มนตราพิศวาส (ดาตาริณ)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: -
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 360.00 บาท 90.00 บาท
ประหยัด: 270.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

ตอนที่ 1

พนักงานเสิร์ฟสาวพราวเสน่ห์

 

 

“ต้าร์คะ สนใจจะทำงานที่มันเหนื่อยน้อยกว่าแต่ได้รับเงินเดือนที่เยอะกว่านี้ไหม”

เสียงแหบต่ำแบบผู้ชายที่ดังขึ้นทางด้านหลัง ทำให้เจ้าของชื่อที่กำลังง่วนกับการเก็บกวาดจานชามบนโต๊ะอาหารสะดุ้งและหันไปมองยังต้นเสียง

“คะ? อ้าว! พี่ชานั่นเอง ตกใจหมดเลย มานานหรือยังคะเนี่ย”  คนที่ถูกทักทายด้วยประโยคคำถามถึงบางอ้อทันทีที่เห็นว่าใครคือเจ้าของน้ำเสียงอันหวานหยด กระนั้นเธอก็ไม่ได้ให้คำตอบเขาในทันที แต่ใช้วิธีถามกลับแทน

“มาทันได้เห็น คนที่กำลังง่วนกับการเก็บโต๊ะอยู่เนี่ยแหละค่ะ” หนุ่มใหญ่บอกพร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง

หญิงสาวส่งยิ้มจืดเจื่อนตอบกลับไปให้กับหนุ่มใหญ่ที่ยังคงยืนจ้องหน้าเธออย่างเอาเป็นเอาตาย ก่อนที่จะหันไปเก็บโต๊ะต่อราวกับว่าไม่มีร่างของเขายืนอยู่ตรงนั้น อีกนัยหนึ่งก็เพื่อเป็นการตัดบทสนทนา

“แล้วที่พี่เสนอให้ล่ะคะ สนใจไหม” หนุ่มใหญ่ยังรุกที่จะถามต่อ

“งานที่ได้เงินเยอะแต่ไม่เหนื่อยมันจะมีอยู่จริงหรือคะพี่ชา” หญิงสาวตอบคำถามด้วยคำถามอีกครั้งอย่างเสียไม่ได้ นั่นเป็นเพราะเธอไม่ค่อยอยากจะเสวนากับผู้ชายคนนี้มากนัก

“มีสิ ถ้าต้าร์สนใจ พี่จะช่วยฝากให้” หนุ่มใหญ่บอก

“จริงๆ แล้วเป็นพนักงานเสิร์ฟ ก็ไม่ได้หนักหนาและเหนื่อยมากเท่าไหร่หรอกค่ะ ต้าร์ยังพอทำไหว”  หญิงสาวบอกอย่างเลี่ยงๆ ในใจไม่ค่อยไว้ใจผู้ชายคนนี้เท่าไหร่นัก

“แต่งานนี้สบายกว่าเยอะนะ ทำงานวันละสี่ชั่วโมงเอง ได้ทั้งเงินเดือนแถมมีคอมมิชชั่นด้วย หน้าตาสวยๆ หุ่นดี อย่างต้าร์เนี่ย พี่ว่าคงได้ค่าคอมมิชชั่นเยอะเลยทีเดียว” หนุ่มใหญ่ยังคงหว่านล้อมต่อ พลางกวาดสายตาไปมองร่างสูงเพรียวบางอย่างไม่เกรงใจคนเป็นเจ้าของเลยสักนิด

ฮึ่ม! มองเสียขนาดนี้ เดินมาถอดเสื้อผ้ากันเลยดีกว่าไหม’ คนถูกจ้องได้แต่แอบต่อว่าคนมองอย่างจวบจ้วงอยู่ในใจพลางขยับตัวหันหลังไปเก็บของบนโต๊ะต่อ แน่นอนว่าเธอไม่ค่อยพอใจสายตาของเขาที่มองมาประหนึ่งจะปลดเปลื้องผ้าออกจากร่างกายของเธอไปทีละชิ้นเลยก็ว่าได้ เธอรู้อยู่แก่ใจว่า ‘พี่ชา’ หรือนายชานุมักจะเข้ามาเกาะแกะและมีทีท่าเข้ามาจีบหลายครั้ง แต่เธอก็ไม่เคยคิดจะสนใจหนุ่มใหญ่คนนี้เลยสักนิด ทั้งยังพยายามจะเลี่ยงการพบปะพูดคุยหลายครั้ง

อันที่จริง ‘พี่ชา’ เขาเป็นพนักงานของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายเบียร์ยี่ห้อดังในจังหวัดเชียงใหม่ และวันนี้เขาก็นำสินค้ามาส่งให้กับร้านอาหารที่เธอทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟอยู่เหมือนเช่นปกติ และที่สำคัญเขาเป็นผู้ชายที่เจ้าของร้านอาหารแห่งนี้หมายปองอยู่ ทุกครั้งที่หนุ่มใหญ่เดินเข้ามาคุยด้วย เจ้านายสาว (ที่เหลือน้อย) ของเธอ ต้องมองเขม่นและคอยหาเรื่องพูดจาถากถางทุกครั้งไป

กีรตาหรือที่ใครๆ เรียกว่าต้าร์กันจนติดปาก เธอเป็นหญิงสาวที่เกิดในจังหวัดเชียงราย และเข้ามาเพื่อศึกษาต่อระดับปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ หลังจากเรียนจบในระดับปวส. แล้ว ปัจจุบันเธออยู่เรียนอยู่ปีสุดท้าย และเธอต้องหางานพิเศษทำเพื่อแบ่งเบาภาระของทางบ้าน

ดังนั้นหญิงสาวจึงตัดสินใจมาสมัครงานเป็นพนักงานเสิร์ฟ ที่ร้านอาหารแห่งนี้ ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำสายหลักของจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหารที่ทำเป็นร้านอาหารขนาดเล็ก ทว่ากลับมีคนเข้ามาใช้บริการแน่นขนัดทุกวัน เงินเดือนที่ได้รับแม้จะไม่มากมายบวกกับเงินพิเศษ รวมกับเงินที่บิดาส่งมาให้ทุกเดือน ก็พอช่วยให้สามารถใช้ชีวิตได้อยู่ได้โดยที่ไม่ลำบากมากนัก

กีรตาทำงานที่นี่มาได้ประมาณเกือบปีแล้ว เจอทั้งลูกค้าชั้นดีและชั้นเลว ทั้งที่มากินข้าวกับครอบครัว กับแฟน กับเพื่อนๆ กับกิ๊ก หรือแม้แต่มาหาเศษหาเลยกับพนักงานเสิร์ฟสาวๆ  ที่ร้านเผื่อจะโชคดีได้หิ้วติดไม้ติดมือกลับบ้าน  มีทุกรูปแบบ แต่หญิงสาวก็สามารถรับได้ทุกสถานการณ์อย่างมีชั้นเชิง มีวิธีการเลี่ยงแบบที่ไม่ต้องมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเจ็บช้ำน้ำใจ เจ้าของร้านจึงชื่นชมในตัวเธอนัก ซึ่งลูกค้าหลายรายที่ติดใจในการพูดการจาของเธอและกลับมาที่ร้านบ่อยๆ

แต่มีอยู่เพียงเรื่องเดียวที่ทำให้เจ้าหล่อนเคืองกีรตาอย่างเอาเป็นเอาตาย นั่นก็คือการที่ ‘พี่ชา’ ที่หญิงสาวเรียกติดปากมายืนคุยอยู่กับเธอเป็นนานสองนาน

“ว่าไงล่ะคะ สนใจหรือเปล่า” ชานุยังคงถามต่อ หนุ่มใหญ่จ้องมองแผ่นหลังบอบบางของหญิงสาวที่เขาตกหลุมรักตั้งแต่วันแรกที่เจอ และได้แต่เฝ้ามองเธอมาเกือบจะปีหนึ่งแล้ว พยายามทุกทาง กระทั่งรุกจีบอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยังคงวางตัวเฉย ไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาวกับคำหยอกเย้าของเขาเลยสักนิด ไม่มีสักครั้งที่สาวสวยคนนี้จะทำท่าทางเขินอายกับคำหวานที่เขาขยันป้อนหยอดให้ทุกครั้งที่เจอกัน ในทางตรงกันข้ามกลับทำนิ่งเฉยแล้วเปลี่ยนเรื่องคุยแทบจะทันที จนบางครั้งเขาเองก็รู้สึกเก้อเขินแทนไปเอง เธอยังคงรักษาระยะห่างกับเขาได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย วันแรกที่เจอกันเป็นยังไง ทุกวันนี้ก็ยังคงเป็นอย่างนั้น

“เอ่อ.....” กีรตาอึกอัก ชะงักมือที่กำลังเก็บจานชามของโต๊ะลูกค้าลงรถเข็น หญิงสาวรู้สึกอึดอัด ทั้งยังหวาดระแวงและไม่ไว้ใจผู้ชายตรงหน้าขึ้นมาทันที ด้วยไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องมาคาดคั้นอะไรกับเธอมากมายขนาดนี้ ขนาดปฏิเสธทางอ้อมแบบนุ่มนวลไปแล้ว หนุ่มใหญ่ก็ยังไม่เลิกตื้อ

อาการชะงักมือ คอแข็งของสาวสวยตรงหน้า ทำให้ชานุพอจะเดาความคิดของเธอออก

“ต้าร์กังวลอะไรหรือเปล่าคะ งานที่พี่จะแนะนำให้ต้าร์ไปทำน่ะ งานสุจริตนะ แล้วก็ไม่ใช่งานพวกคาเฟ่ หรือคาราโอเกะ อะไรจำพวกนั้นหรอกนะ ต้าร์หายห่วงได้ โอย!  ถ้าพี่ชวนต้าร์ไปทำงานแบบนั้น พี่คงอกแตกตายเพราะความหึงหวงต้าร์เสียก่อนล่ะคะ หึหึ” ชานุหัวเราะในลำคอเบาๆ หญิงสาวจึงหันมามองเขาช้าๆ ดวงหน้าของเธอยังคงเรียบเฉยไม่ได้รู้สึกเขินอายไปกับคำหวานที่เขาเอ่ยออกมาเหมือนเช่นทุกครั้ง เพื่อจับพิรุธคนตรงหน้าว่าไม่ได้กำลังหลอกล่อแต่อย่างใด

ชายหนุ่มมองสบสายตาของหญิงสาวอย่างไม่คิดจะหลบ นัยน์ตาฉายแววความจริงใจอย่างเปิดเผย เขาแค่หวังจะให้เธอได้งานที่ดีกว่านี้ ทำงานสบายกว่านี้ ไม่ใช่ทำงานตั้งแต่หกโมงเย็นจนถึงตีหนึ่ง ซึ่งกว่าจะได้กลับบ้านก็เกือบๆ จะตีสองของทุกวัน ไม่มีแม้แต่วันหยุด แถมเงินค่าจ้างก็ได้น้อยนิด คุณวาสนาเจ้าของร้านก็ช่างใจดำเหลือเกิน ไม่เคยนึกเห็นใจเด็กๆ ในร้านเลย โขกสับใช้ยิ่งกว่าทาสเสียอีกในความคิดของเขา เพราะทุกครั้งทีเขามาส่งเบียร์ เขาเห็นผู้หญิงที่เขาแอบหลงรัก ต้องวิ่งวุ่นวายกับโต๊ะนั้นโต๊ะนี้  เหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดขึ้นเต็มตามไรผมสวยงามที่หลุดลุ่ยจากการที่เจ้าตัวผูกหางม้าไว้ มันทำให้เขารู้สึกเห็นใจและอยากเข้าไปช่วยเหลือยิ่งนัก

“แล้ว....งานที่พี่ชาพูดถึง...คือ...งานอะไรหรือคะ” ในที่สุดกีรตาก็โพล่งถามออกไปอย่างที่ใจนึกสงสัย มีด้วยเหรองานที่สบายเหมือนที่หนุ่มใหญ่คนนี้บอก เป็นใครก็ต้องคิดว่างานที่ว่านั้นคงหนีไม่พ้น สาวน้อยคาเฟ่ หรือสาวนั่งดริ้งค์ตามคาราโอเกะทั่วไป

“เชียร์ผลิตภัณฑ์ครับ” ชานุตอบและรีบอธิบายต่อ

“พี่มีคนรู้จักที่เขาทำอยู่แผนกคัดสรร และจัดหาพนักงานที่เชียร์ผลิตภัณฑ์ของบริษัท ที่เขาเรียกกันว่าพริ้ตตี้น่ะ” หนุ่มใหญ่อธิบายต่อเมื่อเห็นเธอมีทีท่าสนใจฟังเขาขึ้นมาบ้างแล้ว ไม่เหมือนกับทุกครั้งที่เขาเดินเข้ามาคุยเธอเป็นต้องติดภารกิจทำนั่นทำนู่นทำนี่อยู่ตลอดเวลา ไม่ค่อยสนใจจะคุยกับเขาสักเท่าไหร่ พอมีโอกาสก็จะรีบผละหนีออกไปอย่างรวดเร็ว

“งานพวกนี้ไม่ได้นั่งสบายเหมือนงานที่นั่งอยู่กับแขกตามคาเฟ่ หรือคาราโอเกะ” หนุ่มใหญ่เว้นจังหวะการพูดนิดหนึ่ง เมื่อเห็นหญิงสาวยังสนใจที่จะฟังจึงอธิบายต่อ

“บริษัทจะส่ง ต้าร์ ไปประจำอยู่ตามร้านอาหารต่างๆ ในที่อยู่ในอำเภอ แล้วแต่ว่าทางบริษัทจะส่งให้ไปอยู่ที่ร้านไหน และอาจจะมีการโรเทจร้าน เดือนละครั้ง หรือสองเดือนครั้งแล้วแต่ว่าทางบริษัทจะกำหนด หน้าที่ของต้าร์ คือต้องเชียร์เครื่องดื่มทุกตัวที่เป็นสินค้าของบริษัท ให้มียอดขายมากที่สุด  ซึ่งต้องแข่งขันกับของยี่ห้ออื่นด้วย ทำงานวันละ 4 ชั่วโมง เวลาทำงานก็จะเป็นช่วงเย็นๆ อย่างนี้แหละ ได้หยุดอาทิตย์ละหนึ่งวัน ค่าจ้างก็ได้เยอะอยู่นะแถมได้ค่าคอมมิชชั่นด้วย แต่ได้เท่าไหร่อันนี้พี่ไม่แน่ใจ แต่เห็นน้องๆ ที่ทำก็ได้กันอยู่ประมาณสี่ถึงห้าพันต่อเดือนนะ พนักงานส่วนใหญ่ที่มีอยู่ตอนนี้ก็จะเป็นนักศึกษาทั้งนั้นแหละ” หนุ่มใหญ่อธิบายยิ้มๆ

“แล้วชุดที่ต้องใส่ไปทำงานล่ะคะ” กีรตาถามขึ้นมาอย่างไม่คลายความสงสัย แม้เธอจะยอมรับว่าสนใจงานนี้ก็จริง เมื่อคำนวณถึงเรื่องของเวลาและค่าตอบแทนที่ได้ แต่ก็ยังอดห่วงไม่ได้เรื่องเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่เธอต้องสวมใส่เวลาไปทำงาน หากว่าต้องใส่ชุดแหวกหน้าแหวกหลัง เธอคงจะขอปฏิเสธ

“ฮ่าๆๆๆ ต้าร์ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นเลยค่ะ เพราะชุดฟอร์มที่ต้องใส่ รัดกุมเสียยิ่งกว่ารัดกุมอีก ไม่มีโป๊อย่างแน่นอน” หนุ่มใหญ่หัวเราะอย่างอารมณ์ดี นี่คืออีกเหตุผลหนึ่งที่เขาชอบหญิงสาวตรงหน้าเสียเหลือเกิน ด้วยความถือเนื้อถือตัวแตกต่างจากพนักงานสาวเสิร์ฟคนอื่น เธอจึงไม่เคยโอนอ่อนให้กับใครถึงแม้จะมีคนเสนอสิ่งล่อตา ล่อใจ ไม่ว่าจะเป็นเงิน หรือสิ่งมีค่าอื่นๆ เพื่อจะให้เธอไปเป็นคู่ควง คู่นอน หรือแม้แต่หาเศษหาเลยจากร่างกายอันสวยงาม ทว่าไม่เคยสักครั้งที่จะให้บรรดาลูกค้าทั้งหัวหงอกหัวดำได้แตะต้องเธอแม้แต่ปลายเล็บ

“ว่าไงคะ ทีนี้สนใจงานที่พี่แนะนำให้หรือยัง” หนุ่มใหญ่ถามย้ำอีกครั้ง อย่างมีความหวัง เขาหวังว่าการที่เขาช่วยเหลือหญิงสาวให้ได้งานนี้ จะทำให้เธอเห็นใจ และใจอ่อนยอมหันมามองเขาสักที แต่ชานุไม่มีโอกาสรู้หรอกว่า ไม่ว่าจะอย่างไรต่อให้ทำดีแค่ไหนเขาก็ต้องหวังเก้ออยู่ดี

“ต้าร์สนใจค่ะพี่ชา” หลังจากสอบถามเรื่องเสื้อผ้าจนสบายใจแล้ว กีรตาก็นึกสนใจงานนี้ขึ้นมาทันที ซึ่งหากเธอได้ทำงานอย่างนี้จริง เธอจะได้มีเวลาพักผ่อนบ้าง

ตลอดเวลาที่กีรตาทำงานที่ร้านอาหารแห่งนี้มาเกือบปี หญิงสาวรู้สึกเหนื่อยล้าไม่น้อย ยิ่งเมื่อเวลาที่ต้องไปนั่งเรียนในมหาวิทยาลัยในช่วงกลางวัน เธอยังจำช่วงแรกที่เริ่มทำงานใหม่ๆ ได้ดี เธอแทบจะเรียนไม่รู้เรื่องเพราะความง่วง ความเหนื่อย ความเพลียที่เกิดขึ้น เพราะกว่าที่จะได้นอนก็เป็นเวลาล่วงเลยไปถึงตีสามแล้ว ยิ่งฟังวิชาที่เป็นบรรยายยิ่งแทบจะฟุบหลับคาโต๊ะ แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปได้ประมาณเดือนเศษ เธอก็เริ่มที่จะปรับตัวได้ แถมผลการเรียนก็ยังเป็นที่น่าพอใจ แต่ก็ยังรู้สึกเหนื่อยเนื่องจากเวลาพักผ่อนไม่เพียงพออยู่ดี

“ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ พี่จะพาต้าร์ไปสมัครงานนะคะ” ชานุรีบเสนอตัวทันที การที่ได้อยู่ใกล้เรือนร่างงดงามซึ่งไม่ใช่ในเวลาทำงาน ทำให้เขาดีใจเนื้อเต้น เขารอโอกาสนี้มานานแสนนานจนบางครั้งรู้สึกท้อใจ ที่เธอไม่เคยสนใจเขาเลย แต่พอเห็นหน้าหญิงสาวที่เขาแอบหลงรัก ความท้อใจก็หายไปในบัดดล

“ค่ะพี่ชา พรุ่งนี้ เก้าโมงเช้า เจอกันที่หน้าห้าง......” หญิงสาวบอกชื่อห้างในตัวเมืองไป 

“ได้ค่ะ” หนุ่มใหญ่ตอบรับการนัดแนะของหญิงสาวด้วยรอยยิ้มกว้างอย่างดีใจที่จะมีโอกาสได้ใกล้ชิดสาวน้อยตรงหน้ามากยิ่งขึ้น

กีรตาหันหน้าไปเก็บกวาดจานชามที่เหลือบนโต๊ะลงรถเข็น โดยไม่สนใจชายหนุ่มอีก ทำให้ชานุเก้อไปเล็กน้อย แต่กระนั้นก็ยังไม่ละความพยายามที่จะชวนหญิงสาวคุยอีก หากแต่มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาก่อน

“คุณชาคะคุณชา มาอยู่ที่นี่นี่เอง นาก็ตามหาคุณชา เสียทั่วร้านเลยค่ะ ไม่คิดว่าคุณชาจะเดินมาคุยกับ ‘เด็กเสิร์ฟ’ ของนาอยู่ตรงนี้” สาวใหญ่เจ้าของร้านอาหารเดินลงมาบริเวณที่หนุ่มสาวยืนคุยกันอยู่ ก่อนจะเอ่ยทักชานุ และเน้นย้ำคำว่าเด็กเสิร์ฟพร้อมกับหันไปปรายตามองทางกีรตาด้วยไม่ใครจะชอบใจนัก ที่เด็กในปกครองบังอาจมายืนคุยกับชายหนุ่มที่เธอหมายปองมาเนิ่นนาน

“คุยอะไรกันอยู่คะ” วาสนา หันไปถามชานุ ซึ่งยืนเป็นใบ้กิน กับคำถากถางที่สาวใหญ่ ต่อว่าหญิงสาวที่เขาแอบมีใจให้

“เอ่อ...ก็คุยเรื่อยเปื่อยน่ะครับ” หนุ่มใหญ่กล่าว ไม่อยากพูดอะไรเพื่อให้เป็นประเด็นอีก

“หรือคะ เรื่องเรื่อยเปื่อยนี่คงจะมีมากมายสินะคะ เพราะนาเห็นว่าคุยกันนานมาก” สาวใหญ่พูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันชายหนุ่ม

“เอ่อ....” ชายหนุ่มอ้ำอึ้ง

“ต้าร์ ขอตัวเอาของไปเก็บก่อนนะคะ” กีรตาพูดแทรกขึ้นเมื่อเห็นจังหวะที่จะออกมาจากบรรยากาศที่เริ่มอึดอัดและครุกรุ่น โดยที่มีเจ้านายสาวและผู้ชายที่เธอไม่เคยรู้สึกอะไรด้วยเลยยืนอยู่ในขณะนี้ แล้วก็รีบผละไปอย่างรวดเร็วโดยไม่รอคำอนุญาต

“เอ่อ....ถ้าอย่างนั้นผมเองก็ขอตัวกลับเลยแล้วกันครับ พอดีมีไปส่งเบียร์อีกที่หนึ่งครับ” หนุ่มใหญ่เองรีบผละไปอีกคน ทิ้งให้สาวใหญ่ยืนเหวออยู่คนเดียวที่กลางร้าน วาสนากระทืบเท้าด้วยความขัดใจ

“ฮึ!  คุณชานะคุณชา พอเห็นนาทำหยั่งกะเห็นผี รีบชิ่งหนีไปเลยนะ ทีเวลายืนคุยกับยัยต้าร์ เสียงอ่อนเสียงหวานเชียว เชอะ!” สาวใหญ่บ่นออกมาอย่างเจ็บช้ำน้ำใจและตัดพ้อ ก่อนจะเดินกระแทกเท้ากลับเข้าไปยังส่วนของแคชเชียร์เพื่อนั่งตรวจบัญชีต่อ

***********************************************************


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (73 รายการ)

www.batorastore.com © 2024