Handsome Silver จำไว้ แล้วนายจะรักฉัน
ประหยัด: 119.25 บาท ( 75.00% )
มีสินค้ามือสองอยู่จำนวน : 1 รายการราคา 90.00 บาท ซื้อสินค้ามือสอง
Quick View
เนื้อหาบางส่วน
บทนำ
ระหว่างอัดรายการโทรทัศน์ช่องหนึ่ง
“กลับเข้าสู่อีกช่วงของรายการกันนะคะ และขณะนี้เรากำลังอยู่กับทายาททั้งหก...”
เสียงพิธีกรชะงักไปชั่วครู่ ก่อนที่เธอจะหันไปนับจำนวนแขกรับเชิญอีกครั้ง และไม่ว่าจะนับสักกี่ครั้ง มันก็มีแค่สี่คนจริงๆ ทั้งที่มันควรจะมีหกคน
“เอ่อ ทายาททั้งสี่คนของตระกูลซิลเวอร์ค่ะ” สีหน้าของเธอเคืองไม่น้อยที่แขกรับเชิญอีกสองคนเบี้ยวนัดออกรายการอย่างหน้าตาเฉย
“ซิลเวอร์! ซิลเวอร์! กรี๊ดดดดดดดดด”
เสียงกรีดร้องสลับกับเสียงเรียกชื่อตระกูลของพวกเขาดังกระหึ่ม
“อย่างที่แฟนๆ ทราบกันดีนะคะ ในช่วงเวลานี้ข่าวของตระกูลซิลเวอร์ รวมไปถึงข่าวส่วนตัวของหนุ่มๆ เองก็กำลังเป็นที่จับตามอง หนุ่มๆ คิดว่าที่เป็นอย่างนี้เพราะอะไรคะ” พิธีกรหันไปถามพลางส่งยิ้มพิมพ์ใจให้
“...” นิ่งเงียบ นั่งแคะขี้ฟันเล่น
“ว่าไงจ๊ะหนุ่มๆ”
“...” มองเพดาน มองไร่ มองนา
“หนุ่มๆ จ๋าาาา”
“...” ไม่อยู่ในความสนใจ
“หนุ่มๆ ที่น่ารักของป้า!”
ป้าพิธีกรแทบจะลุกจาโซฟาไปทึ้งหัวแขกรับเชิญทั้งสี่คนที่นั่งนิ่งไม่สะทกสะท้าน นี่เธออุตส่าห์ใช้เส้นสายของความเป็นป้าแท้ๆ ของเหล่าทายาทแห่งซิลเวอร์ เอาพวกเขามาออกรายการสัมภาษณ์เป็นครั้งแรก และไม่มีสื่อใดที่สามารถทำได้นอกจากเธอ แต่พวกเขากำลังจะทำลายงานของเธอให้พังพินาศ
ไอ้พวกหลานเลว!
เมื่อรู้ว่าแขกรับเชิญไม่ได้สนฟ้าสนดินอะไรเลย เธอจึงแกล้งกลบเกลื่อนโดยการหันไปถามผู้ชมในห้องส่งแทน
“เพราะอะไรคะท่านผู้ชม ตอบหน่อยสิคะ”
“กรี๊ดดดดดดดดดด” ทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป
“ใช่แล้วล่ะค่ะ” ตัดสินใจตอบเองก่อนที่ความโกรธจะสุมหัว “เพราะว่าซิลเวอร์เป็นผู้ผลิตสุรารายใหญ่ที่มีเครือข่ายไปทั่วโลก อันสุราเมรัยนั้น มีผลทางลบมากกว่าทางบวกต่อมนุษย์ ดังนั้นเหล่าทายาทของเขาจึงมีหน้าที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม และช่างเป็นผู้บำเพ็ญประโยชน์ที่หล่อกระชากตับไตทะลุทะลวงลำไส้สตรีเพศอะไรเช่นนี้
“กรี๊ดดดดดดดดดด”
จุดขายของพวกเขาก็มีดีแค่ที่หน้าตานี่แหละ เฮอะ!
“ระหว่างที่หนุ่มๆ กำลังนั่งเป็นใบ้กันอยู่นี่ เราไปดูแผนผังตระกูลซิลเวอร์กันก่อนเถอะค่ะ”
Welcome to Silver’s World
ซิลเวอร์คือผู้ผลิตแอลกอฮอล์รายใหญ่ และประกอบกิจการโรงแรมชื่อดังที่มีอยู่ทั่วโลก เขามีทายาทซึ่งเกิดจากภรรยาทั้งสิ้นหกคน ด้วยเหตุนี้ลูกชายทั้งหกคนของเขาจึงถูกสื่อมวลชนเรียกขานว่า ‘ทายาทแห่งซิลเวอร์’
ลูกชายของภรรยาคนแรกคือ ‘เวกัส’ (Vegas)
ทายาทผู้ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้
ลูกชายของภรรยาคนที่สองคือ ‘ซิดนีย์’ (Sydney)
เขาใช้ชีวิตไร้สาระไปวันๆ ถ่วงความเจริญได้เท่าที่อยากถ่วง
ลูกชายของภรรยาคนที่สามคือ ‘อีสซี’ (East Sea)
ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเขายังคงเป็นความลับ
ลูกชายของภรรยาคนที่สี่คือ ‘ไวท์แซนด์’ (White Sand)
ผู้ที่เชื่อว่าการเป็นคาสโนว่าทำให้กิจการของพ่อดีขึ้น (เหรอ)
ลูกชายของภรรยาคนที่ห้าคือ ‘ไลท์บลู’ (Light Blue)
เกรียนแห่งซิลเวอร์ ทายาทผู้ถ่อย เกรียน และเรียนซ้ำชั้น
ลูกชายของภรรยาคนสุดท้ายคือ ‘ไนต์ซีน’ (Night Scene)
สไตลิสต์มัธยมปลายผู้มีพรสวรรค์
เวกัส ซิดนีย์ อีสซี และไวท์แซนด์เกิดในปีเดียวกัน หลังจากนั้นหนึ่งปีไลท์บลูกับไนต์ซีนก็คลอดตามกันออกมา
สรุปก็คือ พวกเขาเป็นพี่น้องต่างมารดากัน
...และพ่อของพวกเขาโคตรเก่งเลย
“และเป็นช่วงที่คุณเวกัสกลับมาจากประเทศเกาหลีพอดี ทางรายการนับเป็นเกียรติม้ากมากค่ะที่ได้เชิญทายาททั้งหกคนของซิลเวอร์มาเปิดตัวในรายการนี้เป็นรายการแรกอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
“การี้ดดดด การี้ดดด”
“นี่ป้า มันมีแค่สี่คนนะ” ไวท์แซนด์หันไปแก้ให้
ยอมเปิดปากพูดเฉพาะเรื่องที่จะทำให้ป้าของเขาเสียหน้าเท่านั้น
มันน่า...
กว่าจะเอาตัวทายาทแห่งซิลเวอร์ที่ไม่เคยออกรายการไหนมาก่อนมาออกรายการนี้ได้ ผู้เป็นบ้าต้องขู่พวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ถ้าหากทำสำเร็จ แน่นอนว่าเรตติ้งต้องพุ่งกระฉูดในวันออกอากาศอย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้เองเธอเลยขู่ครั้งสุดท้ายว่า... จะใส่ร้ายพวกเขาผ่านสื่อเพื่อให้เรื่องไปถึงหูซิลเวอร์ (ผู้เป็นพ่อ) ซึ่งดันเป็นพวกชอบเชื่อคนอื่นมากกว่าลูกชายของตัวเองซะด้วยสิ
พวกเขาจึงอยู่ในกำมือของป้าพิธีกรด้วยประการฉะนี้
“เอาล่ะค่ะ เรามาคุยเรื่องส่วนตัวของหนุ่มๆที่เด็กเล็ก วัยรุ่น และคนชราทั่วประเทศอยากรู้กันดีกว่า เริ่มกันที่คุณเว...”
ครืดๆๆๆ
เสียงของสิ่งมีชีวิตลักษณะคล้ายมนุษย์ดิ้นขลุกขลักอยู่ด้านหลังของฉาก ป้าพิธีกรชะงักไป ทุกคนที่อยู่ในห้องส่งต่างพากันย่นคิ้วอย่างฉงนใจ แล้วเจ้าของรายการก็เริ่มหรี่ตาใส่ เมื่อเห็นว่าตัวการได้หักฉากหลังออกเป็นสองท่อนแล้วจริงๆ!
โครม!
“โอ๊ย เอาไอ้บ้านี่มากั้นทำไมเนี่ย!”
ในที่สุด ‘ซิดนีย์’ มนุษย์ไร้สาระที่ชอบถ่วงความเจริญได้เท่าที่อยากถ่วง และ ‘ไลท์บลู’ เกรียนแห่งซิลเวอร์! ทายาทอีกสองคนที่เหลือของตระกูลซิลเวอร์ก็ได้เดินทางมาถึงห้องส่งซะที
คนเป็นป้าแทบเลือดขึ้นหน้า โผล่มาอย่างนี้พวกแกไม่ต้องมาเลยดีกว่า!
ทุ้ย!
ไลท์บลูพ่นไม้จิ้มฟันลงพื้นต่อหน้ามวลชนทั่วประเทศ หลายคนกรี๊ดเมื่อเห็นความจริงใจที่เปี่ยมล้นของเขา อีกส่วนที่เหลือพยักหน้าหงึกหงักอย่างยอมรับว่าไอ้หน้าหล่อนี่มันถ่อยของจริง
“ขอโทษที่มาสายนะป้า พอดีผมแวะกินก๋วยเตี๋ยวข้างหน้าเนี่ย” ซิดนีย์ว่าพลางนั่งลงบนโซฟาแล้วตบพุงของตัวเองเบาๆ
“แก...”
แกทำฉากฉันพัง! แกมาทำร้ายจิตใจฉันทำมายยยย!
“อ้อ อย่าลืมตัดฉากตอนที่ผมกับไอ้ไลท์มาด้วยล่ะ เดี๋ยวป้าจะเอาขวานจามหน้าเอา”
“ถ้าแกลัวป๋าฆ่า แล้วแกมาทำร้ายฉันทำมาย!”
“เอ้า! จะสัมภ่งสัมภาษณ์อะไรก็ว่ามาสิ!” ไลท์บลูรีบพูดทวงก่อนจะควักสำรับไพ่ในกระเป๋าเสื้อออกมา
“ไอ้ไวท์ มาเล่นไพ่กันเถอะ”
“เอ่อ...ไหนบอกจะให้สัมภาษณ์แล้วไง” คนเป็นป้ามองตาขวาง
“ก็ถามมาดิ ตัดฉากยังไงก็ได้ที่ไม่เห็นผมเล่นไพ่น่ะ”
ไอ้หลานนรกนี่เห็นฉันเป็นอารายยยยย!
“เอ้า ไอ้ไลท์ แจกไพ่ได้เลย!” ซิดนีย์พูดเสียงตื่นเต้นก่อนจะหยิบอมยิ้มในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาอมหน้าตาเฉย พร้อมกับถอดเสื้อหนังสีดำออก เผยให้เห็นเสื้อกล้ามสีขาวบางๆ ที่สวมอยู่ด้านใน มันบางมากพอที่จะทำให้เห็นกล้ามเนื้อใต้ผ้าผืนบางนั้น แฟนคลับในห้องส่งเลือดกระฉูดออกจากรูจมูกกันเป็นแถว!
“กรี๊ดๆๆๆๆ”
ป้าพิธีกรกลายเป็นหมาหัวเน่าทันทีที่ซิดนีย์และไลท์บลูแห่งซิลเวอร์มาถึงห้องส่ง ไพ่ของไลท์บลูทำให้ทายาทแห่งซิลเวอร์คนอื่นๆ ละความสนใจจากกล้องที่กำลังถ่ายไปโดยปริยาย
ไอ้พวกนี้นี่มัน...เจ้าแห่งความพินาศชัดๆ
1
พึ่บ!
“อูมาาาหมิ อ่านตามปากนะคะ อูมาหมิ... บลาๆๆ”
ฉันหยิบรีโมตขึ้นมากดเปลี่ยนช่องโฆษณา เพราะเกลียดขี้หน้าไอ้คนที่ชื่อซิดนีย์จนเกินพรรณนาให้สวยงามได้ แม้คนที่ชื่อไลท์บลูจะดูถ่อยกว่า เกรียนกว่า แต่ด้วยเหตุที่ฉันเคยเจอกับความชั่วร้ายของซิดนีย์มาด้วยตัวเองแล้ว ทำให้ฉันเกลียดหมอนั่นมากที่สุดในบรรดาทายาททั้งหมดแห่งซิลเวอร์!
“กรี๊ด น้องวินเทจ เปลี่ยนช่องทำไมคะ”
พี่สาวคนหนึ่งซึ่งอยู่ในชุดสีขาวสะอาดหันมาท้วงฉันทันทีที่รายการสัมภาษณ์ทายาทแห่งซิลเวอร์หายไปต่อหน้าต่อตา เธอคือผู้ช่วยปาติซิเยร์ของภัตตาคารชื่อดังแห่งนี้ ซึ่งพ่อของฉันก็เป็นผู้ช่วยเชฟอยู่ที่นี่ และเนื่องจากเป็นช่วงปิดเทอมพอดี ฉันจึงมาทำงานหารายได้พิเศษด้วยการเป็นเด็กทำความสะอาดห้องครัวและเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ ในที่ทำงานของพ่อ
“มีอะไรให้ดูกันคะ ไร้สาระทั้งนั้น!”
“กรี๊ด ไม่จริงค่ะ จะว่าพี่เป็นคนไร้สาระยังไงก็ได้นะคะ แต่ไม่ไหวแล้วค่ะ ไม่ไหวกับซิดนีย์! น้องกล้าม น้องหน้าอก ออกหมดเยยยย”
“โปรดหยุดพูดถึงค่ะ วินจะอ้วกออกมาเป็นตะขาบแล้ว”
พี่สาวนิ่งไปสักพักก่อนจะมองหน้าฉัน คงนึกสงสัยในใจว่าหัวใจฉันทำด้วยอะไร ถึงกล้าพูดเรื่องตะขาบในห้องทำอาหารได้
ฉันชื่อ ‘วินเทจ’ เป็นผู้หญิงธรรมดาที่สุดเท่าที่จะธรรมดาได้ เมื่อเดือนก่อนดันไปรับปากส่งๆ กับยัยเพื่อนรักไว้ว่าจะหาภาพอีสซีเปลือยท่อนบนกับภาพซิดนีย์เกาตูดมาให้ ฉันก็นึกว่ามันจะเลิกแล้วกันไป เพราะมันไม่มีทางเป็นไปได้ แต่ยัยเพื่อนตัวดีกลับบังคับให้ฉันลองพยายามดูสักครั้ง
‘แกจะเบี้ยวไม่ได้นะยัยวิน ทำไมแกเป็นคนแบบนี้’
‘แกจะบ้าเหรอ ให้ฉันไปทำเรื่องอย่างนั้นน่ะนะ’
‘แต่แกสัญญาไว้แล้ว!’
‘ภาพอีสซีเปลือยท่อนบนกับซิดนีย์เกาตูดนี่มันก็เกินไป!’
‘แกนะแก... ถ้ารู้ว่าทำไม่ได้ก็อย่ามาสัญญาสิ!’
‘โธ่ยัยซายน์ อย่าบังคับฉันแบบนี้เซ่’
‘อย่างน้อยทำให้ฉันเห็นถึงความพยายามหน่อยก็ยังดี’
‘ง่ะ...ไม่เอาน่า’
‘แค่ทำตามที่พูดให้ฉันรับรู้ก็พอแล้ว ไม่จำเป็นว่าจะต้องหามาให้ครบรึเปล่า ก็แค่นั้นเอง!’
‘ถ้าฉันพยายามให้เห็นแล้ว แกจะไม่ถามถึงหรือทวงมันอีกแน่นะ’
‘ได้! ฉันจะไม่ทวงอีก ถ้าแกพยายามให้ฉันเห็นสักครั้ง’
‘ก็ได้’
‘ซิดนีย์เกาตูด แค่นั้นแหละที่ฉันอยากเห็น’
‘แค่นั้น!? ของแบบนั้นมันเรียกว่าแค่นั้นได้เหรอ!’
‘ต้องให้เห็นว่าเกาตูดอย่างชัดเจน เข้าใจ๊?’
‘T^T’
และเพื่อเป็นการรักษาสัญญา ฉันก็เลยไปพยายามอย่างนี้...
ย้อนกลับไปเมื่อห้าวันก่อน ตรงกับวันที่อัดรายการเมื่อกี้
วันนี้ทายาทแห่งซิลเวอร์จะมาเปิดตัวที่รายการนี้เป็นรายการแรก นี่จึงเป็นโอกาสดีที่ฉันจะได้ลองพยายามดูสักครั้งอย่างที่ยัยเพื่อนรักบังคับ แต่กว่าจะเบียดตัวเข้ามานั่งในห้องส่งได้ ฉันต้องแปลงร่างเป็นตัวตะเข็บตะขาบไม่รู้กี่ครั้ง ทำเอาผมเผ้าฉันกระเซิง หลุดลุ่ย ไม่เหลือสภาพความงามบนใบหน้า
แล้วจะให้ฉันเอาสภาพนี้ไปขอถ่ายรูปซิดนีย์ตอนเกาตูดเหรอ
‘คัตตตตตต!’
เสียงช่างภาพดังขึ้น ฉันรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วหาทางไปที่ห้องพักของแขกรับเชิญในรายการทันที
ต้องไปดักไว้ก่อน
ขวับ!
(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)