ยุทธการต้านรัก

ยุทธการต้านรัก

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786115010073
มีสินค้าในสต็อค
ราคา: 180.00 บาท 45.00 บาท
ประหยัด: 135.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

 ชายกระโปรงผ้าชีฟองสีขาวสะบัดขึ้น พลิ้วตามแรงของพัดลมตัวใหญ่ที่จ่อ

อยู่ด้านข้าง เสียงกดชัตเตอร์ระรัว ขณะที่นางแบบหน้าแสงไฟเปลี่ยนท่าทางอย่าง

มืออาชีพ

“สวยมากค่ะน้องดา” เสียงตบมือจากทีมงานดังขึ้นเมื่อถ่ายภาพสุดท้าย

เสร็จสิ้น สาวร่างบางระหงสวมชุดเดรสบางเบา เดินออกจากหน้าฉากสีขาว ตรงมายัง

ตากล้องหนุ่มที่ยืนเซ็กรูปอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์

“เป็นไงบ้างคะธีร์ ขอดาดูบ้างสิ” หญิงสาวเอ่ยอย่างกระตือรือร้น พลางเขยิบ

ตัวไปใกล้ ดวงตากลมโตจับจ้องที่ชายหนุ่มผิวคลํ้าข้างๆ มากกว่ารูปในจอลี่เหลี่ยม

ธีร์เขยิบตัวเพื่อเปิดทางให้ดาดาริน แต่หญิงสาวก็ยื่นหน้าตามอย่างจงใจ

“รูปสวยจังเลย ธีร์ถ่ายรูปเก่งจริงๆ เลยนะคะเนี่ย ถ้ามีธีร์มาถ่ายให้ ดา

ก็วางใจได้ว่ารูปต้องออกมาตีแน่ๆ”

ชายหนุ่มผิวเข้ม ตัวสูงโย่ง ลูบหัวเกรียนๆ ของตัวเองอย่างเขินๆ

“ดาก็ชมผมเกินไป ผมไม่ได้ท่าอะไรมากเลย คุณสวยอยู่แล้ว”

คราวนี้ดาดารินยิ้มกว้างกว่าเดิม รู้ทั้งรู้ว่าเขาเอ่ยอย่างเช่นทุกครั้งที่ร่วมงาน

กัน แต่เธอก็ยินดีที่จะพิงซํ้าอีกเรื่อยๆ มันจะดีแค่ไหนนะ ถ้าได้เขามาพูดอย่างนี้กับ

เธอทุกวัน

ดา...คุณสวยที่สุดสำหรับผมเสมอ


10

 

 

ดารู้ค่ะ ธีร์ก็เป็นที่หนึ่งในใจดาเหมือนกัน

“ยายดา ฉันรู้นะว่าแกคิดอะไรอยู่ เก็บอาการหน่อย เดี๋ยวก็ได้เป็นข่าวอีก

หรอก'' เสียงยาใจกระซิบลอดผ่านไรฟันที่แทรกตัวเข้ามากั้นกลางเมื่อไรไม่รู้ เตือนสติ

ให้ดาดารินสะดุ้งจากภวังค์

หญิงสาวก้มมองผู้เป็นทั้งเพื่อนและผู้จัดการส่วนตัวด้วยสายตาที่เฉพาะ

คนใกล้ชิดอย่างยาใจเท่านั้นที่จะอ่านออก ‘แกเป็นผีพรายหรือไง จู่ๆ ก็โผล่มา'

‘ก็แน่สิ ถ้าฉันไม่มา น้ำลายแกอาจจะหกใส่อีตากล้องนี่ไปแล้วก็ได้'

‘เขาไม่ใช่อีตากล้องนะ แกจำไม่ได้หรือไงว่าเขาคือรักของฉัน ให้เกียรติเขา

บ้างสิ'

‘รักบ้าอะไรของแก เลิกคิดซะ ฉันขี้เกียจตามไปแก้ข่าว ไม่ต้องมอง ไปแต่งตัว

ได้แล้ว'

‘ไม่ แกไม่เข้าใจ ฉันอุตส่าห์หาโอกาสได้ถ่ายรูปกับเขา ฉันไม่ยอมกลับไปอย่าง

นี้หรอก'

ขณะที่สองสาวกำลังทุ่มเถียงกันผ่านระบบสายตาออนไลน์ ทั่วทั้งสตูดิโอ

ก็เงียบกริบ สายตาทุกคู่จ้องมองผู้มาเยือนที่เดินตรงมายังดาดารินเป็นตาเดียว

เขายื่นดอกไม้ช่อมหึมามาตรงหน้าหญิงสาว ยาใจที่ยืนอยู่ตรงข้ามถึงกับ

กระเด็นออกไปจากวงโคจร

“พล!'' ดาดารินอุทานอย่างตกใจ เมื่อเห็นเด็กหนุ่มที่สวมชุดนักศึกษาของ

มหาวิทยาลัยเอกชนอันดับหนึ่ง (ในเรื่องค่าเล่าเรียน) ยืนเก๊กมาดเท1อยู่ข้างๆ พร้อม

กับฉีกยิ้มส่งมาให้

“สวัสดีครับดา ดอกไม้สวยๆ สำหรับคนสวยอย่างคุณครับ''

ดาดารินแอบเบ้ปาก แต่ก็ใช้แขนบางๆ ทั้งสองโอบช่อดอกไม้ยักษ์เอาไว้ด้วย

ความยากลำบาก อยากเตะก้นยาใจลักที เพราะรู้ดีว่าเพื่อนท่าเป็นไม่เห็นสัญญาณ

ขอความช่วยเหลือที่เธอส่งไปให้

“ขอบคุณนะคะ ความจริงแล้วพลไม่เห็นต้องลำบากหาดอกไม้มาให้เลย''

“ไม่ลำบากอะไรนี่ครับ เพื่อดาแล้ว...อะไรผมก็ท่าให้ได้''

อีกนิดเดียวดาดารินคงได้คลื่นไล้ออกมา บอกทีเถอะว่าพลพรรคเป็น

พระเอกลิเกปลอมตัวมา ไม่ใช่ลูกชายนักการเมืองใหญ่อย่างที่ทุกคนรู้จัก


 

“คืนนี้ดาว่างหรือเปล่าครับ ไปกินข้าวกับผมสักมื้อนะครับ''

ดาดารินยิ้มรับ แม้สายตาจะพุ่งเป้าไปที่ยาใจซึ่งเอาแต่ยืนขำ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

ไม่ได้อยากจะแกล้ง แต่อาหารคํ่ามื้อเดียวกับลูกชายนักการเมืองใหญ่...

ผลลัพธ์ที่ได้มันคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม

 

ทันทีที่พลพรรคขับรถหรูมาส่งนางแบบสาวหน้าคอนโดมิเนียมใจกลาง

เมือง ดาดารินก็แทบกระโดดลงมาหลังจากเสียเวลาลํ่าลาไม่ถึงนาที เพียงอาหารมื้อ

เดียวก็ยาวนานสุดจะทน เธอต้องแกล้งทำตัวเหนื่อยและต้องการพักผ่อน เพื่อให้

บทสนทนาแสนเลี่ยนสิ้นสุดลง

“แกคิดจะฆ่าฉันใช่ไหม ถึงปล่อยให้ฉันไปกินข้าวกับพลสองต่อสอง ฉันส่ง

S.O.S. ไปให้แกเป็นล้านรอบจนตาแทบถลนออกมาอยู่แล้ว ทำไมแกไม่เข้าไปดึงฉัน

ออกมา ดูสิ...แผนการที่ฉันตั้งใจว่าจะไปดินเนอร์กับธีร์เลยพังทลายลงไปด้วย เพราะ

แก ป่านนี้ธีร์จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้'' ดาดารินเอ่ยขึ้นอย่างหัวเสีย เมื่อเข้ามานั่งในรถ

สปอร์ตสีแดงที่คอยขับตามรถของพลพรรคมาตลอดทาง

“ใจเย็นก่อนสิคะ คุณนางแบบ ในฐานะที่ฉันเป็นผู้จัดการที่มองการณ์ไกล

ฉันขอบอกเหตุผลดีๆ ที่ทำให้แกสมควรไปกินข้าวกับน้องพลสุดหล่อ แทนที่จะเป็น

นายดำตับเป็ดนั่น''

“อะไร!?!''

“ง่ายๆ คือ หนึ่ง น้องพลทำให้แกได้ลงข่าวกอสซิป ทั้งในหน้าบันเทิง และ

หน้าสังคม สอง เมื่อแกเป็นข่าว สื่อก็'จะยิ่งสนใจแก สาม พอสื่อสนใจ งานมากมาย

ก็จะหลั่งไหลเข้ามา สี่ พองานเยอะ เงินก็เยอะตาม แล้วก็จะล่งผลดีต่อเปอร์เซ็นต์ที่

ฉันจะได้รับด้วย เข้าใจหรือยัง''

“ยายงก...'' ดาดารินหันไปว่าอย่างไม่เกรงใจ ขณะรถเลี้ยวเข้ามาในลานจอด

“แกเห็นฉันเป็นสินค้าหรือไง ถึงได้วางแผนการตลาดกับฉันอย่างนี้ ฉันเป็นผู้หญิง

ตัวเล็กๆ มีเลือดเนื้อ มีจิตใจนะ ฉันไม่อยากได้เงิน อยากได้อาหารคํ่ากับธีร์เท่านั้น

ฉันรับงานนี้เพราะรู้ว่าธีร์เป็นตากล้อง แล้วยังไง แก...แกทำลายทุกอย่างพังพินาศ

เพราะความงกของแก ไอ้เพื่อนใจร้าย'' ดาดารินโวยวายหนักกว่าเดิม ในขณะที่ยาใจ

ส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจ

“ทำไมวะน้องพลไม่เห็นมีอะไรเสียหาย รูปก็หล่อ พ่อก็รวย แกจะเล่นตัวทำไม''


12

 

 

“เดี๋ยวนะคุณผู้จัดการ คุณลืมอะไรไปหรือเปล่า พลเด็กกว่าฉันหกปี เกือบ

ครึ่งรอบเลยนะ ฉันรู้ว่าหน้าฉันยังเด็ก ไปเที่ยวกับพลก็มีแต่คนคิดว่าเป็นน้องสาว

แต่ฉันไม่ใช่พวกนิยมบริโภคหญ้าอ่อน และต่อให้อัปเกรดมาอายุเท่ากันหรือมากกว่า

ฉันก็คิดว่า ฉันคงไม่เสี่ยงกับการเป็นเบาหวานเพราะคำเลี่ยนๆ ของเขาหรอก'' ดาดาริน

ว่า ก่อนจะหยุดหายใจ และเอ่ยด้วยนํ้าเสียงที่จริงจังขึ้น “และที่สำคัญที่สุด...ฉันมีธีร์

ของฉันอยู่แล้วทั้งคน''

“เฮ้อ! นายถ่านนั่นน่ะเหรอ'' ยาใจส่ายหน้าพร้อมถอนหายใจสุดแรง เหลือบ

มองเพื่อนรักหลังจากก้าวลงจากรถ “ถามจริงๆ แค่เขาเป็นเด็กข้างบ้านที่ช่วยพาหมา

แกไปหาหมอตั้งแต่สมัยประถม แค่นั้น...แกก็ฝังจิตฝังใจว่าเขาเป็นเนื้อคู่แกเลยหรือไง

หมกมุ่นแต่เด็กเลยนะเนั่ย''

“ไม่ใช่ มันคือความรักที่บริสุทธิ์ต่างหาก ถ้าไม่มีเขาวันนั้น มาม่าก็คงตาย'ไป

แล้ว'' ดาดารินหมายถึงชื่อสุนัขตัวแรกและตัวเดียวที่พลัดหลงมาให้เธอเลี้ยงดู

แม้เป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่นางแบบสาวก็รักและผูกพันกับมันมากเหลือเกิน

“แกรู้ได้ยังไงว่ามันไม่ตาย แกไปอเมริกาตั้งแต่มันเข้าโรงพยาบาล แกไม่ได้อยู่

ดูแลมันด้วยซํ้า” ยาใจพูดความจริงที่แทงใจ และเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนั่งเงียบ เธอก็พอ

จะรู้ตัวว่าได้หลุดเรื่องต้องห้ามออกไป ผู้จัดการสาวจึงวกกลับมาเรื่องเดิม

“แต่เรื่องแค่นั้นมันท่าให้แกฝังใจขนาดนี้ได้ไง ว่าเขาเป็นรักแรกของแก''

“ธีร์ไม่ได้เป็นรักแรก แต่เขาเป็นรักแห้ แกไม่รู้สึกเหรอว่าทุกอย่างมันเป็น

พรหมลิขิต ตอนเด็กๆ เราอยู่บ้านติดกัน แต่พอฉันย้ายไปอเมริกา เราก็ไม่ได้ติดต่อ

กันเกือบสิบห้าปี แล้วตอนนี้เราก็ได้กลับมาเจอกันอีก เขาเป็นตากล้อง ในขณะที่ฉัน

เป็นนางแบบ เราได้ใกล้ชิดกัน แถมยังได้อยู่คอนโดฯ เดียวกัน ห้องตรงข้ามกัน

ด้วย บังเอิญอย่างนี้ ถ้าไม่เรียกว่า Soul Mate แล้วจะให้เรียกว่าอะไร''

“เรียกว่าตั้งใจ'' ยาใจตอบในทันที “พอแกรู้ว่าเขาเป็นตากล้อง แกก็ไปสมัคร

เป็นนางแบบ แล้วพอแกเป็นนางแบบดัง แกก็เสนอให้ทีมงานเอาเขามาเป็นตากล้อง

ให้แกเกือบทุกครั้ง แกย้ายบ้านมาเพื่อมาอยู่คอนโดฯ เดียวกับเขา ใช้เสน่ห์ของแกกับ

เงินก้อนโตฟาดหัวเจ้าของห้องคนก่อน ให้ขายห้องนั้นให้แก บ้านแกเรียกทั้งหมดนี้

ว่าบังเอิญเหรอ''

ดาดารินทำเสียงจี๊กจั๊กในล่าคออย่างหงุดหงิด

“ฉันละเบื่อแกจริงๆ ขัดคอฉันไปเสียทุกเรื่อง ฉันคิดบ้าอะไรอยู่นะตอนที่


 

 

ขอให้แกมาเป็นผู้จัดการฉัน”

ยาใจหัวเราะชอบใจก่อนตอบ

“สงสัยจะไม่ได้คิด”

 

ในเวลาเดียวกัน ข้ามไปอีกฝังของคอนโดมิเนียมสุดหรู แสงสว่างจากร้าน

กาแฟเล็กๆ ดับลง เจ้าของร้านร่างบอบบางราวกับตุ๊กตาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกับ

กระโปรงยาวกรอมเท้า หอบข้าวของพะรุงพะรังออกมา แพรฝันเดินตรงไปยังรถ

ที่จอดอยู่หน้าร้าน แต่ตอนนั้นเองที่ชายฉกรรจ์สามคนซึ่งชุ่มดูอยู่เคลื่อนตัวเข้ามา ขวางไร้      

             “นี่น้อง ปิดร้านแล้วไปหาอะไรกินกับพี่ไหม” ชายร่างใหญ่ยักษ์คนแรกเอ่ยชึ้น

หญิงสาวสะดุ้งอย่างตกใจ

“มาๆ พี่ช่วยถือนะ แขนเล็กๆ อย่างนี้อย่าถือของหนักเลย เดี๋ยวจะหักเสีย

เปล่าๆ” ชายอีกคนที่ผอมแห้งกว่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงกะลิ้มกะเหลี่ย

สาวร่างเล็กก้าวถอยออกจากการคุกคามที่น่าหวาดหวั่น แตกชนเข้ากับชาย

ผู้มีแผลเป็นน่าขนลุกบนใบหน้าที่ต้อนเข้ามาจากด้านหลัง “จะไปไหนล่ะ พี่ๆ พูดด้วย

ทำไมไม่พูด”

เธอส่ายหน้าด้วยความหวาดกลัว ไม่รู้จะหลบไปทางไหน เพราะชายสามคนได้

โอบล้อมไร้ทุกด้าน หญิงสาวพยายามมองหาทางหนีทีไล่ แล้วก็แทบจะร้องไห้ เมื่อ

ถนนที่ว่างวายนั้นปราศจากรถแม้เพียงลักคันที่จะแล่นผ่าน

แล้วทันใดนั้น สายตาก็เหลือบไปเห็นใครบางคนก้าวออกจากร้านสะดวกซื้อ

ซึ่งห่างออกไปเกือบช่วงตึก เธอรีบตะโกนร้องขอความช่วยเหลือทันที

“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยฉันด้วย”

ชายสามคนคงตกใจไม่น้อยเมื่อได้ยิน คนที่ตัวใหญ่ที่สุดรีบยื่นมือหยาบกร้าน

มาปิดปากเธอเอาไร้

แพรฝันดิ้นรนขัดขืน ขณะที่ชายสองคนที่เหลือรีบผลักเธอเข้าสู่มุมมืดของ

ถนน แต่ไม่ทันเสียแล้ว เพราะชายร่างผอมบางที่กำลังฉุดกระชากเธอ ถูกกระแทก

อย่างแรงจนกระเด็นไปอีกทาง ชายร่างยักษ์รีบหันกลับไปเพี่อเอาคืนทันที แต่ถูก

หมัดหนักๆ สวนกลับเข้าที่หน้าจนล้มไป ชายหน้าเข้มพร้อมแผลเป็นมองดูเพื่อนสอง

คนที่ล้มไปกองกับพื้น ก่อนจะชี้หน้าเจ้าของการจู่โจมอันรวดเร็วทั้งหมดนั้น


14

 

 

“เอ๊ย นี่มันอะไรกันวะ พี่มาชวนน้องดีๆ นะ ไม่ได้จะทำอะไรสักหน่อย ทำไม

ต้องรุนแรงกันอย่างนี้ด้วย''

แพรฝันรีบวิ่งไปหลบหลังชายพลเมืองดีที่เข้ามาช่วยเธอไว้ ตัวสั่นเทาด้วย

ความตกใจ

“ชวนดีๆ อะไร ก็เห็นอยู่ว่าผู้หญิงไม่ได้เต็มใจ พวกคุณอย่ายุ่งกับเธอดีกว่า

หรือจะให้ผมแจ้งความ''

ชายคนร้ายทั้งสามมองหน้ากันไปมา ทั้งๆ ที่มี'จำนวนคนมากกว่า แต่ชาย

ร่างยักษ์ก็ยอมล่าถอยอย่างง่ายดาย

“เออ ฝากไว้ก่อนนะมึง''

ชายทั้งสามกระโจนขึ้นรถที่จอดอยู่ข้างๆ แล้วเผ่นหายไป ชายหนุ่มตัวสูงหัน

กลับมามองหญิงสาวที่อยู่ด้านหลัง

“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ'' เขาถามด้วยเสียงอ่อนโยน เมื่อได้เห็นหน้าอีกฝ่าย

เต็มตา ก็พอเข้าใจว่าทำไมผู้ชายสามคนนั้นคิดจะทำร้ายเธอ

ดวงตากลมโตใต้แพชนตางอนยาวราวกับตุ๊กตาจ้องมองเขาอย่างชอบคุณ

หญิงสาวร่างบอบบางน่าทะนุถนอมยังคงตัวสั่นด้วยความกลัวไม่หาย

“ไม่เป็นไรค่ะ แค่ตกใจนิดหน่อย ชอบคุณมากนะคะที่ช่วยแพรไว้ ถ้าไม่ได้

คุณ แพรต้องแย่แน่ๆ''

“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณจะแจ้งความไหมครับ ผมพอจะจำหน้าคนพวกนั้นได้

ผมจะไปเป็นพยานให้คุณเอง''

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ความจริงแพรก็จำหน้าพวกเขาได้ เพราะเขาเป็นลูกค้า

ที่ร้านชองแพรเอง พวกเขามาป้วนเปี้ยนแถวนี้ประจำ แต่ไม่คิดว่าวันนี้จะ...'' แพรฝัน

กระดากเกินกว่าจะพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอเสมองไปทางอื่น

“คุณเป็นเจ้าชองร้านกาแฟนี่เหรอครับ'' ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่อง เพราะไม่อยาก

ทำให้เธอล่าบากใจ

“ค่ะ ถ้าคุณผ่านมาแถวนี้ เชิญแวะมานะคะ''

“ครับ ผมคงได้แวะมาบ่อยๆ เพราะผมพักอยู่ฝังตรงข้ามนี่เอง'' เขาบุ้ยใบ้ไป

ที่คอนโดมิเนียมสูง “ผม...ทองทิม รํ่ารวยทอง ครับ''

แพรฝันยิ้มรับอย่างอ่อนหวาน ก่อนจะเอ่ย

“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ แพรฝันค่ะ''

 

 

 

ดาดารินตั้งใจไว้แล้ว ในเมื่อเมื่อวานเธอพลาด วันนี้เธอก็ต้องทำให้สำเร็จ

หญิงสาวตื่นแต่เช้าตรู่ ทั้งๆ ที่ปกติถ้าไม่มีคิวงาน เธอก็จะวิ่งเล่นอยู่ในความ

ฝันจนเกือบบ่าย ก่อนจะบรรจงแต่งตัวอย่างพิถีพิถัน เสือกชุดสีตองอ่อนเนื้อเบา

แบบลำลอง กับกางเกงขากุดสีดำ โชว์ท่อนขาเรียวยาวที่เธอภูมิใจนักหนา ยาใจ

ยังไม่ตื่น...นี่แหละที่เธอต้องการ นางแบบสาวค่อยๆ ย่องออกไปยังห้องตรงข้าม ธีร์

คงแปลกใจที่เปิดประตูมาเจอนางฟ้า และคงตื่นเต้นที่รู้ว่าสาวน้อยจากสวรรค์กำลัง

จะชวนเขาไปกินอาหารเช้าที่ห้องอาหารด้านล่างด้วยกัน

ดาดารินกดกริ่งหน้าประตูด้วยความตื่นเต้น อยากเห็นว่าเขาจะดีใจสัก

แค่ไหน แต่ยืนรออยู่เท่าไรก็มีแต่ความเงียบตอบกลับมา เธอกดซํ้า ซํ้า แล้วก็ซํ้าอีก

แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีเสียงตอบรับ

ธีร์ออกไปไหนแต่เช้า ท่างานหรือ? ไม่...เท่าที่ยาใจสืบมาเขาจะมีงานอีก

ทีตอนบ่ายสอง หรือว่าเขายังไม่ตื่น...แต่กระหน่ำกดจนข้อแขนกระตุกขนาดนี้

ถ้ากริ่งไม่เสีย ธีร์ก็คงหูตึง หรือไม่...ก็หลับเป็นตายไปแล้ว

เป็นตาย! ตาย...ตายแล้ว หรือว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับธีร์

ไวเท่าความคิด ดาดารินรีบวิ่งกลับไปที่ห้อง ก่อนจะต่อสายโทรศัพท์ถึง

ประชาสัมพันธ์ด้านล่าง

“สวัสดีค่ะ นี่เจ้าของห้อง 111 นะคะ เมื่อกี้นี้ฉันไปกดกริ่งห้อง 112 แล้ว

 

 

(โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)


 

 


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024