เจ้าหญิงทะเลทราย (พิมพ์ซ้ำ เปลี่ยนปก) (ซ่อนกลิ่น)

เจ้าหญิงทะเลทราย (พิมพ์ซ้ำ เปลี่ยนปก) (ซ่อนกลิ่น)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160020836
ผู้แต่ง: ซ่อนกลิ่น
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 260.00 บาท 65.00 บาท
ประหยัด: 195.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

สหรัฐอาหรับอินชิรอฮ์เป็นประเทศเล็กๆ ที่มั่งคั่งไปด้วยน้ำมัน

ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของคาบสมุทรอาหรับ ริมอ่าวเปอร์เซีย

ดินแดนแห่งนี้แบ่งเขตการปกครองออกเป็นเจ็ดรัฐด้วยกัน

รัฐเหล่านั้น กอปรไปด้วย รัฐอาบิดียะฮ์ รัฐดิรบาส รัฐซามีย์ รัฐ

รอซมียะฮ์ รัฐอักบาล รัฐอบุล-มอาฏี และรัฐฟูลาซ ทั้งหมดถูกปกครอง

ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ โดยมีสุลต่าน ไซยาน บิน สุลต่าน อัล

นาญิล เจ้าผู้ครองนครรัฐอาบิดียะฮ์ทรงเป็นปฐมกษัตริย์ หลังจากทรงเป็น

ผู้นำรัฐทั้งเจ็ดในการก่อตั้งสภาสหพันธรัฐเพื่อเรียกร้องเอกราชจากอังกฤษ

เมื่อค.ศ.๑๙๕๒

จนถึงค.ศ.๑๙๖๘ อังกฤษยอมประกาศถอนกำลังทหารออกภายใน

เวลาสามปี หลังจากนั้นในค.ศ.๑๙๗๑ จึงทรงประกาศจัดตั้งสหรัฐอาหรับ

อินชิรอฮ์ขึ้น โดยใช้รัฐธรรมนูญที่ร่างโดยความเห็นชอบจากชีคผู้ครองรัฐ

ทั้งเจ็ด

แต่หลังจากได้เอกราชกลับมา ก็เกิดความขัดแย้งระหว่างรัฐต่างๆ

อยู่เนืองๆ สุลต่านไซยานทรงประคับประคองประเทศท่ามกลางความ

ขัดแย้งนั้นอย่างลุ่มๆ ดอนๆ นับเป็นเวลาสิบปีจนถึงปัจจุบัน...

เสียงผู้ประกาศดังออกมาจากจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ ซึ่งกำลังฉายภาพ

ท้องถนนในอาบิดียะฮ์ เมืองหลวงของสหรัฐอาหรับอินชิรอฮ์ ซึ่งขณะนี้

เต็มไปด้วยรถถัง กองทหาร และการต่อสู้ประปราย

“เมื่อค่ำวานนี้...ได้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดฝันขึ้น เมื่อพลเอก

อาหมัด บิน ฮาหมัด ผู้บัญชาการทหารบกทำการปฏิบัติยึดอำนาจจาก

สุลต่าน ไซยาน บิน สุลต่าน อัล นาญิล เมื่อเวลา ๒๐.๐๐ น. ของคืนวันที่

๖ มิถุนายนที่ผ่านมา...

“ทั้งนี้ พลเอกอาหมัดได้สั่งให้เคลื่อนกำลังพลเข้าควบคุมจุดสำคัญ

ต่างๆ ในอาบิดียะฮ์ รวมไปถึงบ้านพักของบุคคลสำคัญในคณะรัฐบาล สถานี

โทรทัศน์ทุกช่อง และสนามบิน ส่วนตัวเขาเองได้นำกำลังบุกเข้าไปใน

พระราชวังหลวง...

“การบุกพระราชวังหลวงครั้งนี้เป็นไปอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่า

มีการเตรียมการมาอย่างดี เนื่องจากมีการโยกย้ายกำลังสับเปลี่ยนจน

ภายในพระราชวังเหลือเพียงทหารล้อมวังและองครักษ์เพียงไม่กี่คน

เท่านั้น พลเอกอาหมัดจึงเข้าควบคุมองค์สุลต่านไซยานไว้ในห้องทรงงาน

ทางปีกตะวันตกของพระราชวังได้โดยใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น...”

ภาพในโทรทัศน์เปลี่ยนจากการรบพุ่งไปเป็นเหล่าทหารในชุดสีดำ

มากมายที่ยืนคุมสถานการณ์ตามจุดต่างๆ

“แต่เนื่องจากข่าวการปฏิวัตินั้นรั่วไหลไปถึงหูของชีคฟารีส บิน รอซิม

อัล มุคตาร ผู้ครองนครรัฐดิรบาส จึงได้มีการนำกองกำลัง ‘กอซูเราะฮ์’

อันเลื่องชื่อจากรัฐดิรบาสเข้าจู่โจมตอบโต้จนสามารถยึดเอาสถานที่สำคัญ

ของอาบิดียะฮ์คืนจากกองกำลังปฏิวัติได้หลายจุด ต่อมาในเวลา ๒๓.๐๐ น.

ชีคฟารีส และสามทหารเสือทะเลทราย ได้บุกเข้าไปถึงพระราชวังหลวงและ

สังหารพลเอกอาหมัดลงได้ในที่สุด แต่ถึงกระนั้นก็ตาม เป็นที่น่าเสียดายว่า

ชีคฟารีสไม่สามารถรักษาพระชนม์ชีพของสุลต่านไซยานเอาไว้ได้ พระองค์

ถูกลอบปลงพระชนม์โดยพลเอกอาหมัดก่อนหน้านี้แล้ว...”

เพล้ง...

เสียงแจกันกระทบพื้นดังก้องไปทั่วห้อง ทุกสายตาต่างหันไปยังที่มา

ของเสียง แล้วพวกเขาก็ได้ยินเจ้าหญิงผู้เลอโฉมทรงร้องตะโกนออกมา

อย่างเคียดแค้นชิงชัง “โกหก เหลวไหลทั้งเพ”

“พระทัยเย็นก่อนเพคะเจ้าหญิง” อีซารรีบเข้าไปประคองปลอบ

เจ้าหญิงที่ทรุดองค์ลงซบพระพักตร์กับฝ่าพระหัตถ์อย่างน่าสงสาร

“มัน...” พระสุรเสียงขึ้งเคียดปนสะอื้นไห้ “มันฆ่าเสด็จพ่อ”

“พระทัยเย็นก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ” ชายชราคนหนึ่งปิดโทรทัศน์ลง

ก่อนจะเดินมานั่งต่อหน้าพระพักตร์ของเจ้าหญิงยัสมีนะห์

เจ้าหญิงเงยพระพักตร์ขึ้นทอดพระเนตร “ท่านซาบิต เราเห็นกับตา

ว่าเขาปลงพระชนม์เสด็จพ่อ”

ชีคซาบิต บิน คอบีร ผู้ครองรัฐรอซมียะฮ์ถอนหายใจ สิ่งที่เจ้าหญิง

ตรัสนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยในความคิดของเขา หากว่าพระองค์เป็น

หญิงสาวชาวบ้านธรรมดาๆ เขาก็คงจะขับไล่ไสส่งโทษฐานที่พูดจาเหลวไหล

ให้ร้ายคนอื่นโดยไม่มีหลักฐานอันแน่ชัดไปแล้ว แต่นี่พระองค์เป็นถึงเจ้าหญิง

แห่งสหรัฐอาหรับอินชิรอฮ์ และคนที่พระองค์กำลังกล่าวร้ายนั้นคือ

พระคู่หมั้นที่กำลังจะเป็นพระสวามีของพระองค์ในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย

“เราเห็นกับตาจริงๆ นะ...ท่านซาบิต” พระอัสสุชลนองเต็มผ้าที่ปิด

คลุมพระพักตร์จนเปียกชุ่มไปหมด “มันยิงเสด็จพ่อ ไอ้ชีคฟารีส มันยิง

เสด็จพ่อ ท่านได้ยินไหม”

“แต่เราไม่มีหลักฐานพ่ะย่ะค่ะ” ชีคซาบิตกราบทูล

“เรานี่ไงละ...หลักฐาน” เจ้าหญิงทรงชี้ที่พระองค์เอง “เราจะประกาศ

ให้โลกรู้ว่า ชีคฟารีสเป็นคนหลอกลวงเช่นไร ข่าวนั่นเข้าข้างเขา”

“ทำเช่นนั้นไม่ได้แน่” ชีคซาบิตเอ่ยทัดทาน

“ทำไม เราเห็นกับตา เขายิงเสด็จพ่อด้วยปืนในมือของเขา”

“กระหม่อมคิดว่า ตอนนี้น้ำกำลังเชี่ยว เราไม่ควรเอาเรือเข้าขวาง”

ชีคเฒ่าแทรกขึ้น “ชีคฟารีสวางกำลังกอซูเราะฮ์ซึ่งเป็นกองรบที่เลื่องชื่อของ

ดิรบาสอยู่เต็มอาบิดียะฮ์ไปหมด แล้วยังการที่เขาส่งกำลังเข้าช่วยเหลือ

อาบิดียะฮ์ในครั้งนี้ก็ทำให้ผู้คนชื่นชมเขามากยิ่งขึ้น เราจะจัดการเขาคง

ต้องหาหลักฐานที่แน่นหนามากกว่าเพียง...” ชีคซาบิตหยุดคำพูดลงกะทันหัน

เมื่อนึกขึ้นได้ว่าอาจจะกระทบกับพระทัยของผู้ฟัง

“ท่านกำลังว่าคำพูดของเราไม่น่าเชื่อถืออย่างนั้นหรือ” เจ้าหญิงสวนขึ้นทันที

“กระหม่อมมิได้หมายความเช่นนั้น” ชีคซาบิตยกมือขึ้นปฏิเสธ “แต่

กระหม่อมเพียงอยากจะให้แน่ใจในสถานการณ์กว่านี้อีกสักนิด เพราะถ้า

เขามีเจตนาร้ายอย่างที่ฝ่าบาทตรัสจริง การที่ฝ่าบาทจะปรากฏองค์ไปปรักปรำ

เขานั้นอาจจะก่อให้เกิดอันตรายแก่พระองค์ได้พ่ะย่ะค่ะ”

“รอให้แน่ใจหรือ” เจ้าหญิงทอดพระเนตรพระสหายของพระราชบิดา

ด้วยความขุ่นเคือง “ท่านจะรออีกถึงเมื่อใด หรือจะรอให้มันยึดประเทศของ

เสด็จพ่อไป...หึๆ” ทรงพระสรวลในลำพระศอ “ถึงตอนนั้น เราว่า แม้แต่

แมลงวันสักตัวก็คงจะเฉียดเข้าใกล้เขาไม่ได้กระมัง”

“โธ่...เจ้าหญิงเพคะ ฟังท่านซาบิตเตือนสักหน่อยปะไร ท่านเป็นถึง

พระสหายรักขององค์สุลต่าน ท่านคงไม่ประสงค์ร้ายต่อฝ่าบาทหรอกนะ

เพคะ” อีซารกราบทูลสนับสนุน

เจ้าหญิงยัสมีนะห์ทอดพระเนตรพระพี่เลี้ยงด้วยความขุ่นเคือง

พระทัย ก่อนจะทอดพระเนตรจับที่ร่างของบุรุษหนุ่มที่ยืนนิ่งอยู่ริมผนังห้อง

เพื่อขอคนสนับสนุน “เจ้าว่าอย่างไร ญาริม”

ชายหนุ่มค้อมศีรษะเล็กน้อย “กระหม่อมเห็นด้วยกับชีคซาบิต

พ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้เราไม่ควรจะผลีผลามทำอะไรโดยขาดความรอบคอบ

และไตร่ตรองให้ดีเสียก่อนพ่ะย่ะค่ะ” เขาเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบประดุจ

สายลมเคลื่อนไหวแผ่วเบา

“แม้แต่เจ้า...” ทรงตัดพ้อ ก่อนจะสะบัดพระพักตร์แล้วกระแทก

พระบาทออกจากห้องไปอย่างขุ่นเคืองพระทัย

“อย่าถือสาเจ้าหญิงเลยนะเจ้าคะ พระองค์ยังทรงพระเยาว์นัก เพิ่ง

จะย่างเข้าสิบแปดชันษา อาจจะขาดความยั้งคิดไปบ้าง” อีซารหันไปเอ่ยกับ

ชีคซาบิตเมื่อประตูห้องถูกกระแทกปิดอย่างแรง

ซาบิตยกมือขึ้นโบก “ไม่เป็นไรหรอก ฉันเข้าใจ”

อีซารถอนหายใจเฮือกใหญ่ “เจอเรื่องร้ายๆ อย่างนี้ เป็นฉันก็คง

จะแย่เหมือนกัน”

“ฉันเองก็อายุปูนนี้แล้ว ก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะทนได้หรือเปล่า

หากเห็นพ่อถูกสังหารต่อหน้าต่อตาเช่นนั้น” ชีคซาบิตทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้

พร้อมกับถอนหายใจยาวออกมา “เฮ้อ...ชีคฟารีสก็เหมือนกัน ฉันไม่นึกเลย

นะว่าเขาจะทำเช่นนั้นได้ลงคอ สุลต่านไซยานน่ะทรงเปรียบประดุจพ่อทูนหัว

ของเขาเลยทีเดียวเชียวนะ”

“เอ่อ...” อีซารเริ่มมีท่าทีอึดอัดจนผิดสังเกต

ชีคซาบิตจับพิรุธนั้นได้จึงร้องถามขึ้นในทันที “มีอะไรหรืออีซาร

มีเรื่องอะไรที่ฉันไม่รู้หรืออย่างไรกัน เจ้าถึงได้กระอักกระอ่วนเช่นนี้”

“คือ...ว่า...อันที่จริง...” อีซารลังเลอยู่ชั่วครู่ แต่ก็ตัดสินใจเอ่ยออกไป

ในที่สุด หวังให้ผู้อาวุโสอย่างเจ้านครรัฐเป็นผู้ชี้ขาดในความคิดสับสนลังเล

ของหล่อน “ความจริงฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าท่านฟารีสจะทำเช่นนั้นกับองค์

สุลต่านได้ลงเหมือนกันเจ้าค่ะ”

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร” ชีคซาบิตร้องถามทันที “เจ้าก็เห็นไม่ใช่

หรือว่า ชีคฟารีสปลงพระชนม์องค์สุลต่าน เหมือนอย่างที่เจ้าหญิงตรัส”

พระพี่เลี้ยงถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนจะส่ายศีรษะเป็นเชิงปฏิเสธ

ชีคซาบิตจ้องมองอีซารด้วยความแปลกใจ ก่อนจะหันไปหาองครักษ์

หนุ่มซึ่งยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม แต่คราวนี้ชายผู้นั้นกลับก้มหน้าหลบตาต่อ

ชีคผู้ให้ร่มเงายามทุกข์ยาก

“นี่หมายความว่า สิ่งที่เจ้าหญิงยัสมีนะห์ตรัสมาทั้งหมด มีเพียง

พระองค์เท่านั้นที่ทอดพระเนตรเห็นอย่างนั้นหรือ” ชีคซาบิตถามอีกครั้งเพื่อ

ความแน่ใจ เขามองหน้าองครักษ์หนุ่มสลับกับพระพี่เลี้ยงเพื่อขอคำตอบ

“เรื่องนั้นกระผมก็ไม่แน่ใจด้วยเช่นเดียวกันครับ เพราะเสียงปืนนั้น

ดังขึ้นก่อนที่เจ้าหญิงจะทรงเปิดพระทวารเข้าไปในห้องทรงงานเสียอีก” ญาริมเอ่ยตอบ

“ให้ตายสิ เรื่องมันชักจะลำบากมากขึ้นเสียแล้ว” ชายชราส่ายศีรษะ

ญาริมถอนหายใจอย่างเป็นกังวล เขาทอดสายตาไปยังประตูที่เจ้าหญิง

ยัสมีนะห์เพิ่งจะออกไปด้วยความเป็นห่วงที่เกินกว่าหน้าที่ที่เขาได้รับมอบ

หมาย เพราะตลอดเวลาที่เขาได้ถวายการรักษาความปลอดภัยให้แก่เจ้าหญิง

ยัสมีนะห์นั้น นับวันความลุ่มหลงในพระองค์ก็ยิ่งพอกพูนทวีขึ้นทุกเมื่อเชื่อวัน

บัดนี้ถึงแม้การณ์จะแปรเปลี่ยนไป แต่ชีวิตนี้เขาก็จะขอมอบแด่

เจ้าหญิงผู้เป็นสุดที่รักยิ่งจนกว่าเขาจะแตกดับไปจากโลกใบนี้

 

สามวันต่อมา

สภาสูงสุด แห่งสหรัฐอาหรับอินชิรอฮ์ รัฐอาบิดียะฮ์

หลังจากเกิดเหตุวุ่นวายภายในอาบิดียะฮ์ กองกำลังกอซูเราะฮ์ ของ

รัฐดิรบาสได้เข้าควบคุมความสงบและจัดการจับกุมผู้กระทำความผิดได้เป็น

จำนวนมาก ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นผู้บัญชาการจากทั้งสี่เหล่าทัพของอาบิดียะฮ์ทั้งสิ้น

ชีคฟารีสจึงได้จัดให้หน่วยรบกอซูเราะฮ์ตั้งกองกำลังรักษาความ

สงบขึ้น โดยใช้กระทรวงกลาโหมเป็นฐานบัญชาการเพื่อควบคุมความสงบ

เรียบร้อยภายในเมืองหลวงให้เป็นปกติโดยเร็วที่สุด

จากนั้นจึงได้จัดการประชุมสมาชิกสภาสูงสุดขึ้นในวันที่สามหลังการ

ปฏิวัติที่ล้มเหลวของอาหมัด เกี่ยวกับผลกระทบอันใหญ่หลวงซึ่งเกิดขึ้น

ในวันเดียวกัน นั่นก็คือการสวรรคตขององค์สุลต่านไซยานนั่นเอง

ตามรัฐธรรมนูญแห่งสหพันธรัฐนั้นกำหนดให้อำนาจการปกครอง

สูงสุดอยู่ที่สภาสูงสุด ซึ่งมีสมาชิกสภาเป็นเจ้าผู้ครองรัฐทั้งเจ็ดนั่นเอง สภา

แห่งนี้มีบทบาทในการบริหารงานแผ่นดินในทุกๆ เรื่อง โดยใช้การลงคะแนน

เสียง และจะต้องมีคะแนนเสียงอย่างน้อยห้าในเจ็ดจึงจะถือว่าผ่านมติของ

ที่ประชุม โดยหนึ่งในห้าจะต้องมีเสียงจากรัฐอาบิดียะฮ์ หรือดิรบาส

สองรัฐใหญ่ในอินชิรอฮ์รวมอยู่ด้วย

การประชุมของสภาสูงสุดในวันนี้เน้นหนักไปในเรื่องการแต่งตั้ง

ผู้รักษาการณ์ในตำแหน่งต่างๆ ที่ขาดหายไป มีการกำหนดบทลงโทษแก่

ผู้สมคบคิดก่อกบฏ รวมไปถึงการควบคุมดูแลกิจการภายในรัฐอาบิดียะฮ์ยามขาดผู้นำอีกด้วย

แต่สิ่งสำคัญที่ผู้นำทั้งหกรัฐที่เหลือเห็นพ้องต้องกันก็คือ ประเทศ

จะขาดสุลต่านอันเป็นศูนย์รวมจิตใจของอินชิรอฮ์ไม่ได้ เพราะถึงแม้ว่า

ช่วงสิบปีที่ผ่านมาจะมีความไม่ลงรอยกันระหว่างรัฐต่างๆ อยู่บ้าง แต่การ

มีผู้นำหนึ่งเดียวก็สามารถทำให้มหาอำนาจอย่างอังกฤษถอยออกไปจาก

ประเทศได้มาแล้ว ฉะนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องมีผู้นำที่จะ

นำพาประเทศให้ก้าวไปสู่จุดสูงสุด

“ผมขอเสนอชื่อชีคฟารีสให้เป็นสุลต่านองค์ต่อไป” ชีคอับซัลจาก

รัฐอักบาลเอ่ยขึ้นหลังจากประชุมเครียดกันมาทั้งวัน เพื่อหาผู้สืบทอด

ตำแหน่งสูงสุดของประเทศ

การเอ่ยสนับสนุนชีคผู้อ่อนวัยกว่าในครั้งนี้ไม่เป็นที่น่าแปลกใจ

สำหรับทุกคนในที่ประชุมแม้แต่น้อย เนื่องจากชีคอับซัลนั้นหากจะนับญาติ

กันแล้วถือได้ว่าเป็นน้าชายของฟารีส ด้วยพี่สาวของชีคอับซัลนั้นก็คือ

มารดาผู้ล่วงลับของชีคฟารีสนั่นเอง

“แต่ผมไม่เห็นด้วย” ชีคอาบิดีน จากอบุล-มอาฏีลุกขึ้นค้าน “ผมเห็น

                  (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

คนหนึ่งตามหาความจริง ส่วนอีกคนปกปิดความจริง ปัง! เสียงปืนปลิดชีพสุลต่านไซยาน แห่งอินชิรอฮ์ เพียงนัดเดียว เปลี่ยนชีวิตเจ้าหญิงยัสมีนะห์ชั่วข้ามคืน เจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์กลายกลับเป็นนางฮาเร็มของชีคฟารีส ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นเจ้าของกระสุนสังหารนัดนั้น
เจ้าหญิงทะเลทรายยอมสลัดเกียรติยศ ปลอมตัวเป็นนางฮาเร็ม ใช้เรือนร่างงดงามราวภาพวาดและเสน่ห์อันเย้ายวนที่มีเหนือหญิงใดแลกกับการได้ใกล้ชิดเพื่อแก้แค้น...เขา...ผู้ลอบปลงพระชนม์พระราชบิดาของเธอ แต่...ท่ามกลางผืนทะเลทรายที่ทั้งร้อนระอุและเหน็บหนาวในหนึ่งทิวา หัวใจทั้งสองดวงกลับอบอุ่น ยิ่งได้ชิดใกล้ สิ่งที่เคยคิดกับสิ่งเป็นอยู่เริ่มทำให้หัวใจน้ำแข็งของเธอหวั่นไหว
หากชีคหนุ่มเป็นฆาตกร เธอจะใจแข็งพอที่จะปลิดชีพเขาด้วยน้ำมือตัวเองได้จริงหรือ เมื่อความแค้นแปรเปลี่ยนเป็นความรักไปเสียแล้ว

รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024