กามเทพเสี่ยงรัก (พระจันทร์สีชมพู)

กามเทพเสี่ยงรัก (พระจันทร์สีชมพู)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160012237
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 220.00 บาท 55.00 บาท
ประหยัด: 165.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

                                   1

           ความทรงจำ...ที่ไม่เคยลืมนคร

 

นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา

หญิงสาวชาวเอเชียรูปร่างสมส่วน ผิวขาวอมชมพูอย่างคนสุขภาพดี

เรือนผมดำขลับรับกับดวงตากลมโตราวกับลูกแก้ว จมูกโด่งเรียวเล็กตาม

แบบฉบับผู้หญิง ริมฝีปากอิ่มสีชมพูระเรื่อ กำลังเอนกายใต้ต้นไม้ใหญ่

ในสวนสาธารณะใกล้ทะเลสาบกว้าง ข้างๆ ตัวมีหนังสือเล่มหนาวางอยู่

เป็นตั้งสูง เธอประสานมือวางบนหน้าอก (ใหญ่) ค่อยๆ หลับตาลงช้าๆ

อย่างง่วงงุน

“น้องภีม! ลืมตาขึ้นมาเดี๋ยวนี้” เสียงของกีรติทำให้ภีมพัตราที่

กำลังจะเข้าสู่ห้วงนิทราสะดุ้งเฮือกเหมือนถูกดึงตกลงมาจากที่สูง เธอ

รีบดีดตัวลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว

            “อุ๊ย! พี่ติอะ เรียกเสียงดัง ภีมตกใจหมดเลย” หญิงสาวขี้อ้อน

หันมาเอ็ดรุ่นพี่คนสนิทที่รู้จักกันมาเกือบสามปีอย่างไม่จริงจังนัก กีรติ

คือชายหนุ่มหน้าตาดีที่มีคิ้วหนาดกดำเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว ดวงตา

สีน้ำตาลเข้มจัด รูปร่างสูงใหญ่สมชายชาตรี เขาเป็นทายาทเจ้าของธุรกิจ

บ่อพลอยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ชายหนุ่มเดินทางมาศึกษาต่อในระดับ

ปริญญาเอกที่สหรัฐอเมริกา ในเวลาไล่เลี่ยกับหญิงสาวที่มาดูงานและ

เรียนต่อปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน

   ภีมพัตรา วัชรบดินทร์ ลูกสาวคนเล็ก (แต่อย่างอื่นไม่เล็กตาม

ไปด้วย) ของบ้านวัชรบดินทร์ เจ้าของโรงแรมห้าดาวชื่อดังของจังหวัด

เชียงใหม่ ตัดสินใจจากบ้านที่แสนอบอุ่นมาไกลถึงที่นี่ นอกจากมาเพื่อ

ศึกษาหาความรู้และหาประสบการณ์ใหม่เพิ่มเติมแล้ว หญิงสาวยังถือ

โอกาสหลบมารักษาโรคหัวใจสลาย ซึ่งเรื้อรังมานานหลายปีจนกลาย

เป็นปมในใจที่ยากจะแก้ไข สาวสวยวัยยี่สิบเจ็ดปีช่างอาภัพรัก

คนที่แอบรักไม่เคยเหลียวแล

“ไหนบอกว่าจะมาอ่านหนังสือเตรียมสอบไงครับ ทำไมถึงมานั่งหลับ

อยู่แบบนี้ ฮึ” กีรติถามหญิงสาวที่เขารู้สึกถูกตาต้องใจตั้งแต่ครั้งแรกที่

ได้เห็นอย่างสนิทสนมคุ้นเคย ทั้งสองพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์เดียวกัน

และแชร์ห้องอยู่ด้วยกัน โดยภายในห้องใหญ่แบ่งเป็นสองห้องนอนย่อย ห้องรับแขก

และห้องครัว จึงไม่แปลกที่ชีวิตประจำวันของทั้งคู่นอกจากแยกย้ายกันไป

เรียนแล้วก็มักจะผูกติดอยู่ด้วยกันเสมอ

“ภีมก็อ่านอยู่นะคะ แต่พออ่านไปอ่านมา ตามันก็เริ่มปิดลงเรื่อยๆ

ซะงั้น ภีมแค่เผลอหลับไปแป๊บเดียวจริงๆ นะ” ภีมพัตรารีบชี้แจงให้กีรติ

เข้าใจ เหมือนเด็กที่กลัวผู้ใหญ่จะทำโทษเวลาที่เผลอทำอะไรผิด

ชายหนุ่มมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างเอ็นดู ตั้งแต่วันแรกที่พบกัน

จนมาถึงวันนี้ ภีมพัตราก็ยังคงน่ารักเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน

“พี่ก็ยังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย แค่ถามดูเฉยๆ เอง ทำเป็นร้อนตัว

ไปได้”

“อ้าว”

“อ้าว เอ้อ อะไรล่ะยายโก๊ะ ว่าแต่หิวหรือยังล่ะ เกือบจะห้าโมงแล้ว

ไปหาอะไรกินกันมั้ย เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง” กีรติบอกอย่างใจป้ำ

ภีมพัตรายิ้มจนตาหยี รีบเก็บหนังสือและอุปกรณ์เครื่องเขียนใส่

กระเป๋าอย่างรวดเร็ว ราวกับกลัวว่าชายหนุ่มจะเปลี่ยนใจ แต่เพราะความ

รีบร้อนเลยทำให้สมุดโน้ตเล่มหนาหล่นลงมาบนพื้น แผ่นกระดาษปลิวไป

ตามแรงลม กีรติก้มลงเก็บรูปใบหนึ่งที่หลุดออกมาจากสมุดด้วยหัวใจ

สั่นไหว

มันเป็นรูปของภีมพัตราถ่ายคู่กับผู้ชายหน้าตาคมคายที่มอง

อย่างไรก็ดูเหมาะสมกันราวกับสวรรค์สร้าง หญิงสาวเองก็ชะงักงันเมื่อ

เห็นรูปในมือของชายหนุ่ม มันเป็นรูปที่เธอพยายามหาอยู่ตั้งนาน แต่หา

เท่าไรก็หาไม่เจอ จนเธอเริ่มถอดใจคิดว่ามันคงจะหายไปแล้วจริงๆ คน

ที่เธอถ่ายคู่ด้วยคือคนที่เธอรักสุดหัวใจ ตลอดระยะเวลาสามปีกว่าที่

ผ่านมา ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกของเธอเปลี่ยนแปลงไปเลย

“เขาเป็นแฟนของน้องภีมเหรอครับ” กีรติถามเสียงสั่นๆ เหมือน

พยายามสะกดกลั้นความรู้สึกบางอย่าง

“มะ...ไม่ใช่ค่ะ เป็นแค่คนรู้จักกันเท่านั้น ไปทานข้าวกันดีกว่าค่ะ

 ภีมหิวแล้ว” ภีมพัตรารีบตัดบท ด้วยไม่อยากจะรื้อฟื้นเรื่องเก่ามาเล่าให้

เจ็บหัวใจอีกรอบ เธอยื่นมือไปหยิบรูปจากมือชายหนุ่มมาเก็บไว้ในกระเป๋า

อย่างหวงแหน แม้กีรติจะไม่เชื่อว่าผู้ชายในรูปจะเป็นเพียงแค่คนรู้จัก

อย่างที่หญิงสาวบอก แต่ก็ไม่อยากจะเซ้าซี้ให้มากความ ถ้าลองภีมพัตรา

ไม่ปริปากแบบนี้ ต่อให้เอาชะแลงมาง้างก็คงจะไม่ได้อะไรขึ้นมา

“งั้นเชิญครับคุณหนูภีมพัตรา เดี๋ยวกระผมจะพาไปทานของอร่อย”

เขาผายมือพร้อมกับค้อมตัวเล็กน้อยอย่างนอบน้อม จนภีมพัตราอดยิ้ม

ไม่ได้ ทุกครั้งที่อยู่ใกล้กีรติ หญิงสาวมักจะมีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ

เสมอ เหมือนกับเวลาที่เธออยู่ใกล้ใครอีกคน กีรติมองเห็นความหม่นเศร้า

ในดวงตาคู่สวยแล้วได้แต่ถอนใจ

 

“ทานที่ร้านนี้ไหม คนไม่เยอะจะได้ไม่ต้องรอนาน” กีรติเอ่ยขึ้น

เมื่อเดินมาถึงร้านอาหารอิตาลีชื่อดังไม่ไกลจากที่พักเท่าใดนัก

“เอางั้นก็ได้ค่ะ เดินนานๆ ชักจะเมื่อยแล้วเหมือนกัน”

เมื่อตกลงกันได้ ทั้งคู่จึงเดินเข้าไปในร้านโดยเลือกโต๊ะที่ติดกับ

หน้าต่าง หลังจากสั่งอาหารเสร็จเรียบร้อย ภีมพัตราก็เอาแต่นั่งเหม่อมอง

ออกไปด้านนอก จนกระทั่งไปสะดุดตาชายหญิงคู่หนึ่ง เธอเบิกตากว้าง

ด้วยความตกใจ

“พี่ไผ่!”

กีรติมองตามไปยังทิศทางเดียวกับที่รุ่นน้องคนสนิทมองอยู่อย่าง

ตกตะลึงไม่แพ้กัน ผู้ชายคนนั้นคือคนคนเดียวกับคนในรูปถ่ายของ

ภีมพัตราไม่ผิดแน่ แต่ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้...ชายหนุ่มคิดอย่างแปลกใจ

“น้องภีมรู้จักผู้ชายคนนั้นเหรอครับ” เขาแกล้งถามออกไปทั้งที่

รู้คำตอบอยู่แล้ว ส่งผลให้ภีมพัตราหน้าซีดหนักขึ้นไปอีก

รู้จักสิ รู้จักดีเสียด้วย ตกลงอะไรคือเหตุผลที่ทำให้ผู้ชายคนนั้น

ไม่เคยสนใจเธอกันแน่ ระหว่างผู้หญิงที่เธอเห็นอยู่ตอนนี้ หรือว่าอีกคน

ในรูปที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ...ภีมพัตราคิดทบทวนอย่างปวดร้าว

“น้องภีมครับ” กีรติเขย่าแขนหญิงสาวหลายครั้งติดๆ กันกว่า

ที่ภีมพัตราจะกลับมาสนใจเขา

“คะ พี่ติ มีอะไรหรือเปล่าคะ” แม้หญิงสาวจะถามออกไป แต่

ยังคงจับจ้องชายหญิงคู่นั้นไม่วางตา พยายามมองแล้วมองอีกให้แน่ใจ

ว่าตนเองไม่ได้จำคนผิด

“พี่ถามว่าน้องภีมรู้จักสองคนนั้นด้วยเหรอครับ” ชายหนุ่มเอื้อมมือ

ไปกุมมือที่เย็นเฉียบของหญิงสาวเอาไว้

ภีมพัตราหันมาสบตาชายหนุ่มด้วยแววตาไหวระริก น้ำใสคลอ

ขอบตา มองแล้วรู้สึกสงสารจับใจ

“มีอะไรอยากระบายให้พี่ฟังไหม อย่าลืมนะครับว่าเราคุยกันได้

ทุกเรื่อง” กีรติทวนความจำหญิงสาวว่าเขากับเธอเคยสัญญากันไว้ว่า

 ไม่ว่ามีเรื่องอะไร พวกเขาสามารถคุยกันได้ทุกเรื่องทุกเวลา

“ภีมอาจจะจำคนผิดก็ได้ค่ะ ทานข้าวกันดีกว่าค่ะ อาหารมาพอดี

เลย” ภีมพัตรารีบเบี่ยงเบนความสนใจของรุ่นพี่คนสนิท ทั้งที่ตนเองมั่นใจ

ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าไม่มีทางจำผิดคนอย่างแน่นอน

กีรติได้แต่ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ก่อนจะเริ่มรับประทานอาหาร

ที่รสชาติฝืดคอชอบกล หลังจากนั้นทั้งคู่ก็แยกย้ายกันไปทำธุระส่วนตัว

ภีมพัตราเดินออกจากร้านอาหารด้วยจิตใจที่ไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว

เท่าไรนัก

“โอ๊ะ/อุ๊ย” ภีมพัตราเซถลาไปปะทะกับกำแพง เมื่อเดินไปชนอะไร

บางอย่างที่ทั้งสูงทั้งใหญ่ตรงมุมตึก ร่างบางกำลังจะทรุดลงไปกองที่พื้น

ดีที่ใครบางคนคว้าเอาไว้เสียก่อน

“ขอโทษครับ เจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มถามอย่างสุภาพ

 ขณะดึงร่างหญิงสาวขึ้นมาให้เธอทรงตัวได้

“พี่ไผ่!” ภีมพัตราอุทานเสียงสั่นเมื่อได้เห็นหน้าเจ้าของเสียงทุ้ม

ที่ตนเองคิดว่าคุ้นหูเต็มตา

ปฏิพลขมวดคิ้ว ตกใจเล็กน้อยที่หญิงสาวตรงหน้าเรียกชื่อใคร

บางคนออกมา

“เฮ้! พอช ทำอะไรอยู่ รีบหน่อยสิ เดี๋ยวก็ไม่ทันกันพอดี” เมขลา

ตะโกนเรียกเพื่อนชายจากอีกมุมหนึ่งของตึก

ปฏิพลละสายตาจากหญิงสาวตรงหน้า หันไปตามเสียงเรียกของ

เพื่อนสาวสุดเฮี้ยว พยักหน้ารับน้อยๆ

“ถ้าคุณไม่เป็นอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ ขอโทษอีกครั้ง

นะครับ” ชายหนุ่มเดินจากไปทันทีโดยไม่หันหลังกลับมามองหญิงสาว

แม้แต่น้อย

ภีมพัตราปล่อยโฮออกมาอย่างสุดกลั้น แค่ไม่รักก็ช้ำใจจะแย่แล้ว

นี่ยังมาทำเหมือนไม่รู้จักกันอีก ทำไม (คนหล่อ) ใจร้ายจัง (วะ) เธอค่อยๆ

ก้าวเดินต่อไปด้วยหัวใจที่เจ็บปวดจนเกินจะบรรยาย ยิ่งพยายามหนีเท่าไร

แต่เหมือนมันยิ่งอยู่ใกล้หัวใจมากขึ้นเท่านั้น ความทรงจำ...ทำอย่างไร

ก็ไม่สามารถลบเลือนไปได้จริง

“น้องภีมเป็นอะไรไปครับ ร้องไห้ทำไม” กีรติที่กลับเข้าห้อง

มาในเวลาเกือบสี่ทุ่ม รีบตรงเข้าไปนั่งใกล้ๆ หญิงสาวที่นั่งกอดเข่าน้ำตา

นองหน้าอยู่บนโซฟาตัวสวยด้วยความห่วงใย

“พี่ติ ฮือๆ” ภีมพัตราโผเข้าไปกอดกีรติแน่น ร้องไห้ราวกับท่อน้ำตา

แตก ยิ่งเขาปลอบเธอยิ่งร้อง ยิ่งเขาถามเธอยิ่งฟูมฟาย จนกระทั่งเสื้อเชิ้ต

สีขาวของชายหนุ่มเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาและน้ำมูก นานเกือบยี่สิบนาที

กว่าที่หญิงสาวจะตั้งสติได้

“น้องภีมครับ พี่จะเป็นปอดบวมแล้วนะครับ” กีรติเย้ารุ่นน้อง

คนสนิทเพื่อคลายบรรยากาศตึงเครียด ด้วยตอนนี้หน้าอกของเขาเปียก

เหมือนยืนตากฝนมาอย่างไรอย่างนั้น

“ภีมขอโทษค่ะพี่ติ เสื้อเลอะหมดเลย” ภีมพัตรายกชายเสื้อของ

กีรติขึ้นมาเช็ดน้ำมูกที่กำลังจะไหลออกมาอีกครั้งเพื่อเป็นการสั่งลา

ชายหนุ่มส่ายหน้าอย่างเห็นเป็นเรื่องขำ

“ทีนี้บอกพี่ได้หรือยังว่ามีเรื่องอะไรหนักหนาสาหัสสากรรจ์ถึง

ขนาดทำให้น้องภีมคนสวยของพี่ร้องไห้เป็นเผาเต่าขนาดนี้” กีรติถอด

เสื้อที่เต็มไปด้วยน้ำมูกน้ำตาของภีมพัตราออก เหลือเพียงเสื้อกล้ามสีขาว

เข้ารูป โชว์หุ่นเรียกเลือดกำเดาของสาวๆ

“ภีมเจอเค้า” เธอบอกเสียงสั่น น้ำตาพานจะไหลออกมาอีกรอบ

“ใคร”

“พี่ไผ่ ผู้ชายคนที่ถ่ายคู่กับภีมในรูปที่พี่ติเห็น”

กีรติทำหน้าฉงน...ทำไมภีมพัตราถึงได้เรียกผู้ชายคนนั้นว่า ‘พี่ไผ่’

มันจะเป็นไปได้อย่างไร ก็เขาชื่อ ‘พอช’ ไม่ใช่หรือ

“น้องภีมแน่ใจเหรอครับว่าจำคนไม่ผิด” เขาถามย้ำอีกครั้งอย่าง

ไม่อยากจะเชื่อ

“แน่ใจค่ะ” ใครมันจะบ้าจำคนที่ตัวเองแอบรักมาตั้งหลายปีผิดกัน

เล่าหน้าตาเหมือนกันอย่างกับแกะกันออกมาแบบนี้ จะต่างกันก็แค่
ทรงผมเท่านั้นเอง

“น่าแปลก”

“อะไรนะคะ พี่ติว่าอะไรแปลกนะคะ” ภีมพัตราหันมาจ้องหน้า

ชายหนุ่มอย่างต้องการคำตอบ

“เอ่อ...ไม่มีอะไรหรอกครับ ว่าแต่น้องภีมเถอะ พร้อมจะเล่าให้พี่ฟัง

หรือยังว่าไปรู้จักกับผู้ชายคนนั้นได้ยังไง” กีรติดึงบทสนทนากลับเข้ามา

สู่ประเด็นหลักอีกครั้ง

ภีมพัตราสูดลมหายใจเต็มปอด ก่อนจะตัดสินใจเล่าเรื่องทุกอย่าง

ให้กีรติฟัง คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย เผื่อจะได้แนวคิดใหม่ๆ

ขึ้นมาบ้าง

“แปลก” กีรติพูดออกมาเบาๆ หลังจากฟังเรื่องราวทั้งหมดจากหญิงสาวขี้อ้อน

ภีมพัตรากับ ‘พี่ไผ่’ หรือ ปฏิญพัทธ์ วงศ์พิพิธ รู้จักกันเมื่อหกปี

ที่แล้วตั้งแต่หญิงสาวเข้าไปฝึกงานที่แผนกบัญชีช่วงปิดภาคเรียนในโรงแรม

ของครอบครัว ปฏิญพัทธ์เป็นรองหัวหน้าแผนกในเวลานั้น ทั้งคู่ค่อนข้าง

สนิทสนมกัน เพราะมีเวลาอยู่ด้วยกันค่อนข้างนาน ก่อนที่หญิงสาว

จะสำเร็จการศึกษา ก็วิ่งเข้าออกที่ทำงานเป็นกิจวัตรทุกภาคเรียน

ทั้งสองสามารถพูดคุยกันได้แทบทุกเรื่องเนื่องด้วยปฏิญพัทธ์เป็น

 ‘ชายไม่จริงหญิงไม่ใช่’ บวกกับอุปนิสัยส่วนตัวที่น่ารัก เป็นกันเอง ขยัน

และตั้งใจทำงานของชายหนุ่มจึงทำให้หญิงสาวค่อนข้างรักและไว้ใจ

แต่ช่วงเกือบสองปีให้หลังก่อนที่ภีมพัตราจะเดินทางมาต่างประเทศ

เธอเพิ่งรู้ใจตัวเองว่าไม่ได้รู้สึกกับปฏิญพัทธ์แค่เพื่อนหรือรุ่นพี่เหมือนเดิม

อีกแล้ว แต่เธอรักเขา...รักมากจนไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมันได้ แม้จะ

รู้อยู่เต็มอกว่าไม่มีทางเป็นไปได้ที่ชายหนุ่มจะคิดเหมือนกับตนเอง

ในขณะที่หญิงสาวพยายามจะตัดใจ ปฏิญพัทธ์กลับมาแสดงท่าทีแปลกๆ

ทำให้เธอไขว้เขวอีกครั้ง แต่ก็เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นเสียก่อนจึงทำให้

 

          (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

"กามเทพเสี่ยงรัก (SUGAR BEAT)"

เมื่อโรคอกหักเป็นโรคที่รักษาขาดได้ยาก แม้จะพยายามใช้ยาดีแค่ไหนก็ตาม สิ่งเหล่านี้ "ภีมพัตรา" รู้และเข้าใจเป็นอย่างดี เพราะเธอถึงขนาดตัดสินใจเดินทางจากบ้านมารักษาแผลใจ ณ สหรัฐอเมริกาอยู่หลายปี ยังไม่วายหวนคิดถึงเขาอยู่ร่ำไป ทั้งที่รู้ดีแก่ใจว่าผู้หญิงไม่ใช่สเป็คของเขา แต่ว่าเมื่อเธอได้พบกับ "ปฏิพล" น้องชายฝาแฝดของเขา คำว่า ‘ตัดใจ’ ก็มลายหายไปจากสมอง เพราะปฏิพลทำให้เธอเกิดความหวังครั้งใหม่ขึ้นมา-ว่าเขาอาจไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด น้องสาวคนเล็กแห่งบ้านวัชรบดินทร์จึงตัดสินใจตามหาความจริงและกระโดดลงสู่สนามเกมรักอีกครั้ง โดยใช้หัวใจที่เคยเจ็บครั้งแล้วครั้งเล่าเป็นเดิมพัน…ก็ให้มันรู้ไปสิว่า ขาว สวย  อึ๋ม อย่างเธอจะสู้ ‘หนอนชาเขียว’ ไม่ได้! โดยที่ไม่คาดฝันเลยว่าเมื่อกลับถึงเมืองไทย หัวใจเธอของเองนั่นเองล่ะที่จะหวั่นไหวไปตามท่าทีที่เปลี่ยนแปลงของเขา !!

แล้วเรื่องราวจะดำเนินต่อไป และมีบทสรุปอย่างไร !? ขอเชิญคุณผู้อ่านมาติดตามร่วมกันในนิยายโรแมนติก "กามเทพเสี่ยงรัก" เล่มนี้

เขียนโดย "พระจันทร์สีชมพู"

 

344 หน้า


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024