นางฟ้าตัวร้าย (กนกวลี พจนปกรณ์)

นางฟ้าตัวร้าย (กนกวลี พจนปกรณ์)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9789742533397
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 265.00 บาท 66.25 บาท
ประหยัด: 198.75 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

เมฆฝนตั้งเค้าจับกลุ่มก้อนเป็นสีเทาดำหนาทึบ ไล่ความสดใสของ

ท้องฟ้าที่เป็นสีฟ้าหายไปอย่างน่าเสียดาย

ท่าทางสายลมเบื้องบนจะแรงจัด เพราะเมฆกลุ่มนั้นแผ่ตัวกระจายเต็มฟ้า อย่างรวดเร็ว จนทำให้ขุนเขาสีฟ้าจางในวันแดดจัดที่ล้อมอยู่รอบบ้าน กายเป็น

สีน้ำเงินเข้มและออกจะเข้มจัดจนเกือบดำอย่างน่ากลัวไปใน

ชายหนุ่มคนหนึ่งนอนเหยียดยาวอยู่บนเก้าอี้พลาสติกสานลายเลียนแบบ หวาย ขาพาดก่ายไปบนสตูลอีกตัวที่วางอยู่ปลายเท้า

เขาหลับตาอย่างไม่ใส่ใจกับสิ่งใด แม้ว่าในพริบตาต่อมา สายลมจะกระโชก แรงจนต้นไม้ กิ่งไม่รมระเบียงโล่งกว้างนั้นโยกไหว และใบไม้แห้งได้ปลิวผ่านเข้า

มากระจายเกลื่อนบนระเบียบก็ตาม

“คุณ...คุณ” หญิงวัยกลางคนในชุดดำนั้นชดเสื้อแขนยาวสีดำสวมกับผ้าถุงสีน้ำเงิน ยาวกรอมเท้า ร้องเรียกมาจากในบ้าน “ฝนจะลงแล้วนะ”

ร่างของชายหนุ่มวัยไม่เกินลามสิบ ใน,ชุดกางเกงยีนส์ขายาวตัวฟิตสีเทากับ เสื้อยืดคอกลมสีขาวก็กังคงนิ่ง ไม่ไหวติง

ทำให้หญิงวัยกลางคนถลาออกมาจากในเรือน นางมายืนอยู่ข้าง ๆ ส่งเสียง

เรียกดังกว่าเดิม

                คุณ คุณเจ๋ง...ฝนจะตก”

                นั่นเอง เขาจึงหรี่ตาขึ้นมามอง

ครั้นเมื่อเห็นร่างของนาง ขาข้างที่พาดอยู่บนเก้าอี้อีกตัวค่อยลดลง หนุ่ม

ตัวสูงที่มีลำตัวยาวจนทำให้นอนบนเก้าอี้นอนปกติไม,พอ ขยับลุกขึ้นนั่ง

“ฝนจะตก” หญิงวัยกลางคนกังตะโกนบอกเสียงดังดุจเดิม

ชายหนุ่มมองไปรอบตัวแล้วส่ายหน้าดุ ๆ “ตกก็ตกสีป้า จะเสียงดังทำไม” “ก็คุณจะนอนไม่ยอมเข้าบ้าน”

“ช่างผมปะไร ผมจะนงจะนอน ไม่เกี่ยวกับป้า”

“ถ้านอนตากฝนไม่สบายชิ้นมา แม่คุณก็มาโทษป้าสิ เดี๋ยวจะมาหาว่าดูแล คุณไม่ดีอีก”

“โอย...” ชายหนุ่มลุก'ชิ้น สี,หน้าดุแล้วกังหงุดหงิดอีก คล้ายกับว่าความ หงุดหงิดจะเพิ่มขึ้นมาเมื่อได้ยินคำว่า ‘แม่’

เขามองหน้าหญิงวัยกลางคน “ป้าเลิกอ้างแม่ผมซะที มาอยู่ถึงแล้ว ยัง

จะให้แม่ตามมาเป็นเงาอีก”

ครานี้หญิงผิวสีเข้มยิ้มอ่อนโยนเมื่อต่อวาจา “แหม” คุณเจ๋ง คนเป็นแม่น่ะไม่ว่าลูกจะไปอยู่ที่ไหน แม่เด้าเป็นห่วงได้ทั้งนั้นละค่า”

ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างรำคาญ          แหงนหนามองฟ้าก่อนจะว่าด้วยความ

หงุดหงิดไม,จางหาย

“ฝนอ้านี่ก็ ตกอยู่ได้ เมื่อไหร่มันจะหมดหน้าฝนเสียทีวะ รำคาญ”

บ่นว่าฟ้าฝนแล้ว ร่างลง ๆ ขาว ๆ หน้าตาหล่อเหลาปากนิดจมูกหน่อยก็ล้ม ตัวลงไปนอนที่เดิมต่อ

ทำให้ป้าวัยกลางคนร้องอุทานเสียงสูงปรี๊ดขึ้นมาอีกว่า “อ้าว...คุณ”

ทว่าชายหนุ่ม ผู้มีนามว่า ‘ เจ๋ง ‘ ก็ไม่สนใจ

เขาโบกมือไล่นางให้กลับเข้าไป

“ฝนจะตกนะคุณ” นานยังไม่ยอมขยับ ยังทำทำเหมือนจะไข้กำลังลากเขา

เข้าไปในร่มของชายคาบ้านให้ได้

                คุณเจ๋ง หรือหนุ่มชาวกรุงผู้มีชื่อเต็ม ๆ ว่า ‘ใจเด็ด’ ต้องร้องโวยวาย

                ป้า อย่ามายุ่งกับผม ไป ๆ ซะที ไปเลย ผมไม่โง่นอนตากฝนหรอกน่า

ถ้ามันตกจริง ๆ ผมจะเข้าไปเอง...”

 

ป้ายอมถอย

คุณเจ๋งนอนหลับตา เสียงใบไม้ถูกลมพัดดังอยู่ซู่ ๆ ซ่า ๆ รอบตัว

แม้ตาจะหลับ แต่รับรู้ในถึงทุกสิ่ง รู้ในเวลาต่อมาว่าเมฆฝนก้อนโตที่ทำทำ จะร่วงหล่นลงมาเป็นน้ำฟ้านั้นได้ถูกลมพาพัดจากไปแล้ว

“เห็นมั้ย...สุดท้ายมันก็ไม่ตก ฝนท้าเอ๊ย” เขาร้องว่า ตาไม่ได้ลืม

และพลันนั้น หูแว่วยินเสียงพูดคุย'ของป้าคน'งานที่แม่มอบอำนาจไว้ให้ดูแล สถานที่แห่งนี้พูดคุยอยู่กับใครสักคน

“ป้า...” เขาอ้าปากร้องเรียก อันที่จริง ป้าแกไมได้เป็นญาติโกโหติกาอะไร ด้วย เรียกให้เป็นสรรพนามไปอย่างนั้น

เงียบ ไม,มีเสียงขานตอบ แต่เสียงเจรจาวะแว่วยังไม่หยุด

“ป้า...” คุณเจ๋งตะโกนดังกว่าเดิมอีก

คราวนี้ได้ผล คนแก่วัยสี่สิบเดินมาหา

รอยยิ้มยียวนกว้างเต็มใบหน้าชายหนุ่ม นึกขันในใจ แม่นะแม่ จะให้เขา

เรียกป้าคนนี้ว่าป้าทำไม จะว่าไปแล้ว แม่ของเขาน่าจะอายุมากกว่าป้าคนนี้เสียอีก

ละมั้ง

เอ...แม่เขาอายุเท่าไหร่กันแน่นะ

ห้าสิบ...ห้าสิบเอ็ด หรือห้าสิบสอง ห้าสิบสาม

ช่างเถอะ...อายุเท่าไหร่ก็ช่าง แต่แม่ยังแลดูสาว แลดูสวยกว่าป้าคนที่มายืน

อยู่ตรงหน้านี้เยอะ

“ป้าอายุเท่าไหร่นะ” คุณเจ๋งถาม

หญิงสูงวัยขมวดคิ้วยุ่งอย่างรับมุกไม่ทัน แต่ก็ตอบ “สี่สิบสอง”

“ฮึ...” เขาพ่นเสียงขึ้นจมูก จนป้าเฝ้าบ้านสวนตวัดสายตามาจ้องหน้า

บ้านหลังนี้เป็นหนึ่งในบ้านหลาย ๆ หลังของแม่ แม่เรียกเสียโอ้ว่าบ้านสวน วันก็น่าเป็นสวนอยู่หรอก เพราะเรือนไม้สักหลังใหญ่ปลูกอยู่บนเนินเขาลูกเตี้ย ๆ ท่ามกลางขุนเขาน้อยใหญ่ที่ล้อมรอบอยู่ไกลออกไป ไม,ว่าจะหันมองไปทางไหน

คนบนบ้านนี้จะเห็นแต่ภูเขา

สมัยเขาลังเล็กๆ เมื่อแม่พาเพื่อนๆยกโขยงมาที่นี่ เพื่อนๆของแม่มักจะ กรี๊ดกร๊าดตื่นเต้นไปกับขุนเขาแบบสามร้อยหกสิบองศาของที่นี่กันทั้งนั้น

และรอบ ๆ ของบ้านสวน เมื่อมองออกไปจะเห็นสวนส้มของชาวบ้านที่ขึ้น พึ่บอยู่ตามเนินเขาเป็นลูกๆ ยกเว้นบ้านสวนของแม่ ปล่อยหญ้าขึ้นจนเต็ม

“คุณเจ๋งเรียกป้ามาท่าไม” ป้าเฝ้าสวนชึ่งเขาไม่เคยสนใจจะรู้ว่าชื่ออะไรเอ่ยถาม สีหน้าตึง ๆ

“ป้าคุยอยู่กับใคร” เขาถาม

ป้างง “ก็นี่ไง คุยอยู่กับคุณ”

“ไม่ข่าย ผมถามว่า เมื่อกี้ป้าคุยกับใคร ผมได้ยินเสียงพูด...”

“อ๋อ...” หญิงสูงวัยลากเสียงยาวราวกับสระอูของบุญชู แถมมีรอยยิ้มปรากฏ ขึ้นบนใบหน้าอีกด้วย “คุยกับฟ้า นี่...เด้าเป็นเจ้า,ของสวนส้มข้างที่เราน่ะคะคุณเจ๋ง”

“คุยเรื่องอะไรกัน” เขาถาม ถามไปอย่างนั้นเอง ไม่ได้คิดหวังจะเอาคำ

ตอบอะไรมากมาย

เพราะการมาบ้านสวนของแม่หนนี้ ก็เนื่องจากเบื่อและเซ็งกับเรื่องน้าบอคอ แตกของแม่นั้นแหละ ในสายตาของแม่นายเจ๋งหรือนายใจเด็ดไม่เคยประสบความ สำเร็จในชีวิต

เรียนหนังสือไม่เก่ง สอบตกแล้วตกเล่ามาตั้งแต่ชั้นประถม ครั้นระบบการ เรียนเข้าสู่การตัดเกรด เกรดของนายเจ๋งหรือไอ้คุณเจ๋งของแม่ก็ด้องซ่อมกันเป็น ประจำ ด้งนั้น กว่าจะเรียนจบมหาวิทยาลัยได้ก็แทบรากเลือดตาย

                เรียกว่าแทบตายกันทั้งคู่

แม่จะตาย เพราะปากเป้ยกปากแฉะกับการบ่นว่าไล่จิกจี้ให้เขาอ่านหนังสือ ทำรายงานและอีกสารพัดเรื่อง'

ส่วนเขา แทบตายเพราะด้องหูบวม หูชา หูดับ อ้นเกิดจากฟ้งเสียงบ่น

เสียงว่าของแม่

ครอบครัว ขาเป็นครอบครัวที่แม่เป็นคนให้นิยามเองว่า ‘ครอบครัว ใบเลี้ยงเดี่ยว  เพราะมีแม่ทำมาหาเลี้ยงเขาและน้องอีกสองคนด้วยสำแข้งของตัวเอง

ส่วนพ่อ ‘ช่างเขาเถอะ’ แม่มักจะพูดอย่างนี้เมื่อเอ๋ยถึงพ่อที่แยกน้านออกไป

นานตั้งแต่เขาเริ่มจำความได้

พ่อเป็นประเภททำสิ่งใดก็ขาดทุน

แม่เคยเล่าให้ฟ้งว่าบริษัททำโฆษณาที่แม่เป็นเจ้าของอยู่ในเวลานี้เป็นการเริ่มด้น ของพ่อ ตอนนั้นสมัยนั้นแม่ยังไม,ประสีประสาอะไรในเรื่องโฆษณาสักอย่าง แม่ทำ บัญชีอยู่บริษัทเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง

แต่ด้วยความที่แม่เป็นคนประเภทมองเห็นการณ์ไกล แทนที่แม่จะนั่งทำบัญชี

 

อย่างเดียว แม่หารายได้พิเศษด้วยการปล่อยเงินกู้ เริ่มจากลูกค้าในบริษัท ทำ

เล็ก ๆน้อย ๆ กับคนที่แม่มักพูดเสมอว่าต้องมีเครดิตเชื่อไค้ว่าจะมีเงินจ่ายคืน

บางทีดวงของแม่กับเรื่องเงินๆทองๆมันจะไปด้วยกันได้

ดอกผลของเงินที่แม่ปล่อยออกไปมันเบิกบาน จนบานออก ๆ

ส่วนพ่อ...เขามารู้เมื่อโตนี่แหละว่าพ่อชอบของสวย ๆ งาม ๆ

พ่อสะสมของสวยงามที่มีชีวิด ขณะที่บริษัทของพ่อก็เริ่มขาดทุนเพราะเงิน ทองกำรี้กำไรที่ได้ไปพอกพูนอยู่ที่สิ่งมีชีวิตสองขาหนาขาว ๆ เรือนร่างงาม ๆ ของพ่อ

แม่เล่าให้เขาและน้อง ๆ ฟ้งว่าทีแรกแม่ไม่รู้เรื่องพวกนี้หรอก เพราะพ่อมีนโย-

บายที่จะไม่ให้เมียเข้าไปยุ่งเกี่ยวในที่ทำงาน ทั้ง ๆ ที่ใครต่อใครก็บอกแม่ว่าน่าจะเข้าไปช่วยทำบัญชีให้พ่อ

จนสุดท้าย...ความแตก

แน่นอน...เมื่อความแตก บ้านก็แตกด้วย รี้กู้>

แม่เป็นผู้หญิงประเภททนอะไรทนได้หมด จะอดจะอยากจะยากจะจนศรีทนได้ แต่เรื่องเสียผอสระอัวให้ใคร แม่ยอมไม่ได้

แม่ยื่นข้อเสนอให้พ่อ จะเลือกแม่หรือเลือกคนอื่น

พ่อไม่เลือกคนอื่นอยู่แล้ว เพราะคนอื่นพ่อต้องหาเลี้ยง แต่แม่...พ่อไม่ต้อง

รับภาระอะไรในบ้าน         

แต่แล้วพ่อกลับหวนไปหาอีหนูอีก ดังนั้น เมื่อพ่อทำทำลังเล ๆไม่ยอมเลิก สะสมผู้หญิงหน้าขาว ๆ จนแม่จับได้กู้กู้ที่แม่จบไค้ หลังจากที่ให้อภัยมาหลายครั้งหลายหนแล้ว แม่ก็เชิญพ่อออกจากบาน

....คุณเจ๋ง....ฟ้าเขาถามป้าว่าทำไมเล้าของสวนนี้ไม่ทำสวนล้ม ปล่อให้หญ้ารก เสียที่เปล่าๆที่

เสียงป้า...ป้าอะไรหว่า ดังขึ้นมา

เขาหันไปมอง “ใครถาม...”

“อ๊าว...” เสียงแกร้องแบบลากยาวแถมกังทำตาโตถลนออกมาอีก “ก็คุณเจ๋ง ถามอยู่เมื่อกี้ว่าคุยอะไรกับฟ้า เอ...นี่คุณเป็นอะไร ทำไมถึงได้สึงตึงอย่างนี้”

“อะไรสึงตึง...” เขาลุกขึ้นนั่ง ดูสี...ฟ้าฝนมันไม,ตกแล้ว เฮอะ...ก็แค่พวก

 

ท่าดีทีเหลว ทำท่ายงกะจะชวนกันมาท่าใหญ่ตกแบบไม่ลืมหูลืมตาเพราะฟ้ามืดมัว

ไปหมด หน็อย...ที่ไหนได้ เจอลมเข้าหน่อยเดียว เมฆฝนทิ้งหลายก็หนีไปหาเขา

ลูกอื่นชะแล้ว

“นี่ป้า” เขาต่อความกับเรื่องราวทิ้งหมดใหม่ ใจเด็ดเอ่ยเสียงเฉียบกับคน

เฝ้าบ้านสวน “ไปบอกป้าฟ้าของป้านะ ไม่ต้องมายุ่งสอดรู้สอดเห็นกับเรื่องคนอื่น สวนของแม่ผมจะปลูกส้มหรือปลูกหญ้ามันก็เรื่องของเราไม่เที่ยวนบไค'ร”

“ก็เค้าหวังดี เพราะถ้าจะลงส้ม มันไม่ยากเลย คุณมีเงินอยู่แล้ว แค่จ้าง คนงานมา จะเอาล้มพันธุไหนล่ะ สายนํ้าผึ้ง หรือฟรีมองต์ พันธุ์มันมีขาย

ไปเลือกได้เลย ปลูกทิ้งๆไว้ไม่กี่ปีก็ได้ผลแล้ว อย่างสวนของฟ้าขวยได้ปีละเป็นล้าน นะคุณ”

“ป้าอย่าเอาเงินมาล่อ” เขาหงุดหงิดขึ้นมา

เหมือนแม่ เวลาพูดเรื่องอะไรใจคิดแต่เรื่องเงิน เขาเบื่อมาก จบมาปุ๊บแม่

ก็จะให้ทำงานกับแม่ปั๊บ ทั้งๆที่แม่รู้มาตลอดว่าเขาไม่ชอบงานประเภทที่แม่ทำอยู่

เขารู้สึกว่างานของแม่มันต้องห้ำหั่น แข่นขัน แย่งชิงกันอยู่ตลอดเวลา

ก็แม่เองแหละที่พูดอยู่เสมอว่า อาชีพอย่ารู้แม่ล้า'ไมมีเขี้ยวเล็บอยู่ไม่ได้

ใจเด็ด รู้..เขามีใช่คนสะสมเขี้ยวเล็บ เขาไม่ชอบแข่งหรือแย่งชิงอะไรกับใคร

ที่ผ่านมาแม่กัดเยียดให้เขาเรียนโฆษณาประชาสัมพันธ์ ก็นี่ด้วยละมั้งที่กว่า จะจบได้แทบรากเลือดตาย

ก็ของมันไม่ชอบ บังคับให้ชอบนี่นา

ที่ผ่านมาได้ขนาดนี้ก็ถือว่าบุญแล้ว

แต่เท่านั้นยังไม่พอ จบปริญญาตรีในเมืองไทยแบบแทบรากเลือดตาย เขา

ขอแม่ท่องโลกกว้างหนึ่งปี จะไปไหนก็ได้ตามแต่ใจอยากไป แม่ก็ไม่ยอมอีก

โน่น...แม่ล่งเขาไปอเมริกา จัดการหาที่เรียนใบ้เสร็จสรรพ

แน่นอน...หนีไม่พันเรื่องของการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์อีกแล้ว

แม่ไม่ยอมรับรู้ว่าเขาอยากเรียนหรือไม่ ชอบหรือไม,

เขาแทบจะบ้าตาย ใจเด็ดเป็นประเภทต่อด้านเรื่องชักชวนให้คนเห็นและ เชื่อตามในสิ่งที่นักธุรกิจจะกอบโกยเอาผลประโยชน์ได้ เขายิ่งไม,เห็นด้วยกับวิถีชีวิต

คนอเมริกันที่เชื่อทีวียิ่งกว่าสิ่งใดทั้งหมด

ดังนั้น ตลอดเวลาที่เข้าห้องเรียน เมื่อใจมันทั้งธงแบบนี้ไว้แล้ว ใจเด็ดจึง กลายเป็นคนขวางโลกในทัศนะของเพื่อนร่วมชั้นเรียน เท่านั้นไม่พอ เขายังเป็น

จอมเถียงอาจารย์ที่สอนจนเป็นที่เลื่องลือ

เพื่อนบางคนบอกว่าล้ายูไม่ชอบงานด้านนี้ ยะมาเรียนอีกทำไม

เขาเกือบจะตอบ “เพราะแม่บังคับโว้ย”

แต่นึกได้ว่า ขืนพูดไปอย่างนั้น พวกมันคงหัวเราะกันตายว่าเขาเป็นลูกแหง่ ไม่ยอมโต

วันนั้น ใจเด็ดนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงตอบ ‘ก็มาเรียนเพื่อ'จะ'ได้รู้กันพวก นักโฆษณาประชาสัมพันธ์ไง จะได้รู้ว่าพวกเอ็งจะหลอกล่อผู้คนเพื่อหวังผลสิ่งใด แล้วจะได้นำสิ่งนั้นไปบอกให้คนเลิกลุ่มหลงการโฆษณาเลียที’

คนพังอึ้ง ตัวเขาเองก็อึ้ง

อึ้งเพราะคิดไดัว่าเขาน่าจะเปลี่ยนความคิดใหม่ จากต่อต้านมาเรียนรู้เพื่อให้ รู้ทันกลยุทธ์เหล่านี้

ดังนั้น จากที่ไม่ค่อยจะเข้าห้องเรียน เขาเข้าไปนั่งพังอาจารย์เลกเซอร์ทุก ครั้ง

และเขากลายเป็นตัวทั้งคำถามประจำห้อง มีทั้งหลอกล่อให้คนมาติดกับดัก ความคิดของตนเอง มีทั้งที่ค้านความเห็นยูอื่น'ไป'ในทางตรง'ข้ามเสมอ

เพื่อนบางคนเคยถามตรงไปตรงมา ‘เรียนแบบนี้ยูจะเรียน'จบหรือ’

เขาไม่ตอบ แต่หัวเราะอยู่ในใจ เพราะสำหรับเขาจบหรือไม่จบ ไม่ใช่เรื่อง สำคัญ เขาแค่อยากรู้ อยากได้ความรู้ อยากพังความคิดของคนอื่น ไม่ได้อยาก

ได้คะแนน ไม่ได้อยากไดใบปริญญา

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอาจารย์รำคาญ หรือความคิดความเห็นของเขามันเข้าท่า การเรียนหนนี้จึงผ่านไปได้สบาย ๆ

เมื่อจบกลับมา ใจเด็ดมีปัญหากับแม่อีกแล้ว หนนี้มี'ใช่เรื่องเรียน แต่เป็น เรื่องการทำงาน เขาไม่ยอมทำที่บริษัทของแม่ ไม,ยอมย่างกรายเข้าไป ไม่ยอม

รับรู้และไม,ยอมออกความเห็นกับครีเอทีฟของบริษัท

 

                (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024