มนตร์รักอาละวาด (ณัฐกฤตา)

มนตร์รักอาละวาด (ณัฐกฤตา)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160016761
มีสินค้าในสต็อค
ราคา: 260.00 บาท 65.00 บาท
ประหยัด: 195.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

                               คำทำนาย

 

ศูนย์การค้าชื่อดังของจังหวัดมีร้านรวงมากมาย ณ มุมหนึ่ง

เป็นที่ตั้งของร้านเล็กๆ อันเป็นร้านขายเสื้อผ้า แม้ด้านหน้าจะขายเสื้อผ้า

แต่คนที่รู้กันจะรู้ว่าด้านในสุดมีแม่หมอซึ่งเปิดสำนักอยู่ที่ตำบลบางยี่สุ่น

เปิดกิจการดูดวงควบคู่กันไป แม่หมอเปิดร้านเสื้อผ้าเป็นงานอดิเรกและ

แวะเวียนมาดูร้านเป็นครั้งคราว เมื่อแวะมาก็จะรับดูดวงทำนายทายทัก

ไปด้วย ซึ่งหลายครั้งก็แม่น แต่หลายครั้งก็ยอดแย่

หมอดูสาวประเภทสองผิวสี วันนี้แต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตสีสันฉูดฉาด

ตามปกติแม่หมอจะแต่งตัวไม่ค่อยซ้ำ แค่เน้นให้ตรงตามฉายา ‘หมอสำลี

ร้อยเมตร’ นั่นคือทุกคนจะต้องสังเกตเห็นมาแต่ไกลเพราะการแต่งตัวของ

เจ้าตัว แต่ยามนี้สีหน้าของแม่หมอดูเคร่งเครียด เมื่อไพ่บนโต๊ะตรงหน้า

บอกให้รู้ว่าวันนี้จะไม่มีลูกค้า แต่ต้องทำนายดวงฟรีให้ใครคนหนึ่ง จากนั้น

ดวงถึงจะดีไปอีกหนึ่งเดือน

“เวลาเป็นเงินเป็นทองนะยะ แล้วใครล่ะเนี่ยที่ฉันต้องทำนายให้

เฮ้อ...”

หมอสำลีบ่นแล้วทำเสียงจึ๊กจั๊กในปาก ก่อนค่อยๆ เปิดไพ่อีกใบ

พอดีกับที่สายตามองออกไปยังด้านหน้าของร้าน และเจอะเข้ากับร่างของ

สาวคนหนึ่งที่แค่เห็นก็รู้สึกขยาด

            “โอ๊ย! ซวยของแท้จริงๆ”

หมอดูบ่นแล้วเปิดไพ่ใบต่อไป ก่อนจะถอนหายใจอีกรอบ แล้วลุก

ออกจากร้านไปหาแม่สาวที่เพิ่งเดินผ่านไป ในใจนึกไว้แล้วว่าถ้าทำนาย

ทายทักไม่เข้าหูละก็ เป็นเรื่องแน่ๆ

“คุณแพรจันทร์ คุณตะวันวาด...”

สองสาวที่กำลังเดินคุยกันหยุดฝีเท้าพลางหันไปมองเจ้าของเสียง

แล้วก็ต้องถอนใจ โดยเฉพาะแพรจันทร์นั้นเรียกว่าแค่เห็นหน้าก็พานนึกถึง

เรื่องวุ่นวายของคำทำนายของแม่หมอคนนี้ทุกที จึงได้แต่ยิ้มตอบอีกฝ่าย

ผิดกับแม่น้องสาวแสนห้าวเกินอัตราที่อยู่ข้างกาย

“เรื่องเก่าที่ก่อไว้ยังไม่เข็ดหรือไงหมอ”

“แหม พูดอะไรอย่างนั้นล่ะจ๊ะคุณตะวันวาดจ๋า” หมอสำลีโอดครวญ

ส่งยิ้มแห้งๆ ให้

“มีธุระอะไรก็ว่ามา ถ้าไม่มีฉันจะไปแล้ว” ตะวันวาดตัดบท

“คือว่า...” แม่หมอพูดแค่นั้นแล้วตั้งใจมองไปยังแพรจันทร์ ก่อนจะ

นิ่วหน้าแล้วมองไปทางตะวันวาด แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อเจ้าหล่อนซึ่งไม่น่า

จะให้ความรู้สึกเช่นนี้กลับมีแสงสีชมพูส่องประกายออกมา ซึ่งหมอดูเริ่ม

ไม่แน่ใจแล้วว่าจะทักดีหรือไม่

“ว่าไง” ตะวันวาดเร่งอีก

“แม่หมอจะบอกว่า เนื้อคู่ของคุณกำลังจะมาในไม่ช้านี้”

สิ้นเสียงตอบของแม่หมอ คนถูกทักว่าเนื้อคู่จะโผล่มาก็สวนกลับ

ทันที

“เคยดูดวงให้ตัวเองบ้างมั้ย หมอสำลี”

ตะวันวาดถามพลางยกแขนขึ้นกอดอก กระตุกยิ้มน่ากลัวใส่ บอก

ชัดว่าถ้าแม่หมอยังรักตัวกลัวตายก็อย่าคิดทำนายอะไรพล่อยๆ แบบนี้อีก

แต่แค่นั้นก็มากพอจะทำให้แม่หมอสำลีรีบเผ่นกลับไปที่ร้านแล้ว แต่ยังไม่

วายตะโกนย้ำมาอีก

            “จริงๆ นะจ๊ะ เนื้อคู่จะมาจริงๆ จ้ะ”

หล่อนถลกแขนเสื้อเตรียมเอาเรื่องหมอสำลีเต็มที่ ดีที่แพรจันทร์

ห้ามไว้ ส่วนหมอสำลีก็รีบโกยแน่บหนีตะวันวาดเช่นกัน ทำให้รอดจาก

การถูกหล่อนแจกขนมตุ้บตั้บ

แม้แม่หมอจะหายไปแล้ว แต่คำทำนายที่ฝ่ายนั้นทักกลับทำให้

คนไล่ไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง รู้สึกเหมือนถูกเข็มตำนิ้วแต่ดึงไม่ออก เพราะ

ถึงแม้หล่อนจะไม่อยากเชื่อ แต่หมอสำลีก็ไม่ใช่คนที่ทายอะไรลวกๆ หรือ

ไม่แม่นเสียทีเดียว แล้วเพราะมีส่วนแม่นถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์ มันจึงทำให้

หล่อนกลัวว่าความรักจะวิ่งเข้าหาหล่อนจริงๆ

“พี่แพรว่าจะจริงเหรอ” คนเป็นน้องถามเสียงอ่อย

“ไม่รู้สิจ๊ะ คำทำนายก็อาจจะเป็นแค่คำทำนายก็ได้ แต่ฟังไว้ก็ไม่

เสียหายไม่ใช่เหรอ”

แพรจันทร์ปลอบกึ่งเตือนแล้วจูงมือน้องสาวให้เดินต่อ แต่ก็รู้สึกได้

ว่าคนที่เดินด้วยกันยังคงกังวลอยู่ลึกๆ เพราะเจ้าตัวเป็นลูกสาวคนสุดท้อง

และเป็นน้องสาวแสนห้าว แถมแสนแสบที่สุดด้วย อันเป็นผลจากการถูก

พลตรีสันติสุขผู้เป็นพ่อตามใจ

พลตรีสันติสุขมีภรรยาทั้งหมดห้าคน และมีลูกสาวด้วยกันสิบสองคน

แพรจันทร์เป็นลูกของภรรยาคนที่สี่ ส่วนตะวันวาดเป็นลูกของภรรยาคนที่

ห้า ลูกสาวของพลตรีสันติสุขล้วนแล้วแต่เป็นผลพวงจากความเจ้าชู้ตั้งแต่

สมัยหนุ่มๆ และเพราะการเสียชีวิตของลูกชาย ทำให้ตอนนี้ท่านเหลือแต่

ลูกสาว จึงหวงลูกมากกว่าเดิม บรรดาหนุ่มๆ ที่กล้าเข้ามาจีบลูกสาว

นายพลบ้านนี้จึงต้องฝ่าด่านอรหันต์ และต้องมีคติประจำใจเลยว่า ‘เป็น

ลูกเขยบ้านนี้ต้องอดทน ลูกปืนพุ่งชนต้องไม่ตาย’

ที่ผ่านมามีหนุ่มๆ สอบผ่านเป็นลูกเขยแล้วเจ็ดคน ถ้าจะมีคนต่อไป

ก็ไม่แคล้วต้องผ่านด่านไปให้ได้เหมือนกัน ซึ่งถ้าเอาไปรวมกับคำทำนาย

เพี้ยนๆ ที่เพิ่งได้รับมาแล้วละก็ เห็นทีคราวนี้อาจจะหนักหนาสาหัสที่สุด

ก็เป็นได้ เพราะตะวันวาดคือของแข็งที่สุดในบรรดาพี่น้อง เนื่องจากเป็น

สาวน้อยแสนห้าวและยังเป็นน้องเล็กของบ้าน ถูกตามใจและมีพ่อคอย

ให้ท้ายมาตลอด ก่อนหน้านี้ตะวันวาดก็เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยกับพ่อเวลา

มีหนุ่มๆ มาจีบพวกพี่สาว ดังนั้นแพรจันทร์จึงคิดว่า หากตอนนี้ตะวันวาด

จะรู้สึกกลัวคำทำนายเรื่องเนื้อคู่ขึ้นมาก็คงไม่แปลก

แต่ปัญหามันอยู่ที่ผู้ชายที่เป็นเนื้อคู่คนนั้นต่างหาก เขาจะข้ามผ่าน

ความเฮี้ยบของพ่อหล่อนไปได้อย่างไร อีกอย่างหล่อนยังนึกภาพไม่ออก

เลยว่า ผู้ชายที่จะปราบน้องสาวอย่าง ‘แม่จอมอาละวาด’ จะเป็นคน

แบบไหนกัน

แพรจันทร์คิดแล้วก็ได้แต่ทิ้งความคิดไว้แค่นั้น หล่อนใช้เวลาซื้อของ

ประมาณชั่วโมงกว่าก่อนจะกลับบ้าน โดยมีตะวันวาดเป็นคนขับรถพาพี่สาว

กลับบางยี่สุ่น

รถยนต์อเนกประสงค์แล่นเข้าสู่บางยี่สุ่น มุ่งหน้าไปสู่เส้นทางไป

บ้านหลังใหญ่ที่รั้วบ้านสูงกว่าบ้านหลังอื่น แล้วยังมีเหล็กแหลมยื่นขึ้นมา

 ป้องกันผู้บุกรุก แนวรั้วยาวบ่งบอกอาณาเขตกว้างขวาง ประตูหน้าเปิด

อัตโนมัติโดยคนที่มีรีโมตอยู่ภายในรถ

รถยนต์แล่นผ่านประตูใหญ่เข้าไป แล้วหยุดเล็กน้อยเพื่อให้เจ้าของรถ

กดรีโมตปิดประตูบ้าน

“สะดวกดีนะพี่แพร ตั้งแต่พ่อทำประตูใหม่”

“พี่เห็นด้วย พี่คมเดชก็ไม่ต้องเหนื่อยวิ่งมาเปิด”

แพรจันทร์นึกถึงคนสวนที่พ่วงตำแหน่งคนขับรถและคนสนิทของพ่อ

ที่อยู่รับใช้กันมาเนิ่นนาน คนเป็นน้องหัวเราะเมื่อนึกถึงภาพคนที่พูดถึง รถ

เลี้ยวไปทางซ้ายตามทางเดินรถ แล้วผ่านบ้านสองหลังที่มีรั้วเป็นแนวพุ่มไม้

เตี้ยๆ สำหรับแบ่งอาณาเขตของบ้านแต่ละหลัง สุดทางเดินรถด้านในคือ

บ้านเรือนไทยหลังใหญ่ ซึ่งเป็นบ้านที่พลตรีสันติสุขอยู่กับภรรยาคนที่หนึ่ง

ส่วนฝั่งตรงข้ามติดกับทางเดินรถขาออกมีบ้านอีกสองหลังหันหน้ามาทางนี้

มีแนวพุ่มไม้เตี้ยเป็นตัวแบ่งอาณาเขตเช่นกัน

เมื่อตะวันวาดจอดรถยนต์หน้าบ้านหลังใหญ่ รภาซึ่งเป็นแม่บ้าน

ประจำเรือนใหญ่ และญาณี สาวใช้ที่เลยวัยสาวไปแล้ว ก็วิ่งมาอย่างรู้งาน

เพราะเห็นตั้งแต่รถยนต์แล่นผ่านประตูใหญ่เข้ามาแล้ว ตะวันวาดกับ

แพรจันทร์มีของมาฝากผู้เป็นพ่อ จึงขึ้นเรือนใหญ่ไปหาท่านก่อน

“พ่อจ๋า วาดมีของมาฝากด้วย”

หญิงสาวร้องบอกไปก่อนตัว พอขึ้นมาบนชานได้ก็มองซ้ายมองขวา

เห็นผู้เป็นพ่อนั่งอยู่ที่หอนั่งกลางเรือนไทยพร้อมกับดาวเรือง ภรรยาคนแรก

“กลับมาแล้วเหรอเจ้าวาด แพร”

ผู้เป็นพ่อทักอย่างเคยชิน พลางมองลูกสาวคนเล็กที่บางครั้งก็แสบ

ไปบ้าง เป็นลิงทโมนไปบ้าง ห้าวไปบ้าง แต่ทำให้ท่านเบาใจมากที่สุด

ในเรื่องที่ไม่ต้องคอยระแวดระวังหนุ่มๆ จะมาเกาะแกะ

แพรจันทร์ยิ้ม ส่วนตะวันวาดรีบอวดของฝาก

“วาดซื้อของมาให้พ่อด้วย นี่ไง ไม้เท้าอันใหม่” หล่อนบอกและส่ง

ไม้เท้าให้พ่อ ก่อนจะนั่งลงบนยกพื้นใกล้เก้าอี้โยกของท่าน ส่วนแพรจันทร์

ก็ลงนั่งข้างน้องสาวอย่างเรียบร้อย

“เอาไว้เขกหัวแกเหรอ”

ท่านนายพลถามขณะเอื้อมมือไปรับ หรี่ตามองลูกสาวตัวแสบด้วย

สีหน้ายิ้มแย้มขบขัน เพราะถึงแม้ว่าท่านจะยังแข็งแรง ไม่ต้องพึ่งไม้เท้า

แต่ไม้เท้า ปืน และดาบก็เป็นของสะสมที่ท่านชอบมาก และเจ้าลูกสาว

ตัวดีก็รู้อกรู้ใจดีเหลือเกิน

“โธ่ พ่ออ้ะ” ตะวันวาดครวญ ยิ้มกว้างแล้วหันไปรับของจากแพร-

จันทร์มายื่นให้ดาวเรืองซึ่งนั่งอยู่ใกล้ๆ “อันนี้ผ้าคลุมไหล่ของแม่เรืองค่ะ”

ดาวเรืองรับถุงกระดาษมาจากตะวันวาด แล้วหยิบผ้าออกมาดูพลาง

ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เพราะถึงแม้ตะวันวาดจะไม่ใช่ลูกของนาง แต่ก็รักเหมือน

ลูกเช่นกัน ครอบครัวใหญ่ครอบครัวนี้ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งระหว่าง

ภรรยากับลูกๆ ทุกคนรักกันดี ยกเว้นมิรันตีลูกสาวคนโตของนาง กับ

ตะวันวาดที่ไม่ค่อยกินเส้นกันสักเท่าไร

“ขอบใจนะเจ้าวาด” ดาวเรืองตอบแล้วถามต่อ “ว่าแต่เอาของมา

กำนัลแม่แบบนี้ จะขออะไรอีกหืม”

“โธ่ แม่เรืองอะ เห็นวาดเป็นอะไร” หล่อนพ้อแต่ส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้

“เห็นเป็นแม่จอมอาละวาด ลวดลายพร้อยน่ะสิ”

ตะวันวาดทำหน้ามุ่ยแล้วหันไปอ้อนพ่อแทน เพราะรู้ว่าอย่างไรเสีย

ท่านก็เข้าข้างหล่อนมากที่สุด แต่ดูเหมือนท่านนายพลจะรู้ทัน ไม่หลงกล

ง่ายๆ แม้ว่าหล่อนจะมีไม้เท้ามากำนัลท่านก็ตาม

“ไม่ต้องมองทางนี้เลยเจ้าวาด พ่อไม่ช่วยหรอก”

“โธ่...”

คนที่ไม่มีใครเข้าข้างครวญอีกระลอก ก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อรภา แม่บ้าน

ประจำเรือนใหญ่ และเป็นหนึ่งในก๊วนไล่หนุ่มๆ ที่กล้ามาลองของบ้าน

นายพล นำน้ำเย็นๆ มาเสิร์ฟ

“น้ำค่ะคุณแพร คุณวาด”

“ขอบใจนะรภา”

หล่อนบอกแล้วคว้าแก้วน้ำ มาดื่มอย่างชื่นใจ แต่หัวสมองกลับหวน

นึกถึงคำทำนายของแม่หมอตัวดีเข้าจนได้ สีหน้าที่กำลังยิ้มแย้มถึงกับ

บึ้งตึงทันที ซึ่งก็ไม่พ้นสายตาของผู้เป็นพ่อ

“เป็นอะไรไปฮึ เจ้าวาด”

“เปล่าจ้ะพ่อ” หล่อนบอกปัด พยายามไม่ใส่ใจ “มีอะไร”

ท่านนายพลถามย้ำเสียงเข้มมากขึ้น เพราะลองลูกสาวคนเล็กทำ

หน้าแบบนี้ แสดงว่ามีเรื่องไม่สบายใจแน่ และท่านก็ไม่อยากให้ลูกเก็บ

มันไว้แล้วมารู้หรือมาช่วยแก้ไขทีหลัง ยิ่งถ้าเรื่องนั้นเกี่ยวกับหนุ่มๆ ที่คิด

จะเข้ามาแจกขนมจีบให้ลูกสาวอีกสามคนที่เหลือ ไม่นับมะตูมที่มีความ

ผิดปกติด้านพัฒนาการ แบบนั้นละก็ น่าดูแน่!

แพรจันทร์ที่อยู่ด้วยเห็นว่าตะวันวาดไม่ยอมบอกแน่ จึงเป็นฝ่าย

บอกเสียเอง

“เจ้าวาดคงไม่สบายใจเรื่องคำทำนายค่ะพ่อ”

“คำทำนาย? คำทำนายอะไร”

คนเป็นพ่อย้อนถามหน้านิ่ว พลางเหลือบมองลูกสาวคนเล็กที่ยกมือ

ห้ามพี่สาวข้างกายเป็นพัลวัน ยิ่งทำให้ท่านอยากรู้เกินกว่าจะยอมปล่อย

ให้ผ่านเลยไปได้

แพรจันทร์มองตะวันวาดพลางส่ายหน้า ก่อนจะบอกพ่อไปตามตรง

ส่วนตะวันวาดได้แต่ทำหน้าเหมือนกินยาขมมาสักขวด เพราะห้ามพี่สาว

ไม่ได้

“ตอนที่เราไปซื้อของเมื่อครู่นี้เจอกับหมอสำลีค่ะ พ่อจำได้มั้ยคะ”

“อ๋อ ไอ้หมอดูบ้านกหัวขวาน เอ๊ย! ฟลามิงโกนั่นน่ะนะ” ท่านนายพล

ว่า นึกถึงสำนักของหมอดูที่มีแต่รูปปั้นนกฟลามิงโกแล้วก็ชวนให้ฮึดฮัด

ขึ้นมานิดๆ

“ใช่ค่ะพ่อ” แพรจันทร์ตอบแล้วเล่าต่อ “หมอสำลีทักว่าเนื้อคู่ของ

เจ้าวาดกำลังจะมาในไม่ช้านี้ เจ้าวาดก็เลยหงุดหงิดอย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ”

สิ้นเสียงของแพรจันทร์ รภาซึ่งนั่งอยู่บนพื้นถึงกับอุทาน เช่นเดียวกับ

ดาวเรืองที่ดูจะตกใจไม่แพ้กัน แต่สำหรับท่านนายพลจอมหวงลูกสาวแล้ว

สิ่งเดียวที่ท่านคิดได้ตอนนี้มีแค่เรียกหาใครคนหนึ่งเท่านั้น

“คมเดช ไอ้คมเดช อยู่ไหน มานี่ซิ”

อึดใจถัดมา ผู้ชายร่างผอมเจ้าของนามคมเดชก็วิ่งเข้ามาในห้อง

แล้วตบเท้าตะเบ๊ะให้อย่างเคยชิน แม้ว่าตอนนี้จะไม่ใช่พลทหารรับใช้แล้ว

เพราะท่านนายพลเกษียณอายุราชการมาหลายปี เพียงแต่สมัครใจอยาก

รับใช้ท่านนายพลต่อ จึงออกจากการเป็นพลทหารและอยู่รับใช้ท่านนายพล

ในฐานะคนสนิท

 

            (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024