แผนรักหักเหลี่ยมเจ้าพ่อ (เพลงใบไม้)

ทันทีที่หญิงสาวร่างบางอรชร ใบหน้าสวยหวานน่ารัก ผิวขาว

เนียนใสอมชมพู ดวงตากลมโตงดงามแฝงแววหม่นหมอง ก้าวเข้ามาในบ้าน

หลังใหญ่สีขาวทรงทันสมัยซึ่งโดยรอบมีต้นไม้ปลูกเรียงเป็นระเบียบ หญิง

สูงวัยร่างท้วมอายุประมาณห้าสิบต้นๆ ก็ร้องห้าม

“คุณเฟิร์น อย่าเพิ่งเข้าบ้านค่ะ ไปหลบบ้านเพื่อนก่อน คนเลวพวกนั้น

พาใครมาก็ไม่รู้ บอกว่าอยากดูตัวคุณเฟิร์น รีบไปเถอะค่ะเชื่อป้า”

“ไม่จ้ะป้า ยังไงเฟิร์นก็หนีไม่พ้น ช้าเร็วก็ต้องเจอ สู้เผชิญหน้ากันเลย

ดีกว่า ป้าก็รู้ ป้าแก้วกับน้องเบียร์ยังอยู่ในมือพวกนั้น เราไม่มีทางเลือก”

ใบหน้าสวยหวานหมองลงทันทีเมื่อนึกถึงความจริงที่ทำให้ไม่อาจเลี่ยงได้

“แต่ป้าว่ายืดเวลาไปสักพักดีกว่า คุณเฟิร์นก็รู้ว่าพวกนั้นเลวแค่ไหน

คิดเอาคุณเฟิร์นไปเป็นนางบำเรอของใครต่อใครเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง

แต่ละคนดูหื่นกามทั้งนั้น แล้วคุณเฟิร์นของป้าจะทนได้หรือ...ไม่แน่ อาจมี

คนมาช่วยเราก็ได้” ป้าหนูยังหวัง แม้จะแค้นใจที่ไม่อาจช่วยนายสาวได้

“ใครล่ะป้า ที่ผ่านมาทุกคนหนีกันหมดเมื่อรู้ว่าเฟิร์นกำลังจะไปเป็น

อีหนูของใคร แต่ก็ยังโชคดีนะที่คนเลวพวกนั้นคุ้มหัว พวกบ้าตัณหานั่น

ถึงไม่กล้าให้คนมาฉุดไปทำอะไรตามอำเภอใจ” ทอไหมเอ่ยด้วยน้ำเสียง

ขื่นๆ อยากไปให้พ้นจากบ้านหลังนี้

ทั้งที่เป็นบ้านที่บิดามารดาสร้างมาด้วยกัน แต่กลับถูกคนเลว

พวกนั้นยึดไปหมด รวมทั้งกิจการของบิดาด้วย เพราะความอ่อนแอของ

บิดาและไว้ใจน้องชายกับเมียรักมากเกินไป...หากคนเลวพวกนั้นไม่เอาชีวิต

ป้ากับน้องชายมาขู่ เธอคงไม่ทนอยู่ให้คนพวกนั้นบีบบังคับ

ยิ่งคิดยิ่งเจ็บแค้นโชคชะตายิ่งนัก

ทอไหมจำได้ว่าเธอเคยมีชีวิตแสนสุขในบ้านหลังนี้ จนกระทั่งสิ้น

มารดาไป บิดาก็พาอรทัยกับชาญวุฒิ...ลูกชายซึ่งอายุมากกว่าเธอเกือบห้าปี

เข้ามาในบ้าน และแนะนำในฐานะคุณผู้หญิงคนใหม่กับลูกชายคนโต หรือ

ก็คือพี่ชายของเธอนั่นเอง เธอจึงได้รู้ว่าบิดาแอบเลี้ยงดูอรทัยกับลูก

หลังจากแต่งงานกับมารดา

การที่อรทัยกับลูกเข้ามาอยู่ในบ้าน ทำให้นพดล...น้องชายแท้ๆ

ของบิดาและเป็นอาของเธอ ขยันกลับมาค้างที่บ้านและเอาใจใส่สองแม่ลูก

เป็นพิเศษ จนแก้วใจซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆ ของบิดาเธอเห็นแล้วไม่สบายใจ

แต่ไม่ได้พูดอะไร ขณะเดียวกัน เธอรู้สึกไม่ชอบชาญวุฒิเอาเสียเลย เพราะ

เขามักจะมองเธอด้วยแววตาชิงชัง ไม่เหมือนแววตาของพี่ชายยามมอง

น้องสาว

ตลอดเวลาที่บิดามีชีวิตอยู่ ทุกอย่างในบ้านยังคงดำเนินไปตามปกติ

สองแม่ลูกทำตัวเป็นคนดีไม่สร้างปัญหาให้ใคร แม้บิดาจะเผลอไปมีความ

สัมพันธ์กับแม่ม่ายสาวสวยข้างบ้านเพราะความเมา จนฝ่ายนั้นท้องและ

ตายจากไปหลังคลอดบุตรชาย ป้าของเธออาสาเป็นคนเลี้ยงดูหลานชายเอง

โดยตั้งชื่อว่าเบียร์ และพาเข้ามาอยู่ในบ้านตามความต้องการของบิดาโดยที่

อรทัยไม่ค้าน แต่กลับเห็นชอบด้วย

ต่อมาบิดาก็ล้มป่วยลงด้วยโรคมะเร็ง นภดลจึงอาสาดูแลกิจการให้

อ้างว่าอยากให้บิดาของเธอรักษาตัวให้หายก่อน แต่อาการป่วยก็ไม่ดีขึ้น

มีแต่จะแย่ลงจนกระทั่งจากไปเมื่อสองปีก่อน

นพดล อรทัย และชาญวุฒิยังทำตัวเป็นคนดีหลังสิ้นบิดาใหม่ๆ แต่

จากนั้นไม่นานก็เผยธาตุแท้ออกมา อรทัยไล่คนเก่าคนแก่ออกหมดยกเว้น

ป้าหนู พร้อมกับขยับฐานะชู้รักของนพดลมาเป็นสามีอย่างเต็มตัว ชาญวุฒิ

ก็เรียกนพดลว่าพ่อได้สนิทปากโดยไม่ละอายท่ามกลางเสียงค้านของ

แก้วใจ

ป้าของเธอเพียงคนเดียวไม่มีแรงพอที่จะสู้รบปรบมือกับคนเลว

สามคนนั้น ในไม่ช้าก็หายตัวไปอย่างลึกลับพร้อมกับหลานชายอายุย่าง

เจ็ดขวบ

แรกๆ ทอไหมพยายามตามหาแต่ก็ไม่พบ ต่อมาความจริงก็กระจ่าง

เมื่อเธอคิดจะแจ้งความ เธอยังจำเหตุการณ์วันนั้นได้ดี คนทั้งสามมาขวางไว้

มองเธอด้วยแววตาน่ากลัว

‘ไม่ต้องไปแจ้งความหรอก ฉันเป็นคนเชิญป้าแก้วกับน้องเบียร์ไป

พักผ่อนเอง ถ้าแกทำตัวดีๆ ทั้งสองก็จะปลอดภัย’ ชาญวุฒิบอกเสียงเรียบ

นัยน์ตาน่ากลัว

‘หมายความว่ายังไง เฟิร์นไม่เข้าใจ’ หญิงสาวจ้องมองอย่างคาดคั้น

‘ทำเป็นไร้เดียงสาไปได้หนูเฟิร์น ก็หมายความว่าชีวิตสองคนนั้น

จะรอดหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับหนู’ แม่เลี้ยงแสนดีตัวร้ายอธิบาย

‘ขอความกระจ่างมากกว่านี้ค่ะคุณอรทัย’ ทอไหมจ้องหน้าอีกฝ่าย

อย่างท้าทาย บอกตัวเองว่าไม่มีวันยอมให้คนเลวพวกนี้ขู่เป็นอันขาด

‘จะมากไปแล้วนะ คิดกำเริบกับคุณอร อาบอกให้ก็ได้ เพราะพี่แก้ว

รู้มากไปจึงต้องพาไปสงบปากสงบคำที่อื่น ส่วนแก...ถ้าทำตัวเป็นเด็กดี

ว่านอนสอนง่าย ออกไปกับคุณยศและลูกค้าของอาบ้าง พี่แก้วกับเบียร์

ก็จะอยู่ดีมีสุข แต่ถ้าดื้อ อาไม่รับรองชีวิตสองคนนั้น’

คำขู่ของนพดลทำให้ทอไหมรู้ซึ้งแก่ใจ นภดลกำลังจะลงทุน

ทำธุรกิจหลังจากขายกิจการโรงแรมของพี่ชายไป จึงต้องการเงินทุน

กับคนสนับสนุน

ยิ่งยศเป็นนักธุรกิจมากอิทธิพล อายุใกล้เลขหก เจ้าพ่อวงการ

เครื่องดื่มและธุรกิจโรงแรม มีเส้นสายในวงราชการและรู้จักนักการเมือง

หลายคน จึงเป็นหนึ่งในเป้าหมายของนพดลที่จะดึงตัวมาร่วมหุ้นด้วย

ทางเดียวที่จะดึงความสนใจคนมากอิทธิพลอย่างยิ่งยศได้คือผู้หญิง เป็น

ที่รู้กันดีว่านายคนนี้บ้าผู้หญิง ยิ่งเป็นสาวสวยยิ่งชอบ จนบางคนแอบให้

ฉายาว่า ‘เฒ่าหื่น’ แต่ไม่กล้าพูดให้ได้ยิน เพราะเกรงกลัวอิทธิพลนั่นเอง

ทอไหมยิ้มขื่นๆ จ้องมองคนเป็นอา พอจะเข้าใจความคิดของ

คนพวกนี้ ที่เธอยังอยู่ดีมีสุขได้เพราะพวกนี้กำลังจะใช้เธอเป็นของกำนัล

เฒ่าหื่นหรือผู้มีอิทธิพลรายอื่นเพื่อผลตอบแทนทางธุรกิจ โดยเอาป้ากับ

น้องชายของเธอมาเป็นตัวประกัน บีบบังคับให้เธอจำยอม

‘อานพ เฟิร์นชื่นชมความคิดไม่เหมือนมนุษย์ทั่วไปของอาจริงๆ

แค่นี้ใช่มั้ยคะที่จะบอก เอาเป็นว่าเฟิร์นรับทราบ แต่อย่าให้เฟิร์นรู้ว่าป้าแก้ว

กับน้องเบียร์เป็นอะไรไป ไม่อย่างนั้นธุรกิจของอาพังแน่’

หญิงสาวขู่กลับนิ่มๆ นพดลได้ยินแล้วโกรธจัด เงื้อมือหมายจะ

ฟาดใบหน้าสวยใสสักฉาดถ้าอรทัยไม่ขวางไว้ก่อน

‘อย่าค่ะคุณนพ ปล่อยไป หนูเฟิร์นก็แค่เด็กสาวปากกล้าคนหนึ่ง

จริงๆ แล้วไม่กล้าหรอกจริงมั้ยจ๊ะ หนูเฟิร์นคนดี’ แม่เลี้ยงแสนดียังคง

ปากหวานน้ำใจงามจนน่ามอบรางวัลนางร้ายเจ้าบทบาทให้

‘จริงค่ะคุณอรทัย ได้ยินแล้วใช่มั้ยคะอานพ เฟิร์นขอตัวก่อน’

ทอไหมเดินขึ้นห้องแล้วล้มตัวลงนอน ซบหน้ากับหมอน ปล่อยให้

น้ำตาแห่งความอัดอั้นคับแค้นใจหลั่งรินออกมา

 

คิดถึงเรื่องราวในวันนั้น ทอไหมก็ถอนใจ...นับแต่วันนั้นมา เธอ

ก็ถูกนภดลกับอรทัยพาไปให้ใครต่อใครประเมินค่าระหว่างรอคอยยิ่งยศ

 

ติดต่อกลับมา

ยิ่งยศเป็นเป้าหมายหลักของสองผัวเมีย และโชคดีที่ฝ่ายนั้นยัง

ยุ่งอยู่กับการลงทุนธุรกิจตัวใหม่และเดินทางไปต่างประเทศบ่อย เธอจึง

อยู่รอดปลอดภัยมาได้จนถึงวันนี้ หากต้องตกเป็นอีหนูของเฒ่าหื่นเมื่อไร

เมื่อนั้นคงเหมือนตกนรกทั้งเป็น เท่าที่ทราบ ยิ่งยศอยากได้ใครก็จะให้คน

มาพาตัวไปทันที ไม่ว่าจะเป็นดาราหรือนางงาม

“คุณเฟิร์นเป็นอะไรไปรึเปล่าคะ อยู่ดีๆ ก็เงียบไป”

ป้าหนูถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล ทอไหมจึงรู้ตัว

“ไม่เป็นไร เฟิร์นจะเข้าไป ไหนๆ ก็ไม่มีทางเลี่ยงแล้ว” หญิงสาวบอก

อย่างเด็ดเดี่ยว

“คุณเฟิร์นรู้หรือคะว่าเป็นใคร”

“วันนี้นายยิ่งยศคงว่างพอที่จะมาดูตัวว่าที่อีหนูคนใหม่” ทอไหม

ประชดตัวเองแล้วเดินเข้าบ้าน ป้าหนูรีบตามเข้าไปด้วยความเป็นห่วง

หลังทั้งคู่เข้าไปในบ้านแล้ว ชายหนุ่มซึ่งสวมเสื้อวินมอเตอร์ไซค์

รับจ้างซึ่งหลบอยู่หลังต้นไม้ริมทางก็เดินออกมา แล้วกลับไปนั่งรอที่

มอเตอร์ไซค์คู่ชีพ มั่นใจว่าไม่ช้าต้องมีคนออกมาจากบ้านหลังนั้นอย่าง

แน่นอน

 

คนมากอิทธิพลนั่งบนเก้าอี้รับแขกหรูในบ้านหลังใหญ่ที่เจ้าของบ้าน

เต็มใจต้อนรับอย่างยิ่ง บนโต๊ะรับแขกมีขนมกับเครื่องดื่มไว้บริการ

“คุณยศคะ ใจเย็นๆ นะคะ หนูเฟิร์นไปข้างนอกเดี๋ยวก็มา ปกติ

ไม่เคยเหลวไหลค่ะ” อรทัยรีบบอก

เมื่อเห็นว่าคนมากอิทธิพลกำลังจะทนไม่ไหว ก็นึกแค้นใจลูกเลี้ยง

ตัวดีว่าทำไมต้องเจาะจงออกจากบ้านวันนี้ด้วย กลับมาจะเล่นงานให้เข็ด

“ผมต้องขอโทษด้วย ไม่ทราบว่าคุณยศจะให้เกียรติมาเยี่ยมวันนี้

ได้ข่าวว่างานรัดตัว อันที่จริงผมคิดจะพาหลานสาวไปหาคุณยศอยู่แล้ว

ต้องรบกวนให้คุณยศมาหาถึงบ้าน เกรงใจจริงๆ” นพดลกล่าวเหมือน

เกรงใจ ถ้าไม่เป็นเพราะต้องอาศัยบารมีนายคนนี้ช่วย เขาไม่ยอมให้มา

วางอำนาจในบ้านแน่

“ไม่เป็นไร ผมรอได้ วันนี้ตั้งใจมาพาหนูเฟิร์นไปทานข้าวสักมื้อ

อยากเจอตัวจริง เห็นแต่ในรูป ไม่รู้ว่าตัวจริงจะสวยน่ารักแค่ไหน ถ้าถูกใจ

ละก็ทุกอย่างระหว่างเราก็ไม่มีปัญหา” ผู้มีอิทธิพลบอกพลางมองหน้า

สองสามีภรรยาอย่างรู้ทัน

ยิ่งยศก้าวมาถึงระดับนี้ พบคนหลายประเภททั้งดีและเลว จนรู้ว่า

คนดีแท้จริงในสังคมนั้นหายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร เพราะส่วนมาก

คนดีมักเป็นเหยื่อคนเลวเช่นเขาเสมอ บางครั้งเขาก็อยากคบค้าสมาคมกับ

คนดีบ้าง แต่ไม่เคยทำสำเร็จ เพราะคนดีมักเดินสวนทางกับความต้องการ

ของเขา ดังนั้นพวกที่ยึดมั่นในความดีจึงได้ไปเฝ้าพญามัจจุราชเสียส่วนใหญ่

“รับรองค่ะ ต้องถูกใจคุณยศแน่ ดิฉันเป็นผู้หญิงยังอดอิจฉาไม่ได้

เลยนะคะ หนูเฟิร์นเธอสวยใส สะอาดบริสุทธิ์ไม่มีตำหนิ แถมกิริยามารยาท

ก็ดี อ่อนน้อมถ่อมตน” อรทัยรีบโฆษณาสรรพคุณของลูกเลี้ยงเหมือน

นำเสนอสินค้าเกรดเอให้ลูกค้า

“พูดอย่างนี้ชักอยากเจอตัวแล้วสิ เกือบชั่วโมงแล้วยังไม่มาอีก

ผมมีเวลาให้อีกห้านาที ถ้ายังไม่เห็นหน้าหนูเฟิร์น เห็นทีสัญญาระหว่าง

เราต้องพับไว้ก่อน”

ยิ่งยศขู่นิ่มๆ แต่กลับทำให้นพดลกับอรทัยหน้าซีดได้ เพราะนั่น

หมายถึงต้องสูญเสียเงินมหาศาลไปด้วย

แต่แล้วก็ยิ้มออกเมื่อทั้งคู่เห็นทอไหมเดินเข้ามา อรทัยรีบเข้าไป

จูงมือมายืนอยู่ตรงหน้ายิ่งยศทันที

“นี่ค่ะคุณยศ หนูเฟิร์นของดิฉันกลับมาพอดี หนูเฟิร์น...ไหว้คุณยศ

เสียสิลูก คุณยศอุตส่าห์มารอเกือบชั่วโมงเพื่อจะพาหนูไปทานข้าว”

ทอไหมมีสีหน้าเย็นชา ยกมือไหว้ยิ่งยศเหมือนหุ่นยนต์ ดวงตากลม

โตจ้องมองคนมากอิทธิพลที่เคยเห็นเฉพาะในโทรทัศน์แล้ว นึกชิงชังแววตา

หื่นกระหายที่สำรวจไปทั่วตัวของเธออย่างไม่เกรงใจ

ยิ่งยศมองสำรวจทั่วตัวคนตรงหน้าเหมือนพิจารณาซื้อแหวน

เพชรราคาแพงแล้วยิ้ม...อรทัยไม่ได้โกหก เด็กคนนี้สวยงามน่ารักน่าใคร่

ไปทั้งตัว เห็นแล้วอยากพาตัวไปวันนี้เลย แต่จำต้องห้ามใจไว้เพราะกลัว

ไก่ตื่น

“หนูเฟิร์นจะไม่แนะนำตัวให้รู้จักหน่อยหรือจ๊ะ เห็นหนูแล้วชักหิว

อยากชวนไปทานข้าวด้วยกันสักมื้อ”

อรทัยเห็นยิ่งยศดูพอใจในตัวลูกเลี้ยงคนสวย จึงลอบยิ้มกับนพดล

ก่อนขยับเข้าใกล้ทอไหม กระซิบให้ได้ยินกันเพียงสองคน

“อย่าแผลงฤทธิ์นะนังเฟิร์น ไม่อย่างนั้นนังแก้วกับน้องชายแก

ลำบากแน่”

ทอไหมมองแม่เลี้ยงใจชั่วกับน้องชายแสนเลวของบิดาด้วยแววตา

ชิงชัง แต่จำยอมทำตามเพื่อชีวิตคนที่เธอรัก

“ชื่อทอไหมค่ะท่าน ยินดีที่ได้รู้จักท่าน ท่านดูหนุ่ม หล่อกว่าในทีวี

ตั้งเยอะ รู้สึกยินดีมากเลยนะคะที่จะมีโอกาสรับประทานอาหารร่วมกับ

ท่าน ไปกันได้เลยค่ะท่าน”

อรทัยกับนพดลนิ่งอึ้ง ไม่คิดว่าทอไหมจะพูดจาเหมือนผู้หญิง

เจนจัด เท่ากับสร้างความหวาดระแวงให้ยิ่งยศคิดว่าพวกเขาย้อมแมวขาย

‘ร้ายนักนะแก นังเฟิร์น’

ยิ่งยศมองหญิงสาวที่งดงามไปทั้งตัว ไม่มีที่ไหนต้องปรับเติมเสริม

แต่งเหมือนสาวๆ ยุคนี้แล้วยิ้มอย่างพอใจ แม้จะไม่แน่ใจว่าของกำนัลชิ้นนี้

มีตำหนิหรือไม่ ทว่าใจกลับอยากได้มาเชยชมโดยเร็ว เป็นของมีตำหนิก็ดี

เหมือนกัน จะได้ไม่ต้องออมแรง ยังไงก็ถูกใจอยู่ดี แต่ค่าตอบแทนของ

สองผัวเมียนั่นต้องลดลงตามคุณภาพของสินค้า แต่ถ้าไม่ใช่ของมือสอง

จะตอบแทนอย่างงาม

               

                (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)