โอบรักเจ้าทะเลทราย

โอบรักเจ้าทะเลทราย

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786165020831
มีสินค้าในสต็อค
ราคา: 220.00 บาท 55.00 บาท
ประหยัด: 165.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

ครั้นเมื่อหญิงสาวทำใจกับผลลัพธ์ที่คาดไว้ได้แล้ว เธอจึง

ก้าวเท้าออกจากหลืบเงามืดที่ใช้กำบังร่างแล้วเดินมุ่งหน้าไปตามทาง

สลัวที,ทอดยาวนำเธอไปหยุดอยู่ตรงหน้าประตูบานใหญ่ เธอก้าวขึ้น

บันไดสี่ขั้นตรงหน้า ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่คนหนึ่งเปิดประตูให้ เธอสะดุ้ง

เล็กน้อยทันทีที,ได้ยินเสียงเพลงดังกระหึมสร้างความครึกครื้นแก่แขก

ผู้ร่วมงานภายในห้องโถงกว้าง และก็รู้สึกถึงสายตาที่พร่างพรายไปด้วย

ประกายแสงสีทองอร่ามสลับเงินระยับจนมองอะไรได้ไม่ถนัดตานัก

เธอกำมือแน่น ถอนหายใจแรง เชิดหน้า แล้วก้าวเช้าไปเป็น

ส่วนหนึ่งของงานเลี้ยงฉลองของชมรมหลังเสร็จสิ้นภารกิจที่สมาชิกทุกคน

ได้ร่วมกันแสดงผลงานทางดนตรีคลาสสิกให้แก,เด็กๆ ในสถานรับเลี้ยง

เด็กกำพร้าห้าแห่งในเมืองเล็กๆ ทางตอนเหนือของประเทศอังกฤษดู

“ว้าว! เสสิลีน ไม่คิดว่าเธอจะยังกล้ามาร่วมงานนี้ด้วย”

มันคือเสียงตะโกนแหลมปรี๊ดปนหัวเราะที,ดังแทรกเสียงดนตรี

ขึ้นมา ทำให้หลายคนหันมามอง เธอจึงตวัดสายตามองหญิงสาวคนนั้น

พลางเม้มปากแล้วย่นจมูกใส่ด้วยความขุ่นเคืองใจ ใจอยากตอกกลับไป

ว่า ‘กล้าสิ!, ทว่าก็ทำได้แค่ยักไหล,แล้วพูดออกไปว่า

“แน่นอนค่ะ เพราะขนาดมีคนพูดจาแดกดันฉันยังไม่หวั่น กับแค่

เรื่องน่าอายนิดหน่อยแต่สามารถเรียกเสียงหัวเราะของเด็กๆ ได้ฉันจะไป

แค่ทำไมล่ะ การทำให้เด็กๆ มีความสุขเป็นหน้าที่ของพวกเราอยู่แล้ว

นี่คะ” เธอผ่อนลมหายใจแล้วพูดต่อว่า “แม้มันจะผิดแผกแตกต่างกับการ

แสดงของพวกคุณ เพราะตัวโน้ตมันผิดเพี้ยนไปบ้างก็ตาม”

เธอยิ้มกว้างเมื่อพูดจบ

‘แดกดันงั้นเหรอ! ถ้าคิดว่าคนอย่างฉันสนใจละก็ ผิดถนัด,

“แหม! ฉันรู้ว่าเธอไม่อายหรอกกับเรื่องที่เล่นไวโอลินไม่ค่อยเป็น

จนต้องขายขี้หน้าบนเวทีเมื่อเช้านี้ แต่ยังไงเสียเด็กๆ ก็ดูมีความสุขมาก

กับความผิดพลาดของเธอ ถึงยังไงมันก็ทำให้ชื่อเสียงของชมรมดนตรี

คลาสสิกของเราต้องด่างพร้อยด้อยค่า” หญิงสาวคนเดิมพูดด้วยน้ำเสียง

ที่ไม่เริงร่าเหมือนเดิม

“ค่ะ คุณโดเรมี” เสลิลีนยิ้มกว้างอีกครั้งก่อนใช้มือทั้งสองจับจีบ

กระโปรงบานสั้นขึ้นเหนือเข่าแล้วย่อตัวลงเพื่อถอนสายบัว “ช้าน้อย

น้อมรับความผิด”

“นี่! ฉันชื่อโซเฟียย่ะ และนี่เธอกำลังหยามเกียรติของชมรมอยู่

นะ”

“จ้า” เธอลากเสียงยาวแล้วพูดต่อ “โทษที ฉันจำชื่อเธอไม่ได้ แต่

เห็นชอบพูดเสียงขึ้นๆ ลงๆ เป็นตัวโน้ต ต่ำบ้างสูงบ้างจนน่าปวดหัว เลย

ตั้งชื่อให้ใหม่น่ะ”

เลลิลีนยิ้มกว้างอวดฟันเรียงสวยอย่างจงใจ ก่อนหมุนกายเดินไป

อีกทาง ไม่ยี่หระต่อสายตากว่าห้าสิบคู่ที่มองมา เธอเดินไปหยุดอยู่ที่มุม

หนึ่งของห้องโถงพร้อมความคิดหนึ่งที่ว่าเธอไม่สนใจสายตาเหล่านั้น

พวกคนรวยๆ ก็มักมองคนจนๆ อย่างเธอเป็นเพียงตัวประหลาดอยู่แล้ว

จึงไม่จำเป็นที่เธอจะต้องเจ็บปวดจนตัวสั่นแล้วร้องไห้โฮเพิ่มความ

น่าเวทนาให้ตัวเอง

“ถึงฉันจะจน เป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาที่พวกเธอคิดว่าไม่มีอะไรดี

แต่ฉันไม่เคยนึกดูถูกตัวเองเหมือนที,พวกเธอทำให้ตัวเองไร้คุณค่าและ

น่าดูถูกหรอกย่ะ”

หญิงสาวระบายอารมณ์ขุ่นเคืองให้หมดไปด้วยการบ่นพึมพำ

เรื่อยเปื่อย ก่อนจะหวนนึกถึงเหตุผลที่เธอยอมเข้ามาที่นี่

เขานั่นเอง!

ดวงตากลมโตของเธอสอดส่ายมองหาเขาทันที แต่ก็ไม่มีวี่แวว

ของเขาเลย ในขณะที,เริ่มท้อ เสียงวี้ดว้ายของสาวๆ ที,ประสานก้องขึ้น

ก็ทำให้เธอหันขวับไปมอง แล้วดวงตาคู่สวยก็เบิกกว้าง

กระแสคลื่นแห่งความดีใจแล่นปราดเข้าปะทะหัวใจของเลลิลีน

ทันที เธอจับจ้องทุกท่วงท่าการย่างก้าวของเทพบุตรสุดที่รักราวกับตกอยู่

ในภวังค์ คืนนี้แหละที่เธอจะแสดงให้เขารับรู้การมีตัวตนของเธอเสียที

เขาแต่งกายสบายๆ ด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวธรรมดากับกางเกงยีน

เพียงเท่านั้นเขาก็สะกดสายตาทุกคู,ของหญิงสาวให้จ้องมองเขาเป็นตา

เดียว ที่แน่ๆ ก็เธอคนหนึ่งละ

เธอไม่อยากต้องทนเจ็บช้ำกับการเก็บซ่อนความรู้สึกที่มีอีกต่อไป

เขากำลังจะเรียนจบระดับปริญญาเอก'ในปีการศึกษานี้ ในขณะที่เธอเป็น

เพียงนักศึกษาระดับปริญญาตรี'ชั้นปีที,สอง หญิงสาวที่แอบหลงใหลได้

ปลื้มเขาตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้พบเขาในวันแรกที่เข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัย แห่งนี้จึงตัดสินใจกระทำการบางอย่าง

แม้การเฝ้ามองเขาจะทำให้เธอมีความสุข หากก็อึดอัดที่ต้องหลบ

ซ่อนเพราะกลัวความผิดหวัง อันที,จริงเธอรู้ตัวดีว่าต้องผิดหวังแน่นอน

หากบอกเขาไปตรงๆ แต่เธอไม่มีทางเลือกแล้ว แม้จะต้องผิดหวังกับการ

ถูกปฏิเสธ แต่มันคงเจ็บปวดน้อยกว่าการที่เขาไม่เคยรับรู้การมีตัวตนอยู่

ของเธอเลย เพราะเท่าที่ลังเกต เหมือนไม่เคยมีภาพใบหน้า หรือแม้แต่

ร่างอันเลือนรางของเธอผ่านเข้าไปในสายตาเขา ดวงตาของเขาบอก

 

อย่างนั้น และเมือเธอตัดสินใจแล้ว เธอต้องเดินหน้าให้ถึงที่สุด!

เธอมองเห็นเขาเดินไปหยิบเครื่องดื่ม หลังจากนั้นไม่นานพิธีกร

ของงานก็ประกาศเชิญเขาให้ขึ้นไปบนเวทีเพื่อแสดงการบรรเลงเพลงด้วย

เครื่องดนตรีที่เขาถนัดและเก่งกาจเหนือใคร โดยมีถ้วยแชมป์ของรายการ

แข่งขันในระดับมหาวิทยาลัยโลกเป็นเครื่องการันตีความสามารถ

เขาเดินขึ้นเวทีด้วยท่วงท่าที่สง่างาม ก่อนพิธีกรจะส่งเครื่องดนตรี

สุดรักของเขาให้ ไวโอลินสีดำเป็นเงาสะท้อนประกายแวววาว

“สวัสดีครับ สมาชิกชมรมดนตรีคลาสสิก ขอบคุณที่ให้เกียรติ

เชิญผมมาร่วมในทริปนี้ ผมในฐานะที่ปรึกษาชมรม และอดีตประธาน

ชมรม ต้องขอชื่นชมทุกคนที่ได้ร่วมกันสร้างสรรค์กิจกรรมดีๆ นี้ขึ้นเพื่อ

เด็กๆ จนผ่านพ้นไปด้วยดีและมีความสุข สนุกสนาน ฉะนั้นผมขอมอบ

บทเพลงนี้เพื่อชื่นชมและผ่อนคลายความเหนื่อยล้าของทุกคนครับ”

เห็นมันในวันนี้

            เธอได้เห็นรอยยิ้มของเขา ซึ่งนานๆ  ครั้งจะปรากฏให้เห็น นั่นก็

เพราะเขาแสนจะยิ้มยากเย็นจนเธอไม่อยากคาดหวังนัก แต่เธอก็ได้

เห็นมันในวันนี้

เขาเริ่มบรรเลงเพลงด้วยไวโอลินตัวโปรด มันเป็นบทเพลงที่น้อย

คนนักจะสามารถบรรเลงได้ไพเราะ อย่าว่าแต่ไพเราะเลย แค,บรรเลงไม่

ให้โน้ตผิดเพี้ยนก็ยากเต็มที ซึ่งในที่นี้มีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถบรรเลง

เพลงนี้ได้ ทุกคนต่างรู้ดี จึงเกิดเสียงปรบมือดังกึกก้องอย่างชื่นชม

ในความสามารถของเขาตั้งแต่โน้ตตัวแรกดังขึ้น ต่างจากเสียงหัวเราะที่

เธอได้รับอย่างลิบลับ แต่เธอก็ไม่นึกอิจฉา เมือเพลงจบลง เขาโค้งกาย

แล้วกล่าวขอบคุณ แต่ก่อนที่เขาจะก้าวลงจากเวที หญิงสาวคนหนึ่งก็รีบ

วิ่งขึ้นไป ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คนที่ชอบแขวะเธออยู่เป็นประจำนั้นแหละ

โซเฟียคว้าไมค์ขึ้นมาแล้วมองหน้าชายหนุ่มบนเวทีด้วยสายตา

ที่บ่งบอกว่าเธอคืออีกคนที่กำลังหลอมละลายเพราะเขา ก่อนจะบอกว่า

“ฟินีนคะ ฉันมีบางอย่างจะบอกคุณค่ะ...”

เลลิลีนพอจะเดาได้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะพูดอะไร ก็จะอะไรเสียอีก

ล่ะ มันต้องเป็นเรื่องที่เธอบังเอิญได้ยินโซเฟียคุยกับเพื่อนว่าเจ้าหล่อนจะ

สารภาพรักชายหนุ่มคนข้างๆ ในงานนี้แน่ๆ ซึ่งนั้นก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผล

สำคัญที่ทำให้เธอตัดสินใจที่จะทำเช่นเดียวกันเพื่อตัดหน้าผู้หญิงที่เธอ

ไม่ค่อยถูกชะตาด้วยเท่าไรนัก ก็อย่างว่า เป็นผู้หญิงเหมือนกัน จึงมองกัน

ออกว่าอีกฝ่ายรู้สึกอย่างไรกับชายหนุ่มคนนี้

“ไม่มีวันซะหรอก ไม่ได้ คืนนี้ต้องเป็นคืนของฉัน คุณต้องจดจำ

ฉันเพียงคนเดียวเท่านั้น ผู้หญิงหน้าไหนก็ห้ามเด็ดขาด”

เลลิลีน'พึมพำเสียงเข้ม ซึ่งก็มีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้นที่ได้ยิน

เพราะทุกคนกำลังจดจ้องและรอฟังถ้อยคำสำคัญบนเวที

“ที่จริงมันเป็นการสารภาพมากกว่า...”

โซเฟียพูดต่อแล้วยิ้มเขิน บิดกายอรชรไปมา ก่อนจะรวบรวม

ความกล้าคว้ามือเขามากุมไว้ ชายหนุ่มนิ่วหน้าเล็กน้อยด้วยความงุนงง

“ฉัน...ระ...”

แต่ไม่ทันจะได้พูดจนจบประโยค ก็มีเสียงไวโอลินดังกระหึมขึ้น

ด้วยทำนองรัวเร็ว เป้าหมายก็เพื่อทำให้แผนการนั้นล้มเหลว ซึ่งก็ได้ผล

ทุกคนหันมามองที่ต้นเสียง แต่ทันทีที่เห็นว่าเป็นผีเมือของเลลิสิน ทุกคน

ก็ส่ายหน้าอย่างระอากับท่วงทำนองอันผิดเพี้ยนและระคายหูของเธอ

“เธอบ้าไปหรือเปล่า ถึงคิดอยากจะแสดงความสามารถทาง

ดนตรีอันแสนห่วยของเธอตอนนี้”

โซเฟียพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง แต่เลลิลีนแทบไม่ได้ยิน เรียกได้ว่า

ไม่สามารถมีเสียงใดๆ หลุดเข้ามาในโสตประสาทการรับรู้ของเธอได้เลย

นั่นก็เพราะเขา...คนที่เธอเฝ้ารอคอยนั้นได้ทอดสายตามองมาที่เธอเป็น

ครั้งแรก มันทำให้เธอดีใจจนตื้นตัน เขาอับจ้องเธอ ไม่เบนสายตาหนี แต่

ขณะเดียวกันประกายสายตาคมกล้าของเขาก็ได้แผ่รังสีบางอย่างที่ทำให้

เธอนึกกลัวได้อย่างประหลาด หากเธอก็ยิ้มกว้างให้เขา จะมองแบบไหน

ก็มองไปเถอะ ขอแค่เขามอง...เธอก็พอใจแล้ว

“นี่! ฉันพูดกับเธออยู่นะ”

เสียงที,ดังขึ้นอย่างกระแทกกระทั้นปลุกเลลิลีนให้ตื่นจากภวังค์

ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะเหลือบมองโซเฟียแล้วกระตุกเรียวคิ้วเชิง

ถามว่ามีอะไรหรือ ก็อย่างว่าละ เธอกำลังอยู่ในอาการหลงลืมตัวนี่นา

“เสียมารยาทจริงๆ เชียว ฉันถามว่าเธอทำกิริยาแบบคนไร้ความ

คิดอย่างนี้ได้ยังไง”

ราวกับว่าทุกคนเงียบเพื่อรอฟังบทสนทนาของหญิงสาวทั้งสอง

“ก็...” เลลิลีนออกอาการตื่นเต้นเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าชายหนุ่มที่เธอ

หมายปองก็เป็นอีกคนหนึ่งที่รอฟังอยู่ “มันไร้ความคิดตรงไหนล่ะ”

“โง่มากที่ย้อนถามเพื่อให้ฉันได้อธิบายถึงความงี่เง่าของเธอให้

คนอื่นฟัง ทั้งที่ฉันไม่อยากทำสักนิด”

‘ตรงกันข้ามต่างหาก เสลิลีนคิด

“ยังไงล่ะ”

“จะยังไงได้อีกล่ะ ก็เธอใช้เสียงดนตรีที่แสนจะแสบแก้วหูแทรก

ขณะที่ฉันกำลังพูดกับคุณฟินีนน่ะสิยะ”

“งั้นเหรอ” ใบหน้าของเสลิลีนไม่เดือดร้อนสักนิด

“ใช่น่ะสิ ฉันอยากรู้ลังว่าเธอนึกอยากจะมาโซวัความสามารถ

อะไรในตอนนี้ เธอคิดจะแกล้งฉันใช่ไหมล่ะ”

“เปล่าสักหน่อย ฉันแค่มองเห็นความอยุติธรรมก็เท่านั้น”

“ความอยุติธรรมอะไรของเธอ”

“ก็...การที่เธอมีสิทธิ์ทำอะไรก็ได้ อยากพูดก็ได้พูด อยากเล่น

ดนตรีอะไร เพลงไหน เวทีไหน เธอก็ได้ทำโดยไม่มีใครดัดค้าน แต่พอเป็น

ฉันบ้าง ฉันอยากบอกว่าฉันไม่อยากเล่นเพลงนี้ ไม่อยากขึ้นเวทีโชว์ หรือ

อยากขึ้นโชว์บนเวทีไหน ก็มีคนค้านตลอด”

เสียงหัวเราะเย้ยหยันจากทุกคนดังกระหึ่มขึ้น ยกเว้นเขา ซึ่งเธอ

พอใจมาก

“ก็เธอมันห่วยเองนี่นา การที่ทุกคนให้โอกาสเธอได้ขึ้นเวทีมันก็

มากเกินพอแล้ว”

“ก็แล้วทำไมต้องเป็นครั้งนี้ด้วยล่ะ ทำไมไม่เป็นงานใหญ่ๆ บ้าง”

“แล้วเธอคิดว่าฝีมืออย่างเธอน่ะจะเล่นโชว์บนเวทีใหญ่ๆ ได้

งั้นหรือ แค่ขึ้นเวทีเด็กอย่างวันนี้เธอยังทำงานล่มไม่เป็นท่า ยังจะกล้าพูด

อวดเก่งอีก”

“ผมขอตัวก่อนดีกว่าครับ” ฟินีนเอ่ยขัดบทสนทนาอันเร่าร้อนของ

สองสาว

“ไม่ได้นะคะ คุณต้องรอฟังฉันสารภาพก่อน” สองเสียงดัง

ประสานเป็นหนึ่งเดียว ก่อนสองสาวเจ้าของเสียงจะหันมามองหน้ากัน

แล้วตะโกนแข่งกันอย่างดุเดือดว่า “ไม่ได้! ต้องฉันก่อน ฉันพูดก่อน...”

“หยุด!”

ใบหน้าชายหนุ่มถอดสี จากนึ่งเรียบ งุนงง เฉยชา เป็นขุ่นมัว

และอาจขุ่นเคืองจนเดือดหากสองสาวยังไม่ยอมหยุดตะโกนลั่นให้

รำคาญใจแบบนี้

“ฉันหยุดไม่ได้หรอก ฉันไม่หยุดแน่ เพราะถ้าฉันหยุด ผู้หญิง

คนข้างๆ คุณก็จะพูด ซึ่งฉันยอมไม่ได้เด็ดขาด” เสลิสินตะโกนบอกด้วย

น้ำเสียงมาดมั่น

“ฉันมีชื่อนะ ฉันชื่อโซเฟีย”

“เธอจะบอกชื่อทำไม ฉันอุตส่าห์เลี่ยงไม่เอ่ยเพื่อไม่ให้คุณฟีนีน

รู้จักชื่อเธอแล้วเชียว” กว่าจะรู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไป คนอื่นก็ได้ยินกัน

หมดแล้ว และคงคาดเดาอะไรบางอย่างได้

“เธอนี่มันร้าย'จริง”

“เธอก็ร้ายพอกัน”

“ผมขอตัว!” เสียงเข้มดังขึ้นด้วยความขุ่นเคือง และจวนเจียนจะ

 

          (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้น หลังจาก "เลลิลีน" ต้องผิดหวังจากการสารภาพรัก เธอจึงได้ออกเดินทางเสี่ยงดวงไป ณ ดินแดนแห่งผืนทรายอันร้อนระอุ แต่ก็มีความโรแมนติก โดยปรารถนาในสิ่งที่มิใช่การครอบครอง แต่เพื่อใช้เขาเหลียวกลับมามองเธอสักครั้ง ได้รับรู้ถึงตัวตนและหัวใจที่แท้จริงของเธอ จะรักหรือไม่รักก็ไม่สำคัญ ขอเพียงได้ทำตามหัวใจตัวเองให้ถึงที่สุด จนได้รับคำตอบก็พอท่ามกลางดวงที่ได้พัดพาตัวเธอให้พานพบกับสารพัดกองโจร และ "เขา" ชายผู้แสนจะรำคาญคนอย่างเธอเสียเต็มประดา แต่กลับพาเธอติดหนึบข้างกาย โดยไร้การรับรู้ถึงความปรารถนาของหัวใจตัวเอง !! แล้วเรื่องราวจะดำเนินต่อไปอย่างไร ? ขอเชิญคุณผู้อ่านมาติดตามร่วมกันใน "โอบรักเจ้าทะเลทราย" เล่มนี้


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (95 รายการ)

www.batorastore.com © 2024