เรื่องสั้น ความเหนื่อยหน่ายของพ่อปู่ (จรัญ ยั่งยืน)
เนื้อหาบางส่วน
ความเหนื่อยหน่ายของพ่อปู่
...ข้ากำลังนอนหลับสบายๆ หน็อยแน่! ดันมาปลุกข้าได้...
พ่อปู่บ่นงึมงำ ขณะพยุงตัวลุกขึ้นนั่งช้าๆ แม้จะไม่ค่อยสบอารมณ์นักที่ถูกรบกวน แต่ด้วยจิตใจที่เปี่ยมเมตตา มีความปรารถนาดีต่อมนุษย์ อีกทั้งรักในแผ่นดินถิ่นเกิด ทำให้แกมิอาจนอนเฉยนิ่งเป็นทองไม่รู้ร้อนอีกต่อไปได้
หลังจากสลัดแขน สะบัดหัว จนคลายความง่วงงุน แกจึงปรายตามองชายหนุ่มตรงหน้าแวบหนึ่ง ก่อนจะมองไกลไปยังบ้านหลังคาสีแดงติดกันเป็นพรืด บ่นงึมงำต่อ
...ไอ้พวกมนุษย์ขี้เหม็นเอ๋ย แม้จะใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหน้าตาเหมือนกันอย่างกับแกะ แต่ในใจพวกเอ็งกลับมีแต่ความแตกต่างแตกแยก ก่อเรื่องก่อราวให้ข้าปวดเศียรเวียนเกล้าอยู่เรื่อย...
พ่อปู่ดึงสายตามาจับกอไผ่ที่กำลังลู่ลมซู่ซ่าอยู่บนหัว ใบสีน้ำตาลแก่ปลิดจากขั้วร่อนลงทับถมดินหญ้าใบแล้วใบเล่า แต่บางใบก็ละลิ่วลงมาค้างคาบนหลังคาบ้านทรงไทยหลังกะทัดรัดที่บนบ้านเป็นโถงโล่ง ไม่มีห้องหับ มีชายชราอาศัยอยู่เพียงลำพัง
แกจำได้ว่าเมื่อห้าหกปีก่อน แกก็ต้องเผชิญกับฝันร้ายมาแล้วคราหนึ่ง ครานั้นเลื่อยไฟฟ้าส่งเสียงคำรนคำราม ชูฟันแหลมคมบั่นต้นไม้ล้มระเนระนาด พวกมันต่างร่ำไห้กันระงม แต่แกก็ไม่มีปัญญาเข้าไปช่วยเหลืออะไรได้ ได้แต่นั่งมองตาปริบๆ ปล่อยให้น้ำตาหยดไหลอาบสองแก้ม
มะม่วงป่าเก่าแก่ที่พอลูกโตขนาดหัวแม่มือสอยเอาไปตำน้ำพริกแมงดาได้รสชาติเด็ดสะระตี่ ต้นหว้าต้นพุมเรียงที่เด็กๆชอบเก็บลูกสุกมากินกันจนปากดำปี๋ ต้นตาลที่เคยมีเป็นดงก็เลื่อยบั่นโคนล้มลงโครมคราม รวมทั้งมะหาดลูกดกซึ่งนกกาโปรดปราน ต่างล้มด่าวดิ้นต่อหน้าต่อตาของแก
จากชายป่าที่มีแมกไม้ร่มรื่น มีผลไม้ให้เก็บกิน จากท้องนาหน้าหนาวเหลืองเรืองรอง บัดนี้กลายเป็นทุ่งบ้านจัดสรรหลังคาแดงแจ๋ดแจ๋ มีผู้คนร้อยพ่อพันแม่แห่แหนกันเข้ามาอยู่ราวมดปลวกย้ายรังหนีน้ำท่วมขึ้นที่ดอน
…ไอ้ความเจริญนี่มันช่างมีอำนาจเหลือล้น มันพรวดพราดเข้ามาเข่นฆ่าต้นไม้ใบหญ้าเสียราพณาสูร มันเปลี่ยนจากชุมชนที่ร่มรื่นสงบสุข ให้กลายเป็นชุมชนที่อลหม่านวุ่นวายเพียงข้ามคืน ด้วยข้ออ้างว่าเพื่อความเจริญ เพื่อความอยู่ดีกินดี แล้ววันนี้มีคนสักกี่คนที่ได้อยู่กินดี?...
พ่อปู่หันกลับมาจองมองหน้าชายหนุ่ม เห็นหน้าหม่นเศร้าของมันแล้วอดสมเพชไม่ได้ นับแต่มันมาใช้ชีวิตอยู่ในสังคมที่นี่ มันมาหาแกบ่อยที่สุด มันบ่นว่าต้องได้รับความเดือดเนื้อร้อนใจอยู่ไม่หยุดไม่หย่อน เห็นร่ำๆ ว่าจะย้ายไปอยู่ที่อื่น แต่ก็ไม่เห็นมันไปสักที
“พ่อปู่ครับ เมื่อไหร่ข้างๆบ้านเขาจะเลิกทะเลาะกัน พวกเขาไม่เห็นใจผมบ้างเลย ผมต้องทำงานดึกๆ ดื่นๆ กว่าจะกลับก็ตั้งตีสองตีสาม กลับมาก็อยากจะนอนหลับให้จุใจ แต่ก็นอนไม่ได้ พอตีสี่ตีห้าพวกเขาตื่นมาทะเลาะกัน วันก่อนเป็นบ้านข้างขวา วันนี้เป็นบ้านข้างซ้าย เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็เป็นบ้านข้างหน้า เดี๋ยววันมะรืนก็เป็นบ้านข้างหลัง แล้วผมจะนอนหลับได้ยังไง?”
ชายหนุ่มทิ้งคำถามอันน่าปวดหัวไว้หน้าเรือนไทย แล้วก็เดินเซื่องๆ จากไป
...อดทนให้มากๆ พ่อหนุ่ม...
พ่อปู่เอ่ยเบาๆ ในลำคอ ไม่แน่ใจว่าจะลอยเข้าหูชายหนุ่มสักครึ่งคำหรือไม่
...ความอดทนเป็นคุณสมบัติที่สำคัญของคนสมัยนี้ ทนอีกหน่อยนะเอ็งนะ เดี๋ยวดีไปเอง…