PS3: Far Cry 3

รีวิวเกมส์ PS3: Far Cry 3
เกาะสวาทหาดสวรรค์แห่งนี้ ไม่มีที่ให้คนดีอยู่

 

หลังจากซีรีส์เกม “Far Cry” ซึ่งเป็นเกมแนว FPS มุมมองบุคคลที่หนึ่ง ที่จะทำให้ผู้เล่นได้วิ่งไล่สาดกระสุนระเบิดภูเขาเผากระท่อมอย่างเมามันส์ไปในรูปแบบของเกมโอเพ่นเวิร์ล ได้ห่างหายไปจากวงการเกมกว่า 4 ปี ในที่สุด Ubisoft ก็ได้ปัดฝุ่นยกเครื่องซีรีส์นี้ใหม่ให้กลับมาสร้างความสนุกจนฮิตติดตลาดได้อีกครั้ง ไม่ว่าคุณจะเคยเล่นซีรีส์ “Far Cry” มาก่อนหรือไม่ก็ไม่สำคัญ เพราะตอนนี้ได้เวลาจับปืนวิ่งห้อตะลุยสาดกระสุนไปบนเกาะอันสวยงามกันแล้ว!!

 

“Jason Brody ตัวเอกของเกมผู้เป็นคนธรรมดาสามัญ แต่กลับต้องมาจับอาวุธเพื่อเอาชีวิตรอดจากไปเกาะสวรรค์แห่งนี้ ”

 

“Far Cry3” ได้สร้างเกาะที่ไร้กฎเกณฑ์แห่งหนึ่งขึ้นมา โดยอ้างอิงจากเกาะภูเก็ตหรือเกาะที่อยู่แถวละแวกในประเทศไทยบ้านเรานี่เอง โดยในเนื้อเรื่องได้อ้างอิงว่า “Jason Brody” ตัวเอกของเกมและเพื่อนๆ ของเขา “Grant”, “Riley”, “Daisy”, “Keith”, “Oliver” และแฟนสาว “Liza” ได้มาพักผ่อนท่องเที่ยวแถวกรุงเทพบ้านเราเพื่อเลี้ยงฉลองที่ Riley ได้รับใบอนุญาตในการเป็นนักบิน ซึ่งพวก Jason ก็ได้ปลดปล่อยความสนุกสุดเหวี่ยงกันบนเกาะอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำใต้ทะเล, การขับรถ ATV, การเล่นเครื่องร่อน และการเที่ยวผับยามค่ำคืน แต่แล้วความสุขของพวกเขาก็ได้มลายหายไปอย่างรวดเร็ว เมื่อพวกเขาได้เล่นกระโดดร่มลงมายังเกาะแห่งหนึ่ง ที่ซึ่งพวกเขาได้เจอจากการตามล่าเอาชีวิตโดยกลุ่มโจรสลัดของ “Vaas Montenegro” ผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มโจรสลัดที่ปกครองเกาะนี้ด้วยความหวาดกลัว พวกเขาพยายามวิ่งหนีกันสุดชีวิต แต่ท้ายที่สุดแล้วเพื่อนๆของ Jason ก็ได้ถูกกลุ่มโจรสลัดจับตัวไป มีเพียง Jason เท่านั้นที่พยายามหนีรอดฝ่าดงกระสุนออกมาได้ และ Jason ก็ได้หนีมาเจอกับ “Dennis Rogers “ ผู้นำกลุ่มคนของหมู่บ้าน “Amanaki” ที่ได้ช่วยชีวิตเขาไว้

 

”Citra Talugmai หญิงสาวผู้นำชนเผ่า Rakyat ที่มีเป้าหมายบางอย่าง“

และ Dennis ก็ได้แนะนำชักชวน Jason ให้เข้าร่วมกลุ่มกับพวกเขา เพื่อรวมตัวกันลุกขึ้นสู้ต่อต้านเหล่าโจรสลัดที่ใช้อาวุธและความกลัวปกครองเกาะนี้เพื่อปลดปล่อยทุกคนให้เป็นอิสระ โดยกลุ่มของ Dennis ได้ทำงานภายใต้การชี้นำของชนเผ่าพื้นเมืองประจำเกาะ “Rakyat” ชนเผ่าที่มีความเชื่อมั่นและศรัทธาแรงกล้าในตำนานผู้กล้าครั้งกาลก่อน โดยมี “Citra Talugmai”  หญิงสาวประจำเผ่าเป็นผู้นำ เมื่อรอดตายมาได้แล้ว Jason จึงได้ตัดสินใจที่จะกลับไปช่วยเพื่อนๆ ของเขาที่กำลังตกอยู่ในอันตรายอีกครั้ง แต่ Jason  จะสามารถช่วยเพื่อนๆ ทุกคนได้อย่างไร? สิ่งใดบ้างที่เขาจะต้องเผชิญหลังจากนี้? และพวกเขาจะหนีพ้นไปจากเกาะแห่งนี้ได้งั้นหรือ? จากนี้ได้เวลาที่คนดีจะต้องหันมาจับปืนเพื่อเอาชีวิตรอดแล้ว
 

”หากเจอกลุ่มโจรสลัดกำลังจะสำเร็จโทษคนที่จับมาได้ ก็อยู่ที่คุณว่าจะเข้าไปช่วยพวกเขามั้ย”

 

แน่นอนว่าอีกอย่างหนึ่งที่เราต้องทำไปในระหว่างการเล่นเกมด้วย คือการทำภารกิจของเนื้อเรื่องหลัก และการรับภารกิจเสริมต่างๆ ในการทำภารกิจหลักนั้นก็จะเป็นเรื่องราวของ Jason ที่ต้องหันมาจับปืนเพื่อเอาชีวิตรอด และค่อยๆ เปลี่ยนแปลงตัวเองไปเรื่อยๆ จากการพบเจอผู้คนและสิ่งต่างๆ บนเกาะแห่งนี้ ส่วนภารกิจเสริมต่างๆ ก็มีตั้งแต่การช่วยเหลือคนในหมู่บ้าน การไปล่าสัตว์ และการล่าค่าหัวเหล่าโจรสลัด ซึ่งการทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้ก็จะช่วยให้เราได้ทั้งเงินและค่าประสบการณ์ และยังได้ของที่จำเป็นในอนาคต พร้อมกับได้เปิดโลกจากการพบเจอสิ่งต่างๆ มากขึ้น เพราะงั้นการทำภารกิจรองก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ และขอแนะนำให้ทำไปควบคู่กับการเล่นภารกิจหลักด้วย

“ความสวยงามของธรรมชาติ ที่แลกมากับความท้าทายถึงชีวิต”

 

อย่างที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ว่าเกมนี้ได้อ้างอิงเกาะภายในเกมมาจากสถานที่ในละแวกของประเทศไทยเรา ทำให้เกาะที่เราต้องใช้ชีวิตอยู่นี้ รายล้อมเต็มไปด้วยผืนธรรมชาติต้นไม้มากมายและทะเลที่สวยงาม พร้อมด้วยสิงสาราสัตว์ดุร้ายมากมายหลากหลายพันธุ์ ไปจนถึงสิ่งที่อันตรายที่สุดอย่างมนุษย์ หรือก็คือค่ายทหารของพวกโจรสลัดที่อยู่ตามที่ต่างๆ นั่นเอง สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราจะได้พบเจอในเกาะที่มีพื้นที่อันกว้างใหญ่แห่งนี้

 

”นอกจากเราจะใช้กล้องถ่ายรูปของเราถ่ายรูปได้แล้ว เรายังใช้กล้องถ่ายรูปดูว่ามีศัตรูอยู่ไหนบ้างได้ด้วย”

 

อีกทั้งเรายังสามารถรู้ได้ว่าในแต่ละพื้นที่มีสัตว์หรือมีสถานที่ใดอยู่บ้าง ด้วยการเปิดหอวิทยุที่อยู่ตามจุดต่างๆ (ส่วนนี้ถ้าใครเคยเล่นซีรีส์เกม “Assassin's Creed” มาก่อนน่าจะเข้าใจ เพราะเป็นระบบเปิดแม็พคล้ายๆ กัน) และยังสามารถไปยึดฐานที่มั่นของเหล่าโจรสลัดที่อยู่ตามเกาะนี้ เพื่อเป็นฐานที่พักในการเดินทางของเราทั้งการซื้อขายของและการกลับมายังจุดเช็คพอยต์ได้ด้วย ซึ่งแต่ละค่ายก็มีเหล่าโจรสลัดที่มีความเก่งกาจแตกต่างกันไป บางค่ายก็ยากที่สู้ไหว เพราะงั้นควรเตรียมตัวเตรียมใจมาให้พร้อมเพื่อความไม่ประมาทก่อนด้วย

”การระเบิดภูเขาเผากระท่อม คืองานของเรา”

 

ในการเอาชีวิตรอดบนเกาะแห่งนี้ เราต้องรู้จักการเอาตัวรอดและพัฒนาตัวเองด้วยวิธีต่างๆ เริ่มจากการเก็บพืชพันธุ์ต่างๆ มาทำเป็นยา ซึ่งพืชแต่ละพันธุ์ก็สามารถนำมาทำยาได้หลายแบบต่างกันไป ทั้งยาที่ช่วยเพิ่มเลือด เพิ่มสถานะในการต่อสู้ หรือช่วยในการล่าสัตว์และดำน้ำ ในการล่าสัตว์เองก็มีสัตว์ต่างๆมากมายหลากหลายแบบ ตั้งแต่สัตว์ป่าธรรมดาทั่วไปจนถึงสัตว์ที่ดุร้ายอย่างเสือหรือฉลาม (ใช่แล้ว เราสามารถพบเจอสัตว์ทะเลใต้น้ำในเกมนี้ได้ด้วย) ซึ่งสัตว์ที่เราล่ามา เราสามารถนำหนังของมันมาพัฒนากระเป๋าหรือสิ่งของต่างๆ เพื่อให้เก็บของได้มากขึ้นได้ ส่วนอาวุธเองก็มีให้ใช้กันพอหอมปากคอมคอ ส่วนค่าประสบการณ์ต่างๆ ที่เราได้รับมาจากการจัดการทุกอย่างแล้ว ก็ยังทำให้เรามีเลเวลที่มากขึ้น และสามารถเพิ่มสกิลความสามารถต่างๆ ได้มากขึ้นด้วย

 

”ในบางครั้ง เราอาจจะเจอสัตว์ต่างๆ วิ่งตัดหน้ารถได้ด้วย ”

ส่วนการตะลุยไปยังสถานที่ต่างๆบนเกาะแห่งนี้ เราก็สามารถไปได้หลายวิธี ไม่ว่าจะการวิ่งชมธรรมชาติไปเรื่อยๆ หรือการขับรถต่างๆ ทั้งรถยนต์หรือรถATV ซึ่งในระหว่างทาง เราอาจพบเจอสัตว์วิ่งมาตัดหน้ารถ หรือเจอรถของกลุ่มโจรสลัดที่ผ่านมาและเกิดการต่อสู้ขึ้นได้ด้วย หรือในการเดินทางด้วยวิธีอื่นๆ ก็ยังสามารถข้ามทะเลไปได้ด้วยเจ็ทสกี หรือบินไปบนท้องฟ้าข้ามภูเขาลูกต่างๆ ได้ง่ายๆ ด้วยเครื่องร่อนก็สามารถทำได้

”ไฟไหม้แล้วยังรออะไรอยู่!? วิ่งไปสิ! วิ่ง!!”

 

ส่วนเรื่องกราฟฟิกภาพนั้นรวมๆ แล้วถือว่าทำออกมาได้สวยงามมาก ตัวเกมมีการแสดงธรรมชาติที่สวยงามเพลิดเพลินตาพร้อมกับผลของการทำลายที่ตามมาในเวลาเดียวกัน ซึ่งองค์ประกอบบางอย่างก็ยังมีรายละเอียดที่สมจริง อย่างการที่เราใช้อาวุธเกี่ยวกับไฟ ก็สามารถทำให้บริเวณผืนป่าโดยรอบถูกเผาลุกลามไปเรื่อยๆ จนเกิดเป็นไฟไหม้ป่าหรือไฟไหม้กระท่อมได้ด้วย เรียกได้ว่านอกจากจะได้ชมความสวยงามแล้วยังได้สนุกกับความวินาศสันตะโรไปพร้อมๆ กันด้วย

.
 
“ Vaa” ตัวร้ายผู้มีเอกลักษณ์และหาได้ยากยิ่งในวงการเกมปัจจุบัน”

 

อีกอย่างหนึ่งที่ต้องขอเอ่ยปากชมเลยก็คือตัวละครที่มีความวิกลจริตสุดโต่ง อย่าง “Vaas Montenegro” เป็นตัวละครตัวร้ายที่ออกแบบดีไซน์มาได้ดีมากๆ เชื่อได้เลยว่าไม่ว่าใครที่เห็นตัวละครตัวนี้ก็ต้องจำได้ขึ้นใจ เพราะนอกจากลักษณะหน้าตาหรือทรงผมโมฮ็อคอันเป็นเอกลักษณ์แล้ว คำพูดทุกคำทุกประโยค ทุกอิริยาบถทุกการกระทำต่างนาๆ ของเขายังล้วนแต่แสดงออกถึงความยียวนกวนประสาท และเต็มไปด้วยความป่าเถื่อนโหดร้ายรุนแรงตลอดเวลา ซึ่งสิ่งเหล่านั้นไม่ใช่แค่ทำร้ายร่างกายอีกฝ่ายเท่านั้น แต่มันยังทำร้ายไปถึงจิตใจด้วย ตัวละครตัวนี้จึงเป็นตัวชูโรงในเกมได้เป็นอย่างดีในการทำให้ผู้เล่นรู้สึกอยากติดตามว่าจะเป็นยังไงต่อไป และ “Vaas Montenegro” ยังเป็นตัวละครที่มีสเน่ห์และหาได้ยากในเกมแนวเดียวกันด้วย

 

”แม้เล่นมัลติเพลเยอร์ ก็ยังไม่วายสาดกระสุนวิ่งหนีระเบิดกันสุดชีวิต”

 

หากคุณยังรู้สึกอารมณ์ค้างกับความสนุกในเนื้อหาหลักของเกมไม่พอ ตัวเกมก็ยังมีระบบมัลติเพลเยอร์ที่สามารถออนไลน์สาดกระสุนกับเพื่อนๆ อีกสี่คนได้ด้วย หรือหากใครอยากสนุกกับเนื้อหาหลักของเกมมากขึ้น ทาง Ubisoft ก็ได้มีการทำภาพยนตร์สั้นๆ สำหรับการโปรโมทเกม ในชื่อ “The Far Cry Experience” ซึ่งเป็นเรื่องราวก่อนที่พวก Jason จะมาที่เกาะแห่งนี้ โดยทำเป็นว่าทาง Ubisoft ได้จ้างนักแสดงอย่างคุณ “Christopher Mintz-Plasse” ให้มาถ่ายทำสารคดีการใช้ชีวิตที่เกาะแห่งนี้ และแน่นอนว่าในระหว่างที่กำลังถ่ายทำอยู่นั้น พวกเขาก็ได้พบกับกลุ่มโจรสลัดของ Vaas ที่จ้องไล่ล่าเอาชีวิตพวกเขาด้วยเช่นกัน หากใครยังไม่เคยชมก็ขอแนะนำให้ลองไปหาชมกันให้ได้ เพื่อเป็นการเพิ่มความสนุกให้กับการเล่นเกมนี้มากขึ้น

 

”พร้อมจะมาเป็นเหยื่อให้พวกพี่เจื๋อนหรือยัง?”

 

คงต้องยอมรับว่า “Far Cry 3” มีความวิกลจริตที่น่าหลงใหลมากจริงๆ มันได้ยกเครื่องใหม่อย่างเต็มที่ ด้วยกราฟฟิคและบทบาทตัวละครที่ถูกขัดเกลาให้มีเสน่ห์ความน่าหลงใหลขึ้น พร้อมด้วยเกมเพลย์ที่สนุกหลากหลาย และเกาะหรรษาอันสวยงามที่ชวนให้วิ่งเล่นทำสิ่งต่างๆได้ไม่รู้เบื่อ อีกทั้งความบ้าบิ่นและความป่าเถื่อนโหดร้ายที่ทาง Ubisoft ได้ตั้งใจใส่มาให้ในเกมนี้อย่างเต็มที่ เพราะคิดว่าผู้เล่นคงไม่มีทางหามันได้ในชีวิตจริงเป็นแน่ หากคุณอยากจะหาเวลามาพักผ่อนยังเกาะแห่งนี้ ก็คงต้องขอให้เตรียมตัวเตรียมใจไว้ได้เลยว่า งานนี้ได้สนุกกันสุดเหวี่ยงแน่นอน!!

สรุปภาพรวมของเกม

< จุดเด่นที่น่าสนใจ >
- เกาะสวาทหาดสวรรค์อันกว้างใหญ่และสวยงาม
- ตัวร้ายที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์น่าติดตาม
- มีสิ่งต่างๆ ที่ให้ทำอย่างหลากลายและสนุกเพลิดเพลินตลอดเวลาการเล่น

< จุดที่ยังมีปัญหาอยู่บ้าง >
- บทบาทของตัวละครและเนื้อเรื่องตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังเป็นต้นไป ค่อนข้างจะเปลี่ยนอารมณ์ผู้เล่นที่กำลังรู้สึกสนุกตื่นเต้นกับเรื่องราวในช่วงแรกพอสมควร
- ด้วยความที่เกมเป็นโอเพ่นเวิร์ลโลกกว้างแบบเรียลไทม์ ทำให้อาจพบเจอบัคแปลกๆ ให้เห็นบ้างเป็นบางครั้ง
- ระบบขับรถที่มุมกล้องอาจทำให้เวียนหัวชวนอ้วกได้