รักกระปุ๊กลุก

รักกระปุ๊กลุก

2 รีวิว  2 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786165010146
มีสินค้าในสต็อค
ราคา: 170.00 บาท 42.50 บาท
ประหยัด: 127.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

 

 

 

 
   

 

 

 

 

 

 

 

 


 

ณ ตลาดนัดสวนจตุจักร กรุงเทพมหานคร ในศตวรรษที่ 20 หรือใครจะ

เรียกว่า ยุคไฮเทค โลกาภิวัตน์ หรือมิลเลเนียมก็นานาจิตตัง

พื้นที่ของหลวงขนาดใหญ่ซึ่งมีเสานาพี,กาตั้งโดดเด่นเป็นสง่า ฝรั่งมังค่าเรียก

‘เจเจ' ซอกซอยน้อยใหญ่ถูกแบ่งไว้ถี่ยิบ มีทั้งโซนขายของใหม่ ของเก่า โซนสัตว์เลี้ยง

โซนของกิน รวมไปถึงโซนขายต้นไม้ และอื่นๆ อีกมากมาย

“เร่เข้ามา เสื้อสวยๆ สามตัวร้อยจ้า!”

เสียงแม่ค้าตะโกนส่งเสริมการขาย ดึงความสนใจจากลูกค้าผู้หญิงไดโม่น้อย

ดูได้จากการถูกรุมล้อมแทบเบียดกันตาย กองเสื้อผ้าถูกมือนับสิบยื้อแย่งขึ้นทาบตัว

บ้างก็เสือกดูลาย หากพอใจก็ต่อรองราคา หรือหากไม่เรื่องมากก็จ่ายสะดุ้งสตางค์กัน

ไปเลย

กัดจากร้านขายเสื้อสามตัวร้อยไปไม่ถึงเมตร ก็มีร้านเครื่องสำอางแบกะดินที่

แม้ลูกค้าจะบางตากว่า แตกเรียกว่าแถวแรกเต็มจนไม่มีช่องว่างให้แทรกได้แล้วกัน

กัดไปเป็นร้านเครื่องประดับ ต่างหู กิ๊บติดผม แม่ค้าหน้าตาจิ้มลิ้มแต่งตัวทันสมัย

กำลังรับและทอนเงินจากลูกค้าชายหญิงคู่หนึ่ง

นี่เป็นเพียงภาพคร่าวๆ เพื่อยืนยันถึงพฤติกรรมรักสวยรักงามของผู้หญิง

ที่ไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหนพวกเธอก็จะไม่หยุดสวย

บริเวณทางเดินโล่งๆ ท่ามกลางร้านค้าเรียงรายเป็นพืดไกลสุดลูกหูลูกตา

 

 

 

กองถ่ายโฆษณาเกี่ยวกับอาหารเสริมลดความอ้วนกองหนึ่ง กำลังตั้งหน้าตั้งตาทำงาน

กันอย่างขะมักเขม้น ทีมงานหลายสิบชีวิตต่างทำหน้าที่ของตัวเองด้วยการเซ็กความ เรียบร้อยของอุปกรณ์ที่ตนควบคุมดูแลอยู่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนการถ่ายทำจริง ทว่า ยังไม่ทันเริ่ม ทีมงานสาวรายหนึ่งก็ริ่งหน้าตาตื่นมาหาเจ้าของโพรเจกต์ชิ้นนี้พร้อม

รายงานว่า

“เกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะพี่ก้อง แม่ของนางแบบที่มาเป็นพรีเซนเตอร์ให้เราเกิดป่วย กะทันหัน ต้องเข้าโรง'บาลผ่าตัดไส้ติ่งด่วน”

“แล้วยังไง” กึกก้องเลิกคิ้วสูง ก่อนประชดสั้นๆ “คนที่เราจะถ่ายคือนางแบบ

ไม่ใช่แม่นางแบบสักหน่อย ปวดไส้ติ่งก็ให้หมอดูแลไปสิ เกี่ยวอะไรกับเราด้วย”

“เรื่องนั้นมันก็ใช่ค่ะ แต่ตอนนี้ยายหนูตุ่มดอดขึ้นแท็กซี่ไปดูแม่ตัวเองที่

โรงบาลแล้วน่ะสิคะ”

“อะไรนะ?! ไปนานหรือยัง แล้วทำไมคุณถึงไม่ห้ามไว้ ท้าชะมัด! อีกสิบนาทีก็

จะเริ่มถ่ายแล้วด้วย จะทำยังไงกันดีล่ะทีนี้” กึกก้องเริ่มหัวเสียตามประสาคนจริงจัง

กับงาน ยิ่งเห็นท่าทางลูกน้องไม่เดือดเนื้อร้อนใจ เลยยิ่งตวาดใส่ “เจ้า! แล้วจะมัวยืน

เซ่ออยู่ทำไมอีก รีบโทร. ไปตามนางแบบกลับมาสิแม่คู้น”

“แจนโทร. ตามตั้งแต่เขาออกไปแล้วค่ะ แต่เขาไม่ยอมรับสาย” จินดารัตน์บอก เสียงเรียบ ไม่มีเค้าหวาดกลัวหรือลนลานให้เห็น ด้วยร่วมงานกับชายหนุ่มมานานจึงรู้

ว่าเวลาทำงานอีกฝ่ายจะทุ่มเทจริงจัง และเวลาไม่พอใจพ่อเจ้าประคุณก็จะแสดงออก

เต็มที่เดี๋ยวนั้น แต่นอกเวลางาน กึกก้องคือพี่ชายที่นิสัยดีใช้ได้คนหนึ่ง

“โว้ย! ไม่ได้ดังใจสักอย่าง” เขาเตะลม ท่าประจำที่มักชอบทำเวลาหงุดหงิด แต่

คนเคยชินอย่างจินดารัตน์กลับยืนมองเฉย กึกก้องจึงต้องออกค่าสั่งไล่ไปให้พ้นหูพ้น

ตา “โทร. ไม่ได้ก็ให้ออกไปตาม แถวนี้มีกี่โรงบาลก็ตามไปดูมาให้หมด”

ชายหนุ่มจงใจไข้เสียงไม่เบานัก ล่งผลให้ทีมงานคนอื่นๆ เริ่มปลีกตัวออกห่าง

จากเขา ชนิดร้อยเมตรสองร้อยเมตรไม่เฉียดมาใกล้ไท้โดนหางเลขไปด้วย ใบหน้า

ไทยแท้ผสมดุดันติดจะเถื่อนหน่อยๆ บูดบึ้งเป็นจวัก แม้ทีมงานสาวจะวิ่งหายไปทำ

ตามคำสั่งพร้อมเพื่อนทีมงานอีกคนแล้วก็ตาม

ครีเอทีฟหนุ่มมากฝีมือจุดบุหรี่สูบระบายความเครียด พลางเดินเตร็ดเตร่รอ

การกลับมาของลูกน้องและนางแบบไซซ์ใหญ่แต่หน้าสวยที่ไม่รู้จะพากันกลับมาเมื่อไร

ผ่านไปราวครึ่งชั่วโมงความอดทนอันน้อยนิดของเขาก็หมดลง ซึ่งเป็นจังหวะ

 

 

 

เดียวกับที่เขาเห็นผู้หญิงหุ่นน้องๆ โอ่งยืนซื้อลูกชิ้นทอดอยู่พอดี

กึกก้องโยนบุหรี่ทิ้งแล้วใช้เท้าขยี้ ก่อนก้าวพรวดเดียวถึงตัวเป้าหมาย เขายืน

ประชิดด้านหลังของฝ่ายนั้นและกำลังจะใช้นิ้วสะกิดเรียก แต่ช้ากว่าหญิงสาวที่จ่ายเงิน

และรีบถุงลูกชิ้นเสร็จก็หันมา

“อุย!” บุษบันอุทานด้วยความตกใจ มือไม้ก็อ่อนปวกเปียกจนถุงลูกชิ้นทอด

และของกินที่ซื้อมาก่อนหน้านี้หล่นตุ้บลงไปกองกับพื้น

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมเก็บให้” แทนที่จะขอโทษ ครีเอทีฟหนุ่มกลับอาสาเก็บถุงที่ เกลื่อนกลาดอยู่บนพื้น ทว่าพอย่อตัวลงเท่านั้น ใบหน้าเข้มๆ ของเขาก็ชนเช้ากับ

พุงหยุ่นๆ ของคนตรงหน้าเช้าเต็มรัก!

“อุ๊ย!” เจ้าของห่วงยางสามชิ้นอุทานอีกครั้ง พร้อมกันนั้นก็ถอยหลังหนึ่งก้าว

โดยอัตโนมัติ กึกก้องท่าสีหน้าอย่างหนึ่งที่บุษบันเดาไม่ออก ก่อนเก็บถุงของกินหลาก

หลายชนิดชิ้นมาส่งคืนให้เจ้าของ

“ขอบ...” บุษบันกำลังจะกล่าวขอบคุณ แต่สายตาเจ้ากรรมดันไปสะดุดกับ

ไข่นกกระทาต้มที่กระจายอยู่บนพื้น หลายฟองถูกคนที่เดินผ่านไปผ่านมาเหยียบ

ดังนั้นจากที่ตั้งใจจะกล่าวขอบคุณ สาวเห็นแก่กินจึงฉุนกึก หมุนตัวเตรียมเดินออกไป

ให้พ้นจากหน้าเถื่อนๆ ทว่ากลับถูกฝ่ายตรงข้ามเร่งฝีเท้ามาดักหน้าไว้

“เดี๋ยวสิครับ อย่าเพิ่งไป”

“มีอะไรอีก” บุษบันถามด้วยน้ำเสียงห้วนสั้นไม่เป็นมิตร

“สนใจจะเป็นพรีเซนเตอร์โหมครับ” ชายหนุ่มถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ก่อนจะ

รีบหุบฉับ เมื่อถูกสาวจํ้ามํ่าประซด

“พรีเซนเตอร์ชุดคลุมท้องหรือว่าธิดาช้างกันล่ะ” สารรูปอย่างเธอ ถ้าเป็นได้

ก็คงหนีไม่พ้นสองสิ่งนี้เท่านั้น

“ไม่ใช่ทิ้งสองอย่างครับ” กึกก้องส่ายหน้าแล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “คุณคงคิด

ว่าผมกำลังล้อเล่น แต่ผมพูดจริงๆ ครับ ตอนนี้ผมต้องการคนไปร่วมงานด้วยแบบ

ด่วนมาก โน่น...เห็นกองก่ายตรงโน้นไหมครีบ นั่นแหละทีมงานของผม”

บุษบันมองตามมือชายหนุ่มไป เห็นคนและอุปกรณ์จำพวกกล้องตั้งหราอยู่

ดวงตากลมโตหรี่ลงขณะประเม่นความน่าเชื่อถือ พอขยับปากจะพูดอะไรก็ถูกผู้ชาย

หน้าเข้มใจร้อนชิงพูดตัดหน้า

“ทีนี้เชื่อหรือ ยังว่าผมไม่ได้โกหก

 

 

8

“ฉันเชื่อว่าตรงนั้นเป็นกองถ่าย แต่ไม่เชื่อว่าคุณเป็นหนึ่งในทีมงานพวกนั้น”

“ถ้าไมเชื่องั้นไปกับ ผม” พูดจบก็คว้าข้อมือซึ่งอุดมไปด้วยเนื้อหนังตรงไปยัง

กองถ่าย

พอมาถึง ถึกก้องก็แสดงความน่าเชื่อถือด้วยการปรบมือเรียกทีมงานทุกคนมา รวมตัวกัน ก่อนไล่ให้กลับไปทำงานตามเดิม และไม่ลืมที่จะกระซิบถามถึงนางแบบลูก กตัญญูกับทีมงานคนหนึ่งด้วย

“หนูตุ่มกลับมาหรือยัง”

“ยังเลยครับพี่ก้อง ส่วนพวกยายแจนก็หายจ้อย”

“งั้นเดี๋ยวคุณช่วยโทร. ตามพวกนั้นให้ที บอกว่าผมได้นางแบบคนใหม่แทน

หนูตุ่มแล้ว ให้รีบกลับมาด่วน”

“นางแบบคนใหม่? คนนั้นเหรอครับ” ช่างไฟประจำกองถ่ายเหล่ไปทางบุษบัน

ที่ยืนหน้าบอกบุญไม่รับ

“อืม หุ่นบางกว่าหน่อย แต่หน้าสวยสูสีกัน”

บางกว่าหน่อยของถึกก้องนั้น แท้จริงแล้วคือขนาดของน้ำหนักตัวที่ต่างกัน

เกือบลืบกิโลกรัม หนูตุ่มหนักแปดลืบเจ็ด ขณะที่บุษบันหนักเก้าลืบหก แต่สิ่งที่ทำให้

กึกก้องมองคลาดเคลื่อนไปคือส่วนสูงของทั้งคู่ที่เหลื่อมลํ้ากันอยู่ประมาณห้าเซนติเมตร

ซึ่งก็เป็นฝ่ายหลังที่ดูจะสูงกว่า

“พี่ถ้องมองยังไงถึงว่าสูสี ผมว่าผู้หญิงคนนี้สวยกว่ายายหนูตุ่มตั้งแยะ แต่

น่าเสียดายดันอ้วนเหมือนกัน”

ถึงจะไม่ใช่สุภาพบุรุษอย่างพระเอกหนัง และปอยครั้งที่มักด่ากราดใส่ลูกน้อง

 ผู้หญิงยามที่เจ้าหล่อนทำงานผิดพลาดไม่ได้ดังใจ ตัวตนโดยรวมของถึกถ้องอาจห่าง

ไกลจากคำว่าผู้ชายในอุดมคติลืบลับด้วยนิสัยเถื่อนๆ และบุคลิกดิบๆ หากแต่เจ้าตัวก็

ไม่นึกนิยมชมชอบในพฤติกรรมที่ลูกน้องตรงหน้าทำนัก จึงพูดติดตลกหน้าขรึมว่า

“ผมว่าคุณควรเลิกวิจารณ์รูปร่างคนอื่น แล้วโทร. ไปบอกคุณแจน ก่อนที่ข้าง

สองเชือกจะประสานงากันดีกว่านะ”

ได้ผล ช่างไฟขาเมาท์หัวเราะแห้งๆ ก่อนปลีกตัวออกไปโทร. ติดต่อจินดารัตน์ ตามคำสั่ง ถึกก้องส่ายหน้าระอาตามหลังผู้ชายหัวใจตุ๊ดที่รีบวิ่งตุปัดตุเป๋ออกไป แล้ว

เดินไปหาบุษบันที่กำลังยืนกินเครปญี่ปุนอยู่อีกด้านหนึ่ง ชายหนุ่มยิ้มยิงฟันขาวทำตา

ยิบหยี ผูกมิตรนำร่องอย่างหวังผลในอนาคต

 

9

 

 

“ตกลงเป็นพรีเซนเตอร์ให้ผมนะครับ”

บุษบันเงยหน้าจากเครปในมือ มองหน้าคนซวนราวกับเห็นตัวประหลาด

ปฏิกิริยาของหญิงสาวทำให้คนซวนหัวเราะหึๆ เพราะคิดว่าเธอคงเหมือนกับคนทั่วไป

ที่พอถูกทาบทามเข้าสู่วงการมายาลึกๆ ก็เนื้อเต้นทุกราย ถึงปากจะบอกไม่เอ๊าไม่เอาก็

เถอะ

“ทำทางน่าอร่อย แต่ยืนทานแบบนี้คงจะไม่สะดวก ผมว่าเราไปหาที่นั่งทานไป

คุยไปกันดีกว่านะครับ” ซวนเสร็จก็ถือวิสาสะด้วยการจับข้อมืออวบอั๋นที่กำแทบไม่มิด

แล้วจูงเดินไปนั่งยังเก้าอี้ที่ทีมงานจัดไว้นั่งกันเอง หลังหย่อนก้นนั่งเรียบร้อย ชายหนุ่ม

ก็เริ่มต้นพูดเข้าเรื่องที่ตนต้องการต่อทันที

“ผมกำลังจะถ่ายทำโฆษณาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อาหารเสริม บังเอิญนางแบบที่

นัดไว้เกิดติดธุระด่วนมาไม่ได้..

“คุณก็เลยจะให้ฉันถ่ายแทนว่างั้นเถอะ” บุบบันพูดแทรกด้วยใบหน้าเรียบเฉย

ไม่ยินดียินร้าย ต่างจากครีเอทีฟหนุ่มที่ยิ้มแป้น ดวงตาเป็นประกายวาดหวัง

‘โซคดีจริงๆ ไอ้ก้องที่มาเจอคนเข้าใจอะไรง่ายๆ แบบนี้ ดี...จะได้โม่ต้องเสีย

เวลาเปลืองน้ำลายกล่อม'

“ใช่เลยครับ ใช่เลย แหมคุณเนี่ยอ้วน เอ๊ย...สวยแล้วยังจะฉลาดอีก” กึกก้อง

รีบแก้คำพูดจนลิ้นแทบพันกัน ก่อนจะเอ่ยซวนตรงๆ “ตกลงถ่ายโฆษณาให้เรานะครับ ไหนๆ ก็อุตส่าห์เดินมาถึงนี่แล้ว”

บุษบันหลับตา...ไม่ชอบที่เซาฉวยโอกาสถูกเนื้อต้องตัวแล้วลากมาที่กองถ่าย

มิหนำซํ้ายังกำลังพยายามมัดมือชกเธออย่างหน้าด้านๆ อิกต่างหาก เรื่องไข่นกกระทา

ยังไม่หันได้ชำระ แล้วคิดจะซอความเมตตางั้นหรือ เซอะ...ฝืนไปเถอะว่าเธอจะช่วย!

“เสียใจด้วย ฉันไม่ชอบงานประเภทนี้” คนตัวใหญ่แต่ใจเล็กปฏิเสธไม่มีเยื่อใย

“แรกๆ ทุกคนก็พูดว่าไม่ชอบเหม่อนกันทั้งนั้น แต่ทำไปทำมาก็เห็นเปลี่ยนใจ

ชอบทุกรายเพราะเงินดี” หนุ่มหน้าเถื่อนปากไวจิกกัดตามนิสัย แต่พอเห็นอิกฝ่ายหน้า

ตึงจึงริบแก้เกี้ยวเป็นลูกอ้อน “ถือซะว่าสงสารลูกนกลูกกาอย่างผมกับทีมงานเถอะนะ

ครับ ช่วยถ่ายโฆษณาแทนให้ที”

กึกก้องตีหน้าโศก ครูพักลักจำมาจากพรีเซนเตอร์โฆษณาแนวชีวิตที่ได้เห็น

เมื่อหลายเดือนก่อน พลางคิดว่าอย่ากระนั้นเลย ทำเสียงเศร้าเพิ่มความสมจริงด้วย

น่าจะดีกว่า

 

“เห็นกองเล็กๆ อย่างนี้ ค่าใช้จ่ายสูงพอตัวเซียวนะครับ ไหนจะค่าน้ำมันรถ

ขนอุปกรณ์ ค่าอาหารของทีมงาน ค่าสถานที่ โอ๊ย...ร้อยแปด นี่ถ้าไม่ได้ถ่ายอีก วันนี้

ก็เท่ากับออกมาเสียเที่ยว”

“นั่นมันก็เรื่องของพวกคุณ ไม่เกี่ยวกับฉันสักหน่อย หมดเรื่องจะคุยแล้วใช่

ไหม ฉันจะได้ไปเดินดูของต่อ”

สิ้นประโยคแล้งนํ้าใจ ใบหน้าโศกเลยกลายเป็นเหลอหลา ด้วยไม่คิดว่าผู้หญิง ตรงหน้าจะใจจืดใจดำได้ถึงเพียงนี้

‘ให้ตายเหอะคนเรา นิสัยไม่สมกับตัวเลยสักนิด ตัวรึก็ออกจะใหญ่ แต่ไหงใจ

เล็กเท่ามด'

ถึกถ้องลืมตัวต่อว่าเพศแม่เหมือนที่ลูกน้องช่างไฟเพิ่งท่าไปหยกๆ ต่างกันตรง

ที่ฝ่ายนั้นว่าออกมาโต้งๆ ขณะที่เขาว่าในใจ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็คือการนินทาอยู่ดี ถึง

เขาจะไม่ใช่ผู้ชายประเภทดีเลิศประเสริฐศรี แตกไม่ได้ยอดแย่ขนาดนินทาผู้หญิงสับ

หลังได้โดยไม่ตะงิดตะขวงใจ เว้นแต่จะถูกความหงุดหงิดจากงานเข้าครอบงำเท่านั้น

ปากบางเฉียบจึงจะกลายเป็นอาวุธคมกริบไร้ประหัตประหารคนรอบช้าง ไม่เร้นแม้แต่

คนที่ เพิ่งพบ เจอ กันอย่างบุษบันด้วย

“คิดว่าผมอยากจะคุยกับคุณนักหรือไง ถ้าไม่ใช่เพราะนางแบบผมหาย จ้างให้

ผมก็ไม่มาเสียเวลาตอแยกับคุณหรอก”

“คุณ!” บุษบันขึงตาใส่

“อย่านึกว่าผมไม่รู้นะ ความจริงคุณเองก็อยากถ่ายโฆษณาจนตัวสั่นใช่ไหมล่ะ อยากถ่ายก็บอกกันมาตรงๆ สี จะเล่นตัวอัปเกรดให้เสียเวลาไปทำไม”

“บ้า! ฉันไม่ได้อยากอัปเกรดตัวเองสักหน่อย ปากเสีย หน้าตาเหมือนโจรแล้ว

ยังปากหมาอีก”

“อ้าว...ว่าใครปากหมา เดี๋ยวเถอะ ปากร้ายแบบนี้ สักวันจะถูกหมากัดปาก”

ถึกก้องที่ตอนนี้ลืมไปแล้วว่าพาบุษบันมาที่นี่เพื่ออะไร พูดจาท้าตีห้าต่อยอย่างไม่ยอม

ลงให้

“ปะ...ประสาท! โรคจิต! เหมือนที่โบราณว่าไร้เลย เล่นกับหมาหมาเสียปาก”

บุบบันสวนกลับด้วยความปากไวไม่แพ้กัน

“จะเสียหรือกัดก็ได้ อยากลองดูไหมล่ะ”

“นี่แน่ะ...ลองกับไอ้นี่แล้วกัน” บุบบันยกขาเหมือนท่อนซุงของตัวเองไปข้างหน้า

 

 

 

 

พลางชี้นิ้วป้อมๆ ไปที่เท้ากลมๆ

กิริยาท้าทายของฝ่ายตรงข้ามทำให้อารมณ์ของเขาขาดผึง กระโจนเข้าใส่หมาย

จะบีบคอเป็นการลงทัณฑ์ แต่ยังไม่ทันถึงตัวสาวเจ้าเนื้อ จินดารัตน์ที่เพิ่งมาถึงก็เข้า

ห้ามทัพได้ท้นเวลาพอดี!

“ไม่เอาน่าพี่ก้อง แยกกันๆ”

หนุ่มเลือดร้อนถูกกันออกไปอีกทางโดยทีมงานชายสามคน ทางด้านบุษบันก็มี

 ทีมงานหญิงอีกลองคนเข้ามาปลอบกึ่งเจรจา

“ต้องขอโทษแทนพี่ชายของแจนด้วยนะคะ แกท้างานไปหน่อย สงสัยเพราะ

วันนี้นางแบบไม่มาเลยหงุดหงิดจนคุมสติไม่อยู่” ลูกน้องสาวคนสนิทขอโทษขอโพย

แทนลูกพี่เป็นการใหญ่

“บ้าแบบนี้ต้องล่ามโซ่ขังไร้ที่บ้าน ขืนปล่อยออกมาเดินเพ่นพ่านจะพาลกัด

คนอื่นไม่เลือก” บุษบันที่ยังโมโหค้างว่าแดกดัน ดวงตากลมโตแผ่รังสีอาฆาตไปที่

คู่กรณี ซึ่งกำลังจ้องเขม็งมาที่เธอเหมือนกัน

ท่ามกลางศึกรันทรงขัยที่กำลังจะอุบัติขึ้นนอกสนามมวยลุมพินี เรียกสายตา

หลายสิบคู่ของผู้คนที่เดินผ่านไปมาให้หยุดมองดูเหตุการณ์อย่างสนใจ เนื่องจากเป็น

กองถ่ายแถมยังมีคนทะเลาะกัน บรรดาไทยมุงจึงเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จินดารัตน์

ลอบถอนลมหายใจ ด้วยคิดว่าหากทีมงานปล่อยมือเมื่อไร รับรองว่าทั้งฝ่ายน้ำเงินและ

ฝ่ายแดงเป็นต้องวิ่งเข้าฟัดกันให้ขายขี้หน้าแหงๆ

‘เฮ้อ...คู่นี้นี่จริงๆ เลย ขิงก็ราข่าก็แรง’

“ใจเย็นๆ ก่อนนะคะ มีอะไรค่อยพูดค่อยจา ทะเลาะกันไปก็มีแต่จะอายคนอื่น

เขาเปล่าๆ เห็นไหมคะนั่นคนมองกันใหญ่แล้ว”

จินดารัตน์กวาดตามองรอบๆ เพื่อยืนยันค่าพูด บุษบันทำตามก็เห็นจริงจึงลด อาการกระฟัดกระเฟียดลง เมื่อหญิงสาวเห็นทำทางของสาวจํ้ามํ่าผ่อนลงมากจึงรีบ

อาศัยจังหวะนั้นพูดขอตัวรัวเร็ว

“ยังไงให้แจนไปเคลียร์กับพี่ทางโน้นก่อนนะคะ ไม่เกินห้านาทีจะรีบกลับมา

ค่ะ” พูดจบก็เผ่นแผล็วไม่เปิดโอกาสให้บุษบันทักท้วง แต่ก่อนที่จะถึงตัวถึกก้องเพียง

นิดเดียวสาวร่างเล็กก็หยุดกระซิบบอกเพื่อนร่วมงานให้ช่วยกันกักตัวบุษบันเอาไว้

ก่อน และเมื่อถึงตัวเป้าหมายจริงๆ ก็ต้องเบือนหน้าหนีเพราะกลิ่นบุหรี่ฉุนกึก

“สูบจัดแบบนี้ เปลี่ยนเป็นยาเส้นยัดกระบอกไม้ไผ่ดีไหมคะพี่ก้อง ปล้องเดียว

 

(โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

เรื่องราวของ "บุษบัน" หญิงสาวผู้หมายมั่นจะสานฝันที่ว่าวันหนึ่งจะตระเวนลิ้มรสชิมอาหารไปทั่วโลก จนได้รับการทาบทามให้เป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณา ขณะที่ "กึกก้อง" กำลังรู้สึกเซ็งสุดบรรยาย เมื่อต้องรับหน้าที่ควบคุมน้ำหนักพรีเซนเตอร์โษณาคนใหม่ให้ผอมเพรียว แต่เพราะรักงานยิ่งชีพ งานนี้เขาจึงต้องทุ่มสุดตัว จนกลายเป็นเรื่องราวพัวพันกันไม่มีที่สิ้นสุด แล้วเรื่องราววุ่นวายต่างๆ จะดำเนินต่อไปอย่างไร!? ระหว่างสาว size กระปุ๊กลุกกับครีเอทีฟหนุ่มจอมกวน ขอเชิญคุณผู้อ่านมาติดตามกันต่อได้ในนิยาย "รักกระปุ๊กลุก" เล่มนี้

เขียนโดย "บุรัสกร"

240 หน้า


รีวิว (2)

เขียนรีวิว

Takeshi | 2 รีวิว
26/01/2015

ผู้เขียน บุรัสกร จำนวนหน้าหนังสือ 240 หน้า เห็นชื่อเรื่องนี่ ผมเดาไว้ก่อนเลยนะว่านางเอกเรื่องนี้ต้องแอบลงพุงแน่เลย และเรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับอาหาร และมันก็ถูกต้องจริง ๆ ด้วย ที่หยิบเรื่องนี้มาอ่านเพราะว่า คิดว่าน่าจะเป็นนิยายน่ารัก ๆ เบาสมอวครับ ซึ่งตัวรูปเล่มเองก็ไม่ได้หนาอะไรมาก แค่ 240 หน้า เรื่องนี้เป็นเรื่องของบุษบัน หรือคุณบัวครับ เธอเป็นสาวน้อยที่มีความใฝ่ฝันว่า อยากจะตระเวนกินอาหารอร่อยไปทั่วโลก แต่จับผลัดจับพลูยังไงไม่รู้ เธอกลายมาเป็นพรีเซ็นเตอร์อาหารเสริมลดน้ำหนัก ที่มีนายกึกก้อง ครีเอทีฟจอมยียวนกวนปรสาทเป็นผู้ดูแลอยู่ ซึ่งหุ่นกระปุ๊กลุ๊กของเธอนี่ ตามความจริงก็ไม่น่าจะเหมาะกับการเป็นพรีเซ็นเตอร์ยาลดน้ำหนักเท่าไรนัก ซึ่งก็เป็นที่สาสมใจของเหล่าผู้บริหารครับ เพราะทุกคนไม่ค่อยจะมีใครชอบความกวนประสาทของกึกก้องมากนัก ซึ่งลงท้ายแล้ว กึกก้องจะต้องทำงานนี้ร่วมกับบุษบันแค่เพียง 2 คน ซึ่งกึกก้องจะต้องเป็นผู้ควบคุมดูแลบุษบันไม่ให้มีน้ำหนักเกิน และจะต้องลดหุ่นลงมาในระดับที่ดูดี แค่นี้ยังปวดหัวไม่พอ ยังมีเรื่องราวของแฟนสาวของกึกก้องที่คอยหึงหวงกึกก้องอีกด้วยครับ สรุปว่า ก็เบาสมองจริง ๆ เนื้อเรื่องไม่มีอะไรมาก อ่านแบบไม่เครียดครับ บางตอนก็ตลกจนต้องขำออกมา แต่บางตอนก็รำคาญกับความกวนประสาทของกึกก้อง คือบางทีมันก็เยอะไปนะ แต่สำหรับบุษบัน สาวผู้รักการกินนี่ น่ารักกำลังพอดีเลยครับ ก็โอเคที่จะอ่านแบบชิล ๆ ได้ครับ
อทิตยา | 2 รีวิว
08/07/2014

นิยายเรื่อง รักกระปุ๊กลุก ของนักเขียนนามว่า บุรัสกร แค่ได้อ่านชื่อเรื่องก็ทำให้ดิฉันอยากที่จะเปิดอ่านเรื่องราวข้างในแล้วล่ะค่ะว่าจะน่ารักน่าหยิกขนาดไหนกัน แต่พอได้อ่านแล้วก็ทำให้ดิฉันลืมแนวนิยายที่เคยชื่นชอบไปชั่วขณะเลยเพราะด้วยความที่นิยายเรื่องนี้มีความน่ารักและน่าสนใจจนอดที่จะอมยิ้มออกมาไม่ได้เพราะนิยายเรื่องนี้ได้เล่าถึง บุษบัน หรือ บัว หญิงสาวที่รักการกินเป็นชีวิตจิตใจเธอกินจนทำให้รูปร่างของเธอนั้นกระปุ๊กลุกไปเสียไม่ได้ บุษบันเองเธอมีความฝันอันยิ่งใหญ่อยู่ว่า เธอจะตะเวนกินอาหารไปทั่วโลกเลย แล้วกระทั้งเหตุการณ์เปลี่ยนชีวิตครั้งสำคัญของก็มาถึง เมื่อเธอได้รับเลือกให้เป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณายาเสริมอาหารสำหรับลดน้ำหนักโดยที่มี กึกก้อง เป็นครีเอทีฟ หนุ่มจอมกวนประสาทเป็นผู้ที่ชักชวนเธอมา แต่ด้วยความที่เธอและเค้าต่างมีปากเสียงกันตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเพราะอาหารเป็นเหตุ จึงทำให้บุษบันไม่ยอมเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับบริษัทของกึกก้องเรื่องของอาหารยังไม่ใช่เหตุผลสำคัญของการปฏิเสธในครั้งนี้แต่เป็นเพราะกึกก้องเองนั้นแหละที่พูดจาดูหมิ่นหญิงสาวไว้อย่างร้ายกาจ แต่เพราะด้วยพรีเซ็นเตอร์ที่หามาไม่สามารถมาถ่ายโฆษณาให้ได้เค้าจึงต้องกลับมาง้อแม่สาวกระปุ๊กลุกอย่างบุษบันจนได้ เธอเองก็รับคำท้าของเค้าเพราะอย่างทำให้เค้าเห็นว่าคนอย่างเธอไม่สมควรที่จะมาดูถูกอย่างยิ่ง ด้วยความที่กึกก้องเป็นคนที่กวนประสาท เลยทำให้มีคนหมั่นไส้เค้าเยอะโดยเฉพาะอย่างยิ่ง พงศกร หุ้นส่วนคนสำคัญของบริษัทที่เค้าทำงานอยู่ได้หมั่นไส้ที่เค้าเปลี่ยนตัวนางเอกโฆษณาผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดน้ำหนักตัวนี้มาเป็น บุษบัน เค้าเลยวางแผนแกล้ง กึกก้องด้วยการยึดลูกน้องของกึกก้องมาหมด เพื่อที่จะไม่ให้มีใครไปช่วยกึกก้องถ่ายทำโฆษณาตัวนี้ จึงทำให้เค้าและบุษบันต้องทำงานกันเพียงสองคนท่ามกลางความขัดแย้งและความกวนประสาทที่ต่างคนต่างไม่ยอมกัน... ~ วันนี้ขอเปลี่ยนแนวมาแบบใสๆน่ารักแกมหยิกแกมหยอกกันบ้าง กับเรื่อง รักกระปุ๊กลุก ที่นอกจากจะทำเนื้องเรื่องออกมาได้สนุกแล้วยังทรอดแทรกความตลกขบขันกันเรียกได้ว่า จัดเต็มกันเลยทีเดียว ขำกันจนกรามค้างเลย เรียกได้ว่าเอาใจเจ่เจ้ไปเต็มๆ สัญญาว่าจะหานิยายแนวๆนี้มาอ่านบ่อยๆเพราะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมากเลยทีเดียว แนะนำๆค่ะอยากให้หามาอ่านกันให้ได้อีกแล้ว เพราะคุ้มมากๆค่ะ ครบรสได้อารมณ์เจ่เจ้คอนเฟิร์ม~

สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024