มาเฟียเลือดมังกร : แรด

มาเฟียเลือดมังกร : แรด

2 รีวิว  2 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160003020
มีสินค้าในสต็อค
ราคา: 300.00 บาท 75.00 บาท
ประหยัด: 225.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

เลือดชาวมังกร

 

เสียงประทัด เสียงรัวกลอง ฉาบ และเหม่ง ประสานกัน

 ดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วบริเวณถนนเยาวราช ผู้คนเนืองแน่นเต็มสอง

 ข้างทาง เพื่อเฝ้าชมการเชิดสิงโตของคณะเจ้าแม่ลูกท้อ ที่ใช้จำนวนคน

 ถึงยี่สิบคน การต่อตัวสูงเท่าตึกเกือบสามชั้น สร้างความตื่นเต้นและเรียก

 เสียงหวีดร้องอย่างหวาดเสียวจากผู้ชม

เมื่อเด็กหญิงอายุไม่ถึงสิบขวบถูกเหวี่ยงขึ้นไปยืนอยู่บนยอดสุด

แต่สุดท้ายก็สามารถเรียกเสียงปรบมือดังเกรียวกราว เมื่อเด็กคนดังกล่าว

 ยกมือโบกให้แก่ผู้ชมด้านล่าง ทั้งที่ยังยืนอยู่บนยอดเสามนุษย์

ทุกบริเวณของท้องถนนล้วนแต่งแต้มด้วยสีแดง ไม่ว่าจะป้ายผ้า

 โฆษณาเทศกาลตรุษจีนนับสิบๆ ผืนที่ขึงจากฟากฝั่งของถนนไปยังอีก

 ฟาก โคมกระดาษสีแดงเขียนด้วยตัวหนังสือสีทองที่ห้อยระย้าเป็นจุดๆ

รถรางสีแดง ตัวรถมีลวดลายมังกรทอง ที่แล่นเฉพาะบนถนนเส้นนี้ในช่วง

เทศกาลตรุษจีนเท่านั้น

ร้านรวงข้างทางที่ขายสินค้าสอดรับกับเทศกาล แผงร้านขาย

ของเล่นโบราณ ที่สดใสไปด้วยป๋องแป๋งกระดาษแก้วสีแดงและลิ้น

มังกรสารพัดสี ร้านขายชุดกี่เพ้าของเด็กหญิง ที่มีผู้คนมุ่งดูแออัด และ

ที่สร้างสีสันแดงเจิดจ้าไม่แพ้กันก็คือ ผู้ร่วมงานส่วนใหญ่สวมใส่เสื้อสีแดง

 อันเป็นสีแห่งความโชคดีของชาวจีน

เทศกาลตรุษจีน เปรียบได้กับปีใหม่ของคนจีน ครอบครัวคนจีน

 ทุกบ้านจะตั้งโต๊ะเซ่นไหว้บรรพบุรุษ ส่วนย่านไชนาทาวน์บนถนนเยาวราช

 จะเต็มไปด้วยความคึกคัก มีการปิดถนน จัดงานเลี้ยงฉลองอย่างใหญ่โต

 หลังเสร็จสิ้นการเชิดสิงโตอันยิ่งใหญ่อลังการ ตามด้วยการกล่าว

คำอวยพรจาก เสี่ยสุง หรือนายสุธี นายกสมาคมคนไทยเชื้อสายจีน หรือ

หัวหน้ามาเฟียกลุ่มหงส์ดำบนเวทีขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่กลางถนนเยาวราช

เพื่อเป็นการเปิดงานเฉลิมฉลองตรุษจีนอย่างเป็นทางการ ก็ถึงคิวพิธีกร

สาวก้าวขึ้นไปบนเวทีขนาดใหญ่

 ด้านหลังเวที ติดป้ายสีแดงขนาดยักษ์เด่นหรา เขียนด้วยตัวหนังสือ

 สีทองว่า ‘ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้’ หรือแปลได้ว่า ปีนี้ขอให้จงสมความ

 ปรารถนาและเจริญรุ่งเรือง

 ในยามค่ำคืน เวทีแห่งนี้จะกลายเป็นทั้งเวทีคอนเสิร์ตที่มีนักร้อง

ดังๆ มาร่วมมอบความบันเทิงให้แขกที่มาร่วมงาน และยังมีการจัด

ประกวดมิสไชนาทาวน์ประจำปีอีกด้วย

“ค่ะ หลังจากเสี่ยสุง นายกสมาคมคนไทยเชื้อสายจีนกล่าว

อวยพรให้พวกเราไปแล้ว ต่อไปก็ขอเชิญคุณธิติ หรือเสี่ยเส็ง ของเราขึ้น

มากล่าวอะไรบนเวทีสักหน่อยนะคะ” พิธีกรสาวในชุดกี่เพ้าสีแดงเข้ารูป

ประกาศผ่านไมโครโฟน

จากนั้นชายสูงวัย นายธิติ ลีลาวิโรจน์วงศ์ เสี่ยใหญ่เจ้าของธุรกิจ

ห้องเย็นที่เป็นที่รู้จักกันดีในย่านเยาวราช ควบตำแหน่งหัวหน้าแก๊งเหยี่ยว

แดง ซึ่งเป็นหนึ่งในแก๊งมาเฟียสิบสามแก๊งแห่งเยาวราชที่ทรงอิทธิพล

และเป็นกลุ่มที่ดูแลควบคุมบ่อนการพนันเกือบแปดสิบเปอร์เซ็นต์บนถนน

เยาวราช ก็ก้าวขึ้นไปบนเวที

เขาสวมชุดสูทสีเข้มตัวโปรดที่ใส่มาแล้วร่วมสิบปี แต่ก็ยังคง

เลือกมาใส่เสมอเมื่อต้องไปงานสำคัญใดๆ หลายครั้งภรรยากับบุตรสาว

รบเร้าให้ตัดสูทชุดใหม่ แต่นิสัยประหยัดอดออมที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่

เยาว์วัยยังเข้มข้นอยู่ในสายเลือด

เสียงปรบมือดังเกรียวกราวไปทั่วบริเวณ ยังมีผู้คนอีกจำนวนมาก

 ที่ยังไม่เคยเห็นตัวจริง เคยได้ยินแต่ชื่อ เสี่ยเส็ง นักธุรกิจคนไทยเชื้อสาย

 จีนคนดังที่ในอดีตเคยเป็นที่รู้จักในฐานะมาเฟียคุมบ่อนการพนันบนถนน

เยาวราชที่มีเส้นสายใหญ่โตและกล้าได้กล้าเสียมากที่สุดคนหนึ่ง

แม้ทุกวันนี้เขาจะวางมือจากอาชีพเกี่ยวกับอบายมุข และมาจับ

 ธุรกิจห้องเย็นที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง แต่ตำแหน่งมาเฟียคนดัง

ในย่านไชนาทาวน์ที่หลายคนให้ความเกรงขามก็ยังคงอยู่

เสี่ยเส็งคือตำนานผู้ยิ่งใหญ่ในย่านนี้เมื่อหลายสิบปีก่อน เรื่อง

 เล่าขานของเขาได้รับการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น จนลูกเด็กเล็กแดงทุกบ้าน

 ในเยาวราชต้องเคยได้ฟังมาบ้างไม่มากก็น้อย

 “สวัสดีครับ แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน กระผมเสี่ยเส็ง ขอขอบพระคุณ

 ทุกท่าน โดยเฉพาะคนไทยเชื้อสายจีนที่แวะเวียนมาร่วมฉลองเทศกาล

 ตรุษจีนบนถนนเยาวราชของเรา พวกเราทุกคนภูมิใจที่ได้อาศัยบนแผ่นดิน

 ไทย ขณะเดียวกันเราก็ปลื้มใจที่ได้ดำรงรักษาสืบทอดประเพณีการ

ฉลองตรุษจีนของชาวจีน ซึ่งเป็นประเพณีที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งของพวก

เราชาวจีน

“บรรพบุรุษของกระผมสอนสั่งให้เรารู้จักการกตัญญูรู้คุณ และ

 การเซ่นไหว้บรรพบุรุษในเทศกาลตรุษจีนก็เป็นภาระหน้าที่หนึ่งของเรา

ลูกหลานชาวจีน วันนี้ทุกคนมาร่วมเฉลิมฉลองกันด้วยความสุข ผู้ใหญ่

ก็สุขใจที่ได้เห็นลูกหลานพร้อมหน้าพร้อมตา ส่วนเด็กๆ ก็ดีใจที่ได้อั่งเปา

ตั่วๆ ไก๊”

 

                นายธิติกล่าวด้วยภาษาไทยสำเนียงจีนมาถึงตรงนี้ ผู้ชมก็หัวเราะ

กันอย่างครึกครื้น ชายสูงวัยฉีกยิ้มด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“ทุกครั้งเวลาที่ผมเห็นเด็กๆ ได้อั่งเปา ก็หวนคิดถึงตอนตัวเอง

เป็นเด็กๆ เมื่อก่อนพ่อแม่ของผมจนมากๆ ครอบครัวต้องกินข้าวต้มใส่

เกลือกันบ่อยๆ แต่ถึงเทศกาลตรุษจีน พ่อแม่ของผมก็ต้องมีอั่งเปาให้ลูกๆ

 ทุกปี แต่เมื่อก่อน รุ่นผมจะได้อั่งเปาเป็นเหรียญสิบสตางค์ร้อยในเชือก

สีแดง แล้วเราก็เอามาคล้องคอ หวงเชือกร้อยเหรียญยิ่งกว่าอะไร จะแกะ

ออกมาใช้แต่ละที ก็คิดแล้วคิดอีก

 “เพราะเราก็รู้ว่าพ่อแม่ต้องทำงานสายตัวแทบขาดกว่าจะหาเงิน

มาได้แต่ละสตางค์ แต่ละสลึง ผมเลยอยากบอกเด็กๆ รุ่นใหม่ว่า

นอกจากความกตัญญูรู้คุณแล้ว ความประหยัดอดออมก็เป็นอีกสิ่งหนึ่ง

ที่บรรพบุรุษของเรายึดเป็นหลักในการดำรงชีวิต”

เสียงปรบมือดังทั่วบริเวณอีกครั้ง

“สุดท้ายนี้ ผมก็ขออวยพรให้ทุกท่านโชคดีมีสุขตลอดปี กิจการ

รุ่งเรือง คิดสิ่งใดก็สมปรารถนา อ้อ แล้วที่สำคัญน้ำไม่ท่วมด้วยนะครับ

ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ เฮงๆๆ กันถ้วนหน้าครับ”

เมื่อกล่าวจบผู้ชมก็ปรบมือเสียงเกรียวกราวดังสนั่น นายธิติก้าว

ลงจากเวทีเพื่อไปนั่งประจำที่เดิม จากนั้นพิธีกรสาวก็รับหน้าที่ต่อ

“ค่ะ หลังจากชาวเยาวราชได้รับคำอวยพรจากคุณธิติแล้ว ต่อจากนี้

ก็เป็นคิวของ เสี่ยบุ๊ง อีกหนึ่งคนดังของเราค่ะ”

เสี่ยบุ๊ง เจ้าของธุรกิจบริษัทวิชาญห้องเย็น ที่นั่งถัดจากเสี่ยเส็ง

ลุกขึ้นยืนช้าๆ ปรายตามองเพื่อนคู่รักคู่แค้นในอดีตด้วยแววตาไม่เป็น

มิตร ไม่ต่างจากอีกฝ่าย ก่อนจะก้าวเดินไปขึ้นเวทีบ้าง

“สวัสดีครับ ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ กระผมเสี่ยบุ๊ง ไม่ชอบพูดจา

 ยาวๆ ยืดเยื้อ ชอบรวบรัดกระชับความ เพื่อความว่องไวรวดเร็ว ไม่ใช่

 ว่าทุกปีก็มาเล่าเรื่องเดิมๆ บอกตามตรงผมว่าน่าเบื่อ เอาเป็นว่า ผม

รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับเชิญให้ขึ้นมากล่าวคำอวยพรให้เพื่อนพี่น้องชาว

 ไทยเชื้อสายจีนในวันนี้ ผมขออวยพรให้ทุกท่านมีแต่ความโชคดี การค้า

 เจริญรุ่งเรือง ครอบครัวสุขสันต์อยู่เย็นเป็นสุข เงินทองไหลมาเทมา

โรคภัยไข้เจ็บไม่ถามหา มีรอยยิ้มตลอดปีครับ”

ผู้ชมพร้อมใจกันปรบมือเสียงเกรียวกราวอีกครั้ง จากนั้นเสี่ยบุ๊ง

 ก็ก้าวลงจากเวที เพื่อตรงไปนั่งยังที่นั่งเดิม พร้อมกับส่งสายตาเชือดเฉือน

ให้นายธิติที่แบะปากให้แต่ไกล

 ในอดีตทั้งสองเคยเป็นเพื่อนร่วมเป็นร่วมตายกันมานาน เคยร่วม

แก๊งนักเลง คุมบ่อนและเก็บหวยเถื่อนเมื่อสมัยยังหนุ่มๆ เคยโดนแทงและ

โดนยิงมาด้วยกันจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดจากการคลุกคลีอยู่ในวงการ

มาเฟียเยาวราช ร่วมกันฝ่าฟันจนต่างได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในมาเฟีย

 แถวหน้าในย่านนี้ ที่นักเลงทุกคนต้องให้ความยำเกรงตั้งแต่ต่างอายุยัง

น้อยๆ

แต่แล้ววันหนึ่งมิตรภาพอันแน่นแฟ้นเหล่านั้นก็พังพาบภายใน

 พริบตา ด้วยทั้งสองต่างไปหลงรักนางเอกงิ้วในโรงงิ้วเหมยเหวิน ความ

 บาดหมางจึงเริ่มขึ้นตั้งแต่บัดนั้น แม้สุดท้ายนางเอกงิ้วคนนั้นจะไปมี

ความสัมพันธ์กับผู้ชายอีกคนจนกระทั่งมีลูกสาวชื่อหยกมณี โดยเสียชีวิต

หลังจากคลอดลูกเพียงไม่นาน ทุกวันนี้หยกมณีเป็นนักร้องประจำใน

ภัตตาคารฉั่วคุ่ยกี่ ทว่าเพื่อนคู่แค้นสองคนนี้ก็ยังไม่ลืมเรื่องราวแต่

หนหลัง

ทั้งสองกลายเป็นเพื่อนคู่แค้น ที่ทุกคนในย่านนี้รู้กันถ้วนหน้าจน

 มาถึงทุกวันนี้ ทั้งคู่ตั้งหน้าตั้งตาเอาชนะคะคานกันในทุกเรื่อง ไม่ว่า

จะเรื่องตำแหน่งหัวหน้าแก๊งเหยี่ยวแดง ที่นายธิติครองตำแหน่งนี้

มายาวนานเกือบยี่สิบปี สร้างความเคียดแค้นให้แก่เสี่ยบุ๊งเป็นยิ่งนัก

 ไหนจะธุรกิจห้องเย็นของทั้งคู่ ที่ทุกวันนี้กลายเป็นคู่แข่งเบอร์หนึ่งของกัน

และกันในท้องตลาด ต่างห้ำหั่นกันด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างไม่มี

ใครยอมแพ้ใคร

ที่สำคัญต่างมีความคิดเห็นที่ขัดแย้งกันโดยสิ้นเชิงในเรื่องการ

 เปิดบ่อนการพนันขนาดใหญ่ในเยาวราช ข้อหลังนี้ทำให้ทั้งสองแทบไม่มี

 วันญาติดีกันได้ เมื่อนายธิติหมายมั่นว่าจะต้องทำให้เยาวราชเป็นเขต

 ปลอดบ่อนการพนันใหญ่ ในขณะที่เสี่ยบุ๊งยืนกรานว่าบ่อนการพนัน

เหล่านั้นคือรายได้หลักส่วนหนึ่งของเยาวราช

 “เสี่ยบุ๊ง ลื้อว่าใคร เล่าเรื่องเดิมๆ ทุกๆ ปี” นายธิติเปิดฉากถาม

 ทันทีเมื่อเพื่อนรักในอดีตที่กลายเป็นเพื่อนคู่แค้นในวันนี้หย่อนตัวนั่ง

 ข้างๆ

“อั๊วก็พูดไปเรื่อย ไม่ได้เจาะจงว่าใคร หรือใครอยากจะรับก็รับไป”

 เสี่ยบุ๊งย้อนอย่างไม่ยี่หระ

 นายธิติหน้านิ่ว ก่อนยิ้มเหยียดมุมปาก “ไม่เป็นไร อั๊วเข้าใจ

 คนขี้อิจฉาคนอื่น ก็ต้องเก็บกดเป็นธรรมดา ก็ช่วยไม่ได้ ตำแหน่งหัวหน้า

 เจ้าพ่อ คนไม่มีบุญชาตินี้คงไม่มีทางได้เป็น”

 คนถูกแขวะซึ่งๆ หน้า หันขวับ “เสี่ยเส็ง ลื้อว่าใครขี้อิจฉา พูดให้

 มันดีๆ นะ ใครไปอยากได้ตำแหน่งหัวหน้าเจ้าพ่อของลื้อกัน”

 “อั๊วก็พูดไปเรื่อย ไม่ได้เจาะจงว่าใคร แต่ใครอยากจะรับก็รับไป”

 นายธิติใช้คำพูดของอีกฝ่ายมาย้อนด้วยสีหน้าสะใจ

 ใบหน้าแป้นเล็กน้อย อันเนื่องจากน้ำหนักที่มากขึ้นตามอายุ

 ของเสี่ยบุ๊ง แดงก่ำน้อยๆ ตามแรงโทสะ นัยน์ตาเรียวรีเกือบหยีสนิท

 ฉายถึงความขุ่นเคือง แต่ไม่ถึงสิบวินาที เขาก็หัวเราะเบาๆ จนตัว

 สั่นคลอน อีกฝ่ายจึงหน้านิ่วอย่างกังขา

 “ต่อมเส้นตื้นของลื้อทำงานบกพร่องหรือไง ถึงได้หัวเราะเหมือน

 คนบ้าแบบนี้” นายธิติถามเสียงขุ่น

“เปล่า” เสี่ยบุ๊งตอบเสียงสูง “อั๊วก็แค่ขำคนบางคนที่มัวแต่

 ภูมิใจกับตำแหน่งหัวหน้าเจ้าพ่อ แต่น่าสมเพชที่ไม่มีลูกชายมาสืบทอด

กิจการ จะว่าไปอั๊วก็ช่างโชคดีจริงๆ ที่มีลูกชายคนโตที่เอาการเอางาน

 ช่วยกิจการครอบครัวมาตลอด คนมีบุญก็แบบนี้แหละ”

 คราวนี้ใบหน้าเปื้อนด้วยริ้วรอยแห่งวัยที่ยังคงเห็นเค้าความ

 หล่อเหลาในวัยหนุ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเพราะความโกรธเกรี้ยวบ้าง

 “ลื้อว่าใคร ใครไม่มีลูกชายสืบทอดกิจการ อาคิมของอั๊วอยู่เมืองนอก

 ต่างหาก”

 เสี่ยบุ๊งหัวเราะเหมือนจะขำยิ่งขึ้น “อยู่เมืองนอก ขำว่ะ ใครๆ

เขาก็รู้ว่าลูกชายลื้อ ไม่ยอมกลับมาสืบทอดกิจการห้องเย็นกับตำแหน่ง

 หัวหน้าเจ้าพ่อ สงสัยคงจะปักหลักหาเมียอยู่เมืองนอกไปแล้ว เรื่องที่

 น่าสมเพชที่สุดของคนจีนก็คือ ไม่มีลูกชายมาสืบทอดกิจการกับภารกิจ

ของเรา”

แผงอกหนาของนายธิติขยับขึ้นลงหนักหน่วง ปีกจมูกบานๆ หุบๆ

 คล้ายกับตอนมังกรกำลังโมโหจัด ถ้าเป็นตอนสมัยหนุ่ม ป่านนี้ทั้งสอง

 คงได้วางมวยกันไปแล้ว แต่ตอนนี้นายธิติคงได้แต่ข่มอารมณ์ ทุกวันนี้

เขาเป็นที่นับหน้าถือตาของชาวเยาวราช ขืนทำอะไรไม่คิด ไปชกกับ

เพื่อนเก่าแก่ มีหวังคนทั้งเยาวราชได้หัวเราะและลือกันข้ามปีแน่

ที่สำคัญ เขาอาจจะโมโหเพื่อนคู่แค้น แต่ยังไม่มากเท่าลูกชาย

ตัวดี ที่เป็นสาเหตุให้เขาต้องโดนเยาะเย้ย คิดแล้วก็ยิ่งเจ็บใจ มีลูกชาย

 คนเดียว ดูแลรักใคร่ยิ่งกว่าแก้ววิเศษ แต่วันนี้กลับทำให้พ่อต้องขาย

 ขี้หน้า

‘ไอ้ลูกกวนตีน แม่งดื้อฉิบเป๋ง เดี๋ยวก็ตัดออกจากกองมรดกซะ

 เลยนี่’ นายธิติก่นด่าลูกชายอยู่ในใจ

 

 ฮัดเช้ย!

คณิน ลีลาวิโรจน์วงศ์ หรือ คิม จามเสียงดังขณะเดินออกจาก

 ห้องน้ำในเพนต์เฮาส์สุดหรูในแมนฮัตตัน ย่านอับเปอร์ อีทไซต์ หรือ

 

 

            (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)


รีวิว (2)

เขียนรีวิว

Takeshi | 2 รีวิว
27/01/2015

ผู้เขียน ลิลลี่สีขาว จำนวนหน้าหนังสือ 512 หน้า อยากจะบอกว่าในบรรดาหนังสือชุดมาเฟียเลือดมังกรเนี่ย ผมชอบเล่มนี้ที่สุดเลยครับ ชอบมากแบบบอกไม่ถูก ทั้ง ๆ ที่หนังสือมันออกไปในแนว 18 นะ เนื้อเรื่องก็ไม่ได้มีอะไรมากครับ คิม คณินเป็นนักเรียนนอกที่ไม่เคยคิดจะสืบต่อแก๊งมาเฟีย แต่จำต้องยอมมาสานต่อเพราะการเสียชีวิตของผู้เป็นพ่อ นอกจากนั้นยังต้องมาแต่งงานสายฟ้าแลบกับสาวแสบอย่าง แพนธีรา ซึ่งทั้งคู่เคยมีความหลังด้วยกัน แต่คณินเป็นคนจำได้ก่อน ด้วยความอายุน้อย แต่มากด้วยประสบการณ์ความกะล่อน คณินจึงต้องรับศึกหนักทั้งจากผู้ใหญ่ในตระกูล และศึกรักจากภรรยาสายฟ้าแลบของเค้า กว่าเรื่องราวจะจบลงด้วยดีได้ก็ลุ้นกันเหนื่อยพอสมควรครับ เรื่องนี้ไม่ค่อยเครียดเลย ออกจะตลกเกือบทั้งเรื่องด้วย ขนาดตอนเฉลยนะว่าพ่อของคณินตายเพราะใครยังไม่ค่อยดราม่าเลย ตัวโกงก็อะไรไม่รู้ จากนิยายแอคชั่นเลยกลายเป็นนิยายเบาสมองเลย ผมชอบแพนธีรามาก ๆ ครับ เป็นสาวแก่น เซี้ยวดีจริง ๆ เอาคณินอยู่หมัดเลย แต่ตกม้าตายเพราะตัวเองล้วน ๆ ด้านคณินนี่ก็สุดยอดมาก ความกะล่อนและไหวพริบของเค้าช่วยแก้สถานการณ์ได้มากทีเดียว ที่ชอบมาก ๆ คือช่วงที่คณินคุยกับซินแสง้วง แรก ๆ ก็ไม่เชื่อถือ แต่เจอความแม่นของซินแสเข้าไปนี่ แทบจะก้มกราบกันเลยทีเดียว มนชิต นี่ก็เป็นตัวโกงเด่นของเรื่องนะครับ แต่เด่นแบบตลก ๆ ยังไงไม่รู้ จะร้ายก็ไม่ร้าย มันเลยทำให้พระเอกของเรื่องนี้ไม่ต้องรับศึกหนักมากเท่าที่ควรครับ
Paruty | 2 รีวิว
11/07/2014

มาเฟียเลือดมังกร : แรด ส่วนตัวเป็นคนหนึ่งที่ตามนิยายเซตนี้ตั้งแต่ยังไม่ประกาศทำเป็นละคร ตามอ่านครบทุกเรื่องเรียบร้อยแล้ว ในชุดมาฟียเลือดมังกรนี่เราชอบเรื่องแรดมากที่สุดเพราะพระ-นางเคมีดูเข้ากันเป็นพิเศษ พระเอกเจ้าชู้แต่นางเอกเอาอยู่ค่ะ อารมณ์ประมาณว่าอ่านแล้วฟินและอินกับเรื่องมาก ยิ่งในฉากที่นางเอกไปตามพระเอกออกมาจากคาราโอเกะนี่เราชอบมาก (หัวเราะ) แล้วก็ฉากที่ทำเราสะใจสุดๆ นี่ก็ต้องยกให้ฉากที่น้องสาวต่างมารดาของนางเอกรู้ว่าพระเอกไม่ได้ขาเป๋แต่เดินเตะโต๊ะเลยเดินดีๆ ไม่ได้ไปหลายวันนี่แหละค่ะ ฮาจริงอะไรจริง ส่วนสำนวนของนักเขียนก็อ่านเข้าใจง่ายดี ไม่มีคำที่ต้องไปหาพจนานุกรมมาเปิดอะไรแบบนี้ มีฉากกุ๊กกิ๊กที่ชวนให้จิกหมอนอยากเป็นนางเอกบ้างอะไรบ้าง อิจฉานางเองที่มีพระเอกแบบนี้อยู่ข้างๆ เป็นครั้งเป็นคราว ในเรื่องนี้แพนทีรา (นางเอก) จะเป็นคนที่มีปมพ่อไม่รักและไม่เคยรู้จักแม่ของตัวเอง บวกกับที่ต้องถูกแม่เลี้ยงกับน้องสาวต่างมารดาดูถูกและมักจะถูกพี่ชายลวนลามเล็กๆ น้อยๆ ทำให้กลายเป็นคนขวางโลก ชอบประชดประชัน พ่อบอกให้ทำอย่างเธอก็ทำอีกอย่าง ส่วนคิม (พระเอก) เป็นคนเจ้าชู้ เขาไม่อยากกลับมาทำธุรกิจและรับตำแหน่งหัวหน้าแก๊งมาเฟียต่อจากพ่อ แต่ก็ต้องจำใจกลับรับช่วงต่อเพราะพ่อด่วนจากไปด้วยโรคหัวใจ ทั้งสองคนถูกจับมาแต่งงานกันโดยที่ฝ่ายหญิงไม่เต็มใจ แต่พอได้เข้ามาอยู่ในครอบครัวของพระเอกที่มีทั้งแม่และน้องสาวของเขาคอยให้ความรักและดูแลเธอราวกับเป็นครอบครัวเดียวกันนางเอกก็รู้สึกอบอุ่นและความรู้สึกที่มีต่อพระเอกมันก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เนื้อเรื่องโดยรวมถือว่าสนุกและโดนใจมากค่ะ แต่ขอติตรงปมสำคัญในเรื่องที่ทั้งพระเอกและนางเอกถูกลอบทำร้าย ถือว่ายังน้อยไปหน่อยสำหรับนิยายแนวมาเฟีย เพราะในความคิดเรานิยายแนวนี้น่าจะมีฉากบู้ๆ ต่อสู้ ยกพวกตีกัน มีฉากเจรจาธุรกิจมืด และสาดกระสุนใส่กันมากกว่านี้เอาให้เข้าถึงอารมณ์ไปเลยว่านี่สินิยายมาเฟีย ส่วนเรื่องโรมานซ์มันค่อนข้างเยอะไปหน่อยเลยทำให้เราไม่ค่อยชอบในตรงนี้ แต่อาจจะเป็นเพราะพระเอกต้องมีนิสัยเจ้าชู้ด้วยเวลาอ่านเลยไม่ค่อยขัดอารมณ์คนอ่านอย่างเราสักเท่าไหร่ แถมนิยายเรื่องนี้เล่มหนามากจนเกือบจะไม่หยิบออกมาจากชั้นหนังสือแล้วค่ะ แต่พอได้อ่านไปเรื่อยๆ กลับวางไม่ลงซะอย่างนั้น (หัวเราะ) ขอบอกเลยค่ะว่าต้องลอง ถ้าใครพลาดต้องเสียใจแน่ๆ ปล.เรารอดูเวอร์ชั่นละครด้วยค่ะ เห็นว่าตอนนี้ฟิตติ้งแล้ว

สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024