พระพรหมเสี่ยงรัก (รุ้งรำพิณ)

พระพรหมเสี่ยงรัก (รุ้งรำพิณ)

1 รีวิว  1 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160006212
มีสินค้าในสต็อค
ราคา: 300.00 บาท 75.00 บาท
ประหยัด: 225.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

สองเดือนก่อนหน้านี้ที่ประเทศกรีนนา ประเทศหมู่เกาะ

เล็กๆ ที่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นธรรมชาติมากกว่าหกสิบเปอร์เซ็นต์ หญิง

สาวผู้หนึ่งกำลังพูดโทรศัพท์ด้วยความหงุดหงิดอยู่ภายในรั้วโรงพยาบาล

เอกชนแห่งหนึ่ง

“แม่ระงับบัตรเครดิตของเน่ย์ใช่ไหมคะ อย่าคิดนะคะว่าแม่ใช้วิธีนี้

แล้วเน่ย์จะยอมกลับบ้าน” หัวคิ้วเรียวได้รูปชนกันเกือบชิด ดวงตากลม

ดำขลับฉายแววขุ่นมัว ใบหน้างอง้ำ ไม่ต่างจากเด็กน้อยที่ถูกขัดใจ

“แต่ช่างเถอะ เน่ย์จะกดเงินจากเอทีเอ็มออกมาใช้ให้เกลี้ยงเลยคอยดู”

“ก็ลองดูถ้าคิดว่าทำได้” มารดาตอบกลับเสียงเย็น ทำให้บุตรสาว

แทบจะกระทืบเท้าเร่าๆ

“นั่นมันบัญชีของเน่ย์นะคะ แม่ไม่มีสิทธิ์ทำอะไร” บุตรสาวกรอก

เสียงกังวานทว่าห้วนจัดลงไปในโทรศัพท์มือถือ เธอรู้ว่ามารดาของเธอ

ทำได้มากกว่าที่คิดไว้เยอะ ท่านชอบใช้สิทธิ์การเป็นบุพการีบีบบังคับ

ให้เธอจำยอมด้วยวิธีของท่านเสมอ เธอจึงเรียกการกระทำพวกนั้นว่า

อิทธิพลมืด แต่ใช่ว่าจะใช้ได้กับเด็กดื้ออย่างเธอทุกครั้งไปเสียเมื่อไร

“แต่เงินในบัญชีนั้นเป็นเงินของแม่ เด็กเรียนจบใหม่ งานก็ยัง

ไม่มีทำ แถมวันๆ เอาแต่ตามพี่ชายต้อยๆ อย่างเน่ย์จะเอาเงินมากมาย

มาจากที่ไหนกัน ถ้าไม่อยากอดตายก็รีบกลับบ้านเดี๋ยวนี้เลย”

เสียงของมารดายังคงเยียบเย็น ตามมาด้วยเสียงถอนหายใจยาว

เหยียดอย่างอิดหนาระอาใจในตัวเนรัญ บุตรสาวเพียงคนเดียวซึ่งหล่อน

เลี้ยงดูอย่างตามใจเกินเหตุจนทุกวันนี้กลายเป็นคนเอาแต่ใจ ทำอะไร

แทบจะไม่เห็นหัวบุพการีอยู่แล้ว

“ถ้าเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าตอนนี้ก็น่าจะยังพอมีเงินซื้อตั๋วเครื่องบิน

กลับเชียงใหม่ได้ แต่ถ้ายังดึงดันอยู่กรุงเทพฯ ต่อ ก็เตรียมตัวกลายเป็น

เด็กจรจัดได้เลย”

คำขู่ของมารดาดูจะไม่เป็นผล เพราะเนรัญไม่มีทีท่าว่าจะเกรงกลัว

แม้แต่น้อย เธอเชิดหน้า สูดหายใจเข้าเต็มแรง แล้วพูดอย่างหมายมั่นว่า

“เน่ย์ไม่มีทางกลับแน่ ถ้าไม่มีพี่ตั้งกลับไปด้วย แล้วตอนนี้เน่ย์ก็

ไม่ได้อยู่กรุงเทพฯ ค่ะ”

“ไม่ได้อยู่กรุงเทพฯ!” ปลายสายอุทาน เสียงเรียบเย็นในตอนแรก

เปลี่ยนเป็นร้อนรน “อยู่ไหนยายเน่ย์ บอกแม่มาเดี๋ยวนี้เลย”

“พี่ตั้งอยู่ประเทศไหน เน่ย์ก็อยู่ที่นั่นแหละค่ะ เน่ย์มาพาพี่ตั้งกลับ

ไม่ยอมให้ใครๆ พากันบีบบังคับให้พี่ตั้งแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่รู้จักหรอกค่ะ”

“ตาตั้งไม่ได้ถูกบีบบังคับนะ พี่เขาโตแล้ว มีคู่หมั้น แล้วก็ถึงเวลา

ต้องแต่งงาน” มารดาอธิบายอย่างอ่อนใจเมื่อรู้ว่าบุตรสาวแสนดื้อบิน

ข้ามประเทศไปไกลเพื่อตามหาพี่ชายต่างสายเลือด และเกินจะห้ามปราม

ได้ทันแล้ว

“ไม่จริงค่ะ” เนรัญตอบกลับเสียงสูงปรี๊ด “พวกผู้ใหญ่จับพี่ตั้ง

หมั้นกับยายจาอะไรนั่นเองต่างหาก พี่ตั้งไม่ได้อยากจะหมั้นอยากจะแต่ง

สักหน่อย”

“ทำไมถึงได้ดื้อด้านอย่างนี้นะยายเน่ย์ ตาตั้งเขาเป็นแค่พี่ชาย

ของเรา จะไปเกาะติดเขาแจตลอดชีวิตได้ยังไงกัน” ผู้เป็นมารดาทำเสียง

หนักใจขึ้นกว่าเดิม นิสัยติดพี่ชายต่างสายเลือดอย่างหนักติดตัวเนรัญ

มาตั้งแต่เด็กๆ ทั้งที่คิดว่าพอโตขึ้นนิสัยพวกนี้จะหายเอง ทว่าสำหรับ

เนรัญแล้ว ความรักความผูกพันที่มีต่อพี่ชายคนนี้ดูจะทวีความรุนแรง

มากขึ้นทุกวันจนน่ากลัว

“ก็เน่ย์รักพี่ตั้ง เน่ย์จะไม่ยอมปล่อยให้พี่ตั้งแต่งงานกับผู้หญิง

คนอื่นเด็ดขาด ประเทศนี้เล็กนิดเดียว เน่ย์มั่นใจว่าใช้เวลาไม่ถึงอาทิตย์

เน่ย์จะสามารถพาตัวพี่ตั้งกลับไปด้วยได้แน่” ความมุ่งมั่นของเธอไม่ได้

ลดน้อยลงเลย แถมยังตัดบทอย่างท้าทายบุพการีอีกด้วยว่า “แค่นี้นะคะ

แม่ เชิญแม่ตัดบัตรเครดิต ตัดเอทีเอ็ม ตัดน้ำตัดไฟตามสบายเลยค่ะ

ยังไงเน่ย์ก็ไม่มีทางกลับจนกว่าจะเจอพี่ตั้ง”

หญิงสาวยัดโทรศัพท์มือถือลงกระเป๋าสะพายข้างใบเล็กข้างกาย

ทันทีหลังจากตัดสายทิ้ง ร่างบอบบางยืดตัวตรง เชิดใบหน้ารูปไข่อย่าง

หมายมั่นอีกครั้ง คลี่ยิ้มให้กำลังใจตัวเองในการมุ่งไปสู่จุดหมายและ

ความสำเร็จข้างหน้า

จากข้อมูลที่สืบมา คู่หมั้นของพี่ชายเธอชื่อ จารินรัตน์ ธนกอบกุล

เพิ่งอายุยี่สิบหกหมาดๆ เป็นน้องสาวของเอกอัครราชทูตไทยในประเทศ

กรีนนา และเป็นพยาบาลที่ทั้งสวย เก่ง และใจดี

แล้วนี่ก็คือโรงพยาบาลแห่งที่สองที่เนรัญจะมาถามหาเจ้าหล่อน

ถ้าเจอจารินรัตน์ ก็แสดงว่าการตามหากันกริช พี่ชายต่างสายเลือดของ

เธอ กำลังจะประสบผลสำเร็จ

ระหว่างที่หญิงสาวก้าวเท้าตรงไปยังตึกสูงเบื้องหน้าด้วยความ

ครึ้มอกครึ้มใจ หางตาก็สะดุดเข้ากับอะไรบางอย่างสีอ่อนๆ ที่ร่วงลงมา

จากชั้นสูง เมื่อหันไปมองเต็มสองตา ดวงตาของเนรัญก็แทบถลนออก

จากเบ้า

ร่างผู้หญิงคนหนึ่งลอยละลิ่ว ร่วงลงมากระทบพื้นเบื้องล่าง

เสียงดังสนั่น ร่างในชุดสีเขียวอ่อนของโรงพยาบาลนอนคว่ำหน้า กระตุก

เพียงสองครั้งแรงๆ จากนั้นก็แน่นิ่งไป

                “กรี๊ด! คนตกตึก!”

ผู้คนบริเวณนั้นพากันหวีดร้องด้วยความตกใจจากเหตุการณ์

สะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ หญิงสาวหลายคนถึงกับเป็นลมล้มพับ

ไป ตอนนั้นเองที่กระดาษเล็กๆ ใบหนึ่งที่ร่วงมาพร้อมกับร่างที่นอนแน่นิ่ง

ไปแล้วตรงหน้า ปลิวหวือตามลมมาหยุดตรงแทบเท้าเนรัญ มีข้อความ

เขียนด้วยหมึกสีแดงเป็นภาษาอังกฤษว่า รักเรานิรันดร์

เนรัญรู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างรอบกายหยุดนิ่ง มีเพียงท้องฟ้าที่เริ่ม

มืดครึ้มอย่างรวดเร็วราวกับภาพเคลื่อนไหวในเครื่องเล่นดีวีดีที่กดปุ่ม

เร่งไปข้างหน้า ความมืดสนิทเข้าครอบคลุมรอบกายเธอทุกหนแห่ง

ทุกอย่างนิ่งสนิท และหญิงสาวก็ไม่สามารถมองเห็นสิ่งใดได้อีก นอกจาก

แสงสีขาวแสบตาที่ฉายวาบออกมาจากกระดาษแผ่นนั้นราวกับเป็น

แสงส่องทางให้เธอ

ใบหน้าเล็กๆ ซึ่งซีดเผือดอยู่แล้วบัดนี้ยิ่งขาวซีดจนเกือบไม่มีสี

เนรัญตกตะลึง นิ่งงันไปพักใหญ่กับสิ่งที่พบเห็น ซึ่งเกิดจากปรากฏการณ์

ทางธรรมชาติหรือเหนือธรรมชาติก็ไม่ทราบได้ รู้แต่ว่าเธอไม่เคยพบ

มาก่อน หญิงสาวป้องตาพยายามทรงตัวยืนให้อยู่ทั้งที่กำลังแข้งขาอ่อน

กระดาษแผ่นนั้นลอยอยู่กลางอากาศตรงหน้าเธอ เปล่งแสงสว่างท่ามกลาง

ความมืดมิด แล้วลอยห่างจากเธอไปช้าๆ เนรัญค่อยๆ เดินเนิบนาบตาม

แสงนั้นไป หัวใจเต้นแรง มือเท้าเย็นเฉียบสั่นเทาชุ่มไปด้วยเหงื่อ

ไม่นะไม่ คนอย่างเธอเกิดมาเกือบยี่สิบสองปี ไม่มีสักครั้งที่จะ

เป็นลมเป็นแล้ง...หญิงสาวปลอบตัวเอง ขณะก้าวไปตามแสงสีขาวจน

กลับออกไปนอกรั้วโรงพยาบาลอย่างเบลอๆ หัวสมองเริ่มว่างเปล่า สติ

ขาดดับเป็นระยะๆ แต่แล้วความมืดสนิทของสีดำที่ปกคลุมอยู่เมื่อครู่

ก็จางหายไปโดยที่หญิงสาวไม่ทันรู้ตัว

ภาพของผู้คนที่เดินสวนไปมาบนทางเท้ารอบกายเธอดูราวกับ

เป็นภาพสลัวรางในความฝัน และขณะที่สติห้วงสุดท้ายกำลังจะดับ

หญิงสาวก็เห็นเงาร่างสูงของใครบางคนเดินตรงมาทางเธอ

 

ท้องฟ้าที่อยู่ๆ ก็เปลี่ยนจากสีฟ้าสดใสมาเป็นสีดำทะมึน

สร้างความฉงนใจให้ร่างสูงโปร่งที่กำลังก้าวเท้าฉับๆ ไปตามทางเท้า

นอกรั้วโรงพยาบาล จนต้องชะงักเท้าเงยหน้าขึ้นมอง...น่าแปลกที่ดูเหมือน

ความแปรปรวนของธรรมชาติ ณ เวลานี้ ดูแตกต่างจากการเกิดเมฆฝน

ตามปกติที่เขาเคยพบเจอ

ชายหนุ่มกรอกเสียงทุ้มผ่านโทรศัพท์มือถือที่แนบอยู่ข้างหู ย้ำ

ประโยคเดิมอีกครั้งกับคนที่เขามาตามหาถึงโรงพยาบาล แต่คนที่อยากเจอ

กลับออกไปก่อนหน้าที่เขาจะมาถึงแล้วตั้งแต่สิบนาทีก่อน

“โอเคครับ คุณรอผมอยู่ที่ร้านนะครับ ผมกำลังจะตามไป”

เขาว่า แล้วรีบเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋าเสื้อสูท ทว่าพอหันไป

มองรอบข้างก็พบแต่ความมืดมิด คล้ายมีใครทาสีดำลงในมวลอากาศ

รอบตัวจนทำให้ชายหนุ่มมองไม่เห็นสิ่งใด แม้กระทั่งเส้นทางและผู้คน

ขวักไขว่นอกรั้วโรงพยาบาลเมื่อวินาทีก่อน

การิมยืนอึ้ง เขาไม่ต่างจากคนตาบอดที่หาทางออกไม่เจอ หมุน

รอบตัวเองรอบหนึ่ง หวังว่าจะเจอใครบ้างแต่ไม่เป็นผล เขายืนนิ่งหลับตาลง

เพราะคิดว่าคงเป็นแค่ความฝัน ทว่ายามที่ชายหนุ่มลืมตาขึ้นอีกครั้ง

สิ่งที่เห็นกลับไม่ใช่ภาพปกติอย่างที่คาดหวัง

สิ่งที่เขาเห็นคือแสงสว่างจ้าที่ปรากฏขึ้นจากทิศทางหนึ่ง มันมา

จากกระดาษแผ่นน้อยที่เขาก็ไม่ทราบว่ามาจากไหน มันลอยอยู่กลาง

อากาศ ลอยละล่องไปข้างหน้าโดยที่ไม่ต้องพึ่งพาลมใดๆ ทั้งสิ้น การิม

รู้สึกราวกับถูกสะกดให้เดินตามแสงนั้นไปโดยที่เขาก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร

ทว่าขณะที่เขากำลังจะคว้าตัวต้นเหตุได้อยู่แล้ว มันกลับหายไปต่อหน้า

ต่อตา ความมืดสนิทที่คลี่คลุมอยู่พลันเลือนหาย ทุกอย่างกลับมา

สว่างไสวดังเดิม พร้อมกับที่บางสิ่งมาปะทะเขาเข้าอย่างจัง

ชายหนุ่มชนเข้ากับร่างเล็กของหญิงสาวคนหนึ่งเต็มแรง เขา

รับร่างที่โงนเงนและเหมือนจะล้มทั้งยืนเอาไว้ได้ทัน พลางนึกสงสัย

ผู้หญิงคนนี้เดินมาจากมุมไหนเมื่อไหร่กันนะ...

การิมสะบัดหน้าแรงๆ สองสามครั้ง ขณะที่สองแขนประคองร่าง

หญิงสาวปริศนาไว้อย่างปลอดภัย ดวงตาคมกริบหรี่ลงขณะหันไปมอง

คนที่เดินไปมาบนทางเท้า ทุกคนดูจะไม่รู้สึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

แม้แต่น้อย เสมือนว่าพวกเขาไม่ได้อยู่บนโลกใบเดียวกันกับชายหนุ่ม

หรือไม่อีกอย่างก็คือ การิมฝันกลางวันทั้งๆ ที่ยังเดินอยู่...แต่จะว่าไป

ฝันของเขาคงไม่โชคดีขนาดได้ผู้หญิงมาอุ้มฟรีหนึ่งคนหรอกกระมัง

“คุณ...คุณ พระเจ้า! ชนแค่นี้ถึงกับเป็นลมเลยหรือวะ”

ชายหนุ่มอุทานหน้าตาเหยเก เลิกคิดหาคำตอบเรื่องเหตุการณ์

ประหลาดเมื่อครู่ แล้วรีบตวัดร่างหญิงสาวขึ้นมาไว้ในวงแขน พาไปขึ้น

รถยนต์คันใหญ่ที่จอดรออยู่อย่างรวดเร็ว

 

กลิ่นน้ำหอมจางๆ ลอยมาเข้าจมูก คนเลือกใช้น้ำหอมกลิ่นนี้

คงเป็นผู้ชายที่มีคลาสน่าดู...

ผู้ชายอย่างนั้นเหรอ

ตาที่ยังหรี่ปรือเบิกโพลงขึ้นทันควัน หญิงสาวรีบเงยหน้าขึ้นจาก

ไหล่ที่ตัวเองนอนซบตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ทันที พอชายแปลกหน้าเจ้าของกาย

อุ่นๆ หอมๆ หันมาประสานสายตา เนรัญก็ชะงักกึก

หัวใจของเธอเบาหวิวราวกับจะลอยได้ขณะมองเข้าไปในดวงตา

สีเทาคู่นั้น รู้สึกว่าร่างกายเย็นๆ ร้อนๆ สลับกันเหมือนจะมีไข้ก็ไม่ปาน

เป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย ไม่ใช่เพราะหน้าตาหล่อเหลาลงตัว หรือ

หุ่นกระชากใจของเขา แต่มันมีอะไรมากกว่านั้น มีบางอย่างที่ทำให้เธอ

รู้สึกแปลกๆ

“ฟื้นแล้วหรือครับหนูน้อย เล่นเอาผมตกใจหมด ชนนิดชนหน่อย

ขวัญอ่อนถึงกับเป็นลมเลยนะเรา”

เนรัญสะดุ้งสุดตัวเมื่อเจ้าของเสียงทุ้มหล่อทักทายเป็นภาษา

สากล หญิงสาวหลุดจากภวังค์ รีบผละตัวออกห่างจากชายแปลกหน้า

แต่สัมผัสบางอย่างที่อยู่ตรงช่วงเอวคอดทำให้เธอก้มลงมอง

“ปล่อยฉันนะไอ้ลามก!”

คนที่เพิ่งรู้สึกตัวฟาดมือเต็มกำลังลงบนต้นแขนและฝ่ามือใหญ่ที่

โอบเอวเธอเอาไว้ ตลอดเวลาที่เธอไม่มีสติ ไอ้ผู้ชายหน้ายาวคนนี้ทำมิดี

มิร้ายอะไรเธอไปบ้างแล้วก็ไม่รู้นอกเหนือจากการกอด หญิงสาวนึกกลัว

ไปต่างๆ นานา เมื่อหันมองรอบกายจึงได้รู้ว่าเธอกำลังอยู่ในรถยนต์

คันกว้างกับเขาเพียงลำพัง...ไม่สิ มีคนขับอีกคนหนึ่ง แต่นั่นก็คนของเขา

เหมือนกันนี่นา

“จอดรถเดี๋ยวนี้นะ คุณจะพาฉันไปไหน เห็นผู้หญิงหมดสติ

แทนที่จะเป็นพลเมืองดีช่วยเหลือ แต่นี่พวกคุณคิดจะทำไม่ดีกับฉันใช่

ไหม ปล่อยเลยนะ ปล่อย...” เธอพูดรัวใส่เขาเป็นชุด พลางฟาดมือทุบตี

ไปตามลำตัวอีกฝ่ายไม่ยั้ง

“โอ๊ย! หยุดตีก่อนสิคุณ ผมเจ็บ!” การิมตวาดเสียงแข็ง พร้อมกับ

ล็อกข้อมือเล็กๆ ทั้งสองไว้ “ที่ผมพาคุณขึ้นรถมาด้วย ไม่ปล่อยให้นอน

อยู่ข้างทาง ยังไม่เรียกว่าเป็นการช่วยเหลืออีกหรือครับ ผมให้คุณได้

นั่งพักบนรถคันนี้ ได้นอนซบไหล่ผู้ชายที่หน้าตาดีที่สุดในประเทศ คุณยัง

ไม่พอใจอีกเรอะ ไม่ใช่ว่าใครจะมีโอกาสนี้ง่ายๆ นะครับหนูน้อย”

“แหวะ! ถ้าบริสุทธิ์ใจจริงๆ ทำไมไม่พาฉันไปโรงพยาบาลล่ะ

ทำไมต้องลากขึ้นรถมาด้วย หรือว่าเป็นพวกค้ามนุษย์ เห็นฉันเป็นคน

ต่างชาติคิดจะทำอะไรอย่างนั้นก็ได้ใช่ไหม” หญิงสาวสะบัดตัว กระเถิบ

หนีไปนั่งชิดริมประตูรถอีกฝั่ง “ฝันไปเถอะไอ้เฒ่าทารก คนอย่างเนรัญ

ยอมตายดีกว่าเสียตัวให้ผู้ชายที่ไม่ได้รัก!”

ประโยคหลังเธอก่นด่าเป็นภาษาไทย ทำให้การิมได้แต่จ้องตาปริบๆ

 

(โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)


รีวิว (1)

เขียนรีวิว

Blssoomeye | 1 รีวิว
24/02/2015

พระพรหมเสี่ยงรัก ผู้เขียน รุ้งรำพิณ ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ Sugar Beat เป็นเรื่องราวความรักอีกรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะฝ่ายพระเอกมีเหตุผลในการที่จะให้นางเอกอยู่กับตนเอง ส่วนนางเอกก็มีเหตุผลที่ต้องไป ไม่อาจที่จะอยู่กับพระเอกได้ นอกจากความมีเหตุและผลของที่สองคนแล้ว เรื่องนี้ยังมีตัวละครที่น่าสนใจอีกตัวด้วย นั้นคือแม่เลี้ยงพระเอก เรานางมีบทบาทมากเลยสำหรับเรื่องนี้ เพราะถ้าหากไม่มีนางแล้วละก่อน พระเอกและนางเอกก็คงไม่ได้เจอกันแน่นอน นอกจากนี้เราว่ามันก็ยังมีบางฉากบางตอนที่มันออกจะแปลกๆอยู่สักหน่อย อย่างพระเอกโดนลอบทำร้าย แต่ก็ยังชอบไปไหนมาไหนคนเดียว แล้วยังพาบอดี้การ์ดแค่คนเดียวอีกด้วย เราว่ามันดูแปลกๆนะ กับเรื่องราวที่กำลังเป็นไปในเนื้อเรื่อง แล้วยังเวลาที่นางเอกนึกเรื่องสำคัญหรือเจออะไรที่มันสำคัญๆนางก็มักจะลืมง่ายๆและกว่าจะจำได้หรือนึกออกก็สายเกินไปทุกที มันดูแบบว่านางไม่ค่อยมีประโยชน์เลย แต่ถ้าถามโดยรวม เราว่ามันก็อ่านได้เรื่อยๆ เพราะมันมีอะไรให้ตามลุ้นว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไร อย่างการตามหาตัวคนร้าย มันจะทำให้เราคอยเดากันว่าจะเป็นใคร (เราว่าเพื่อนๆหลายคนน่าจะทายถูกตั้งแต่แรกๆอยู่แล้ว ส่วนเราเปิดอ่านไปบทหลังๆเลย แบบว่าใจร้อน ) นอกจากนี้เราว่าฉากกุ๊กกิ๊กน้อยไปหน่อย มันมีไม่เยอะเท่าที่อยากอ่าน มันออกแนวคู่กัดมากกว่าแต่ก็สนุกดีอ่านคลายเครียดได้เรื่อยๆ....

สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024