บ้านไร่ปลายฝัน : ปฐพีเล่ห์รัก

บ้านไร่ปลายฝัน : ปฐพีเล่ห์รัก

5 รีวิว  5 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786110000147
ผู้แต่ง: ร่มแก้ว
ของหมดถาวร (ต้องการสินค้า)
ราคา: 230.00 บาท 57.50 บาท
ประหยัด: 172.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

‘ธารารินรีสอร์ต’ ทอดตัวตระหง่านอยู่ท่ามกลางหุบเขากว้างใหญ่ของ ภูหลวง จังหวัดนครราชสีมา

ตัวอาคารห้องพักสูงสามชั้นจำนวน ๓ หลังทอดตัวต่อเนื่องกันไปตาม พื้นที่สูงต่ำของหุบเขา กลมกลืนกับธรรมชาติ ต้นไม้เลื้อยเชียวชอุ่มยึดเกาะ

ปกคลุมตัวอาคารจนแทบมองไม่เห็นสีแท้จริงชองผนัง กระนั้นไม้เลื้อยก็ถูกตัด แต่งอย่างดีสมํ่าเสมอ เว้นตรงช่องหน้าต่างสีชาวที่มีดอกพิทูเนียสีชมพูสีม่วง

แข่งกันเบ่งบานอวดสีสดใสอยู่ใต้หน้าต่าง เช่นเดียวกับในกระถางดินเผาซึ่งห้อย อยู่เหนือระเบียงเหล็กดัดอ่อนช้อยชองแต่ละห้องพัก

อาคารทั้งสามหลังเชื่อมต่อกันด้วยทางเดินปูด้วยหินก้อนใหญ่ หลังแรก

มีขนาดใหญ่ที่สุดด้วยเป็นล็อบบีและห้องจัดเลี้ยง รวมไปถึงห้องอาหารที่บริการ อาหารทั้งไทย จีน และฝรั่ง ปฐพีลงทุนจ้างเซฟฝีมือดีจากภัตตาคารหรูใน

กรุงเทพฯ ด้วยราคาแสนแพงมาบริการลูกค้า รวมถึงร้านค้าชายชองที่ระลึก

ทั้งเสื้อผ้า สินค้าพื้นเมืองจากกลุ่มชาวบ้าน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลิตกัณฑ์

จากไร่องุ่นสายลม และฟาร์มโคนมอดีควรรังสรรค์ ซึ่งตั้งอยู่ในอาณาบริเวณ เชื่อมต่อกันในหุบเขาแห่งนี้

 

ชั้นบนสุดของอาคารหลังแรกถูกกันไว้เป็นส่วนออฟฟิศของรีสอร์ต

 ตรงปีกรีมสุดด้านทิศตะวันออกของชั้นบนสุดถูกออกแบบให้เล่นระดับยกสูงขึ้น

ไปกว่าส่วนอื่นอีก ดูเผินๆ เหมือนหอคอยเตี้ยๆ...และส่วนนี้เองคือห้องทำงาน

ของ ‘ผู้บริหาร’

ชายหนุ่มร่างสูง ผิวขาว หากแต่ตาและคิ้วเข้ม เดินเร่งฝีเท้าขึ้นบันได

ปูกระเบื้องสีส้มห้าชั้น ผลักประตูกระจกเข้าไปในห้อง ซึ่งแม้ไม่มีป้ายติด ทุกคน ที่นี่ก็รู้ดีว่าเป็นห้องทำงานของผู้,บริหารสูงสุด ในห้องกรุกระจกโดยรอบและ สามารถเปิดออกไปยังระเบียงด้านนอกที่ส้อมรอบอยู่ถึงสามด้าน เมื่อผู้ที่อยู่

ภายในมองออกไปจะเห็นทิวทัศน์ของรีสอร์ตกลางหุบเขาที่ถูกโอบส้อมด้วย

ยอดภูสูงเขียวขจี ซึ่งหากเป็นหน้าหนาวจะได้เห็นสายหมอกลอยต่ำเกือบทั้งวัน

เมื่อเข้ามาภายในห้อง ชายหนุ่มในชุดสูทสีเข้มเรียบหรูก็หยุดยืน มอง

เห็นชายร่างใหญ่ผิวคล้ามในเสื้อเชิ้ตพับแขน ยับนิดๆ ผมยุ่งหน่อยๆ นั่งก้มหน้า

ก้มตาง่วนอยู่กับกองเอกสารรก ๆ บนโต๊ะกลมกลางห้อง

เมื่อรู้สึกถึงผู้มาใหม่ เขาก็วางงานในมือ ลุกขึ้นยืนตรงหน้าชายหนุ่มใน

ชุดสูท...

“งานข้างล่างพร้อมแล้วครับคุณดิน ทั้งสถานที่ อาหาร เครื่องดื่ม...อีก

ไม่เกินครึ่งชั่วโมงแขกก็คงทยอยมาก้น” ผู้ค้อมศีรษะรายงานมิใช่ชายหนุ่มผมยุ่ง ในเสื้อเชิ้ตพับแขน หากแต่เป็นคนในชุดสูทนั่นต่างหาก

ชายหนุ่มหน้าเข้มที่ถูกเรียกว่า ‘คุณดิน’ พยักหน้ารับรู้ ยกมือขึ้นเสยผม ลวกๆ เดินไปที่โต๊ะทำงานตัวใหญ่ ถามขรึมๆ...

“แล้วแขกที่อยู่บนห้องพักเป็นไง ?”

“เห็นบางคนก็ลงมาเดินเล่นรองานเริ่มอยู่แถวสระว่ายน้ำแล้วครับ”

“อืม เดี๋ยวนายก็ลงไปเฝ้าดูแลทุกอย่างให้เรียบร้อย อย่าให้ขาดตก- บกพร่อง งานใหญ่แบบนี้ฉันไม่อยากให้เขาไปพูดถึงรีสอร์ตเราในทางไม่ดี”

“คุณดินไม่ต้องห่วง ผมจัดการสอบถามความคิดเห็นของแขกที่มาเข้า

ร่วมประชุมและพักอยู่ที่รีสอร์ตเราตลอด ๕ รัน ร้อยละ ๙๐ บอกว่าประทับใจ

มากครับ”

“แล้วอีก ๑๐ ที่เหลือล่ะ”

“อยู่ในขั้นพอใจครับ แค่บอกว่าอากาศข้างนอกร้อนเกินไป ซึ่งก็ต้อง'โทษ ภาวะโลกร้อนไม่ใช่ความบกพร่องของรีสอร์ตเรา”

ปฐพีพยักหน้า เลือกที่จะทำหูทวนลมกับปากคอเราะรายของเลขาฯ

หนุ่มคนสนิทอย่างนที ปลายเดือนตุลาคมเช่นนี้ อากาศร้อนก็ยังดีกว่าฝนตก

“ดี จัดการให้เรียบร้อย เพราะถ้าเกิดอะไรผิดพลาดขึ้น ไม่ใช่จะเสียชื่อ

แค่รีสอร์ต แต่จะส่งผลไปถึงภาพพจน์ประเทศด้วย”

ช่วงสามวันที่ผ่านมา ทางรีสอร์ตได้รับเกียรติให้เป็นสถานที่จัดการ ประชุมนานาชาติภูมิภาคเอเชียเกี่ยวกับเรื่องอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ซึ่งประเทศ ไทยเป็นเจ้าภาพ ด้วยความที่ต้องการให้งานออกมาดีที่สุดเพี่อหน้าตาของ

ประเทศ ทำให้ปฐพีซึ่งจริงจังกับงานเป็นทุนเดิม ยิ่งต้องเครียดเป็นพิเศษ

และนทีรู้ดี เจ้านายของเขาไม่ได้กลับบ้านมาหลายวันแล้ว เพราะต้องการ

 อยู่ควบคุมดูแลให้แน่ใจว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างเรียบร้อยและราบรื่นที่สุด

งานเลี้ยงปิดประชุมวันนี้นับว่าเป็นโค้งสุดท้ายที่แสนสำคัญ นอกจาก ตัวแทนจากประเทศต่าง ๆ ที่มาเข้าร่วมประชุม ยังมีผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง

ของวงการภาพยนตร์ และคนสำคัญของจังหวัดมาร่วมอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา

ดังนั้นเขาจะให้พลาดไม่ได้

                ปฐพีกวาดกองเอกสารรก ๆ บนโต๊ะหลบไปทางหนึ่ง ดึงเสื้อสูทที่พาดไว้

ลวก ๆ บนพนักเก้าอี้ขึ้นมา มองความยับของมันซึ่งต่างจากสูทเรียบกริบที่

ลูกน้องหนุ่มใส่อยู่ราวฟ้าคับดิน แล้วส่ายหน้า

“เดี๋ยวตอนออกไปช่วยแวะสั่งแม่บ้านเอาสูทตัวใหม่มาให้ฉันด้วย”

“เอาเชิ้ตตัวใหม่ด้วยไหมครับ” นทีมองเสื้อเชิ้ตยับ ๆ ของเจ้านาย “ผมว่า ตัวที่ใส่อยู่มัน...”

“ไม่เป็นไร ใส่สูท,ทับ’ไปก็ยับอยู่ดี อีกอย่างงานนี้ฉันให้นายออกหน้าแล้ว ด้งนั้นฉันไม่ต้องเนี้ยบเท่านายก็ได้”

“ครับ...คุณดิน” นทีอมยิ้มแล้วค้อมศีรษะให้เจ้านาย ก่อนทำทำจะเดิน ออกไป แต่ปฐพีเรียกเอาไว้ท่อนอย่างนึกอะไรได้

“ครับ ?”

“เหมือนเคย...ระวังอย่าให้ใครเข้าไปใกล้...ห้องนั้น”

“ทราบครับ คุณดินยํ้าผมแบบนี้ทุกครั้งที่โรงแรมมีงานมา ๑๘ เดือนแล้ว นะครับ”

“เออ รีบไปเลย ก่อนที่ฉันจะหมั่นไล้นายจนต้องจ้างคนอื่นมาคอยรับ คำสั่งแทน”

“ถ้าคุณดินอยากมีเลขาฯ สาว ๆ สวย ๆ มารับคำสั่งแทนเลขาฯ หล่อ ๆ อย่างผม ผมก็จะยอมหลีกทางให้ครับ” นทีหัวเราะร่วนแล้วรีบก้าวไปยังประตู

ก่อนจะออกไปยังทันได้ยินรสนา ผู้ช่วยเลขาฯ ที่นั่งอยู่ด้านนอกล่งเลียงใสแจ๋ว ออกมาจากล่าโพงโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานของปฐพี รายงานว่า...

“สายจากที่บ้านค่ะคุณดิน”

“โอนเข้ามา”

สั่งยังไม่ทันขาดคำ เลียงของคนที่ถูก โอนสาย’ เข้ามาก็ด้งขึ้นโหวกเหวก ตามนิสัยของเจ้าตัว

“เฮ้ย...ไอ้ดินลูกรัก !”

ปฐพีรีบคว้าหูโทรศัพท์ยกขึ้น เพี่อยุติเลียงของบิดาที่ทะลุทะลวงผ่าน ล่าโพงโทรศัพท์บนโต๊ะด้งสั่นห้อง ทำเอานทีกลั้นหัวเราะจนไหล่สั่นตอนเดิน ออกไป

“แกได้หลานสาว แล้วนะโว้ย”

“อะไรนะครับพ่อ”

“แกได้หลานสาวแล้ว หนักสามกิโลกว่า หน้าตาน่าเกลียดน่าชังเชียวโว้ย” “ฝากบอกไอ้ไฟด้วยนะพ่อว่าผมยินดีกับมันด้วย” ปฐพีตอบไปด้วย

น้ำเลียงตื่นเต้น แล้วได้ยินอัคนีตะโกนตอบแทรกมาทันควัน

“ได้ยินแล้ว”

“เออ...ดีใจด้วยโว้ย”

“แล้วนี่วันนี้มีงานเลี้ยงไฮโซใช่ไหม” เลียงมนตรีถามมา “...แม่เขาอยาก

รู้ว่า เลิกงานเลี้ยงแล้วจะกลับบ้านได้ชะทีไหมวะ แม่แกคิดถึง บ่นว่าลูกชายจะ

ขลุกตัวอยู่กับงานที่รีสอร์ตนานเกินไปแล้วนะโว้ย บ้านก็อยู่ใกล้กันแค่นี้ แต่เดาะ ไม่ยอมกลับมากินข้าวเย็นพร้อมหน้าพร้อมตากันที่บ้านหลายวันแล้ว”

“นี่ยายนํ้าก็ขออนุญาตเจ้าชายบินกลับมาดูหน้าหลานสาวด้วยนะ ตอนนี้กำลังจะขึ้นเครื่องมาแล้ว” เสียงมารดาแทรกเข้ามาอีกหลังวางโทรศัพท์จากทิพย์ธารา

“นั่นสิ ขาดลูกชายคนโตไปคนนึงมันเหงานะโว้ย”

ฟังผู้เป็นพ่อตัดพ้อแล้ว ปฐพีก็หัวเราะหึ ๆ

“ไม่เชื่อหรอกครับ พ่อมีลูกเขยกับลูกสะใภ้เพิ่มมาแล้ว แถมยังมีหลาน

ชายหลานสาวเพิ่มมาอีกต่างหาก ชาดผมไปคนนึงจะเป็นอะไรไป” พูดไปแล้ว

ก็ต้องกลั้นยิ้ม เมื่อได้ยินเสียงมนตรีหันไปพูดกับภรรยาที่คงจะยืนอยู่ข้าง ๆ

“ดูมันพูด หาว่าเราลืมมัน”

ปฐพีอมยิ้ม เขาแกล้งน้อยใจไปอย่างนั้นเอง เพราะภาพครอบครัวที่

น้อง ๆ ฝาแฝดทั้งสามของเขา ซึ่งคนหนึ่งเพิ่งหาลูกเขยคนเดียวของบ้านมาให้

แถมลูกเขยยังเป็นถึงมกุฎราชกุมารแห่งประเทศปารวัตร ส่วนน้องชายอีกคน

ก็เพิ่งแต่งสะใภ้ซึ่งเป็นลูกสาวคู่อริจากฟาร์มข้าง ๆ มาเพิ่มเป็นสมาชิกใหม่เมื่อ

ไม่นานมานี้ นึกถึงทีไรก็ชวนให้อบอุ่นใจทุกครั้ง

เหลือเพียงเขาผู้บ้างาน กับวายุภัค น้องชายซึ่งมีคำนำหน้าชื่อว่า ‘คาสโนว่า’ ตัวจริงนั่นแหละ ที่ยังคงลอยไปลอยมา

“ครับพ่อ ผมสัญญา เสร็จงานเลี้ยงคืนนี้ผมจะรีบกลับบ้าน เอาหน้าไปโชว์ให้ทุกคนหายคิดถึงทันที”

“ดีมากไอ้ลูกชาย”

“งานจะเริ่มหรือยังจ๊ะดิน?” คราวนี้เสียงหวานๆ ของสุพรรษาแทรกเข้ามาแทน

“ใกล้แล้วครับ นี่ผมก็กำลังจะลงไปดูเสียหน่อย”

“จ้ะ แต่ยังไงก็ห้ามลืมกินข้าวนะ” ต่อให้ลูกชายโตเป็นหนุ่มรัยสามสิบปี แล้ว แตกยังอดห่วงไม่ได้ตามประสาคนเป็นแม่...ก็แหม กว่าจะได้ลูกแฝดทั้ง

สี่คนมา ต้องพึ่งพาวิทยาการทางการแพทย์แทบทุกวิธีที่มีอยู่ในโลกกว่าจะสำเร็จก็ต้อง เป็นห่วงกันหน่อย

“...แล้วพรุ่งนี้เจอกันจ้ะลูก”

แล้วมารดาเขาก็วางสายไปก่อนที่บิดาซึ่งยังมันปากอยากคุยต่อจะคว้า หูโทรศัพท์เอาไว้ได้ทัน

งานเลี้ยงปิดการประชุมถูกจัดโดยแบ่งออกเป็นสองส่วน คือส่วนห้อง

จัดเลี้ยงใหญ่ของรีสอร์ตสำหรับแขกผู้ใหญ่และบุคคลสำคัญ และที่ริมสระว่ายนํ้า สำหรับผู้เข้าร่วมประชุม ครอบครัว นักข่าว และเหล่าเชเลบริตีที่เดินทางตรง

มาจากกรุงเทพฯ

ผู้ชายในชุดสูทสีเข้มสองคน คนหนึ่งดูโก้หรูเป็นทางการ อีกคนดูสุภาพ แบบเรียบ ๆ กำลังเดินลัดเลาะอยู่ริมนอกส่วนของงานเลี้ยงบริเวณริมสระว่ายนํ้า ทรงโค้งขนาดใหญ่กลางสวน และหยุดยืนตรงมุมมืดใต้ต้นไม้ จุดที่จะไม่เป็นที่ สังเกตของใคร หากแต่สามารถมองเห็นความเป็นไปได้ทั่วทั้งงาน

“อาหารเรียบร้อยไหม?” คนในชุดสูทเรียบๆ ถามขึ้น

“เรียบร้อยดีครับคุณดิน แขกติดใจรสชาติไวน์องุ่นล็อตใหม่ที่คุณลม

ส่งมาคันใหญ่”

“ชีเคียว'ริตีล่ะ ?”

“ไม่มีปัญหาครับ ผมยํ้าอย่างที่คุณดินสั่งแล้ว เรื่องตรวจบัตรเชิญคับ ตรวจอาวุธ”

“ดี...ยํ้าให้คอยสังเกตแขกในงานด้วยว่า มีใครน่าสงสัยหรือเปล่า”

“ไม่ต้องห่วงครับคุณดิน กำชับไปแล้ว ตอนนี้ยังไม่มีรายงานอะไร”

“ดี...” พูดจบเขาก็หันหลัง แต่แล้วก็ต้องชะงัก เมื่อสายตาปะทะเข้ากับสาว สวยคนหนึ่ง

เธอ...อยู่ในชุดเดรสยาวเกาะอกสีน้ำตาลทอง ที่เหมือนเจ้าตัวจงใจโชว์

ผิวนวลน่ามองด้วยการไม่ใส่เครื่องประดับมากนัก นอกจากต่างหูไข่มุกประดับ เพชรเม็ดเล็ก ๆ คู่เดียว และที่คล้องกับไหล่เรียวคือกระเป๋าหนังนกกระจอกเทศ

ติดตราแบรนด์เนมรูปตัวชีไขว้กัน...

ดูแล้วเธอก็ไม่ผิดกับหญิงสาวในวงสังคมสักคน ไม่แปลกใจถ้าเธอจะ

เป็นลูกสาวนักการเมือง ผู้หลักผู้ใหญ่ในธุรกิจภาพยนตร์ไทย หรือดาราหน้าใหม่ ในวงการบันเทิง

แต่ไม่ใช่เพราะความสวยสง่ากับการแต่งตัวอันหรูหราของเธอหรอก

ที่ทำให้ปฐพีหยุดและมอง หากเพราะอากัปกิริยาที่เรียกได้ว่า ‘ด้อม ๆ มอง ๆ’

ก็ไม่ผิดนักของหญิงสาวต่างหาก

ขณะที่แขกเหรื่อคนอื่นกำลังเพลิดเพลินกับอาหารละลานตาที่เรียงราย

อยู่บนโต๊ะริมสระว่ายนํ้า เครื่องดื่มทั้งไวน์ วิสกี้ แซมเปญรสเลิศ และบท

สนทนา...หญิงสาวผู้นี้กลับยืนลับๆ ล่อๆ อยู่ข้างโต๊ะกระจกวางของหวานชิ้น

เล็ก ๆ เรียงสูงเป็นชิ้น มือเรียวง่วนอยู่กับกระเป๋าสะพายใบหรู สลับกับสอดส่าย สายตาไปรอบๆ เหมือนกำลังสังเกตลังกา

แต่น่าแปลกที่หล่อนกลับไม่ได้ ‘สังเกต’ ว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในสายตา ของปฐพี ที่ยืนอยู่ในเงามืดของต้นไม้ใหญ่ซึ่งไม่ได้ห่างไปเท่าไรนัก

หน้าขรึมของปฐพีเคร่งชิ้น เขาขยับศอกสะกิดสีข้างเลขาฯ หนุ่มคนสนิททีหนึ่ง โดยยังไม่ได้ละสายตาไปจากเธอ...

“แล้วนั่นล่ะ...”

“ครับ ?” นทีหรี่ตามองตามที่ปฐพีพยักพเยิดไป แล้วคิ้วเข้มตัดกับผิวหน้า ขาวของเขาก็ขมวดตาม เมื่อเห็นหญิงสาวผู้ท่าท่าทางมีพิรุธคนที่เจ้านายมองอยู่

เขาเห็นหญิงสาวผู้น่าสงสัยมองซ้ายมองขวาอีกที ก่อนจะท่าอาการ

เหมือน ‘ย่อง’ ผลุบหายไปทางหนึ่งซึ่งพ้นไปจากรัศมีสายตาของชายหนุ่มทั้งสอง นทีหันไปสบตาปฐพี ฝายนั้นพยักหน้านิดหนึ่ง เลขาฯ หนุ่มก็ค้อมศีรษะรับ

อย่างเข้าใจสิ่งที่ผู้เป็นเจ้านายสื่อสารในทันทีแม่ไม่ต้องพูด อย่างคนสนิทที่รู้ใจกัน

นทีเดินแยกไปอย่างเงียบ ๆ ในทิศทางที่หญิงสาวผู้น่าสงสัยเพิ่งเดินไป

ไม่นานเขาก็เห็นเธอ ขายาว ๆ ก้าวตามไปห่าง ๆ กระทั่งเธอเลี้ยวเข้าไปในมุมที่

มีป้ายชี้ไปสู่ห้องน้ำหญิง นทีต้องหยุด เพราะหากเดินตามเข้าไปในทางเดิน

แคบ ๆ และปลอดคนนั้น เธอจะต้องรู้ตัวแน่ว่าถูกตาม

เลขาฯ หนุ่มของปฐพีรู้สึกเซ็งนิดหน่อย เมื่อคิดว่าถ้าเข้าไปในห้องน้ำ

หญิงเมื่อไร เธอก็จะคลาดไปจากสายตา เขาจะย่องตามไปดูก็ไม่ได้ และในนั้น

ก็เป็นจุดที่ไม่มีกล้องวงจรปิดเสียด้วย หรือจะต้องเสี่ยงให้ รปภ.บุกเข้าไปขอตรวจค้น...

ทว่ายังไม่ต้องท่าอะไรที่ยากล่าบากขนาดนั้น เพราะไม่ทันจะเลี้ยวเข้าไป ในห้องน้ำ จู่ๆ เธอก็หยุดชะงัก ร้อง ‘อุ๊ย!’

เสียงโลหะชิ้นเล็ก ๆ หล่นกระทบพื้นหินอ่อนขัดมัน สายตาดีเป็นเลิศของนทีเห็นอย่างชัดเจนว่า มันคือตัวอักษรโลหะสีทองรูปตัวชีไขว้กันซึ่งเป็น

ตราแบรนด์เนมของกระเป๋าที่เธอคล้องไว้กับแขนนั่นเอง จู่ ๆ มันก็หลุดจาก

ฝากระเป๋าใบหรูร่วงลงพื้นเหมือนของไม่มีราคาเสียอย่างนั้น

“ไอ้ของก๊อบห่วยแตกเอ๊ย !”

เสียงสบถนั้นไม่ได้ดังไปกว่าเสียงกัดฟันเท่าไร แต่ประสิทธิภาพหูที่

ดีเลิศเช่นกันของนทีก็ได้ยินอย่างชัดเจน

‘ของก๊อบงั้น'หรือ ?’

‘ถึงตอนนี้ก็ได้ข้อสรุปอย่างหนึ่งแล้ว ยายคนสวยนี่ไม่ ‘ไฮโซ’ จริงอย่าง

ที่จงใจแต่งตัวมาสร้างภาพ...งั้นเธอเป็นใคร? แฝงตัวเข้ามาในงานทำไม?’

นทีคิดในใจขณะมองหญิงสาวที่ท่าท่าหัวเสีย ก้มลงตะครุบตราแบรนด์เนม ขึ้นมาจากพื้น พยายามปลํ้าติดมันกลับเข้าไปที่กระเป๋าอย่างทุลักทุเล ท่าทาง

แบบนั้นช่างไม่เข้ากับหน้าสวย ๆ และการแต่งตัวหรูหราของเธอเลยสักนิด

และคงจะเพราะหงุดหงิดและรีบร้อนมากไปด้วยกลัวใครมาเห็น จังหวะ หนึ่งมือเรียวคงจะออกแรงมากไปหน่อย จึงดึงให้สายคล้องหลุดจากแขน กระเป๋าทั้งใบควํ่าลงบนพื้น เทสิ่งที่อยู่ข้างในออกมากองเกลื่อน!

นทีมองอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง...

ไม่อยากเชื่อเลยว่า ไอ้กระเป๋าก๊อบปี้แบรนด์เนมใบเล็ก ๆ นั่นจะบรรจุ

ขนมไทยขึ้นเล็ก ๆ ห่อด้วยกระดาษเช็ดปากเอาไว้ได้มากมายขนาดนั้น !

“ขนมฉันๆๆๆ...หกหมดแล้วลูกแม่”

นทีเกือบจะยกมืออุดปากตัวเองเพี่อกลั้นหัวเราะไม่ทัน ‘สวยเสียเปล่า’

ทีนี้เขาก็มี ‘เรื่อง’ ไปรายงานปฐพีแล้วว่า สิ่งไม่ชอบมาพากลในกระเป๋า สะพายใบนั้นคืออะไร แล้วทำไมหญิงสาวผู้นี้จึงต้องง่วนอยู่กับกระเป๋าของตน

ด้วยท่าทางมีพิรุธตั้งแต่แรก

ชายหนุ่มส่ายหน้า แล้วเดินกลับมายังจุดที่ปฐพียืนรออยู่...เขาขยับเข้าไป กระซิบ ‘เล่า’ สิ่งที่ไปพบเห็นให้เจ้านายฟัง แล้วถอยออกมา

แทบจะพร้อมกับที่หญิงสาวคนเดิมที่คงจะ ‘เสร็จธุระ’ ของเธอแล้วจึง เดินกลับออกมาที่ริมสระว่ายน้ำ

 

ปฐพียืนเอามือไพล่หลัง มองเธอขยับเข้าไปยืนข้างโต๊ะขนมหวาน

อีกครั้ง...และพอเห็นเธอหยิบขนมใส่ปากชิ้นหนึ่ง ก่อนจะหันซ้ายหันขวาดูลาดเลา แล้วทำอาการที่เรียกได้ไม่ผิดว่า ‘จิ๊ก’ ขนมไทยชิ้นเล็ก ๆ

อีกหลายชิ้นห่อใส่ กระดาษเช็ดปากอย่างรวดเร็วแล้วชุกช่อนเข้าไปในกระเป๋าสะพาย...ปฐพีก็ส่ายหน้า

‘‘สงสัยต้องเก็บแทนที่ทำหกไปเมื่อกี้น่ะครับ” เสียงกลั้วหัวเราะของเลขาฯ คนสนิทดังอยู่ข้างๆ

“พอ...ไม่ต้องตามดูแล้ว”

“อ้าว...” นทีท้วง แหม...ก็กำลังสนุกทีเดียว

“ก็แค่พวกไฮโซเก๊ที่แอบเข้ามากินฟรี” เขาส่ายหน้าอย่างระอา เรื่องแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจหรือแปลกใหม่อะไรสำหรับคนอย่างเขา

ในงานเลี้ยงที่มี แขกเป็นจำนวนหลายร้อยคนเช่นนี้ มีเพียงการตรวจบัตรเชิญและตรวจอาวุธ เท่านั้น ยากที่จะรู้ว่าใครเป็นใคร ดังนั้นจึงเป็นโอกาสให้พวก ‘ไม่เกี่ยว’ เข้ามา

ร่วมแจมได้เสมอ ๆ

“แต่...”

“ที่นายควรไปจัดการคือฝ่ายชีเคียวริตี...” เสียงปฐพีขรึมชิ้นอย่างน่ากลัว เมื่อบอก “...แล้วอย่าให้ฉันรู้ว่ามีการปล่อยให้คนถือบัตรเชิญปลอมหลุดเข้ามา

เพ่นพ่านในงานได้อีก เพราะคราวหน้ามันอาจไม่ใช่แค่พวกมากินฟรีเหมือนแม่คนนี้ก็ได้”

เลขาฯ หนุ่มหน้าเจื่อนไปนิด

“ครับ คุณดิน”

ปฐพีมองผ่านไปยังหญิงสาวคนเดิมอีกครั้ง แล้วส่ายหน้า ‘สวยเสียเปล่า’ จากนั้นเขาก็เดินจากไปอย่างหมดความสนใจในตัวเธอโดยสิ้นเชิง

...แต่ปฐพีไม่ได้ตระหนักเลยว่า นั่นจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย ที่รีสอร์ตของเขา จะโดนหญิงสาวเจ้าของกระเป๋าหนังนกกระจอกเทศปลอมมาหลอก ‘กินฟรี’

ทั้งยังน่าเสียดายที่ทั้งปฐพีและนทีไม่มีความสามารถในการอ่านใจใครได้ จึงไม่ได้ล่วงรู้ความคิดของหญิงสาวที่พวกเขาจับตามองอยู่ตั้งนมนานว่า เธอ

กำลังร้องห้ามตัวเองในใจ

                                                                                     (ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

จู่ ๆ ‘ปฐพี’ หนุ่มเจ้าแผนการ เจ้าของธารารินรีสอร์ต ก็มีตัวป่วนเข้ามาเติมสีสันในชีวิต
‘ชะเอม’ สาวเจ้าเล่ห์ วางแผนเข้ามาสร้างความโกลาหลในรีสอร์ตของชายหนุ่มด้วยเหตุผลบางอย่าง
เขา...มีความสุขที่ได้จับตาดูว่าแม่ตัวยุ่งจะป่วนรีสอร์ตของตนอย่างไร
เธอ...ต้องปฏิบัติภารกิจที่หมายมาดจนสำเร็จให้จงได้…ถึงแม้จะมีคนบางคนคอย ตลบหลังก็เถอะ
จากคอยจับผิดกลายเป็นความเคยชิน จากความเคยชินก่อตัวเป็นความรัก
เมื่อหนุ่มเจ้าแผนการเจอกับสาวเจ้าเล่ห์ อะไรจะเกิดขึ้น !

รีวิว (5)

เขียนรีวิว

์Nattiez | 5 รีวิว
20/01/2015

นวนิยายชุดบ้านไร่ปลายฝัน เป็นเรื่องเกี่ยวกับแฝดสี่แห่งบ้านไร่อดิศวรคือ ดิน ลม ไฟ และน้ำ เรื่องราวนอกจากจะเล่าถึงความรักระหว่างพี่น้องและครอบครัวอดิศวรแล้ว ยังกล่าวถึงความรักของแต่ละคนอีกด้วย เล่มที่สามสำหรับซีรีย์ชุดบ้านไร่ปลายฝัน สำหรับปฐพีเล่ห์รักนั้น เราว่าค่อนข้างดร็อปกว่าเรื่องอื่นค่ะ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือหรือตอนทำเป็นละคร มันไม่เปรี้ยงเท่าสามเล่มที่เหลือ พล็อตเรื่องที่ผู้เขียนสร้างไว้คือการปลอมตัวเข้าไปสืบความลับของปฐพี หรือดิน ฝาแฝดคนโตของบ้านอดิศวรที่ทำกิจการรีสอร์ทอยู่ ในส่วนของความลับของดินที่ซ่อนไว้นั้น เราว่าค่อนข้างน่าสนใจ ถึงแม้ลักษณะของการซ่อนจะคล้ายในเล่มที่สองดวงใจอัคนี เพราะดันเก็บคีย์แมนเอาไว้ที่โรงพยาบาล แต่ส่วนที่ขัดใจเราพอสมควรคือ การสร้างตัวนางเอกของเรื่องคือชะเอม ให้เข้าไปสืบความลับของดิน ตอนแรกรู้สึกว่าชะเอมดูฉลาด ดูมีไหวพริบ แต่ตอนท้าย ๆ เราว่านางดูไม่ค่อยมีไหวพริบเท่าที่ควร แถมตัวละครชะเอม เราไม่ได้รู้สึกว่ามีดีอะไรมากมายจนพระเอกต้องหลงรัก เราเลยอ่านเรื่องนี้แล้วไม่อินมากนัก ซึ่งจะต่างจากเล่มอื่น ๆ ในซีรีย์ที่พระเอกกับนางเอกยังได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขมากกว่า ได้ช่วยเหลือและเห็นอกเห็นใจกันมากกว่า ส่วนที่ชอบในเล่มนี้คือ เล่มนี้ไม่มีฉากหวือหวา ถึงแม้จะเดินเรื่องเรียบง่าย แต่จุดที่พระเอกกับนางเอกอยู่ด้วยกัน เราก็ยังสัมผัสได้ว่าคุณปฐพีรักชะเอมมาก มีซีนที่พระเอกนางเอกกุ๊กกิ๊กกันพอเหมาะ ถึงแม้ว่าเล่มนี้จะไม่โดดเด่นเท่าเล่มอื่น แต่ก็อ่านได้ ไม่ชวนหลับซะทีเดียวค่ะ
SCR. | 5 รีวิว
01/12/2014

เล่มที่ 3 ในชุดของ บ้านไร่ปลายฝันนี้ ใครไม่ชอบแต่ฉันชอบมากเลยค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องของนายดิน พี่ชายคนโตที่สุดในบ้าน แปลกดีค่ะ เรื่องนี้ไม่เรียงเลยว่าจะต้องเป็นพี่ชายคนโตที่ต้องแต่งก่อน เริ่มจากน้องสุดเลยก่อนด้วย (เวลาเกิดก็ไม่ได้ต่างกันมากมายนักนะ) เรื่องนี้มีแบ็กกราวนด์เป็นเรื่องของรีสอร์ตค่ะ ดินเป็นคนดูแลด้านกิจการของรีสอร์ตทั้งหมด และต้องมาเจอกับ ชะเอม หญิงสาวผู้ปลอมแปลงประวัติส่วนตัวปลอมตัวเข้ามา โดยที่ดินก็ยังไม่แน่ใจว่าเข้ามาทำอะไร แต่ด้วยความเก่งของนที เลขาส่วนตัวที่รู้ใจนายสุด ๆ ทำให้ดินสนใจชะเอมว่าจะเข้ามาทำอะไร ซึ่งก็เป็นไปตามที่นายดินคาด คือชะเอมเข้ามาป่วนรีสอร์ตของเค้านั่นเอง แม้นายดินจะสามารถรับมือได้หมด แต่เค้าก็ยังมีชนักติดหลังอยู่เรื่องหนึ่ง แต่การได้ปะทะคารมกับชะเอมก็ทำให้เค้ามีความสุขมาก แม้จะไม่รูก็ตามว่าจุดประสงค์จริง ๆ ของชะเอมคืออะไร กว่าจะรู้เรื่อง เค้ากับชะเอมต่างก็เข้าใจผิดกันอย่างมากมาย ดีอยู่อย่างหนึ่งคือนายดินเป็นคนหนักแน่น ค่อนข้างมั่นใจ และเจ้าแผนการ เลยทำให้หลาย ๆ เรื่องเหมือนจะไม่เข้าใจแต่กลายเป็นว่าเค้าเข้าใจและยอมรับได้ ชอบค่ะ ชอบนายดินมาก ๆ เป็นผู้ชายที่มีเหตุผล ใช้สมองมากกว่าหัวใจ เป็นคนที่ดูแบบน่าเชื่อถือได้ ส่วนชะเอมก็น่ารักดีค่ะ ดูโก๊ะ ๆ ดี ชอบแผนที่นางวางไว้แล้วไม่เคยสำเร็จสักอย่าง อ่านแล้วรู้สึกขำดีค่ะ
ฐาปนัส | 5 รีวิว
13/07/2014

ผู้เขียน ร่มแก้ว สำนักพิมพ์ พิมพ์คำ จำนวนหน้าหนังสือ 324 หน้า เล่มนี้ดูจะเหมือนเป็นเล่มที่บางที่สุดนะครับ จากทั้ง 4 เล่ม ซึ่งเมื่อทำละครแล้ว ปรากฎว่าแป้กที่สุด ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่ผมชอบมินต์ ชาลิดาจากเรื่องนี้มากครับ ชอบเพลงประกอบละครที่ผู้หญิงร้องด้วย บ่งบอกความรักที่นางเอกมีต่อพระเอกได้ดีทีเดียว ผมเคยบอกตอนรีวิว "ธาราหิมาลัย" ไปแล้วว่า เรื่องนี้น่าเบื่อที่สุด ใช่ครับ น่าเบื่อที่สุดในบรรดาละคร แต่หนังสือผมก็โอเคนะ เป็นเรื่องเดียวที่ไม่มีฉากอย่างว่าครับ (ทุกเรื่องมีหมดเลย) เรื่องนี้เป็นเรื่องของ "ดิน หรือ ปฐพี" ลูกชายคนโตเจ้าแผนการของบ้าน ผู้คิดทำนู้นทำนี่จนเกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นมา (ในตอนท้าย ๆ ก็จะเฉลยว่าเกิดจากอะไร) กับ "ชะเอม" สาวน้อยเจ้าแผนการที่ปลอมตัวมากครับ ซึ่งผมว่าสนุกนะ กับการที่พระเอกซ้อนแผนนางเอกไป ๆ มา ๆ ซึ่งมันจะโยงไปถึงเรื่องในอดีตที่เคยเกิดขึ้น และเรื่องปัจจุบันที่นางเอก เป็นลูกสาว (เมียน้อย) ของคู่แข่งทางการค้าของพระเอกครับ ซึ่งพระเอกก็จะปวดหัวมาก ๆ กับการกระทำของนางเอก และเมื่อปวดหัวมาก ๆ ก็เลยกลายเป็นความสนุกที่ได้จับตาดูนางเอกว่า วันนี้จะก่อวีรกรรมอะไรขึ้นมาครับ เรื่องนี้จะเน้นเกี่ยวกับเรื่องของการโรงแรมเป็นหลัก เพราะพระเอกดูแลรีสอร์ทกึ่งโรงแรมอยู่ นางเอกจะปลอมตัวเข้ามาเป็นพนักงาน เรื่องนี้ไม่ค่อยมีฉากหวาน ๆ มากครับ เนื่องจากพระเอกเป็นมนุษย์ประเภทปากแข็งและไม่ค่อยพูด ส่วนนางเอกนี่ตรงข้ามมากคือพูดไม่หยุดและเถียงทุกคำ มันเลยดูน่ารัก ๆ ไปอีกแบบครับ และแผนการแต่ละอย่างนี่ก็ เออเนอะ ช่างคิดได้ คิดได้ไงว่าพระเอกจะไม่รู้ มันเลยขำ ๆ ตรงนี้ไปด้วยครับ อ่านแล้วยิ้มได้ว่างั้นเถอะ สรุปว่านางเอกเรื่องนี้เกรียนที่สุด แต่เรื่องนี้มีแอคชั่นพอสมควรนะ พระเอกต้องโดดน้ำไปช่วยนางเอก ถือปืนไปช่วยนางเอก วางแผนเพื่อช่วยนางเอก สรุปว่านางเอกนี่แหละก่อเรื่องทั้งหมด ไม่มีคนอื่นเลย แต่ผมชอบนะนางเอกแบบนี้ ดุเป็นตัวป่วน วุ่นวายดีครับ และถึงแม้จะป่วนแค่ไหน สุดท้ายนางเอกก็สามารถทำให้พ่อยอมรับทั้งตัวเองและยอมเป็นพันธมิตรทางการค้ากับพระเอก และทำให้ตัวโกงต้องถูกดำเนินคดีได้ในที่สุดครับ และที่ขำที่สุด อ่านทีไรก็หัวเราะคือเรื่อง "โรคแพ้ตุ๊ด" ของพระเอกครับ ถ้าตุ๊ดโดนตัวเมื่อไร จะเกิดลมพิษขึ้นทันที ไม่น่าเชื่อว่าโรคนี้จะมีอยู่จริง นั่นละครับ นางเอกก็คงไม่เชื่อถึงได้ลองของและต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นครับ ผมคิดว่าหนังสือสนุกกว่าแน่นอน เลยอยากให้อ่านหนังสือกันครับสำหรับคนที่ดูละครแล้วบอกว่าไม่สนุก เนื้อเรื่องจะค่อนข้างกระชับกว่า และนางเอกไม่งี่เง่าเหมือนในละครด้วย ในหนังสือจะบอกที่มาที่ไปของนางเอกได้ดีทีเดียวครับว่าเพราะอะไร ทำไมต้องปลอมตัวมา และใครที่คอยปองร้ายพระเอกอยู่ตลอดเวลา เรื่องราวจะจบลงยังไงครับ
Eng_za | 5 รีวิว
13/12/2013

สี่หัวใจแห่งขุนเขา ปฐพีเลห์รัก ซี่รี่ย์ชุดนี้มีโอกาสได้อ่านเนื่องจากค่อนข้างจะดังมากๆ ในโลกออนไลนืเลยต้องหยิบมาอ่าน เคยดูละครแบบผ่านๆ อ่านจบบอกได้คำเดียวว่าเรื่องนี้สนุกมาเลยทีเดียว เป็นเรื่องแรกในชุดนี้ที่ได้อ่าน ตอนแรกแกรงว่าจะเกิดความไม่ต่อเนื่อง เพราะว่ามันเป็นนิยายภาคต่อ แต่เราดันมาอ่านเล่มนี้ก่อน แต่เมื่ออ่านไปแล้วก็พบว่าไม่จำเป็นต้องอ่านต่อค่ะ เพราะว่าเนื้อหาจะต่อเนื่องกันเฉพาะความสัมพันธ์ในครอบครัวของเหล่าพี่น้อง 4 คนเท่านั้น ส่วนเนื้อหาจะลงลึกไปที่ตัวตนของตัวละครแต่ละเรื่อง อย่างเรื่องนี้เป็นเรื่องของ ปฐพี พี่ชายคนโตของเรื่องที่บุคลิกจะค่อนข้างฉลาดกว่าคนอื่น เจ้ากี่เจ้าการ จอมวางแผน มาเจอกับแม่สาวน้อยที่เฮี้ยวไม่แพ้กันปลอมตัวเข้ามาในรีสอร์ทของพระเอกเพื่อที่จะล้วงความลับไปให้พ่อเพื่อให้เธอได้รับการยอมรับจากพ่อ เธอจึงยอมทำทุกอย่าง ใช่ว่าพระเอกจะไม่รู้ทันรับนางเอกเข้ามาทำงานทั้งที่รู้ว่าฌะอปลอมตัวมา จุดเด่นของเรื่องนี้คือพระนางเลย เพราะเป็นตัวหลักในการดำเนินเรื่องและโดดเด่น เนื้อหาของนิยายก็มีความแตกต่าง อ่านสนุกทำให้คนอ่านได้อ่านไปยิ้มไป ไม่รู้ว่าว่าน่าเบื่อหรืออยากจะวางลงเมื่ออ่านได้ครึ่งทาง สำหรับคนที่ชอบนิยายแนวเบาสมองแต่อ่านสนุกต้องอ่านเรื่องนี้เลยเพราะมีทุกอย่างที่ทำให้คอนิยายอย่างเราเพลิดเพลินไปกับมันค่ะ
ศรัญญา | 5 รีวิว
06/09/2013

นิยายเรื่องนี้ขอออกตัวก่อนเลยว่าอ่านแล้วชอบมาก ชอบที่สุดใน 3 เรื่องที่อ่าน จริงๆ คิดว่าเรื่องนี้คงไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่เพราะว่ามันไม่ค่อยตื่นเต้นนัก เพราะตัวพระเอกดูเป็นผู้ชายที่ฉลาด ขรึม ไม่ร้อนแรงเหมือนไฟ (อัคนี) ไม่เร้าใจเหมือนหนุ่มเจ้าชู้ในไร่องุ่นอย่างลม แต่เมื่อได้อ่านบอกตามตรงนะคะ วางไม่ลงเลยทีเดียวต้องอ่านแบบม้วนเดียวจบ ขอชมร่มแก้วคนเขียนเขียนได้ดีมาก คือเรื่องดำเนินไปแบบมีที่มาที่ไป มีแผนการ มีความน่ารักของตัวละคร และบวกกับความงดงามของบรรยากาศ เมื่อปฐพี อดิศวร ลูกชายคนโตของครอบครัวจบบริหารและเข้ามาบริหารงาน ธารารินทร์รีสอร์ท ต่อจากครอบครัว ดิน หนุ่มหล่อเจ้าแผนการ ฉลาดเป็นกรดวันหนึ่งต้องมาเผชิญหน้ารับมือกับ ชะเอม ที่ปลอมตัวเข้ามาสมัครงานในไร่หวังจะวางแผนทำลายชื่อเสียง ธารารินทรืรีสอร์ท เพื่อให้เพื่อของเธอยอมรับในตัวเธอและแม่เธอจึงได้รับข้อเสนอให้มาทำลายชื่อเสียงธารารินทร์รีสอร์ท ทำอย่างไรก็ได้ให้ชื่อเสียงของธารารินทร์รีสอร์ทเสื่อมเสีย จึงวางแผนเข้ามาทำงานในธารารินทร์รีสอรืทเอให้ง่ายต่อการทำงาน แต่ว่าดินเจ้าของรีสอร์ทที่ฉลาดและเจ้าแผนการหาใช่ไม่รู้เรื่องที่ชะเอมปลอมตัวเข้ามาในรีสอร์ท จึงทำการซ้อนแผนโดยรับเธอเข้าทำงานเพราะก็อยากรู้ไม่น้อยว่าที่เธอจะเข้ามาทำงานในรีสอรืทของเขาเธอต้องการทำอะไร ดีกว่าปล่อยคนร้ายไปไกลหูไกลตา สู้รับมาอยู่ใกล้ซะเลย และคอยจับตาดูทุกความเคลื่อนไหวของยัยตัวแสบทุกฝีก้าว ด้วยต้องเห็นต้องเจอ และการแอบตามและคอยจับตาดูชะเอมทุกการกระทำเกิดเป็นความเชยชิน จากความชินชาเริ่มมองเห็นความน่ารักในตัวชะเอม ความรักจึงค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นวันละเล็กวันละน้อย (อ่านไปยิ้มไป) และในที่สุดคุณดินก็หลงรักชะเอมเต็ม ๆ และยิ่งเมื่อรู้ความจริงทั้งหมดว่าเธอเป็นลูกใคร และปลอมตัวเข้ามาในดร่เพื่ออะไรจึงอดที่จะสงสารชะเอมไม่ได้ เธอเป็นผู้หญิงที่น่ารัก แก่นแก้ว อ่านเรื่องนี้แล้วทำให้ไม่ผิดหวังเลยค่ะ ภายใต้มาดอันเคร่งขรึมของคุณดิน แห่งธารารินทร์รีสอร์ทแต่เวลาที่อยู่กับนางเอกนะ อ่นละทวย บางครั้งแอบติงต๊อง นางเอกก็ได้ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันน่ารักมาก เอ๋อๆ โก๊ะ ๆ ดีชอบๆ ค่ะ ชอบเรื่องนี้ที่คุณดินดูโดเด่นกว่าพี่น้องคนอื่นขึ้นมา ดูจะเป็นพี่ชายคนโตด้วยมาด ภาระการงาน คาเรกเตอร์พระเอกกับนางเอกเรื่องนี้ชัดเจนมาก ทำให้ตัวพระนางเด่นออกมาจากละคร การันตีความสนุกสานอีกเรื่อง เรื่องนี้กระชับไม่เวิ่นเว้อ

สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024