีตัวละครถึง 2ตัวในการเล่น แต่การเล่นนั้นเราต้องบังคับตัวละครทั้ง 2 ตัวพร้อมๆกันโดยแยกเป็น ไนอา ผู้พี่ บังคับโดยใช้ อนาล็อกซ้ายเพื่อบังคับทิศทาง และ L2 ไว้เกาะหรือไว้กดคุยกับ NPC ในเกม ส่วน ไนอี ผู้น้อง ใช้ อนาล็อกขวาบังคับทิศทาง และ R2 ไว้เกาะและคุยกับ NPC เช่นเดียวกัน ส่วนนึงที่ทำให้มีสีสันในเกมก็คือ ลักษณะนิสัยของและความสามารถของตัวละครทั้ง 2 คน คือคนพี่นั้นจะเป็นคนนำเรื่องเวลาเข้าคุยกับ NPC สำคัญๆ และมักจะกางแผนที่เพื่อถามทางกับ NPC เหล่านั้น ความสามารถของตัวพี่ คือ โยกคันโยกที่มีขนาดใหญ่และว่ายน้ำได้ ในขณะที่คนน้องนั้น ว่ายน้ำไม่เป็น ต้องอาศัยเกาะคอคนพี่ไปเวลาที่ต้องข้ามแม่น้ำ แต่ด้วยความที่เขาเป็นเด็กกว่า จึงเข้ากับสัตว์ได้ง่าย แต่ความสามารถของเขาคือ แทรกตัวเข้าไปในที่แคบเช่น ลอดลูกกรงขังได้

 

1 ในความสามารถของ ไนอี ที่จำเป็นกับการดำเนินเรื่อง (ไม่มีผมก็ไม่ได้ไปต่อละคร้าบ)

 

มานี่เร็วไอตัวเล็ก เกาะคอพี่แล้วข้ามแม่น้ำนี้ไปด้วยกัน

 

อีกส่วนนึงที่จะบอกว่าเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียก็คือเรื่องของภาษาของตัวละครในเกม เพราะพวกเขาไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษและตัวเกมไม่มีระบบ Subtitle ให้เปลี่ยนด้วย แต่เราสามารถเข้าในเนื้อหาและซาบซึ้งด้วยภาษากายของตัวละครเกม (เนื้อเรื่องที่ผมแปลตอนต้นนั้นผมดูเอาจากท่าทางของตัวละครนะ)

 

ตัวอย่างการใช้ภาษากายที่ทำให้ผู้เล่นเข้าใจว่า เนื้อเรื่องต้องการอะไร (นี่! พ่อยักษ์ใหญ่ นายรู้ไหม ว่าทางไปต้นไม้แห่งชีวิตไปทางไหน บอกหน่อยซิ)

 

อีกส่วนที่ทำให้รู้สึกว่าตัวเกมมีสีสันมากขึ้นอีกนั้นก็คือ NPC ที่ไม่ได้เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง ฟังดูอาจจะแปลกๆ ถ้าไม่เกี่ยวแล้วจะคุยได้ทำไม ลองคิดดูว่าเกมส่วนใหญ่ถ้า NPC ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่อง เราก็จะไม่สามารถเข้าถึงได้ แต่เกมนี้ได้บรรจุระบบการคุยนี้เข้าไปด้วย เพื่อเข้าถึงกับบรรยากาศในเกมได้มากขึ้น

 

ในบรรดา NPC ที่อยุ่ในเกมนี่ ส่วนใหญ่จะเป็น NPC ที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกันเนื้อหาของเกม แต่เราสามารถเข้าไปสำรวจ ร่วมเล่น หรือพุดคุยได้ (น้องแมว ข้าของอุ้มเจ้าหน่อย ^^)

 

ลุงขี้เมา 1 ใน NPC ที่เราสามารภเข้าไปพูดคุย ทักทายได้เช่นกัน (ลุงๆ กินไรอะ ขอดูหน่อยนะ)

 

ความสวยงามของตัวเกมนั้น ต้องบอกเลยว่าตัวเกมทำออกมาได้สวยมากๆ ในรูปแบบของ แฟนตาซี อย่างที่เกริ่นไว้ตอนแรก ภาพในเกมทั้งแสง เงา ตอนมืดและตอนสว่าง ฉากแต่ละฉากที่เราผ่านไปในแต่ละพื้นที่ทำให้เราอินและเข้าถึงตัวเกมได้ดีมากขึ้น

 

 

ภาพรวมของเกมทั้งหมดแล้ว เกมนี้ถือว่าตอบโจทย์สำหรับคนที่เล่นอะไรยากๆ มาแล้วรู้สึกเบื่อ ก็สามารถหันมาเสพความสวยงาม และปริศนาที่ไม่ซับซ้อนเท่าไหร่แค่ต้องเข้าใจถึงความสามารถของสองพี่น้องให้ได้ก็ไม่ยากนัก ด้วยเนื้อหาของเกมที่สั้นทำให้การเล่นนั้นอาจจะจบภายใน 10 ชั่วโมง บางคนอาจจะคิดว่าไม่คุ้มค่า แต่ส่วนตัวผมว่าเกมนี้สอนเราได้เยอะมาก ทั้งการรักพี่รักน้องสอนความสามามัคคีและความกตัญญูได้อีกด้วย เพลงประกอบในเกมนี้จะออกหดหู่ไปซักนิดแต่ในฉากที่ตื่นเต้นก็ทำได้ดีครับ ต้องยอมรับว่าช่วยทำให้อินได้จริงๆ (แนะนำว่าใส่หูฟังตอนเล่นจะดีมากๆ ครับ) และถ้าต้องการอยากรู้ถึงรายละเอียดของเกมว่าฉากต่างๆ คิดได้อย่างไร เพลงประกอบเพราะขนาดไหน เราก็สามารถเข้าไปดูใน Bonus Contents เพื่อเข้าไปดูในส่วนของ Art Gallery และ Sound Gallery ให้เข้าไปดูไปฟังกันได้

 

ความสนุกของเนื้อเรื่องยอมรับว่าทำได้ดีมาก 8.5/10

กราฟฟิกทำได้ดีตามจินตนาการของเกมถึงไม่ได้สมจริงมากแต่ก็มีให้ตื่นตาตื่นใจตลอด 8.5/10

เพลงประกอบจะออกไปทางหม่นหมองหน่อยแต่ก็เข้ากับบรรยากาศเกมนะ 7/10

คุ้มค่ามากถ้าได้พบกับความแปลกใหม่ที่ไม่เคยเจอในเกมอื่นๆ 9.5/10

ทิ้งท้ายหลังรีวิว: (เป็นความชอบส่วนตัว) NPC ที่ไม่เกี่ยงข้องในเกม เวลาเข้าไปคุย ถ้าเราให้ ไนอี และ ไนอา ผลัดกันเข้าไปคุยเราจะได้เห็นการพูดคุย ของ NPC ที่แตกต่างกันออกไปด้วย ลองดูกันนะครับ