PS3: Grand Theft Auto 4 (GTA 4)

 

รีวิวเกมส์ PS3: Grand Theft Auto 4 (GTA IV)

 

ประเภทเกมส์: THIRD-PERSON SHOOTER (เกมส์ยิงมุมมองบุคคลที่ 3)

ผู้พัฒนา: ROCKSTAR

ผู้ผลิต: 2K Studio

ผู้จัดจำหน่าย: ยังไม่มีการเปิดเผยในประเทศไทย

จำนวนผู้เล่นสูงสุด: 16

ESRB RATING (เรตติ้งความรุนแรงของเกมส์): M

เครื่องที่วางจำหน่าย : PS3, Xbox และ PC (คอมพิวเตอร์)

 

 

                หากพูดถึงเกมส์ในแบบเกมส์ยิงมุมมองบุคคลที่ 3 (THIRD-PERSON SHOOTER) นั้นหลายๆ คนคงปฎิเสธไม่ได้ว่าหนึ่งในซีรีส์เกมส์ที่ดีที่สุดนับตั้งแต่มีมาจะต้องไม่พ้นเกมส์อย่าง Grand Theft Auto (GTA) อย่างแน่นอน ซึ่งแม้ว่าภาคที่ 4 (GTA IV) จะออกมาได้ซักพักแล้ว แต่ก็ยังคงความยอดเยี่ยมในแง่ของคุณภาพตัวเกมส์ต่างๆ และรายละเอียดทุกระเบียดนิ้วไว้ให้แฟนๆ ได้เป็นอย่างดี

                โดยในวันนี้เราจะมารีวิวผ่านเครื่องเล่นเกมส์อย่าง Playstation 3 จาก SONY กันให้ได้ชมอย่างจุใจในโลกของเมืองใหญ่ที่มีทั้งแก๊งค์อันธพาล, การไล่ปล้นฆ่ากันอย่างเอามัน, โลกแห่งยานยนต์สุดหรู, แอ็กชั่นสะท้านอารมณ์, การดวลปืนสุดระห่ำ, แฟชั่นนำสมัยในด้านการแต่งตัวของตัวละคร, ความโรแมนติกของภารกิจย่อยต่างๆ ที่อาจจะมีความรักมาเกี่ยวข้อง รวมไปถึงการทรยศหักหลังระหว่างแก๊งค์หลากสีในตัวเกมส์

 

มีอะไรใหม่บ้างใน GTA 4 นี้ (How About New?)

                การใช้กราฟฟิกแบบใหม่สำหรับเครื่องเล่น Playstation 3 นั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ทีมงาน Rockstar ให้ความสำคัญเนื่องจากคุณภาพกราฟฟิกนั้นไม่สามารถอัพเกรดตามสเปคได้เหมือนเครื่องคอมพิวเตอร์ (PC) แต่ในทุกรายละเอียดที่เราได้สัมผัสจากการรีวิวนั้นพบว่าพวกเขาได้หลุดกรอบของการออกแบบเกมส์เดิมๆ และพุ่งทะยานสู่ความบ้าคลั่งแห่งการออกแบบโลกอย่างสร้างสรรค์ไร้ขีดจำกัด ชนิดที่คุณจะต้องตะลึงและประทับใจในทุกรายละเอียดตั้งแต่รถในเกม คนเดินบนถนน ไปจนถึงสภาพดินฟ้าอากาศที่แปรเปลี่ยน หรือแม้แต่บทสนทนาของผู้ที่สัญจรบนท้องถนนที่แตกต่างกันในทุกซอกซอย

 

 

เนื้อเรื่องดั้งเดิมของเกมส์ (Previous Story)

 

 

                ในเนื้อเรื่องภาคนี้จะกล่าวถึงตัวละครหลักจากยุโรปตะวันออกสุดเถื่อนดิบอย่าง Niko Bellic, ตัวเอกหน้าโหดที่มีพื้นเพดั้งเดิมมาจากคาบสมุทรบอลข่านแล้วย้ายมาก่อเหตุความรุนแรงในประเทศสหรัฐที่จะมาเป็นตัวแทนของผู้เล่นทุกท่านผ่านทางหน้าจอทีวีและเครื่อง Playstation 3 ซึ่งคาแรคเตอร์ของเจ้า Niko นั้นก็เหมาะเหลือเกินในการระบายความรุนแรงเนื่องจากเนื้อเรื่องดั้งเดิมเขาได้รับความรุนแรงจากสงครามจนกลายเป็นคนที่ชอบความรุนแรงสุดขั้วไปเลยทีเดียว

                แต่สำหรับตัวของเนื้อเรื่องของเกมนี้ถ้าพยายามดูตั้งแต่ต้นจนจบเกม จะเห็นว่าเหมือนได้ดูหนังแอ็คชั่นทริลเลอร์สักเรื่องหนึ่งเลยเพราะเราก็สามารถเลือกที่จะสังหารเหยื่อ หรือปล่อยตัวไปเฉยๆ ก็ได้โดยไม่มีผลกับเนื้อเรื่องหลัก ตรงนี้ผู้ทำคงจะตั้งใจให้ผู้เล่นได้ทดสอบความเป็นคนดีที่มีอยู่ในตัว (แต่ไม่ค่อยจะมีนะ ถ้าได้ยิงฆ่าทิ้งอย่างเดียว 55555+)

                โดยจากเนื้อเรื่องนั้นสังเกตได้ว่าผู้คนที่พบเจอมีทั้งแก๊งค์เล็กๆ ข้างถนน ไล่ไปจนถึงมาเฟียที่คุมเมืองทั้งโซน บางคนก็ใช้ชีวิตอยู่อย่างอดอยาก บางคนมีชีวิตหรูหราฟู่ฟ่า แต่น้อยคนในเกมที่จะได้ใช้ชีวิตสงบสุขไปตลอด หลายคนต้องพบกับจุดจบอันน่าเศร้า (รวมถึงตัวเอกของเราก็สามารถอับจนได้ถ้าเล่นห่วย เอิ้กๆๆๆ ) ซึ่งส่วนนี้ก็เป็นการบอกให้รู้ว่าชีวิตในสังคมด้านมืดนั้นไม่สวยหรูเสมอไป ทุกคนสามารถถูกจับหรือจบเห่เป็นอันตรายได้ทุกเมื่อเชื่อวัน

 

เริ่มต้นจากศูนย์ (Let's Begin)

                สำหรับในตอนเริ่มต้นเกมส์นั้นแน่นอนว่าเจ้า Niko ของเรานั้นจะต้องผจญภัยโดยเริ่มต้นจากระดับต่ำเตี้ยจนทำผลงานสะสมความเลวมากขึ้นจนค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นไปซึ่งเรื่องราวทั้งหมดเหล่านั้นจะมีปมผูกนับตั้งแต่การไต่เต้ามาจากแก๊งสเตอร์เล็กๆ ของ Niko Belic เองผ่านทาง Roman Belic ลูกพี่ลูกน้องของเขาที่เป็นเจ้าของอู่ Taxi แบบลับๆ อยู่ในเมือง (ที่หน้าตาไม่เหมือนกันซะเล้ยยยย 555555+) ผ่านภารกิจล้างแค้นให้กับครอบครัวตั้งแต่ตอนเริ่มเกมในฉากแรกๆ ที่เริ่มต้น จากนั้นทั้งสองก็เริ่มที่จะก่อเหตุฆ่า, ฟัน, แทง, ปล้นและทำลายทุกอย่างที่ขวางทางพวกเขา แต่เหมือนว่าพวกเขาจะไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยการร่วมกันในการฟันฝ่าอุปสรรคกันต่อไปตามแนวทางของ 2 พี่น้องโดยอาศัยความร่วมมือทั้งจากลูกค้าของตัวเองและลูกน้องที่หาได้จากตามเควสย่อยต่างๆที่มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามความเป็นไปของเนื้อเรื่อง

 

แผนที่ในเกมส์ (Maps)

จากที่เกริ่นในตอนแรกแล้วว่าตัวเกมส์นั้นทำแผนที่ออกมาได้กว้างที่สุดนับตั้งแต่ตัวเกมส์นี้มีขึ้นมา (ในภาค GTA 1-3 รวมไปถึง GTA : San Andres ก่อนหน้านี้) โดยเมืองหลักในแผนที่สำหรับนำมาใช้ก็คือเมืองอย่าง  Liberty City จากมหานครนิวยอร์ก (ประเทศสหรัฐอเมริกา) หรือย่านต่างๆ ภายในเกมก็มาจากย่านในเมือง New York ของจริงเช่น  Brooklyn, Queens, The Bronx และหมู่เกาะ Manhattan (หรือที่รู้จักกันในเกมชื่อย่านอย่าง Algonquin) รวมไปถึงเกาะภายนอกอย่าง Coney รวมถึงตึก Empire State และเทพีเสรีภาพที่เป็นสัญลักษณ์อีกด้วย

 

 

ระบบเสียงในเกม (Sound)

                สำหรับเสียงภายในเกม GTA V ต้องขอชมทีมงานของ Rockstar เลยว่าเสียงประกอบหรือเพลงประกอบฉากทำมาได้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆภายในเกมเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าภาคก่อนหน้านี้จะมีปัญหาอยู่บ้างแต่ในภาคใหม่นี้ทีมงานก็ได้นำเอาจุดนี้มาใช้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากจะมีเพลงประกอบที่เป็นจุดเด่นแล้ว เสียงประกอบของตัวละครในการพากย์ก็ทำได้ดีเยี่ยมด้วยการเอาแก๊งสเตอร์ตัวจริงมาพากย์เสียงกันแบบสดๆ

 

ระบบการเล่น (Gameplay)

                ทางด้านระบบการเล่นของเกม GTA V ก็ยังคงเป็นเกม Open-World ไว้เช่นเดิม เหมือนกับภาคก่อนๆ แต่สิ่งที่ทำให้แตกต่างคือชาวเมืองที่อาศัยอยู่ภายในเกมนี้มีความรับรู้สึกที่เพิ่มขึ้น เช่น หากเราขับรถไปชน ชาวเมืองนี้ก็จะตอบสนอง ขึ้นมาทันที โดยการ แจก F*ck ! ใส่เรา == สำหรับใครที่ชื่นชอบในการขับรถเล่นในเกมนี้ขอบอกเลยว่า รถใน GTA V นั้นควบคุมค่อนข้างยากพอสมควรแม้คุณจะเคยเล่นเกมนี้ หรือ เกมแข่งรถเก่ง ก็ตาม แต่ก็ไม่เป็นไร เนื่องจากทาง Rockstar ได้แก้ไขปัญหาเหล่านี้โดยการใส่ระบบ Slow Motion มาให้จะได้ควบคุมรถได้ง่ายมากขึ้น แต่ที่สำคัญกว่านั้น คือ เหล่าตำรวจในภาคนี้ฉลาดและ วดเร็วมาก แถมยังมีอาวุธครบมือขนาดที่ เราสามารถโดนยิงตายได้อย่าง ง่ายๆ แม้จะมีเลือดเต็มหลอด แถมรถตำรวจยังอึดขึ้นจนชนไปไม่รู้กีทีแล้วก็ยังไม่เป็นไรเลย -- ส่วนใครที่ชอบทำภารกิจที่ตัวเกม มาให้ หรือ เควสย่อย ก็สามารถทำได้แบบ ปกติ แต่ที่แปลก กว่าภาคก่อนๆ นั่นก็คือ เมื่อผู้เล่นตาย หรือภารกิจที่ทำนั้นล้มเหลวก็ไม่ต้องเสียใจไป เพราะตัวเกมจะมีตัวเลือกขึ้นมาให้เราเลือกว่าจะเล่นภารกิจที่เราได้เล่นค้างไว้ตรงนั้นต่อ หรือจะเลิกเล่นภารกิจที่เล่นไปเลย

 

เทคโนโลยีในเกม (Technology)

                สิ่งอำนวยความสะดวกในตัวเกมส์มีมากมายยิ่งขึ้น เช่น โทรศัพท์มือถือที่ในภาคนี้กลายเป็นไฮไลท์ของทุกๆอย่างโดยเป็นของสำคัญที่ขาดไม่ได้ ซึ่งมันจะใช้งานในหลายๆ แบบทั้งใช้ติดต่อผู้อื่น, การติดต่อเริ่มต้นภารกิจเบื้องต้น, ถ่ายรูปภาพเพื่อทำภารกิจ, การกดเรียกสูตรที่ต้องการใช้งาน (โกงนั่นเอง เซียนเกรียนหลายคนคงรู้ดี = =" เหมือน Contra ที่ต้องมีสูตรโกงแบบ abab ซ้ายขวา 55555+) แถมยังตั้งเสียงริงโทน เปลี่ยนธีมหน้าจอได้อีกด้วย

 

เดินไปแชทไปเลยทีเดียว 5555+

 

นอกจากนี้ยังมีระบบอินเตอร์เน็ตเพิ่มเข้ามาใหม่ เช่น

"www.mail.eyefind.info" บริการอีเมลของ www.eyefind.info ซึ่งล้อเลียนมาจากเว็บ Yahoo!)

"www.littlelacysurprisepageant.com" << สำหรับอันนี้เป็นสีสันของตัวเกมส์ โดยในเนื้อเองนั้นเวปนี้จะเป็นกับดักของตำรวจ เมื่อผู้เล่นเข้าไปดูจะได้รับค่าความต้องการตัว 5 ดาวจากทั้งหมด 6 ดาว (ดาวเยอะขนาดนี้ตายเห้อ 5555+)

www.craplist.net เป็นเครือข่ายชุมชนออนไลน์ ให้บริการในการประกาศขายของออนไลน์ หางาน สมัครงาน หาคู่ และเว็บบอร์ด ซึ่งผู้เล่นสามารถหาคู่ได้จากเว็บไซต์นี้

รวมไปถึงเว็ปไซต์อื่นๆ (แต่ไม่ได้มีชื่อเหมือนกัน 100% เนื่องจากเป็นการล้อเลียนและหลีกเลี่ยงการละเมิดลิขสิทธิ์)

 

เข้าร้านเน็ตแป๊บน้ะจ้ะเด็กๆ

 

กิจกรรมมากมาย (More Activities)

                นอกเหนือจากภารกิจหลักแล้วตัวเกมส์ในภาค 4 นี้ก็ได้ใส่บรรดามินิเกมเล็กๆ ที่สามารถทำร่วมกับเพื่อน (NPC) ในเกมได้ เช่น โยนโบว์ลิ่ง, ปาเป้า, แทงพูล, มีขับรถแข่ง(ในเมือง), ยิงนก, สตันท์จัมป์ (จุดกระโดดจะกระจายอยู่ทั่วเมือง บางจุดต้องเลือกรถให้เหมาะสมด้วย ลงพื้นท่าไม่สวยก็ไม่ผ่าน) รวมไปถึงภารกิจถ่ายรูปสวยด้วย (ในมุมต่างๆอย่างเช่น ขณะขับรถหรือโดดจากที่สูง เป็นต้น)

 

ข้อดีของเกมส์

                -แม้ว่าตัวละครเอกของคุณจะมีโทรศัพท์มือถือมาตั้งแต่ภาค Vice City แล้ว แต่บทบาทของมันในภาคนี้เรียกได้ว่าแทบจะเป็นอวัยวะอีกส่วนของร่างกายคุณไปเลย(ตามสมัยนิยม) คุณสามารถกดเบอร์โทรเรียกแท็กซี่หรือการบริการต่างๆ ชวนเพื่อนๆคนสนิทของคุณไปดริ๊งค์ให้เมาปริ้น ดูสาวบาร์เปลือย หรือแม้กระทั่งไปเล่นพูลสักเกม ถ้าคุณสนิทกับพวกเขามากขึ้น พวกเขาจะยำเกรงคุณและให้ผลตอบแทนในรูปแบบต่างๆ ผ่านทางมือถือของคุณ เช่น รถรับส่งฟรี บริการส่งอาวุธถึงที่ สิ่งหนึ่งที่ผมชอบใจมากที่สุดคือบทพูดที่มีจำนวนมหาศาล ถึงแม้จะไปเที่ยวที่เดียวกัน แต่บทพูดจะขึ้นกับสถานการณ์ในขณะนั้น เหมือนเราได้คุยไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบจริงๆ หรือถ้าหากคุณไปทำอะไรที่ทำให้เขาหรือเธอเสียใ จ(เช่นผิดนัดหรือลงไม้ลงมือ) พวกเขาก็จะโกรธคุณ และถ้าโกรธมากๆ ก็อาจจะถึงขั้นเลิกคบไปเลย

                -ความแตกต่างของแผนที่ที่สามารถเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนมากที่สุดที่ถึงจะเป็นที่ Liberty City เช่นเดียวกับภาค3 และ Libertycity Stories แต่หลายๆอย่างในภาคนี้บ่งบอกความแตกต่างและเป็นมิตรได้มากกว่า ทั้งสภาพแวดล้อมตัวเมืองอันจอแจ ย่านคนรวยที่มีแต่ไฮโซอาศัยอยู่อย่างหรูหรา เขตอุตสาหกรรมเต็มไปด้วยควันพิษและย่านการค้าอันวุ่นวาย ที่ถึงแม้จะไม่ได้แตกต่างอย่างสุดขั๊วแบบ San Andreas ก็ตาม แต่มันก็ดูสมกับเป็นเมืองใหญ่ที่อยู่ใจกลางประเทศที่เรียกว่าเป็นหนึ่งในมหาอำนาจของโลกทีเดียว

 

ข้อเสียของเกมส์

                -จุดน่ารำคาญใจยังคงมีอยู่บ้างนิดหน่อยสำหรับการเล่นในโหมดเนื้อเรื่อง อย่างเช่น คอมพิวเตอร์ (AI) ที่แสดงอาการมึนๆ อกมาให้เห็นบ้าง อย่างเช่นตำรวจไล่จับแบบไม่มีเหตุอันสมควรทั้งๆ ที่ไม่มีดาวหรือทำอะไรผิด

                -Subtitle บางครั้งขึ้นไม่ตรงบทพูด ที่ถึงแม้ว่าทางทีมงานทำด้านภาษาของ Rockstar จะเอาใจใส่ แต่ทั้งหมดด้วยความดีเยอะมากพอสมควรทำให้ผมลืมข้อด้อยเพียงเล็กน้อยเหล่านี้ไปเสียสนิทและยังคงติดตรึงอยู่ในความรู้สึกแม้ว่าจะรีวิวผ่านมาได้สักพักแล้ว