ระบำดอกดิน (จำปาลาว)

ระบำดอกดิน (จำปาลาว)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: ระบำดอกดิน
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 270.00 บาท 67.50 บาท
ประหยัด: 202.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

1

เกิดจากดิน

 

          ดอกไม้สีม่วงอมแดงมีเกสรสีเหลืองดูแตกต่างไปจากดอกไม้ในกระถางนับสิบที่วางเรียงรายกันอยู่บริเวณด้านนอกของระเบียงบ้าน สีที่ดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และลักษณะคล้ายรูปถ้วยคว่ำที่เขามักจะคิดว่าดอกไม้แบบนี้น่าจะเป็นดอกไม้จากป่าลึก หรือไม่ก็อาจเป็นดอกไม้จากในวรรณคดีที่มีเพียงในจินตนาการ หรืออาจเป็นเพราะดอกไม้ชนิดนี้ไม่มีใบ ไม่มีกิ่งก้าน ลักษณะลำต้นตรงขึ้นมาจากพื้นดิน ก่อนจะออกดอกเบ่งบานอวดความงดงามตามธรรมชาติที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใครให้ชาวโลกได้ประจักษ์ว่า ความงามฉายชัดและยังเบ่งบานได้แม้จะไม่มีกิ่งใบคอยพยุงหรือโอบอุ้มเลยมีอยู่จริง

          ริมฝีปากนั้นคลี่ยิ้มละไมก่อนจะก้มลงจุมพิตที่ดอกเดี่ยว ดวงตาคมเข้มทอดมองแสงไฟสลัวที่เล็ดลอดออกมาจากม่านลูกไม้สีขาวของหน้าต่างห้องนอนด้านบน สลับกับมองสิ่งที่เขาโอบอุ้มไว้อย่างแสนรัก

 

          “ฮือ...ฮือ...”

          เสียงร้องไห้ที่ดังติดต่อกันตั้งแต่ช่วงหัวค่ำยันค่อนดึกทำให้คนที่นอนกระสับกระส่ายอยู่ในมุ้งสีเทาเก่าจนเกือบจะขาดใกล้จะหมดความอดทนเข้าไปทุกที ชายผ้าห่มทั้งสองข้างถูกดึงขึ้นมาคลุมปิดใบหูด้วยหวังว่าเสียงนั้นจะเล็ดลอดเข้าไปไม่ได้ แต่ผิดคาดเพราะยิ่งพยายามจะปิดเท่าไรก็ยิ่งเหมือนเสียงนั้นจะดังอื้ออึงอยู่ภายในหัวมากขึ้น และมันทำให้เธอหมดความอดทนในที่สุด

          “โว้ย! อีหล้า! หยุดร้องซะที กูจะหมดความอดทนกับมึงแล้วนะ กูจะหลับจะนอน มึงจะคร่ำครวญหาสวรรค์วิมานอะไร แม่ง! จะร้องหาโคตรพ่อโคตรแม่ของมึงรึไง อีนี่! วอนซะแล้ว มึงรีบมานอนเลยนะ ก่อนที่กูจะหมดความอดทน อีหล้า! กูบอกให้หยุดร้อง! มึงจะมานอนไหม! หรือจะให้กูเอามึงไปมัดกับเสาไฟ จะมานอนไหม! อีนี่! จะลองดีกับกูใช่ไหม!”

          เด็กหญิงวัยประมาณหกขวบสะดุ้งสุดตัวเพราะคำด่าทอและเสียงแหลมใส่อารมณ์นั้น ไม่ต่างอะไรจากเสียงของพญามัจจุราชที่กำลังตวาดเหล่าดวงวิญญาณที่เธอเคยเห็นในละครทีวีที่ร้านค้าหน้าปากซอยเข้าตลาด เพราะยายมักจะใช้ให้เธอไปซื้อกะปิ น้ำปลา และเครื่องครัวจิปาถะอยู่บ่อยครั้ง และทุกครั้งเด็กหญิงก็มักจะถูกลากกลับพร้อมกับก้านมะยมที่ประเคนใส่น่องเล็กไม่ยั้ง เหตุเพราะดูทีวีเพลินจนลืมของที่ยายสั่งซื้อ

          ดวงตาบอบช้ำเบิกโพลงด้วยความหวาดกลัวเต็มที่ ใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตาส่ายไปมาแรงๆ จนผมหน้าม้าสะบัดตามแรงขยับ เพราะสถานที่ที่น้าสาวกล่าวถึงนั้นไม่ต่างจากที่สิงสถิตของเหล่าผีร้ายที่คอยหลอกหลอนและข่มขวัญเด็กให้ขวัญกระเจิง เสาไฟฟ้าต้นสูงใหญ่หน้าบ้านที่ทางการเพิ่งมาติดตั้งแทนเสาไม้ที่เก่าคร่ำคร่าตามอายุของตลาดเก่าในชุมชนเป็นสิ่งที่สร้างความหวาดผวาแก่เด็กในซอยที่สุด

          ในยามค่ำคืนสายลมพัดเอื่อย มีเพียงแสงสลัวจากหลอดไฟเก่าๆ ที่ไม่สามารถส่องแสงสว่างนำทางแก่ผู้สัญจรไปมาได้เท่าที่ควร ช่วงดึกที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดผ่านเข้าออกในถนนส่วนบุคคลนี้ กลับมีร่างน้อยถูกจับมัดตรึงไว้กับเสาไฟ ความทรงจำอันน่าหวาดผวาเกิดขึ้นเพียงเพราะเด็กหญิงบังอาจร้องไห้คร่ำครวญหาพ่อแม่ในยามดึก ซึ่งจะแปลกอะไรกับเด็กหญิงตัวน้อยที่ขาดทั้งพ่อและแม่ เพราะที่พักพิงอย่างดีที่สุดสำหรับเด็กน้อยตาดำๆ ก็คืออ้อมอกของแม่

          “โอ๊ย! น้าลมอย่าทำหล้า หล้ากลัวแล้ว อย่าทำ...หล้าขอโทษ อย่าทำหล้าเลย ฮือ...หล้ากลัว น้าลมหล้ากลัวแล้ว น้าลม ฮือ...อย่าทำหล้า อย่า...น้าลม ฮือ...”

          เด็กหญิงพยายามสะบัดตัวให้หลุดออกจากเงื้อมมือมัจจุราชที่ยื่นออกจากมุ้งเก่าสีมอมาคว้าตัวเธอไว้ เมื่อไม่สามารถทำได้ จึงเปลี่ยนเป็นพนมมืออ้อนวอนทั้งน้ำตา

          “มึงอยากร้องนักใช่ไหม งั้นมึงไปร้องให้พอ ร้องอย่าหยุดนะมึง! กูจะดูสิว่าวิญญาณพ่อวิญญาณแม่มึงมันจะมาหาไหม ถ้ามันรักอีลูกไร้ค่าอย่างมึงมันก็ต้องกลับมา ไม่ใช่ไปอยู่กับฝรั่งแล้วไม่เอามึง แม่มึงทิ้งแล้วยังจะไม่เจียมตัว มานี่เลยมึง อีหล้า!”

          คนพูดใช้น้ำเสียงดุเข้มเกินความเป็นจริง เพียงแค่พี่สาวหายสาบสูญผู้เป็นน้องสาวก็ไม่น่าจะโกรธแค้นและทารุณหลานสาวได้มากขนาดนี้ แต่ลมรำเพยก็ทำ ไม่มีอะไรที่เธอจะทำกับ ‘มัตติกา หรือ หล้า’ หลานสาวตัวน้อยของเธอไม่ได้ มือแข็งปานคีมเหล็กบีบกระชับที่ต้นแขนเล็กก่อนจะออกแรงกระชากโดยไม่กลัวสักนิดว่าท่อนแขนน้อยๆ นั้นจะหลุดติดมือออกมาหรือไม่

          “น้าลมอย่าว่าแม่ แม่รักหล้า แม่ไม่ได้ทิ้งหล้า โอ๊ย! น้าลมหล้าเจ็บ! น้าลม ปล่อยหล้านะ ฮือ...แม่จ๋า...พ่อจ๋า... ยาย...ยายจ๋าช่วยหล้าด้วย ยาย...ฮือ...”

          เสียงด่าทอด้วยแรงอารมณ์สลับกับเสียงหวีดร้องด้วยความเจ็บปวดและหวาดกลัวของเด็กหญิงทำให้ร่างท้วมที่พยายามข่มใจนอนอยู่อีกฟากหนึ่งของบ้านไม้หลังเท่ารูหนูต้องลืมตาขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้ ดวงตาฝ้าฟางคล้ายจะมีน้ำเลี้ยงคลออยู่ในนั้น นางถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะค่อยๆ พยุงตัวลุกขึ้นนั่ง แม้ไม่อยากยุ่งเกี่ยวแต่ก็ไม่อาจทนนิ่งเฉยได้ ไม่เช่นนั้นวันพรุ่งนี้คงต้องคอยตอบคำถามชาวบ้านร้านตลาดอีกตามเคย และดีไม่ดีข้าวของจะพลอยขายไม่ออกไปด้วย

 

          กับข้าวหลายอย่างบรรจุอยู่ในหม้ออะลูมิเนียมที่เก่าและบุบเป็นบางส่วน แต่อาหารปรุงเสร็จใหม่ๆ และส่งกลิ่นหอมบอกได้ดีว่ารสชาติของอาหารคงจะอร่อยมาก ทำให้มีลูกค้าแวะเวียนมาที่ร้านไม่ขาดสาย มือเหี่ยวย่นตามวัยหยิบจับ ตักแกงจืด แกงเผ็ด ปลาราดพริก ข้าวเปล่าอย่างว่องไว โดยมีหลานสาวตัวน้อยคอยรับถุงบรรจุอาหารเหล่านั้นมารัดปากถุงด้วยหนังยางอย่างคล่องแคล่วไม่แพ้กัน

          อาหารในถุงที่มีอยู่สามในสี่ส่วน ทำให้พอมีพื้นที่สำหรับใช้มัดปากถุง เด็กหญิงขยายปากถุงให้อากาศเข้าเล็กน้อยก่อนจะพับทบปากถุงลงมาเป็นชั้นเล็กๆ กันอากาศออก จับจีบถุงแล้วใช้หนังยางรัดอย่างว่องไว ก่อนจะเช็ดถุงส่วนที่เปื้อนอาหารด้วยผ้าขี้ริ้วที่มองออกว่าคงเป็นเสื้อคอกระเช้าตัวเก่าของยายเล็กเจ้าของร้าน

          “อุ๊ย! หลานสาวพี่เล็กเก่งจัง ตัวแค่เมี่ยงช่วยยายได้แล้ว โถ...มัดปากถุงเรียบร้อยด้วยลูก พี่เล็กงั้นฉันเอานี่ นี่ และก็นี่เพิ่มด้วยจ้ะ ชอบใจหลานก็ต้องช่วยอุดหนุนยายเยอะหน่อย จริงไหมลูก”

          “จ้ะ” เด็กหญิงตัวน้อยรับคำพลางยิ้มแหยเพราะเกรงสายตาผู้เป็นยายที่มองมาอย่างปรามอยู่ในที แต่ก็ยังแอบลอบมองหญิงชราท่าทางใจดีที่รู้ได้โดยอัตโนมัติว่าน่าจะเป็นคนรวยเจ้าของที่และเจ้าของตลาดที่เธอกับยายอาศัยและตั้งแผงขายข้าวแกงอยู่ทุกเช้า

          “อ้าว! นี่มันวันพุธนี่ ไม่ไปโรงเรียนหรือจ๊ะ”

          เด็กน้อยชำเลืองมองผู้เป็นยายอย่างต้องการคำตอบ เธอก็ไม่รู้ว่าต้องไปโรงเรียนหรือเปล่าเพราะตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับยาย เธอก็ไม่เคยได้ไปโรงเรียนเหมือนเด็กคนอื่นเลยสักครั้ง

รายละเอียด

สังคมรอบด้านนั้นหล่อหลอมให้ ‘เด็กหญิงหล้า’ หรือ ‘มัตติกา’ ได้เติบโตขึ้นจนกลายเป็นหญิงสาวที่งดงามทั้งกายและใจ...ทว่าหนทางยาวไกลนั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะชีวิตที่ผ่านพ้นของมัตติกา ต้องเผชิญกับสิ่งเลวร้ายมากมาย ต้องพบเจอเรื่องราวที่ดีสุดขั้วและชั่วสุดขีด

ทว่าเธอยังคงยึดมั่นในการทำความดี และเชื่อว่าความดีนั้นจะเป็นแรงใจให้ชีวิตเธอได้สมความปรารถนาสักครั้ง สิ่งเลวร้ายใดๆ ในโลกจึงไม่อาจทำให้หัวใจเปราะบางดวงนี้แหลกสลายลงไปได้

เพราะทุกเส้นทางที่ก้าวเดินสำหรับเธอนั้นแม้จะเจือไปด้วยความขื่นขมปนสุขสมในบางครั้ง แต่นั่นก็เป็นเพียงจังหวะของชีวิตที่งดงามปาน ‘เริงระบำ’

 


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (70 รายการ)

www.batorastore.com © 2024